แชร์

บทที่ 478

ผู้เขียน: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
เหล่าไป่เข้าใจความหมายของรุ่นน้องของเขา แต่เมื่อเห็นความกระฉับกระเฉงของหลี่โม่แบบนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่า บางทีไอ้หมอนี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด

ทั้งหมดเป็นเพราะสายตาคู่นั้นของหลี่โม่ก่อนหน้านี้ สายตาที่ทำให้เหล่าไป่รู้สึกพูดอะไรไม่ออก

"ระวังประสบการณ์พันปี ของพวกแกที่ฝึกฝนมา เมื่อมาเจอไอ้หมอนี้ จะใช้การณ์อะไรไม่ได้เลย"

หลังจากที่เหล่าไป่พูดจบก็ชี้ไปที่พื้น มีคนอันธพาลนับสิบนอนอยู่บนพื้น แต่ละคนกุมหัวใจและคร่ำครวญ ไม่สามารถแม้แต่จะลุกขึ้นยืน

รุ่นน้องสองคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหัวพร้อมกัน แบบนี้ไม่สามารถทำได้แน่นอน ต่อให้ถูกซ้อมจนตายก็ทำไม่ได้ หรือต่อให้ไม่โดนซ้อมจนตายก็ทำไม่ได้

กู้หยุนหลานจ้องมองที่หลี่โม่ด้วยดวงตาที่เปิดกว้าง กังวลว่าหลี่โม่จะได้รับบาดเจ็บ แม้ว่าเธอจะเห็นฉากนี้ของหลี่โม่หลายครั้ง แต่กู้หยุนหลานก็ยังกังวลอย่างควบคุมไม่ได้

เมื่อเห็นคนอันธพาลเหล่านั้นถูกหลี่โม่ทุบตีทีละคน กู้หยุนหลานรู้สึกสบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

กู้เจี้ยนกั๋ว กู้เจี้ยนเจียง และคนอื่นต่างก็จ้องมอง ดวงตาของพวกเขาใหญ่เท่าไข่ห่านและปากของพวกเขาเปิดกว้างกระพือในสายลม

พวกเขาแท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 479

    "แล้วยังไง?" หลี่โม่พูดเบา ๆ พวกคนอันธพาลสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว คู่ต่อสู้ที่เหลืออยู่คือเหล่าไป่และรุ่นน้องอีกสองคนของเขาเท่านั้นแม้ว่าลักษณะของเหล่าไป่และคนอื่น ๆ จะไม่ได้อ่อนแอ แต่หลี่โม่ก็ไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่นิดหากพวกเขาต้องการลงมือ หลี่โม่มั่นใจว่าพวกเขาจะอยู่ได้ไม่ถึงสามนาทีรุ่นน้องสองคนที่อยู่ข้างหลังเหล่าไป่ได้ก้าวมาข้างหน้าสองก้าว มายืนอยู่ด้านหน้าของเหล่าไป่ และก่อร่างราวกับเป็นคนเดียวกันกับเหล่าไป่นี่คือตำแหน่งเริ่มต้นของรูปแบบสามกระบวนท่าที่เหล่าไป่และรุ่นน้องสองคนของเขาฝึกฝนมาเป็นเวลานาน พวกเขาฝึกฝนตั้งแต่พวกเขายังฝึกศิลปะการต่อสู้ และพวกเขาได้ก็ฝึกฝนมาจนถึงปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างทั้งสามคนเรียกได้ว่าบรรลุถึงความสมบูรณ์แล้วเพียงแต่ว่าเหล่าไป่และพวกเขา ไม่เคยใช้ความสามารถทั้งสามกระบวนท่านี้ในการต่อสู้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการใช้มัน แต่พวกเขาไม่เคยมีโอกาสได้ใช้มันต่างหากแม้จะต้องเผชิญกับการไล่ล่าของแม่ทัพนายทหาร เหล่าไป่และพวกเขาก็ไม่ได้ใช้รูปแบบนักฆ่าเช่นนี้ในที่สุดแม่ทัพนายทหารที่ตามล่าพวกเขาก็ถูกเหล่าไป่และพวกเขาทั้งสามคนทุบตีจนตาย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 480

