เมื่อจ้าวหลงได้ยิน เขาก็ตกตะลึงทันที!ชูจงเทียนกล้าทำเช่นนั้นจริง ๆ !ทันใดนั้น จ้าวหลงก็ตะโกนขึ้นมา “ท่านเทียน ท่านทำเช่นนี้ มีแต่จะทำร้ายจิตใจพี่น้องเท่านั้น อย่าลืมว่า ผมก็มีพี่น้องมากมาย! ถ้ามีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้น คุณจะรับมือไหวหรือ?”จ้าวหลงเองก็เป็นคนโหดเหี้ยม เขาอาศัยว่าตนเองนั้นมีพวกพ้องจำนวนมาก ตอนนี้เขาลุกขึ้นจากพื้น แล้วลูบท้องตัวเองทันทีที่เขาพูดจบ ลูกน้องหลายสิบคนก็มายืนรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ซึ่งนั่นหมายถึงการรวมหัวกันบีบบังคับสีหน้าชูจงเทียนเคร่งขรึม เขาตะโกนใส่ลูกน้องของจ้าวหลง “พวกแกตาบอดแล้ว ไม่รู้จักฉันชูจงเทียนหรือไง?! วันนี้ถ้าใครกล้าขยับ ฉันจะทำให้ครอบครัวของมันต้องพังพินาศ! ”ขณะนี้ชูจงเทียนมีสีหน้าที่เย็นชา แววตาของเขาสั่นไหวด้วยเปลวไฟแห่งความโกรธความเผด็จการในตัวเขา ได้ปะทุขึ้นอย่างฉับพลัน!ชูจงเทียนเป็นถึงหัวหน้าของราชาใต้ดินแห่งเมืองฮั่น!ใครกล้าไม่เคารพเขา?!เศษสวะพวกนี้ รนหาที่ตายชัด ๆ !เมื่อคนกลุ่มนี้เห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของชูจงเทียนแล้ว ก็รู้สึกกลัวอยู่บ้าง พวกเขาหันมองหน้ากันหลายครั้ง ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าเพราะว่า ชื่อเสียงของชูจงเทียน
เขาตื่นเต้นจนเสียงเปลี่ยน โค้งคำนับหลี่โม่ไม่หยุด จากนั้นจึงหยิบเงินแล้วก็เดินจากไปหลังจากนั้น หลี่โม่ก็ใช้ขาเตะเงินอีกหลายปึกไปตรงหน้าคนพวกนั้น เหมือนกับเล่นสนุก ภายใต้การจับจ้องของทุกคนไม่ต้องให้หลี่โม่พูดอะไรอีก ลูกน้องของจ้าวหลงพวกนั้น ต่างตื่นเต้นจนตัวสั่นแล้วก้มลงหยิบเงินขึ้นมา“ขอบคุณครับ คุณหลี่!”“ขอบคุณครับ คุณหลี่!”ในเวลาสั้น ๆไม่ถึงหนึ่งนาที ลูกน้องที่จ้าวหลงหวังพึ่งพาทุกคนต่างพากันหนีหายไปหมดเมื่อต้นไม้ล้ม ฝูงลิงก็กระจัดกระจายพวกเขาไม่มีปัญหาอะไรกับเงินอยู่แล้วฝูงชนที่มองดูอยู่รอบ ๆ ทุกคนต่างรู้สึกตกใจตรงไปตรงมาจริง ๆ !เอาเงินมาเล่นแบบนี้ พวกเขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเศรษฐี!นี่คือวิธีที่เศรษฐีเขาทำกันเหรอ?พวกเขารู้สึกอิจฉา ผู้ชายที่ร่ำรวยคนนี้ เป็นไปไม่ได้เลยที่คนจะไม่รู้สึกอิจฉาเรื่องทั้งหมดนี้ กู้ชิงหลินกับเพื่อนสนิทของเธอไม่ได้เห็นถ้าหากว่าพวกเขาเห็นภาพนี้ ต้องประจบประแจงหลี่โม่แน่?ตอนนี้จ้าวหลงยืนตัวสั่นเขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็นเมื่อครู่เพื่อเงินไม่กี่แสน พวกลูกน้องกลับยอมทิ้งเขาไปหมดที่แท้หมอนี่มันมีเงินมากขนาดนี้!จ้าวหลง
