หรือว่าคุณชายเล็กหลินจะมองทะลุปรุโปร่งหมดแล้ว?แต่ก็ดูไม่เหมือนเลย ถ้าคุณชายเล็กหลินมองทะลุปรุโปร่งจริง ๆ เวลานี้เขาต้องถูกคนกลุ่มนี้ยกปืนจ่อแล้วสิหรือคุณชายเล็กหลินวางแผนจะเล่นเกมแมวจับหนู ค่อย ๆ เล่นเล่ห์เพทุบายกับตัวเองและหลี่โม่เหรอ?'ให้ตายเถอะ ถ้าคุณโดนบังคับให้ก้มเก็บสบู่เมื่อไหร่ชื่อเสียงทั้งชีวิตจบเห่แน่'หลงเทาครุ่นคิดอย่างกระสับกระส่าย ลืมตอบคุณชายเล็กหลินไปเลยหลี่โม่สะกิดหลงเทาเบา ๆ แล้วกระซิบ “อย่าเหม่อลอย”จากนั้นหลงเทาก็เรียกสติกลับมา พยักหน้าโค้งตัวแล้วพูด “ดูคุณชายสามหลินพูดเข้าสิครับ ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ ครอบครัวของคุณเป็นธุรกิจใหญ่ แต่ผมไม่เคยทำธุรกิจขนาดใหญ่เลย ย่อมต้องให้คุณเป็นคนบอกว่าต้องทำยังไงสิครับ”“ครอบครัวของฉันมีธุรกิจใหญ่ที่ไหนกัน ครอบครัวของฉันทำแค่ธุรกิจเล็ก ๆ ไม่โดดเด่น ไม่ต่างจากของพวกนายหรอก นายมาไกลขนาดนี้ต้องมีไอเดียอะไรแน่ ๆ พูดความคิดของนายมาได้เลย จากนั้นเราค่อยหารือรายละเอียดกันอีกที”เห็นท่าทางเป็นมิตรของคุณชายเล็กหลิน หลี่โม่ก็ประหลาดใจเล็กน้อย รู้สึกว่าตัวเองเจอคุณชายเล็กหลินตัวปลอมหรือเปล่าเห็นอยู่ชัด ๆ ว่าเขาเป็นคนที่หยิ่งผยองบ้าอ
หมั่งจึที่ร่างเท่าประตูเดินไปทางหลงเทา หลงเทาตัวสั่นด้วยความตกใจแล้วพูดอย่างตื่นตระหนก “คุณชายสาม นี่คุณชายสามหมายความว่าอะไรครับ คุณไม่ควรทำแบบนี้กับผมนะครับ เราจะทำการค้าขายต้องมีเมตตานะครับ!”“ใครจะไปมีเมตตากับนาย ฉันเรียกนายมาที่นี่ก็เพื่อให้เป็นคู่ฝึกซ้อม ถ้านายเอาชนะหมั่งจึได้ ฉันจะให้เครดิตนาย แต่ถ้าหากนายเอาชนะไม่ได้ งั้นอีกเดี๋ยวฉันจะฝังนายทั้งเป็น”ใบหน้าของคุณชายสามหลินปรากฏความเกลียดชัง ความโกรธที่ระงับอยู่ในใจก็เผยออกมาแล้ว เขาจินตนาการว่าหลงเทาเป็นหลี่โม่ ครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้ควรจะจัดการกับหลี่โม่ยังไงดีถึงจะได้ผลดีขึ้นอีกต้องจัดการหลี่โม่ต่อหน้าสาวสวยทั้งสองถึงจะได้ แล้วก่อนที่หลี่โม่จะตาย ให้เขาดูว่าฉันจะทำให้ภรรยาของเขามีความสุขได้ยังไง!เมื่อเห็นว่าคุณชายสามหลินไม่ได้พูดเรื่องศีลธรรมเลย หลงเทาก็มองไปที่หลี่โม่เพื่อขอความช่วยเหลือ “ทำยังไงดี!”“เขาต้องการต่อสู้กับนาย นายก็ย่อมต้องสู้กับเขาสิ ถ้าเอาชนะไม่ได้ก็คุกเข่าให้ก็พอ”หลี่โม่พูดอย่างเฉยเมยหลงเทาทรุดเลย ไม่รอให้หมั่งจึลงมือ เขาก็ยกสองมือกุมหัวนั่งยอง ๆ ข้างหลังหลี่โม่ หลับตาแล้วตะโกน "พี่ใหญ่ ผมทนไม่ไหวแล้ว
