เรื่องทั้งหมดมันเป็นเพราะผู้ชายคนนั้นคนที่ทำให้เธอเจ็บปวด คนที่ทำให้หัวใจของลูกผู้หญิงคนหนึ่งแตกสลาย ครั้นพอกอบกู้มันขึ้นมาได้ ร่องรอยลึกในหัวใจกลับกลายเป็นการโหยหาอย่างไม่น่าให้อภัย ทั้ง ๆ คนที่บุกเข้ามาพรากความสาวไปจากเธอในช่วงวัยเพียงแค่มัธยมต้นกลับกลายเป็นผู้ชายที่เธอเรียกเขาว่าพี่ชายมาตลอดทั้งชีวิตมินตรา ดีดดิ้น ร่ำร้อง แต่เรี่ยวแรงของเธอหรือจะสู้ชายผู้มีดีกรีเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลที่ทั้งกล้ามโตและตัวสูงใหญ่ เขาจับสองขาของเธอแยกออก สอดนิ้วเข้ามาชำแรก แทรก และคว้าน ค่ำคืนนั้นไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเธอได้เลย เพราะเขาคือคนที่พ่อแม่ไว้ใจให้ดูแลมากที่สุดตอนที่ท่านทั้งสองออกจากบ้านไปมันเป็นคืนที่ฝนตก เสียงกรีดร้องของเธอถูกม่านพิรุณที่เทกระหน่ำราวกับท้องฟ้าจะพังทลายนกลบไปจนหมดสิ้น ชั้นในตัวบางถูกกระชากออก น้ำตารินไหล หัวใจเต้นโครมคราม ใบหน้าของพี่ชายผู้อ่อนโยนกลายเป็นปีศาจที่ไม่อาจจะกล้าสบตาอีกต่อไปแล้วในค่ำคืนนั้น ทุก ๆ อย่างของลูกผู้หญิงคนหนึ่งแหลกสลายไปจนหมด ไม่เหลือมันจับขาของเธอแยกออก แล้วแทรกสอดความน่าขยะแขยงอันมหึมาเข้าโถม ร่างกายที่ไม่เคยสัมผัสถึงอารมณ์หวามหวิวถูกทิ่มแทงเข้า
ตั้งแต่วันแรกที่ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบ้าน ราวกับคำว่าครอบครัวอาจจะเป็นไปอีกครั้งหนึ่งมินตราไม่ได้ปิดกั้นหากว่าพ่อของเธอจะหาผู้หญิงสักคนมาเป็นคู่ครอง เธอสัมผัสได้มาตลอดชีวิต ว่าพ่อนั้นแทบจะไม่มีความสุขเลยด้วยซ้ำ การตกถังข้าวสารแต่กลับต้องกลายเป็นเบี้ยล่างเมียตัวเองนั้นมันแย่ยิ่งกว่าสิ่งใด ภายนอกคนที่มองเข้ามารู้สึกได้เลยว่าแม่ยินยอมให้พ่อเป็นผู้นำ แต่มันก็แค่หน้ากากทางสังคมเท่านั้นตอนที่ทั้งสองหย่ากัน มินตราอายุสิบสี่ปี และไอ้ปีศาจตัวนั้นอายุสิบเก้า นั่นเท่ากับว่าอย่างน้อย ๆ ที่พ่อต้องทนอยู่เพื่อรักษาคำว่าครอบครัวเอาไว้โดยไร้อิสรภาพคือยี่สิบปี แต่ตอนนี้มันก็คงจะถึงเวลาแล้วที่พ่อจะได้รับใครสักคนเข้ามา คนที่มีฐานะใกล้เคียงกัน และที่สำคัญที่สุด...มีความเป็นมนุษย์ใกล้เคียงกันฉัตรโฉม คือว่าที่แม่ใหม่ของมินตรา หล่อนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อ เจอกันในงานแฟร์แห่งหนึ่งที่พ่อเองกำลังเริ่มต้นการทำธุรกิจ ก่อนจะถูกใจด้วยหลาย ๆ อย่างที่เข้ากันได้ ผ่านไปเพียงไม่ถึงปี ทั้งคู่ตัดสินใจลองใช้ชีวิตร่วมกัน ยังไงเสียก็เป็นคนที่ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งของชีวิตอยู่แล้ว และยังมีลูกติดอีกด้วย...หากแต่ทั้งสองคนเป็น
