เมื่อเห็นจรวดสองลูกที่ลูกน้องยิงออกไประเบิด หลินเจิ้งหนานก็รีบถามว่า “ระเบิดไอ้สารเลวหลี่โม่นั่นตายหรือยัง!” “นายท่าน ดูเหมือนจะไม่โดนหลี่โม่ครับ เมื่อครู่หลี่โม่มันเร็วมาก อย่างกับยอดมนุษย์เลย มันกระโดดข้ามกองไม้แล้วไปหลบอยู่ด้านหลัง” ลูกน้องเอ่ยด้วยใจเต้นระส่ำ เขาเคยคนที่เร็วกว่ากระต่ายมาแล้ว แต่ความเร็วเมื่อครู่ของหลี่โม่ กลับเร็วยิ่งกว่ากระต่ายไปอีกโข เรียกได้ว่าเร็วยิ่งกว่าเสือชีตาร์เสียอีก หลินเจิ้งหนานขมวดคิ้วแน่น ตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “งั้นพวกแกยังมัวอึ้งอะไรอยู่ ยิงต่อไปสิวะ! บุกโจมตีเข้าไป พวกแกมีคนตั้งเยอะแยะ มีแต่พวกเลี้ยงเสียข้าวสุกหรือยังไง! เข้าไปฆ่ามันซะ!” พวกลูกน้องต่างลังเลเล็กน้อย ถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าหลินเจิ้งหนานที่กำลังโกรธจัด พวกเขาก็ยังไม่กล้าก้าวออกไปข้างหน้า คนของทีมปฏิบัติการพิเศษย่อยเมื่อครู่นี้ตายอย่างไร พวกเขาเห็นอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง ทีมปฏิบัติการพิเศษย่อยถูกหลี่โม่เพียงคนเดียวกำราบได้ด้วยปืนสองกระบอก โดยที่ไม่สามารถสู้ตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อย ทุกคนต่างก็เป็นคนที่เคยผ่านการต่อสู้นองเลือดมาทั้งนั้น จึงล้วนรู้ดีว่า ทีมปฏิบัติการพิเศษนั้นแข็งแกร่งแค่ไ
“กุ่ยเหล่าเอ้อ คุณวางแผนประสาอะไร บอกมาสิว่ายังสามารถเอาชนะหลี่โม่ได้หรือเปล่า ผมว่าคุณพาพวกเรามาตายชัด ๆ !” “หลงหานกวง นายขี้ขลาดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ พวกเราที่นี่มีคนตั้งมากมาย หากร่วมมือกันจะยังเอาชนะหลี่โม่ไม่ได้อีกงั้นเหรอ?” กุ่ยเอ้อหรี่ตาพลางเอ่ย “เหอะ ๆ แล้วคุณเชื่อคำพูดนั้นของตัวเองด้วยหรือเปล่าล่ะ?” “ฉันไม่ต่อปากกับนายแล้ว ก็แค่หลี่โม่คนเดียว นายคอยดูเถอะว่าฉันกับพวกหานเถี่ยโถวจะจัดการเจ้าหลี่โม่ยังไง” กุ่ยเอ้อไม่มีอารมณ์จะเถียงกับหลงหานกวง เขาถือวิทยุสื่อสารขึ้นมาติดต่อกับพวกหานเถี่ยโถว และสั่งการให้พวกหานเถี่ยโถวโอบล้อมหลี่โม่จากทุกทิศทาง แม้ว่าหานเถี่ยโถวและคนอื่น ๆ จะรู้สึกไม่เต็มใจอยู่บ้าง แต่ด้วยผลประโยชน์มหาศาลที่กุ่ยเอ้อรับปากเอาไว้ ทำให้พวกเขายอมรับคำสั่งของกุ่ยเอ้อ หานเถี่ยโถวพายอดฝีมือสองสามคนเข้าไปใกล้หลี่โม่ และขวางเส้นทางที่หลี่โม่กำลังไล่ตามอยู่ “ไอ้หนู วางอาวุธซะ แล้วเราจะไว้ชีวิต” หานเถี่ยโถวยกสองมือเท้าเอวแล้วพูดขึ้น หลี่โม่ยิ้มพลางโยนปืนทิ้งลงพื้น “ฉันวางอาวุธแล้ว ไหนดูซิว่าพวกนายจะไว้ชีวิตฉันยังไง” “ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้หนูนี่สมองมันโดนลาดีดกะโห
