เมื่อเช้าวันเสาร์มาถึง เพชรพร้อมตื่นนอนมาอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง ชายหนุ่มมัดผมยาวระต้นคอเป็นจุกเล็กๆ ด้านหลัง สวมเสื้อยืดสีเทาเข้มตัวใหม่เอี่ยม สลัดกางเกงขาสั้นขาดๆ ทิ้งแล้วสวมกางเกงยีนยี่ห้อดัง แถมยังฉีดน้ำหอมเสียหอมฟุ้ง
ชายหนุ่มผิวปากพลางก้าวออกจากบ้านเพื่อไปเตรียมรถที่ล้างรอตั้งแต่เมื่อวาน แต่ยังไม่ทันได้ก้าวไปไหน หมาสีดำตัวใหญ่ที่มักนอนเฝ้าบ้านพักคนงานในสวนก็เห่าเสียงขรม
“ไอ้ปึก เห่าอะไรวะ นี่กูเอง” เพชรพร้อมเท้าเอวดุเมื่อเห็นปึกแยกเขี้ยวและทำท่าจะกระโจนใส่
เมื่อปึกรู้ว่าเป็นใคร ก็ครางหงิงๆ วิ่งกระดิกหางสี่คูณร้อยเข้ามาประจบทันที เพชรพร้อมลูบหัวลูบหางพลางบ่นขำๆ
“เออ ให้มันรู้ซะมั่ง ว่ากินนอนอยู่บ้านใคร กูแค่แต่งตัวหล่อนิดหน่อย มึงเห่าใส่อย่างกับกูเป็นโจร แต่ตอนที่กูแต่งตัวเหมือนโจร มึงดันกระดิกหางดิ๊กๆ ไอ้ชาติหมาเอ๊ย...”
หมาจะเห่าก็ช่างหมา แต่งานนี้เพชรพร้อมขอแต่งหล่อไว้ก่อน ถึงสาวเจ้าจะมองว่าไม่หล่อ แต่ก็คงไม่ถึงกับรังเกียจหรอกน่า
หกโมงเช้าไม่ขาดไม่เกิน ชายหนุ่มร่างยักษ์ก็มายืนทำหน้านิ่งอยู่ที่หน้าบ้านของนางรำพึง เจ้าของบ้านซึ่งเพิ่งให้อาหารไก่เสร็จถึงกับเขม้นมองอย่างไม่เชื่อสายตา
“ใครวะนั่นน่ะ หมาหรือคน” คุณนายรำพึงร้องถาม
“สวัสดีครับอา ผมมาแล้ว”
“โอ้โฮ! ตื่นเช้าขนาดเพิ่งเห็นเส้นลายมือแบบนี้ มาบิณฑบาตเป็นเพื่อนหลวงพ่อเหรอ” คนเป็นอาทักเสียงดังลั่น
“ก็อาบอกให้ผมมาแต่เช้า” เพชรพร้อมบ่นเบาๆ
“อาบอกให้มาก่อนสิบโมงเช้าไม่ใช่เหรอ แหมๆ วันนี้แต่งตัวหล่อเฟี้ยวเลยนะ ถ้าเพชรแต่งตัวแบบนี้ทุกวัน ป่านนี้คงมีหลานให้อาอุ้มไปนานแล้ว หรือว่า...” หญิงสูงวัยหรี่ตามองแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ “เพชรเริ่มสนใจหนูลิ้นจี่บ้างแล้วสินะ ถึงได้ลงทุนแปลงร่างจากมหาโจรมาเป็นเจ้าชายจันทโครพแบบนี้”
“ไม่ใส่สักหน่อย ก็อาบอกให้แต่งตัวดีๆ ผมทำตามแล้วไง”
“แค่นั้นแน่นะ”
“แน่สิครับ”
“เออๆ อาเชื่อก็ได้เพราะบังเอิญเป็นคนเชื่อคนง่ายอยู่แล้ว งั้นเพชรเข้าไปกินข้าวกับอาพฤกษ์และไอ้เปี๊ยกก่อนนะ พอหนูลิ้นจี่กับเพื่อนๆ มาถึงจะได้ช่วยอาได้เลย”
หลังจากกินอาหารเช้าฝีมือนางรำพึงเสร็จ เปี๊ยกก็ขี่จักรยานคู่ใจไปโรงเรียน ส่วนพฤกษ์ซึ่งเป็นสามีของนางรำพึงนั้นขับรถกระบะคันใหม่ออกไปรับลิ้นจี่และเพื่อนๆ ที่สถานีขนส่ง
เพชรพร้อมที่ไม่ได้ไปไหนจึงช่วยหญิงสูงวัยเตรียมของว่างไว้ต้อนรับแขกที่จะมาในช่วงสาย รวมทั้งจัดการที่พักให้พร้อมสำหรับแขกคนสำคัญทั้งสองราย ราวสิบโมงกว่า คณะทัวร์เล็กๆ ของลิ้นจี่และเพื่อนๆ ก็มาถึงสาลี่โฮมสเตย์
“สวัสดีค่ะคุณป้ารำพึง” เด็กสาวทักทายหญิงสูงวัยเป็นคนแรกในขณะที่ก้าวลงจากรถกระบะ ตามมาด้วยสาวๆ หน้าตาน่ารักสมวัยสี่คน และหนุ่มใจสาวอีกหนึ่งคน ทุกคนแต่งตัวทันสมัย ใครเห็นก็คงสดชื่นเหมือนดอกไม้ได้น้ำ แต่ไม่ใช่เพชรพร้อม เพราะชายหนุ่มยืนทำหน้าบึ้งเหมือนถูกใครเหยียบเท้า เมื่อจ้องมองกองสัมภาระกองใหญ่ที่พฤกษ์ช่วยสาวๆ ขนลงมาจากรถ
“ขนบ้านมาด้วยเหรอไงวะ” เขาบ่นเบาๆ กับตัวเอง แต่เมื่อเห็นสายตาปรามของคนเป็นอาก็ถอนหายใจ และไปช่วยพฤกษ์หิ้วสัมภาระเข้าไปไว้บนบ้าน เมื่อเสร็จแล้วก็ตั้งใจจะผละไปยกน้ำมะตูมที่หญิงสูงวัยต้มไว้ออกมาเสิร์ฟ แต่ยังไม่ทันได้ ‘หลบ’ ออกไปอย่างใจ นางรำพึงก็เรียกไว้เสียก่อน
“เพชร อย่าเพิ่งไป มานี่ก่อน มารู้จักน้องๆ ก่อน”
เพชรพร้อมเดินกลับมายืนกอดอก แต่ไม่พูดอะไรสักคำ แถมยังพยายามทำหน้าตาถมึงทึงเพื่อให้ดูน่ากลัว นางรำพึงก็ไม่ได้สนใจเพราะชินชากับใบหน้าแบบนี้ของชายหนุ่มแล้ว มิหนำซ้ำยังพยายามขายหลานชายเต็มที่ จนรายการทีวีไดเร็คน่าจะเชิญไปออกสักเทป
