เธอมันนางแพศยา!อาศัยเรือนร่างในการประจบประแจงเถ้าแก่เพื่อขึ้นตำแหน่ง สวยแต่เปลือก!ในเวลาต่อกันนั้น ซุนเสี่ยวหยาเอาความโกรธไปลงที่หลี่โม่ เธอชี้หน้าเค้าพลางกล่าว “พวกแกยังยืนเฉยอยู่ทำไม เอาไอ้คนต่ำนี่ออกไป!”เมื่อพูดจบไม่นาน!เพียะ!หลินชิงหลินเหวี่ยงฝ่ามือไปอีกครั้งหนึ่ง!ครั้งนี้ ซุนเสี่ยงหยาหยุดชะงักไปโดยสิ้นเชิง สองมือของเธอยกขึ้นมาลูบที่แก้ม“ซุนเสี่ยวหยา เธอหุบปากเดี๋ยวนี้นะ นับแต่นี้ต่อไป เธอถูกไล่ออกแล้ว รีบออกไปเดี๋ยวนี้เลย!” หลินชิงหานตวาดเสียงเข้ม ความโกรธปรากฏอยู่ทั่วทั้งใบหน้า และมือก็ชี้ไปที่ประตูคนโง่ที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ อยากตายก็อย่ามาลากตนลงน้ำไปด้วย!“ผู้จัดการ คุณบ้าไปแล้วรึไง? คุณตบฉันทำไม ฉันจะเอาไอคนต่ำช้าคนนี้ออกไปมันผิดตรงไหน? แล้วอีกอย่าง คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉันออก? ในเมื่อแฟนของฉันเป็นคนดูแลที่นี่!”ซุนเสี่ยวหยาโกรธมาก เธอรู้สึกไม่ชอบนังแพศยาหลินชิงหานตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ผู้หญิงมักมากคนนี้อยู่กับแฟนของตนทั้งวัน ครั้งที่แล้วก็ไปเปิดห้องอยู่กับแฟน แล้วอยู่ ๆ แฟนของเธอก็ตะโกนเรียกชื่อเธอ!มันน่าโมโหจริง ๆ!ก็แค่ผู้จัดการตกอับคนหนึ่ง มันมีอะไรดีนักหนา
เมื่อหลินชิงหานฟังประโยคนี้ ใบหน้าก็ซีดลงทันที เธอเปล่งเสียงออกมาอย่างประชดประชันว่า “เจี่ยงอานหวา ใครให้นายเข้ามา ออกไปนะ!”เธอไม่ชอบเจี่ยงอานหวา ชายวัยกลางคนที่สุดแสนจะอ้วนท้วนคนนี้เอาเสียเลย เพราะอีกฝ่ายมักจะมาหลงไหลในความงามของเธอ และมักจะมาตามจีบเธอหลายหนทีเดียวมีโอกาสเข้าหน่อย ผู้ชายคนนี้ก็จะวิ่งเข้ามาหา ทำท่ายิ้มเขินไปมา และมักชวนเธอไปกินข้าวมิหนำซ้ำ ทั้งมือและเท้าของเจี่ยงอานหวาก็ไม่สะอาดเอาเสียเลย เขาคุ้นเคยกับการลักเล็กขโมยน้อย เดิมทีเขาก็ได้รับการยอมรับจากสังคมอยู่หรอก ทว่าเขามักจะสร้างปัญหา แถมยังเคยพาญาติสาวห่าง ๆ ของเขาเองเข้าไปมีอะไรด้วยกัน ในเวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์อีกตัวอย่าง เช่น ซุนเสี่ยวหยา หล่อนถูกเจี่ยงอานหวาพาเข้าไปในนั้น และกระชากลากถูด้วยมือเดียวของเขา“หลินชิงหาน เธอหมายความว่ายังไงกันแน่? ถึงจะดีจะเลวยังไง ฉันเจี่ยงอานหวาก็เป็นหัวหน้าควบคุมของเวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์ ดังนั้นฉันจะไม่มีสิทธิ์เข้ามานั่งเลยหรือไง?”เจี่ยงอานหวาค่อย ๆ นั่งบนโซฟา มือของเขาแบออก ขาทำท่าไขว่ห้าง แววตาสะท้อนกลับมา มองเรือนร่างของหลินชิงหาน“ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาทะเลาะกับนายแล้ว ออกไป
