คุณคนโปรดสุดที่ร้าย
ตอนที่ 4
พบเจอ
หลายวันต่อมา
โรงแรม N
ริษาเดินทางมาร่วมงานเลี้ยงขอบคุณสปอนเซอร์ของผู้จัดท่านหนึ่งที่มีโอกาสได้ร่วมงานและเคารพนับถือกันมานาน แขกเหรื่อในงานล้วนแล้วแต่เป็นคนคุ้นหน้าคุ้นตาด้วยกันทั้งสิ้น ทั้งคนที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง รวมไปถึงสื่อมวลชนจากหลายช่องข่าว บรรยากาศงานจึงคึกคักผ่อนคลาย
สถานที่จัดงานเป็นห้องบอลรูมขนาดกลาง โอ่โถงด้วยเพดานสูง ตกแต่งภายในด้วยโทนสีน้ำตาลทองให้ความรู้สึกแสนหรูหรา แขกส่วนใหญ่แต่งกายด้วยชุดสุภาพดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า
วันนี้ริษาอยู่ในชุดเดรสเข้ารูปเน้นสัดส่วนโค้งเว้าอวดโชว์ทรวดทรงน่าประทับใจ เลื่อมปักชุดระยิบระยับเพื่อจุดประสงค์ในการดึงดูดสายตาแขกผู้ร่วมงานและช่างภาพข่าวบันเทิงตามคำแนะนำจากสไตลิสต์ซึ่งสนิทสนมกัน
นอกจากมาร่วมแสดงความยินดีกับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ อีกประการก็เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับบรรดาสปอนเซอร์ซึ่งได้รับเชิญ หากเป็นเมื่อก่อนหญิงสาวคงไม่ถึงกับต้องหว่านพืชหวังผลให้คนอื่นเมตตาขนาดนี้ ทว่าจากสถานการณ์ปัจจุบันหากมัวนิ่งเฉยรองานคงไม่มีอะไรต่างจากที่เป็น บ่อน้ำไม่เดินไปหาควายฉันใด โอกาสก็ไม่ได้เดินมาหาคนฉันนั้น
“ชวดอีกแล้วเหรอ?”
“ให้แกทายว่าใครได้งานนั้นไป?”
“อย่าบอกนะ…”
“ถูก!”
“ฉันยังไม่ได้พูดชื่อเลย”
“คนที่แกคิดนั่นแหละ”
“เพื่อนรักแกได้งานตัดหน้าไปอีกแล้วสิ”
“รักกับผีน่ะสิ!” นางร้ายหน้าสวยทำเสียงขึ้นจมูกด้วยความฉุนเฉียว ก่อนจะต้องรีบเก็บสีหน้ารักษาอาการสงบนิ่งตามเดิม เมื่อตระหนักได้ว่าบัดนี้เธอไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่เป็นส่วนตัว
หลินหลิน เพื่อนดาราคนสนิทยิ้มกว้างหัวเราะไปกับท่าทีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาที่ได้เห็น พลางก็ต้องลูบหลังปลอบใจคนซึ่งตกอยู่ในสภาวะผันผวนทางอารมณ์
“ถ้าเดือดร้อนมาก จะยืมเงินฉันก่อนก็ได้นะ” นางเอกลูกครึ่งจีนเจ้าของฉายาน้ำตาสั่งได้เอ่ยทั้งสีหน้าแสดงความเป็นห่วง “แกก็รู้ว่าฉันยินดีช่วย”
ทว่าคนฟังก็ปฏิเสธทันควัน “ไม่ต้อง ที่แกช่วยเหลือมาตลอดก็มากเกินจะใช้หนี้ไหวแล้ว ฉันไม่รบกวนหรอก”
ริษารู้ดีว่าครอบครัวของหลินหลินร่ำรวย แต่ความช่วยเหลือที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ครั้งแล้วครั้งเล่านั้นเธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะชดใช้หมดเมื่อไร อีกทั้งยิ่งสนิทก็ยิ่งต้องเกรงใจ ต่อให้ย่ำแย่ยิ่งกว่านี้ริษาก็จะไม่รับความช่วยเหลือจากเพื่อนอีก
“ถ้ามันหนักนักก็วางบ้างเถอะแก” ถึงหลินหลินเองก็เหนื่อยที่จะโน้มน้าว ได้แต่ส่ายศีรษะอย่างไม่เห็นด้วยในความดันทุรังจะจัดการทุกอย่างด้วยตนเองของเพื่อน
“เอาเป็นว่าฉันจะพยายามจัดการด้วยตัวเองก่อน พักหลังแกเองก็มีปัญหากับคุณอาบ่อย ๆ ฉันไม่อยากสร้างปัญหาเพิ่ม” ริษากำลังหมายถึง เจ้าสัวกำชัย ผู้เป็นพ่อของคนข้าง ๆ
คงไม่ต้องพยายามเปลี่ยนประเด็นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อีกแล้ว เพียงได้ยินการอ้างถึงบิดา ก็ราวกับหลินหลินจะไม่ต้องการพูดถึงเช่นกัน ทั้งนางเอกสาวยังเป็นฝ่ายพาเปลี่ยนเรื่องเสียเอง
“คนนั้นคุณคม ได้ข่าวว่าช่วงนี้กำลังมองหาพรีเซนเตอร์คนใหม่ เขาเป็นเจ้าของแบรนด์สกินแคร์ที่กำลังมาแรงช่วงนี้” หลินหลินพยักพเยิดไปทางหนึ่งพร้อมให้ข้อมูล
“คุณคมเหรอ คุ้น ๆ นะ” ริษามองตามอย่างให้ความสนใจ “คนข้าง ๆ ล่ะ?”
“คนนั้นถ้าจำไม่ผิดเป็นเพื่อนสนิทคุณรตี ผู้จัดละครพีเรียดเรื่องที่กำลังเป็นกระแส”
“อืม น่าสนใจ”
“น่าสนใจคือ?”
“ก็น่าทำความรู้จักน่ะสิ แกก็รู้ว่าฉันต้องการงาน”
ได้เห็นริษาตีหน้ายุ่งยาก นางเอกลูกครึ่งก็ถอนหายใจเอ่ยทั้งน้ำเสียงกวนอารมณ์ “นึกว่าถามเพราะเขาหล่อ”
“พักค่ะ เพื่อนแกเหมือนต้องการผู้ชายนักหรือไง?”
