คลับหวงเจียอันดับ 1 ในเมืองหลวงในกล่องที่หรูหราอลังการ ซูเหวินปินนั่งไขว่ห้างและจุดซิการ์อยู่ในมือ"ซิการ์ยอดนิยมใหม่ล่าสุดของฮาวานา เหล่าไป่ นายลองดูสักหน่อยสิ"เหล่าไป่นั่งตรงข้ามกับซูเหวินปิน ใบหน้าของเขามีแผลเป็นเหมือนตะขาบที่ดุร้าย บนหัวโล้นของเขาก็มีแผลเป็นจุด ๆ หกจุดรอบหัวของเขาเหล่าไป่เป็นนักเลงที่ตระเวนไปทั่วเพื่อก่ออาชญากรรม เขาเคยบวชเป็นพระในวัดเติงเฟิงเส้าหลิน แต่เขาทนไม่ได้กับกฎและข้อบังคับที่เคร่งครัด ดังนั้นเขาจึงพาพี่น้องสองสามคนลงจากภูเขา และเปลี่ยนอาชีพเป็นอันทพาลเรื่องที่เหล่าไป่เป็นพระหรือไม่นั้น ไม่มีใครรู้แน่ชัด แต่ซูเหวินปินรู้ดีว่า กังฟูของเหล่าไป่นั้นไม่ธรรมดา แต่เป็นกังฟูที่เป็นกังฟูอย่างแท้จริง"ซิการ์คือสิ่งที่พวกคนรวยชอบสูบกัน ส่วนคนจนอย่างผมก็ยังชอบสูบหงต้าซานอยู่ดี"เหล่าไป่หยิบหงต้าซานออกมาแล้วใส่เข้าไปในปาก "คุณอยากมีอะไรก็รีบพูดมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราพบกัน คุณรู้เบื้องลึกของผม ส่วนผมก็รู้จุดแข็งของคุณ"ซูเหวินปินอมยิ้ม หยิบเอกสารออกมาแล้วโยนให้เหล่าไป่เหล่าไป่หยิบเอกสารขึ้นมาดูแล้วดูอีก ทั้งหมดมีแต่เรื่องเกี่ยวกับหลี่โม่ ด้านหลังมีการแน
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น แสงสีแดงทองจะสะท้อนในก้อนเมฆบนท้องฟ้า ซึ่งทำให้คนที่มองดูเต็มไปด้วยความหวังกู้หยุนหลานขับรถตรงไปที่บริษัท เมื่อถึงชั้นล่างของบริษัท เธอก็ประหลายใจมากที่เห็นประตูกระจกนิรภัยของบริษัท ถูกคนตีจนแตกละเอียด เกิดเรื่องแล้ว !นี่คือสิ่งแรกที่กู้หยุนหลานคิดกู้หยุนหลานไม่คิดอะไรมาก เธอรีบลงจากรถและเข้าไปในบริษัท บริษัทอยู่ในสภาพที่ยุ่งเหยิง มีร่องรอยของการถูกทุบตีทุกที่หัวใจของกู้หยุนหลานเริ่มเย็นเป็นน้ำแข็ง รู้ว่านี้ไม่ใช่เรื่องเล็กอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นบริษัทจะไม่ถูกทำลายได้ขนาดนี้ และคนที่ทำเรื่องนี้จะต้องเป็นคนที่เลวทรามมากกู้หยุนหลานหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กำลังจะโทรหาผู้รักษาความปลอดภัย เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินอยู่ข้างหลังเธอเมื่อหันหน้าดูด้วยความตกใจ กู้หยุนหลานก็เห็นร่างของเหล่าไป่เหล่าไป่เปิดปากยิ้มกว้าง และรอยแผลเป็นรูปตะขาบบนใบหน้าของเขาก็โค้ง ราวกับว่ามันมีชีวิตขึ้นมายังไงยังงั้น"คนสวย เธอก็คือกู้หยุนหลานสินะ ฉันมารอเธอตั้งนานแล้ว""นาย นายเป็นใคร ทำไมต้องมาทำลายบริษัทของพวกเรา!" กู้หยุนหลานพูดไปพร้อมกับถอยหลังไป มือที่จับมือถือสั่นไปหมด พ