คีตะเป็นแฝดพี่ ส่วนกีตาร์เป็นแฝดน้อง ทั้งสองหน้าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ หากไม่ใช่ทรงผม หรือการแต่งตัวในการแยกทั้งสองออกจากกัน ก็คงจะเหมือนกันจนน่าตกใจทว่าในเวลานี้ คีตะมุ่งไปทางด้านดนตรีมากกว่า เขากำลังตามหาความฝันด้วยการเป็นศิลปิน ทำงานเป็นนักร้องกลางคืน พร้อมกับการแต่งตัวที่ดุดันมีสไตล์มากกว่าอีกคน รวมทั้งรอยสักที่แขนทั้งสองข้าง ทำให้มินตราสามารถแยกแยะเขากับกีตาร์ผู้เป็นน้องชายที่เนื้อตัวใสสะอาดไม่มีร่องรอยน้ำหมึกแต่งแต้มใด ๆมินตรารู้ว่าสายตาของคีตะเวลาคุยกับเธอเขาไม่เคยสักครั้งที่จะมองหน้าตรง ๆ เขามองที่ร่องอกของเธอรวมทั้งเต้าถันที่ตึงเต่งนั้นมากกว่าด้วยซ้ำ ความพิศวาสเกิดขึ้นในสถานะต้องห้าม แต่มันก็ไม่มีอะไรต้องห้ามมากว่าสิ่งที่มินตราเจอมาแล้ว...และถ้าหากว่าเขาต้องการ เธอจะมอบมันแก่เขานาฬิกาดิจิทัลบอกเวลาตีหนึ่งครึ่ง มินตรายังคงสวมเสื้อกล้ามรัดรูปพร้อมกับกางเกงขาสั้นนั่งไขว่ห้างดูทีวีอยู่ที่ชั้นล่างของบ้าน ซึ่งวันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านสักคนเดียว พ่อกับแม่ไปออกงานแฟร์ ส่วนกีตาร์เองก็ไปค้างบ้านเพื่อน มีเพียงมิตราและคีตะสองคนบานประตูเลื่อนออกช้า ๆ คีตะในสภาพที่ค่อนข้างเมามายเดินเซเข้า
“ซี้ดดดด...”คีตะสูดปาก ความเสียวซ่านในเวลานี้ทำให้ทั้งสองขาเกร็งแน่น ร่างเล็กของมินตราแทรกสอดเข้าระหว่างขาทั้งสอง ก้ม ๆ เงย ๆ ดูดดุนลำกายที่แข็งชูชันขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มสอดมือเข้าลูบไล้เส้นผมของเธอพลางลามลงไปที่เนื้อตัวบางนั้นก่อนบรรจงปลดสายคล้องทั้งสองลงอย่างเบามือ ไม่นาน เสื้อตัวบางก็หลุดร่น เนินอกเต่งตึงถูกปลดปล่อยออกจากส่วนที่ปิดเร้น เขาเริ่มบีบคลำพลางสะกิดปลายนิ้วที่ส่วนยอดซึ่งเริ่มแข็งเป็นตุ่มไตรับการสัมผัสแล้วมินตราหลับตาพริ้ม ลิ้มรสชาติอันหวานฉ่ำของหยาดน้ำผึ้งซึ่งยังคงไหลเยิ้มออกมาเรื่อย ๆ ในทุกจังหวะที่ขยับใบหน้าดูดดุนลงไป เธอวาดเรียวลิ้นไปรอบส่วนลำแข็งนั้นพร้อมกับตวัดเลียวนรอยหยักหลังจากที่ครอบครองจนหมดสิ้น ปากของเธออ้ากว้างสุดองศา เพราะขนาดที่แสนมหึมาของแท่งเนื้อที่คีตะเป็นเจ้าของในหัวสมองคิดมั่วซั่วไปหมด...พลันก็อยากรู้เหลือเกินว่าเป็นแฝดกัน เหมือนกันไปเสียทั้งหมด...จะใหญ่เหมือนกับแบบนี้หรือเปล่ามือเรียวจับรั้งลำกายกระชับแน่นพร้อมกับขยับรูดชักไปในจังหวะที่สอดประสานกันกับริมฝีปากซึ่งยังคงรัดตอดแก่นกายของพี่ชายเอาไว้อย่างแนบแน่น เสียงครางที่ดังขึ้นมาไม่หยุดมันยิ