“อืม นั่นสินะ”
หลินหลินเห็นด้วย เธอรู้ดีว่าริษาไม่เพียงแต่ไม่ต้องการผู้ชาย แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับใครมานานหลายปีแล้วต่างหาก แม้จะมีหน้าตาสะสวยจนติดโผดาราสุดฮอตจากโพลหลายสำนัก แต่ชีวิตจริงเพื่อนแทบไม่ชายตามองผู้ชายคนไหน หากให้ความสนใจก็คงไม่พ้นเรื่องงาน แถมพอพูดถึงเรื่องผู้ชายทีไรริษาก็มักจะปัดตกไม่สนใจจะฟังทุกที
เวลาเดินหน้าท่ามกลางเสียงจอแจเคล้าไปกับดนตรีดังคลอ สองสาวก็ยังกระซิบเสียงพูดคุยกันสองคน ขณะที่คนหนึ่งให้ข้อมูล อีกคนก็พยายามล็อกเล็งเป้าหมายด้วยความตั้งอกตั้งใจ
และหลังจากผ่านไปนานกว่าชั่วโมงริษาก็ขยับกอดเอวคนข้าง ๆ เข้าหาตัวพร้อมเอ่ยปากชมเสียงสดใส
“มีเพื่อนเป็นแกนี่ดีจริง ๆ” หากไม่ได้คนซึ่งมีสังคมกว้างขวางให้การแนะนำเธอคงไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
“ฉันเป็นคนเข้าสังคม จะรู้ทันเหตุการณ์บ้านเมืองก็ไม่แปลก” หลินหลินยิ้มมุมปากด้วยความภูมิใจ ถึงริษาก็หรี่ตามองเพื่อนด้วยความมันเขี้ยว
“ไม่ต้องเป็นแล้วไหมนางเอก รับบทนางซีซีทีวีดีกว่า”
“ด่ามาเถอะว่านางเสือก” นางเอกลูกครึ่งพยักหน้ายอมรับไม่คิดโต้แย้งเลยสักคำ ทั้งยังขยายความปณิธานนำใจของตัวเองต่อด้วยสีหน้าขบขัน “เรื่องงานตอบไม่ค่อยได้ แต่เรื่องชาวบ้านขอให้บอก หลินหลินเล่าได้เป็นวัน”
“ฉันเชื่อแก” คนฟังถึงกับยกมือยอมแพ้
ความสนิทสนมทำให้ริษารู้ดีว่านิสัยส่วนตัวของเพื่อนเป็นอย่างไร เบื้องหน้าหลินหลินเป็นนางเอกเจ้าบทบาทที่รีดน้ำตาเก่งยิ่งกว่าใครในวงการจึงมักได้รับบทนางเอกชีวิตรันทดแสนอ่อนแอ หากเบื้องหลังเป็นคนกว้างขวางซ้ำยังขุดคุ้ยหาข้อมูลเก่งยิ่งกว่านาตาชา ถามเรื่องใครเจ้าตัวรู้หมดอย่างกับอยู่ใต้เตียง จะไม่ให้เรียกว่านางซีซีทีวีได้อย่างไร
ทว่าริษานั้นต่างออกไป เธอแทบไม่ได้ให้ความสนใจกับใคร หลายปีที่ผ่านมาก็ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่งาน เวลาว่างที่มีหมดไปกับการดูแลตนเอง ทั้งเข้าคลินิก ทำสปา ปั้นหุ่นออกกำลังกาย หากเป็นตอนที่ยังร่ำรวยกิจกรรมสุดโปรดปรานอีกอย่างคงไม่พ้นการชอปปิงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตามเทรนด์แฟชั่นที่มีการอัปเดตใหม่อยู่เสมอทั้งที่เป็นกระแสทางสื่อโซเชียล รวมไปถึงการวิเคราะห์จากรันเวย์แฟชั่นโชว์ของแต่ละแบรนด์ในซีซั่นต่าง ๆ
“เฮ้อ!” นางร้ายหน้าสวยลอบถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง เมื่อนึกถึงกิจกรรมสุดโปรดที่ระยะหลังไม่มีโอกาสได้ทำเท่าไรนัก
หากเป็นเมื่อก่อนจะเจอตัวริษาคงไม่ต้องเดาว่าอยู่ที่ไหน แต่ตอนนี้อดีตคนเคยรวยไม่มีกำลังทรัพย์มากพอจะชอปปิงเสื้อผ้าแบรนด์หรู ไม่มีเงินมากพอจะเข้าคลินิกบ่อย ๆ กระทั่งกิจกรรมนวดผ่อนคลายระหว่างวันก็ต้องตัดทิ้งไปจากรูทีนเช่นกัน
ทว่าในระหว่างห้วงคำนึงนึกย้อนถึงไลฟ์สไตล์ในอดีตก็มีบางอย่างดึงดูดความสนใจให้หันมองไปอีกทาง ริษาแสดงสีหน้าบางอย่างจนคนข้าง ๆ ถึงขั้นสัมผัสได้
“เป็นอะไร?” หลินหลินอดไม่ได้ที่จะมองตามสายตา หากคนที่มีปฏิกิริยาเปลี่ยนไปก็ปฏิเสธทันควัน
“เปล่า”
ทว่าท่าทีที่พยายามกลบเกลื่อนอาการก็ตกอยู่ในการจับจ้องของเพื่อนซึ่งฉลาดพอจะตั้งข้อสังเกต
“แกทำหน้าเหมือนเจอผี”
“…”
การได้เจอใครบางคนที่นี่สำหรับริษายิ่งกว่าได้เจอผีเสียอีก แต่ครั้งนี้เธอไม่ถึงกับตื่นตกใจ ด้วยรู้อยู่แก่ใจว่าจะได้เจอ เขา จากรายชื่อผู้สนับสนุนที่ได้รับเชิญ
“ไม่ต้องหรอกแก ฉันจัดการเอง” แน่นอนว่าริษาปฏิเสธ พร้อมกันก็ต่อสายหาผู้จัดการส่วนตัว รอไม่กี่อึดใจปลายสายก็กดรับ
“เจ๊ต้อยอยู่ไหนแล้วคะ? งานจะเริ่มแล้วนะ”