กู้หยุนหลานบังคับให้ตัวเองถามอย่างใจเย็น"แม่คนสวย แกไม่รู้จริงเหรอว่าเพราะอะไร?"เหล่าไป่นั่งบนเก้าอี้พูดด้วยรอยยิ้ม และรับบุหรี่หงต้าซานจากลูกน้องของเขา "คนอื่นเป็นขุนนางที่ขี้ลืม แต่พอมาที่นี่กลับได้เจอคนสวยที่ขี้ลืมซะแล้ว""ฉันไม่รู้จักพวกนาย สรุปพวกนายเป็นใคร ทำแบบนี้ทำไม!" กู้หยุนหลานถามด้วยเสียงดัง"เฮ้ เฮ้ ถ้าแกจำไม่ได้งั้นก็ช่างมันเถอะ แต่เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับแก แล้วก็เกี่ยวข้องกับไอ้สามีที่ไร้ประโยชน์ของแกด้วย ส่วนคนที่เหลือเหล่านี้ ถือว่าโชคร้ายไปก็แล้วกัน"แววตาของเหล่าไป่เต็มไปด้วยเรื่องตลก เขารู้สึกว่ามีความสุขมากที่ได้แกล้งกู้หยุนหลาน เพราะโอกาสที่จะได้แกล้งผู้หญิงที่สวยแบบนี้ไม่ได้มีมากนัก"กู้หยุนหลาน ก่อนหน้านี้แกกับหลี่โม่ไปทำเรื่องอะไรมา! พวกแกไปทำให้คนอื่นขุ่นเคืองก็อย่าเอาพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยสิ!” กู้ซิ่งเหว่ยถามด้วยความโมโหตอนนี้ถูกจับโดยคนที่ดูเหมือนจะเป็นคนชั่วร้ายมาก พวกเขาดูบ้าคลั่ง เหมือนจะฆ่าคนได้จริง ๆ ! กู้หยุนหลานได้แต่ส่ายหัว ไม่สามารถตอบเสียงโวยวายของกู้ซิ่งเหว่ยได้ เพราะเธอนึกไม่ออกว่าเคยไปทำให้ใครขุ่นเคืองเรื่องของโอวหยาง และเรื่องของ
"แกเป็นใคร ! แกทำอะไรหยุนหลาน แกห้ามทำร้ายเธอเด็ดขาด มีอะไรก็มาลงทีฉัน !" หลี่โม่คำรามเสียงดังกู้หยุนหลานถูกจับตัวไป ใครกันแน่ที่เป็นคนทำ ?ขณะที่หลี่โม่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ เขาก็รีบเดินออกจากบ้านโดยทันที ไม่ว่าใครจะเป็นคนทำ เขาต้องรีบไปช่วยกู้หยุนหลานให้เร็วที่สุด"อัยยะ ดูเหมือนว่าแกจะดูตื่นเต้นมาก คงจะเป็นห่วงเมียของแกมากใช่ไหม งั้นฉันจะให้แกฟังเสียงดนตรีประกอบก่อนก็แล้วกัน"เหล่าไป่ยื่นโทรศัพท์มือถือของเขาออกอย่างร่าเริงให้ได้ยินเสียงกู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ที่กำลังถูกทุบตี เมื่อเห็นท่าทางของเหล่าไป่ กลุ่มลูกน้องอันธพาลของเขาก็ทุบตีกู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ด้วยกำลังที่มากขึ้น"โอ๊ย! เจ็บ! ไอ้หลี่โม่ไอ้สารเลว แกทำให้พวกเราต้องถูกทำร้าย แกรีบออกมาที่นี่สิวะ!""ไอ้ขยะหลี่โม่ ถ้าแกยังขืนชักช้า ไม่รีบมาที่นี่ล่ะก็ เมียของแกคงได้ถูกคนอื่นกระทำย่ำยีแน่นอนเลยว่ะ ฮ่าฮ่า!""กู้หยุนหลาน แกรีบบอกไอ้สามีไม่เอาไหนของแก ให้มันรีบมาที่นี่เร็วเข้าสิ ไม่อย่างนั้นคนพวกนี้ได้ถูกทุบตีพวกเราจนตายแน่!"กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่น ๆ ต่อว่า เสียงดังไปถึงในโทรศัพท์ ได้ยินไปถึงหูของหลี่โม่เมื่อได