“นี่พี่เพชร หลานชายป้าเองจ้ะสาวๆ เป็นไง พี่เขาหล่อไหม”
เสียงวี้ดเบาๆ กับเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นในหมู่เด็กสาว ไม่ต้องฟังออกก็พอรู้จากอาการเขินอายของพวกเธอว่าเพชรพร้อม ‘หล่อ’ ในสายตาของสาวๆ แน่นอน
“แล้วนี่ก็น้องลิ้นจี่” วิญญาณแม่สื่อโดยกำเนิดของคุณนายรำพึงยังคงสิงสถิตอย่างแน่นเหนียว
หญิงสาวรูปร่างกะทัดรัดสบตาเพชรพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใส เธอมัดผมมวยเล็กๆ กลางศีรษะและแต่งตัวตามสมัยนิยม เครื่องหน้าของเธอจุ๋มจิ๋มและดูน่ารักอย่างที่นางรำพึงอวยไว้ไม่ผิดเพี้ยน เพียงแต่เพชรพร้อมคิดว่าความกระจุ๋มกระจิ๋มนี้ไม่ทำให้เขาใจเต้นสักนิด พูดง่ายๆ ก็คือลิ้นจี่ไม่ใช่แนวที่เขาชอบ
หญิงสูงวัยกวาดตามองคณะทัวร์ที่ยืนเรียงกันหกคนแล้วเลิกคิ้ว “มาพักกันหกคนเลยเหรอลูก แล้วจองมาห้องเดียว จะพักพอหรือ”
ลิ้นจี่ทำหน้าตกใจ “ป้าเคยบอกหนูว่าที่พักมีสองห้องอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ หนูเลยไม่ได้บอกซ้ำ”
“ปกติก็มีสองห้องนั่นแหละลูก แต่พอดีวันนี้มีแขกของพี่ลี่จะมาพักด้วย”
“แต่พวกหนูมาก่อนนะคะ มาก่อนย่อมได้ก่อน” พูดจบลิ้นจี่ก็ยิ้มหวานน่ารักให้หญิงสูงวัย แล้วหันไปหาเพื่อนๆ เพื่อขอเสียงสนับสนุน “จริงไหมพวกเรา ใครมาก่อนก็พักก่อน ยังไม่มาก็พักที่อื่น”
“จริง” สาวๆ สี่คนกับหนุ่มใจสาวหนึ่งคนประสานเสียงพร้อมเพรียง
“ไม่ได้สิลูก พี่เขาก็จองมาเหมือนกัน”
“พี่เค้ามากันกี่คนคะ”
“คนเดียวจ้ะ”
“คนเดียวย่อมหาที่พักได้ง่ายกว่าหกคนนะคะป้า ให้พี่เขาไปพักที่อื่นก็แล้วกันค่ะ” ลิ้นจี่สรุปดื้อๆ
เพชรพร้อมมองความยุ่งยากที่ก่อตัวขึ้นแล้วก็คิดอะไรออก ชายหนุ่มก้าวไปหานางรำพึงแล้วแก้ปัญหาให้ “ให้ลิ้นจี่กับเพื่อนๆ พักที่นี่สองห้องเถอะอา ส่วนคุณอิงเพื่อนไอ้ลี่น่ะ ให้ไปพักที่บ้านผมก็แล้วกัน”
ลิ้นจี่หันขวับมาที่เพชรพร้อม “บ้านพี่เพชรก็เปิดเป็นโฮมสเตย์เหรอคะ งั้นลิ้นจี่ไปพักที่บ้านพี่ดีกว่าค่ะ”
“บ้านผมมีห้องว่างแค่ห้องเดียว พวกคุณมากันตั้งหกคน นอนไม่พอหรอก” ชายหนุ่มปฏิเสธเสียงห้วน
ลิ้นจี่สายหน้ารัวๆ จนผมมวยที่เกล้าไว้ดิ้นดุ๊กดิ๊ก “ไม่เป็นไรค่ะ พวกเรานอนเบียดๆ กันได้”
“อ้าว...งั้นก็นอนเบียดกันห้องเดียวที่สาลี่โฮสเตย์ได้เหมือนกันน่ะสิ” เพชรพร้อมสวนทันที
เจอไม้ที่เข้าไป แก๊งนักศึกษาวัยใสก็หมดข้ออ้าง ได้แต่มองหน้ากันไปมา
นางรำพึงรีบคลี่คลายสถานการณ์ต่อ “เอาอย่างที่พี่เพชรเขาว่าก็แล้วกันนะลูก พวกหนูพักที่นี่ทั้งหกคนนี่แหละ ได้พักสองห้อง ไม่อึดอัด ส่วนแขกอีกคนเดี๋ยวไปพักบ้านพี่เพชรแทน พวกหนูคงไม่อยากนอนเบียดกันห้องเดียวหรือต้องแยกกันพักสองที่หรอก จริงไหมลูก”
สุดท้ายลิ้นจี่และเพื่อนๆ จำต้องเดินหน้าง้ำกลับเข้าไปพักที่สาลี่โฮมสเตย์อย่างไม่มีข้อแม้ โดยมีเจ้าของสถานที่คอยอำนวยความสะดวกให้ ทั้งหกคนจึงแยกกันพักห้องละสามคนตามอัธยาศัย
เพชรพร้อมอารมณ์ดีพอที่จะพาสาวๆ ไปเดินเที่ยวในสวนของนางรำพึงหลังกินอาหารเที่ยงเสร็จด้วย และเมื่อใกล้ถึงเวลาที่พฤกษ์ต้องไปรับพินทุอรที่ท่ารถ ชายหนุ่มก็อาสาไปรับแทน
“ผมไปรับเพื่อนลี่เองอา ให้อาพฤกษ์อยู่ช่วยอาที่บ้านนี่แหละ”
“ดีเหมือนกัน กว่าไอ้เปี๊ยกจะกลับก็เย็น”
“งั้นผมให้คุณอิงกินข้าวเย็นที่บ้านผมเลยละกัน แล้วพรุ่งนี้เช้าค่อยรับเธอมาสาลี่โฮมสเตย์ เผื่ออาเตรียมโปรแกรมอะไรไว้ให้เธอทำ”
“อาว่าจะให้ไปไหว้พระที่วัดตอนเช้า แต่ไม่รู้ว่ามาเหนื่อยๆ วันแรกหนูอิงจะอยากตื่นแต่เช้าไหม”
“เดี๋ยวผมลองถามเธอดูละกัน ผมไปนะอา เดี๋ยวสาย”
“เออ ไปเถอะ ดูแลหนูอิงดีๆ ด้วยนะเพชร อย่าให้อาขายหน้า” หญิงสูงวัยกำชับชายหนุ่ม