(เจ๊น่าจะไปช้าหน่อยค่ะคุณลูก คงอีกสักชั่วโมง ระหว่างนี้เธอนั่งรอไปก่อนนะ มีอุบัติเหตุบนทางด่วนรถติดยาวเลยเนี่ย) ที่ต้อยติ่งพูดคงไม่ใช่เรื่องเกินจริงเพราะริษาได้ยินเสียงไซเรนรถพยาบาลดังแทรกเข้ามาในสาย
“ยังไงรีบมานะเจ๊”
(เจ๊จะรีบไปให้เร็วที่สุด น่าจะยังทัน)
“งั้นเท่านี้นะคะ ขับรถดี ๆ ค่ะ”
หลังจากวางสาย หันมองข้างตัวอีกทีก็พบว่าหลินหลินกำลังสนทนาอยู่กับเพื่อนร่วมวงการที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ขณะที่นางเอกลูกครึ่งสามารถโต้ตอบกับคนอื่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แต่ริษาเพียงแค่ยิ้มทักทายพอเป็นพิธี
เธอไม่ใช่คนเป็นมิตรสักเท่าไร หากไร้รอยยิ้มประดับบนหน้าก็เรียกได้ว่าบทบาทนางร้ายที่มักจะได้รับนั้นช่างเข้ากับภาพลักษณ์ภายนอกอย่างแท้จริง สุดท้ายจึงหมดเวลาไปกับการหันมองบรรยากาศรอบตัว และมักจะจบสายตาลงที่ใครบางคน…
ขณะที่เสียงจอแจยังคงดัง ระหว่างที่ทุกคนยังคงสนุกอยู่กับการพูดคุย คงมีแค่หญิงสาวที่ลอบสำรวจท่าทีร่างสูงที่ยืนห่างออกไปท่ามกลางฝูงชน ทว่าในหลายจังหวะก็จำต้องเป็นฝ่ายเมินหน้าหนีเพราะอีกฝ่ายดันเห็นว่าเธอแอบลอบมองเขาไม่วางตา
นักธุรกิจหนุ่มหย่อนกายนั่งไขว่ห้างที่เก้าอี้ตัวหนึ่งโดยมีลูกน้องยืนอยู่ที่ด้านข้าง ดวงตาคมกริบไม่แสดงอารมณ์จับมองคนในอดีตของเขาที่ยังคงเป็นสาวเนื้อหอมมีผู้ชายตบเท้าเข้าหาชวนพูดคุยไม่ขาดสาย
อีกทั้งเจ้าตัวก็ทำทีกระตือรือร้นที่จะสนทนาทั้งที่ก่อนหน้าแทบไม่ได้ให้ความสนใจกับใคร ยิ้มหวานที่ปรากฏบนใบหน้า ท่าทีเย้ายวนสายตาโดยไม่ตั้งใจ ทั้งการเคลื่อนไหวแต่ละขยับประหนึ่งจะโปรยเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม
ทว่าเมื่อสบตากับเขาท่าทีดังกล่าวก็จะเปลี่ยนไป ภูริคิดว่าอาการเชิดหน้าคอแทบหักของเธอ คงมีไว้สำหรับตอบสนองต่อสายตาเขาแค่คนเดียว
คุณคนโปรดสุดที่ร้าย ตอนที่ 5ตัดไฟต้นลม หนึ่งชั่วโมงต่อมา ริษาไม่ใช่คนขี้อาย อีกทั้งเป็นคนมีความมั่นใจสูง แต่วันนี้ความมั่นใจที่มีราวกับจะลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย กว่าค่อนชั่วโมงที่ผ่านมาเธอหมดเวลาไปกับการพูดจาฉอเลาะ ปั้นยิ้มปากแทบเป็นตะคริวกับผู้หลักผู้ใหญ่ ซ้ำร้ายยังมีสายตาของคนบางคนจดจ้องโดยเลี่ยงหลีกไม่ได้นี่ก็อีกเฮงซวย! เฮงซวยจริง ๆ หลังพิธีทางการสิ้นสุดแขกส่วนหนึ่งเริ่มทยอยกลับออกไปแต่ผู้จัดการของเธอก็ยังไม่มา ริษาจำใจต้องฉายเดี่ยวเดินหน้าเข้าพูดคุยโดยอาศัยตอนที่เป้าหมายสนทนาอยู่กับคนที่เธอเองก็รู้จัก ทว่าก็น่าหงุดหงิดที่ทุกคนต่างพากันดึงภูริให้เข้าร่วมวงแทบจะทุกครั้งไปแม้เขาจะเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในแวดวงคนเบื้องหลัง ใครต่อใครต่างก็อยากทำความรู้จัก แต่ในสายตาเธอประธานหนุ่มดูจะอยู่ผิดที่ผิดทาง ท่าทางของเขาเฉยเมยต่อบรรยากาศรอบตัว ด้านหลังมีลูกน้องคนหนึ่งยืนกุมเป้าในทีท่าสงบ ส่วนเจ้านายก็ดูจะเบื่อหน่ายกับการอยู่ท่ามกลางฝูงชน กระนั้นภูริคงเป็นปัญหาแค่กับริษาคนเดียว ไม่ว่าดาราสาวจะพยายามวางตัวให้เป็นธรรมชาติเพียงใด ปั้นแต่งคำพูดสวยหรูเพื่อบรรลุวัตถุป
EPISODE 6มรสุมหลายวันต่อมาอู่ซ่อมรถเป็นโชคร้ายที่วันนี้รถยุโรปที่ริษาใช้งานมาหลายปีตั้งแต่สมัยเรียนเกิดดับสนิทบนทางด่วน กว่ารถลากจะมาถึงก็กินเวลานานนับชั่วโมง แต่เป็นโชคดีที่เธอถ่ายรายการเสร็จตั้งแต่ช่วงสายมิเช่นนั้นเห็นทีคงมีปัญหาวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม“ผมเช็กแล้วสาเหตุเกิดจากหม้อน้ำแห้ง สายหม้อน้ำรั่ว ปะเก็นฝาสูบโก่ง เครื่องยนต์พัง ต้องยกเครื่องใหม่นะครับ และมีเปลี่ยนสายหม้อน้ำด้วยครับ”เสียงของช่างคนหนึ่งดึงความสนใจลูกค้าสาวให้หันมอง อีกฝ่ายยื่นกระดาษรายการคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ให้ พร้อมเอ่ยด้วยท่าทางเป็นงานเป็นการ“ถ้าจะยกเครื่องตรงรุ่นจะเป็นราคานี้ครับ” เขาชี้ตัวเลขที่ทำเอาคนมองถึงกับต้องถอดแว่นดำออกเพื่อมองให้ชัด ๆ “แต่ถ้ายกเครื่องญี่ปุ่นราคาก็จะถูกลง”“เดี๋ยวนะคะ คือรถมันแค่สั่นและมีควันขึ้น ทำไมค่าใช้จ่ายถึงสูงขนาดนี้ล่ะคะ?”