กู้ชิงหลินไม่คิดว่า จะได้เห็นหลี่โม่ที่ร่างกายปกติ และไม่ได้รับบาดเจ็บหรือว่า เมื่อสักครู่เขาไม่ถูกจัดการหรือ?ช่างน่าแปลกใจจริง ๆหลี่โม่ขมวดคิ้ว ไม่สนใจกู้ชิงหลิน เขาหันหลังแล้วเดินตรงไปด้านหน้าสิ่งนี้ทำให้กู้ชิงหลินรู้สึกโมโห ในตระกูลกู้ เธอเปรียบเสมือนไข่ในหิน แล้วก็เป็นสาวงามที่มีชื่อเสียงของเมืองฮั่นด้วยไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็ตามเมื่อเห็นเธอ สายตาทั้งคู่ก็จะจับจ้องมาที่ตัวเธอ แล้วก็ต้องตกอยู่ในภวังค์ไม่ใช่หรือ?พูดตรง ๆ ก็คือ ขอแค่กู้ชิงหลินต้องการ ก็จะมีลูกชายของเศรษฐีมากมาย เดินตามหลังของเธอ แสดงความรักและหลงใหลในตัวเธอ!แต่ว่า หลี่โม่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเขยตระกูลกู้ที่ไร้ประโยชน์คนนี้ ตอนนี้กล้าที่จะเพิกเฉยต่อเธอ!เพียะ!กู้ชิงหลินรีบเดินตรงเข้าไป ใช้มือดึงเสื้อของหลี่โม่ จากนั้นใช้ฝ่ามือฟาดไปที่ใบหน้าของหลี่โม่เต็มแรงเพราะอารมณ์โกรธ เธอจึงชี้ไปที่ใบหน้าของหลี่โม่อย่างเย่อหยิ่งและไร้มารยาท แล้วตะโกนด่าว่า “หลี่โม่ นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร นายมันเป็นแค่สุนัขรับใช้ของตระกูลกู้ เป็นแค่เศษขยะ กล้าเพิกเฉยต่อฉันงั้นเหรอ? รู้ไว้เถอะ แค่ฉันพูดประโยคเดียว นายจะกลายเป็นศัตรูของผู้
“เทพธิดาชิงหลิน เจ้าโง่นี่มันยั่วยุให้คุณโมโหเหรอครับ?”หึ!กู้ชิงหลินส่งเสียงแสดงความไม่พอใจออกมา แล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “เขาชื่อหลี่โม่”“อะไรนะ หลี่โม่ คนไร้ประโยชน์คนนั้นเองเหรอเนี่ย?”ขณะนี้ เจียงหยางแสดงสีหน้าตกใจ จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงหัวเราะเยาะเขาเดินวนไปรอบ ๆ ตัวหลี่โม่สองรอบ แล้วพูดด้วยท่าทีหยิ่งผยองว่า “ที่แท้นายก็เป็นคนไร้ประโยชน์หลี่โม่นี่เอง ดีนี่ นายยังกล้าทำตัวเป็นสวะ ยั่วยุให้เทพธิดาชิงหลินของฉันไม่พอใจอีก ตอนนี้ ฉันขอสั่งให้นายคุกเข่าขอโทษเทพธิดาชิงหลินซะ!”เจียงหยางชี้ไปที่หลี่โม่ ด้วยท่าทีหยิ่งผยองหลี่โม่หันหน้าไปมองเจียงหยางอย่างทีเล่นทีจริง เขาเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วถามอย่างเย็นชา “ พูดจบแล้วใช่ไหม?”ประโยคนี้ ทำให้เจียงหยางตะลึง!“นายคิดว่าตัวเองเป็นใคร ถึงกล้าพูดแบบนี้กับฉัน ในเมืองฮั่น ไม่ต้องพูดถึงว่าตระกูลเจียงของฉันมีอำนาจขนาดไหน เพราะฉะนั้น ถ้าคิดที่จะฆ่าเศษสวะอย่างนาย มันง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก!”กู้ชิงหลินที่อยู่ข้าง ๆ ยังคงเอามือทั้งสองข้างกอดอก และพูดอย่างหยิ่งผยองว่า “หลี่โม่ ฉันขอเตือนให้นายรีบคุกเข่าขอโทษฉันซะ ไม่อย่างนั้น นายคงอยู่ในเ