    นี่ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า!กังฟูของเหล่าไป่ฝึกฝนมาเพื่ออะไรกัน ร่างกายของเขาแข็งแกร่งราวกับเหล็ก แต่หลี่โม่ตบเขาเข้าอัดกับกำแพงจนเลือดก็พุ่งออกมาจากปากความเย็นไล่มาจากฝ่าเท้าขึ้นไปที่สมอง รุ่นน้องทั้งสองของเหล่าไป่มองหน้ากัน ลังเลอยู่สักครู่ก่อนที่จะตัดสินใจช่วยเหล่าไป่แต่ในขณะนั้นเหล่าไป่ถูกหลี่โม่ซัดลงเละอย่างกับโคลน และหลี่โม่ก็วางเขาไว้บนเก้าอี้"นั่งนี่สิ นั่งดูฉันจัดการพวกมัน ฉันจะเก็บกวาดครอบครัวของพวกแกให้เป็นระเบียบเรียบร้อยเลยล่ะ" หลี่โม่พูดพร้อมยิ้มเลือดพุ่งออกมาจากมุมปากของเหล่าไป่ และความเจ็บปวดก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา เขาไม่สามารถนับได้ว่ากระดูกบนร่างกายของเขาหักไปกี่ชิ้น เหล่าไป่รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้แล้ว และรู้สึกว่ากระดูกของเขาหักไปทั้งตัวเพราะหลี่โม่นี่คือคนโหดเหี้ยม โหดเหี้ยมเกินไป!เหล่าไป่สรุปในใจเหล่าไป่และรุ่นน้องสองคนหยุดอยู่ด้วยกัน ทั้งสองคนขาสั่นเล็กน้อย และความคิดที่จะวิ่งหนีก็เข้ามาในหัวของพวกเขาพวกเขาทั้งสองไม่คิดที่จะเผชิญหน้ากับหลี่โม่อีกต่อไป นี่ขนาดพวกเขาใช้ท่าไม้ตายทั้งสามกระบวนท่าแล้ว ยังไม่สามารถสู้หลี่โม่ได้แค่มองไปท

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 481

    หลังจากจัดการกับกู้หยุนหลานเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลี่โม่ก็กลับไปยังห้องประชุม ยืนอยู่หน้าเหล่าไป่ที่ก้มหัวชิดถึงอกเหล่าไป่ไร้ซึ่งท่าทีสง่าผ่าเผยเหมือนก่อนหน้านี้ ดูไปแล้วราวกับจะตายได้ทุกเมื่อหลี่โม่คว้าจิกผมของเหล่าไป่และกระชากหัวขึ้นมาเหล่าไป่ลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง ดวงตาเหลือบมองขึ้นไปทางหลี่โม่ ในใจเต็มไปด้วยความเสียใจภายหลังไม่รู้จบ“พูดซะ”คำพูดง่าย ๆ เพียงคำเดียว เปล่งออกมาจากปากของหลี่โม่ กลับราวกับมีความบีบคั้นอันไร้ที่สิ้นสุดเวลานี้เหล่าไป่รู้อยู่แก่ใจดี เขารู้ว่าตอนนี้หากยังปากแข็งต่อไป เกรงว่าอาจจะไปโลกหน้าได้ทุกเมื่อ“ใช่ เป็นซูเหวินปิน ซูเหวินปินให้พวกเราลักพาตัวพวกนายสามีภรรยา ไปส่งให้เขาที่เมืองเอกของมณฑล เขาจะจ่ายให้ฉัน 10 ล้าน”“ซูเหวินปิน!”แววตาของหลี่โม่สาดประกายจิตสังหารแต่เดิมหลี่โม่คิดว่าเรื่องของตระกูลซูผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วกันไป เขาไม่ได้มีเจตนาจะกำจัดตระกูลซูให้สิ้นซากเลย แต่เรื่องที่ซูเหวินปินทำในตอนนี้ทำให้หลี่โม่เกิดความคิดที่จะทำลายตระกูลซูทิ้งขึ้นมาแล้วเรื่องการล้ำเขตนั้นช่างมันไปก่อน แต่ไม่นึกว่าจะให้มือมืดเผชิญหน้ากับกู้หยุนหลานอีกครั้ง

