คุณคนโปรดสุดที่ร้าย
ตอนที่ 2
ไม่คาดฝัน
ภูริไม่ได้ตอบรับคำทักทาย เขาก้าวเท้าเดินไปยังด้านหลังของโต๊ะทำงาน ก่อนจะผายมือเชื้อเชิญแขกผู้มาเยือนให้นั่งลงฝั่งตรงข้ามกัน
“เชิญครับ”
“ค่ะ”
ยิ้มของริษายังคงประดับบนใบหน้า ทั้งยังเดินเข้าหาด้วยความมั่นใจ แต่อีกฝ่ายคงไม่รู้เลยว่าภายใต้สีหน้าที่กำลังแสดงออกนั้นเกิดหลากความรู้สึกถาโถมเข้าใส่อย่างจังที่ข้างใน
การที่ภูริใช้สิทธิ์ผู้ออกทุนสร้างเลือกเธอเป็นหนึ่งในนักแสดงเห็นได้ชัดว่าจะต้องรู้อยู่แก่ใจว่าเธอเป็นฝ่ายนัดขอเข้าพบ เขาไม่มีทีท่าประหลาดใจไม่ใช่เรื่องน่าแปลก ตอนนี้คงมีแค่ริษาที่รู้สึกเหมือนจะบ้าเพียงคนเดียว ตากลมโตได้แต่จับมองตามการเคลื่อนไหวของคนซึ่งไม่ได้พบกันนานหลายปีด้วยความรู้สึกทึ่งระคนประหลาดใจ
ร่างโปร่งสูงในชุดสูททางการสีเทาถ่านให้ความรู้สึกถึงบุคลิกเคร่งขรึมจริงจัง ประกอบกับเครื่องหน้าหล่อเหลาซึ่งแสดงสีหน้าเรียบเฉยยิ่งขับให้ภาพลักษณ์นักธุรกิจหนุ่มมองดูภูมิฐานน่ายำเกรง
ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าของเขาเรียกได้ว่าดูดีทุกกระเบียดนิ้ว กายกำยำสูงสง่าอย่างคนสุขภาพดี เสื้อผ้าเรียบกริบไม่มีรอยยับเลยสักย่นบ่งบอกถึงอุปนิสัยเนี้ยบคลีน ไม่เว้นแม้กระทั่งเส้นผมแต่ละเส้นที่ผ่านการเซตทรงมาอย่างดีก็รับกันพอดีกับรูปหน้าคมชัดทุกส่วนสัดที่หล่อจัดชนิดที่ว่าหากเป็นการให้คะแนนของศัลยแพทย์คงติ๊กถูกทุกข้อไม่มีติแม้แต่ข้อเดียว
ทั้งสองสานสายตากันนานกว่านาทีโดยไม่มีใครเป็นฝ่ายเปิดการสนทนา ไม่ใช่แค่ริษาที่กำลังพิจารณาภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปชนิดไม่ใช่คนเดียวกันกับในอดีตของอีกฝ่าย
ภูริก็กำลังจดจ้องเครื่องหน้าสวยเฉี่ยวของดาราสาวดีกรีรางวัลเซ็กซี่สตาร์อวอร์ดซ้อนกันถึงสามปีจากโพลสื่อบันเทิงหลายสำนักที่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อยเช่นกัน และประธานหนุ่มก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นในที่สุด
“คุณมีธุระอะไรเชิญได้เลยครับ”
ดวงตาคมปลาบดำสนิทไม่บ่งบอกอารมณ์ให้ความรู้สึกราวกับก้นทะเลลึกที่ยังไม่มีการสำรวจเข้าถึง การลงท้ายประโยคด้วยคำสุภาพ รวมถึงสรรพนามที่เขาเลือกใช้บ่งชัดถึงความเหินห่างในความสัมพันธ์
ริษานิ่งค้างไปชั่วขณะเมื่อได้เห็นท่าทีหมางเมินของคนที่ทำราวกับไม่เคยมีอดีตร่วมกัน รับรู้ได้ถึงกำแพงตระหง่านสูงขวางกั้นระหว่างกลาง กระนั้นเธอก็ไม่ได้คาดหวังจะได้รับความสนิทสนมจากคนซึ่งเป็นอดีตไปแล้วเช่นกัน ในเมื่อภูริทำราวกับเธอเป็นคนแปลกหน้า ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปั้นท่าว่ารู้จักกันให้เสียเวลา
ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มสุภาพ ก่อนกระเช้าดอกไม้สีสันสดใสที่เธอเป็นคนเลือกแบบเองกับมือจะถูกเลื่อนดันไปด้านหน้า
“ขอบคุณท่านประธานสำหรับโอกาสครั้งนี้มากนะคะ วันนี้ริษาตั้งใจนำดอกไม้เข้ามาขอบคุณในความเมตตาค่ะ”
ภูริหลุบตามองกลีบดอกสดสวยหลากสีประดับตกแต่งอย่างประณีตงดงามให้ความรู้สึกทั้งสดชื่นและหรูหรา ก่อนเขาจะจบสายตาที่คนซึ่งวางท่าเหินห่างไม่ต่างกัน ดวงตาคมประหนึ่งจะพิจารณาเครื่องหน้าสวยชวนฝันของอดีตคนคุ้นเคย
ทว่าความเงียบที่ดำเนินไปในแต่ละวินาทีทำให้ดาราสาวรู้สึกอึดอัดเกินกว่าจะฝืนทน อีกทั้งสายตาที่ราวกับจะอ่านใจได้ทะลุปรุโปร่งของเขาก็อันตรายเกินกว่าที่จะปล่อยให้จดจ้องนานเกินไป
“วันนี้ริษามีธุระเท่านี้ค่ะ ไม่รบกวนเวลาท่านประธานน่าจะดีกว่า” เป็นริษาที่ตั้งท่าจบบทสนทนาด้วยการหยัดกายขึ้นยืนแม้รู้ว่าเป็นการเสียมารยาทก็ตามที
“นั่งก่อนสิครับ”
หากเจ้าของตึกก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง สายตากึ่งบังคับของเขา ประกอบกับความเป็นรองของเธอ ทำให้ริษายังต้องยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
“ผู้จัดการของริษาบอกว่าท่านประธานงานยุ่ง แค่สละเวลาให้เข้าพบเท่านี้ก็เป็นเกียรติมากแล้วค่ะ”
“อุตส่าห์มาขอพบทั้งที ดื่มน้ำสักแก้ว”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ร่างบางคว้ากระเป๋าขึ้นคล้องแขนเตรียมชิ่ง ทว่าอีกฝ่ายก็กลับเอื้อมมือกดเครื่องอินเตอร์คอมทำหูทวนลมราวกับไม่สนใจ
ตื๊ด…
(ค่ะท่านประธาน)
“คุณสร ผมขอน้ำส้มคั้นสดให้คุณริษาหนึ่งแก้ว”
(รับทราบค่ะ)
“ขอบคุณครับ”
“ริษาไม่ดื่มน้ำส้มค่ะ”
เพียงได้ยินคำว่า ‘น้ำส้มคั้นสด’ ที่อดีตคนรักมักจะเป็นฝ่ายซื้อให้ทุกวันในช่วงเวลาที่คบหากัน เสียงหวานหูก็เปลี่ยนไป ทั้งยังเผลอเชิดหน้าแสดงความกร้าวแข็งโดยไม่รู้ตัว
ภูริไม่ได้สนใจต่อท่าทางที่ว่า เขายกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาไม่ใส่ใจจะฟังคำทัดทานใด ๆ
“ผมมีเวลายี่สิบนาที คุณไม่ต้องรีบร้อน”
“แต่ริษา…”
“ผมรีบปิดประชุมเพราะรู้ว่ามีแขกกำลังรอ ทำแบบนี้ผมเสียเวลานะครับ” เสียงราบเรียบตัดบทบ่งบอกว่าฝ่ายขอเข้าพบไม่สามารถลุกหนีไปได้