มินตรากระเด้งกระดอนอยู่บนโซฟาตัวนุ่มนั้น เริ่มถอดเสื้อของเธอออกไปพร้อมกับที่คีตะเองก็รีบร้อนถอดเสื้อผ้าของเขาโยนทิ้งไปเช่นกันร่างสูงยืนตระหง่านตรงหน้า กล้ามหน้าท้องแน่นเด่นเป็นระลอกคลื่น มินตราอดใจไม่ไหวที่จะยื่นมือออกไปสัมผัส“พี่จะฟ้องแม่ว่าน้องมินยั่วพี่...”“ก็ลองดูสิ” มินตราฉีกยิ้ม ก้มโน้มใบหน้าลงไปอมให้อีกฝ่ายทันที“ซี้ดดดดดสสสส์”คีตะไม่ทันตั้งตัว ยืนสั่นสะท้านอยู่อย่างนั้น ครั้นพอเริ่มตั้งสติได้ก็ไม่รีรอ จับบ่าเล็กไว้แล้วกระแทกสะโพกตอกดุ้นเนื้อเข้าไปในโพรงปากอันนิ่มนวลทันทีจนกระทั่งใบหน้าของมินตราจำต้องโยกไหวไปตามแรงกระแทกที่ก่อเกิด ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยยอมแพ้ ออกแรงดูดดุนความสุขสมของอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นคีตะที่ถอดถอนมันออกไปเองมินตราหอบจนตัวโยก จ้องมองดูคีตะที่ตอนนี้เขายังไม่เว้นช่วงให้เธอได้พัก แต่นั่นอาจจะเป็นความร้อนแรงที่ลึก ๆ ในใจของมินตราปรารถนาอยู่ก็เป็นได้คีตะนั่งลง จับสองขาของเธอยกแยกออก จ้องมองดูส่วนสวาทที่บานฉ่ำราวกับดอกไม้งามยามเช้าตรู่ สัดส่วนที่สวยงามกระตุ้นรอยยิ้มของผู้จ้องมองได้อย่างง่ายดาย คีตะซุกไซ้สันจมูกเข้าไปตามร่องเสียวนั้นอย่างหื่นกระหาย
“น้ำน้องมิน...หวานมากเลยนะครับเนี่ย”คีตะลุกขึ้นมาจูบกับน้องสาวอีกครั้ง ในขณะที่หงายมือแล้วใช้สองนิ้วสอดเข้าไปในรูสวาทแล้วกระดกนิ้วอย่างเร็วรี่จนสัมผัสได้ถึงของเหลวมากมายทะลักล้นออกมาจากช่องทางนั้น ยามนี้เสียงครางกระเส่าของมิตราเริ่มเบาลงไปเหลือเพียงเสียงลมหายใจที่พยายามประคองร่างกายที่แสนสุขสันต์ให้ไปต่อได้อย่างเต็มที่“อืมมม...ร้องดัง ๆ ครับ...ยิ่งร้องดังพี่ก็ยิ่งมีอารมณ์นะครับ ซี้ดดด”มินตรานอนหอบหายใจรวยริน...สุดยอดเหลือเกิน ช่วงเวลาที่ถูกปลดปล่อยออกมาจนร่างกายเบาโหวงประหนึ่งกลายเป็นเพียงกระดาษที่ล่องลองตามสายลมพัดพา“พร้อมจะให้เอาหรือยังครับ” คีตะยิ้มกว้าง ความขี้เล่นยังคงทำให้เขาส่ายเอวไปมา สะบัดแก่นกายที่แข็งขืนฟาดสัมผัสลำตัวดังแน่นหนัก พร้อมรูดส่วนนอกลงไปจนสุดอีกครั้งแล้วกระดกขึ้นลงให้อีกฝ่ายเห็นถึงความพร้อมที่เกิดขึ้นในเวลานี้ คีตะจับดุ้นกายแล้วฟาดเข้าที่ฝ่ามือตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า “เจ็บไปทั้งลำแล้วเนี่ย...”“มะ...มา...มาเลย ขะ เข้ามาเลย พี่ หนู...อยากจะโดน...”“ไหนพูดให้พี่ชายคนนี้ชื่นใจหน่อยครับ” คีตะแค่นหัวเราะ “อยากจะโดนอะไร”“โดน อะ เอา...พี่จ๋า หนูไม่ไหวแล้ว เร็วสิ...