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 482

    กู้เจี้ยนกั๋วหยิบที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะขึ้นมา ขว้างใส่ใต้เท้าของหลี่โม่ด้วยความโมโห เพล้ง! ที่เขี่ยบุหรี่แก้วแตกกระจายเต็มพื้น “แกคิดว่าแกเป็นใคร! เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ แกต้องอธิบายกับเราให้รู้เรื่องว่าพวกแกไปหาเรื่องใครมากันแน่! ถ้าให้แกไปจัดการ ไอ้ขยะไม่ได้เรื่องอย่างแกอย่างมากก็แค่ต่อสู้เป็นเท่านั้น แกจะไปจัดการอะไรได้!” กู้เจี้ยนกั๋วเอ่ยคำราม ระบายความโกรธเกรี้ยวในใจทั้งหมดออกมา หลี่โม่หัวเราะเบา ๆ “ถึงพูดไปพวกคุณก็จัดการไม่ได้หรอกครับ แถมยังต้องมาวิตกกังวลด้วย ผมทำแบบนี้ก็เพื่อพวกคุณเอง” กู้ซิ่งเหว่ยมองดูท่าทีของหลี่โม่ ก็สะกดกลั้นโทสะในใจไว้ไม่อยู่ เขาแผดเสียงเอ่ย “เจ้าขยะนี่ยังจะเสแสร้งอีก! ก่อปัญหาใหญ่โตขนาดนี้ขึ้นมาแล้วยังจะมีหน้ามาเสแสร้ง ฉันอยากจะฆ่าแกให้ตายเลยจริง ๆ” “กู้หยุนหลาน! แกสั่งสอนสามีไม่ได้เรื่องของแกให้ดี ๆ เสียบ้างนะ รีบให้เขาบอกมาซะดี ๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพวกแกเอง แต่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวิตคนในตระกูล!” ในใจกู้ซิ่งเหว่ยนึกกลัวขึ้นมาภายหลัง เรื่องแบบนี้หากเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาคงต้องเป็นโรคประสาทแน่ ๆ ต้องรู้แน่ชัดให้ได้ว่าม

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 483

    กู้หยุนหลานมองพวกกู้เจี้ยนกั๋วเดินจากไป แล้วจับมือของหลี่โม่เอาไว้ แววตาจ้องมองหลี่โม่ด้วยความรู้สึกลึกซึ้ง “คุณแก้ไขมันได้จริง ๆ เหรอ?” “ต้องได้สิ” หลี่โม่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “อย่านั้นคุณก็ต้องระวังตัวด้วยนะ บริษัทกลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว พวกคุณลุงไปกันหมดแล้ว ฉันต้องรับผิดชอบจัดการปัญหาที่ตามมา อย่างน้อยที่สุดก็ต้องทำให้บริษัทฟื้นกลับมาเป็นปกติ” กู้หยุนหลานยังคงกังวลเกี่ยวกับกิจการของบริษัท ในตอนนี้หากกู้หยุนหลานเองก็ล้มเลิกไม่แยแสไปด้วยล่ะก็ อย่างนั้นทั้งบริษัทก็คงต้องปิดตัวลง ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจของบริษัท เพื่อทำให้บริษัทที่ใกล้จะล้มละลายมาได้ถึงตอนนี้ กู้หยุนหลานทุ่มเทลงแรงไปไม่น้อย ย่อมไม่หวังให้แรงที่ทุ่มเทไปนั้นเปล่าประโยชน์อยู่แล้ว หลี่โม่พยักหน้าเบาๆ “งั้นผมไปก่อนนะ เรื่องบริษัทคุณค่อย ๆ จัดการไปไม่ต้องรีบร้อน” “ค่ะ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะรอคุณกลับมานะคะ” กู้หยุนหลานดันหลี่โม่เบา ๆ เล็กน้อย หลี่โม่หมุนตัวเดินออกไปข้างนอก เมื่อมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของหลี่โม่ กู้หยุนหลานก็ประนมสองมือขึ้นมาพลางในใจอธิษฐานต่อเทพเจ้าและพระพุทธองค์บนสวรรค์อย่างเงียบงัน

