แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2021-07-30 18:00:01
การปรากฏตัวของหลี่โม่ ทำให้ทุกคนในห้องประชุมหน้าบึ้งไม่พอใจ

“หลี่โม่ นายเข้ามาได้ยังไง ไม่รู้เหรอว่าที่นี่ที่ไหน ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลยนะ!” กู้ซิงเหว่ยชี้ไปที่หลี่โม่อย่างโกรธเคืองทันที

นี่เป็นเพียงขยะน่าสมเพช ไม่มีสิทธิ์มาเหยียบบริษัทของตระกูลกู้!

ไม่มีสิทธิ์มาเหยียบที่ห้องประชุมนี้ด้วย!

“โอ้โห ไอ้ขยะนี่ กล้าเสนอหน้ามาที่นี่ได้ยังไง ไม่ขายหน้าเหรอ?”

“ใช่ จะพูดอะไรได้อีก นี่ไม่ใช่การขุดหลุมกลบกู้หยุนหลานหรอกเหรอ? ไม่มีสมองเอาซะเลย”

“ฮ่าฮ่า ไอ้แมงดานี่ กล้ามาออกคำสั่งที่นี่เลยเหรอ?”

ในห้องประชุม บรรดาญาติของตระกูลกู้และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทต่างพยักหน้าให้หลี่โม่ คำพูดของพวกเขาเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม

“มาที่นี่ทำไม?” กู้หยุนหลานรู้สึกสับสนในขณะนี้ และเริ่มโกรธมากขึ้น

หลี่โม่ไม่ควรมาที่นี่เลย

ทว่า เขากลับเดินไปหากู้หยุนหลาน ด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้า

เป็นเวลาสี่ปี ที่เขาไม่เคยให้อะไรเธอและไม่เคยช่วยเธอเลย ทุกคนดูถูกเขา แต่กู้หยุนหลานอยู่เคียงข้างเขาเสมอมา

แม้ว่าปกติกู้หยุนหลานมักจะโกรธเขา แต่หลี่โม่ก็ไม่ได้จริงจังอะไร

เพราะกู้หยุนหลานเป็นทั้งภรรยา อดีต และอนาคตของเขา

‘เมื่อก่อนผมอาจจะไร้ประโยชน์และทำให้คุณถูกนินทา’

‘แต่วันนี้ผมได้รับมรดกของแดนมังกรแล้ว ผมจะมอบชีวิตที่สุขสบายให้คุณ’

หลี่โม่ก้าวไปข้างหน้ายืนข้างกู้หยุนหลานและพูดอย่างจริงจังว่า “หยุนหลาน ตอบตกลงสิ ความร่วมมือนี้ คุณจะเป็นคนจัดการ!”

เมื่อมองเข้าไปในดวงตาที่มุ่งมั่นของหลี่โม่ กู้หยุนหลานก็ตกอยู่ในภวังค์ ราวกับว่า สิ่งที่หลี่โม่พูดจะเป็นจริง ราวกับว่า เขาได้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ

“ฮ่าฮ่าฮ่า! นายล้อเล่นหรือไง? หลี่โม่ นายคิดว่าที่นี่เป็นอะไรกัน? ที่นี่คือบริษัทของตระกูลกู้ ไม่ใช่ที่ที่นายจะมาพ่นเรื่องไร้สาระ ออกไปซะ!” กู้ซิงเหว่ยพูดอย่างโกรธเคือง

หลี่โม่ไม่มีสถานะใด ๆ ในตระกูลกู้ แต่ตอนนี้เขากล้ามาเหยียบบริษัทแล้วทำเป็นสั่งนั่นนี่ ช่างกล้านัก

“คุณปู่คะ ดูหลี่โม่คนนี้สิ เขาอยากจะเข้ามายุ่งเรื่องธุรกิจของเรา” กู้ชิงหลินใบหน้าเย็นชาหยิ่งยโส ดวงตาที่เหมือนฟินิกซ์ของเธอดูเหมือนว่าอยากจะฆ่าหลี่โม่

สีหน้าของคุณท่านกู้เริ่มอึมครึม เขามองหลี่โม่อย่างไม่พอใจและพูดอย่างเคร่งขรึม “ออกไป!”

ไอ้คนนอกนี่ เกาะตระกูลกู้กินยังไม่พอ ยังทำให้ตระกูลกู้อับอายในเมืองฮั่นนี้ด้วย แถมตอนนี้ยังกล้าเข้ามายุ่งเรื่องธุรกิจในบริษัทอีก

นี่เขาคิดจะทำอะไร?

นี่เขาอยากมีส่วนร่วมในบริษัทอย่างนั้นเหรอ?