คิ้วสวยย่นเข้าหากันด้วยความระแวดระวัง ดาราสาวกวาดสายตามองรอบตัว เริ่มรู้สึกหวั่นใจว่าอู่ซ่อมรถแห่งนี้จะเล่นไม่ซื่อกับเธอหรือไม่ แต่ช่างคนเดิมก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ“เพราะเครื่องมันพังครับ ถ้าไม่ยกเครื่องก็คงต้องซื้อรถใหม่ ถ้าลูกค้าไม่เชื่อจะลองไปเช็กที่
EPISODE 7กลืนน้ำลาย วันต่อมา หลังงานแถลงข่าว ที่บอกว่าทุกอย่างอาจผ่านไปได้ด้วยดี เห็นทีคงไม่เป็นดังที่หวัง ตอนนี้ริษารู้สึกราวกับโลกทั้งใบพร้อมที่จะถล่มทับใส่เธอ! ตึก! ตึก! ตึก! “ขอสัมภาษณ์เพิ่มเติมหน่อยค่ะคุณริษา!” “คุณริษาให้สัมภาษณ์เพิ่มได้ไหมคะ!” ตึก! ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้าของฝูงชนจำนวนหนึ่งกำลังมุ่งมาจากทุกทิศทาง อีกทั้งเสียงจอแจของฝูงชนที่ว่ายังพยายามทลายกำแพงการ์ดรักษาความปลอดภัยเพื่อหวังจะเข้าใกล้นักแสดงสาวซึ่งตกเป็นประเด็นร้อนในเวลานี้ ขณะเดียวกันเจ้าของดวงหน้าเผือดซีดก็ต้องพยายามเร่งฝีเท้าตามผู้จัดการส่วนตัวซึ่งเป็นฝ่ายเดินนำ ทว่าด้วยแรงพลังจากนักข่าวบันเทิงหลายสำนักส่งผลให้การ์ดรักษาความปลอดภัยไม่สามารถขวางกั้นไว้ได้อีกต่อไป อึดใจเดียวกล้องนับสิบกับเครื่องบันทึกเสียงหลายตัวก็จ่อยื่นเข้าหาริษาอย่างรวดเร็ว“คุณริษากับคุณบี้ให้สัมภาษณ์ว่าไม่มีอะไรเกินพี่น้อง แต่ล่าสุดมีภาพหลุดสองคนเดินชอปปิงที่เกาหลีด้วยกันนะคะ แบบนี้จะแก้ข่าวว่ายังไงคะ?” “ตอบประเด็นนี้หน่อยค่ะ เพิ
EPISODE 8เงื่อนไขหนึ่งชั่วโมงต่อมา การที่ภูริเติบโตในหน้าที่การงานย่อมส่งผลถึงฐานะความเป็นอยู่ ริษารู้ว่าตอนนี้อดีตคนรักเป็นคนร่ำรวยคนหนึ่งแต่ไม่คิดว่าบ้านของเขาจะใหญ่โตเทียบเท่ากับคฤหาสน์ในอดีตของเธอทว่าที่ต่าง… คงเป็นความงันเงียบประหนึ่งไร้คนอยู่อาศัยที่นี่ว่างเปล่า… ไม่มีแม้แต่เงาของแม่บ้านสักคน แม้พยายามทำใจตลอดชั่วโมงที่ผ่านมา รวมถึงคิดทบทวนครั้งแล้วครั้งเล่าว่าสิ่งที่จะทำนั้นคุ้มค่ามากพอหรือไม่ แต่เมื่อมาถึงริษาก็ยังลังเลใจเอ่ยอ้างว่าขอเวลาทำธุระส่วนตัว หากนี่ก็ปาไปเกือบค่อนชั่วโมง ธุระส่วนตัวของเธออาจนานเกินพอดีแล้วกระมังทว่าในที่สุด สายเรียกเข้าจากคนซึ่งกำลังตั้งตารอก็ดังขึ้นRrrrrr “หลิน” (เป็นไงบ้างริษา? โอเครึเปล่า?) เสียงของเพื่อนฟังดูร้อนใจ (ฉันเพิ่งเข้าฉากเสร็จ พอมีเวลานิดหน่อย แต่ดึก ๆ จะแวะเข้าไปหา…) “ไม่ต้องหรอกแก” (คงเข้าไปดึกหน่อย เมื่อเช้าฉันทะเลาะกับคุณพ่ออาจต้องแวะเข้าบ้านก่อน…ได้ค่ะสักครู่นะคะ… แป๊บนึงนะแก) “อืม” ริษาขานรับในลำคอ เสียงแทรกที่ปลายสายบ่งบอกว่าหลินหลินคงกำลังวุ
EPISODE 9เจ้านายคนใหม่ วันต่อมา ออด!“มาแล้วค่ะ!” ริษาในสภาพเมาขี้ตาสาวเท้าอย่างเร่งร้อนตรงดิ่งไปเปิดประตูด้วยความหงุดหงิดใจ อาจเพราะเมื่อคืนเธอแทบไม่ได้นอนจึงอิดออดที่จะลุกจากเตียง ทว่าคนซึ่งมาเยือนแต่เช้าตรู่ก็ขยันกดกริ่งซ้ำไปซ้ำมาอย่างกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย แกร๊ก! เพียงบานประตูเปิดออก จากที่งุนงงอยู่ก่อนแล้วก็ยิ่งสับสนไปกันใหญ่ เมื่อคนตรงหน้าคือตั่งลูกน้องของภูริ “สวัสดีค่ะ ทำไมมาเช้าจังเลยคะ?”ดาราสาวรวบชุดคลุมตัวยาวปกปิดสภาพชุดนอนบางเบาที่ด้านใน ท่าทางสะลึมสะลือเลือนหายเป็นปลิดทิ้ง ตอนแรกเธอคิดว่าจะเป็นผู้จัดการส่วนตัวอย่างต้อยติ่งที่มักจะมาแต่เช้าตรู่เสมอแต่กลับไม่ใช่… “สวัสดีครับ คุณภูให้ผมมารับคุณริษาครับ” ตั่งเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งสนิทไม่คิดขยายความเพิ่มเติม และคำบอกกล่าวที่ว่าก็ทำเอาคนฟังขมวดคิ้วงุนงง “ตั้งแต่ตอนนี้เลยเหรอคะ?” “ครับ” ดาราสาวหันมองนาฬิกาด้านในห้องอีกที เธอมองเวลาผิดไปหรืออย่างไร นี่มันเพิ่งจะหกโมงเช้าเท่านั้นเอง!เหตุการณ์เมื่อคืนจบลงตรงที่ภูริบอกว่