“พี่เจี่ยง พี่พูดอะไรน่ะ” เมื่อซุนเสี่ยวหยาที่อยู่ข้าง ๆ ได้ยินแบบนี้ เธอก็แสดงท่าทางราวกับแมวถูกเหยียบหางทันที เธอจ้องหน้าเจี่ยงอานหวาเจี่ยงอานหวาอธิบายทันที “อุ๊ย ผมก็พูดเล่นไปเรื่อยน่า ในใจของผมก็มีแค่คุณคนเดียวแหละ ถ้างั้นคุณลองคิดซิว่าควรทำยังไงดี?”คราวนี้ ซุนเสี่ยวหยาจึงอาศัยบารมีของเขามาอวดเบ่ง และชี้ไปที่หลี่โม่ด้วยความเย่อหยิ่งทันที เธอเยาะเย้ยและพูดว่า “ฉันต้องการให้หล่อนคุกเข่าลงและก้มหัวขอโทษฉัน!”ซุนเสี่ยวหยาเกลียดเธอมาก เธอรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ที่ลำพังตัวเธอเองจะทำให้หลินชิงหานขอโทษถ้าอย่างนั้นก็ทำให้ใยนี่อับอายไปเสียเลย!อีกอย่าง แรงงานต่างด้าวคนนี้คงเป็นคนรักของหลินชิงหานไม่อย่างนั้น เธอจะปกป้องเขาแบบนี้ทำไมกัน!หลี่โม่ตะลึงงัน ไฟลุกโชนที่ตัวเขาแล้วใช่ไหม?หลินชิงหานก็ตกใจเช่นกัน จากนั้นจึงหันไปค้อนใส่ซุนเสี่ยวหยาด้วยความโกรธจัด และตะโกนว่า “ซุนเสี่ยวหยา เธอไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้ที่นี่ หุบปากเหม็น ๆ ของเธอซะ!”ต้องการให้คุณหลี่คุกเข่าขอโทษหรือไงกัน?ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกรู้สาอะไรเอาเสียเลย?แม้แต่เฉียวเย่ยังให้เกียรติคุณหลี่ ซุนเสี่ยวหยา เธอเป็นบ้าอะไรกัน!“
หลินชิงหานพยักหน้าด้วยความเคารพและกล่าวว่า “รับทราบค่ะ คุณหลี่ จะดำเนินการเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”เมื่อได้ยินเช่นนี้ เจี่ยงอานหวาก็ตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จึงหัวเราะออกมาสองสามครั้ง และพูดอย่างสงสัย “นี่แก เมื่อกี้ว่าไงนะ แกต้องการให้หลินชิงหานเปิดโปงพวกเราทุกคน และยังจะตรวจสอบฉันอีกเหรอ? แกเป็นบ้าอะไร นึกไม่ถึงว่าจะกล้าพูดอวดดีขนาดนี้ รู้ไหมว่าตอนนี้แกอยู่ที่ไหน? และที่บอกว่าจะให้เจ้านายของพวกเราไปพบแกน่ะ อยากรู้จริง ๆ ว่าแกใหญ่มาจากไหนกันเชียว?”เขาถามเป็นชุดตอนนี้ เจี่ยงอานหวารู้สึกเหมือนกับกำลังฟังเรื่องตลกที่สุดของปีเลยทีเดียว ทุกคนต่างก็หัวเราะออกมาซุนเสี่ยวหยาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะด้วยสองสามครั้งและพูดประชดประชันว่า “ฉันก็บอกอยู่ว่าเขาเป็นไอ้กระจอก แถมยังคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่เป็นโต ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าคน ๆ นี้ใช้ชีวิตรอดมาได้ยังไง โง่เง่าสิ้นดี!"เจี่ยงอานหวาและซุนเสี่ยวหยาไม่เคยเห็นคนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน หรือว่าที่เขายังคิดว่าตัวเองเจ๋งกว่าเจ้านายของเวียนนา?นั่นคือเฉียวเย่เชียวนะ!เป็นถึงหนึ่งในสี่ราชาชมาเฟียใต้ดินของกรุงโซล!ใครกล้าดีบอกให้เขามาพบ?เท่ากับรนหาที่ตาย!ไร้สาระสิ้น
