เพื่อที่จะผ่านโค้งได้อย่างราบรื่น พี่คังจึงเริ่มชะลอความเร็ว พอความเร็วลดลงเล็กน้อย รถเมอร์เซเดสเบนซ์ออฟโรดก็ส่งเสียงคำรามแซงรถบูกัตติเวย์รอนไปรอยยิ้มน่ากลัวปรากฏขึ้นที่มุมปากของพี่คัง “ไปตายซะ ไอ้เวร กล้าขับไปด้วยความเร็วสูงขนาดนี้ ถ้าไม่ตายก็แปลกแล้ว!”“พี่คัง พี่พูดอะไร? เกิดอะไรขึ้น?”ยังคงมีคนถามต่อจากอินเตอร์คอม“ฉันอยู่ห่างจากทางโค้งเสือกระโจนไม่ถึง 700 เมตร ก็เลยชะลอความเร็วลงเพื่อเตรียมโค้ง แต่ไอ้คนขับเมอร์เซเดสเบนซ์นั่นกลับขับต่อไปที่ความเร็ว 360-370 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าอีกเดี๋ยวฉันจะได้เห็นรถพลิกคว่ำว่ะ” พี่คังพูดอย่างร่าเริงอินเตอร์คอมเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็มีเสียงเย็นชาดังขึ้นมา“หึ! หมอนั่นเมาแล้วขับแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางที่เขาจะขับรถแบบนั้น”“ทุกคนเร่งความเร็วเถอะ รีบเข้าไปดูไอ้หมอนั่น ไปฉี่ช่วยมันดับไฟกันเถอะ”“พูดถูกเลย ถ้ารถพลิกคว่ำถังน้ำมันจะรั่วแน่นอน ระเบิดแน่ เราไปฉี่ดับไฟกันเถอะ!”พวกคนรวยรีบเร่งตามไปข้างหน้าด้วยความเร็วเต็มที่ พี่คังชะลอความเร็วลงเหลือ 200 ซึ่งพอที่จะมองเห็นไฟท้ายของรถเมอร์เซเดสเบนซ์พอดีเห็นรถเมอร์เซเดสเบนซ์เข้าโค้งด้วย
“หยุดพูดไร้สาระ รีบเข้าไปช่วยพี่คังเถอะ ดูว่าจะปลุกเขาได้ไหม ถ้าปลุกไม่ได้ให้ส่งเขาไปโรงพยาบาลทันที ถ้ามีเลือดออกภายในหรือเลือดออกในสมอง พวกเราก็จะเดือดร้อนไปด้วย”พวกคนรวยจับตัวเขา เปลือกตาของพี่คังขยับ แล้วเขาก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นสายตาที่สับสนมองไปรอบ ๆ ด้วย จู่ ๆ พี่คังก็นึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้ได้ “ฉัน ฉันไม่เป็นไรใช่ไหม ขาของฉันยังอยู่ใช่ไหม!”“แขนขาพี่อยู่ครบ ดูท่าทางสภาพของพี่คังยังอยู่ดีนะ ความปลอดภัยของรถบูกัตติสุดยอดมาก”“งั้นฉันก็สบายใจ พยุงฉันขึ้นรถที พวกเราต้องตามหาเมอร์เซเดสเบนซ์คันนั้นให้เจอ ต้องตามหาคนที่ขับรถคันนั้นให้ได้!” พี่คังพูดอย่างไม่ยอมแพ้พวกคนรวยสบตาสื่อสารกัน ต่างรู้สึกว่าควรหารถเมอร์เซเดสเบนซ์คันนั้น พวกเขาไม่สามารถแพ้ให้ใครก็ไม่รู้ไม่ได้“พี่คัง ขึ้นรถฉันเถอะ ถ้าตรงไหนไม่สบายให้รีบบอกฉันเลยนะ เรื่องตามหารถเมอร์เซเดสเบนซ์นั่น เรามีกันอยู่ตั้งหลายคนขนาดนี้ เขาหนีไม่พ้นแน่นอน”คนหนึ่งพยุงพี่คังขึ้นรถตัวเอง จากนั้นรถสปอร์ตทุกคันก็สตาร์ทรถ ไล่ตามไปในทิศทางของรถเมอร์เซเดสเบนซ์......รถเมอร์เซเดสเบนซ์จอดนิ่งอยู่หน้าคฤหาสน์ สีหน้าของหลงเทาซีดเผือด