แม้ใจจะกู่ร้องด้วยความอึดอัดทรมานที่ต้องฝืนทนนั่งร่วมห้อง ทว่าเห็นทีริษาคงไม่มีทางเลือก สุดท้ายจึงจำใจหย่อนกายนั่งลงตามเดิม
“ขออภัยที่เสียมารยาทค่ะ” ดาราสาวปั้นยิ้มสุภาพ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความหงุดหงิดใจผ่านสายตา
ริษารู้ว่าภูริอ่านอาการเธอออกแต่แสร้งว่ามองไม่เห็น ทั้งยังวางท่าเย็นชาในตอนที่เอ่ยต่อได้อีกต่างหาก
“คุณเปลี่ยนไปเยอะนะครับ”
“ท่านประธานก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันค่ะ”
ทว่าที่ต่าง คือภูริเปลี่ยนแปลงในแง่ภาพลักษณ์ภายนอก
แต่ริษาเปลี่ยนแปลงด้วยการวิ่งวุ่นเข้าคลินิกตลอดหลายปี
ก่อนเลิกกันริษายังเรียนไม่จบ เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ เธอเข้าคลินิกฉีดหน้าไปไม่รู้ตั้งเท่าไร เสริมนู่นเติมนี่หมดเงินบานตะไท หน้าเปลี่ยนทุกซีซัน จะไม่สวยขึ้นได้อย่างไร
แต่ก็ดูเหมือนความสวยความงามที่ว่าจะไม่มีผลต่อความรู้สึกคนซึ่งนั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะ ภูริมีสีหน้าเรียบเฉย เขาดึงแฟ้มเอกสารเปิดอ่าน เข้าเรื่องด้วยท่าทางเป็นงานเป็นการ
“คุณต้อยติ่งบอกเลขาผมว่าคุณอยากคุยเรื่องอื่นด้วย”
“เจ๊ต้อย…” ริษาชะงัก พึงรำลึกขึ้นได้ถึงอีกสาเหตุที่มาขอเข้าพบเขา
‘เธอก็ขอเลี้ยงอาหารสักมื้อ เผื่อโอกาสหน้าเขาจะได้นึกถึง ให้ความเอ็นดู เหมือนที่ทำเป็นประจำนั่นแหละ’
‘กับคนอื่นยังพอได้เจอกันบ้าง แต่ริษาไม่รู้จักคนนี้มาก่อนเลยนะเจ๊ต้อย’
‘ไปเจอเดี๋ยวก็รู้จัก เธอพูดเก่งใครก็ชอบ อีกอย่างตอนนี้ไม่ค่อยมีงานเข้ามา เจ๊เองก็พยายามดันสุดตัวแล้วจริง ๆ’
‘ก็ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวริษาแต่งหน้าเลยแล้วกัน ขอชุดสวย ๆ สักชุดด้วยนะเจ๊…’
การที่นักแสดงสักคนจะพยายามเข้าหาเพื่อให้ผู้ใหญ่เกิดความเมตตาเอ็นดูไม่ใช่เรื่องแปลก โดยปกติต้อยติ่งจะเป็นคนประสานงานหน้าที่นี้แต่เจ้าตัวเกิดติดธุระกะทันหัน หญิงสาวจึงต้องฉายเดี่ยวเดินทางมาคนเดียว
ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่ภูริคงไม่เกิดปัญหา แต่จะให้เธอตีสนิทกับอดีตแฟนที่เคยทิ้งเธอไปได้อย่างไร แม้อยากได้งานจนตัวสั่น ริษาก็ไม่คิดว่าจะสามารถร่วมมื้ออาหารกับคนซึ่งจบกันไม่สวยได้ลง
“คุณมีอะไรให้ผมช่วยไหม?” ภูริตั้งคำถามใหม่เมื่อยังไม่ได้รับการตอบสนอง
ก็หากคำถามประเภทนี้มาจากคนอื่น ดาราสาวถังแตกคงดีใจจนเนื้อเต้น ทว่าเมื่อเอ่ยจากปากคู่สนทนา ความอึดอัดก็พลันแพร่กระจายไปทั่วร่าง ทั้งเสียงเฉยชาที่เขาใช้ ทั้งท่าทีหมางเมินที่ได้เห็น ส่งผลให้ความหงุดหงิดบังเกิดขึ้นในใจ ริษานิ่งคิดเพียงครู่ สุดท้ายก็เลือกที่จะปฏิเสธ
“ไม่มีค่ะ เจ๊ต้อยน่าจะเข้าใจผิด ริษาไม่มีธุระอะไรนอกจากต้องการเข้ามาขอบคุณ”
ภูริพยักหน้ารับพลางตวัดปากกาเซ็นเอกสาร ท่าทางเขาเหมือนจะเข้าใจ แต่มันก็แค่ ‘เหมือน’
“สุดสัปดาห์นี้ผมให้เลขายกเลิกคิวนัดลูกค้าเพื่อตอบรับมื้ออาหารขอบคุณของคุณ แต่ตอนนี้คุณจะยกเลิก?”
“…”
คนฟังถึงกับปั้นหน้าไม่ถูกเมื่อเจอเข้ากับการตั้งคำถามเชิงตำหนิ นัยน์ตาเข้มของประธานหนุ่มชำเลืองขึ้นมองทั้งสีหน้าเคร่งขรึมราวกับจะสร้างความกดดัน และดูท่าจะได้ผลเลยทีเดียว…
“ท่านประธานคุยกับผู้จัดการของริษาแล้วใช่ไหมคะ?” ฝ่ายเป็นรองตัดสินใจถามเข้าประเด็น มิเช่นนั้นภูริคงใช้วิธีหลอกถามและสามารถเอ่ยปากตำหนิเธอได้อีก
ทว่าก็ไร้การตอบรับจากเขา ในความเงียบได้ยินเพียงเสียงตวัดปากกาลูกลื่นเท่านั้น ดาราสาวได้แต่หรี่ตามองอากัปกิริยาที่เธออ่านไม่ออกอย่างใช้ความคิด
ภูริเป็นคนประเภทอ่านยากมาตั้งแต่ไหนแต่ไร กระนั้นสมัยที่ทั้งคู่ยังคบหากันก็พอจะคาดเดาความคิดอ่านได้ แต่ตอนนี้มันต่างออกไป นอกจากเขาและเธอจะเหินห่างราวกับคนแปลกหน้า ริษายังไม่สามารถอ่านออกแม้แต่นิดว่าเขากำลังคิดอะไร
เพราะอึดอัดกับบรรยากาศกดดันที่อีกฝ่ายสร้าง รวมถึงงานที่เขาเป็นฝ่ายป้อนให้ถึงปากนั้นล่อตาล่อใจเกินกว่าที่จะปฏิเสธ สุดท้ายริษาก็จำต้องเป็นฝ่ายถอยหนึ่งก้าวโดยไม่เต็มใจ
“ริษาเป็นคนขอนัดเองค่ะ ถ้าท่านประธานสะดวกก็เป็นตามที่เจ๊ต้อยแจ้งค่ะ” แค่ไปกินข้าวกับแฟนเก่ามื้อเดียวเธอคงไม่ถึงกับขาดใจหรอกกระมัง
“คุณแจ้งสถานที่กับคุณสรอีกทีแล้วกัน” ภูริมีสีหน้าพึงพอใจเมื่อได้อย่างใจต้องการ แฟ้มเอกสารถูกพับปิดเลื่อนเก็บกลับที่เดิม พลันความเงียบก็เข้าครอบครองบรรยากาศอีกครั้ง
ริษาไม่เคยรู้สึกกดดันเท่านี้มาก่อนในชีวิต…
หากเป็นคนอื่นเธอคงสามารถหยิบยกหัวข้อสนทนามาพูดคุยได้อย่างลื่นไหลเป็นธรรมชาติ ประเด็นคือตอนนี้สมองของเธอว่างเปล่าขาวโพลนไม่รู้จะชวนคุยเรื่องใด กระทั่งคนที่คล้ายจะยื้อให้การพบเจอดำเนินต่อไปก็ไม่คิดเป็นฝ่ายขยับปากพูดเช่นกัน
รอยยิ้มกล้ำกลืนปรากฏบนใบหน้าผุดผาดอีกครั้ง ริษาจำใจต้องเป็นฝ่ายพูดอะไรสักอย่างเพื่อให้บรรยากาศชวนคลื่นเหียนดำเนินต่อไปได้โดยที่เธอจะไม่ขาดใจไปเสียก่อน
“ท่านประธานอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ?”