“คุณหลี่! ผมขอร้อง ปล่อยผมที ผมกลัวแล้ว!”ภายในห้องพัก เจี่ยงอานหวาดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่มีประโยชน์ใด ๆตอนนี้ มีเพียงซุนเสี่ยวหยานั่งอยู่ที่พื้นหลี่โม่เหลือบมองอย่างนิ่งเฉยและลุกจากไปหลินชิงหานตามเขาไป เตรียมส่งเขาโครม!ซุนเสี่ยวหยารีบวิ่งเข้ามา ดึงขากางเกงของเฉินผิง และร้องขอความเมตตา “คุณหลี่คะ ฉันผิดไปแล้วเช่นกัน ฉันก็เป็นแค่ผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะคะ ฉันกลัวแล้วค่ะ”หลี่โม่ไม่แม้แต่จะมอง เขาพูดอย่างเย็นชาว่า “ความอยุติธรรมถึงวาระถึงความพินาศ ไม่มีใครมีสิทธิ์ดูถูกแรงงานข้ามชาติที่ตั้งใจทำงานหนักหรอกนะ! หลินชิงหาน ตำแหน่งที่เธอคนนี้ ขอให้สาวน้อยที่อยู่ตรงประตูคนนั้นเข้ามาทำแทนทีนะ”“รับทราบค่ะ คุณหลี่” หลินชิงหานตอบและปล่อยให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยลากคอซุนเสี่ยวหยาออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อออกจากห้องพัก หลินชิงหานเหลือบมองหลี่โม่ที่เดินไปทางล็อบบี้และพูดคุยอย่างยิ้มแย้ม แต่คราวนี้ อุบัติเหตุก็เกิดขึ้น“หลี่โม่ แกมาที่นี่ทำไม?”ด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคยนั้น หลี่โม่หันศีรษะและมองไปที่ประตู พบว่าสูเทียนไฮ่กำลังมองมาที่เขาด้วยความสงสัย และความขย
ทว่าหลินชิงหานเมินเฉยต่อมือที่ยื่นไปของสูเทียนไฮ่ พร้อมเหลือบมองอย่างดูแคลน และตอบคำถามของหลี่โม่ว่า “ไม่เลยค่ะ”สูเทียนไฮ่นี่ นึกไม่ถึงเลยว่าจะกล้าอวดดีขนาดนี้!การทำให้คุณหลี่อับอาย ก็เหมือนการทำให้เวียนนาอับอายไปด้วย ไม่พอแค่นั้น นี่ยังทำให้เฉียวเย่ขายหน้าด้วย!สูเทียนไฮ่ผงะ ใบหน้าของเขาเกิดความสงสัย “ผู้จัดการหลินครับ กฎนี้มีอยู่ในเวียนนามานานแล้วไม่ใช่เหรอครับ?”กฎของเวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์ เฉียวเย่กำหนดขึ้นตั้งแต่แรก!ในกรุงโซลไม่มีใครกล้าละเมิดกฎเฉียวเย่เวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์รับเฉพาะผู้ที่มีฐานะดีเท่านั้น“อ้อ นั่นเป็นเมื่อก่อนค่ะ ตอนนี้ไม่มีกฎแบบนั้นแล้ว” หลินชิงหานตอบอย่างนิ่งเฉยว่าไงนะ?ไม่มีแล้วเหรอ!สูเทียนไฮ่ตะลึงอีกครั้งและรู้สึกสับสนมากทีเดียว เขาสงสัยว่าวันนี้หลินชิงหานกินยา แล้วลืมเขย่าขวดหรือเปล่า?หลินชิงหานเป็นผู้จัดการของเวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์นึกไม่ถึงว่าเธอก็ช่วยพูดแทนเจ้าหลี่โม่ขยะนี่อย่างเต็มที่“หลินชิงหาน คุณหมายความว่ายังไงครับ…” ตอนนี้สูเทียนไฮ่พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน เขาจ้องมองหลี่โม่ด้วยความรังเกียจ จึงตะโกนว่า “ตกลงแกมาทำอะไรที่นี่? หรืออยากให้ผู้จ