ชั่วขณะที่หานเถี่ยโถวทรงตัวอย่างมั่นคง เหงื่อเม็ดโตก็ผุดออกมาจากหน้าผาก มือขวาที่ถูกหลี่โม่ต่อยนั้นห้อยลงมาอย่างผิดธรรมชาติ และแขนของเขาก็สั่นไม่หยุด ที่สั่นนั้นเป็นเพราะกระดูกถูกหลี่โม่ต่อยจนแหลกละเอียด นอกจากนี้หมัดนั้นของหลี่โม่ยังมีพลังมหาศาล จนทำให้กล้ามเนื้อแขนของหานเถี่ยโถวได้รับความเสียหายไม่น้อย แข็งแกร่ง แข็งแกร่งเกินไปแล้ว แข็งแกร่งถึงระดับที่เหนือมนุษย์เลยด้วยซ้ำ นั่นคือการประเมินความแข็งแกร่งของหลี่โม่ของหานเถี่ยโถว ตอนนี้หานเถี่ยโถวนึกเสียใจสุด ๆ ที่เชื่อคำหลอกลวงของกุ่ยเอ้อ เพราะโลภในผลประโยชน์เล็กน้อย ตอนนี้เขาไปล่วงเกินคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้เข้าแล้ว หานเถี่ยโถวเสียใจจนคาดหวังเพียงว่าชีวิตจะสามารถเริ่มต้นใหม่ได้อีกครั้งเท่านั้น! เหล่ายอดฝีมือคนอื่น ๆ ต่างรวมตัวกันอยู่ด้านหลังหานเถี่ยโถว ในหมู่พวกเขาหานเถี่ยโถวคือคนที่กังฟูแข็งแกร่งที่สุด ดังนั้นพวกเขาทุกคนจึงเคารพหานเถี่ยโถว แต่ยามนี้เมื่อเห็นลักษณะที่ผิดธรรมชาติของแขนหานเถี่ยโถวแล้ว เหล่ายอดฝีมือพวกนั้นจึงรู้ได้ทันทีว่า หานเถี่ยโถวได้รับบาดเจ็บไม่น้อย “พี่หาน ไม่เป็นไรใช่ไหม?” “ไม่ถึงตายหรอกน่า!” หานเถ
“ถุย!” ยอดฝีมือคนหนึ่งถ่มน้ำลายด้วยความโมโห จากนั้นจึงหมุนตัวคิดจะหนีไป หลี่โม่เลิกคิ้ว ขาขวาเตะก้อนหินก้อนหนึ่งบนพื้น ก้อนหินพุ่งออกอย่างรวดเร็วและทรงพลัง ก่อนกระแทกเข้าที่หัวเข่าของยอดฝีมือคนนั้น พลั่ก! หัวเข่าของยอดฝีมือคนนั้นถูกหินกระแทกหักและคุกเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้นทันที เขาเจ็บจนน้ำตาเอ่อคลอเบ้า “ขาของฉัน! หลี่โม่ ไอ้ลูกหมาแกโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว! ฉันจะไปอยู่แล้ว แกก็ยังไม่...... อ๊าก!” ในตอนที่ยอดฝีมือกำลังด่าทออยู่ หานเถี่ยโถวก็กระโดดขึ้นมาจากพื้น แล้วโบกฝ่ามือตบหน้ายอดฝีมือคนนั้นอย่างแรงสองที “กล้าดียังไงถึงมาด่าลูกพี่ของฉัน ฉันจะฆ่าแกให้ตายคอยดู! พวกแกทุกคนอย่าขยับนะโว้ย! ลูกพี่ของฉันยังไม่ให้พวกแกไป ถ้าใครไม่พอใจ ก็เข้ามาถามหมัดของฉันหานเถี่ยโถวซะก่อน!” หานเถี่ยโถวไม่ปล่อยโอกาสที่จะแสดงความภักดีต่อหลี่โม่ เป็นโอกาสที่จังหวะเหมาะเจาะมาก เหล่ายอดฝีมือที่เตรียมจะกระจายตัวหลบหนีไปต่างชะงักฝีเท้าด้วยความตื่นกลัวและสับสน มีแค่หลี่โม่คนเดียวก็น่ากลัวพอแล้ว ยังจะเพิ่มหานเถี่ยโถวที่แปรพักตร์อีก พวกเขารู้สึกเหมือนหมดทางรอดโดยสมบูรณ์ “หานเถี่ยโถว นายทำเกินไปแล้ว ทุกคนต
