เรื่องที่ตัวเองแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่นั้น หลี่โม่เองก็ไม่รู้เหมือนกัน แม้ว่าแดนมังกรจะรวบรวมตำราศิลปะการต่อสู้เกือบทั้งหมดในโลกเอาไว้ และมีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้จำนวนมากที่สุดในโลก แต่ก็ยังไม่เคยมีข้อสรุปเกี่ยวกับการมีอยู่ของระดับพลังขั้นสูงเลย ปรมาจารย์ด้านศิลปะการต่อสู้มากมายต่างสัมผัสได้ถึงสวรรค์และโลกมนุษย์ และรู้สึกว่าน่าจะมีระดับของพลังที่เหมือนกับตี้เซียนอยู่ แต่ไม่มีปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้คนไหนของแดนมังกรที่สามารถทะลวงไปถึงระดับของพลังนั้นได้เลย หลี่โม่จึงไม่กล้าพูดว่าตนเองแข็งแกร่งแค่ไหน ถึงอย่างไรก็อาจมีคนที่แข็งแรงกว่าเขาอยู่เพียงแต่พวกเขาไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นเท่านั้น จางเจียต้งไม่พอใจกับคำตอบของหลี่โม่ หลี่โม่แข็งแกร่งมากจนสามารถฆ่าครูว์ผู้มีสายเลือดของคิงคองได้ แต่กลับบอกว่าตัวเองเป็นเพียงคนคนหนึ่งที่ปีนขึ้นไปสู่ยอดเขาของผู้แข็งแกร่งเท่านั้น แบบนี้มันเสแสร้งเกินไปแล้ว! เดิมทีเรื่องนี้จางเจียต้งควรจะต้องเป็นคนที่เสแสร้งมากกว่า! แต่ตอนนี้กลับถูกหลี่โม่เอามาใช้ ทำให้จางเจียต้งไม่พอใจอย่างมาก จางเจียต้งจ้องมองที่หลี่โม่ด้วยสายตาดุร้าย เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และตั
ถ้าอย่างนั้น โลกแห่งความจริงคงพังทลายไปนานแล้ว นี่ต้องเป็นความฝันแน่ ๆ !หวูผิงผิงกำลังสะกดจิตตัวเองอยู่ในใจ คิดว่าหากเธอไม่บอกตัวเองว่าทั้งหมดนี้เป็นภาพลวงตา เธอกลัวว่าวิญญาณของเธอคงแตกสลายหลี่โม่ค่อนข้างสนใจเทคโนโลยีขั้นสูงที่จางเจียต้งกำลังพูดถึง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กดดันจางเจียต้งอีกต่อไปแต่พูดคุยกับจางเจียต้งด้วยน้ำเสียงสนทนาปกติ"พูดถึงการดัดแปลงพันธุกรรมฉันเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าการดัดแปลงพันธุกรรมไม่เคยประสบความสำเร็จ แต่ถ้าวันนี้สามารถทดลองจนประสบความสำเร็จได้ล่ะก็ น่าสนใจมากทีเดียว"จางเจียต้งเริ่มหายใจไม่ค่อยออก 'ฉันเป็นรุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จในการดัดแปลงพันธุกรรม ทำไมถึงบอกว่าฉันเหมือนอยู่ในสวนสัตว์ ทำไมนายดูถูกฉันได้ขนาดนี้!'"ฉันไม่ใช่สินค้าทดลอง! ฉันเป็นผู้ดัดแปลงพันธุกรรมรุ่นแรกที่ประสบความสำเร็จ นายคงจะไม่เข้าใจปัญหาทางเทคนิค เอาเป็นว่า เราต่างคนต่างอยู่กันจะดีกว่า ถ้านายทำลายฉัน นายก็จะถูกตามล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และไม่ใช่แค่ตัวนาย แต่ยังรวมถึงตระกูลของนายและตระกูลของกู้หยุนหลานด้วย!"เมื่อเผชิญกับการคุกคามของจางเจียต้ง หลี่โม่ก็ยังคงนิ