ชายกำยำที่เปิดประตูโบกมือส่งสัญญาณให้หลงเทากับหลี่โม่รีบเข้าไปในบ้าน เพราะว่าเมื่อกี้หลงเทาอาเจียนชายกำยำจึงไม่ได้มองหลี่โม่อย่างละเอียดเพราะว่าจอมละโมบมาพร้อมกับคนของเขา ชายกำยำก็มีความกล้าหาญเพียงพอ เขารู้สึกว่าหลงเทาคงจะทำอะไรไม่ได้หรอก ดังนั้นเขาจึงละเว้นขั้นตอนการค้นร่างกายไปหลงเทาเหลือบมองหลี่โม่อย่างกังวล จากนั้นกัดฟันแล้วเดินเข้าไปในเวลานี้ เขาสามารถเลือกได้เพียงด้านเดียวในการวางเดิมพัน เพียงแต่ชิปของหลงเทาได้ถูกวางไว้ที่ฝั่งของหลี่โม่แล้วคุณชายเล็กหลินนั่งอยู่บนเก้าอี้โยก ถือแก้วไวน์แดงและมองจอมละโมบที่อยู่ข้าง ๆ เขาจอมละโมบสวมชุดกระดุมสองแถวสีแดง ใบหน้าดูสง่างาม เขาดูไม่เหมือนนักศิลปะการต่อสู้ที่ดุร้ายเลย บอกว่าเขาเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเกรงว่าจะเชื่อกันหมดด้านหลังจอมละโมบมีชายกำยำหลายสิบคนสวมชุดกระดุมสองแถวสีดำ ชายแต่ละคนใบหน้าน่ากลัว ดูแล้วดุร้ายมากลุงเป้าทนความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ขา นั่งบนเก้าอี้นวมในท่าที่ดูเหนื่อยล้าและพูดคุยกับทั้งสองในฐานะแขก“คุณชายสาม น้องชายของผมจอมละโมบมีชื่อเสียงมาโดยตลอด ขอแค่มีเงินมาก็สามารถจัดการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องกั
หรือว่าคุณชายเล็กหลินจะมองทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว?แต่ก็ดูไม่เหมือนเลย ถ้าคุณชายเล็กหลินมองทะลุปรุโปร่งจริง ๆ เวลานี้เขาต้องถูกคนกลุ่มนี้ยกปืนจ่อแล้วสิหรือคุณชายเล็กหลินวางแผนจะเล่นเกมแมวจับหนู ค่อย ๆ เล่นเล่ห์เพทุบายกับตัวเองและหลี่โม่เหรอ?'ให้ตายเถอะ ถ้าคุณโดนบังคับให้ก้มเก็บสบู่เมื่อไหร่ชื่อเสียงทั้งชีวิตจบเห่แน่'หลงเทาครุ่นคิดอย่างกระสับกระส่าย ลืมตอบคุณชายเล็กหลินไปเลยหลี่โม่สะกิดหลงเทาเบา ๆ แล้วกระซิบ “อย่าเหม่อลอย”จากนั้นหลงเทาก็เรียกสติกลับมา พยักหน้าโค้งตัวแล้วพูด “ดูคุณชายสามหลินพูดเข้าสิครับ ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ ครอบครัวของคุณเป็นธุรกิจใหญ่ แต่ผมไม่เคยทำธุรกิจขนาดใหญ่เลย ย่อมต้องให้คุณเป็นคนบอกว่าต้องทำยังไงสิครับ”“ครอบครัวของฉันมีธุรกิจใหญ่ที่ไหนกัน ครอบครัวของฉันทำแค่ธุรกิจเล็ก ๆ ไม่โดดเด่น ไม่ต่างจากของพวกนายหรอก นายมาไกลขนาดนี้ต้องมีไอเดียอะไรแน่ ๆ พูดความคิดของนายมาได้เลย จากนั้นเราค่อยหารือรายละเอียดกันอีกที”เห็นท่าทางเป็นมิตรของคุณชายเล็กหลิน หลี่โม่ก็ประหลาดใจเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองเจอคุณชายเล็กหลินตัวปลอมหรือเปล่าเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาเป็นคนที่หยิ่งผยองบ้าอ