นักธุรกิจยักษ์ใหญ่ของท้องถิ่นเมืองฮั่นกำลังยืนอยู่หน้าภัตตาคารอาหารไห่เยี่ยนรอหลี่โม่ที่กำลังจะมาถึงได้ข่าวว่าครั้งนี้พวกเขาต้องต้อนรับนายน้อยของแดนมังกร พวกนักธุรกิจยักษ์ใหญ่เหล่านี้ตื่นเต้นเป็นอย่างมากธุรกิจที่เขาถืออยู่ ถือว่ายิ่งใหญ่และหลากหลายมาก แค่เศษเสี้ยวของธุรกิจของนายน้อยแดนมังกรก็สามารถทำให้พวกนักธุรกิจเหล่านี้มีเงินจนสุขสบายไปทั้งชาติยิ่งเข้าไปตีสนิทกับนายน้อยแดนมังกร หรือได้ทำการค้าร่วมกับแดนมังกรได้ ก็จะทำให้ร่ำรวยจนมีทรัพย์สินมหาศาล“ได้ข่าวว่านายน้อยแดนมังกรยังหนุ่มอยู่เลยนะ วันนี้ฉันให้ลูกสาวของฉันมาต้อนรับ หวังว่าลูกสาวของฉันจะเข้าตานายน้อยของแดนมังกรบ้าง”“ไม่รู้ว่านายน้อยของแดนมังกรแต่งงานหรือยัง ถ้ายังไม่แต่ง ลูกสาวของพวกเราก็ต้องแข่งขันกันแล้วล่ะ”“ถึงนายน้อยของแดนมังกรจะแต่งงานแล้วก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้าเป็นอนุภรรยาของนายน้อยแดนมังกรก็ถือเป็นบุญของพวกเธอแล้ว ครั้งนี้นอกจากลูกสาวของฉันจะมาแล้ว ฉันยังพาหลานพาญาติมาด้วย”นักธุรกิจยักษ์ใหญ่เหล่านี้คุยกระซิบกระซาบกัน เหมือนเกรงว่าคนอื่นจะได้ยินกู้ชิงหลินและเพื่อนสนิทได้มาถึงที่ภัตตาคารอาหารไห่เยี่ยน เห็นนักธุรก
หลี่โม่ตอบรับ และก้าวลงจากรถเบนท์ลีย์หลี่โม่รีบมาด้วยความเร่งรีบ เขาจึงไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อหลี่โม่ลงจากรถแล้ว หวงฝูชิ่งและพวกที่เห็นเสื้อผ้าของหลี่โม่แล้วรู้สึกลายตาถ้าหลี่โม่ไม่ได้นั่งรถเบนท์ลีย์ของแดนมังกรมา พวกของหวงฝูชิ่งอาจจะคิดว่าหลี่โม่ปลอมตัวมาเป็นนายน้อยของแดนมังกรแน่ ๆหวงฝูชิ่งเหมือนมีอะไรจะพูด แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา เพราะกลัวจะทำให้หลี่โม่ไม่พอใจ เขาเลยหันกลับไปมองนักธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่อยู่ข้างหลังอีกหลายคน และสบตากับพวกเขาหวงฝูชิ่ง “ตอนนี้งานเลี้ยงดินเนอร์เขาแต่งตัวแบบไม่เป็นทางการแบบนี้แล้วหรือ? พวกเราแต่งตัวเป็นทางการแบบนี้ เกรงว่าจะไม่เหมาะกับนายน้อยแดนมังกร”ประธานจาง “นายน้อยแต่งตัวแบบนี้ คงเป็นเพราะต้องการเป็นผู้นำแฟชั่นเสื้อผ้า พวกเราควรเดินตามรอยของนายน้อยนะ”ประธานหลี่ “ใช่ ๆ ๆ เป็นความคิดที่ดีนะ พวกเรารีบให้คนส่งเสื้อผ้ามาเลย พวกเราต้องแต่งตัวตามนายน้อย”หลี่โม่ก้มมองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ และมองไปที่พวกหวงฝูชิ่งซึ่งใส่เสื้อผ้าแบรนด์ดังระดับโลก จึงยิ้มและเอ่ยถามว่า “เสื้อผ้าของฉัน...”หลี่โม่ยังไม่ทันจะพูดจบ หวงฝูชิ่งก็รีบพูดแทรกขึ้นมา “นายน้อย รสนิยม