อย่างไรก็ตาม หลี่โม่ไม่ได้สนใจคุณท่านกู้ เขามองไปที่กู้หยุนหลานด้วยสายตาที่หนักแน่น พร้อมจับมือที่บอบบางของเธอและพูดว่า “เชื่อใจผม”

สามคำนี้ทำให้กู้หยุนหลานมีแรงกระตุ้นอย่างฉับพลัน เธอหันหน้าไปพูดกับคุณท่านกู้ “คุณปู่คะ ฉันตกลงค่ะ”

เมื่อพูดอย่างนั้น เธอหันใบหน้าที่ภาคภูมิใจไปมองที่กู้ซิงเหว่ยอย่างเย็นชา และพูดว่า “กู้ซิงเหว่ย ไหน ๆ นายก็อยากจะไล่ฉันออกจากบริษัทหยุนเชิงใช่ไหม? ได้เลย ฉันตกลงและสัญญาว่าจะทำให้ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากหรงคังกรุ๊ป ฉัน กู้หยุนหลาน พร้อมลาออก!”

“หยุนหลาน แกต้องคิดให้ดีก่อนนะ เรื่องนี้ไม่ได้แค่เกี่ยวกับอนาคตของแกเอง แต่ยังเกี่ยวข้องกับอนาคตของตระกูลกู้ของเราต่อไปในอนาคตข้างหน้า” คุณท่านกู้กล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

กู้หยุนหลานพูดอย่างจริงจังว่า “คิดดีแล้วค่ะ”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ริมฝีปากของกู้ซิงเว่ยก็โค้งงอเป็นรอยยิ้มร้ายกาจ เขาพูดว่า “เอาล่ะ เธอพูดออกมาจากปากเองนะ ทุกคนในวันนี้เป็นพยาน อย่ามากลับคำพูดทีหลังแล้วกัน”

“ฉันไม่กลับคำพูดแน่ แต่ถ้าฉันร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปได้ นายจะทำอะไร?” กู้หยุนหลานถามทันที ราวกับว่าเธอมีความมั่นใจมาก

เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เธอก็พูดแบบนี้ บางทีอาจเป็นเพราะความกล้าหาญและความมั่นใจที่หลี่โม่มอบให้เธอ

คนเราควรมีชีวิตอยู่ด้วยความภาคภูมิใจ

“หึหึ ถ้าเธอสามารถชนะความร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปได้สำเร็จ ฉันจะไม่แข่งกับเธอเรื่องตำแหน่งรองประธานบริษัท จะยกให้เธอไปเลย!” กู้ซิงเหว่ยหัวเราะอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความล้อเลียน

เธอคิดว่าตัวเองจะชนะการร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปมาได้จริง ๆ เหรอ? ฝันอะไรลม ๆ แล้ง ๆ !

“ได้!”

กู้หยุนหลานพยักหน้าตอบ และหันกลับมาลากหลี่โม่ออกจากห้องประชุมไป

หลังจากที่พวกเขาเดินออกมา เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็ปะทุขึ้นในห้องประชุม

“กู้หยุนหลานคนนี้ ประเมินความสามารถตัวเองสูงไปหรือเปล่า ยังจะหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่จะร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปอีก คราวนี้เธอโดนไล่ออกแน่”

“หึหึ ไม่ใช่เพราะเจ้าขยะหลี่โม่นั่นเข้ามาจุ้นจ้านเหรอ ช่างเป็นสามีที่ประเสริฐจริง ๆ”

“ไร้ค่าก็คือไร้ค่าอยู่วันยังค่ำ ยังจะคิดว่าตัวเองมีความสามารถอีก ฉันอยากจะเห็นว่ามันจะช่วยกู้หยุนหลานให้ชนะสัญญาได้ยังไง”

ใบหน้าของคุรท่านกู้เคร่งขรึม เขาก็กระทุ้งไม้ค้ำในมือแล้วพูดว่า “เอาล่ะ จบการประชุม!”

ทางด้านนี้ กู้หยุนหลานและหลี่โม่กำลังกลับบ้าน

แม่ยายหวังฟางก็รีบขึ้นมาตบหน้าหลี่โม่และต่อว่า “ไอ้ขยะ วันนี้แกไปที่บริษัททำไม หืม? แล้วยังเสนอให้หยุนหลานไปตกลงเดิมพันกับกู้ซิงเหว่ยอีก แกรู้ไหมว่า แกกำลังขุดหลุมฝังลูกสาวฉันน่ะ ฮะ?!”

หลี่โม่ผงะ เมื่อเขาต้องการอธิบายแม่ยายหวังฟาง เธอยังคงดุเขาต่อ “ไปให้พ้น”

​​​​หลี่โม่ทำอะไรไม่ได้ จึงเดินเข้าไปล้างจานในครัว

เมื่อมองดูแผ่นหลังอันอ้างว้างของหลี่โม่แล้ว กู้หยุนหลานพูดกับหวังฟางอย่างกระวนกระวายใจ “แม่คะ นี่แม่ทำอะไรลงไปน่ะ หนูตกลงเรื่องนี้เอง ไม่เกี่ยวอะไรกับหลี่โม่เลย”

“ไม่เกี่ยวอะไรกัน แกคิดว่าฉันโง่เหรอ? ฉันได้ยินหมดแล้ว ไอ้ขยะนั่นมันเสนอหน้าเข้าไปในห้องประชุม และขอให้แกตอบตกลง นี่แกกำลังปกป้องมันอยู่เหรอ?” หวังฟางกัดฟันด้วยความโกรธ อยากจะบีบคอหลี่โมซะ!

