คุณชายเล็กหลินพยักหน้าอย่างตื่นเต้น สายตาจับตาดูหมัดของหม่างจือหมัดของหม่างจืออยู่ห่างจากหลี่โม่เพียงแค่ครึ่งเมตร จู่ ๆ หลี่โม่ก็ขยับ หลังจากยกมือขวาขึ้นร่างกายของเขาก็ขยับไปมา หมัดขวาของเขาก็พุ่งออกมาเหมือนลูกกระสุนปืนหมัดที่ปล่อยทีหลังแต่ไปถึงก่อนกระแทกใบหน้าของหม่างจือ จนร่างหม่างจือกระเด็นไปข้างหลัง จากนั้นหลี่โม่ก็ทำท่าเช่นเดียวกับท่าที่หม่างจือขอให้หลี่โม่ทำ ลอยกลางอากาศไปล้มลงกับพื้นโครม!หม่างจือล้มลงกับพื้น ฝุ่นควันกระจายทั่วพื้นไปหมด ตามมาด้วยหม่างจือที่อ้าปากแล้วมีเลือดเต็มปากพุ่งออกมาราวกับน้ำพุหลี่โม่ค่อย ๆ เก็บหมัด แล้วพูดอย่างเรียบ ๆ “ทำตามบทที่นายบอกฉันแล้วนะ ล้มลงไปพื้นอย่างสมบูรณ์แบบเลย ท่าทางของฉันก็หล่อพอแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือฉันไม่ได้ฆ่านายด้วยหมัดเดียว ฉันไว้ชีวิตนายแล้ว”หม่างจือเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองหลี่โม่ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว กำลังจะอ้าปากพูด ก็มีเลือดไหลออกมาอีก“พรวด! ฉัน บอกให้นายล้มลงกับพื้น!”“ขอโทษที นายไม่ได้บอกให้ชัดเจน ฉันคิดว่านายอยากจะล้มลงกับพื้น ไม่งั้นเรามาทำกันใหม่อีกทีสิ” หลี่โม่พูดยิ้ม ๆหม่างจือเอียงคอ เขาโกรธจนจะสลบไปหลงเทา
พวกชายกำยำที่อยู่ด้านหลังจอมละโมบพับแขนเสื้อขึ้น จ้องมองไปที่หลี่โม่ที่เพิ่งทุบตีหม่างจือไปด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวในสายตาของพวกเขา หลี่โม่คือศัตรูที่ต้องถูกกำจัดอย่างรวดเร็วจอมละโมบจ้องมองหลี่โม่แล้วพูดอย่างเย็นชา “แกเสแสร้งเก่งมาก ใช้กลอุบายแกล้งเป็นหมูมากินเสือใส่ฉัน!”“หึฟึ ฉันไม่ได้แกล้งเป็นหมู แล้วแกก็ไม่ใช่เสือด้วย หยุดพูดไร้สาระแล้วรีบพาลูกน้องของแกมาเร็ว ๆ ให้ฉันสอนแกว่าอะไรคือการตัวเป็นคนต่ำต้อย”หลี่โม่กระดิกนิ้วเรียกจอมละโมบ สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกจอมละโมบรู้สึกโกรธยิ่งกว่าการดูถูกของหลี่โม่ เขาโบกมือขวาเบา ๆ “จะจัดการแก แค่ลูกน้องของฉันก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ฉันลงมือเลย คนหนุ่มสาวควรต้องมีจิตใจที่น่าเกรงขาม จัดการมัน!”ชายกำยำในชุดฝึกสีดำรีบวิ่งพุ่งออกไปพร้อมกัน ต่างคำรามและกระโจนเข้าใส่หลี่โม่ราวกับเสือที่ลงมาจากภูเขาลุงเป้ากุมสะโพกลุกขึ้นจากพื้น รีบไปที่ข้าง ๆ ของคุณชายเล็กหลิน “คุณชายสาม อย่ายืนดูอยู่ที่นี่เลยครับ ถ้าจะดูต้องหาที่ปลอดภัยดูดีกว่า ใจผมกำลังเต้นรัว ๆ กังวลไปหมดแล้วครับ”“หมายถึงอะไร หรือว่าจอมละโมบนี่ก็ทำไม่ได้?” คุณชายเล็กหลินพูดอย่างขมขื่น“
ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บชายกำยำสิบกว่าคนล้มลงกับพื้น แต่ละคนรู้สึกว่าอวัยวะภายในของพวกเขาดูเหมือนจะพังไปหมด จากนั้นในปากของพวกเขาก็กระอักเลือดออกมาจอมละโมบเบิกตากว้างทันที ในใจประเมินหลี่โม่ใหม่ รู้สึกว่าระดับของหลี่โม่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตัวเองเลยให้ตายเถอะ ไอ้หนุ่มเติบโตมากับอะไร ทำไมถึงมีพลังขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย นี่มันไร้หลักวิทยาศาสตร์เลย!จอมละโมบไม่เพียงกังวลว่ากังฟูของหลี่โม่จะยอดเยี่ยม แต่ยังกังวลว่าอาจารย์ของหลี่โม่ที่อยู่เบื้องหลังก็จะยอดเยี่ยมด้วย ล้วนพูดกันว่าอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจะผลิตลูกศิษย์ระดับสูง คนที่สามารถสอนหลี่โม่ที่เป็นวัยรุ่นฝีมือดีนี้ได้ จะต้องเป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงในศิลปะการต่อสู้ จอมละโมบไม่อยากไปทำให้ยอดฝีมือขุ่นเคืองใจโดยไม่มีเหตุผลเห็นหลี่โม่เดินมาทางตัวเอง จอมละโมบก็โบกมือแล้วพูด “ช้าก่อน! ฉันมีเรื่องจะพูดไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่!”“ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือเปล่าก็อย่าพูดเลย นี่เท่ากับถอดกางเกงจะขึ้นเตียงแล้ว แต่แกกลับจะตด มันเสียอารมณ์โดยไม่มีเหตุผล”จอมละโมบตกตะลึงกับหลี่โม่จนเกือบจะลมหายใจสะดุด เขาจึงเปลี่ยนวิธีถาม “นายเป็นลูกศิษย์ของใคร อาจารย์
จอมละโมบยอมรับความผิดในทันที เขาไม่ต้องการต่อสู้กับหลี่โม่ด้วยใจจริง หากเอาชนะหลี่โม่ได้ บางทีอาจไปล่วงเกินคนที่หนุนหลังหลี่โม่อยู่เข้าแล้วจะทำอย่างไรล่ะ แต่หากแพ้หลี่โม่ ถ้าไม่ตายก็พิการน่ะสิ หลังจากชั่งน้ำหนักผลดีผลเสียแล้ว จอมละโมบก็รู้สึกว่ามีแต่ต้องยอมแพ้ทางเดียวเท่านั้น หลี่โม่ส่ายหน้า “ชีวิตคนเรามีทางเลือกมากมายขนาดนั้นที่ไหนกัน ในเมื่อแกเลือกที่จะเป็นศัตรูกับฉันแล้ว งั้นก็ต้องเป็นศัตรูของฉันไปชั่วชีวิต เป็นคนอย่าลืมความตั้งใจแรกสิ” จอมละโมบสับสนว้าวุ่นขึ้นมาทันใด 'ไอ้เวร ฉันก็ยอมแพ้แล้วไง แล้วจะยังยึดความตั้งใจแรกอะไรอีก! ฉันมันก็เป็นพวกเห็นแก่เงินมาตลอดอยู่แล้ว ไม่เคยลืมความตั้งใจแรกของตัวเองมาตั้งแต่แรกแล้ว!' “ไม่ใช่นะครับ คุณหลี่คุณบอกมาเลยว่าต้องทำยังไงคุณถึงจะปล่อยผมไปดีกว่า ความจริงแล้วผมไม่ได้มีวิชายุทธ์อะไรเลย ผมก็เหมือนกับอาจารย์หม่าปรมจารย์ไท่เก๊กนั่นแหละครับ เป็นแค่คนท่าดีทีเหลวเท่านั้น” จอมละโมบไม่หวงศักดิ์ศรีอีกต่อไป เขายกสองมือกุมหัวใจแสร้งทำท่าทางเจ็บปวดเต็มประดา “โอ๊ย โอ๊ย หัวใจผมจะวายแล้ว ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว!” ขณะที่แสร้งเจ็บร้องโอดโอยจอมละโมบก็
