หลี่โม่คว้าไหล่ของลุงเป้า มือเขาออกแรงโยนลุงเป้าออกไป “ฉันไม่เคยสนใจที่จะฟังคำพูดของศัตรู”ลุงเป้าหมุนตัวในอากาศเหมือนกังหันลม หลังจากลอยไปเหนือหัวของคุณชายเล็กหลินกว่าสิบเมตร ลุงเป้าก็ร่วงลงกับพื้นเมื่อสักครู่นี้ หลี่โม่คว้าไหล่ขวาของลุงเป้าอย่างแรง ลุงเป้าฝืนลุกขึ้นยืน แขนขวาทั้งแขนของเขาก็ห้อยลงอย่างผิดปกติคุณชายเล็กหลินกับกู้ชิงหลินมองท่าทางน่าเวทนา ตกใจจนหน้าซีด“คุณชายสามรีบหนีไปครับ!”ลุงเป้าตะโกนไปพลางขยิบตาให้คุณชายเล็กหลินไปพลางคุณชายเล็กหลินกัดฟันกรอด ยื่นมือทั้งสองออกไปจับเอวเรียวของกู้ชิงหลิน จากนั้นใช้แรงแขนทั้งสองข้าง เหวี่ยงกู้ชิงหลินไปทางหลี่โม่“อ๊าย! คุณชายสาม นี่คุณทำอะไร!”กู้ชิงหลินกรีดร้องอย่างตื่นตระหนก สายตาปรากฏความรู้สึกเหลือเชื่อ“ทำได้แค่ต้องเอาเธอไปบังไว้แล้ว ช่วยถ่วงเวลาให้ฉันมากหน่อยแล้วกัน!”คุณชายเล็กหลินวิ่งหนีโดยไม่หันกลับมามอง ลุงเป้ารีบพุ่งไปข้างตัวของคุณชายสามหลิน มือซ้ายคว้าเอวของคุณชายเล็กหลิน แล้วโยนเขาออกจากโรงกลั่นไวน์“คุณชายสาม! ข้างนอกมีคนของเราคอยช่วยเหลืออยู่ คุณรีบหนีไป ไปให้ไกลเท่าที่ไกลได้! ครอบครัวผมต้องขอฝากคุณชายสามด้
ก้อนหินกระเด็นเข้าที่ขาของลุงเป้า เลือดสด ๆ พุ่งออกมาจากบาดแผลทันที ทำให้กางเกงของลุงเป้าเปื้อนเป็นสีแดงลุงเป้าฝืนทนความเจ็บที่ขาทั้งสองแล้ววิ่งหนีเอาตัวรอดด้วยท่าทางแปลก ๆหลี่โมไม่ได้ลงมือกับลุงเป้า เขาเอามือไพล่หลังหันไปมองกู้ชิงหลินกู้ชิงหลินลุกขึ้นยืน ก้มหน้าไม่กล้ามองหลี่โม่“ฉันรู้ว่าฉันผิดไปแล้ว นะ-นายยกโทษให้ฉันเถอะ ต่อไปฉันไม่กล้าอีกแล้ว หรือไม่อย่างนั้น ถ้านายไม่สบายใจ กลางคืนฉัน ฉันสามารถ...”กู้ชิงหลินเม้มริมฝีปากแน่น ไม่สามารถพูดคำต่อจากนั้นได้ เวลานี้กู้ชิงหลินไม่มีไพ่ตายอื่น ๆ ด้วยสัญชาตญาณและนิสัยเธอจึงใช้ร่างกายของตัวเองเป็นชิปต่อรอง“หึ”หลี่โม่หัวเราะเยาะแล้วพูดอย่างดูถูก “เก็บมารยาของเธอไปเถอะ”กู้ชิงหลินสีหน้าซีดเซียว จากนั้นแววตาก็ฉายแววเขินอาย รู้สึกเจ็บปวดมากกับคำดูถูกของหลี่โม่หลี่โม่เดินหลบจากกู้ชิงหลินเดินไปทางกู้หยุนหลานขณะนี้สวีอวิ๋นอวิ๋นที่อยู่ตรงมุมห้องกลับมามีสติอีกครั้ง นึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้เธอก็ตระหนักถึงความไม่ธรรมดาของหลี่โม่หลี่โม่อาศัยความสามารถของตัวเองสู้กับคุณชายสามหลิน!ยังมีฉินจี้เย่ที่ยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลี่โม