หลี่โม่สวมหน้ากาก ส่วนหวงฝูชิ่งและคนอื่น ๆ ซึ่งได้หน้ากากตือโป๊ยก่าย ซัวเจ๋ง ม้ามังกรขาวและอื่น ๆ พวกเขาก็หยิบหน้ากากขึ้นมาสวมเช่นกันตอนนี้ไม่ว่าหลี่โม่จะทำอะไร พวกเขาก็จะทำตาม เพราะอิทธิพลของแดนมังกรนั้นยิ่งใหญ่มาก หากไม่ทำตาม ทรัพย์สินเป็นหมื่นล้านอาจจะหายไปในพริบตาก็ได้เมื่อใส่หน้ากากเสร็จ หลี่โม่พาพวกหวงฝูชิ่งเดินเข้าไปที่ภัตตาคารอาหารไห่เยี่ยน คนในภัตตาคารไห่เยี่ยนเมื่อเห็นหลี่โม่และคนอื่น ๆ พวกเขาแสดงสีหน้าสงสัยออกมา เป็นครั้งแรกที่มีคนแต่งตัวแบบนี้เข้ามาที่ภัตตาคารไห่เยี่ยนซึ่งเป็นสถานที่ที่มีระดับเช่นนี้มีคนคิดว่ามีคนรวยบางคนอยากเพิ่มสีสันให้กับงาน เลยจ้างนักแสดงมาที่งานนี้ชั้นสูงสุดของภัตตาคารไห่เยี่ยนที่เป็นห้องอันโอ่อ่า กู้ชิงหลินที่เพิ่งแต่งหน้าและสวมชุดราตรี CHANEL ออกมา ถูกเพื่อนสนิทกับพวกเศรษฐีเดินห้อมล้อมไปที่บิลเลียนท์ฮอลล์บิลเลียนท์ฮอลล์เป็นห้องโถงที่หรูที่สุดของภัตตาคารอาหารไห่เยี่ยน วันธรรมดาหากไม่มีแขกคนสำคัญมาร่วมงาน บิลเลียนท์ฮอลล์จะไม่เปิดต้อนรับแขก ห้องโถงนี้จะเปิดก็ต่อเมื่อ มีแขกคนสำคัญมากจริง ๆ ถึงจะเปิดรับรองเพราะนายน้อยแดนมังกรที่เป็นแขกคนสำคัญ
“โอ้โห มีคนใส่หน้ากากเข้ามาด้วยหรือ เป็นครั้งแรกที่เห็นแบบนี้เลยนะ” เจียงหยางตั้งใจพูดให้เสียงดังกู้ชิงหลินและเพื่อนค่อย ๆ หันไปมองด้านหลังด้วยความสงสัย พวกเธอที่เห็นภาพนี้แล้วก็รู้สึกขำ“โลกนี้แปลกจริง ๆ คนพวกนี้ทำไมถึงต้องใส่หน้ากากด้วยนะ ดูสิเสื้อผ้าก็ดูไร้ราคา น่าจะมาทำการแสดงสินะ”เพื่อนสนิทของเธอคนหนึ่ง แสดงสีหน้าเยาะเย้ย“ภัตตาคารอาหารไห่เยี่ยนเป็นสถานที่แบบไหนกัน ต่อให้มาทำการแสดง ก็ควรเป็นนักแสดงระดับประเทศ นักแสดงที่แต่งตัวแบบนี้จะมาแสดงที่นี่ได้ยังไง” เจียงหยางพูดเสริมพร้อมท่าทีโอ้อวดกู้ชิงหลินมองไปที่คนพวกนั้น ในใจของเธอรู้สึกรังเกียจ และรู้สึกว่าตนเองเพิ่งจะแต่งหน้าแต่งตัวมาใหม่ การที่ต้องมาเจอคนประเภทนี้ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน“เกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ภัตตาคารอาหารไห่เยี่ยนเป็นที่ที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาได้แล้วเหรอ? ถ้าเข้ามาแบบนี้ ทำเสียบรรยากาศแน่ แล้วที่นี่ก็เป็นทางเข้าของบิลเลียนท์ฮอลล์ รีบเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาไล่คนพวกนี้ออกไปเร็ว” กู้ชิงหลินพูดด้วยความโกรธไม่เพียงกู้ชิงหลินคนเดียวเท่านั้น ที่รู้สึกว่าการปรากฏตัวของคนเหล่านี้ จะทำให้คุณภาพของงานเลี้ยง