เสียงตะโกนของหลงเทียนสิงดังไม่น้อย แต่เมื่อผ่านกำแพงหนาของวิลล่าเข้ามาเสียงนั้นก็แผ่วเบาจนไม่สามารถได้ยินได้แต่เสียงที่แผ่วเบานั้น หลี่โม่ได้ยินอย่างชัดเจนมีคนมาอีกแล้ว!ยังมีอีกพวก!หลี่โม่ได้ข้อสรุปในใจอย่างรวดเร็วว่า คงจะเป็นคนที่ตระกูลหม่ามาสมทบสินะมุมปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อย หลี่โม่ยิ้มและก้าวออกไปหัวใจของจางเจียต้งรู้สึกตึงเครียดเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่โม่ เขารู้สึกแย่จนพูดอะไรไม่ออกรู้สึกว่าสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี หลี่โม่ต้องจัดการตนแน่ ๆ !หนี!มีเพียงความคิดเดียวในใจของจางเจียต้ง ขาของเขาอ่อนแรง ทันใดนั้นเท้าของเขาก็เริ่มออกแรง จางเจียตงดีดตัวออกไปราวกับคนสปริงตัวได้หลี่โม่ชำเลืองมองไปยังทิศทางของจางเจียต้ง เขาปรากฏตัวขึ้นข้างหลังจางเจียต้งในพริบตาเดียวแล้วถีบหลังของจางเจียต้งพลังอันทรงพลังนั้นทำให้ร่างของจางเจียต้งเร่งความเร็วขึ้นอย่างกะทันหัน จางเจียต้งรู้สึกเหมือนเครื่องบินที่ไร้การควบคุมและกระแทกเข้ากับกำแพงที่อยู่ไม่ไกลความแค้นเกิดขึ้นในใจจางเจียต้ง เขาตั้งการ์ดเพื่อปกป้องตนเองโครม!จางเจียต้งกระแทกทะลุเข้าไปในกำแพงเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ ควันแ
จางเจียต้งนั้นเข้าใจดี เขารู้ว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายของเขา ถ้าหลี่โม่ทำตามสัญญาได้“นาย นายรับประกันได้ไหมว่านายจะทำตามที่นายพูด” จางเจียตงถามอย่างระมัดระวัง“เครดิตของฉันดีกว่าของคนส่วนใหญ่แน่นอน ถ้านายไม่เชื่อ ฉันจะส่งนายไปก่อน” คำพูดของหลี่โม่ทำให้จางเจียต้งไม่มีทางเลือก"ได้! ฉันหวังว่าเครดิตของนายจะดีจริง ๆ แล้วกัน!" จางเจียต้งหันกลับมาอย่างกะทันหันและเห็นระเบิดหลายลูกลอยเข้าหาเขา“เข้ามาเลยไอ้เวร!”จางเจียต้งคำรามด้วยความโกรธ สองมือของเขาตบระเบิดย้อนกลับไปหาพวกนั้นหลงเทียนสิงและคนอื่น ๆ รู้สึกถึงรางร้ายในใจ พวกเขารีบหมอบลงบนพื้น กลิ้งหลบและมองหาโขดหินวิลล่านี้เป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีโขดหินเลย ระเบิดลอยกลับมาและระเบิดตู้มกลางอากาศสะเก็ดระเบิดจำนวนมากกระจายไปทุกทิศทางพร้อมกับเสียงกรีดร้อง ศิษย์ของหลงเทียนสิงส่วนมากก็โดนสะเก็ดระเบิดเข้าเมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชของเหล่าลูกศิษย์ หลงเทียนสิงก็ตะโกนอย่างเดือดดาน "ยิงมัน ฆ่าไอ้เวรนั่นให้ตายซะ!"เสียงปืนดังขึ้นสนั่น และประกายไฟก็พ่นออกมาจากปากกระบอกปืนจางเจียต้งที่เตรียมพร้อมด้วยความเร็วเต็มพิกัด หลบกระสุนอย่างว่องไวและพุ่งเข้