น้ำเสียงหื่นกระหายแว่วขึ้น สายตาที่จดจ้องมองไปยังหญิงสาวตรงหน้าราวกับเธอเป็นอาหารมื้อพิเศษ ลำกายสะบั้นความเป็นพี่น้องสิ้น กระแทกกระทั้นเข้าไปจนเสียงครางของอีกฝ่ายแผดก้องแล้วเหือดหาย เรี่ยวแรงที่สมสะถูกฟัดเหวี่ยงจนแตกกระจายไม่เป็นชิ้นดีพั่บ! พั่บ! พั่บ!“ซี้ดดดดสสส์ อ๊า.....เสียวววว ซี้ดดดดดดด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!สองแขนของมินตราพยายามป่ายปัดหาที่ประคองตัว ทว่าแรงกระแทกที่โหมกระหน่ำทำเอาเธอไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลยสักอย่าง ความกำหนัดของคนตรงหน้าราวกับตายอดตายอยากในกายสาวมาแสนนาน หายใจหอบเฮือกไม่หยุด แม้มันจะรู้สึกทุกข์ทรมาน แต่มันกลับกลายเป็นห้วงแห่งความสุขที่น่าเหลือเชื่อ“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า...เสียว..เสียวพะ พี่...อ๊ะ คะ คีตะ อ๊ายยย...ซี้ดดด”พั่บ! พั่บ! พั่บ!เมื่อต่อต้านไม่ได้ ก็ปล่อยตัวปล่อยใจไปตามกระแสอย่างเต็มที่ มินตราขมิบเกร็งร่างกาย ช่องทางสีหวานถูกกระแทกจนขึ้นสีเรื่อ กระนั้นเธอขยังคงเว้าวอนให้อีกฝ่ายตอกกระหน่ำเข้ามาอย่างเต็มที่ เพราะอย่างไรเสีย มันก็ไม่มีใครตายเพราะโดนเอาหรอก ซ้ำชายหนุ่มคนนี้ก็ยังมีทั้งของดีและลีลาที่เหลือร้าย...เธอชื่นชอบมันเห
อีกสามวัน งานที่มินตราสมัครเอาไว้ก็ถึงเวลาเริ่ม เธอมีเวลาพักผ่อนอีกเพียงเท่านั้น ก่อนจะต้องย้ายไปอยู่หอ มันอาจจะทำให้เธอต้องห่างพ่อ และแน่นอนว่าห่างพี่ชายของเธอด้วยเช่นกัน กีตาร์ไม่ค่อยได้กลับบ้านเท่าไหร่ในช่วงนี้ ส่วนเธอกับคีตะก็อยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น พ่อและแม่เห็นว่าเธอกับพี่ชายที่ไม่เคยรู้จักมักคุ้นนั้นเข้ากันได้ดีก็ดีใจแต่พ่อกับแม่ก็คงไม่รู้เหมือนกัน ว่าทั้งสองคนเข้ากันได้ดีเสียจนสุดลำ แถมกระหน่ำเสียสุดโคนกันเลยทีเดียวธุรกิจของที่บ้านกำลังไปได้ด้วยดี สินสมรสและทรัพย์สินทางแม่เลี้ยงของมินตราที่จริงแล้วมันก็มากพอที่จะทำให้เธอนอนกระดิกเท้าอยู่บ้านเฉย ๆ ไปจนตายนั่นแหละ แต่ว่าเธอยังคงอยากใช้ชีวิต อยากจะโล่นแล่น ทำในสิ่งที่อยากทำอย่างเต็มที่โดยไม่สนใจว่ามันจะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร เพราะท้ายที่สุด หากเธอไม่ประสบความสำเร็จ และงานที่ทำสะดุด มินตราก็แค่ล้มลงกองเงินกองทองของพ่อแม่เพียงเท่านั้นมันก็แค่สีสันและส่วนประกอบของชีวิต อยากจะทำอะไรอีกเยอะแยะเลย...แน่นอนว่าสิ่งที่ได้ทำกับคีตะก็ด้วยเช่นกันนาฬิกาปลุกดังเพียงครั้งเดียวมินตราก็ลุกขึ้นมาจัดการตัวเองแล้วจึงเดินเข้าไปในครัว วันนี้ไม่