เมื่อมองหลี่โม่ที่กำลังยุ่งอยู่ในครัว เธอก็คิดว่า ‘หึ ขยะมันก็เป็นได้แค่ขยะตลอดไปนั่นแหละ!’

“แกเป็นอะไรไปแล้วฮะ? นี่แกเสียสติไปแล้วใช่ไหม? แกกล้าไปฟังคำพูดของไอขยะนั่นได้ยังไง?” หวังฟางตำหนิและใช้นิ้วเฉดหน้าผากของกู้หยุนหลาน

กู้หยุนหลานก็เศร้าเช่นกัน เธอโกรธเพียงชั่วครู่ แต่พอเธอมานึกถึงกำลังใจจากหลี่โม่ ก็ยอมรับ

แต่ตอนนี้ พอมาคิดดูแล้ว นี่มันหาเรื่องใส่ตัวชัด ๆ

บริษัทหรงคังจะร่วมมือกับตระกูลกู้ได้อย่างไร?

“แม่คะ หนูขออยู่คนเดียวสักพักเถอะค่ะ”

กู้หยุนหลานเดินเข้าไปในห้องนอนและปิดประตูด้วยเสียงปังทันที

หวังฟางกระทืบเท้าอย่างโกรธเคือง จ้องไปที่กู้เจี้ยนหมิน ซึ่งยังคงอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟา และด่าว่า “ดู ดูซิ ดูนั่น ก็ยังเอาแต่อ่านหนังสือพิมพ์ รู้บ้างไหมว่าลูกสาวเกือบจะถูกไล่ออกจากบริษัท ครอบครัวของเรากำลังจะอดตายอยู่แล้ว!”

กู้เจี้ยนหมินถอนหายใจแล้วพูดว่า “คุณร้อนรนอะไรกัน ปัญหาทุกอย่างมีทางออก คนหนุ่มสาวปล่อยให้พวกเขาแก้ปัญหาด้วยตัวเองเถอะ ถ้าออกจากบริษัทนั่นจริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าลูกสาวเราจะทำมาหากินอย่างอื่นไม่ได้เสียหน่อย”

“คุณกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่ คุณไม่ต้องการมรดกของคุณพ่อแล้วใช่ไหม?” เมื่อหวังฝางได้ยินเรื่องนี้ก็กังวลและพูดว่า “กู้เจี้ยนหมิน ยังมองไม่ออกอีกเหรอ? ฉันอยู่กับคุณมานาน แต่เรายังติดแหง็กอยู่ในบ้านเล็ก ๆ สามห้องนอน ดูบ้านต้นตระกูลกับบ้านลูกชายคนที่สามซิ แทบจะใหญ่เท่าคฤหาสน์ คุณนี่มันเหมือนไอ้หลี่โม่จริง ๆ ไร้ค่าเหมือนกันจริง ๆ ไม่เอาอะไรสักอย่าง มันน่าโมโหนัก!”

หลังจากพูดจบ หวังฟางก็เริ่มทุบตี กู้เจี้ยนหมินปกป้องตัวเองอย่างอดทน และพูดว่า “อย่าตีผม ฉันผิดไปแล้วไง โอเคไหม?”

หลังจากนั้นไม่นาน หลี่โม่ก็เดินเข้าไปในห้องนอนพร้อมกับถืออ่างน้ำสำหรับแช่เท้า เขาเห็นกู้หยุนหลานนอนตะแคงอยู่บนเตียง จึงกระซิบว่า "หยุนหลาน ผมเตรียมน้ำร้อนไว้ให้คุณแล้วนะ"

กู้หยุนหลานลุกขึ้นมองหลี่โม่ด้วยตาแดงก่ำ และถามอย่างจริงจัง “หลี่โม่ สิ่งที่คุณพูดในห้องประชุมวันนี้ ก็แค่เรื่องโกหกใช่ไหม ถ้าฉันตกงานขึ้นมา แล้วซีซีจะเป็นยังไง? แล้วแม่ของคุณล่ะ?”

ดวงตาของกู้หยุนหลานปกคลุมไปด้วยคราบน้ำตา

เธอเกลียดตัวเองที่สุดที่เชื่อในคำพูดของหลี่โม่ ตอนนี้จะกลับไปแก้ไขอะไรก็คงไม่ได้แล้วในเมื่อทำไปแล้ว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่โม่ก็รู้สึกอบอุ่นในใจ

กลายเป็นว่า เธอเป็นห่วงแม่ของเขาด้วยนั่นเอง จิตใจช่างอ่อนโยนจริง ๆ

แม่ของเขาสุขภาพไม่ดี พวกเขาใช้เงินเป็นจำนวนมากไปกับการรักษา และเงินทั้งหมดนั้นก็ได้รับมาจากตระกูลกู้