ลุงเป้าพลันได้สติกลับมาทันใด เขาดันคุณชายเล็กหลินให้ตามไป “น้องชายช้าหน่อย พวกเราหนีด้วยกัน!” “มีรถหรือเปล่า? ถ้ามีรถก็รีบเอากุญแจมาเลย เจ้าพวกนั้นต้านหลี่โม่ไว้ได้ไม่ถึงสองนาทีหรอก เร็วเข้า!” จอมละโมบเอ่ยเร่งไปพลางยกขาขึ้นถีบประตูหลังให้เปิดออกก่อนจะพุ่งออกไปก่อนใคร คุณชายเล็กหลินและลุงเป้ารีบพุ่งตามออกไป ลูกน้องสี่คนหลังสุดรั้งท้ายอยู่ข้างหลัง รถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์คนหนึ่งจอดอยู่นอกประตูหลัง จอมละโมบเปิดประตูตำแหน่งข้างคนขับแล้วมุดเข้าไปนั่ง “ใครขับรถเก่งก็รีบมาขับสิโว้ย!” “ฉันบาดเจ็บอยู่ ขับไม่ไหว!” ลุงเป้าพูดพลางเข้าไปนั่งเบาะหลัง คุณชายเล็กหลินตามขึ้นรถมาและตะโกนเสียงดัง “จี๋เสียง แกรีบมาขับรถสิวะ!” ลูกน้องที่ชื่อจี๋เสียงเปิดประตูที่นั่งคนขับอย่างเงียบขรึม หลังจากขึ้นรถแล้วสตาร์ทรถเข้าเกียร์ เมื่อเหยียบคันเร่งลงไปรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ก็ตะบึงออกไปอย่างบ้าระห่ำ “คุณชายเล็กหลินไม่ต้องกังวล ผมเป็นมืออาชีพเรื่องการขับรถ ไม่มีใครสามารถไล่ตามรถที่ผมขับได้แน่นอน พวกคุณเป็นห่วงความปลอดภัยแล้วนั่งให้มั่นคงเถอะครับ แล้วจับตาดูผมขับพาพวกคุณพุ่งทะยานไปได้เลย!” จี๋เสียงพูดจบก็เ
เมื่อพูดถึงเรื่องรถ พี่คังก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที อาการสั่นสะท้านด้วยความกลัวเมื่อครู่นี้หายไปในพริบตา หลงเทาตะลึงไปเล็กน้อย แล้วเกาหัวพลางเอ่ย “รถของฉันไม่เคยดัดแปลงอะไรเลย เป็นรถนำเข้าแบบดั้งเดิมที่เพิ่งจะได้มาเมื่อต้นปีนี้เอง” “อะไรนะ?” พี่คังเบิกตากว้าง จนราวกับลูกตาจะกระเด็นออกมาเป็นอาวุธลับสังหารหลงเทาอย่างไรอย่างนั้น “นายอย่ามองฉันแบบนั้นสิ ถ้าพวกนายไม่นั่งรถของฉันก็ช่างเถอะ ฉันตามไปดูเองก็ได้” หลงเทาบ่นอุบอิบแล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งในที่นั่งคนขับ พี่คังได้สติกลับมา เขารีบเข้าไปนั่งตำแหน่งข้างคนขับอย่างรวดเร็ว ในปากพูดพร่ำไม่หยุด “ไม่เคยดัดแปลงอะไรมา มันเป็นไปไม่ได้เลยนะ ถ้าไม่ได้ดัดแปลงเครื่องยนต์ 10.0T รถคันนี้ของลูกพี่ก็ไม่มีทางไล่ตามบูกัตติของฉันได้หรอก” “ทุกคนต่างก็เป็นคนชอบเล่นรถทั้งนั้น อย่าคิดว่าจะหลอกกันได้ ลูกพี่เองก็หลอกผมไม่ได้หรอก เดี๋ยวพอกลับไปแล้ว ขอผมดูเครื่องยนต์ของพี่หน่อยว่าดัดแปลงกระปุกเกียร์ยังไง ก็ถือว่าเป็นการศึกษาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันล่ะนะ” หลงเทามองพี่คังอย่างหมดคำจะพูด ก่อนจะเริ่มสตาร์ทรถแล้วเหยียบคันเร่ง ทันทีที่รถติดเครื่องยนต์ ต