“อ๊ะ อ๊ายยย...”เธอร้องลั่น สั่นเกร็งไปทั้งตัว เจลหล่อลื่นทำให้สัมผัสในช่องทางที่ไม่ควรนั้นลื่นไหลมากกว่าที่เป็น และทางกีตาร์เองก็ยิ่งกระแทกเข้าออกถี่รัวอยู่เช่นนั้น มันทำให้เวลานี้มินตราราวกับรู้สึกว่าแท่งเนื้อของทั้งสองคนกำลังเสียดสีบดเบียดกันอยู่ในร่างกายของเธอโดยพร้อมเพียง“อ๊ะ อ๊า อ๊า จะ จุก..อื๊อออ...ซี้ดดด”มินตราพยายามดีดดิ้น แต่เมื่อกีตาร์ที่รู้แล้วว่าอีกฝ่ายกำลังทำอะไร เขาจึงกอดร่างกายของเธอให้แนบชิดเอาไว้เช่นเดิม แล้วปล่อยให้พี่ชายได้ทะลวงเข้าไปในรูเสียวข้างเคียงอย่างเต็มที่ สองกายตอกกระแทกร่างกายของมินตราอย่างต่อเนื่อง เสียงครางดังสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียว มินตราในอ้อมกอดกีตาร์ตัวสั่นระริก เธอเม้มปากแน่นระคนกับส่งเสียงครางออกมาเรื่อย ๆหญิงสาวทั้งเสียว แล้วก็ทั้งจุก วินาทีนี้รู้สึกเหมือนช่องทางทั้งสองราวกับจะฉีกขาดออกเพราะแรงกระแทกอันมหาศาล สองมือเธอกำแน่น ซุกหน้าลงกับแผงอกแกร่งของแฝดน้องยิ่งกว่าเดิม ดวงตาเคลิบเคลิ้มเหลือกลอย น้ำตาระคนน้ำลายไหลเยิ้มเพราะไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกอันแปลกใหม่ในยามนี้ได้ยิ่งเธอขมิบเกร็ง ไม่ว่าช่องทางไหนก็ยิ่งตอดรัดลำกายที่สอดใส่เข้ามาทั้ง
“พี่จ๋า...มาเลยค่ะ อยากทำอะไรกับมินก็ทำได้เลยนะคะ”คีตะส่ายหน้า “ไม่เอาสิมิน...เรียกพี่สองคนว่าผัวได้แล้ว เพราะหลังจากนี้เราทั้งคู่จะเป็นผัวที่ดีที่สุดให้มินเอง”ไม่พูดเปล่า คีตะจัดการแทรกร่างกายเข้าไปที่ระหว่างเรียวขาของเธอพร้อมกับจับดุ้นอันแข็งขืนจนเจ็บหนึบไปทั้งลำสอดใส่เข้าไปในร่างกายของเธอทันทีสวบ!!!“อ๊างงงงงง”เสียงร้องครางดังลั่นขึ้นมา วินาทีที่สองคนสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่างกายของมินตราตอบรับพี่ชายด้วยการตอดรัดอย่างแนบแน่น ส่วนสวาทดันลึกเข้ามาจนสุดโคน จนร่างกายอันบอบบางแอ่นขึ้นเหนือพื้น ตอบสนองกับความสุขสมโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดใด ๆ เอ่ยขึ้นมา“ซี้ดดด...แน่นกว่าทุกทีเลยนะเมียจ๋า อา...” มือสอดจับกระชับที่เอวบางเอาไว้แล้วกระชากร่างกายของเธอเข้าใส่พร้อมกับตอกสะโพกกระแทกย้ำเข้าจนสุดความยาว“อ๊ะ อ๊า...พะ พี่...อ๊ะ ผะ ผัว ผัวขา...ซี้ดดด” มินตราหลับตาแน่น ลูบไล้หน้าท้องของอีกฝ่ายไม่เป็นจังหวะ มือสั่นระริกกรีดกราย “ระ แรง ๆ เลยค่ะ แรง ๆ เลย อ๊ะ อ๊า อ๊า..ยะ อยากได้ แรง ๆ อื๊อออ...”สีหน้าของมินตราแดงเรื่อ อาจจะทั้งเมาด้วยทั้งเสียวระคนกันไป คีตะมองเธอด้วยความลุ่มหลง แล้วขยับสะโ
มินตราเพิ่งรู้เมื่อประโยคสุดท้ายของพี่ชายสิ้นสุดลงภายนอกที่เป็นกำแพงหนา หากภายในกลับบอบบางราวกับหยดน้ำหนึ่งหยดที่อ่อนไหวและไร้รูปลักษณ์ ที่ผ่านมาเธอคิดมาเสมอว่าเธอแข็งแกร่ง แต่ความจริงแล้วจุดอ่อนของเธอที่เกิดขึ้นในวินาทีนี้อย่างชัดเจนก็คือ ความเข้าใจเธอแค่...อยากได้รับความเข้าใจจากใครสักคนในเรื่องที่ไม่อาจจะบอกใครได้มินตราทิ้งตัวนั่งที่ปลายเตียง ยกมือปิดหน้าร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง สองแฝดไม่แม้แต่จะห้าม เขายืนมองเธอไม่ห่างกระทั่งเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวหยุดลงไปแล้วเงยหน้าขึ้นสบตากัน“มิน...