ตอนนี้แม่ของเขากำลังทำธุรกิจเล็ก ๆ ที่บ้านของพวกเขา และหลี่โม่จะกลับไปดูทุกสองสามวัน

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หลี่โม่ก็ยื่นมือออกไปถอดรองเท้าและถุงเท้าของกู้หยุนหลาน เขาจับอุ้งเท้าอันบอบบางที่ขาวราวกับหยก และค่อย ๆ จุ่มลงในน้ำ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “หยุนหลาน ผมไม่ได้โกหกนะ สัญญานี้ ต้องเป็นคุณเท่านั้น”

เมื่อเขาพูดเช่นนี้ ออร่าแรงกล้าก็แผ่ออกมาจากหลี่โม่ เขามองไปที่กู้หยุนหลานอย่างจริงจัง และเช็ดน้ำตาออกจากหางตาของเธอ

“หยุนหลาน ในอดีต มันเป็นความผิดของผมเองที่ทำให้คุณต้องทนทุกข์ทรมาน ไม่ต้องห่วงนะ จากนี้ไปมันจะไม่มีอีกแล้ว”

“ผมจะมอบอนาคตที่ทุกคนต้องอิจฉาให้กับคุณและซีซี!”

“ทั้งเมืองฮั่นจะต้องภาคภูมิใจและให้เกียรติที่คุณเป็นภรรยาของผม!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 11

    นี่คือคำสัญญาของหลี่โม่ที่มีต่อกู้หยุนหลาน คำไหนคำนั้น!มันเป็นความรู้สึกผิด และการชดเชยให้กับกู้หยุนหลานในช่วงสี่ปีที่ผ่านมาของเขาในช่วงสี่ปีที่ผ่านมานั้น กู้หยุนหลานไม่เคยทอดทิ้งหลี่โม่ เธอมักจะแอบเอาเงินไปให้แม่ของหลี่โม่ เขารู้เรื่องพวกนี้ทั้งหมดแม้ว่าปกติเธอจะเย็นชา และเอาจริงเอาจังกับหลี่โม่ แต่หลี่โม่ก็รู้สึกว่ามันเป็นความรักที่เธอมีต่อเขาหลี่โม่รอคอยผู้หญิงที่ดีเช่นนี้มาทั้งชีวิต เขาต้องการใช้เวลาที่เหลือในชีวิตเพื่อปกป้องกู้หยุนหลานและลูกสาวของเขาอย่างจริงจัง“คุณไม่ได้โกหกฉันจริง ๆ ใช่ไหม?” ใบหน้าสวยของกู้หยุนหลานแดงเล็กน้อย และเต็มไปด้วยน้ำตา หลายปีที่ผ่านมาเธอถูกดูหมิ่น และถูกตระกูลกู้ทอดทิ้ง กู้หยุนหลานหวังว่าสักวันหนึ่งเธอจะยืนอย่างสง่าผ่าเผยโอบกอดหลี่โม่ต่อหน้าคนอื่น และบอกกับทุกคนว่านี่คือสามีของเธอ พ่อของซีซีหลี่โม่เช็ดเท้าที่ใสราวกับหยกละเอียดอ่อนของกู้หยุนหลานอย่างเงียบ ๆ และพูดว่า “หยุนหลาน ผมสัญญาว่า ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอีก!”พูดจบหลี่โม่ก็หันหลังเดินออกไปกู้หยุนหลานนั่งอยู่ข้างเตียงมองดูหลี่โม่ที่จากไปด้วยดวงตาพร่ามัว “หลี่โม่ อย่าทำให้ฉันผิดหวังในต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-30
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 12

    เสียงเรียกเข้าที่น่าขนลุกดังขึ้นในเวลานี้ ทำให้บรรยากาศภายในห้องทำงานเงียบลงทันที!หรงปินแสดงสีหน้าไม่พอใจ ภายในใจนึกสงสัย ใครกันที่โทรหาเขา?ทันทีที่เขารับสาย เขาได้ยินเสียงคำรามของหรงชางมาจากปลายสายของโทรศัพท์ เขาตะโกนอย่างโกรธเคืองว่า “หรงปิน แกรู้ไหมว่าแกทำเรื่องโง่อะไรลงไป!”“คุณลุง เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?” หรงบินตกตะลึง ตัวแข็งทื่อไปหมดลุงของเขา ผู้ก่อตั้งบริษัทหรงคัง ในเวลานี้กำลังโกรธจัด!เขาไม่เคยเห็นมาก่อน!“ยังจะถามว่าเป็นอะไร ฉันจะถามแกว่าตอนนี้คุณหลี่อยู่ข้างหน้าแกไหม” หรงชางเหอตะโกนถามหรงปินใจสั่น คุณหลี่เหรอ?เขาเลิกคิ้วขึ้นมองไปที่หลี่โม่ซึ่งดูสงบและเอามือไขว้หลังไว้ เขาเหรอ?“ใช่ครับ อยู่ครับ” หรงปินตอบอย่างรวดเร็วหรงชางเหอกล่าวตำหนิ “แกขอโทษคุณหลี่เดี๋ยวนี้ นอกจากนั้นเรื่องความร่วมมือของบริษัทสาขาเมืองฮั่นขึ้นอยู่กับคุณหลี่ ใครก็ตามที่เขาขอให้แกร่วมมือด้วยแกก็ต้องร่วมมือ เข้าใจไหม?!”ภายในใจหรงปินตื่นตระหนก ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่?จู่ ๆ ก็ปลุกให้ลุงมาสั่งเองได้!“คุณลุง อะไรกันครับเนี่ย? หลี่โม่เขาเป็นเพียงลูกเขยไร้ประโยชน์จากตระกูลกู้ในเมืองฮั่น เขามีดี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-30
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 13