คุณชายเล็กหลินพยักหน้าอย่างตื่นเต้น สายตาจับตาดูหมัดของหม่างจือหมัดของหม่างจืออยู่ห่างจากหลี่โม่เพียงแค่ครึ่งเมตร จู่ ๆ หลี่โม่ก็ขยับ หลังจากยกมือขวาขึ้นร่างกายของเขาก็ขยับไปมา หมัดขวาของเขาก็พุ่งออกมาเหมือนลูกกระสุนปืนหมัดที่ปล่อยทีหลังแต่ไปถึงก่อนกระแทกใบหน้าของหม่างจือ จนร่างหม่างจือกระเด็นไปข้างหลัง จากนั้นหลี่โม่ก็ทำท่าเช่นเดียวกับท่าที่หม่างจือขอให้หลี่โม่ทำ ลอยกลางอากาศไปล้มลงกับพื้นโครม!หม่างจือล้มลงกับพื้น ฝุ่นควันกระจายทั่วพื้นไปหมด ตามมาด้วยหม่างจือที่อ้าปากแล้วมีเลือดเต็มปากพุ่งออกมาราวกับน้ำพุหลี่โม่ค่อย ๆ เก็บหมัด แล้วพูดอย่างเรียบ ๆ “ทำตามบทที่นายบอกฉันแล้วนะ ล้มลงไปพื้นอย่างสมบูรณ์แบบเลย ท่าทางของฉันก็หล่อพอแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือฉันไม่ได้ฆ่านายด้วยหมัดเดียว ฉันไว้ชีวิตนายแล้ว”หม่างจือเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองหลี่โม่ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว กำลังจะอ้าปากพูด ก็มีเลือดไหลออกมาอีก“พรวด! ฉัน บอกให้นายล้มลงกับพื้น!”“ขอโทษที นายไม่ได้บอกให้ชัดเจน ฉันคิดว่านายอยากจะล้มลงกับพื้น ไม่งั้นเรามาทำกันใหม่อีกทีสิ” หลี่โม่พูดยิ้ม ๆหม่างจือเอียงคอ เขาโกรธจนจะสลบไปหลงเทา
พวกชายกำยำที่อยู่ด้านหลังจอมละโมบพับแขนเสื้อขึ้น จ้องมองไปที่หลี่โม่ที่เพิ่งทุบตีหม่างจือไปด้วยสายตาโกรธเกรี้ยวในสายตาของพวกเขา หลี่โม่คือศัตรูที่ต้องถูกกำจัดอย่างรวดเร็วจอมละโมบจ้องมองหลี่โม่แล้วพูดอย่างเย็นชา “แกเสแสร้งเก่งมาก ใช้กลอุบายแกล้งเป็นหมูมากินเสือใส่ฉัน!”“หึฟึ ฉันไม่ได้แกล้งเป็นหมู แล้วแกก็ไม่ใช่เสือด้วย หยุดพูดไร้สาระแล้วรีบพาลูกน้องของแกมาเร็ว ๆ ให้ฉันสอนแกว่าอะไรคือการตัวเป็นคนต่ำต้อย”หลี่โม่กระดิกนิ้วเรียกจอมละโมบ สีหน้าเต็มไปด้วยความดูถูกจอมละโมบรู้สึกโกรธยิ่งกว่าการดูถูกของหลี่โม่ เขาโบกมือขวาเบา ๆ “จะจัดการแก แค่ลูกน้องของฉันก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ฉันลงมือเลย คนหนุ่มสาวควรต้องมีจิตใจที่น่าเกรงขาม จัดการมัน!”ชายกำยำในชุดฝึกสีดำรีบวิ่งพุ่งออกไปพร้อมกัน ต่างคำรามและกระโจนเข้าใส่หลี่โม่ราวกับเสือที่ลงมาจากภูเขาลุงเป้ากุมสะโพกลุกขึ้นจากพื้น รีบไปที่ข้าง ๆ ของคุณชายเล็กหลิน “คุณชายสาม อย่ายืนดูอยู่ที่นี่เลยครับ ถ้าจะดูต้องหาที่ปลอดภัยดูดีกว่า ใจผมกำลังเต้นรัว ๆ กังวลไปหมดแล้วครับ”“หมายถึงอะไร หรือว่าจอมละโมบนี่ก็ทำไม่ได้?” คุณชายเล็กหลินพูดอย่างขมขื่น“
