บริษัทของฟู่หย่วนเชินตกอยู่ในวิกฤตการเงินครั้งใหญ่เป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ก่อตั้งมาครั้งแรกที่บริษัทประสบปัญหาการเงินรุนแรงก็ยังคงเป็นเพราะพ่อของฉันตอนนั้นเขาเพิ่งถูกซูชิงฮวนทิ้ง ฉันเลยรีบร้อนคว้าโอกาส ทิ้งศักดิ์ศรีและทำงานสาวนั่งดริ๊งพ่อของฉันโกรธและผิดหวังในตัวฉันมากจนก่อเรื่องอาละวาดต่อหน้าสื่อเพราะเหตุนี้แม่สามีของฉันก็เริ่มเกลียดฉัน มองว่าฉันเป็นตัวซวยของฟู่หย่วนเชิน ในช่วงนั้นฟู่หย่วนเชินเองก็เย็นชากับฉันสุด ๆ “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ ความพยายามของผมจะสูญเปล่าได้ยังไง!”“เสิ่นอวิ๋นเฉี่ยน คุณมันสมควรแล้วที่ไม่มีใครรัก!”แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่า หลังจากนั้นฉันถึงกับบีบบังคับพ่อด้วยการจะฆ่าตัวตาย พ่อที่เป็นเพียงชนชั้นแรงงานถึงกับนำเงินก้อนใหญ่หลายแสนเพื่อให้เขาเริ่มต้นธุรกิจซูชิงฮวนร้องไห้สะอื้นเดินเข้ามาในห้องทำงาน และตกใจเมื่อเห็นกล่องข้าวที่ฟู่หย่วนเชินขว้างออกมา“ขยะอะไรถึงกล้ามาส่งถึงที่ทำงาน เปลี่ยนกลับไปใช้ร้านเก่าซะ!”ผู้ช่วยตอบรับอย่างนอบน้อม และไม่กล้าพูดความจริงฟู่หย่วนเชินเป็นโรคกระเพาะอาหาร ฉันจึงศึกษาสูตรอาหารมาทั้งวันเพียงเพื่อให้เขากินข้าวได้มากขึ้นอีกสักคำ
ฟู่หย่วนเชินยุ่งอยู่กับการสังสรรค์ และปฏิเสธคำเชิญไปทานอาหารจากซูชิงฮวนติดต่อกันหลายวัน ทุกคนที่โต๊ะอาหารล้วนเป็นคนมีไหวพริบ โอบล้อมฟู่หย่วนเชินด้วยคำพูดอ้อมค้อม ไม่มีใครพูดคำที่ชัดเจน “นี่มันเกือบห้าทุ่มแล้ว ทำไมยังไม่เห็นพี่สะใภ้โทรมาเช็คเลย?”หนึ่งในนั้นหยอกล้อฟู่หย่วนเชิน เพื่อนในวงการธุรกิจของฟู่หย่วนเชินรู้ดีว่าเขามีแม่เสืออยู่ที่บ้าน ทุก ๆ สามทุ่มจะต้องโทรมาเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่นออกมา ฉันที่เป็นแบบนี้ก็คงไม่แปลกใจที่ฟู่หย่วนเชินไม่ชอบ แต่ทำไมต้องให้ลูกของฉันชดใช้ด้วยชีวิตล่ะ? ในขณะยกเหล้าฟู่หย่วนเชินชะงักไปชั่วขณะ เขาคงนึกถึงวันเวลาที่ถูกฉันโทรเช็ค แต่กลับไม่แสดงอาการรังเกียจอย่างหาได้ยาก“กำลังงอนฉันอยู่”ดูเหมือนฟู่หย่วนเชินจะหัวเราะเบา ๆ เสียงนั้นอาจเป็นเพียงภาพลวงตาของฉันคนที่โต๊ะอาหารล้อมรอบเขาและสอนประสบการณ์การเอาใจภรรยาให้เขา ไม่มีการพูดคุยเรื่องสำคัญเลย สุดท้ายฟู่หย่วนเชินดื่มจนเมาและอาเจียน คุยธุรกิจไม่สำเร็จ กลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ที่ไม่เป็นประโยชน์แทนแต่เขากลับดูเหมือนไม่มีความไม่พอใจเลย แม้กระทั่งอ้อมไปเอาเกาลัดจากร้านที่ถ