“รู้แล้วครับ”
สี่โมงตรงเป๊ะ เพชรพร้อมก็เห็นพินทุอรก้าวออกมาจากสถานีขนส่งประจำจังหวัด หญิงสาวยกมือกวักลมให้ตนเองอยู่หลายครั้ง จากนั้นใช้หลังมือแตะซับไปตามไรผมชื้นเหงื่อ พลางชะเง้อมองซ้ายขวาแม้วันนี้จิตแพทย์สาวจะสวมเพียงกางเกงยีนสีซีดกับเสื้อยืดตัวโคร่งสีดำและรองเท้าผ้าใบสุดแสนจะเบสิก แต่ก็ทำให้หัวใจของคนมองเต้นผิดจังหวะ และหัวใจของเขาไม่ได้เต้นในจังหวะแบบนี้มาหลายปีแล้วเฮ้อ...สวยน่ารักขนาดนี้ จะมีโอกาสเป็นวาสนาไอ้เพชรไหมนะชายหนุ่มก้าวออกจากบริเวณมุมตึกที่ยืนรออยู่ จ้ำพรวดๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงตัวเป้าหมาย เขาเข้าประชิดตัวเธอ ยื่นมือออกไปแล้วบอกเสียงเข้ม“ส่งกระเป๋ามา มีเท่าไหร่ ส่งมาให้หมด”“แกเป็นโจรเหรอ โจรมุมตึกสินะ เล่นผิดคนแล้วไอ้หนู” พินทุอรโวยวายเสียงดัง กอดกระเป๋าแน่นแนบอก และตั้งท่าจะใส่เดี่ยวกับเขาทันที“เดี๋ยว ไม่ใช่ ผมมาจากสาลี่โฮมสเตย์ มารับคุณแทนอาพฤกษ์” เพชรพร้อมรีบอธิบายเมื่อเห็นจิตแพทย์สาวถกแขนเสื้อขึ้นเหมือนพร้อมลุย“คุณคือ...” พินทุอรถาม ยังไม่ยอมส่งกระเป๋าให้ง่ายๆ“เพชรพร้อม” เขาตอบสั้นๆหญิงสาวคลายมือออก ท่าทางผ่อนคลายขึ้น เมื่อนึกออกเธอก็ส่งยิ้มให้“อ๋อ...น้องเพชร พี่ชายของลี่ใช่ไห
แสงแรกของดวงอาทิตย์เพิ่งทาบทอที่ปลายขอบฟ้าได้ไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพินทุอรเปิดเปลือกตาขึ้นด้วยความง่วงงุน เมื่อคืนกว่าเธอจะข่มตานอนก็เกือบตีสาม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะแปลกที่หรือไม่ค่อยไว้ใจผู้ชายที่นอนอยู่ห้องตรงข้ามกันแน่ เธอไม่ได้กลัวว่าเขาจะเข้ามาปล้ำหรือทำมิดีมิร้ายหรอกนะ แต่กลัวว่าเขาจะเข้ามาขบหัวเธอกินเป็นอาหารมื้อดึกต่างหากยังไม่ทันไร เสียงห้าวปนดุจากหน้าห้องก็ดังขึ้นอีก“คุณ...คุณอิง ตื่นได้แล้ว อาให้ผมพาคุณไปใส่บาตรที่วัด”เฮ้อ...นอกจากหน้าจะดุแล้ว เสียงยังดุได้อีกหญิงสาวเดินไปเปิดประตูทั้งๆ ที่หัวยุ่ง ผมชี้ฟูไปคนละทาง แต่คนอย่างพินทุอรไม่มีอะไรต้องอาย เพราะสำหรับเธอแม้เพชรพร้อมจะเป็นผู้ชายแต่ก็อายุห่างกันหลายปีแสง พูดง่ายๆ ก็คือมวยคนละรุ่น กระดูกคนละเบอร์ เธอจึงไม่ได้สนใจจะ ‘ทำสวย’ เพื่อให้เขาประทับใจ“ไปใส่บาตรเหรอ ใครไปบ้าง” เธอถาม“ตอนแรกจะมีเด็กนักศึกษาที่มาพักเมื่อวานไปด้วย”“แล้วตอนนี้ล่ะ” เธอยังถามต่อเพราะเขาไม่ยอมขยายความ“พวกนั้นยกเลิกแล้วเพราะขี้เกียจตื่นเช้า เหลือแค่คุณคนเดียว อาเลยให้ผมพาไปเอง”“อ้อ...ก็คือมีแค่คุณกับฉันสองคน” เธอสรุป“ใช่ แค่สองคน”จิตแพทย
รักเดียวใจเดียวอย่างนั้นหรือ...เพชรพร้อมใจเต้นรัวหลังจากโฆษณาสรรพคุณของตนเองไปหนึ่งดอก...ดอกสำคัญเชียวละชายหนุ่มตีหน้าตาย สบตาเธอตรงๆ เหมือนเมื่อครู่ไม่ได้พูดอะไร เขาวางถาดใส่อาหารคาวหวานและตะกร้าดอกไม้ที่เตรียมมาไว้บนพรม แล้วหาที่ให้หญิงสาวนั่งพับเพียบรอ จากนั้นเลื่อนบทสวดแผ่เมตตาที่พิมพ์เป็นระเบียบมาให้ตรงหน้า ก่อนจะบอกอย่างคนอยู่ใกล้วัด“รอให้คนมาอีกสักหน่อยนะ ไม่นานหรอก ผมรอด้านหลัง” เมื่อพูดจบก็ตั้งท่าจะลุกหนีไป“จะไปไหน มาใส่บาตรด้วยกันสิคุณ”“คุณใส่เถอะ อาเตรียมมาแค่ของคุณ”“ก็ใส่ด้วยกันได้นี่ แบ่งกัน”“ไม่ต้องหรอก” เพชรพร้อมปฏิเสธ กำลังจะถอยหลังไปยืนรอ ก็ได้ยินเสียงหวานทว่าหางเสียงสะบัดเล็กน้อยลอยแว่วมา“ทำไม ไม่อยากทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขันกับฉันหรือไง”ชายหนุ่มชะงัก มองหน้าเธออึ้งๆ โดยไม่สามารถทำหน้าเฉยเหมือนเมื่อห้านาทีที่แล้วได้อีก เพราะใจของเขาดันคิดไปถึงการตักบาตรร่วมขันของคู่บ่าวสาวในพิธีแต่งงานเสียฉิบ แถมยังคิดเลยเถิดไปถึงคืนเข้าหอเลยด้วยซ้ำส่วนกิจกรรมในคืนนั้นก็...ไอ้เพชรเอ๊ย....ในวัดแท้ๆ จีวรสีเหลืองเดินสวนกันขวักไขว่ ยังมีใจไปคิดอะไรแบบนั้นได้อีก ตกนรกหมกไหม้แ