    หลี่โม่เบิกตากว้างด้วยความโกรธ คนตรงหน้าไม่ใช่ใครอื่น กู้ซิ่งเหว่ยนั่นเอง!กู้ซิ่งเหว่ยเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย เขาพูดอย่างจองหองว่า “โอ้หลี่โม่ ตอนนี้แกเก่งแล้วสินะถึงกล้าพูดกับฉันแบบนี้?”โครม!กู้ซิ่งเหว่ยเตะขึ้นไปบนหน้าอกของหลี่โม่อย่างแรง!หลี่โม่เซถอยหลังไปสองสามก้าว ใบหน้าของเขาเย็นชา มือกุมหน้าอกตนเองแม่หลี่โม่ตะโกนขึ้นมาว่า “โม่ ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม?”“คุณแม่ ผมไม่เป็นไร” หลี่โม่รีบดึงแม่ของเขาไว้เขาไม่ต้องการให้แม่ของเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง ดูเหมือนว่ากู้ซิ่งเหว่ยตั้งใจที่จะมาหาเรื่อง“คุณ… คุณชายกู้ ถ้าลูกโม่ทำอะไรให้คุณไม่พอใจ ฉันจะขอโทษคุณแทนเขาด้วยนะคะ ปล่อยเขาไปเถอะนะคะ ไม่ว่ายังไง ลูกโม่ก็เป็นลูกเขยของตระกูลกู้…”แม่ของหลี่โม่กล้ำกลืนความเจ็บช้ำน้ำใจบีบยิ้มพูดกับกู้ซิ่งเหว่ยคิ้วของกู้ซิ่งเหว่ยขมวด เขามองที่แม่ของหลี่โม่อย่างเย็นชาและตะโกนว่า “ออกไป! แกเป็นแม่มันอย่ามายุ่ง แม่ที่ไร้ประโยชน์ คนที่นอนรอคอยความตายอย่างแก มีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันปล่อยมันไป?”พูดจบกู้ซิ่งเหว่ยยกมือขึ้น เขากำลังจะตบหน้าแม่ของหลี่โม่!หลี่โม่ทนไม่ไหวแล้ว!บนโลกนี้ไม่มีใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-31
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 14

    ในขณะเดียวกัน หลี่โม่ก็มาถึงโรงพยาบาลแล้วแม่ยายได้เตือนสติเขาหลายครั้งตั้งแต่เช้าตรู่ ทันทีที่เดินเข้าไป หลี่โม่ก็ชนเข้ากับหลิวซินหมินซึ่งกำลังรีบวิ่งมา เขายิ้มอย่างชื่นชมและพูดว่า “ยินดีต้อนรับคุณหลี่สำหรับการมาตรวจงานที่โรงพยาบาลของเรา”หลี่โม่แสดงสีหน้าตกใจ เขาโบกมือแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการหลิว คุณไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอก ทำงานของคุณเถอะ ผมแค่มาเยี่ยมลูกสาว”หลิวซินหมินยิ้มอาย ๆ และพูดว่า “ได้ครับ ผมจะไม่รบกวนคุณหลี่ อย่าได้กังวลเรื่องอาการของลูกสาวคุณเลยนะครับ ทางเราจัดการประชุมผู้เชี่ยวชาญข้ามคืนและตอนนี้เรามีแผนแล้ว”หลี่โม่พยักหน้า หลิวซินหมินจึงหันหลังเดินออกไปหลังจากนั้นเขาเดินไปที่ห้องของซีซี ทันทีที่เขาก้าวเข้าประตู เขากลับถูกต่อว่าด้วยคำพูดที่รุนแรง“หลี่โม่ ทำไมแกถึงเพิ่งมาเอาตอนนี้ แกไม่รู้เหรอว่าในโรงพยาบาลทั้งสกปรกและเหนื่อยมากน่ะฮะ?”เมื่อแม่ยายหวังฟางเห็นหลี่โม่กำลังเข้ามา เธอรีบพุ่งเข้าไปหาเขาอย่างเดือดดาลและชี้หน้าหลี่โม่พร้อมกับด่าชุดใหญ่!น่าโมโหชะมัด!ตนดูแลแล้วตลอดช่วงเช้า ไอ้เด็กเวรนี่สมควรตาย เสียเวลาจริง ๆ !หากไม่ใช่เพราะนายท่านกู้ชอบซีซี หวังฟา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-31
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 15