“ไม่ไม่ไม่ ผมขอโทษ ผมขอโทษ” สูเทียนไฮ่กล่าวอย่างกังวลใจจากนั้น เขาก็จ้องหลี่โม่ด้วยความโกรธ พลันกัดฟัน และพูดอย่างรวดเร็ว “หลี่โม่ ขอโทษ”“อะไรนะ? ฉันไม่ค่อยได้ยินเลย” หลี่โม่ยิ้มและพูดด้วยรอยยิ้มอารมณ์ไม่ดี ก็ไม่ผ่านนะ“หลี่โม่!” สูเทียนไฮ่ตะโกนออกมา พร้อมกัดฟันของเขา และพูดอย่างโกรธเคือง “แกนี่ ได้คืบจะเอาศอก!”“ผู้จัดการหลินครับ คุณดูสิ…” หลี่โม่ทำแบบนี้ ไม่แฟร์เอาซะเลยหลินชิงหานถอนหายใจอย่างเย็นชาสูเทียนไฮ่ตื่นตระหนกทันที จากนั้นก็กัดฟัน และพูดเสียงดัง “ฉันขอโทษ!”หลี่โม่ส่ายหัวและพูดว่า “ประธานสู ไม่ต้องกังวลหรอก”“แก!” สูเทียนไฮ่ระเบิดออกมาอย่างรวดเร็ว เขาพยายามระงับอารมณ์ หมัดของเขาแทบจะพุ่งออกมาดี หลี่โม่ ไม่นึกเลยว่าจะรอเพื่อทำแบบนี้กับฉันอาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่งเหรอ ได้ ฉันจะยอมให้แกครั้งหนึ่งแล้วกัน ครั้งต่อไปแกโดนแน่!หลินชิงหานพูดอย่างเย็นชา “ประธานสูคะ ในเมื่อคุณไม่เต็มใจ ก็ลืมมันไปเถอะค่ะ”สูเทียนไฮ่ตะลึง เขารู้ว่าถ้าเขาทำให้หลินชิงหานไม่พอใจ ก็เท่ากับทำเรื่องเวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์พัง และยังทำให้เฉียวเย่ขุ่นเคืองอีกด้วย!ปัญหานี้ใหญ่ทีเดียวดังนั้น ห
หลี่โม่เห็นกู้หยุนหลานมองเขาด้วยความสงสัย และกำลังจะพูดต่อ ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นกู้หยุนหลานเหลือบมองที่เบอร์โทรดังกล่าว คิ้วก็ขมวดเล็กน้อย และพูดว่า “ไอ้คนน่ารำคาญ”จากนั้น เธอก็รับโทรศัพท์ และถามอย่างสุภาพว่า “อ้าว สูเทียนไฮ่ นายมีเรื่องอะไรเหรอ?”อีกปลายสายของโทรศัพท์ สูเทียนไฮ่รู้สึกตื่นเต้นมาก และพูดว่า “หยุนหลาน คุณได้รับบัตรเชิญแล้วใช่ไหม?”บัตรเชิญเหรอ?กู้หยุนหลานมองไปที่บัตรเชิญสีทองของเวียนนาในมือของเธอ เธอใจแป้ว ปรากฏว่าสูเทียนไฮ่เป็นคนส่งมานี่เองคิดว่าเป็นหลี่โม่เสียอีกแต่คิดแบบนี้ก็ถูกแล้วล่ะ คนอย่างหลี่โม่จะหาบัตรเชิญจากเวียนนาคอนเสิร์ตฮอลล์ ให้เธอได้อย่างไรเพราะมันราคาแพงโข“ได้รับแล้วล่ะ ขอบคุณนะ” กู้หยุนหลานยิ้ม แล้วจึงพูด “แต่ว่า ฉันคงไปตามบัตรเชิญนี้ไม่ได้หรอก…”กู้หยุนหลานแค่อยากจะบอกว่า จริง ๆ แล้วเธอไม่สามารถรับบัตรเชิญเอาไว้ได้ ส่วนสูเทียนไฮ่ก็พอจะรู้ว่าเธอจะพูดอะไรทำนองนั้น เขาจึงพูดขัดจังหวะทันที “อื้ม คุณเก็บเอาไว้เถอะ ไม่ได้มากมายอะไรเลย มันก็เป็นสิ่งที่ผมให้คุณด้วยใจ หรือไม่อย่างนั้น ถ้าคุณไม่อยากเก็บมันไว้จริง ๆ ก็ทิ้งไปเลยก็ไ