เมื่อพินทุอรโดนเพชรพร้อมลากออกไป คนงานที่เหลืออยู่ก็มองหน้ากันไปมา โอดเดินสำรวจรอบๆ กระบะที่เสียหายก่อนจะพูดเสียงตื่นเต้น“พี่เพชรไม่ด่าว่ะ แถมยังไม่รีบมาเก็บลูกๆ ที่หล่นกระจายบนพื้นด้วย”“เห็นประคบประหงมมาเกือบเดือน ผมเดินเฉียดนิดเดียว พี่แกยังปารองเท้าแตะใส่ แล้วนี่อะไร หล่นตูมทั้งกระบะ เละกระจายเป็นโกโก้ครั้นช์ขนาดนี้ แม่งยังไม่ด่าสักคำ” สเตฟานโวย“ใช่ ปกติใครทำขนาดนี้ แกอาละวาดลั่นสวนไปแล้ว สองมาตรฐานชัดๆ” สมิงเสริมโอดลดเสียงลง ทำท่ามีลับลมคมในตอนที่ป้องปากบอก “แล้วเมื่อกี้ที่จับมือคุณอิงไปดูเสี้ยนน่ะ กูเห็นพี่เพชรหน้าแดงว่ะ”สมิงขมวดคิ้ว “ดำขนาดนั้น ยังแดงได้อีกเหรอวะไอ้โอด”“เออสิวะ มึงดูที่หูพี่แกสิ แดงแป๊ดเป็นตูดลิงเลย”นุ่มที่นั่งฟังเงียบๆ มานานขยับแว่นสายตาก่อนจะสรุปเสียงหนักแน่น “แบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ”“ใช่ พี่เพชรแม่งคิดไม่ซื่อกับคุณอิงแน่นวล” โอดแกล้งม้วนลิ้น“นวลนั่นแม่กูโว้ยไอ้โอด ล้อชื่อแม่เป็นเด็กไปได้ เดี๋ยวโดนถีบ” สมิงค้อนขวับโอดหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้วตั้งข้อสังเกต “แต่คนอย่างพี่เพชรจะจีบหญิงติดเหรอวะ จีบยังไงพี่แกทำเป็นหรือเปล่ายังไม่รู้เลย”“อย่าไปดูถูกสิพี่โอด เห็นแ
สามวันแล้วสินะที่พินทุอรอยู่กับเขาเพชรพร้อม...ชายหนุ่มรุ่นน้องร่างยักษ์ที่ไม่ยอมให้เรียกว่าน้องวันแรกของการชดใช้หนี้กรรมผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เพชรพร้อมเตรียมกระบะไม้และเครื่องปลูกไว้ให้เธอสองกระบะ เรียกว่าถ้ากระบะหนึ่งไม่ขึ้นก็ยังมีสำรอง นับว่าเขาไม่ได้ใจร้ายเกินไปนัก หลังจากหย่อนเมล็ดลงในหลุมปลูก รดน้ำจนชุ่มแล้ว หญิงสาวก็ไม่มีอะไรให้ทำอีก เธอไปกินข้าวเที่ยงที่สาลี่โฮมสเตย์ซึ่งเป็นบ้านของอารำพึงหรือมารดาของคะนึงรัก จากนั้นก็ออกไปเที่ยวตลาดกับกลุ่มนักศึกษา โดยมีเพชรพร้อมเป็นคนพาเที่ยว สาวๆ พวกนั้นล้อมหน้าล้อมหลังชายหนุ่มร่างยักษ์ตลอด เธอจึงไม่ได้คุยอะไรกับเขามาก พอตกเย็นก็กลับมากินข้าวฝีมืออารำพึงอีกรอบ นับว่าเป็นสองมื้อที่อร่อยจนแสงแทบออกปาก แต่ก็เหงานิดหน่อยเหมือนกันเพราะคนอื่นมาเป็นกลุ่ม ต่างกับเธอซึ่งมาตัวคนเดียวส่วนวันที่สองเธอมาขลุกอยู่กับนางรำพึงทั้งวันเพราะลูกค้ารายย่อยที่ติดต่อมาเมื่อวันก่อนเข้ามาซื้อมะพร้าวในสวน บิดาของชายหนุ่มไม่อยู่ เพชรพร้อมจึงต้องจัดการเองทั้งหมด หลังจากผ่านไปครึ่งวันจิตแพทย์สาวก็เริ่มสนิทกับสี่สาวและหนึ่งหนุ่มรุ่นน้องมากขึ้น คุยเล่นกันมากขึ้น จะมีก็แค่ลิ้
เพชรพร้อมนอนกลอกตามองเพดานไปมา กลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายสาวยังอบอวลอยู่ภายในห้อง ทำเอาหัวใจเต้นรัวในจังหวะที่พินทุอรประคองเขากลับขึ้นไปนอนบนเตียงกว้าง เนื้อตัวของเธอบดเบียดกับเขา รู้หรอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้คิดอะไร แต่ไอ้เขามันก็พวกจิตอกุศลเสียด้วยทุกครั้งที่อยู่ใกล้ชิดพินทุอร อวัยวะในร่างกายมีเพียงสองส่วนเท่านั้นที่ทำงานหนักหน่วง หนึ่งคือหัวใจที่เต้นตึกตักเหมือนรัวกลอง สองคืออวัยวะเบื้องล่างที่คอยแต่จะกลายร่างพองเอาๆ ส่วนอวัยวะที่ได้ตายไปแล้วก็คือสมอง เพราะสมองของเขาไม่เคยประมวลผลอะไรที่สูงกว่าใต้สะดือได้เลยพินทุอรเป็นผู้หญิงที่น่า ‘รัก’ น่า ‘กิน’ จนเขาอยากจะรักและกินเธอไปชั่วชีวิตพอคิดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ อะไรบางอย่างก็ตื่นจากการหลับใหล ผงาดง้ำค้ำโลกขึ้นมาอย่างไม่อายฟ้าดินอีกแล้วเหรอวะ ไอ้เพชรเอ๊ย...ขนาดไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกไปขี้รอบที่หก แต่ยังแข็งโด่เด่ได้อีกนะ เวรแท้ๆชายหนุ่มคว้าหมอนหนุนมากอด พลิกตัวนอนตะแคงเพราะไม่อยากให้หญิงสาวสงสัย มันคงจะแปลกๆ ถ้าเธอเข้ามาแล้วเห็นหมอนใบใหญ่วางเด่นเป็นสง่าอยู่ที่กึ่งกลางกายเขาพินทุอรกลับมาหลังจากหายไปราวสิบนาที เข้ามาปุ๊บก็ถามปั๊บ “หลับหรือยัง”“ยัง”“แล