ยอดฝีมือที่หลบหนีคนนั้นมีเลือดไหลออกมาจากด้านหลังศีรษะ ก้อนหินที่หลี่โม่โยนออกไปนั้น ได้สังหารเขาไปแล้ว หัวใจของหานเถี่ยโถวสั่นไหว เขาแอบนึกดีใจที่เมื่อครู่ตนได้เลือกตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุด หานเถี่ยโถวจินตนาการไม่ออกเลยว่า หลี่โม่ที่อยู่ตรงหน้านั้นแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่ เขาแค่รู้สึกว่า หลี่โม่ระดับสูงกว่ายอดฝีมือทั้งหมดที่เขาเคยเห็นตลอดชีวิตที่ผ่านมา ยอดฝีมือคนอื่น ๆ ที่มีความคิดรอบคอบต่างสะเทือนขวัญกับการตายของยอดฝีมือคนนั้น เก่งกาจในการต่อสู้ระยะประชิดก็ว่าไปอย่าง แต่การใช้ก้อนหินโจมตีระยะไกลยังร้ายกาจขนาดนี้ ช่างทำให้รู้สึกสิ้นหวังจริง ๆ เมื่อเผชิญหน้ากับหลี่โม่ซึ่งมีความสามารถในการต่อสู้ทั้งระยะประชิดและการโจมตีระยะไกล เหล่ายอดฝีมือก็ต่างเก็บความคิดเล่ห์เหลี่ยมในใจไป และคิดว่าการยอมเชื่อฟังคำสั่งของหลี่โม่จะเป็นการดีกว่า ...... ในรถบัญชาการ กุ่ยเอ้อเฝ้ารออย่างเงียบ ๆ หลังจากรอไปห้านาที หลงหานกวงก็ทนนิ่งเงียบไม่ไหวขึ้นมาเสียก่อน “กุ่ยเหล่าเอ้อ ถ้าจะทำอะไรก็ทำต่อไปเลยสิ คนจากสำนักของนายถึงตอนนี้ก็ยังไม่มา คุณคิดว่า ผมหลงหานกวงเป็นคนโง่จริงๆ งั้นเหรอ พวกเขาไม่มีสมองจนถ
มีดล่าสัตว์สร้างบาดแผลขนาดใหญ่บนร่างของกุ่ยเอ้อ และทิ้งรอยแผลเป็นที่ดูน่ากลัวแต่ไม่ร้ายแรงบนร่างกายของกุ่ยเอ้อ จากนั้นเหล่ายอดฝีมือที่ซุ่มโจมตีอยู่ทั้งหมดก็พุ่งออกมา อาวุธต่าง ๆ มุ่งเป้าไปยังกุ่ยเอ้อ ฉากที่พวกเขาปิดล้อมหลี่โม่เมื่อครู่นี้ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ทว่ากุ่ยเอ้อไม่ใช่หลี่โม่ จึงไม่สามารถต้านทานการโจมตีอย่างกะทันหันของยอดฝีมือจำนวนมากขนาดนี้ได้ “เวรเอ๊ย! พวกแกบ้าไปแล้วเหรอ?! ทำไมถึงได้มาโจมตีกันหมด ทำไมพวกนายถึงได้ทรยศฉัน! หรือว่าเงินที่ฉันให้มันไม่พอ?!” กุ่ยเอ้อคำรามอย่างบ้าคลั่ง บนร่างกายก็มีบาดแผลเพิ่มมากขึ้น “กุ่ยเอ้อ นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงิน ถ้าจะโทษ ก็โทษแกเองที่ไปยุ่งกับคนไม่ควรยุ่งด้วย!” “ถ้าเราไม่ฆ่านาย พวกเราจะเป็นคนที่ต้องตาย ดังนั้นก็อย่ามาโกรธแค้นพวกเราเลย ตายซะเถอะ กุ่ยเอ้อ!” เหล่ายอดฝีมือไม่ยั้งมืออีกต่อไป พวกเขาใช้ทุกกระบวนท่าอย่างสุดกำลัง รุมโจมตีใส่กุ่ยเอ้ออย่างสุดความสามารถ กุ่ยเอ้อดวงตาแดงก่ำ รู้ว่าตนคงจะต้องตายที่นี่วันนี้ และคิดว่าหากต้องตายเขาก็ต้องลากเพื่อนร่วมทางไปด้วยสักสองสามคนให้ได้ ดังนั้นเขาจึงต่อสู้โต้กลับเหล่ายอดฝีมืออย่างสุดชีวิต