    เบลล์คลับ?กู้หยุนหลานขอความช่วยเหลือ!ทำไมเธอถึงไปที่แบบนั้น?หลี่โม่ไม่มีเวลาคิด เขาหันหลังแล้ววิ่งออกจากห้องผู้ป่วยด้วยความกระวนกระวายใจ!กู้หยุนหลานจะต้องไม่เป็นอะไร!หวังฟางที่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เธอเห็นหลี่โม่รีบวิ่งออกไปเธอชี้ไปที่แผ่นหลังของหลี่โม่ที่วิ่งออกไปและตะโกนด่าว่า “หลี่โม่ ไอ้คนไร้ประโยชน์ แกจะไปไหนอีก?”น่าโมโหซะจริง!ไอ้หลี่โม่คนนี้ ไม่ใช่เพราะตนเองด่าไปสองสามคำจึงทำให้เขาวิ่งออกไปใช่ไหม?ช่างเป็นขยะที่ไร้ความสามารถจริง ๆ !หลี่โม่ที่เพิ่งวิ่งออกมาจากโรงพยาบาล กำลังจะเรียกรถ แต่แล้วจู่ ๆ รถ Ferrari คันใหม่เอี่ยมที่ตระการตาก็หยุดอยู่ตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็วหญิงสาวคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ เธอสวมเสื้อโอเวอร์โค้ทสีแดงเพลิงเข้าเซ็ตกับสายเดี่ยวคอวีตัวในและกางเกงทรงกระบอกสีฟ้าอ่อน ขาสวยเรียวยาวชวนหลงใหล เธอดูมีเสน่ห์และเซ็กซี่อย่างเป็นธรรมชาติ“คุณหลี่ คุณจะไปไหนคะ?”ริมฝีปากสีแดงของหญิงสาวเปิดขึ้นเล็กน้อย เธอเดินไปด้านหน้าหลี่โม จากนั้นจึงโค้งคำนับด้วยความเคารพและเอ่ยถามการโค้งคำนับในครั้งนี้ยิ่งทำให้เธอดูน่าหลงไหลมากยิ่งขึ้นอีก“คุณเป็นใคร?” หลี่โ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-31
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 16

    ใบหน้าของหลี่โม่เย็นชา น้ำเสียงของเขาดูรุนแรง การแสดงออกของเขาดูจริงจัง มีเจตนาฆ่าที่เฉียบคมทั่วร่างกายของเขา!ไป่เสวี่ยเอ๋อร์สั่นสะท้านและถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่รู้ตัว!เกิดอะไรขึ้นกับไอ้คนนั้น?ทำไมถึงมีออร่าที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ในร่างกายของเขา!ไม่นึกเลยว่าจะน่ากลัวกว่าคุณโหว!ยิ่งไปกว่านั้น แรงกดดันที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้านั่น มันก็ไม่ธรรมดาเลยสักนิด มันทำให้คนอึดอัดจนหายใจไม่ออก! ภาพลวงตาเหรอ?ไอ้เด็กนี่ เป็นคนอย่างไรกันแน่?ไป่เสวี่ยเอ๋อร์สงบลงอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาเย็นชา เธอก็พ่นลมหายใจออกมา “คุณฉิน หนุ่มที่คุณพามาดูค่อนข้างน่ากลัวนะ เขาไม่รู้หรือไงว่าที่นี่คือถิ่นของคุณโหว?!”ฉินรั่วรั่วยิ้มจาง ๆโหวหยวนหย่ง?แล้วไง!ต่อหน้าคุณหลี่ ทุกสิ่งในโลกล้วนเป็นเหมือนมด ไม่มีอะไรต้องกลัว!อย่าบอกว่าเป็นโหวหยวนหย่ง ถึงแม้ว่าจะเป็นคุณเทียน เมื่อเห็นเจอคุณหลี่ ก็ต้องให้ความเคารพ!“ไป่เสวี่ยเอ๋อร์ ฉันจะเตือนเธอเป็นครั้งสุดท้าย รีบพาพวกเราไปที่นั่น ไม่อย่างนั้น เธอจะต้องรับผลที่ตามมาเอง!”ฉินรั่วรั่วพูดออกมา จะเกิดอะไรขึ้นในภายหลังทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับไป่เสวี่ยเอ๋อร์แล้ว!ยิ่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-31
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 17