ตกเย็นเรื่องที่เขาป่วยจนต้องเรียกคนงานมาดูแลถึงห้องนอนก็รู้ไปถึงหูคุณนายรำพึง หญิงสูงวัยรีบบึ่งมอเตอร์ไซค์มาที่บ้านสวนของเขาทันที มิหนำซ้ำยังหอบกับข้าวสำหรับคนป่วยมาเต็มไปหมด ทำเหมือนเขาเป็นผู้ป่วยติดเตียงมากกว่าคนท้องเสียธรรมดาเพชรพร้อมมองอาหารละลานตาที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะไม้ขนาดเล็กในห้องนอน แล้วบ่นเบาๆ “อะไรกันครับอา ทำเป็นเรื่องใหญ่ไปได้”“เรื่องใหญ่สิ ปกติเพชรไม่เคยป่วยหนักจนต้องนอนทั้งวันขนาดนี้ ตอนแรกที่อารู้ก็นึกว่าท้องเสียนิดหน่อย เลยไม่ไปบ้านอา แต่นี่อะไร นอนหยอดน้ำข้าวต้มจนถึงเย็นเลย แสดงว่าต้องหนักมาก”“ผมแค่อยากนอนพักเท่านั้นแหละ” ชายหนุ่มตอบพลางหลบตา“อาเรียกหนูลิ้นจี่มาดูแลแล้ว เดี๋ยวให้เข้ามาช่วยเช็ดตัวหน่อยละกัน”“ไม่ต้องเลย เดี๋ยวผมจะลุกไปอาบน้ำแล้ว อาบอกให้ลิ้นจี่กลับไปเลยนะ ไม่ต้องให้เข้ามา”“แล้วใครจะดูแลเพชรล่ะ”“คุณอิงก็อยู่ เธอเป็นหมอ ดูแลผมได้”“ไปรบกวนหนูอิงได้ยังไงเล่า เธอเป็นแขกของลี่”“แล้วทำไมรบกวนลิ้นจี่ได้” เพชรพร้อมเถียง“ก็ลิ้นจี่เป็นแขกของอา” นางรำพึงซ่อนยิ้มไว้ในหน้าแล้วว่าต่อ “ไม่ต้องมาทำลีลากระบิดกระบวน ลุกขึ้นมากินข้าวซะ เดี๋ยวลิ้นจี่คงขึ้นมาพร้อม
“จะดีเหรอวะแก ไปแนะนำพี่เพชรแบบนั้น มีที่ไหน ไปบอกให้หื่นๆ เถื่อนๆ แถมยังหยาบคายใส่พี่อิงแบบนั้นน่ะ ถ้าพี่เพชรทำจริง งานนี้พี่แกนกแน่ หรือถ้ามากไปกว่านั้น อาจจะได้ไปโรงพัก ไม่ข้อหาทำร้ายร่างกายก็ข้อหากระทำอนาจารแน่นอน” ตังเมท้วงลิ้นจี่เบาๆ เมื่อก้าวออกจากห้องนอนของเพชรพร้อมทั้งสองคนรู้กันว่าพินทุอรชอบผู้ชายอบอุ่นอ่อนโยน สุภาพเรียบร้อย ขาวใสแนวโอปปาเกาหลี เพราะวันก่อนที่นั่งคุยกันเป็นกลุ่มแล้วคุยเรื่องผู้ชายในฝัน หญิงสาวรุ่นพี่บอกแบบนั้น ลิ้นจี่จึงแกล้งบอกเพชรพร้อมในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสเปกจิตแพทย์สาวทุกอย่าง“ช่วยไม่ได้ ฉันอุตส่าห์อ่อย กะหลอกให้พาเที่ยวแก้เซ็ง ดันไม่ตกหลุม กลับไปแอบชอบป้าแก่ๆ อีกไม่กี่ปีก็ถึงวัยหมดประจำเดือน รอรับเบี้ยคนชราแบบนั้นน่ะ”ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่เพชรพร้อมบอกว่าแอบชอบคือใคร เพราะสายตาของชายหนุ่มคอยมองตามพินทุอรตลอดเวลาอยู่แล้ว“เบาหน่อยแก เดี๋ยวพี่อิงมาได้ยินเข้า จริงๆ พี่เขายังสาว ยังสวย แล้วก็น่ารักเป็นกันเอง แกอย่าไปตั้งแง่กับเขาเลยวะ”“ไม่รู้ละ ก็เขาดันเข้ามาลงสนามแข่งขันพิชิตหัวใจพี่เพชรกับฉันทำไมล่ะ ฉันไม่จำเป็นต้องใจดีกับมือที่สาม”ตังเมทำตาโตเมื่อได
เด็กชายมองหน้าเด็กหญิงพริสาเหมือนจะขอโทษ หันมาหาพินทุอร แล้วถามขึ้น“ผมขอเล่นกับน้องอีกได้ไหมครับ”“ได้สิลูก ชวนน้องดีๆ นะคะถ้าอยากเล่นด้วยกัน” พินทุอรยิ้มจากนั้นเพชรพร้อมก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง มองหน้าลูกสาวสุดแสบ“ส่วนเรา...