เคยโดนข่มขืน”ความรู้สึกมากมายของเธอพรั่งพรูออกมาพร้อมกับทำนบน้ำตาที่พังทลายอีกหน มินตราไม่รู้ว่าสองแฝดตรงหน้าอยากจะฟังเรื่องราวของเธอหรือเปล่า แต่เธออยากที่จะเล่า อยากที่จะปลดปล่อยมันออกไป แม้การกล่าวถึงจะเป็นการนำพาให้ย้อนกลับไปในช่วงเวลาดั่งขุมนรกนั้นอีกครั้งหนึ่งไม่มีการสอดแทรก สองพี่น้องนั่งฟังเธอจนถึงวินาทีสุดท้ายที่เรื่องราวแห่งความอัปยศซึ่งฝังรากลึกในร่างกายของเธอถูกเล่าออกจนหมดลง สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดของมินตราที่พยายามจะกระชากเอารากแห่งความทรงจำนั้นให้หลุดพ้นไปจากตัวเธอ“ยังอยากจะเรียนรู้
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนไม่มีจังหวะได้ตั้งเนื้อตั้งตัว ในเสี้ยววินาทีที่เธอเห็นพี่ชายทั้งสองตรงหน้า วินมอเตอร์ไซค์คนนั้นก็กำลังคว้ากระชากร่างกายของเธอไปหมายที่จะจัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพอีกครั้ง แต่เพราะว่าเขาไม่รู้จักพี่ชายฝาแฝดของเธอ นั่นจึงทำให้ทั้งคีตะและกีตาร์จัดการกระหน่ำทั้งหมัดเท้าเข่าศอกใส่เสียจนต้องวิ่งหนีไป สุดท้ายแล้ว มินตราก็ถูกพาขึ้นมาบนห้อง พร้อมกับผู้สืบสวนทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้า“มีอะไรที่เราสองคนไม่รู้อีกไหม” คีตะจับจ้อง สีหน้าเรียบเฉย ต่างจากคนที่เคยรู้จัก“ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนั้น” แฝดน้องสำทับมินตราที่นั่งอยู่ตรงหน้าคู่แฝดสีหน้าไม่สู้ดีนัก เธอทั้งอยากจะขอบคุณ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกชื่นชอบในการที่ต้องถูกเค้นเพื่อตอบคำถามอะไรแบบนี้ เธอไม่ใช่ผู้ที่ต้องอธิบายตัวเองกับใครทั้งนั้น“มันเป็นเรื่องปกติ แล้วก็ไม่ต้องถามอีก มินไม่ได้ขอให้พี่ช่วยแบบนั้น เกิดโดนตำรวจลากคอขึ้นมารับผิดชอบกันเองนะ” มินตรากอดอก สีหน้าหงุดหงิด “แล้วก็ มินว่ามินไม่ได้มีหน้าที่จะตอบอะไร นี่มันชีวิตของมิน...ก็แค่นั่นแหละ”“แล้วเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเราล่ะ” คีตะย้อนถาม “มันก็แค่ส่วนหนึ่งของชีวิตมินหรือเป
“พี่คนสวย...ให้ผมไปส่งที่ไหนดีครับ”มินตรายิ้มยั่ว “โรงแรม...อุ๊ย หอพักของพี่ค่ะ พี่เมาขนาดนี้ ส่งถึงห้องเลยได้ไหมคะ”แค่เพียงสบตา หนุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็รู้แล้วว่าปลายทางที่เธอต้องการให้เขาไปส่งมันคือที่ไหนกันแน่ แต่น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วเขาไม่สามารถรักษาคำพูดด้วยการพาเธอนั้นไปถึงห้องได้อย่างที่ผู้โดยสารต้องการ......“ซี้ดดด...อา พี่ครับ...พี่ผมเสียวลำจังเลยครับ อูยยย...”