“ผมเป็นคนทานง่ายครับ อะไรก็ได้” เจ้าของคำตอบเอ่ยด้วยท่าทางที่เริ่มจะผ่อนคลาย
ในขณะที่คนตั้งคำถามยังคงยิ้มหนักใจ เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ ภูริเปลี่ยนไปชนิดไม่ใช่คนเดียวกันกับพี่ภูในอดีตของเธอ ริษาไม่แน่ใจนักว่าจะเลือกร้านอาหารได้ตรงใจ
ทว่าคนซึ่งปัจจุบันนั่งแท่นประธานบริหารบริษัทใหญ่โตอาจมีความชอบที่เปลี่ยนแปลงไป เขาอาจชอบร้านอาหารประเภท Premium Fine Dining ไม่ก็อาจต้องเป็นภัตตาคารหรู หรือร้านระดับมิชลินสตาร์
ดาราสาวพยายามวางท่าให้เป็นปกติตอนเอ่ยปากถามไถ่ความต้องการ รวมถึงสำรวจท่าทีของคนซึ่งนั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะ
“ถ้าท่านประธานชอบอาหารโมเดิร์นยูโรเปียน ริษาก็พอจะหาร้านจองได้อยู่นะคะ เป็นอาหารฝรั่งเศสดีไหมคะ…” หากยังไม่ทันแนะนำได้จบประโยค เสียงเรียบเรื่อยก็ตัดบท
“ผมไม่ชอบทานอาหารที่มีส่วนผสมของแป้ง เนย หรือน้ำมันที่มากเกินไป”
ริษาไม่ยักรู้ว่าภูริในปัจจุบันจะเรื่องมากได้แม้กระทั่งวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหาร กระนั้นเธอก็เอ่ยต่อโดยไม่มีติดขัดทั้งน้ำเสียงน่าฟังยังคงเดิม
“ร้านเทปันยากิแถวอารีย์ก็ดีนะคะ เฮดเชฟที่นั่นเคยเป็นเชฟร้านมิชลินสามดาวที่ลอนดอนด้วยค่ะ ตอนปรุงอาหารโชว์นี่คือ…”
“ผมชอบทานแบบส่วนตัว”
ประธานหนุ่มปัดตกอีกครั้ง เสียงคนนำเสนอก็ชะงักอีกหน คิ้วเรียวสวยเริ่มกระตุกเล็ก ๆ แต่ริษาก็ยังคงพยายามทำใจให้สงบแล้วเอ่ยต่อ
“งั้นเป็นห้องอาหารสเปนที่โรงแรม X แถวสาทรดีไหมคะ? เป็นอาหารตามฤดูกาลแบบเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์ ที่นั่นมีห้องส่วนตัวแบบที่ท่านประธานต้องการด้วยค่ะ”
“ผมไม่ชอบอาหารสเปน”
“หรือจะเป็นอาหารอินเดีย?”
ภูริวางศอกที่พนักพักแขนประสานฝ่ามือเข้าหากัน ท่าทีราวกับจะชั่งใจ ทว่าสุดท้ายก็ส่ายศีรษะอีกครั้ง
“ไม่ครับ ผมไม่ชอบอาหารที่มีเครื่องเทศมากเกินไป”
ริษาชักจะมีน้ำโห…
ตากลมโตกะพริบถี่ระรัว ทั้งต้องพยายามคงยิ้มหวานไม่ให้แปรเปลี่ยนเป็นแยกเขี้ยวใส่คนซึ่งดูจะเรื่องมากเกินพอดี ถึงตรงนี้เธอชักไม่มั่นใจว่าภูริกินง่ายอย่างปากว่าจริงหรือไม่ เวลาผ่านไปแค่ไม่กี่ปีทำไมเขาถึงเรื่องมากได้ขนาดนี้
แม้ไม่ควรแสดงอาการหงุดหงิดใจ หากริษาก็อดไม่ได้ที่จะเบือนหน้าหนีพึมพำประชดทั้งน้ำเสียงพยายามระงับอารมณ์
“ปิ้งย่างไหมคะง่าย ๆ”
ภูริเสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะปังอลังการเบอร์นี้ ร้อยทั้งร้อยคงไม่ชอบให้มีกลิ่นเหม็นจากควันอาหารติดตัว ทว่าการตอบสนองของเขาก็ทำให้ดาราสาวต้องตวัดหางตามอง
“ดีครับ” ครั้งนี้เขาไม่ปฏิเสธ ทั้งยังพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “เป็นมื้อค่ำก็ดี”
“…” ริมฝีปากอิ่มเม้มสนิท ริษาไม่คิดว่าจะมีคนตอบตกลง และคราวนี้ปัญหาก็ดันมาตกอยู่ที่เธอแทน
“คุณโอเคไหม?” เครื่องหน้าคมคายแสดงสีหน้าตั้งคำถามเมื่อสังเกตถึงปฏิกิริยาที่เปลี่ยนไปของหญิงสาว
ถึงริษาก็กลั้นใจเอ่ยเพื่อหวังจะเปลี่ยนสถานที่นัดหมายที่เธอเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะเสนอแต่แรก “อันที่จริงริษาเพิ่งฉีดโบท็อกซ์มาค่ะ ไม่ควรนั่งหน้าเตาร้อน ๆ นาน ๆ”
คนฟังขยับยกแขนกอดอก คิ้วเข้มหนาเลิกขึ้นเล็กน้อยคล้ายจะเห็นอกเห็นใจ ทว่าสิ่งที่เขาเอ่ยนั้นทำเอาริษาถึงกับกัดฟันยิ้มอย่างเหลือจะทน
“แถวนี้มีร้านปิ้งย่างอร่อยอยู่ร้านหนึ่ง…”
“…”
“ผมเลือกร้านนั้น คุณสอบถามเลขาผมอีกทีแล้วกัน”
“ขอบคุณในความเมตตาค่ะ” เสียงหวานหูจงใจถากถางตรง ๆ แต่ภูริก็ยังพยักหน้ารับไร้อาการสะดุ้งสะเทือน
“ไม่เป็นไร ผมยินดีช่วยเหลือ”
เขาคงหมายถึงเรื่องงาน…
เป็นอีกครั้งที่ริษาจำต้องกดข่มอารมณ์เดือดดาล มือบางยกขึ้นทาบเหนืออกปั้นท่าแสดงอาการซาบซึ้งใจ “เรื่องงานริษาก็ต้องขอบคุณท่านประธานที่ให้ความกรุณาจริง ๆ”
ภูริทอดสายตามองการละครของนักแสดงสาวที่กำลังกะพริบตาปริบยิ้มหวานให้เขาชนิดที่มองจากนอกโลกยังรู้ว่าภายในเจ้าตัวคงหงุดหงิดที่ต้องสะกดเก็บอารมณ์ หากประธานหนุ่มก็ไม่คิดถือสา ใบหน้าหล่อเหลายังคงความเฉยชาได้อย่างน่าอัศจรรย์
ทว่าก่อนที่เขาจะได้พูดอะไรต่อ และก่อนจะมีใครได้อกแตกตาย เสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น เป็นสรชาที่เดินเข้ามาขัดจังหวะ
“น้ำส้มค่ะคุณริษา”
“ขอบคุณมากค่ะ” ริษายิ้มรับ สามารถปรับสีหน้าให้เป็นปกติได้อย่างรวดเร็ว ทว่ายิ้มเป็นมิตรก็คลายลงในอีกวินาที
เพียงสายตาว่างเปล่าหลุบมองแก้วน้ำส้ม ภาพอดีตก็ซ้อนทับขึ้นมาในห้วงคิดของเธอโดยไม่ทันตั้งตัว ประหนึ่งจะย้ำเตือนถึงความสัมพันธ์ครั้งก่อนเก่าที่เมื่อนานมาแล้วเคยเกิดขึ้นจริง