เด็กหญิงพริสา เพียงดินดี...” เขาเรียกชื่อลูกสาวเสียเต็มยศเป็นการบอกเด็กหญิงอ้อมๆ ว่าคราวนี้เธอทำผิด “วันนี้หนูพรีมผิดตรงไหน บอกพ่อซิคะ”“หนูใช้กำลังทำร้ายพี่”“ผิดไหมคะ”“ผิดค่ะ”“แล้วต้องทำยังไง”เด็กหญิงพริสาหันไปหาเด็กชายคู่กรณี ยกมือป้อมๆ ขึ้นไหว้เด็กชายรุ่นพี่ จากนั้นก็พูดด้วยเสียงดังฟังชัด“หนูพรีมผิดเองค่ะที่ดึงผมพี่พัตเตอร์ หนูพรีมขอโทษค่ะ หนูพรีมจะไม่ทำอีกแล้ว วันหลังเราค่อยเล่นกันใหม่นะคะ”“เก่งมาก” เพชรพร้อมชม “นอกจากพี่พัตเตอร์แล้วหนูพรีมต้องขอโทษใครอีกไหมคะ”ฟังจบเด็กน้อยก็หันไปทางคุณครูดาว กระพุ่มมือน้อยๆ ไหว้ “หนูพรีมขอโทษคุณครูดาวค่ะที่ทำให้คุณครูเสียเวลา หนูพรีมจะไม่ทำอีก”คุณครูดาวรับไหว้ ลูบศีรษะเด็กหญิงตัวน้อยอย่างเอ็นดูจากนั้นเด็กหญิงก็หันไปหามารดาครู่กรณีที่อยากจะดึงผมเธอ “หนูพรีมขอโทษคุณน้าคนสวยด้วยค่ะที่หนูพรีมไปรังแกพี่พัตเตอร์ หนูพรีมจ
โทรศัพท์มือถือของพินทุอรสั่นระรัวเมื่อเวลาเลยบ่ายโมงมาเล็กน้อยจิตแพทย์สาวเลื่อนแฟ้มคนไข้ออกห่างตัว หมุนเก้าอี้ไปทางหน้าต่าง พยายามปรับน้ำเสียงให้เยือกเย็น แล้วจึงกดรับสายจากครูฝ่ายปกครอง“สวัสดีค่ะคุณครูดาว”“คุณแม่คะ ครูต้องโทร. มารบกวนคุณแม่อีกแล้วค่ะ”“วันนี้ใครคะ พอร์ชหรือพราม” พินทุอรถามด้วยความเคยชินเป็นอันรู้กันว่าลูกชายฝาแฝดของเธอ พอร์ชและพราม อายุแค่แปดขวบ แต่ทำให้เพื่อนร่วมห้องร้องไห้กระจองงองแงและไปฟ้องครูประจำชั้นแทบทุกวันมาตั้งแต่เข้าชั้นประถมแล้วสาเหตุที่เพื่อนๆ ร้องไห้ก็ไม่ใช่ว่าลูกชายเธอจะไปรังแกเด็กที่ไหนหรอกนะ แต่สองแฝดนั่นชอบทำหน้าบึ้ง ไม่ยอมยิ้ม แล้วก็ชอบมองคนอื่นด้วยสายตาดุๆ แค่นั้นเองได้พ่อมาแท้ๆ...ปลายสายอึกอักอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะตอบมาเหมือนเกรงใจ“วันนี้ไม่ใช่แฝดค่ะ สองหนุ่มนั่นพอขึ้นป.สองแล้วก็พอจะพูดรู้เรื่อง ไม่ค่อยทำหน้าบึ้งหรือตาขวางจนเพื่อนกลัวแล้ว แถมยังมีเพื่อนที่กล้าเข้าไปเล่นด้วยสองสามคนแล้วนะคะ ถือว่ามีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดค่ะ เพราะตอนป.หนึ่ง สองแฝดไม่มีใครกล้าเข้าไปเล่นด้วยเลย”“ถ้างั้นวันนี้ใครคะ” พินทุอรถามแล้วก็ได้แต่ภาวนาในใจ อย่าให้เป็นอย
งานแต่งงานและทริปฮันนีมูนผ่านไปอย่างราบรื่น และพินทุอรก็ย้ายไปทำงานที่ต่างจังหวัดได้เดือนเศษแล้ววันนี้เป็นวันแรกในรอบหนึ่งเดือนที่เธอกลับมากรุงเทพฯ เพราะเพชรพร้อมต้องมาทำธุระที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง เขาจึงพาพินทุอรมาเดินซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองระหว่างที่ภัคจิรากำลังเดินเลือกร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าใกล้กับมหาวิทยาลัยที่จะต้องมาฟังงานบรรยายวิชาการ หญิงสาวก็เห็นพินทุอรกำลังจูงมือสามีหนุ่มเลือกร้านอาหารอยู่เช่นกันหลังจากมีเรื่องกันคราวก่อน หญิงสาวก็ไม่ได้เจอพินทุอรอีกเลย เธอตามหึง ตามคุมรัชตะไม่ห่าง จนได้ข่าวว่าอีกฝ่ายแต่งงานไป เธอจึงไม่ได้ใส่ใจผู้หญิงคนนี้อีกแม้แฟนหนุ่มจะไม่เคยพูดถึงพินทุอรอีกเลยไม่ว่าเรื่องอะไร ทว่าภัคจิรารับรู้จากท่าทางของรัชตะว่ายังคิดถึงแฟนเก่าคนนี้ไม่เลิก ความอิจฉาแล่นขึ้นมาเป็นริ้ว เธอจึงหันไปหาเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องแล้วบอก“พี่เจอคนรู้จัก ขอเข้าไปทักแป๊บนึงนะ”“ใครคะพี่ภัค”“แฟนเก่าพี่หมอโอ๊ตน่ะ มากับผัวใหม่” ภัคจิราแสร้งยิ้มหยันรุ่นน้องสาวมองตามแล้วสูดปาก “หูย...คนใหม่ของเขาแซ่บระดับพริกร้อยสวนเลยนะพี่ ทั้งสูง ทั้งหุ่นเพอร์เฟกต์ แถมยังผิวสีแทนดูกร้าว