EPISODE 10ปลอมตกดึก ภูริบอกให้เริ่มงานทันที แต่วันนี้เขาเป็นฝ่ายให้เลขาโทรมาแจ้งว่ามีนัดกับลูกค้าคงกลับดึก ผลพลอยได้คือริษาไม่ต้องลงมือทำอาหารเย็นเตรียมไว้รอตั้งแต่วันแรกของการทำงานถึงปากจะบอกว่าทำได้ทุกอย่าง…แต่เธอทำอาหารเป็นที่ไหนกัน!งานบ้านยิ่งแล้วใหญ่ ดาราสาวไม่เคยลงมือทำด้วยตนเองเลยสักครั้ง เมื่อตอนที่ยังร่ำรวยก็มีคนคอยทำให้ ส่วนครั้งตกต่ำก็จำต้องจ้างบริษัททำความสะอาดสัปดาห์ละครั้งเนื่องด้วยการทำงานไม่เป็นเวลาที่บางครั้งบางทีออกกองดึกดื่นกว่าจะกลับถึงห้องก็สลบไสลหมดเรี่ยวหมดแรงกระนั้นริษาก็ไม่คิดว่าจะยากเย็นเกินไปในสิ่งที่ได้ทำการตกปากรับคำกับเจ้าของเงินก้อนโต อย่างไรช่วงนี้เธอก็ไม่ค่อยมีงาน การได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ก็ถือว่าท้าทายดีเหมือนกันตอนนี้เป็นเวลาดึก เจ้าของบ้านยังไม่กลับ แต่นั่นก็เรื่องของเขา ประเด็นคือริษานอนไม่หลับ… หากเป็นเวลาปกติคนซึ่งรักสุขภาพอย่างเธอคงหลับฝันได้หลายตลบ ทว่าหลายวันที่ผ่านมาสิ่งที่ได้เจอเริ่มทำให้ปัญหาสุขภาพกลับมาทักทาย แม้พยายามข่มตานอนเท่าไรแต่สมองก็ยังคงทำงาน เมื่อเลื่อนโทรศัพท์ดูนาฬิกาก็พบว่าขณะนี้เป็นเวลา
EPISODE 11ก้นบึ้งหนึ่งชั่วโมงต่อมาแสงไฟหม่นสลัวในห้องปิดทึบ เสียงเพลงจังหวะเนิบช้าดังคลอ กลิ่นของแอลกอฮอล์ชนิดหนึ่งลอยอยู่ใต้จมูก ทุกอย่างประกอบรวมเข้าด้วยกัน ส่งผลให้เป็นบรรยากาศผ่อนคลายสำหรับคนหนึ่ง ทว่าสำหรับอีกคน…กลับมีความรู้สึกในขั้วตรงข้ามกัน… “ผมหมด คุณหมด” นัยน์ตาลุ่มลึกหลุบมองคนซึ่งนั่งอยู่บนตัก พร้อมกันเขาก็ดื่มจนหมดแก้ว ของเหลวซึ่งไหลผ่านลำคอส่งผลให้ลูกกระเดือกเขยื้อนขยับหลังจากหลายแก้วผ่านไป ริษาเริ่มไม่แน่ใจว่าตัดสินใจถูกหรือไม่ที่พาตัวเองเข้ามาข้องเกี่ยวกับอดีตคนรักในระยะชิดใกล้เกินพอดี… ท่าทางของภูริผ่อนคลายอย่างเห็นได้ชัด ต่างจากเธอที่เริ่มวางไม้วางมือไม่ถูก นัยน์ตาหนักอึ้งพร้อมจะปิดสนิทลงได้ทุกเมื่อ“ริษาเริ่มเมาแล้วนะคะ” ปากอิ่มเม้มสนิท บอกอาการส่วนตัวให้อีกฝ่ายได้รู้ตามตรง ทว่าเขาก็ตอบกลับด้วยการหลุบมองของเหลวในแก้วเธอราวกับจะออกคำสั่งสุดท้ายริษาก็จำใจต้องดื่มโดยไม่สามารถมีข้อโต้แย้ง แอลกอฮอล์ที่ไหลผ่านลำคอเริ่มทำให้อุณหภูมิกายร้อนรุ่ม หากไม่รู้ว่าที่ ร้อน เป็นเพราะเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว หรือเพราะอะไรกันแน่“คุณคงต้องดื่มเป็นเพื่อนผมบ่อย ๆ” เส
EPISODE 12เผด็จการ 1 วันต่อมา “ให้ริษาใส่ชุดนี้เหรอคะ?” สายตาประหลาดใจเลื่อนมองชุดราตรีออกงานซึ่งวางพาดอยู่ที่พนักโซฟาตอนนี้เป็นเวลาเกือบพลบค่ำ ริษาไม่คิดว่าภูริจะกลับมาพร้อมออกคำสั่งกะทันหันเช่นนี้ “แต่งตัวให้เรียบร้อย ผมมีเวลาให้คุณหนึ่งชั่วโมง” “หนึ่งชั่วโมง?” คิ้วบางเลื่อนขมวดเข้าหากัน ก่อนดาราสาวจะหันมองคนซึ่งนั่งกอดอกด้วยท่าทางเฉยชา “งานระดับไหนคะ? ต้องทำผมเยอะรึเปล่า? ต้องเรียกช่างแต่งหน้ามาไหม…” “แต่งให้พอประมาณ” ประธานหนุ่มตัดบท หากเขาต้องรอให้เธอเรียกช่างมาแต่งหน้าทำผม เห็นทีคงไปไม่ทันเวลางาน พลันร่างบางก็เลียนแบบท่าทางกอดอกของเขา ก่อนจะเริ่มสาธยายทั้งสีหน้าจริงจัง “เวลาแค่หนึ่งชั่วโมงริษาแต่งตัวไม่ทันหรอกค่ะ กว่าจะลงผิวเสร็จก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว ไหนจะต้องทำผมอีก แถมไม่รู้ว่ามีรองเท้าที่เข้ากันกับชุดนี้ด้วยรึเปล่า อาจต้องโทรบอกเจ๊ต้อยให้เข้าไปเอาที่คอนโด…” “ผมมีเวลาให้แค่หนึ่งชั่วโมง” ภูริยังคงทำหูทวนลม ท่าทางไม่แยแสของเขาทำเอาคนซึ่งตั้งท่าจะโต้เสียงเถียงถึงกับฉุนกึก “ถ้าจ