‘พี่คิดว่าเธอชอบ’
‘ซื้อให้ทุกวันก็เพราะชอบ’
‘ชอบเธอ’
พลันบรรยากาศก็แปรเปลี่ยนไป ประกายตาวูบไหวละจากตำแหน่งเดิมในที่สุด ริมฝีปากอิ่มขยับยิ้มเพียงเล็กน้อยคล้ายจะฝืนข่มอารมณ์ซึ่งกำลังตบตียุ่งเหยิงอยู่ที่ข้างใน
“ริษามีธุระเท่านี้ค่ะ น่าจะไม่มีอะไรรบกวนท่านประธานแล้วค่ะ” น้ำเสียงของดาราสาวคงความสุภาพเมื่ออยู่ต่อหน้าบุคคลที่สาม ทว่าสีหน้านั้นแสดงออกถึงความรู้สึกบางอย่างชนิดไม่สามารถปิดบัง
ท่าทีแปลกไปตกอยู่ในการจับสังเกตของภูริ ครั้งนี้เขานิ่งเงียบเพียงอึดใจก็พยักหน้ารับอย่างง่าย ๆ ละความสนใจมองไปอีกทางคล้ายมีบางอย่างรบกวนใจเช่นกัน
“ผมจะให้คุณสรลงไปส่ง”
ครั้นเมื่อได้ฟังคำที่ต้องการ ลมหายใจคนฟังก็กลับมาสูดอากาศได้เต็มปอดอีกครั้ง ความโล่งใจวาบผ่านนัยน์ตาสุกใสกลมโต “ขอบคุณค่ะ”
“ส่งคุณริษาด้วยนะคุณสร”
“ค่ะท่านประธาน” เลขาสาวขานรับคำสั่ง
สรชารู้สึกประหลาดใจ เธอคิดว่าเจ้านายจะใช้เวลาในการพูดคุยกับแขกนานกว่านี้ มิเช่นนั้นจะเลื่อนคิวนัดเข้าพบของลูกค้าทำไม ไหนจะน้ำส้มที่ยังไม่มีใครคิดจะดื่มสักอึกนี่ก็ด้วย…
“งั้นริษาขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“…” ภูริพยักหน้าแทนการตอบรับโดยไม่คิดหันมอง
ท่าทีระหว่างคนทั้งคู่ ทำคนนอกสัมผัสได้ถึงบรรยากาศซึ่งอวลด้วยความอึมครึม สรชาได้แต่สลับสายตาเลื่อนมองระหว่างเจ้านายกับแขกผู้มาเยือนด้วยความฉงนสงสัย
ขณะเดียวกันดาราสาวก็ผุดกายลุกยืนโดยไม่รีรอ แว่นดำถูกวางคาดบนสันจมูก ปลายคางมนรั้นเชิดในจังหวะที่หมุนกายหันหลัง ก่อนเสียงลงฝีเท้าบนส้นสูงจะเดินตามการนำของสรชา
พลันสายตาประธานหนุ่มก็เลื่อนมองตามการเคลื่อนไหวซึ่งไม่ได้เห็นมานาน ร่างเพรียวบางดูจะผ่ายผอมกว่าเมื่อหลายปีก่อน ทว่ายังคงระหงสง่าดึงดูดความสนใจได้ไม่ต่างจากเดิม
หลังบานประตูปิดสนิทลง เสียงเคาะนิ้วเป็นจังหวะเชื่องช้าก็ดังขึ้น ภูริพักศีรษะเข้ากับพนักพิงระบายลมหายใจแผ่วเบา ห้องทำงานบนชั้นสูงสุดของตึกเงียบเชียบไม่ต่างไปจากทุกวัน…
อดีตคนรักกลับออกไปได้สักพักแล้ว หลงเหลือเพียงกลิ่นหอมแสนคุ้นเคยที่ราวกับจะปลุกความรู้สึกส่วนลึกของเขาให้หวนคืน
มีผลงานวิจัยกล่าวไว้ว่า ‘กลิ่น’ ส่งผลต่อความทรงจำของมนุษย์มากกว่าประสาทสัมผัสส่วนอื่น เวลาล่วงผ่านนานหลายปี…
เขาเพิ่งได้พิสูจน์ชัดก็วันนี้ว่ามัน จริง
คุณคนโปรดสุดที่ร้าย ตอนที่ 3สวนทาง หลายชั่วโมงต่อมา คอนโดมิเนียม M กลับถึงคอนโดริษาก็ต่อสายหาต้อยติ่งขอข้อมูลของอดีตคนรักทันที ตลอดช่วงบ่ายจวบจนย่ำค่ำเธอหมดเวลาไปกับการนั่งอยู่ที่หน้าจอโน้ตบุ๊ก หัวคิ้วขมวดผูกแทบตลอดเวลา หันมองนอกหน้าต่างอีกทีก็พบว่าขณะนี้เป็นเวลาดึกแล้ว ร่างบางในสภาพชุดลำลองขนาดพอดีตัวพิงแผ่นหลังเข้ากับพนักเก้าอี้ ก่อนจะถอดแว่นกรอบบางโยนไว้บนโต๊ะในที่สุด ทว่าสายตายังจดจ้องนิ่งกับภาพถ่ายบุคคลบนหน้าเว็บเบราว์เซอร์ โดยปกติแล้วต้อยติ่งจะเป็นคนติดต่อดีลงาน รวมถึงรู้ข้อมูลของผู้ใหญ่ที่ต้องการติดต่อ ริษามีหน้าที่เพียงเข้าไปขอบคุณจึงไม่รู้ลึกถึงรายละเอียดต่าง ๆ แต่ไม่คิดว่าคนที่ตัวเธอเองเป็นฝ่ายขอเข้าพบจะเป็นแฟนเก่าที่เลิกรากันไป แม้ในอดีตภูริจะมีรูปลักษณ์ภายนอกดูดีไม่ต่างจากปัจจุบัน แต่ตอนนั้นฐานะเขาไม่ดีนัก ริษารับรู้มาโดยตลอดว่าอีกฝ่ายทำงานอย่างหนักเลี้ยงตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก ทว่ามาในวันนี้กลับได้เจอเขาในฐานะประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ PH GROUP ซึ่งครอบคลุมบริษัทลูกหลายบริษัท ทั้งแบรนด์ผลิตเครื่องกีฬ
คุณคนโปรดสุดที่ร้าย ตอนที่ 4พบเจอหลายวันต่อมาโรงแรม N ริษาเดินทางมาร่วมงานเลี้ยงขอบคุณสปอนเซอร์ของผู้จัดท่านหนึ่งที่มีโอกาสได้ร่วมงานและเคารพนับถือกันมานาน แขกเหรื่อในงานล้วนแล้วแต่เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งคนที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง รวมไปถึงสื่อมวลชนจากหลายช่องข่าว บรรยากาศงานจึงคึกคักผ่อนคลายสถานที่จัดงานเป็นห้องบอลรูมขนาดกลาง โอ่โถงด้วยเพดานสูง ตกแต่งภายในด้วยโทนสีน้ำตาลทองให้ความรู้สึกแสนหรูหรา แขกส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดสุภาพดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้าวันนี้ริษาอยู่ในชุดเดรสเข้ารูปเน้นสัดส่วนโค้งเว้าอวดโชว์ทรวดทรงน่าประทับใจ เลื่อมปักชุดระยิบระยับเพื่อจุดประสงค์ในการดึงดูดสายตาแขกผู้ร่วมงานและช่างภาพข่าวบันเทิงตามคำแนะนำจากสไตลิสต์ซึ่งสนิทสนมกันนอกจากมาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ อีกประการก็เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับบรรดาสปอนเซอร์ซึ่งได้รับเชิญ หากเป็นเมื่อก่อนหญิงสาวคงไม่ถึงกับต้องหว่านพืชหวังผลให้คนอื่นเมตตาขนาดนี้ ทว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันหากมัวนิ่งเฉยรองานคงไม่มีอะไรต่างจากที่เป็น บ่อน้ำไม่เดินไปหาควายฉันใด โอกาสก็ไม่ได้เดินมาหาคนฉันนั้