แต่กู้หยุนหลานไม่มีวิธีดี ๆ เลย ทำได้เพียงมองไปที่หลี่โม่แล้วพูด “หลี่โม่ ไม่อย่างนั้นคุณคิดวิธีช่วยเธอได้ไหม?”“แบบนี้จะช่วยได้ยังไง พาเธอกลับบ้านคงไม่ได้มั้ง ที่บ้านไม่มีพื้นที่ให้อยู่หรอก”หลี่โม่ยักไหล่ ไม่ได้คิดจะช่วยเฉินเสี่ยวถง'ไอ้ตัวป่วนนี่ ไม่คิดเลยว่าจะไม่หวั่นไหวกับฉัน ไม่รู้จักปกป้องฉันเลย!' เฉินเสี่ยวถงตำหนิอย่างไม่พอใจ“พี่สาว ฉันซักเสื้อผ้าทำอาหารได้นะ คุณต้องช่วยฉันนะ พาฉันไปอยู่ที่บ้านคุณด้วยเถอะ งานบ้านทั้งหมดให้ฉันดูแลเอง ฉันจะไม่มีวันสร้างปัญหาให้เลย”กู้หยุนหลานลูบหน้าผากอย่างลำบากใจดึงหลี่โม่แล้วพูด “ไม่อย่างนั้นเราให้เธออยู่ที่บ้านก่อนสักคืนได้ไหม?”“เหอะ ๆ งั้นพรุ่งนี้ล่ะ?”“พรุ่งนี้ พรุ่งนี้บางทีลุงฝูอาจจะฟื้นแล้ว ถึงเวลานั้นก็มีลุงฝูดูแลเธอ ไม่ใช่เรื่องของพวกเราแล้ว”เห็นกู้หยุนหลานดูเห็นอกเห็นใจแบบนั้น หลี่โม่ก็พูดอย่างจนใจ “ไม่อย่างนั้นฉันให้ชูจงเทียนจัดการให้เธอแล้วกัน มันลำบากเกินไปที่จะพาเธอกลับไปที่บ้าน”“ไม่เอา ๆ ฉันจะอยู่กับพี่ชายพี่สาว ถ้าคนอื่นเอาฉันไปขายจะทำยังไงล่ะ ได้ยินมาว่ามีพวกค้ามนุษย์ข้างนอกนั่นเยอะมากด้วย”เฉินเสี่ยวถงจับแขนของกู้
“ซ่อนลึกขนาดนี้?”หัวของกู้ชิงหลินยังมึนงงสับสนอยู่เลย เธอก็ไม่เข้าใจความหมายของสวีอวิ๋นอวิ๋นสวีอวิ๋นอวิ๋นส่ายหัวและพูดด้วยการเยาะเย้ย “จนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าหลี่โม่เป็นขยะใช่ไหม ถ้าเขาเป็นขยะ เกรงว่ามีผู้ชายไม่กี่คนในโลกที่ไม่ใช่ขยะ”“ทำไมเขาจะไม่ใช่!”กู้ชิงหลินอยากจะพูดอีกแต่ถูกสวีอวิ๋นอวิ๋นสาดน้ำเย็นบนใบหน้า“เธอตื่นเถอะ เมื่อกี้คุณชายเล็กหลินลำบากแค่ไหนไม่เห็นเหรอ?! หลี่โม่คนเดียวทุบตีคุณชายเล็กหลินเหมือนสุนัขหลงทางเลย! ฉินจี้เย่ที่เก่งกาจขนาดนั้น เขาเอาแต่บอกว่าเขาเป็นสุนัขรับใช้ของหลี่โม่ แล้วเกือบถูกทุบตีตายเพื่อปกป้องหลี่โม่ เรื่องพวกนี้ขยะทำได้อย่างนั้นเหรอ?”กู้ชิงหลินเช็ดคราบน้ำบนใบหน้าอย่างเงียบ ๆ จิตใจของเธอสงบลงมากแล้วเรื่องพวกนี้ที่สวีอวิ๋นอวิ๋นพูดกู้ชิงหลินยอมรับทั้งหมด จนถึงตอนนี้ต้องยอมรับว่าหลี่โม่ไม่ธรรมดา แต่ทำไมจู่ ๆ ไอ้เศษสวะที่ควรตายนี้ถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!“ขอบุหรี่มวนนึง” กู้ชิงหลินพูดอย่างอกสั่นขวัญหายสวีอวิ๋นอวิ๋นหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนส่งให้กู้ชิงหลินแล้วพูดยิ้ม ๆ “กู้หยุนหลานปิดบังมานานขนาดนี้ คาดว่าเป็นเพราะกลัวว่าถ้าหลี่โม่แสดงออกมาชัดเจนเกิ