SPECIAL 3 หลายชั่วโมงต่อมา “แล้วลื้อรู้จักอ๊ะเปล่า?” “รู้สิคะกงขา จี้รู้ทุกอย่างค่ะ คุณแม่สอนมาหมดแล้วค่ะ” “แล้วลื้อล่ะ?” “ด้าก็รู้ค่ะ ง่ายมากเลย” “แล้วลื้อ?” “ผมก็รู้ครับอากง” “เอ้อ! เด็กสมัยนี้นี่เก่งจริง ๆ อั๊วต้องจ่ายเท่าไรล่ะเนี่ย?” “คนละหนึ่งร้อยค่ะกงขา” “แบงก์สีอะไร?” “สีแดงค่า” “เอ้า ๆ” “ขอบคุณค่าอากง” / “ขอบคุณครับอากง” “ของมุกล่ะคะ?” “ลื้อโตขนาดนี้แล้วนาอามุก” “แหม! พอได้หลานหน่อยก็ไม่เปย์ลูกสาวแล้วเหรอคะ?” “เอ้อ! ไอ้ลูกคนนี้ งั้นลื้อเอาแบงก์เขียวไปแล้วกัน…” “โอ้โห ป๊าคะ! ทำไมมุกได้น้อยกว่าหลานล่ะ?” “เอ้อ! ลื้อจะเอาไม่เอา?” “เอาค่ะ!” เด็กหญิงสอง เด็กชายหนึ่ง โก้งโค้งยกมือไหว้ขอบคุณคนซึ่งมีสถานะเทียบเท่าได้กับคุณปู่อย่างเกรียงไกรที่เพิ่งมาถึงได้ไม่นาน ขณะเดียวกันลูกสาวแท้ ๆ ก็กำลังหัวเราะคิกคัก บ้างก็ปั้นหน้ากระเง้ากระงอดเมื่อรบ
SPECIAL 2 บนห้องนอนชั้นสองของบ้านซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นห้องนอนของภูริในวันวาน ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม แม้เขาจะไม่ได้อยู่อาศัยที่นี่เป็นหลัก ทว่าบางครั้งบางทีก็มักจะพาลูกพาเมียแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมพี่ชายอยู่บ่อย ๆ ดวงตาคมทอดสายตามองร่างระหงเพรียวบางของภรรยากำลังค้นหาเสื้อผ้าที่ใช้สำหรับผลัดเปลี่ยนให้จีจี้ซึ่งทำน้ำหกเลอะชุดนางฟ้าจนเป็นรอยคราบ และเพราะเด็ก ๆ ชอบมาเยี่ยมลุงวิศเป็นอย่างมาก ที่นี่จึงมีทุกอย่างที่จำเป็นไม่เว้นแม้กระทั่งเสื้อผ้าของลูกสาวและลูกชาย “ขึ้นมาทำไมคะ?” ริษาสะดุ้งสุดตัวเมื่อคนตัวโตรวบกอดจากทางด้านหลัง แค่หันมองสบตา เธอก็ถึงกับต้องถอนหายใจ ท่าทางการตอบสนองดังกล่าวทำเอาประธานหนุ่มหัวเราะฉุน ๆ ทันที “ทำไมครับ? เธอเบื่อพี่?” “เบื่ออะไรกันคะ? แต่พี่เล่นหื่นตลอดเวลาแบบนี้ริษาช้ำหมดแล้ว” ภรรยาทำเสียงดุ กระนั้นก็ไม่คิดขยับขัดขืน “ตัวหอม”ภูริกดจมูกหอมเข้าที่ลาดไหล่บอบบางด้วยความรักใคร่ ผิวกายของริษาเนียนละเอียด ทั้งใบหน้าก็เนียนใสไร้รอยกระดำกระด่าง ร่างกายซึ่งผ่านการมีลูกแล้วถึงสามคนยังคงความผอมบาง ทว่าสะโพกผ
SPECIAL 1 หลายปีต่อมา เสียงเด็กหญิงสองคนกำลังวิ่งเล่นด้วยความสนุกสนาน สวนดอกไม้หน้าบ้านร่มรื่นไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ซึ่งเจ้าของบ้านเป็นคนปลูกไว้เมื่อนานหลายสิบปีมาแล้ว ภวิศย่อกายอุ้มเด็กคนหนึ่งขึ้นสู่อ้อมแขน ก่อนที่เด็กหญิงอีกคนจะถูกอุ้มโดยผู้เป็นพ่ออย่างภูริ จีจี้ และ ดาด้า เป็นพี่น้องฝาแฝดที่อายุห่างกันเพียงสิบนาที หน้าตาของเด็กน้อยที่อายุเพียงห้าขวบเริ่มฉายแววสะสวยเหมือนผู้เป็นแม่ไม่มีผิด ดวงตากลมโตประกายน้ำตาลมีแพขนตาล้อมรอบ จมูกเชิดรั้นเล็กน้อยราวกับจะถอดแบบมาจากมารดา ไม่เว้นกระทั่งริมฝีปากลูกสาวของภูริแทบไม่ได้เค้าของเขามาเลยแม้แต่นิดเดียว… ทว่าที่อีกด้าน ตาต้า ลูกชายเพียงคนเดียว กลับมีลักษณะเหมือนบิดาราวกับเป็นร่างโคลน เด็กชายอายุสี่ขวบกำลังนั่งเล่นอยู่ในบ่อกองทรายที่ลุงภวิศเตรียมเอาไว้ให้ ใกล้กันเป็นริษากับมุกดาซึ่งช่วยกันตระเตรียมอาหารกำลังสนทนากัน “มีผู้ชายมาจีบค่ะ” “หืม… ดีใจด้วยนะคะคุณมุก” “โอโห! เจ็บนะคะเนี่ย!” “ทำไมถึงเจ็บล่ะคะ? ริษาดีใจด้วยจริง ๆ” “แหม! มุกบอกใคร ทุกคนก