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 484

    ”หูหนวกเหรอ หรือว่าสมองมีปัญหา ถึงได้ฟังคำพูดของฉันไม่รู้เรื่องน่ะ!” รปภ.คนนั้นที่เดินไปหาหลี่โม่เผยรอยยิ้มเหยียดหยาม ก่อนหวดกระบองยางในมือเพื่อจะไล่หลี่โม่ออกไป หลี่โม่หัวเราะเย็นชา เขายื่นมือออกไปคว้ามือที่กำกระบองยางของรปภ.เอาไว้ ก่อนจะออกแรงบิดที่มืออย่างแรงและหักข้อมือของรปภ.ในทันที “อ๊าก!” รปภ.ร้องโหยหวนเหมือนหมูโดนเชือด หลังจากที่หลี่โม่ปล่อยมือ เขาก็ถอยไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว รปภ.ที่เหลือเห็นสถานการณ์ผิดปกติก็พากันเข้ามาล้อมกรอบหลี่โม่เอาไว้ “อะไรกัน! กล้ามาหาเรื่องถึงหลงถิง แกคงจะอยากตายมากสินะ! ไม่แหกตาดูซะบ้างว่าที่นี่ใครคุม!” “เจ้านายที่อยู่เบื้องหลังพวกเราคือตระกูลซู! แกกล้ามากำแหงอวดดีในถิ่นของตระกูลซู คงอยากจะตายยกครัวล่ะสิ!” “รีบเอามือกุมหัวแล้วคุกเข่าลงซะ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่เกรงใจแกอีก!” รปภ.สิบกว่าคนส่งเสียงเอ่ยคำราม กระบองยางในมือต่างชี้มายังหลี่โม่ เตรียมที่จะทุบตีหลี่โม่ทันทีหากเขาขัดขืน สายตาเหยียดหยามของหลี่โม่กวาดมองไปยังรปภ.ที่อยู่ล้อมรอบตนเอง “ถ้าไม่อยากตาย ก็ถอยไป” “ไอ้เวรนี่! ยังกล้าอวดดีอีก! ไป จัดการมันซะ!” พวกรปภ.ลงมือพร้อมกัน หลี่

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 485

    หลังจากที่ซูเหวินปินออกคำสั่ง ทั้งสี่ห้องส่วนตัวข้างห้องของซูเหวินปินก็มีบอดี้การ์ดจำนวนมากกรูกันออกมา เพราะซูเหวินปินนั้นมีความระแวดระวังต่อเหล่าไป่อยู่บ้าง ดังนั้นจึงได้เตรียมบอดี้การ์ดไว้มากมายขนาดนี้เพื่อเตรียมรับมือกับเหล่าไป่ ทว่าเหล่าไป่ยังไม่ได้มา หลี่โม่ก็มาหาถึงที่เสียก่อนแล้ว ประจวบเหมาะพอดีที่จะให้บอดี้การ์ดใต้บังคับบัญชาพวกนี้จัดการหลี่โม่ เมื่อมองดูบอดี้การ์ดเป็นขโยงกรูกันออกมาจากห้องส่วนตัวบนภาพของกล้องวงจรปิด มุมปากของซูเหวินปินก็ยกแย้มรอยยิ้มเย็นยะเยือก “วันนี้ใครมาก็ต้องคุกเข่า เป็นเสือก็ต้องหมอบ เป็นมังกรก็ต้องขด เพียงแต่ไม่รู้ว่าทางเหล่าไป่ไปทำยังไงกันแน่ ถึงสามารถทำให้หลี่โม่วิ่งโร่มาถึงเมืองหลวงได้” ซูเหวินปินบ่นพึมพำ รู้สึกว่าต้องถามไถ่สถานการณ์ทางนั้นของเหล่าไป่ดูสักหน่อย หลังจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหารายชื่อติดต่อ ซูเหวินปินก็ต่อสายหาหมายเลขโทรศัพท์ของเหล่าไป่ “ฮัลโหล ต้องการพูดกับใครครับ” เสียงอันไม่คุ้นเคยดังออกมาจากโทรศัพท์ ซูเหวินปินคิ้วกระตุกเล็กน้อย ในใจเริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างลับ ๆ “ขอสายเหล่าไป๋หน่อย คุณเป็นใคร?” “ผมเป็นคนจากแผนก