ตุ้บ ตุ้บ ตุ้บชายกำยำสิบกว่าคนล้มลงกับพื้น แต่ละคนรู้สึกว่าอวัยวะภายในของพวกเขาดูเหมือนจะพังไปหมด จากนั้นในปากของพวกเขาก็กระอักเลือดออกมาจอมละโมบเบิกตากว้างทันที ในใจประเมินหลี่โม่ใหม่ รู้สึกว่าระดับของหลี่โม่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าตัวเองเลยให้ตายเถอะ ไอ้หนุ่มเติบโตมากับอะไร ทำไมถึงมีพลังขนาดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อย นี่มันไร้หลักวิทยาศาสตร์เลย!จอมละโมบไม่เพียงกังวลว่ากังฟูของหลี่โม่จะยอดเยี่ยม แต่ยังกังวลว่าอาจารย์ของหลี่โม่ที่อยู่เบื้องหลังก็จะยอดเยี่ยมด้วย ล้วนพูดกันว่าอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจะผลิตลูกศิษย์ระดับสูง คนที่สามารถสอนหลี่โม่ที่เป็นวัยรุ่นฝีมือดีนี้ได้ จะต้องเป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงในศิลปะการต่อสู้ จอมละโมบไม่อยากไปทำให้ยอดฝีมือขุ่นเคืองใจโดยไม่มีเหตุผลเห็นหลี่โม่เดินมาทางตัวเอง จอมละโมบก็โบกมือแล้วพูด “ช้าก่อน! ฉันมีเรื่องจะพูดไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่!”“ไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือเปล่าก็อย่าพูดเลย นี่เท่ากับถอดกางเกงจะขึ้นเตียงแล้ว แต่แกกลับจะตด มันเสียอารมณ์โดยไม่มีเหตุผล”จอมละโมบตกตะลึงกับหลี่โม่จนเกือบจะลมหายใจสะดุด เขาจึงเปลี่ยนวิธีถาม “นายเป็นลูกศิษย์ของใคร อาจารย์
จอมละโมบยอมรับความผิดในทันที เขาไม่ต้องการต่อสู้กับหลี่โม่ด้วยใจจริง หากเอาชนะหลี่โม่ได้ บางทีอาจไปล่วงเกินคนที่หนุนหลังหลี่โม่อยู่เข้าแล้วจะทำอย่างไรล่ะ แต่หากแพ้หลี่โม่ ถ้าไม่ตายก็พิการน่ะสิ หลังจากชั่งน้ำหนักผลดีผลเสียแล้ว จอมละโมบก็รู้สึกว่ามีแต่ต้องยอมแพ้ทางเดียวเท่านั้น หลี่โม่ส่ายหน้า “ชีวิตคนเรามีทางเลือกมากมายขนาดนั้นที่ไหนกัน ในเมื่อแกเลือกที่จะเป็นศัตรูกับฉันแล้ว งั้นก็ต้องเป็นศัตรูของฉันไปชั่วชีวิต เป็นคนอย่าลืมความตั้งใจแรกสิ” จอมละโมบสับสนว้าวุ่นขึ้นมาทันใด 'ไอ้เวร ฉันก็ยอมแพ้แล้วไง แล้วจะยังยึดความตั้งใจแรกอะไรอีก! ฉันมันก็เป็นพวกเห็นแก่เงินมาตลอดอยู่แล้ว ไม่เคยลืมความตั้งใจแรกของตัวเองมาตั้งแต่แรกแล้ว!' “ไม่ใช่นะครับ คุณหลี่คุณบอกมาเลยว่าต้องทำยังไงคุณถึงจะปล่อยผมไปดีกว่า ความจริงแล้วผมไม่ได้มีวิชายุทธ์อะไรเลย ผมก็เหมือนกับอาจารย์หม่าปรมจารย์ไท่เก๊กนั่นแหละครับ เป็นแค่คนท่าดีทีเหลวเท่านั้น” จอมละโมบไม่หวงศักดิ์ศรีอีกต่อไป เขายกสองมือกุมหัวใจแสร้งทำท่าทางเจ็บปวดเต็มประดา “โอ๊ย โอ๊ย หัวใจผมจะวายแล้ว ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว!” ขณะที่แสร้งเจ็บร้องโอดโอยจอมละโมบก็