หลี่โม่ยืนนิ่งไม่ขยับ ปล่อยให้หลงเทียนสิงยกปืนขึ้นจ่อที่หน้าผากของเขา“พวกแกฝีมือไม่เบา ลูกศิษย์ของฉันถูกพวกแกจัดการไปมากกว่าครึ่ง!” หลงเทียนสิงกล่าวด้วยความโกรธเดิมทีคิดว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ ไม่ใหญ่โต คงจะจัดการได้ง่าย ๆ แต่มีพี่น้องมากกว่าสิบคนต้องเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเกินความคาดเดาของหลงเทียนสิงอย่างสิ้นเชิง“พวกนายมาจากตระกูลหม่าสินะ” หลี่โม่ถามด้วยความใจเย็น"หึหึ ตระกูลหม่าเป็นแค่เพียงของหวาน แกมันงี่เง่าทำให้ท่านปาไม่พอใจ ถ้าพวกฉันจับตัวแกส่งให้ท่านปาได้ ฉันจะได้รับความโปรดปรานจากท่านปาอย่างแน่นอน ต่อไปฉันจะส่มารถเข้าแดนมังกรได้!"หลงเทียนสิงกล่าวอย่างตื่นเต้น การได้เข้าแดนมังกร เป็นเป้าหมายสูงสุดของหลงเทียนสิงหลี่โม่ขมวดคิ้วแล้วแสดงรอยยิ้มเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับท่านปาแห่งแดนมังกร ซึ่งเรื่องนี่หลี่โม่นั้นคาดไม่ถึงจริง ๆอย่างไรก็ตามคำพูดของหลงเทียนสิงนั้นให้ข้อมูลมากมายแก่หลี่โม่“ท่านปา? เขาอยู่ที่โซลเหรอ?” หลี่โม่ถาม“แน่นอนอยู่ในโซลแล้ว แล้วแกไปทำอะไรให้ท่านปาไม่พอใจเข้า แล้วเมื่อกี้ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร?”“เป็นเพื่อนสมัยเรียนของภรรยาฉัน ฉันก็ไม่ได้สนิทอะ
"พวกเขาดูเหมือนบอดี้การ์ดส่วนตัว แล้วยังเชื่อฟังคำสั่งของหลี่โม่อย่างกับพระเจ้า หลี่โม่มีองครักษ์ส่วนตัวด้วยเหรอ! ""หยุนหลาน สามีของเธอเป็นใคร! ทำไมเขาถึงมีองครักษ์ส่วนตัว!"เพื่อนสมัยเรียนทุกคนมองไปที่กู้หยุนหลานด้วยความประหลาดใจ ภาพของหลี่โม่ก่อนหน้านั้นได้พังทลายลงแล้ว ตอนนี้พวกเขาทุกคนรู้สึกว่าหลี่โม่จะต้องเป็นคนที่มีอิทธิพล คนธรรมดาที่ไหนจะมีองครักษ์กู้หยุนหลานส่ายหัว ไม่สามารถตอบคำถามของเพื่อนสมัยเรียนได้ แม้ว่ากู้หยุนหลานจะเดาไปต่างๆ นานาเกี่ยวกับตัวตนของหลี่โม่ แต่เธอก็ไม่สามารถสรุปได้เมื่อเห็นกู้หยุนหลานส่ายหัวและไม่พูดอะไรเลย หวูผิงผิงและคนอื่น ๆ ก็ถอนหายใจ คิดว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นั้นได้ทำให้กู้หยุนหลานเกลียดพวกเขาเนื้อชิ้นใหญ่ที่ซ่อนไว้หลุดลอยไปแบบนั้น หวูผิงผิงและคนอื่น ๆ อยากจะร้องไห้แทบตายทหารองครักษ์เริ่มจัดการบริเวณตามคำสั่งของหลี่โม่ หลี่โม่เหลือบมองไปที่จางเจียต้งที่แสร้งทำเป็นนอนตาย เขาจึงเดินเข้าไปใกล้ ๆ จางเจียต้งกลั้นหายใจและควบคุมความถี่ของลมหายใจ ทุก ๆ ครั้งเขาจะหายใจออกและสูดอากาศเข้าไปทีละนิด ๆ เขาต้องการทำให้การแกล้งตายของเขาสมจริงท