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 486

    "เฮ้ย! ยังจะเดินอีก แกจะเดินไปถึงไหนกัน ฉันให้แกคุกเข่าลง แกไม่ได้ยินใช่ไหม?!""ไอ้เด็กนี้มันคงไม่ได้โง่ใช่ไหม? ดูสายตาของมันไม่ค่อยปกติ ฉันล่ะชอบทำความสะอาดพวกงี่เง่าแบบนี้ที่สุด เดี๋ยวอีกหน่อยฉันจะลากมันไปเป็นชักโครกในห้องน้ำ! "บอดี้การ์ดหลายคนพูดติดตลกและหยิบมีดออกมาจากเอว"ถอยไป"หลี่โม่มองไปที่บอดี้การ์ดที่มีมีดอยู่ข้างหน้าเขา และพูดอย่างใจเย็นว่า "สุนัขที่ดีจะไม่เข้ามาขวางทาง""โอ้โห! กล้าเรียกพวกเราว่าหมา วอนหาที่ตาย พวกเราจัดการมัน เอามันให้ตายเหมือนหมาก่อนแล้วค่อยว่ากัน !"บอดี้การ์ดที่โกรธเกรี้ยวขยับเข้าหากัน กวัดแกว่งมีดสั้นและแทงไปที่หลี่โม่หลี่โม่ยิ้มอย่างเย้ยหยัน เดินเข้าไปท่ามกลางบอดี้การ์ด ยกมือขึ้นและตบที่ต้นคอบอดี้การ์ดด้วยการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของมือทั้งสองข้างของหลี่โม่ บอดี้การ์ดถูกตีเข้าที่ต้นคอทีละคนและสลบไปคราวนี้หลี่โม่ก็ไม่ยั้งมือ บอดี้การ์ดทุกคนที่โดนหลี่โม่บิดเข้าที่คอจะมีอาการกระดูกสันหลังส่วนคอบิดเบี้ยว และคอของพวกเขาจะแตกต่างจากคนทั่วไปสิ่งที่หลี่โม่ทำเป็นการเตือนสติของพวกเขา ให้พวกเขาจำไว้ว่าสุนัขที่ดีจะไม่มาขวางทางซูเหวินปินและหัวหน

บทล่าสุด

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 939

    “คุณชาย อย่ามาขู่ผมเลยครับ ผมไม่กลัวหรอกนะ สิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ล้วนมีเหตุมีผล หากไม่เชื่อก็ถามซินแสที่มาดูฮวงจุ้ยให้ได้เลยครับ คำพูดพวกนี้เขาเป็นคนพูดเองกับปากทั้งนั้น” ผู้จัดการหวังแข็งขืน ไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย หลี่โม่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เหวินซิน อย่าหุนหันพลันแล่น ผู้จัดการหวังพูดถูกแล้ว คนที่โชคชะตาบารมีไม่ถึง ไม่มีทางข่มพลังฮวงจุ้ยอันยอดเยี่ยมได้แน่นอน” คังเหวินซินพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "อาจารย์พูดถูกแล้วครับ แต่ด้วยบารมีของอาจารย์ จะต้องสามารถข่มมันได้อย่างแน่นอน พวกเรามาดูกันดีกว่า ที่นี่ล้วนได้รับการตกแต่งอย่างดี คุณหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย เหลือแค่ดูว่าวิลล่าหลังนี้ถูกใจคุณหรือเปล่าก็พอครับ” เมื่อเห็นคังเหวินซินพยายามเอาอกเอาใจหลี่โม่ ผู้จัดการหวังก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย หรือว่าตนจะมองผิดไป? ผู้ชายที่สวมเสื้อผ้าแผงลอยทั้งตัวคนนี้ เป็นคุณชายเศรษฐีที่มาลองสัมผัสประสบการณ์ชีวิตงั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมคุณชายของตนถึงได้ไปประจบเอาใจเขาขนาดนี้กัน? “คุณชาย ท่านนี้คืออาจารย์ของคุณเหรอครับ?” ผู้จัดการหวังถามอย่างสงสัย “นี่คืออาจารย์ของฉันหลี่โม่ นายสุภาพกับอาจารย์ของฉัน