ชายหนุ่มหลับตาพริ้ม ปล่อยอารมณ์ไปตามเสียงดูดดุนอันหยาบโลนที่เกิดขึ้น ณ ความเป็นชายของเขารถมอเตอร์ไซค์ถูกนำมาจอดที่ซอกตึก มันเป็นทางลัดที่ในยามค่ำคืนไม่มีใครสัญจร หากเป็นเวลากลางวันที่นี่คือทางลัดที่จะออกไปยังป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดได้ ชายหนุ่มยืนพิงมอเตอร์ไซค์ที่จอดชิดกำแพง กางเกงยีนถูกดึงลงไปเพียงเข่า พร้อมกับมินตราที่นั่งลงไปปรนเปรอความสุขสมให้เขาด้วยปากของเธอรสเหล้าเคล้ากับรสชาติของท่อนเอ็นดุ้นใหญ่ทำให้อารมณ์ของเธอนั้นพุ่งทะยาน มินตราล่อลวงเขามาตั้งแต่ตอนที่ขึ้นซ้อนท้ายแล้วด้วยซ้ำ จากมือที่กอดเอว ลดต่ำลงไปเรื่อย ๆ เนินอกอวบอิ่มชิดแผ่นหลังของเขามาตลอดทาง จนกระทั่งตอนที่มือของเธอลวนลามลงไปยังจุดสงวนของคนขับ แ
มินตรารู้เห็นอยู่แล้ว ว่าพี่กล้ามมีภรรยา เธอรู้อยู่แก่ใจ แต่เพราะรูปร่างและหน้าตาที่ถูกตาต้องใจจึงทำให้เธอลองที่จะโปรยเสน่ห์ใส่เขา แต่ก็ไม่คิดว่าทุกอย่างมันจะง่ายถึงเพียงนี้ ครั้งแรกที่เจอกัน เขาสวมแหวนอยู่ที่นิ้วนางซ้าย เธอเห็นแต่ก็แค่เมินเฉย หากแต่อีกครั้งที่เขาเข้ามาหาเธอและเสพสมกามาร่วมกันในห้องของตัวเอง เขาไม่มีอะไรสวมใส่อยู่ มีเพียงร่องรอยของการสวมแหวน...นั่นหมายถึงว่าเธอเป็นผู้ชนะหรือเปล่านะ?วันนี้ที่เธอออกมาตรงระเบียงหลังห้อง หญิงสาวคนหนึ่งกำลังสะบัดผ้าเพื่อตากอยู่ มินตราหันไปสบตากับเธอแล้วส่งยิ้มให้ นึกเย้ยหยันในใจว่าหญิงคนนี้ช่างโง่เขลา ไม่รู้เลยจริง ๆ เหรอ ว่าสามีของเธอเพิ่งมาเอากับฉัน...ในบ่ายวันเดียวกัน เธอบังเอิญเจอกับพี่กล้ามที่ร้านสะดวกซื้อแถวหอพัก มินตราเข้าไปทักทายทันที“สวัสดีค่ะพี่กล้าม มาซื้ออะไรเหรอ”“เอ่อ...” กล้ามสีหน้าซีดเผือด ท่าทีดูเหมือนไม่อยากจะต่อบทสนทนากับเธอด้วย จนกระทั่งผู้หญิงที่เขาเรียกเธอว่าภรรยาเดินมา และเป็นฝ่ายทักมินตราเสียเอง“อ้าว...น้องข้างห้องนี่เอง เพิ่งมาอยู่ใช่ไหมจ๊ะ เป็นยังไงบ้าง”“ก็...” วูบหนึ่ง สายตาของเธอหันไปมองกล้าม แล้ววกกลับมาท
เสียงลำกายที่ตอกกระเด้าเข้าสู่กายสาวยังไม่เคยได้เงียบลงไปเลยสักวินาที เตียงสปริงราคาแพงหูฉี่ช่างเอื้ออำนวยต่อแรงกระแทกของทั้งสองคนได้ราวกับเป็นใจเสียเหลือเกิน“ซี้ดดด....เดี๋ยวจะทำให้มินตราคนสวยฝันดีเองนะครับ อ๊ะ อา!!!”ทันทีที่จบประโยค ดุ้นเอ็นที่ถอดถอนออกไปจนสุดก็ตอกกลับเข้าไปจนหมดอีกครั้ง และคราวนี้กล้ามเองก็ไม่คิดที่จะแวะพักกกลางเลยแม้แม้แต่วินาทีเดียว สะโพกโยกไหวตอกความสุขสมเข้าไปในร่างกายของเธอตามที่ฝ่ายหญิงบัญชา ความรุ่มร้อนจากรสสวาทแปรเปลี่ยนเป็นความลุ่มหลง สองคนกอดรัดนัวเนียกันอยู่บนเตียงในขณะที่กล้ามยังคงกระแทกร่างเล็กให้ไหวโยกไปตามความต้องกายไม่หยุดหย่อนพั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!พั่บ! พั่บ! พั่บ!“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า อ๊า...อ๊า…เสียว พะ พี่กล้าม อ๊า เสียว...อื๊อออ ซี้ดดดดด”ยิ่งถูกกระทำอย่างรุนแรงเพียงใด เธอเองก็ยิ่งตอบสนองต่อผู้กระทำมากเท่านั้น สองมือสอดเข้าที่ข้อพับขาแล้วดึงให้แนบชิดกับลำตัว เปิดช่องทางให้อีกฝ่ายได้บรรเลงบทเพลงแห่งกามสูตรที่ลึกล้ำเข้ามาได้อย่างไม่มีสะดุด หนั่นเนื้อกลมกลึงสองเต้าขยับเคลื่อนเคล้าเร้ากับแรงกระแทก กระเพื่อมขึ้นลงไปพร้อมเสียงครางที่เริ่มเจือ