...... จี๋เสียงขับรถตู้เบนซ์ห้อตะบึงอย่างบ้าระห่ำไปตลอดทาง รถรักษาความเร็วอยู่ที่ 200 ไมล์ต่อชั่วโมง คุณชายเล็กหลินเหลือบมองทางข้างหลังเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าไม่มีรถไล่ตามมา ก็พลันถอนหายใจอย่างโล่งอก “ไอ้เวรตะไลหลี่โม่ อย่างกับภูตผีงั้นแหละ! จอมละโมบนายทำยังไงของนาย เมื่อกี้นี้นายไม่ได้บอกว่าทั่วใต้หล้าไร้คู่ต่อกรหรอกเหรอ?!” “คุณชายสาม นั่นก็แค่การเปรียบเปรย ใครมันจะไปไร้คู่ต่อกรได้กันเล่า ต่างก็ว่ากันว่าหมัดมวยยากจะสู้คนหนุ่ม ผมเพิ่งจะประมือกับหลี่โม่ แค่ถูกหลี่โม่ต่อยแค่หมัดเดียวกระดูกแขนก็หักแล้ว” จอมละโมบเอ่ยอย่างเศร้าใจ รู้สึกเจ็บแปลบที่แขนขึ้นมา ลุงเป้าถอนหายใจ รู้สึกได้ถึงความรู้สึกเข้าตาจนบางอย่าง “พวกเรารีบไปหาที่ซ่อนกันเถอะ ใจฉันมันเต้นตุ้ม ๆ ต่อม ๆ อยู่ตลอดเลย” “ว่างเปล่าแบบนี้จะไปซ่อนที่ไหนได้! ฉันนี่มันโคตรซวยเลย ทำไมถึงได้ไปแส่หาเรื่องไอ้เวรหลี่โม่นั่นกัน! พวกนายรีบคิดหาวิธีเร็วเข้า ดูซิว่าทำยังไงถึงจะสามารถจัดการกับเจ้านั่นได้!” จอมละโมบกับลุงเป้าต่างนิ่งเงียบ วิธีที่จะจัดการกับหลี่โม่นั้น พวกเขาไม่มีเลยจริง ๆ เมื่อเห็นทั้งสองคนไม่พูดจา สีหน้าของคุณชายเล็กห
หลังจากที่รถตู้เบนซ์ตกลงกับพื้น กระจกหน้าต่างรถก็แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยแรงสะเทือน ฝั่งที่นั่งข้างคนขับกระแทกกับพื้น พวกคุณชายเล็กหลินต่างก็ถูกกระแทกจนเลือดโชก มีเสียงวิ๊งวิ๊งดังอยู่ในหัว ทั้งหมดต่างตกอยู่ในอาการสมองกระทบกระเทือน ก็มีเพียงอาการของจอมละโมบที่ดีกว่าสักหน่อย เขาสะบัดหัวอย่างแรง จอมละโมบตะเกียกตะกายปีนออกไปจากทางกระจกรถที่แตกละเอียด “เป็นเพื่อนร่วมทีมที่ไร้ประโยชน์ชะมัด เกือบขุดหลุมฝังฉันแล้วไหมล่ะ” จอมละโมบบ่นพลางปีนออกจากรถตู้เบนซ์ เขาเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากหน้าผากที่ถูกกระจกบาด นึกอยากจะนั่งสูบบุหรี่ที่ข้างทางเงียบ ๆ สักมวนจริง ๆ ทว่าจอมละโมบก็ทำได้เพียงคิดเท่านั้น หลี่โม่ที่ย่างสามขุมเข้ามาทำให้จอมละโมบหมดอารมณ์ทันใด เขารีบกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งหนีไปบนถนนอย่างบ้าคลั่ง หลี่โม่แค่นหัวเราะเย็นชา เขาสะบัดข้อมือเล็กน้อยก่อนหินกรวดก้อนหนึ่งจะทะยานออกไปกระแทกเข้ากับข้อพับเข่าของจอมละโมบอย่างแรง จอมละโมบที่กำลังหนีเตลิดพลันรู้สึกเจ็บปวดที่หัวเข่าและล้มคว่ำลงไปจูจุ๊บกับพื้นทันที “ขาฉัน! เข่าฉัน!” จอมละโมบร้องโหยหวนพลางกุมเข่าเอาไว้ เมื่อเห็นรูขนาดใหญ่ที่มีเลื