    ชูจงเทียน!ราชามาเฟียใต้ดินแห่งเมืองฮั่น!เป็นคนที่อยู่เหนือฟ้าอย่างแน่นอนในเมืองฮั่น ชูจงเทียนเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ไม่มีใครกล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา!ถ้าจะให้พูด ก่อนหน้านี้โหวหยวนหย่งเป็นคนหยิ่งมากและต้องการจับฉินรั่วรั่ว ตอนนี้เขาพบกับชูจงเทียน เขาไม่กล้าอีกต่อไป เพียงแค่ทำหน้าตาบูดบึ้งยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างขมขื่นคนของโลกใต้ดินเมื่อพบกันก็มักอิจฉากัน!“คุณเทียน คุณพาคนจำนวนมากมาในสถานที่ของผม มันหมายความว่ายังไง?”โหวหยวนหย่งไม่พอใจอย่างมากกับใบหน้าของเขาที่เย็นชา เขาแอบกัดฟันและกำหมัดไว้พูดอีกอย่างก็คือ เขาเป็นเจ้าของเบลล์คลับและเป็นหนึ่งในลูกพี่ใหญ่ของเมืองฮั่นแม้ว่าเขาจะไม่กล้าท้าทายชูจงเทียนแต่เขาก็ไม่สุภาพเกินไปเมื่อมองไปที่ชูจงเทียนอีกครั้ง เขาก็พบว่าชายคนนี้เพิกเฉยต่อการมีอยู่ของโหวหยวนหย่งและไม่ได้สนใจที่จะมองเขาด้วยซ้ำมันทำให้โหวหยวนหย่งโกรธมาก!'นี่มันหมายความว่ายังไง!''ฉันโหวหยวนหย่งยังไม่สามารถอยู่ในสายตาของชูจงเทียนได้งั้นเหรอ?!'อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ต่อมานั้นทำให้โหวหยวนหย่งและคนอื่น ๆ ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบโต้!ทุกคนสั่นสะท้าน!แม้แต่ฉินรั่วรั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-31
  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 18

    ในขณะนี้หรงปินเดินออกจากอาคารของหรงคังกรุ๊ป มีรถ Bentley สีดำคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตูพร้อมกับการ์ดชุดดำท่าทีจริงจังหลายสิบคนอยู่ข้าง ๆ ถ้าคนอื่นเห็นต้องตื่นตระหนกแน่นอน!หรงปินประธานหรงคังกรุ๊ปออกมาแล้ว!มีกี่คนที่ร้องขอให้พบกับประธานหรงหรงคังกรุ๊ปแห่งเมืองฮั่น แต่พวกเขาถูกปฏิเสธตอนนี้เขาออกไปด้วยตัวเองจริง ๆ“พ่อ?”หรงฉางเวยตกตะลึง ทันทีที่ได้ยินเสียงในโทรศัพท์ เป็นเสียงพ่อของเขาไม่มีผิดแน่สถานการณ์คืออะไร?“ฉางเวย เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงมีโทรศัพท์มือถือของคุณหลี่?” อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ หรงปินก็ตัวสั่นและเสียงของเขาก็สูงขึ้น“ไอ้เด็กนี่มันทำร้ายผม ผมจะฆ่ามัน!” หรงฉางเวยเลิกคิ้วขึ้น ใบหน้าของเขามองดูหลี่โม่อย่างไม่แยแส ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ'มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ ๆ พ่อของฉันรู้จักไอ้ตัวแสบแบบนั้นได้ยังไงกัน'ยิ่งกว่านั้น ยังมีความนับถือด้วย!เป็นไปไม่ได้!“สามหาว! ใครจะกล้าให้แกไม่เคารพคุณหลี่? ส่งมือถือให้คุณหลี่เดี๋ยวนี้!” หรงปินตะโกนอย่างโกรธจัด ทันได้นั้นเขาก็ใจหาย นี่ลูกชายเขายั่วโมโหคุณหลี่หรือเปล่า?หรงปินตระหนักดีถึงธรรมชาติของลูกชายของเขาเอง เขาไม่เรี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2021-07-31

บทล่าสุด

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 939

    “คุณชาย อย่ามาขู่ผมเลยครับ ผมไม่กลัวหรอกนะ สิ่งที่ผมพูดไปเมื่อครู่ล้วนมีเหตุมีผล หากไม่เชื่อก็ถามซินแสที่มาดูฮวงจุ้ยให้ได้เลยครับ คำพูดพวกนี้เขาเป็นคนพูดเองกับปากทั้งนั้น” ผู้จัดการหวังแข็งขืน ไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย หลี่โม่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม "เหวินซิน อย่าหุนหันพลันแล่น ผู้จัดการหวังพูดถูกแล้ว คนที่โชคชะตาบารมีไม่ถึง ไม่มีทางข่มพลังฮวงจุ้ยอันยอดเยี่ยมได้แน่นอน” คังเหวินซินพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "อาจารย์พูดถูกแล้วครับ แต่ด้วยบารมีของอาจารย์ จะต้องสามารถข่มมันได้อย่างแน่นอน พวกเรามาดูกันดีกว่า ที่นี่ล้วนได้รับการตกแต่งอย่างดี คุณหิ้วกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย เหลือแค่ดูว่าวิลล่าหลังนี้ถูกใจคุณหรือเปล่าก็พอครับ” เมื่อเห็นคังเหวินซินพยายามเอาอกเอาใจหลี่โม่ ผู้จัดการหวังก็เกิดความสงสัยเล็กน้อย หรือว่าตนจะมองผิดไป? ผู้ชายที่สวมเสื้อผ้าแผงลอยทั้งตัวคนนี้ เป็นคุณชายเศรษฐีที่มาลองสัมผัสประสบการณ์ชีวิตงั้นเหรอ? ไม่อย่างนั้นทำไมคุณชายของตนถึงได้ไปประจบเอาใจเขาขนาดนี้กัน? “คุณชาย ท่านนี้คืออาจารย์ของคุณเหรอครับ?” ผู้จัดการหวังถามอย่างสงสัย “นี่คืออาจารย์ของฉันหลี่โม่ นายสุภาพกับอาจารย์ของฉัน