คุณคนโปรดสุดที่ร้าย ตอนที่ 5ตัดไฟต้นลม หนึ่งชั่วโมงต่อมา ริษาไม่ใช่คนขี้อาย อีกทั้งเป็นคนมีความมั่นใจสูง แต่วันนี้ความมั่นใจที่มีราวกับจะลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย กว่าค่อนชั่วโมงที่ผ่านมาเธอหมดเวลาไปกับการพูดจาฉอเลาะ ปั้นยิ้มปากแทบเป็นตะคริวกับผู้หลักผู้ใหญ่ ซ้ำร้ายยังมีสายตาของคนบางคนจดจ้องโดยเลี่ยงหลีกไม่ได้นี่ก็อีกเฮงซวย! เฮงซวยจริง ๆ หลังพิธีทางการสิ้นสุดแขกส่วนหนึ่งเริ่มทยอยกลับออกไปแต่ผู้จัดการของเธอก็ยังไม่มา ริษาจำใจต้องฉายเดี่ยวเดินหน้าเข้าพูดคุยโดยอาศัยตอนที่เป้าหมายสนทนาอยู่กับคนที่เธอเองก็รู้จัก ทว่าก็น่าหงุดหงิดที่ทุกคนต่างพากันดึงภูริให้เข้าร่วมวงแทบจะทุกครั้งไปแม้เขาจะเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงคนเบื้องหลัง ใครต่อใครต่างก็อยากทำความรู้จัก แต่ในสายตาเธอประธานหนุ่มดูจะอยู่ผิดที่ผิดทาง ท่าทางของเขาเฉยเมยต่อบรรยากาศรอบตัว ด้านหลังมีลูกน้องคนหนึ่งยืนกุมเป้าในทีท่าสงบ ส่วนเจ้านายก็ดูจะเบื่อหน่ายกับการอยู่ท่ามกลางฝูงชน กระนั้นภูริคงเป็นปัญหาแค่กับริษาคนเดียว ไม่ว่าดาราสาวจะพยายามวางตัวให้เป็นธรรมชาติเพียงใด ปั้นแต่งคำพูดสวยหรูเพื่อบรรลุวัตถุป
EPISODE 6มรสุมหลายวันต่อมาอู่ซ่อมรถเป็นโชคร้ายที่วันนี้รถยุโรปที่ริษาใช้งานมาหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนเกิดดับสนิทบนทางด่วน กว่ารถลากจะมาถึงก็กินเวลานานนับชั่วโมง แต่เป็นโชคดีที่เธอถ่ายรายการเสร็จตั้งแต่ช่วงสายมิเช่นนั้นเห็นทีคงมีปัญหาวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม“ผมเช็กแล้วสาเหตุเกิดจากหม้อน้ำแห้ง สายหม้อน้ำรั่ว ปะเก็นฝาสูบโก่ง เครื่องยนต์พัง ต้องยกเครื่องใหม่นะครับ และมีเปลี่ยนสายหม้อน้ำด้วยครับ”เสียงของช่างคนหนึ่งดึงความสนใจลูกค้าสาวให้หันมอง อีกฝ่ายยื่นกระดาษรายการคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ให้ พร้อมเอ่ยด้วยท่าทางเป็นงานเป็นการ“ถ้าจะยกเครื่องตรงรุ่นจะเป็นราคานี้ครับ” เขาชี้ตัวเลขที่ทำเอาคนมองถึงกับต้องถอดแว่นดำออกเพื่อมองให้ชัด ๆ “แต่ถ้ายกเครื่องญี่ปุ่นราคาก็จะถูกลง”“เดี๋ยวนะคะ คือรถมันแค่สั่นและมีควันขึ้น ทำไมค่าใช้จ่ายถึงสูงขนาดนี้ล่ะคะ?”คิ้วสวยย่นเข้าหากันด้วยความระแวดระวัง ดาราสาวกวาดสายตามองรอบตัว เริ่มรู้สึกหวั่นใจว่าอู่ซ่อมรถแห่งนี้จะเล่นไม่ซื่อกับเธอหรือไม่ แต่ช่างคนเดิมก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ“เพราะเครื่องมันพังครับ ถ้าไม่ยกเครื่องก็คงต้องซื้อรถใหม่ ถ้าลูกค้าไม่เชื่อจะลองไปเช็กที่
EPISODE 7กลืนน้ำลาย วันต่อมา หลังงานแถลงข่าว ที่บอกว่าทุกอย่างอาจผ่านไปได้ด้วยดี เห็นทีคงไม่เป็นดังที่หวัง ตอนนี้ริษารู้สึกราวกับโลกทั้งใบพร้อมที่จะถล่มทับใส่เธอ! ตึก! ตึก! ตึก! “ขอสัมภาษณ์เพิ่มเติมหน่อยค่ะคุณริษา!” “คุณริษาให้สัมภาษณ์เพิ่มได้ไหมคะ!” ตึก! ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้าของฝูงชนจำนวนหนึ่งกำลังมุ่งมาจากทุกทิศทาง อีกทั้งเสียงจอแจของฝูงชนที่ว่ายังพยายามทลายกำแพงการ์ดรักษาความปลอดภัยเพื่อหวังจะเข้าใกล้นักแสดงสาวซึ่งตกเป็นประเด็นร้อนในเวลานี้ ขณะเดียวกันเจ้าของดวงหน้าเผือดซีดก็ต้องพยายามเร่งฝีเท้าตามผู้จัดการส่วนตัวซึ่งเป็นฝ่ายเดินนำ ทว่าด้วยแรงพลังจากนักข่าวบันเทิงหลายสำนักส่งผลให้การ์ดรักษาความปลอดภัยไม่สามารถขวางกั้นไว้ได้อีกต่อไป อึดใจเดียวกล้องนับสิบกับเครื่องบันทึกเสียงหลายตัวก็จ่อยื่นเข้าหาริษาอย่างรวดเร็ว“คุณริษากับคุณบี้ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีอะไรเกินพี่น้อง แต่ล่าสุดมีภาพหลุดสองคนเดินชอปปิงที่เกาหลีด้วยกันนะคะ แบบนี้จะแก้ข่าวว่ายังไงคะ?” “ตอบประเด็นนี้หน่อยค่ะ เพิ