EPISODE 57รุ้งกินน้ำภูริซึ่งนิ่งสงบจนอีกคนสามารถจับสังเกตได้รีบเบนสายตามองไปทางอื่น ทว่าริษาก็ขยับตัวมองตาม นัยน์ตากลมฉายให้ได้เห็นถึงความข้องใจ“ทำไมริษารู้สึกแปลก ๆ คะ?”“แปลกยังไงครับ?” เขาถามกลับ ทว่าก็ยังไม่ยอมสบตา“หรือว่าพี่เป็นคนปล่อยข่าวเสียหายของริษาด้วยเหรอคะ?” ดาราสาวทำตาโต ยกมือขึ้นทาบอก ขยับตัวก้าวถอยห่างในทันทีกระนั้นภูริก็ดึงตัวเธอเข้ากอดอีกครั้ง เขาลั่นหัวเราะเสียงดัง โยกตัวคนในอ้อมแขนด้วยความรู้สึกเอ็นดู“พี่จะทำแบบนั้นทำไม?”“ก็พี่… ริษาได้เจอพี่ช่วงนั้นพอดี…” ริษารู้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาตั้งใจที่จะเจอ แต่ก็ทำทีหรี่ตามองด้วยสายตาข้องใจยังคงเดิม“อืม” คนโดนจับได้พยักหน้า “เรื่องเจอเธอพี่เป็นคนอยากเจอ”“โดยการปล่อยข่าวเสียหายของริษาเหรอคะ?” คำถามจับผิดยังคงถูกถามย้ำ แต่ภูริก็พ่นลมหัวเราะทางจมูกด้วยอารมณ์ขบขัน“พี่ว่าเรื่องนั้นน่าจะเป็นคราวซวยของเธอมากกว่า”“ก็แล้วทำไมต้องทำตัวแปลก ๆ ด้วยล่ะคะ?” ดาราสาวหรี่สายตามอง ในที่สุดภูริก็จำใจต้องยกมือยอมแพ้“พี่แค่รู้… ว่าเธอจะเอาเงินไปทำอะไร”“รู้ตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอคะ?”“เปล่าครับ” ประธานหนุ่มส่ายศีรษะ ก่อนจำต้องเฉลยให้ฝ่ายค
EPISODE 56ทุกอย่างล้วนคือเธอ หกเดือนต่อมา “ไม่เห็นต้องเอาของมาเยอะขนาดนี้เลยค่ะ” “มาเยี่ยมแม่ยายทั้งทีจะให้พี่เอากระเช้ามาแค่อันเดียวได้ไงครับ?” “แต่นี่เยอะไปหรือเปล่าคะ?” “ไม่เยอะ” ริษาหรี่สายตามองร่างสูงของภูริที่กำลังขนของลงจากหลังรถ ของที่ว่า ไม่เยอะ ทว่าชายหนุ่มกลับต้องเดินกลับไปกลับมาขนถึงสามสี่รอบ นอกจากจะเป็นกระเช้าผลไม้และอาหารเสริมบำรุงร่างกาย ยังมีถุงกระดาษที่ภูริตั้งใจสั่งซื้อมาจากห้องเสื้อแบรนด์ดังเพื่อเป็นของฝากให้กับฤดีอีกด้วย วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ คนซึ่งบ้างานอย่างเขาตั้งใจจะพาริษามาเยี่ยมมารดาซึ่งในปัจจุบันย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านตากอากาศในจังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก บ้านไม้หลังโตสองชั้นสีขาวสะอาดตาล้อมไปด้วยรั้วต้นไม้ซึ่งสูงเพียงระดับอก ถัดจากขอบรั้วออกมาที่ด้านนอกตัวบ้านเป็นที่ดินว่างเปล่าหากก็ไม่ได้รกร้างแต่อย่างใด มีต้นไม้ถูกปลูกไว้แนวเรียงเป็นตับ บรรยากาศสดชื่นน่าอยู่อาศัย วันนี้ริษาอยู่ในชุดกระโปรงตัวยาวเรียบร้อย ไม่ได้แต่งหน้าทำผมเหมือนดังเช่นทุก
EPISODE 55ที่เดิม คนเดิม ใจดวงเดิม 2 หญิงสาวทอดสายตามองตามร่างโปร่งกำยำคุ้นตาที่เดินห่างออกไปสายลมซึ่งโชยผ่านจนเรือนผมสยายยาวสะบัดปลิวราวกับจะพัดนำพาความหม่นเศร้าทุกข์ระทมให้จางหาย เสียงคลื่นสาดกระทบชายฝั่งประหนึ่งจะขับขานบรรเลงบทเพลงหน้าสุดท้ายผ่านการถ่ายทอดอารมณ์ของวาทยากร กระทั่งแสงจันทร์จืดชืดไร้ความงามมานานหลายปีในเวลานี้ก็ปรากฏเด่นชัดในฟากฟ้ารัตติกาลมืดทะมึน ความปั่นป่วนที่กึ่งกลางอกภายในคล้ายกับกำลังกู่ร้องตะโกนบอก…บอกว่ามรสุมฤดูฝนจะพัดผ่านไปในไม่ช้าเช่นกัน… เรือนร่างสะโอดสะองหยัดกายขึ้นยืน สองขาเรียวก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า ก่อนจังหวะการย่างฝีเท้าจะขยับก้าวด้วยความเร็วในอีกวินาทีในระหว่างความสงบของบรรยากาศ ในระหว่างความเป็นไปของทุกสิ่งอย่างรอบบริเวณ รอยร้าวภายในใจตลอดหลายปีราวกับกำลังสมานเข้าหากันจนใกล้เสร็จสมบูรณ์ริษาไม่ชอบวิ่งเพราะเป็นกิริยาที่มองดูไม่สำรวม ไม่ชอบร้องไห้ใบหน้าเธอคงเหยเกบิดเบี้ยวไม่สวยดังเช่นโมงยามปกติ แต่ตอนนี้เธอกำลังวิ่งอย่างสุดกำลังเท่าที่มี จุดหมายปลายทางคือคนซึ่งกำลังเดินทอดน่องเลียบไปตามชายหาด สายตาพร่าเลือนไปด้วยน้