หมั่งจึที่ร่างเท่าประตูเดินไปทางหลงเทา หลงเทาตัวสั่นด้วยความตกใจแล้วพูดอย่างตื่นตระหนก “คุณชายสาม นี่คุณชายสามหมายความว่าอะไรครับ คุณไม่ควรทำแบบนี้กับผมนะครับ เราจะทำการค้าขายต้องมีเมตตานะครับ!”“ใครจะไปมีเมตตากับนาย ฉันเรียกนายมาที่นี่ก็เพื่อให้เป็นคู่ฝึกซ้อม ถ้านายเอาชนะหมั่งจึได้ ฉันจะให้เครดิตนาย แต่ถ้าหากนายเอาชนะไม่ได้ งั้นอีกเดี๋ยวฉันจะฝังนายทั้งเป็น”ใบหน้าของคุณชายสามหลินปรากฏความเกลียดชัง ความโกรธที่ระงับอยู่ในใจก็เผยออกมาแล้ว เขาจินตนาการว่าหลงเทาเป็นหลี่โม่ ครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้ควรจะจัดการกับหลี่โม่ยังไงดีถึงจะได้ผลดีขึ้นอีกต้องจัดการหลี่โม่ต่อหน้าสาวสวยทั้งสองถึงจะได้ แล้วก่อนที่หลี่โม่จะตาย ให้เขาดูว่าฉันจะทำให้ภรรยาของเขามีความสุขได้ยังไง!เมื่อเห็นว่าคุณชายสามหลินไม่ได้พูดเรื่องศีลธรรมเลย หลงเทาก็มองไปที่หลี่โม่เพื่อขอความช่วยเหลือ “ทำยังไงดี!”“เขาต้องการต่อสู้กับนาย นายก็ย่อมต้องสู้กับเขาสิ ถ้าเอาชนะไม่ได้ก็คุกเข่าให้ก็พอ”หลี่โม่พูดอย่างเฉยเมยหลงเทาทรุดเลย ไม่รอให้หมั่งจึลงมือ เขาก็ยกสองมือกุมหัวนั่งยอง ๆ ข้างหลังหลี่โม่ หลับตาแล้วตะโกน "พี่ใหญ่ ผมทนไม่ไหวแล้ว
คุณชายเล็กหลินพยักหน้าอย่างตื่นเต้น สายตาจับตาดูหมัดของหม่างจือหมัดของหม่างจืออยู่ห่างจากหลี่โม่เพียงแค่ครึ่งเมตร จู่ ๆ หลี่โม่ก็ขยับ หลังจากยกมือขวาขึ้นร่างกายของเขาก็ขยับไปมา หมัดขวาของเขาก็พุ่งออกมาเหมือนลูกกระสุนปืนหมัดที่ปล่อยทีหลังแต่ไปถึงก่อนกระแทกใบหน้าของหม่างจือ จนร่างหม่างจือกระเด็นไปข้างหลัง จากนั้นหลี่โม่ก็ทำท่าเช่นเดียวกับท่าที่หม่างจือขอให้หลี่โม่ทำ ลอยกลางอากาศไปล้มลงกับพื้นโครม!หม่างจือล้มลงกับพื้น ฝุ่นควันกระจายทั่วพื้นไปหมด ตามมาด้วยหม่างจือที่อ้าปากแล้วมีเลือดเต็มปากพุ่งออกมาราวกับน้ำพุหลี่โม่ค่อย ๆ เก็บหมัด แล้วพูดอย่างเรียบ ๆ “ทำตามบทที่นายบอกฉันแล้วนะ ล้มลงไปพื้นอย่างสมบูรณ์แบบเลย ท่าทางของฉันก็หล่อพอแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือฉันไม่ได้ฆ่านายด้วยหมัดเดียว ฉันไว้ชีวิตนายแล้ว”หม่างจือเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองหลี่โม่ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว กำลังจะอ้าปากพูด ก็มีเลือดไหลออกมาอีก“พรวด! ฉัน บอกให้นายล้มลงกับพื้น!”“ขอโทษที นายไม่ได้บอกให้ชัดเจน ฉันคิดว่านายอยากจะล้มลงกับพื้น ไม่งั้นเรามาทำกันใหม่อีกทีสิ” หลี่โม่พูดยิ้ม ๆหม่างจือเอียงคอ เขาโกรธจนจะสลบไปหลงเทา