EPISODE 8เงื่อนไขหนึ่งชั่วโมงต่อมา การที่ภูริเติบโตในหน้าที่การงานย่อมส่งผลถึงฐานะความเป็นอยู่ ริษารู้ว่าตอนนี้อดีตคนรักเป็นคนร่ำรวยคนหนึ่งแต่ไม่คิดว่าบ้านของเขาจะใหญ่โตเทียบเท่ากับคฤหาสน์ในอดีตของเธอทว่าที่ต่าง… คงเป็นความงันเงียบประหนึ่งไร้คนอยู่อาศัยที่นี่ว่างเปล่า… ไม่มีแม้แต่เงาของแม่บ้านสักคน แม้พยายามทำใจตลอดชั่วโมงที่ผ่านมา รวมถึงคิดทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่าว่าสิ่งที่จะทำนั้นคุ้มค่ามากพอหรือไม่ แต่เมื่อมาถึงริษาก็ยังลังเลใจเอ่ยอ้างว่าขอเวลาทำธุระส่วนตัว หากนี่ก็ปาไปเกือบค่อนชั่วโมง ธุระส่วนตัวของเธออาจนานเกินพอดีแล้วกระมังทว่าในที่สุด สายเรียกเข้าจากคนซึ่งกำลังตั้งตารอก็ดังขึ้นRrrrrr “หลิน” (เป็นไงบ้างริษา? โอเครึเปล่า?) เสียงของเพื่อนฟังดูร้อนใจ (ฉันเพิ่งเข้าฉากเสร็จ พอมีเวลานิดหน่อย แต่ดึก ๆ จะแวะเข้าไปหา…) “ไม่ต้องหรอกแก” (คงเข้าไปดึกหน่อย เมื่อเช้าฉันทะเลาะกับคุณพ่ออาจต้องแวะเข้าบ้านก่อน…ได้ค่ะสักครู่นะคะ… แป๊บนึงนะแก) “อืม” ริษาขานรับในลำคอ เสียงแทรกที่ปลายสายบ่งบอกว่าหลินหลินคงกำลังวุ
EPISODE 9เจ้านายคนใหม่ วันต่อมา ออด!“มาแล้วค่ะ!” ริษาในสภาพเมาขี้ตาสาวเท้าอย่างเร่งร้อนตรงดิ่งไปเปิดประตูด้วยความหงุดหงิดใจ อาจเพราะเมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนจึงอิดออดที่จะลุกจากเตียง ทว่าคนซึ่งมาเยือนแต่เช้าตรู่ก็ขยันกดกริ่งซ้ำไปซ้ำมาอย่างกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย แกร๊ก! เพียงบานประตูเปิดออก จากที่งุนงงอยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งสับสนไปกันใหญ่ เมื่อคนตรงหน้าคือตั่งลูกน้องของภูริ “สวัสดีค่ะ ทำไมมาเช้าจังเลยคะ?”ดาราสาวรวบชุดคลุมตัวยาวปกปิดสภาพชุดนอนบางเบาที่ด้านใน ท่าทางสะลึมสะลือเลือนหายเป็นปลิดทิ้ง ตอนแรกเธอคิดว่าจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวอย่างต้อยติ่งที่มักจะมาแต่เช้าตรู่เสมอแต่กลับไม่ใช่… “สวัสดีครับ คุณภูให้ผมมารับคุณริษาครับ” ตั่งเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งสนิทไม่คิดขยายความเพิ่มเติม และคำบอกกล่าวที่ว่าก็ทำเอาคนฟังขมวดคิ้วงุนงง “ตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอคะ?” “ครับ” ดาราสาวหันมองนาฬิกาด้านในห้องอีกที เธอมองเวลาผิดไปหรืออย่างไร นี่มันเพิ่งจะหกโมงเช้าเท่านั้นเอง!เหตุการณ์เมื่อคืนจบลงตรงที่ภูริบอกว่
EPISODE 10ปลอมตกดึก ภูริบอกให้เริ่มงานทันที แต่วันนี้เขาเป็นฝ่ายให้เลขาโทรมาแจ้งว่ามีนัดกับลูกค้าคงกลับดึก ผลพลอยได้คือริษาไม่ต้องลงมือทำอาหารเย็นเตรียมไว้รอตั้งแต่วันแรกของการทำงานถึงปากจะบอกว่าทำได้ทุกอย่าง…แต่เธอทำอาหารเป็นที่ไหนกัน!งานบ้านยิ่งแล้วใหญ่ ดาราสาวไม่เคยลงมือทำด้วยตนเองเลยสักครั้ง เมื่อตอนที่ยังร่ำรวยก็มีคนคอยทำให้ ส่วนครั้งตกต่ำก็จำต้องจ้างบริษัททำความสะอาดสัปดาห์ละครั้งเนื่องด้วยการทำงานไม่เป็นเวลาที่บางครั้งบางทีออกกองดึกดื่นกว่าจะกลับถึงห้องก็สลบไสลหมดเรี่ยวหมดแรงกระนั้นริษาก็ไม่คิดว่าจะยากเย็นเกินไปในสิ่งที่ได้ทำการตกปากรับคำกับเจ้าของเงินก้อนโต อย่างไรช่วงนี้เธอก็ไม่ค่อยมีงาน การได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ก็ถือว่าท้าทายดีเหมือนกันตอนนี้เป็นเวลาดึก เจ้าของบ้านยังไม่กลับ แต่นั่นก็เรื่องของเขา ประเด็นคือริษานอนไม่หลับ… หากเป็นเวลาปกติคนซึ่งรักสุขภาพอย่างเธอคงหลับฝันได้หลายตลบ ทว่าหลายวันที่ผ่านมาสิ่งที่ได้เจอเริ่มทำให้ปัญหาสุขภาพกลับมาทักทาย แม้พยายามข่มตานอนเท่าไรแต่สมองก็ยังคงทำงาน เมื่อเลื่อนโทรศัพท์ดูนาฬิกาก็พบว่าขณะนี้เป็นเวลา
SPECIAL 3 หลายชั่วโมงต่อมา “แล้วลื้อรู้จักอ๊ะเปล่า?” “รู้สิคะกงขา จี้รู้ทุกอย่างค่ะ คุณแม่สอนมาหมดแล้วค่ะ” “แล้วลื้อล่ะ?” “ด้าก็รู้ค่ะ ง่ายมากเลย” “แล้วลื้อ?” “ผมก็รู้ครับอากง” “เอ้อ! เด็กสมัยนี้นี่เก่งจริง ๆ อั๊วต้องจ่ายเท่าไรล่ะเนี่ย?” “คนละหนึ่งร้อยค่ะกงขา” “แบงก์สีอะไร?” “สีแดงค่า” “เอ้า ๆ” “ขอบคุณค่าอากง” / “ขอบคุณครับอากง” “ของมุกล่ะคะ?” “ลื้อโตขนาดนี้แล้วนาอามุก” “แหม! พอได้หลานหน่อยก็ไม่เปย์ลูกสาวแล้วเหรอคะ?” “เอ้อ! ไอ้ลูกคนนี้ งั้นลื้อเอาแบงก์เขียวไปแล้วกัน…” “โอ้โห ป๊าคะ! ทำไมมุกได้น้อยกว่าหลานล่ะ?” “เอ้อ! ลื้อจะเอาไม่เอา?” “เอาค่ะ!” เด็กหญิงสอง เด็กชายหนึ่ง โก้งโค้งยกมือไหว้ขอบคุณคนซึ่งมีสถานะเทียบเท่าได้กับคุณปู่อย่างเกรียงไกรที่เพิ่งมาถึงได้ไม่นาน ขณะเดียวกันลูกสาวแท้ ๆ ก็กำลังหัวเราะคิกคัก บ้างก็ปั้นหน้ากระเง้ากระงอดเมื่อรบ