“ผมไม่ไป ลูกกระจ๊อกยังต้องกตัญญูต่อลูกพี่ ลูกพี่ คุณยังขาดคนอยู่หรือเปล่า ให้ผมเฝ้าบ้านเวรยามตอนกลางคืนให้ก็ได้นะครับ” หานเถี่ยโถวไม่มีความคิดจะหนีไปแม้แต่น้อย ในที่สุดเขาก็ได้พบกับผู้ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกอดต้นขาใหญ่นี้เอาไว้ให้ได้ หานเถี่ยโถวใช้วิธีนี้มาแต่ไหนแต่ไร เมื่อเจอผู้มีฝีมือก็ยอมแพ้ หลังจากยอมแพ้แล้วก็จะประจบสอพลอ จากนั้นก็จะยกยอปอปั้นต่าง ๆ นานา และเรียนรู้จากผู้มีฝีมือ หลังจากใช้วิธีที่ไร้ยางอายแบบนี้แล้ว หานเถี่ยโถวกลับเปลี่ยนจากเด็กบ้าน ๆ กลายเป็นยอดฝีมือชั้นดี ในตอนนี้หานเถี่ยโถววางแผนที่จะใช้อุบายเดิม และเกาะแข็งเกาะขาต่อไปอย่างไร้ยางอาย หลี่โม่เลิกคิ้วเล็กน้อย แค่นหัวเราะเย็นชาแล้วเอ่ย "คนที่อยากเฝ้าบ้านให้ฉันมีตั้งเยอะแยะ ยังไม่ถึงตานายหรอก" “ผม… ผมสามารถทำอย่างอื่นได้ด้วยนะ ผมเฝ้ารถพาหมาไปเดินเล่นก็ได้” หานเถี่ยโถวพูดเสียงเบา “นายนี่มันแบบอย่างแห่งความไร้ยางอายจริง ๆ ฉันว่าที่นี่น้ำใสเขาเขียวเป็นสถานที่ฝังศพที่ดี ถ้านายยังไม่ไป ก็พักผ่อนยาวที่นี่ไปเลยแล้วกัน” หลี่โม่พูดอย่างราบเรียบ “แหะ ๆ อย่าเลยครับ ผมยังอยากทำเพื่อลูกพี่อยู่ ถ้าอย่างนั้นผมข
เฉินเสี่ยวถงขานเรียกเสียงเบา โม่หงที่เข่าหักอยู่ไม่ไกลและใช้มือสองข้างคลานไปกับพื้นหยุดชะงัก ก่อนมองไปยังทิศทางที่เฉินเสี่ยวถงเดินมาด้วยแววตาเป็นประกาย โม่หงเกลียดแค้นหลี่โม่อย่างสุดซึ้ง เพราะหัวเข่าหักโดยสมบูรณ์ ขาขวาของโม่หงนับว่าพิการอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้แม้แต่จะลุกขึ้นเดินก็ยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ โม่หงซึ่งแต่เดิมคิดว่าคงได้แต่ต้องคลานหนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น ในตอนนี้เมื่อมองไปยังเฉินเสี่ยวถงผ่านพงหญ้า เขาก็รู้สึกว่าน่าจะสามารถจับเฉินเสี่ยวถงเป็นตัวประกันและหนีไปได้ สาวสวยขนาดนี้ จะต้องเป็นผู้หญิงข้างกายหลี่โม่แน่ ๆ ขอเพียงจับตัวเฉินเสี่ยวถงไว้ได้ บางทีไม่เพียงแค่หนีรอดได้เท่านั้น เขาอาจได้แก้แค้นด้วยก็ได้! โม่หงสูดหายใจลึก สองมือออกแรงพยุงร่างขึ้น จากนั้นจึงยกขาซ้ายขึ้นมานั่งคุกเข่าข้างเดียวบนพื้น โม่หงที่เคลื่อนไหวไม่สะดวกรู้สึกว่าตนมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถึงยังไงเฉินเสี่ยวถงมีปืนอยู่ในมือ หากเขาโจมตีพลาดไป ก็อาจถูกเฉินเสี่ยวถงยิงตายได้ โม่หงซุ่มรออย่างเงียบ ๆ ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังล่าเหยื่อ รอให้เฉินเสี่ยวถงมาถึงอยู่ในพงหญ้าหนาทึบ แต่ก่อนที่เฉินเสี่ยวถงจะเดินเข้า