พวกชายกำยำที่อยู่ด้านหลังจอมละโมบพับแขนเสื้อขึ้น จ้องมองไปที่หลี่โม่ที่เพิ่งทุบตีหม่างจือไปด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวในสายตาของพวกเขา หลี่โม่คือศัตรูที่ต้องถูกกำจัดอย่างรวดเร็วจอมละโมบจ้องมองหลี่โม่แล้วพูดอย่างเย็นชา “แกเสแสร้งเก่งมาก ใช้กลอุบายแกล้งเป็นหมูมากินเสือใส่ฉัน!”“หึฟึ ฉันไม่ได้แกล้งเป็นหมู แล้วแกก็ไม่ใช่เสือด้วย หยุดพูดไร้สาระแล้วรีบพาลูกน้องของแกมาเร็ว ๆ ให้ฉันสอนแกว่าอะไรคือการตัวเป็นคนต่ำต้อย”หลี่โม่กระดิกนิ้วเรียกจอมละโมบ สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกจอมละโมบรู้สึกโกรธยิ่งกว่าการดูถูกของหลี่โม่ เขาโบกมือขวาเบา ๆ “จะจัดการแก แค่ลูกน้องของฉันก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ฉันลงมือเลย คนหนุ่มสาวควรต้องมีจิตใจที่น่าเกรงขาม จัดการมัน!”ชายกำยำในชุดฝึกสีดำรีบวิ่งพุ่งออกไปพร้อมกัน ต่างคำรามและกระโจนเข้าใส่หลี่โม่ราวกับเสือที่ลงมาจากภูเขาลุงเป้ากุมสะโพกลุกขึ้นจากพื้น รีบไปที่ข้าง ๆ ของคุณชายเล็กหลิน “คุณชายสาม อย่ายืนดูอยู่ที่นี่เลยครับ ถ้าจะดูต้องหาที่ปลอดภัยดูดีกว่า ใจผมกำลังเต้นรัว ๆ กังวลไปหมดแล้วครับ”“หมายถึงอะไร หรือว่าจอมละโมบนี่ก็ทำไม่ได้?” คุณชายเล็กหลินพูดอย่างขมขื่น“
ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บชายกำยำสิบกว่าคนล้มลงกับพื้น แต่ละคนรู้สึกว่าอวัยวะภายในของพวกเขาดูเหมือนจะพังไปหมด จากนั้นในปากของพวกเขาก็กระอักเลือดออกมาจอมละโมบเบิกตากว้างทันที ในใจประเมินหลี่โม่ใหม่ รู้สึกว่าระดับของหลี่โม่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตัวเองเลยให้ตายเถอะ ไอ้หนุ่มเติบโตมากับอะไร ทำไมถึงมีพลังขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย นี่มันไร้หลักวิทยาศาสตร์เลย!จอมละโมบไม่เพียงกังวลว่ากังฟูของหลี่โม่จะยอดเยี่ยม แต่ยังกังวลว่าอาจารย์ของหลี่โม่ที่อยู่เบื้องหลังก็จะยอดเยี่ยมด้วย ล้วนพูดกันว่าอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจะผลิตลูกศิษย์ระดับสูง คนที่สามารถสอนหลี่โม่ที่เป็นวัยรุ่นฝีมือดีนี้ได้ จะต้องเป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงในศิลปะการต่อสู้ จอมละโมบไม่อยากไปทำให้ยอดฝีมือขุ่นเคืองใจโดยไม่มีเหตุผลเห็นหลี่โม่เดินมาทางตัวเอง จอมละโมบก็โบกมือแล้วพูด “ช้าก่อน! ฉันมีเรื่องจะพูดไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่!”“ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือเปล่าก็อย่าพูดเลย นี่เท่ากับถอดกางเกงจะขึ้นเตียงแล้ว แต่แกกลับจะตด มันเสียอารมณ์โดยไม่มีเหตุผล”จอมละโมบตกตะลึงกับหลี่โม่จนเกือบจะลมหายใจสะดุด เขาจึงเปลี่ยนวิธีถาม “นายเป็นลูกศิษย์ของใคร อาจารย์