SPECIAL 2 บนห้องนอนชั้นสองของบ้านซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นห้องนอนของภูริในวันวาน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แม้เขาจะไม่ได้อยู่อาศัยที่นี่เป็นหลัก ทว่าบางครั้งบางทีก็มักจะพาลูกพาเมียแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมพี่ชายอยู่บ่อย ๆ ดวงตาคมทอดสายตามองร่างระหงเพรียวบางของภรรยากำลังค้นหาเสื้อผ้าที่ใช้สำหรับผลัดเปลี่ยนให้จีจี้ซึ่งทำน้ำหกเลอะชุดนางฟ้าจนเป็นรอยคราบ และเพราะเด็ก ๆ ชอบมาเยี่ยมลุงวิศเป็นอย่างมาก ที่นี่จึงมีทุกอย่างที่จำเป็นไม่เว้นแม้กระทั่งเสื้อผ้าของลูกสาวและลูกชาย “ขึ้นมาทำไมคะ?” ริษาสะดุ้งสุดตัวเมื่อคนตัวโตรวบกอดจากทางด้านหลัง แค่หันมองสบตา เธอก็ถึงกับต้องถอนหายใจ ท่าทางการตอบสนองดังกล่าวทำเอาประธานหนุ่มหัวเราะฉุน ๆ ทันที “ทำไมครับ? เธอเบื่อพี่?” “เบื่ออะไรกันคะ? แต่พี่เล่นหื่นตลอดเวลาแบบนี้ริษาช้ำหมดแล้ว” ภรรยาทำเสียงดุ กระนั้นก็ไม่คิดขยับขัดขืน “ตัวหอม”ภูริกดจมูกหอมเข้าที่ลาดไหล่บอบบางด้วยความรักใคร่ ผิวกายของริษาเนียนละเอียด ทั้งใบหน้าก็เนียนใสไร้รอยกระดำกระด่าง ร่างกายซึ่งผ่านการมีลูกแล้วถึงสามคนยังคงความผอมบาง ทว่าสะโพกผ
SPECIAL 1 หลายปีต่อมา เสียงเด็กหญิงสองคนกำลังวิ่งเล่นด้วยความสนุกสนาน สวนดอกไม้หน้าบ้านร่มรื่นไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ซึ่งเจ้าของบ้านเป็นคนปลูกไว้เมื่อนานหลายสิบปีมาแล้ว ภวิศย่อกายอุ้มเด็กคนหนึ่งขึ้นสู่อ้อมแขน ก่อนที่เด็กหญิงอีกคนจะถูกอุ้มโดยผู้เป็นพ่ออย่างภูริ จีจี้ และ ดาด้า เป็นพี่น้องฝาแฝดที่อายุห่างกันเพียงสิบนาที หน้าตาของเด็กน้อยที่อายุเพียงห้าขวบเริ่มฉายแววสะสวยเหมือนผู้เป็นแม่ไม่มีผิด ดวงตากลมโตประกายน้ำตาลมีแพขนตาล้อมรอบ จมูกเชิดรั้นเล็กน้อยราวกับจะถอดแบบมาจากมารดา ไม่เว้นกระทั่งริมฝีปากลูกสาวของภูริแทบไม่ได้เค้าของเขามาเลยแม้แต่นิดเดียว… ทว่าที่อีกด้าน ตาต้า ลูกชายเพียงคนเดียว กลับมีลักษณะเหมือนบิดาราวกับเป็นร่างโคลน เด็กชายอายุสี่ขวบกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ่อกองทรายที่ลุงภวิศเตรียมเอาไว้ให้ ใกล้กันเป็นริษากับมุกดาซึ่งช่วยกันตระเตรียมอาหารกำลังสนทนากัน “มีผู้ชายมาจีบค่ะ” “หืม… ดีใจด้วยนะคะคุณมุก” “โอโห! เจ็บนะคะเนี่ย!” “ทำไมถึงเจ็บล่ะคะ? ริษาดีใจด้วยจริง ๆ” “แหม! มุกบอกใคร ทุกคนก
EPISODE 57รุ้งกินน้ำภูริซึ่งนิ่งสงบจนอีกคนสามารถจับสังเกตได้รีบเบนสายตามองไปทางอื่น ทว่าริษาก็ขยับตัวมองตาม นัยน์ตากลมฉายให้ได้เห็นถึงความข้องใจ“ทำไมริษารู้สึกแปลก ๆ คะ?”“แปลกยังไงครับ?” เขาถามกลับ ทว่าก็ยังไม่ยอมสบตา“หรือว่าพี่เป็นคนปล่อยข่าวเสียหายของริษาด้วยเหรอคะ?” ดาราสาวทำตาโต ยกมือขึ้นทาบอก ขยับตัวก้าวถอยห่างในทันทีกระนั้นภูริก็ดึงตัวเธอเข้ากอดอีกครั้ง เขาลั่นหัวเราะเสียงดัง โยกตัวคนในอ้อมแขนด้วยความรู้สึกเอ็นดู“พี่จะทำแบบนั้นทำไม?”“ก็พี่… ริษาได้เจอพี่ช่วงนั้นพอดี…” ริษารู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาตั้งใจที่จะเจอ แต่ก็ทำทีหรี่ตามองด้วยสายตาข้องใจยังคงเดิม“อืม” คนโดนจับได้พยักหน้า “เรื่องเจอเธอพี่เป็นคนอยากเจอ”“โดยการปล่อยข่าวเสียหายของริษาเหรอคะ?” คำถามจับผิดยังคงถูกถามย้ำ แต่ภูริก็พ่นลมหัวเราะทางจมูกด้วยอารมณ์ขบขัน“พี่ว่าเรื่องนั้นน่าจะเป็นคราวซวยของเธอมากกว่า”“ก็แล้วทำไมต้องทำตัวแปลก ๆ ด้วยล่ะคะ?” ดาราสาวหรี่สายตามอง ในที่สุดภูริก็จำใจต้องยกมือยอมแพ้“พี่แค่รู้… ว่าเธอจะเอาเงินไปทำอะไร”“รู้ตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอคะ?”“เปล่าครับ” ประธานหนุ่มส่ายศีรษะ ก่อนจำต้องเฉลยให้ฝ่ายค
EPISODE 56ทุกอย่างล้วนคือเธอ หกเดือนต่อมา “ไม่เห็นต้องเอาของมาเยอะขนาดนี้เลยค่ะ” “มาเยี่ยมแม่ยายทั้งทีจะให้พี่เอากระเช้ามาแค่อันเดียวได้ไงครับ?” “แต่นี่เยอะไปหรือเปล่าคะ?” “ไม่เยอะ” ริษาหรี่สายตามองร่างสูงของภูริที่กำลังขนของลงจากหลังรถ ของที่ว่า ไม่เยอะ ทว่าชายหนุ่มกลับต้องเดินกลับไปกลับมาขนถึงสามสี่รอบ นอกจากจะเป็นกระเช้าผลไม้และอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ยังมีถุงกระดาษที่ภูริตั้งใจสั่งซื้อมาจากห้องเสื้อแบรนด์ดังเพื่อเป็นของฝากให้กับฤดีอีกด้วย วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ คนซึ่งบ้างานอย่างเขาตั้งใจจะพาริษามาเยี่ยมมารดาซึ่งในปัจจุบันย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตากอากาศในจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก บ้านไม้หลังโตสองชั้นสีขาวสะอาดตาล้อมไปด้วยรั้วต้นไม้ซึ่งสูงเพียงระดับอก ถัดจากขอบรั้วออกมาที่ด้านนอกตัวบ้านเป็นที่ดินว่างเปล่าหากก็ไม่ได้รกร้างแต่อย่างใด มีต้นไม้ถูกปลูกไว้แนวเรียงเป็นตับ บรรยากาศสดชื่นน่าอยู่อาศัย วันนี้ริษาอยู่ในชุดกระโปรงตัวยาวเรียบร้อย ไม่ได้แต่งหน้าทำผมเหมือนดังเช่นทุก