ลุงเป้าพลันได้สติกลับมาทันใด เขาดันคุณชายเล็กหลินให้ตามไป “น้องชายช้าหน่อย พวกเราหนีด้วยกัน!” “มีรถหรือเปล่า? ถ้ามีรถก็รีบเอากุญแจมาเลย เจ้าพวกนั้นต้านหลี่โม่ไว้ได้ไม่ถึงสองนาทีหรอก เร็วเข้า!” จอมละโมบเอ่ยเร่งไปพลางยกขาขึ้นถีบประตูหลังให้เปิดออกก่อนจะพุ่งออกไปก่อนใคร คุณชายเล็กหลินและลุงเป้ารีบพุ่งตามออกไป ลูกน้องสี่คนหลังสุดรั้งท้ายอยู่ข้างหลัง รถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์คนหนึ่งจอดอยู่นอกประตูหลัง จอมละโมบเปิดประตูตำแหน่งข้างคนขับแล้วมุดเข้าไปนั่ง “ใครขับรถเก่งก็รีบมาขับสิโว้ย!” “ฉันบาดเจ็บอยู่ ขับไม่ไหว!” ลุงเป้าพูดพลางเข้าไปนั่งเบาะหลัง คุณชายเล็กหลินตามขึ้นรถมาและตะโกนเสียงดัง “จี๋เสียง แกรีบมาขับรถสิวะ!” ลูกน้องที่ชื่อจี๋เสียงเปิดประตูที่นั่งคนขับอย่างเงียบขรึม หลังจากขึ้นรถแล้วสตาร์ทรถเข้าเกียร์ เมื่อเหยียบคันเร่งลงไปรถตู้เมอร์เซเดส-เบนซ์ก็ตะบึงออกไปอย่างบ้าระห่ำ “คุณชายเล็กหลินไม่ต้องกังวล ผมเป็นมืออาชีพเรื่องการขับรถ ไม่มีใครสามารถไล่ตามรถที่ผมขับได้แน่นอน พวกคุณเป็นห่วงความปลอดภัยแล้วนั่งให้มั่นคงเถอะครับ แล้วจับตาดูผมขับพาพวกคุณพุ่งทะยานไปได้เลย!” จี๋เสียงพูดจบก็เ
เมื่อพูดถึงเรื่องรถ พี่คังก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที อาการสั่นสะท้านด้วยความกลัวเมื่อครู่นี้หายไปในพริบตา หลงเทาตะลึงไปเล็กน้อย แล้วเกาหัวพลางเอ่ย “รถของฉันไม่เคยดัดแปลงอะไรเลย เป็นรถนำเข้าแบบดั้งเดิมที่เพิ่งจะได้มาเมื่อต้นปีนี้เอง” “อะไรนะ?” พี่คังเบิกตากว้าง จนราวกับลูกตาจะกระเด็นออกมาเป็นอาวุธลับสังหารหลงเทาอย่างไรอย่างนั้น “นายอย่ามองฉันแบบนั้นสิ ถ้าพวกนายไม่นั่งรถของฉันก็ช่างเถอะ ฉันตามไปดูเองก็ได้” หลงเทาบ่นอุบอิบแล้วเปิดประตูรถเข้าไปนั่งในที่นั่งคนขับ พี่คังได้สติกลับมา เขารีบเข้าไปนั่งตำแหน่งข้างคนขับอย่างรวดเร็ว ในปากพูดพร่ำไม่หยุด “ไม่เคยดัดแปลงอะไรมา มันเป็นไปไม่ได้เลยนะ ถ้าไม่ได้ดัดแปลงเครื่องยนต์ 10.0T รถคันนี้ของลูกพี่ก็ไม่มีทางไล่ตามบูกัตติของฉันได้หรอก” “ทุกคนต่างก็เป็นคนชอบเล่นรถทั้งนั้น อย่าคิดว่าจะหลอกกันได้ ลูกพี่เองก็หลอกผมไม่ได้หรอก เดี๋ยวพอกลับไปแล้ว ขอผมดูเครื่องยนต์ของพี่หน่อยว่าดัดแปลงกระปุกเกียร์ยังไง ก็ถือว่าเป็นการศึกษาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันล่ะนะ” หลงเทามองพี่คังอย่างหมดคำจะพูด ก่อนจะเริ่มสตาร์ทรถแล้วเหยียบคันเร่ง ทันทีที่รถติดเครื่องยนต์ ต