......พวกหลี่โม่ทั้งสามคนกลับถึงบ้าน เดิมทีหวังฟางจะตำหนิหลี่โม่ที่ไปเพ่นพ่านในตอนกลางคืน แต่พอเห็นกู้หยุนหลานกับเฉินเสี่ยวถงจับมือกันเดินเข้ามาก็ตกตะลึงทันที“หยุนหลาน เด็กสาวคนนี้คือ?”“สวัสดีค่ะคุณน้า หนูชื่อเฉินเสี่ยวถงเป็นเพื่อนกับพี่หยุนหลานค่ะ สองวันนี้ที่บ้านหนูมีเรื่องนิดหน่อย ดังนั้นก็เลยมาอาศัยบ้านของคุณน้าชั่วคราวค่ะ”เฉินเสี่ยวถงยิ้มหวานหวังฟางยิ้มอย่างมีความสุขแล้วพูด “อยู่บ้านน้าได้ตามสบายเลยนะ คนเยอะจะได้คึกคักดี หนูกับหยุนหลานอยู่ด้วยกัน ให้หลี่โม่นอนห้องนั่งเล่นก็ได้”หลี่โม่เบ้ปากถอนหายใจอย่างจนใจกู้หยุนหลานดึงมือหลี่โม่และบีบมือเขาเบา ๆ หลี่โม่ยิ้มตอบกู้หยุนหลาน เข้าใจว่าที่ภรรยาทำแบบนี้เพื่อปลอบใจตัวเอง “หลี่โม่ ยังไม่ไปเตรียมน้ำล้างเท้าอีก มายืนเหม่อตรงนี้ทำไม” หวังฟางพูดด้วยสีหน้าเย็นชา“อ้อ ผมจะไปเดี๋ยวนี้”หลี่โม่หันหลังเดินไปห้องครัว เฉินเสี่ยวถงมองแผ่นหลังของหลี่โม่อย่างประหลาดใจ คาดไม่ถึงว่านายน้อยแดนมังกรเวลาอยู่บ้านจะไม่มีสถานะขนาดนี้ไม่ใช่ว่าครอบครัวกู้ต้องดูแลหลี่โม่อย่างดี ปฏิบัติกับเขาเหมือนเป็นนายใหญ่หรอกเหรอ?แต่น่าจะเป็นที่หลี่โม่
กู้หยุนหลานหมดคำพูดกับหวังฟาง รู้ว่าความคิดที่หวังฟางมีต่อหลี่โม่นั้นลึกลงไปถึงกระดูกแล้ว จะโน้มน้าวใจอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ ทำได้แค่เลือกที่จะยอมแพ้ไปอย่างจนใจ“ไม่พูดกับแม่แล้ว หนูกับเสี่ยวถงกลับห้องดีกว่า”“รีบกลับไปทำไม แม่คิดว่าเสี่ยวถงกับจงฉวนเข้ากันได้จริง ๆ นะ” หวังฟางพูดอย่างไม่ยอมเลิก“พี่จงฉวนไม่คู่ควรกับเสี่ยวถงหรอกค่ะ แม่อย่าคิดเพ้อฝันเลย”“มีอะไรไม่คู่ควร ทีไอ้ขยะหลี่โม่นั่นยังแต่งงานกับลูกได้เลย พี่จงฉวนของลูกหล่อเหลา อาชีพการงานก็มั่นคง ต้องเป็นสามีที่ดีของเสี่ยวถงแน่ เสี่ยวถง พรุ่งนี้น้านัดให้พวกหนูเจอกันดีไหม?”เฉินเสี่ยวถงพูดอย่างอึดอัด “คุณน้าคะ ตอนนี้หนูยังไม่คิดเรื่องแต่งงานเลยค่ะ ยังไม่รีบหรอกค่ะ รอจนหนูพร้อมแต่งแล้วค่อยว่ากันดีกว่า”“งั้นจะรอได้ยังไงล่ะ โชคชะตาไม่รอใคร ถ้าหนูอยากอยู่บ้านน้า งั้นก็ต้องไปเจอกับจงฉวน ไม่อย่างนั้นน้าไม่โอเคแล้ว” หวังฟางชักสีหน้าพูดเฉินเสี่ยวถงอยากจะร้องไห้แล้ว เธอมองไปทางกู้หยุนหลานอย่างไม่สบายใจกู้หยุนหลานลังเลครู่หนึ่งแล้วพูด “พรุ่งนี้หนูจะนัดพี่ ถึงเวลานั้นให้พวกเขาเจอกัน แบบนี้โอเคไหมคะ?”หวังฟางยิ้มขึ้นมาทันที เธอพยั