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 938

    “ไอ้สารเลวคนไหนไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้ามาแย่งวิลล่าของอาจารย์ พวกแกยังมัวแต่กินอะไรกันอีก ไปดูด้วยกัน จัดการไอ้พวกสารเลวนั่นซะ” “ศิษย์พี่เกิ่งพูดถูก พวกเราทุกคนต้องไปดูด้วยกัน บ้านของอาจารย์ต้องดีที่สุดเท่านั้น จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว” ศิษย์พี่เกิ่งและคนอื่น ๆ พากันลุกขึ้นทีละคน เมื่อเห็นเช่นนี้คังหย่งเฉียนก็เรียกให้พนักงานคิดเงินทันที แล้วจึงพาพวกของศิษย์พี่เกิ่งมุ่งตรงไปยังสวนหนานชุ่ย ... รถเมอร์เซเดสเบนซ์ขับเข้าไปในสวนหนานชุ่ย และขับตรงไปตามทางขึ้นยอดเขา ใกล้กับยอดเขาของเขาหนานชุ่ยนั้นมีที่ราบอยู่บริเวณหนึ่ง ที่ราบนี้ถูกนำมาใช้สร้างวิลล่า พร้อมทั้งปลูกต้นไม้พืชพรรณเขียวชอุ่มรอบ ๆ วิลล่าอีกด้วย ด้านหน้าวิลล่ายังมีลำธารที่ไหลมาจากยอดเขา ทำให้ฮวงจุ้ยของวิลล่านี้ยอดเยี่ยมมากไร้ที่ติ หน้าน้ำหลังเขา ตำแหน่งปากมังกรจัดวางฮวงจุ้ยอย่างดี ทำให้วิลล่าบนยอดเขาหลังนี้เลิศล้ำไม่มีใครเทียม รถเมอร์เซเดสเบนซ์จอดสนิทหน้าประตูวิลล่ายอดเขา ผู้จัดการหวังและพนักงานขายสาวสองคนยืนรอที่ประตูวิลล่าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นรถเบนซ์จอดนิ่ง ผู้จัดการหวังก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปช่วยเปิดประตูรถ

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 937

    ผู้จัดการหวังหยิบบุหรี่ออกมาคาบที่มุมปาก เตรียมจะสูบบุหรี่เพื่อสงบสติอารมณ์ คำขอของคังเหวินซินทำให้ผู้จัดการหวังตั้งตัวไม่ติด การจะดูบ้านมันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าอีกฝ่ายถูกใจขึ้นมาจริง ๆ จะทำอย่างไรล่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องราคาต้นทุนหรือเปล่า ถ้าคังหย่งเฉียนเข้ามาครอบครองวิลล่าหลังนี้ เขาก็คงไม่ได้เงินเลยสักแดงเดียว พอนึกถึงคังหย่งเฉียนขึ้นมาผู้จัดการหวังรู้สึกปวดจี๊ด ๆ ขึ้นมา เจ้านั่นเป็นปีศาจเจ้าสำราญแห่งตระกูลคัง วัน ๆ เอาแต่เกียจคร้าน กินดื่มเที่ยวเล่น ยิ่งกว่านั้นยังคบค้ากับพวกอันธพาล ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสตระกูลคังก็ยังถูกคังหย่งเฉียนยั่วโมโหจนเส้นเลือดในสมองตีบ แทบทุกคนในตระกูลคังล้วนทำเป็นไม่สนใจคังหย่งเฉียน ตราบใดที่คังหย่งเฉียนไม่ได้ก่อปัญหา ก็ไม่มีใครสนใจว่า คังหย่งเฉียนจะทำอะไร ถ้าหากยกวิลล่าให้เพื่อนของคังเหวินซินจริง ๆ คังหย่งเฉียนคงจะพาคนมาสับเขาเป็นชิ้น ๆ ถึงที่แน่ หลังจากสูบบุหรี่หมดมวน ผู้จัดการหวังก็ขยี้ก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ รู้สึกว่ายังไงก็ควรแจ้งให้คังหย่งเฉียนรู้สักหน่อย ส่วนคังหย่งเฉียนจะต่อสู้กับคังเหวินซินอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status