สองคนเริ่มประกบจูบกันอย่างเร่าร้อนในคืนแสนว้าเหว่ ร่างกายเริ่มแนบชิด โอบกอด ลูบไล้ และสัมผัสกันอย่างหวามหวิว กลิ่นอายความสยิวซ่านเริ่มโชยคลุ้งขึ้นมาเรื่อย ๆ ในวินาทีที่มือเล็กนั้นคว้าลำกายของเขาเอาไว้ ขนาดที่ใหญ่เสียจนตอนเธอกำ ปลายนิ้วทั้งสองไม่อาจบรรจบกัน รู้เลยว่า...ใหญ่กว่าสองแฝดที่บ้านไม่น้อยเลย แค่รับรู้ว่าคืนนี้เธอจะต้องถูกจู่โจมด้วยท่อนเนื้ออันนี้ หัวใจของเธอก็โลดแล่นไปทั่ว ปลดปล่อยร่างกายทิ้งตัวนอนราบบนพื้นเตียง ให้ชายข้างห้องเริ่มเล้าโลมลามเลียไปทั่วร่างกายเสียงการลิ้มรสอันหยาบโลนเริ่มดังขึ้นทั่วห้อง เพลิงกามเริ่มปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว เสมือนในห้องนี้เต็มไปด้วยเชื้อเพลิงลามไฟ ครู่เดียวเท่านั้นเสียงครางกระเส่าสั่นของหญิงสาวก็แว่วขึ้นมา สองขาถูกแยกออก ไรหนวดที่ใช้สัมผัสกับปากทางสวาทนั้นยิ่งทำให้ร่างกายของเธอสั่นเทิ้ม ชายหนุ่มไม่รีรอ ที่จะลากปลายลิ้นลิ้มเลียปากทางรักที่เยิ้มฉ่ำนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ดูดเม้มทุกกลีบสวาท ลากเรียวลิ้นชอนไชไปทั่วซอกเสียวที่อ้าเผยอขึ้นมาราวกับปรารถนาที่จะรับความสุขสมที่กำลังจะมอบให้“อ๊ะ อ๊า อา...พี่กล้ามคะ ดะ ดีจังเลยค่ะ เสียวรูไปหมดแล้ว” เธอยกสองขาขึ
“อย่า...อย่า หนูขอร้อง...พี่จ๋า อย่า...” เด็กหญิงพยายามดีดดิ้นอยู่ในอ้อมกอดของผู้ที่เธอเรียกว่าเป็นพี่ชาย พยายามที่จะทำทุกอย่าง ตั้งแต่กราบไหว้ อ้อนวอน พูดจาทั้งดีทั้งร้าย แต่ไม่ว่าอย่างไร เธอก็ไม่อาจจะเปลี่ยนใจพี่ชายที่จ้องจะทำร้ายจิตใจและข่มเหงร่างกายของเธอได้เลย “ปล่อย...กูบอกให้ปล่อย กรี๊ดดด”“แหกปากไปเถอะอีห่า พ่อแม่ก็ไม่มีใครเขาสนใจมึงหรอก...เขาฝากมึงไว้กับกู นั่นหมายความว่ากูจะทำอะไรกับมึงก็ได้”สองขาพยายามหุบ สองมือพยายามแหวก แต่เรี่ยวแรงของเด็กสาวหรือจะสู้พละกำลังของชายหนุ่มผู้โตเต็มวัยได้ สุดท้าย กางเกงและเสื้อผ้าของมินตราก็ถูกกระชากออก แววตาของมันเปลี่ยนไปเป็นกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อได้เห็นร่างกายอันเปลือยเปล่าของเธออยู่ตรงหน้า“สวยดีนี่กว่า...ชมพูเชียว แบบนี้แหละ กูชอบ”“อย่า...ไอ้เหี้ย กูบอกว่าอย่าไง...ไอ้สัตว์ กรี๊ดดด อ๊ะ!!!”มินตราเคยดูแต่ละครหลังข่าว แต่เธอไม่คิดเลยว่าตัวเองจะถูกกระทำเช่นนั้น หมัดหนัก ๆ ของมันต่อยเข้ามาที่หน้าท้องของเธอ เด็กสาวจุกจนดีดดิ้นตัวงองุ้ม ร่างกายหมดเรี่ยวแรงไปดื้อ ๆ แล้วสองขาก็ถูกแยกออก พร้อมกับส่วนอันอันน่ารังเกียจที่ค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาในร่างก