“นายท่าน ผู้คุมแดนมังกรเกิดเรื่องแล้ว” พ่อบ้านรีบวิ่งไปหาหม่าเต๋อฝู"เกิดเรื่องอะไรขึ้น? หรือว่าพวกมันพลาดอีกแล้ว ไปบอกพวกมัน ถ้าพวกมันทำพลาดแม้แต่หยวนเดียวพวกมันก็จะไม่ได้" หม่าเต๋อฝูพูดอย่างหงุดหงิด"ผู้คุมแดนมังกรตายแล้ว พวกเขาทั้งหมดแย่แล้ว" สีหน้าของพ่อบ้านดูเศร้าหมองหม่าเต๋อฝูตกใจมาก เขาเคยพบหลงเทียนสิงมากก่อน เขาเป็นเจ้าพ่อกังฟูตัวจริง และลูกศิษย์มากมายของเขาก็เช่นกัน เป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะถูกทำลาย!“นี่มันอะไรกัน ไอ้หลี่โม่นั่นมัรเป็นคนเหล็กหรือไง! ทำไมถึงไม่มีใครจัดการกับมันได้!”พ่อบ้านลังเลอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นพูดอย่างอ่อนแรง "บางทีหลี่โม่อาจไม่ใช่คนธรรมดา หรือว่าเราควรวางมือกันก่อน?" "วางมือ? ฉันมาที่นี่ก็เพื่อล้างแค้นให้ลูกชายของฉัน! ฉันต้องแก้แค้น ต่อให้จะต้องสูญเสียทุกอย่างฉันก็จะฆ่ามันให้ได้!"หม่าเต๋อฟู่ตกอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกชายในวัยชราและความเกลียดชังที่ไม่มีผู้สืบทอดตระกูลนั้นทำให้หม่าเต๋อฝูรู้สึกสูญเสียอย่างมาก"ติดต่อลูกชายคนโตของตระกูลฉิน เขารู้จักคนมีฝีมือมากมายไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหานักฆ่า ทหารรับจ้าง หรือใครก็ได้ที่สามาร
ฉินจี้เย่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อส่งข้อความและได้รับการตอบกลับในไม่ช้า"เหล่าฮู๋รับคำสั่งแล้วครับ ในบรรดานักฆ่าในประเทศ เหล่าฮู๋อยู่ใน 50 อันดับแรก คุณลุงโปรดอดใจรอก่อน น่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆ นี้แน่ครับ"หม่าเต๋อฝูพยักหน้าจากนั้นตบหัวเข่าของเขาราวกับคิดอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา "ใช่แล้ว หลานรู้ไหมว่าอาจารย์ของหลงเทียนสิงเป็นใคร? ลุงส่งหลงเทียนสิงไปฆ่าหลี่โม่ แต่หลงเทียนสิงตายแล้วล่ะ ลุงคิดว่ายังไงก็ตามต้องแจ้งให้อาจารย์เขารู้"ฉินจี้เย่เข้าใจว่าหม่าเต๋อฝูหมายถึงอะไร แต่ฉินจี้เย่ไม่รู้ข้อมูลอะไรเกี่ยวกับตัวตนของหลงเทียนสิงมากนัก“ผมไม่รู้จริง ๆ ผมรู้แค่ว่าเขาเหมือนจะเกี่ยวข้องกับแดนมังกร แต่ผมคิดว่านั่นเป็นแค่คำพูดคุยโวของเขาเท่านั้น”หม่าเต๋อฝูเอนกายลงบนโซฟาอย่างสิ้นหวังและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ "ถ้าเป็นอย่างนั้น ช่วงนี้คงต้องรบกวนหลานให้ช่วยจัดการติดต่อประสานงานหน่อยแล้วนะ"“มีอะไรต้องรบกวนกันล่ะครับ ไม่มีอะไรมากเลยอย่างมากก็แค่โทรติดตามสถานการณ์ แล้วผมจะแจ้งข่าวให้ท่านลุงทราบนะครับ ยังไงผมขอตัวก่อน”พ่อบ้านส่งฉินจี้เย่กลับไปพร้อมกล่าวคำขอบคุณฉินจี้เย่ยิ้มอย่างเป็นกันเอง ใบหน้า