ผัวะ!คนอันธพาลทั้งสองยังไม่ทันจะส่งเสียง พวกเขาก็ถูกหลี่โม่ทุบตีจนหมดสติไปเสียแล้วเมื่อเห็นคนอันธพาลทั้งสองหมดสติไป หลี่โม่ก็รีบเดินเข้าไปในตัวอาคารและตรงไปที่ห้องประชุมหลี่โม่มาถึงที่ประตูห้องประชุมโดยไม่มีสิ่งกีดขวางตลอดทาง เมื่อพวกคนอันธพาลเห็นหลี่โม่กำลังเดินเข้ามา พวกเขาเปิดประตูห้องประชุมพร้อมกับพูดอย่างเย้ยหยัน"พี่ไป่ ไอ้หลี่โม่มันมาแล้ว" เหล่าไป่ทำหน้าตกตะลึง จากนั้นก็เหลือบมองเวลาบนโทรศัพท์ และพูดอย่างไม่พอใจ "ไอ้สารเลวนี่มาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง! ทำไมมันไม่ปล่อยให้คนน่าสมเพชพวกนี้เล่นเกมส์กันก่อน"หลี่โม่และเหล่าไป่จ้องตากัน จากนั้นเขาก็ใช้เท้าดันประตูออก เตะคนเฝ้าหน้าประตูเข้าไปในห้องประชุม กู้หยุนหลานร้องไห้ด้วยความดีใจ เธอรู้ว่าหลี่โม่ต้องมาแน่ แต่เธอไม่คิดว่าหลี่โม่จะมาเร็วขนาดนี้กู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นก็พากันถอนหายใจ ในที่สุดพวกเขาก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเกมส์สิบนาทีของเหล่าไป่ แต่เมื่อเห็นคนอันธพาลถูกเตะเข้าไปในห้องประชุมโดยหลี่โม่ กู้หยุนหลานและของคนอื่น ๆ หัวใจก็เริ่มหนาวเย็นทันทีไอ้หลี่โม่มันต้องการจะทำอะไร!มันต้องการให้คนชั่วพวกนี้เอาพวกเราให้หายใช่ไหม
"ปล่อยให้มันเข้ามา ฉันจะอัดมันจนพ่อกับแม่มันจำไม่ได้เลย!" เหล่าไป่คำรามด้วยความโกรธเหล่าไป่รู้สึกว่าหลี่โม่กำลังเสแสร้ง และการเสแสร้งแบบนี้จะถูกทำลายด้วยกำปั้นเพียงหมัดเดียว ถึงเวลานั้นหลี่โม่ก็ทำได้เพียงร้องเรียกหาพ่อแม่และคุกเข่าขอความเมตตากู้หยุนหลานและคนอื่นต่างจ้องมองไปที่หลี่โม่ รอดูว่าหลี่โม่จะถูกทุบตีหรือไม่ เมื่อครู่นี้หลี่โม่ทั้งทำร้ายและคุกคามพวกเขา พวกเขาต้องการทำแบบเดียวกันให้หนักกว่าเดิมสิบครั้งร้อยครั้งบนร่างกายของหลี่โม่ถึงจะพอใจ พวกอันธพาลพุ่งเข้าหาหลี่โม่พร้อมกับเสียงคำราม ไม้เบสบอล และท่อเหล็กกวัดแกว่งอย่างดุเดือด ทุกคนพุ่งเข้าหาหลี่โม่พร้อมกันชายที่อยู่ข้างหลังเหล่าไป่พูดด้วยความเย้ยหยันว่า "พี่ไป่ พวกเรามาเสี่ยงโชคกันสนุก ๆ สักหน่อยดีกว่า มาดูกันว่าไอ้สารเลวนี่มันจะทนอยู่ได้สักกี่วินาทีกัน?"นี่คือเกมที่เหล่าไป่และพรรคพวกชอบเล่นกัน เมื่อก่อนส่วนมากจะเป็นเหล่าไป่ที่ชนะเหล่าไป่ตบริมฝีปากสองครั้งและพูดด้วยรอยยิ้ม "ฉันคิดว่าไอ้หมอนี้มีความโหดเหี้ยมในสายตาของมัน สำหรับมันสามนาทีคงไม่มีปัญหา""นี่ พี่ไป่พี่จะมองมันสูงเกินไปแล้ว ถึงไอ้คนพวกนี้จะมีฝืมือไม่เท่