มีเพียงหาดทราย ทะเล สายลม กับสองเรา...ในขณะที่พินทุอรก้าวเข้าไปเช็กอินในรีสอร์ตสุดหรูที่เพชรพร้อมบรรจงเลือกแล้วเลือกอีกเพื่อมาฮันนีมูน เพลงที่มารดาของพินทุอรชอบเปิดให้ฟังในวัยเด็กก็แว่วมาในความทรงจำมองจากตรงล็อบบียังสามารถเห็นหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าเข้มสะท้อนแสงแดดทอประกายระยิบระยับ ส่วนท้องฟ้าสีฟ้าจางๆ ก็ดูสดใสเมื่อถูกแต่งแต้มด้วยปุยเมฆขาวสวยเหมือนรูปในโปสการ์ดเลย...สามวันสองคืนต่อจากนี้เธอจะสวมแต่บิกินีสุดเซ็กซี่ แล้วทอดกายไปกับหาดทรายขาว หยอกเย้ากับเกลียวคลื่นที่ซัดสาด ปล่อยให้ผิวกายดื่มด่ำวิตามินดีจากแสงแดดเสียให้พอ จากนั้นก็กลับมาอาบน้ำเย็นๆ ให้สดชื่น เพื่อเตรียมตัวลงไปจัดการบุฟเฟต์อาหารทะเล เบียร์และไวน์แบบฟรีโฟลว์หรือที่เรียกว่าดื่มได้ไม่อั้นแค่คิด...พินทุอรก็แทบจะล่องลอยไปสรวงสวรรค์แล้ว“ชอบห้องพักไหมอิง” เพชรพร้อมถามเมื่อก้าวเข้ามาอยู่ในพูลวิลลาหลังใหญ่ แบบที่เปิดออกไปแล้วมีสระว่ายน้ำส่วนตัวแยกจากสระหลัก มีรั้วสูงกั้นไว้อย่างมิดชิดเป็นสัดส่วน เพื่อให้คู่รักที่มาพักได้ใช้เวลาทำ ‘กิจกรรม’ ได้อย่างเต็มที่สมกับชื่อห้องฮันนีมูนสวีต แถมยังมองเห็นทะเลกับหาดทรายได้แบบพาโน
เสียงบรรเลงเพลงไทยเดิมดังก้องไปทั่วบริเวณบ้านสวนเพียงดินดีบรรยากาศในวันนี้สวยงามและหวานชื่นไม่ต่างจากภาพในงานแต่งงานที่เห็นในละครมากนัก จะแตกต่างก็เพียงมวลความสุขและความสนุกสนานที่โอบล้อมงานในวันนี้ล้นเอ่อจนทุกคนในงานสัมผัสได้เพชรพร้อมสวมชุดสูทสากลสีชมพูอ่อนนั่งพนมมือวางบนหมอนสำหรับรดน้ำสังข์ โดยมีพินทุอรซึ่งสวมชุดไทยสีชมพูอย่างที่เพชรพร้อมชอบคาดทับด้วยสไบสีทองนั่งอยู่เคียงกันทางซ้ายมือ รอบคอของทั้งคู่มีพวงมาลัยสองชายห้อยอุบะที่ชายมาลัย ซึ่งพวงมาลัยนี้ร้อยอย่างวิจิตรบรรจงด้วยฝีมือของนางรำพึงผู้เป็นแม่งานบ่าวสาวยิ้มให้กันด้วยความชื่นมื่นในระหว่างรอทำพิธีรดน้ำสังข์ ก่อนจะเป็นเพชรพร้อมที่ก้มลงไปหยิบกระดาษเช็ดหน้าแผ่นบางขึ้นมาซับเบาๆ ไล่ไปตามไรผมที่ล้อมกรอบหน้าของเจ้าสวยคนสวย“เหนื่อยไหมอิง”“ไม่เหนื่อย”“ร้อนหรือเปล่า” ถามเสร็จก็ยิ้มให้“เปิดแอร์ขนาดนี้ อิงจะเอาอะไรมาร้อน”“หนาวเกินไปไหม”“ไม่เลย กำลังดีแล้ว”เพชรพร้อมฟังแล้วยิ้มกว้างอีกครั้ง เอื้อมมือไปกุมมือพินทุอร มองตากันแล้วก็ยิ้มให้กันอีกหนคะนึงรักชะงักกึก พานใส่มงคลแฝดหรือมงคลที่ใช้สวมศีรษะบ่าวสาวแทบร่วง เธอวางพานใส่มงคลลง แล้
การ์ดแต่งงานถูกส่งไปทั่วโรงพยาบาลนรินทร์รัตน์ ยกเว้นก็แต่ใครคนหนึ่งที่แผนกศัลยกรรมกลับไม่ได้รับการ์ดเชิญนี้“เป็นไงบ้างไอ้โอ๊ต พักนี้ชีวิตดีไหม”รัชตะเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะทำงานเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู เขาขมวดคิ้วตอนที่คนมาใหม่เดินเข้ามาหาในห้องทำงานพร้อมรอยยิ้มแบบแปลกๆนายแพทย์อรัญอยู่แผนกสูตินารีเวช เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันแต่ไม่ค่อยลงรอยกันนัก ศัลยแพทย์หนุ่มจึงแปลกใจไม่น้อยเมื่อเพื่อนที่แทบไม่ได้คุยกันเข้ามาทักทาย“มีอะไร” เขาถามตรงๆ“รู้ข่าวหรือยังวะ แฟนเก่าของมึงกำลังจะแต่งงาน”รัชตะชะงัก “หมายถึงใคร อิงน่ะเหรอ”“ใช่ หมออิงจะแต่งงาน แล้วก็ย้ายไปต่างจังหวัดด้วย”อรัญโบกการ์ดแต่งงานที่เพิ่งได้รับเมื่อเช้ากลางอากาศ พลางทรุดตัวนั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามรัชตะปรายตามองการ์ดแต่งงานสีน้ำเงินขลิบทองในมือเพื่อนร่วมงาน แล้วเบ้หน้าเหมือนไม่แคร์ แต่มือข้างที่อยู่ใต้โต๊ะกำแน่นจนเจ็บ“ความจริงไม่ต้องแจกการ์ดก็ได้ น่าจะเป็นแค่งานเลี้ยงกระจอกที่บ้านนอกเท่านั้น”“เขาจัดงานกันที่โรงแรมในกรุงเทพฯ นี่แหละ ระดับห้าดาวเสียด้วย” อรัญบอกชื่อโรงแรมห้าดาวสุดหรูซึ่งอยู่ใจกลางเมือง“จะจัดหรูแค่ไหน เจ้าบ่าวก็กระจอกอย