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 938

    “ไอ้สารเลวคนไหนไม่ดูตาม้าตาเรือ กล้ามาแย่งวิลล่าของอาจารย์ พวกแกยังมัวแต่กินอะไรกันอีก ไปดูด้วยกัน จัดการไอ้พวกสารเลวนั่นซะ” “ศิษย์พี่เกิ่งพูดถูก พวกเราทุกคนต้องไปดูด้วยกัน บ้านของอาจารย์ต้องดีที่สุดเท่านั้น จะผิดพลาดไม่ได้แม้แต่นิดเดียว” ศิษย์พี่เกิ่งและคนอื่น ๆ พากันลุกขึ้นทีละคน เมื่อเห็นเช่นนี้คังหย่งเฉียนก็เรียกให้พนักงานคิดเงินทันที แล้วจึงพาพวกของศิษย์พี่เกิ่งมุ่งตรงไปยังสวนหนานชุ่ย ... รถเมอร์เซเดสเบนซ์ขับเข้าไปในสวนหนานชุ่ย และขับตรงไปตามทางขึ้นยอดเขา ใกล้กับยอดเขาของเขาหนานชุ่ยนั้นมีที่ราบอยู่บริเวณหนึ่ง ที่ราบนี้ถูกนำมาใช้สร้างวิลล่า พร้อมทั้งปลูกต้นไม้พืชพรรณเขียวชอุ่มรอบ ๆ วิลล่าอีกด้วย ด้านหน้าวิลล่ายังมีลำธารที่ไหลมาจากยอดเขา ทำให้ฮวงจุ้ยของวิลล่านี้ยอดเยี่ยมมากไร้ที่ติ หน้าน้ำหลังเขา ตำแหน่งปากมังกรจัดวางฮวงจุ้ยอย่างดี ทำให้วิลล่าบนยอดเขาหลังนี้เลิศล้ำไม่มีใครเทียม รถเมอร์เซเดสเบนซ์จอดสนิทหน้าประตูวิลล่ายอดเขา ผู้จัดการหวังและพนักงานขายสาวสองคนยืนรอที่ประตูวิลล่าอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นรถเบนซ์จอดนิ่ง ผู้จัดการหวังก็รีบวิ่งเหยาะ ๆ เข้าไปช่วยเปิดประตูรถ

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 937

    ผู้จัดการหวังหยิบบุหรี่ออกมาคาบที่มุมปาก เตรียมจะสูบบุหรี่เพื่อสงบสติอารมณ์ คำขอของคังเหวินซินทำให้ผู้จัดการหวังตั้งตัวไม่ติด การจะดูบ้านมันไม่มีปัญหาหรอก แต่ถ้าอีกฝ่ายถูกใจขึ้นมาจริง ๆ จะทำอย่างไรล่ะ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องราคาต้นทุนหรือเปล่า ถ้าคังหย่งเฉียนเข้ามาครอบครองวิลล่าหลังนี้ เขาก็คงไม่ได้เงินเลยสักแดงเดียว พอนึกถึงคังหย่งเฉียนขึ้นมาผู้จัดการหวังรู้สึกปวดจี๊ด ๆ ขึ้นมา เจ้านั่นเป็นปีศาจเจ้าสำราญแห่งตระกูลคัง วัน ๆ เอาแต่เกียจคร้าน กินดื่มเที่ยวเล่น ยิ่งกว่านั้นยังคบค้ากับพวกอันธพาล ก่อนหน้านี้ผู้อาวุโสตระกูลคังก็ยังถูกคังหย่งเฉียนยั่วโมโหจนเส้นเลือดในสมองตีบ แทบทุกคนในตระกูลคังล้วนทำเป็นไม่สนใจคังหย่งเฉียน ตราบใดที่คังหย่งเฉียนไม่ได้ก่อปัญหา ก็ไม่มีใครสนใจว่า คังหย่งเฉียนจะทำอะไร ถ้าหากยกวิลล่าให้เพื่อนของคังเหวินซินจริง ๆ คังหย่งเฉียนคงจะพาคนมาสับเขาเป็นชิ้น ๆ ถึงที่แน่ หลังจากสูบบุหรี่หมดมวน ผู้จัดการหวังก็ขยี้ก้นบุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ รู้สึกว่ายังไงก็ควรแจ้งให้คังหย่งเฉียนรู้สักหน่อย ส่วนคังหย่งเฉียนจะต่อสู้กับคังเหวินซินอย่างไรนั้นก็เป็นเรื่องระหว่างพวกเขา

DMCA.com Protection Status