EPISODE 54คนเดิม ที่เดิม ใจดวงเดิม 1นานมากแล้วที่ริษาไม่มีโอกาสได้นั่งริมทะเลแบบนี้ ทว่าครั้งแรกและครั้งเดียวที่เคยได้ทำก็คือได้ทำกับคนซึ่งนั่งอยู่ข้างกาย ท่ามกลางเสียงคลื่นและสายลมโชยพัด กลิ่นทะเลอวลอยู่ในอากาศ ทั้งหมดนั้นคล้ายกับว่าจะนำพาให้หัวใจของหญิงสาวตัดสินใจเป็นฝ่ายเอ่ยชวนคุยในเรื่องที่ผ่านมาได้นานหลายปี “พี่จำได้ไหม…” ตากลมโตหันมองคนข้าง ๆ ที่กำลังนั่งยืดขาตรง วางฝ่ามือเท้าไว้ที่ด้านหลัง มือข้างหนึ่งยกเบียร์ดื่มอย่างต่อเนื่อง “จำได้ไหมคะว่าตอนนั้นก็เหมือนตอนนี้เลย” ภูริหันมองในจังหวะนี้เอง ก่อนจะถามสวนกลับ “เหมือนตรงไหน?” “ก็ตอนนั้น เรากินข้าวเสร็จก็มานั่งแบบนี้” “อืม” เขาจำได้ดี “ตอนนั้นเธอบอกว่าไม่ชอบ” “ก็ริษาใส่กระโปรงนี่คะ ลมพัดทีก็เปิดหมด” “…”“ตอนนั้นพี่ไม่ยอมให้ริษาใส่ชุดว่ายน้ำ จำได้ไหมคะ…” “อืม” ภูริหัวเราะ ‘หึ’ ออกมาคำหนึ่ง พลางก็พยักหน้ารับ “แต่เธอก็ดื้อจะใส่ให้ได้อยู่ดี” “ก็อุตส่าห์เตรียมมาแล้วนี่คะ” ริษาเถียงอย่างไม่จริงจัง เธอยังจำภาพเหตุการณ์ปั้นปึ่งระห
EPISODE 53ใจตรงกัน หลายวันต่อมา ร้านอาหาร A บรรยากาศร้านอาหารริมทะเลยามคืนค่ำไม่ได้พลุกพล่านด้วยลูกค้าอาจเพราะเป็นวันธรรมดาคนจึงน้อยกว่าช่วงวันหยุด การตกแต่งร้านสุดแสนธรรมดา เมนูอาหารราคาไม่แพง อีกทั้งแม่ครัวยังทำอาหารอร่อยถูกปาก หญิงสาวเจ้าของร่างเพรียวระหงเดินผ่านซุ้มต้นไม้ที่หน้าร้าน เดินผ่านบรรดาโต๊ะต่าง ๆ ซึ่งร้างผู้คน ก่อนจะหยุดยืนที่ริมขอบระเบียงซึ่งเป็นที่นั่งทรงสูงหันหน้าเข้าหาเวิ้งทะเลและฟากฟ้าสีดำทะมึน “รับอะไรดีคะคุณลูกค้า” พนักงานของร้านเดินเข้าสอบถาม สีหน้าไม่มีเค้าตื่นเต้นที่ได้เห็นหน้านักแสดงสาวจะตื่นเต้นทำไม ในเมื่อวันนี้ทีไร ก็จะได้เห็นเจ้าตัวมาที่นี่ทุกปี “ขอสลัดกุ้งจานหนึ่ง กับน้ำเปล่าค่ะ” ริษาตอบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ก่อนที่อีกฝ่ายจะผละจากไปอย่างรวดเร็ว เสียงรายการข่าวดึงสายตาของหญิงสาวให้หันมองไปทางโทรทัศน์ซึ่งเปิดทิ้งไว้ ภาพบนหน้าจอฉายให้ได้เห็นถึงการนำเสนอข่าวที่กำลังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนาหู ผู้ประกาศข่าวอ่านข่าวด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงการมีอารมณ์ร่วมต่อเรื่องราวที่กำลังเป็นกระแส
EPISODE 52คว้าเอาชัย เรือนจำ ภูริเฝ้ารอเวลานี้มาตลอดหลายปี… เฝ้ารอคนที่เขารักจะเป็นอิสระโดยแท้จริง… ร่างสูงในชุดสูททางการมองดูหล่อเหลาในสายตาคนผ่านไปมา หากนายประตูจำเขาได้ คงประหลาดใจมากพอดู ที่เด็กหนุ่มปอน ๆ เจ้าอารมณ์ที่ระเบิดความรู้สึกใส่เจ้าหน้าที่เมื่อเจ็ดปีก่อน คือคนเดียวกันกับผู้ชายซึ่งมีท่าทางขรึมสงบคนนี้ ภูริตัดสูทมาใหม่ เขาสั่งทำดอกไม้ช่อโตโดยไม่แคร์ว่าจะเป็นการนำดอกไม้มาให้คนซึ่งเป็นผู้ชายด้วยกัน แว่นดำซึ่งคาดบนสันจมูกมีเพื่ออำพรางนัยน์ตาก่ำแดงที่ผ่านการระบายความอัดอั้นตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ประตูเรือนจำเปิดออก… ทันทีที่ได้เห็นร่างสูงคุ้นตาในสภาพโกนหัว ใส่ชุดสุภาพสีขาว ทั้งรองเท้าแตะสุดแสนธรรมดา คิ้วเข้มหนาก็กระตุกชิด ดวงตาคมปลาบภายใต้แว่นดำหรี่มองไปยังอีกทิศทางเพื่อข่มความรู้สึก ข่มอารมณ์ภายใน ตั่งที่เห็นเจ้านายพยายามเงยหน้าหันหนีไปยังอีกทางได้แต่มองดูด้วยความรู้สึกสงสารจับใจ ไม่ใช่แค่นายเขาที่คงจะคุมน้ำตาไว้ไม่ได้ เขาเองที่ได้เห็นสภาพนายมาตลอดหลายปีก็ต้องพยายามวางตัวให้สุภาพเช่นกันแม้จะรู