'จัดการหลี่โม่ก่อน ช่วยให้ราชินีมังกรควบคุมแดนมังกร จากนั้นค่อยหาโอกาสค่อย ๆ ควบคุมราชินีมังกร ต่อไปแดนมังกรต้องเป็นของฉัน จางเต๋ออู่! ถึงเวลานั้นฉันบอกอะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น ฉันจะไม่เป็นคนรับใช้แบบตอนนี้อีกต่อไปแล้ว!'สายตาฉายแววความโหดร้าย จากนั้นจางเต๋ออู่ก็ก้มหน้าพลางหลับตาลงซ่อนความทะเยอทะยานในใจไว้เขาเดินเข้าไปในห้อง ใบหน้าของจางเต๋ออู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ราชินีมังกร เฉินเสี่ยวถงแทรกซึมไปอยู่ข้างกายหลี่โม่ได้สำเร็จแล้วครับ คืนนี้หลี่โม่พากลับบ้านไป คาดว่าจะมีข่าวดีในเร็ว ๆ นี้ เพียงแต่ลุงฝูเกิดอุบัติเหตุ ถูกคนของคุณชายสามหลินทำให้บาดเจ็บ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลครับ” “ลุงฝูฉันไม่สนใจ เขาจะเป็นจะตายก็ไม่ได้สำคัญ สิ่งสำคัญคือเฉินเสี่ยวถงสามารถหากุญแจได้ ถ้าเธอหากุญแจไม่เจอ ก็ปล่อยให้ทั้งครอบครัวของเธอตายไปซะ”จางเต๋ออู่ก้มหน้ายิ้มขมขื่น “แต่ไม่มีข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับกุญแจเลยนะครับ ไม่รู้เลยว่ากุญแจนั่นเป็นยังไง...”“ทำไม นายพูดแทนเฉินเสี่ยวถงเหรอ กังวลเรื่องเด็กคนนั้นหรือไง?” ราชินีมังกรพูดเสียงเย็นชา“ผมไม่กล้าหรอกครับ ผมแค่กังวลว่าถ้าเธอทำงานไม่ราบรื่น ส่งคนไปอยู่ข้างกายหลี่โม่
ในห้องทำงานของกู้เจียนกั๋ว กู้ชิงหลินกำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกับกู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงอย่างกระสับกระส่าย เล่าเรื่องในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่โรงกลั่นไวน์เมื่อคืนนี้หลังจากฟังกู้ชิงหลินเล่า สีหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงก็ดูหน้าเสียมาก ราวกับว่ามีญาติเสียชีวิต“หลี่โม่จะแข็งแกร่งขนาดนั้นได้ยังไง พวกคนที่ติดตามคุณชายสามหลินมีแต่คนที่โหดเหี้ยมทั้งนั้น จะถูกหลี่โม่เอาชนะได้อย่างง่าย ๆ ได้ยังไง?”กู้เจี้ยนกั๋วคิดไม่ตกกับปัญหานี้ ในหัวเขาว้าวุ่นมาก คิดอยู่นานก็คิดหาคำอธิบายที่สมเหตุสมผลไม่ได้“ชิงหลิน เธอมองยังไงกับเรื่องนี้?” กู้เจี้ยนเจียงเอ่ยถามกู้ชิงหลินหรี่ตาแล้วพูด “ฉินจี้เย่ลูกชายคนโตของตระกูลฉินเรียกตัวเองว่าเป็นสุนัขรับใช้ของหลี่โม่ หนูคิดว่าคำพูดของฉินจี้เย่บอกอะไรได้มากเลย หลี่โม่ไม่ใช่ขยะอย่างที่แสดงออกก่อนหน้านี้แน่นอน เขาแสร้งทำเป็นแบบนั้นมาตลอด”คำพูดของกู้ชิงหลินราวกับฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา ระเบิดอยู่ในหัวของกู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงเมื่อนึกถึงคำพูดของกู้ชิงหลิน กู้เจี้ยนกั๋วกับกู้เจี้ยนเจียงล้วนไม่อยากยอมรับความจริงที่ว่าหลี่โม่ไม่ใช่คนธรรมดา“จะเป็นไปได้