EPISODE 55ที่เดิม คนเดิม ใจดวงเดิม 2 หญิงสาวทอดสายตามองตามร่างโปร่งกำยำคุ้นตาที่เดินห่างออกไปสายลมซึ่งโชยผ่านจนเรือนผมสยายยาวสะบัดปลิวราวกับจะพัดนำพาความหม่นเศร้าทุกข์ระทมให้จางหาย เสียงคลื่นสาดกระทบชายฝั่งประหนึ่งจะขับขานบรรเลงบทเพลงหน้าสุดท้ายผ่านการถ่ายทอดอารมณ์ของวาทยากร กระทั่งแสงจันทร์จืดชืดไร้ความงามมานานหลายปีในเวลานี้ก็ปรากฏเด่นชัดในฟากฟ้ารัตติกาลมืดทะมึน ความปั่นป่วนที่กึ่งกลางอกภายในคล้ายกับกำลังกู่ร้องตะโกนบอก…บอกว่ามรสุมฤดูฝนจะพัดผ่านไปในไม่ช้าเช่นกัน… เรือนร่างสะโอดสะองหยัดกายขึ้นยืน สองขาเรียวก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า ก่อนจังหวะการย่างฝีเท้าจะขยับก้าวด้วยความเร็วในอีกวินาทีในระหว่างความสงบของบรรยากาศ ในระหว่างความเป็นไปของทุกสิ่งอย่างรอบบริเวณ รอยร้าวภายในใจตลอดหลายปีราวกับกำลังสมานเข้าหากันจนใกล้เสร็จสมบูรณ์ริษาไม่ชอบวิ่งเพราะเป็นกิริยาที่มองดูไม่สำรวม ไม่ชอบร้องไห้ใบหน้าเธอคงเหยเกบิดเบี้ยวไม่สวยดังเช่นโมงยามปกติ แต่ตอนนี้เธอกำลังวิ่งอย่างสุดกำลังเท่าที่มี จุดหมายปลายทางคือคนซึ่งกำลังเดินทอดน่องเลียบไปตามชายหาด สายตาพร่าเลือนไปด้วยน้
EPISODE 54คนเดิม ที่เดิม ใจดวงเดิม 1นานมากแล้วที่ริษาไม่มีโอกาสได้นั่งริมทะเลแบบนี้ ทว่าครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยได้ทำก็คือได้ทำกับคนซึ่งนั่งอยู่ข้างกาย ท่ามกลางเสียงคลื่นและสายลมโชยพัด กลิ่นทะเลอวลอยู่ในอากาศ ทั้งหมดนั้นคล้ายกับว่าจะนำพาให้หัวใจของหญิงสาวตัดสินใจเป็นฝ่ายเอ่ยชวนคุยในเรื่องที่ผ่านมาได้นานหลายปี “พี่จำได้ไหม…” ตากลมโตหันมองคนข้าง ๆ ที่กำลังนั่งยืดขาตรง วางฝ่ามือเท้าไว้ที่ด้านหลัง มือข้างหนึ่งยกเบียร์ดื่มอย่างต่อเนื่อง “จำได้ไหมคะว่าตอนนั้นก็เหมือนตอนนี้เลย” ภูริหันมองในจังหวะนี้เอง ก่อนจะถามสวนกลับ “เหมือนตรงไหน?” “ก็ตอนนั้น เรากินข้าวเสร็จก็มานั่งแบบนี้” “อืม” เขาจำได้ดี “ตอนนั้นเธอบอกว่าไม่ชอบ” “ก็ริษาใส่กระโปรงนี่คะ ลมพัดทีก็เปิดหมด” “…”“ตอนนั้นพี่ไม่ยอมให้ริษาใส่ชุดว่ายน้ำ จำได้ไหมคะ…” “อืม” ภูริหัวเราะ ‘หึ’ ออกมาคำหนึ่ง พลางก็พยักหน้ารับ “แต่เธอก็ดื้อจะใส่ให้ได้อยู่ดี” “ก็อุตส่าห์เตรียมมาแล้วนี่คะ” ริษาเถียงอย่างไม่จริงจัง เธอยังจำภาพเหตุการณ์ปั้นปึ่งระห
EPISODE 53ใจตรงกัน หลายวันต่อมา ร้านอาหาร A บรรยากาศร้านอาหารริมทะเลยามคืนค่ำไม่ได้พลุกพล่านด้วยลูกค้าอาจเพราะเป็นวันธรรมดาคนจึงน้อยกว่าช่วงวันหยุด การตกแต่งร้านสุดแสนธรรมดา เมนูอาหารราคาไม่แพง อีกทั้งแม่ครัวยังทำอาหารอร่อยถูกปาก หญิงสาวเจ้าของร่างเพรียวระหงเดินผ่านซุ้มต้นไม้ที่หน้าร้าน เดินผ่านบรรดาโต๊ะต่าง ๆ ซึ่งร้างผู้คน ก่อนจะหยุดยืนที่ริมขอบระเบียงซึ่งเป็นที่นั่งทรงสูงหันหน้าเข้าหาเวิ้งทะเลและฟากฟ้าสีดำทะมึน “รับอะไรดีคะคุณลูกค้า” พนักงานของร้านเดินเข้าสอบถาม สีหน้าไม่มีเค้าตื่นเต้นที่ได้เห็นหน้านักแสดงสาวจะตื่นเต้นทำไม ในเมื่อวันนี้ทีไร ก็จะได้เห็นเจ้าตัวมาที่นี่ทุกปี “ขอสลัดกุ้งจานหนึ่ง กับน้ำเปล่าค่ะ” ริษาตอบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนที่อีกฝ่ายจะผละจากไปอย่างรวดเร็ว เสียงรายการข่าวดึงสายตาของหญิงสาวให้หันมองไปทางโทรทัศน์ซึ่งเปิดทิ้งไว้ ภาพบนหน้าจอฉายให้ได้เห็นถึงการนำเสนอข่าวที่กำลังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู ผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงการมีอารมณ์ร่วมต่อเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแส
EPISODE 52คว้าเอาชัย เรือนจำ ภูริเฝ้ารอเวลานี้มาตลอดหลายปี… เฝ้ารอคนที่เขารักจะเป็นอิสระโดยแท้จริง… ร่างสูงในชุดสูททางการมองดูหล่อเหลาในสายตาคนผ่านไปมา หากนายประตูจำเขาได้ คงประหลาดใจมากพอดู ที่เด็กหนุ่มปอน ๆ เจ้าอารมณ์ที่ระเบิดความรู้สึกใส่เจ้าหน้าที่เมื่อเจ็ดปีก่อน คือคนเดียวกันกับผู้ชายซึ่งมีท่าทางขรึมสงบคนนี้ ภูริตัดสูทมาใหม่ เขาสั่งทำดอกไม้ช่อโตโดยไม่แคร์ว่าจะเป็นการนำดอกไม้มาให้คนซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกัน แว่นดำซึ่งคาดบนสันจมูกมีเพื่ออำพรางนัยน์ตาก่ำแดงที่ผ่านการระบายความอัดอั้นตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ประตูเรือนจำเปิดออก… ทันทีที่ได้เห็นร่างสูงคุ้นตาในสภาพโกนหัว ใส่ชุดสุภาพสีขาว ทั้งรองเท้าแตะสุดแสนธรรมดา คิ้วเข้มหนาก็กระตุกชิด ดวงตาคมปลาบภายใต้แว่นดำหรี่มองไปยังอีกทิศทางเพื่อข่มความรู้สึก ข่มอารมณ์ภายใน ตั่งที่เห็นเจ้านายพยายามเงยหน้าหันหนีไปยังอีกทางได้แต่มองดูด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ ไม่ใช่แค่นายเขาที่คงจะคุมน้ำตาไว้ไม่ได้ เขาเองที่ได้เห็นสภาพนายมาตลอดหลายปีก็ต้องพยายามวางตัวให้สุภาพเช่นกันแม้จะรู