ในที่สุดนางรำพึงก็ต้องใช้ฤกษ์สำเร็จรูปจนได้ ใครจะไปคาดคิดว่าหลานชายตัวดีจะใจร้อนขนาดนี้ มิหนำซ้ำยังจูงมือกันไปจดทะเบียนเรียบร้อย มันน่าตีให้ตายนัก‘น่าจะบอกผู้หลักผู้ใหญ่ก่อน จะได้นัดไปพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ’ นางรำพึงบ่นเป็นหมีกินผึ้งหลังจากหลานชายโทร. มาบอกเรื่องจดทะเบียนสมรสกับพินทุอรแล้ว‘ผมโทร.บอกพ่อแล้ว พ่อก็ไม่ว่าอะไร’‘ได้ปรึกษาผู้ใหญ่ทางหนูอิงหรือเปล่า ถึงผู้หญิงเขาจะอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็คงมีญาติอยู่บ้าง’‘ญาติพวกนั้นอิงไม่นับญาติหรอกอา ไม่เคยสนใจหรือเจอหน้ากันเกินสิบปีแล้ว จะมีก็แต่ครอบครัวของวิณทร์นั่นแหละที่อิงนับถือเหมือนญาติ แต่อิงก็พาผมเข้าไปกราบปู่ของวิณทร์มาแล้วนะ ยิ่งรู้ว่าผมเป็นลูกพี่ลูกน้องของลี่ ก็แทบไม่ต้องทำความรู้จักอะไรกันเลย ทางสะดวกสุดๆ’‘แล้วจะจัดงานไหม’‘จัดครับอา ทางบ้านวิณทร์เขาอยากให้จัด โดยเฉพาะคุณปู่ของวิณทร์บอกว่าถึงจะจดทะเบียนกันแล้ว ก็ต้องจัดงานแต่งงานด้วย’ พอเพชรพร้อมบอกแบบนั้นก็ได้ยินเสียงถอนหายใจเหมือนโล่งอกของคุณนายรำพึงถึงอย่างไรหญิงสูงวัยก็ยังเป็นคนรุ่นเก่า ย่อมอยากให้มีพิธีแต่งงานสักหน่อย จะเล็ก จะใหญ่ อย่างไรก็ได้ แต่อย่างน้อยก็อยากให้มีเพ
พินทุอรมองอาหารละลานตาตรงหน้าแล้วอดขำไม่ได้ “ลี่เอ๊ย...ถ้าพี่กับเพชรกินอาหารของลี่หมดนี่ ไม่ต้องแต่งงานแล้วละ วนรอบเมรุสามรอบแล้วก็เผาได้เลย”“ก็ชิมอย่างละนิดสิคะพี่อิง นิดเดียวก็รู้รสแล้ว ลี่สั่งซี่โครงหมูอบน้ำผึ้งที่พี่ชอบมาด้วยนะ อยู่ในจานไหนสักจานนึงนั่นแหละ ไม่ก็อาจจะยังอยู่ในครัว เพราะจานไม่พอ”“นี่ยังมีอีกเหรอวะไอ้ลี่” เพชรพร้อมเริ่มขำ“มี มีของที่พี่เพชรชอบด้วย” คนเป็นน้องยิ้มเอาใจ “ส่วนของเสือน้อยเป็นข้าวตุ๋นกับฟักทองญี่ปุ่นและหมูสับ ถือว่าได้ร่วมฉลองด้วย”“เอาๆ กินกัน ไม่หมดก็ไม่ต้องกลับบ้านละกัน”“ผมไปเปิดไวน์ให้นะ ฉลองจดทะเบียนทั้งที เอาขวดที่แจ่มๆ เลย” วิณทร์วายุส่งลูกชายตัวป้อมให้ภรรยาสาว ก่อนจะหันไปถามเพชรพร้อมเรื่องไวน์เพราะเพื่อนสนิทเคยเล่าให้ฟังว่าเจ้าของสวนเพียงดินดีก็ชอบดื่มไวน์และมีความรู้เรื่องไวน์เหมือนกัน “เพชรมีไวน์ปีไหนที่ชอบเป็นพิเศษไหม เผื่อที่บ้านมี จะได้เปิดขวดนั้น”“เอาที่คุณเลือกเลยวิณทร์ ผมดื่มได้หมด”คะนึงรักรีบเสริม “รายนี้เน้นสุด ไม่เน้นทรง กะแช่ สาโท ยี่สิบแปดดีกรี พี่เพชรย้อมยังดื่มได้เลย”ทั้งสี่คนกับอีกหนึ่งเด็กน้อยกินอาหารเย็นที่คะนึงรักสั่งมาด
วันรุ่งขึ้นพินทุอรตื่นขึ้นในอ้อมกอดของเพชรพร้อมด้วยความสดชื่นการได้เล่าเรื่องส่วนตัวที่ไม่สวยงามนักให้เพชรพร้อมฟัง เป็นการปลดเปลื้องพันธนาการบางอย่างที่ฉุดรั้งพินทุอรมาหลายปี ทำให้เธอกับเขาได้รู้จักกันลึกซึ้งมากกว่าเดิมอีกขั้นหนึ่ง ที่ผ่านมานั้น นอกจากที่จำเป็นต้องเล่าให้คะนึงรักฟังแล้ว จิตแพทย์สาวก็ไม่เคยรู้สึกไว้ใจใครมากพอที่จะเล่าเรื่องบอบช้ำเหล่านี้ให้ฟังเลยแต่กับเขา...กับเพชรพร้อม...เธอรู้สึกว่าสามารถแบ่งปันได้ทุกเรื่องทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายเช้านี้ เธอเตรียมอาหารเช้าแบบง่ายๆ ไว้ให้ชายหนุ่ม นั่นคือเทซีเรียลรสช็อกโกแลตใส่ชาม ฝานกล้วยหอมเป็นแว่นๆ วางไว้ด้านข้าง หยิบขวดนมสดจากตู้เย็นออกมาวางกลางโต๊ะอาหาร จากนั้นก็ต้มน้ำร้อนในไมโครเวฟ สำหรับชงกาแฟแบบทรีอินวัน เมื่ออาหารเช้าเสร็จ เขาก็ออกจากห้องน้ำพอดี“ว้าว...เตรียมอาหารเช้าให้ผมด้วย” น้ำเสียงเข้มดุนั้นเต็มไปด้วยความขบขัน“ภูมิใจนำเสนอขั้นสุดเลยนะ” เธอยักคิ้วกวนเพชรพร้อมนั่งลงกินอาหารเช้ากับเธอ ดูข่าวเช้าเพลินๆ จู่ๆ ชายหนุ่มก็พูดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย“อิง...เราสองคน...มีลูกด้วยกันมั้ย”พินทุอรอมช้อนที่ตักซีเรียลค้าง มองหน้าเพ