เหล่าไป่เข้าใจความหมายของรุ่นน้องของเขา แต่เมื่อเห็นความกระฉับกระเฉงของหลี่โม่แบบนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า บางทีไอ้หมอนี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิดทั้งหมดเป็นเพราะสายตาคู่นั้นของหลี่โม่ก่อนหน้านี้ สายตาที่ทำให้เหล่าไป่รู้สึกพูดอะไรไม่ออก"ระวังประสบการณ์พันปี ของพวกแกที่ฝึกฝนมา เมื่อมาเจอไอ้หมอนี้ จะใช้การณ์อะไรไม่ได้เลย"หลังจากที่เหล่าไป่พูดจบก็ชี้ไปที่พื้น มีคนอันธพาลนับสิบนอนอยู่บนพื้น แต่ละคนกุมหัวใจและคร่ำครวญ ไม่สามารถแม้แต่จะลุกขึ้นยืนรุ่นน้องสองคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวพร้อมกัน แบบนี้ไม่สามารถทำได้แน่นอน ต่อให้ถูกซ้อมจนตายก็ทำไม่ได้ หรือต่อให้ไม่โดนซ้อมจนตายก็ทำไม่ได้กู้หยุนหลานจ้องมองที่หลี่โม่ด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง กังวลว่าหลี่โม่จะได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าเธอจะเห็นฉากนี้ของหลี่โม่หลายครั้ง แต่กู้หยุนหลานก็ยังกังวลอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อเห็นคนอันธพาลเหล่านั้นถูกหลี่โม่ทุบตีทีละคน กู้หยุนหลานรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อยกู้เจี้ยนกั๋ว กู้เจี้ยนเจียง และคนอื่นต่างก็จ้องมอง ดวงตาของพวกเขาใหญ่เท่าไข่ห่านและปากของพวกเขาเปิดกว้างกระพือในสายลมพวกเขาแท
"แล้วยังไง?" หลี่โม่พูดเบา ๆ พวกคนอันธพาลสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว คู่ต่อสู้ที่เหลืออยู่คือเหล่าไป่และรุ่นน้องอีกสองคนของเขาเท่านั้นแม้ว่าลักษณะของเหล่าไป่และคนอื่น ๆ จะไม่ได้อ่อนแอ แต่หลี่โม่ก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่นิดหากพวกเขาต้องการลงมือ หลี่โม่มั่นใจว่าพวกเขาจะอยู่ได้ไม่ถึงสามนาทีรุ่นน้องสองคนที่อยู่ข้างหลังเหล่าไป่ได้ก้าวมาข้างหน้าสองก้าว มายืนอยู่ด้านหน้าของเหล่าไป่ และก่อร่างราวกับเป็นคนเดียวกันกับเหล่าไป่นี่คือตำแหน่งเริ่มต้นของรูปแบบสามกระบวนท่าที่เหล่าไป่และรุ่นน้องสองคนของเขาฝึกฝนมาเป็นเวลานาน พวกเขาฝึกฝนตั้งแต่พวกเขายังฝึกศิลปะการต่อสู้ และพวกเขาได้ก็ฝึกฝนมาจนถึงปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างทั้งสามคนเรียกได้ว่าบรรลุถึงความสมบูรณ์แล้วเพียงแต่ว่าเหล่าไป่และพวกเขา ไม่เคยใช้ความสามารถทั้งสามกระบวนท่านี้ในการต่อสู้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการใช้มัน แต่พวกเขาไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มันต่างหากแม้จะต้องเผชิญกับการไล่ล่าของแม่ทัพนายทหาร เหล่าไป่และพวกเขาก็ไม่ได้ใช้รูปแบบนักฆ่าเช่นนี้ในที่สุดแม่ทัพนายทหารที่ตามล่าพวกเขาก็ถูกเหล่าไป่และพวกเขาทั้งสามคนทุบตีจนตาย