ฟู่หย่วนเชินยุ่งมาก แต่ในวันครบรอบสิบปีเขายังคงเลื่อนตารางงานทั้งหมดเขาจัดงานเลี้ยงตอนรับแขก บางคนเห็นด้วยว่าฉันกับเขารักกันลึกซึ้ง ซึ่งเขาก็ไม่ได้คัดค้านอย่างหาได้ยากจนกระทั่งถึงตอนท้ายฉันก็ไม่ได้ไปร่วมงาน ฟู่หย่วนเชินโยนโทรศัพท์ทิ้ง แล้วยืมโทรศัพท์ของคนอื่นโทรหาฉัน “เสิ่นอวิ๋นเฉี่ยน อย่าให้มันมากเกินไปนัก! แค่สาวนั่งดริ๊งอย่างคุณ คุณคิดว่าคุณมีค่ามากนักหรือไง!”ทุกคนในงานเลี้ยงต่างก้มหน้า ตกตะลึงจนไม่มีใครพูดอะไรแม้แต่คำเดียว “ถ้าคุณไม่อยากกลับมางั้นก็หย่าซะ! ผมทนอยู่กับสาวนั่งดริ๊งอย่างคุณเกินพอแล้ว!”ฉันเห็นเขาเมาแล้วอาละวาด แต่ในใจฉันกลับรู้สึกหดหู่ คำพูดที่ออกมาตอนเมาเป็นความจริง เขาคงรังเกียจฉันมานานแล้วสินะแต่ฟู่หย่วนเชิน ในเมื่อรังเกียจฉันขนาดนี้ แล้วตอนแรกทำไมถึงแต่งงานกับฉันล่ะ?หลังจากที่พูดคำรุนแรงเหล่านั้นออกมา เขาก็เริ่มไปสถานบันเทิงอยู่บ่อยครั้ง ข่าวการแตกร้าวในชีวิตแต่งงานของฉันกับเขากระจายไปทั่วในวงการนี่แหละความเป็นจริงของมนุษย์ ฉันคิดว่าฉันเข้าใจมันมานานแล้ว แต่ฉันก็ยังประเมินความชั่วร้ายของมนุษย์ต่ำไป ฉันไม่เคยคิดเลยว่าแม่สามีของฉันจะยุยงให้ฟู่หย
น่าเวทนาหัวใจของพ่อแม่ในโลกนี้ พ่อของฉันโอนเงินมาอย่างรวดเร็วมีเพียงข้อความสั้น ๆ หนึ่งบรรทัด: “รักเธอให้มากขึ้นอีกหน่อย”ฉันกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาอย่างสุดเสียง สิบปีที่ผ่านมา ฉันได้ทำผิดต่อพ่อแม่มากที่สุด ฟู่หย่วนเชินคงเริ่มรู้สึกผิด หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็ส่งข้อความเสียงมาให้ฉัน เสียงของเขาทุ้มต่ำราวกับออกคำสั่ง “เสิ่นอวิ๋นเฉี่ยน ผมให้อภัยคุณแล้ว ผมตัดสินใจจะลองคิดเรื่องการใช้ชีวิตร่วมกับคุณให้ดี ๆ”เขาเหมือนยิงกระสุนอีกนัดใส่หัวใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลของฉัน ด้วยน้ำเสียงที่ยโสโอหังแบบนี้ ไม่รู้เลยว่าเขากำลังสงเคราะห์ใครอยู่ ในวันที่ฉันเสียชีวิตครบเจ็ดวัน ฟู่หย่วนเชินเกิดอาการปวดท้องเพราะโรคกระเพาะ “เสิ่นอวิ๋นเฉี่ยน เลิกก่อกวนซะที!”เขากุมท้องน้อยแล้วตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างบ้าคลั่ง ช่วงนี้เขาอยู่บ้านตลอดและนำงานกลับมาทำด้วยเสียงกริ่งประตูดังขึ้นอย่างในจังหวะที่เหมาะเจาะ ซูชิงฮวนฉวยโอกาสเพื่อหาประโยชน์“พี่ฟู่ พี่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมคะ! พี่เค้าไม่ดูแลพี่เหรอ?”เธอเหลือบมองเข้ามาในบ้านอย่างไม่พอใจ แล้วเอนตัวไปพิงฟู่หย่วนเชินอย่างไม่ตั้งใจ “อย่าพูดถึงยัยสาวนั
เสียงกริ่งประตูดังขึ้นอีกครั้ง ฟู่หย่วนเชินและซูชิงฮวนต่างตกใจเล็กน้อย“พี่ฟู่คะ ไม่ใช่ว่าพี่เค้ากลับมาแล้วใช่ไหม!”บนใบหน้าของฟู่หย่วนเชินดูเหมือนจะมีความดีใจวูบผ่านมา แต่แล้วก็รีบซ่อนมันไว้ เปลี่ยนเป็นท่าทางที่ไม่ใส่ใจฉันคงมองผิดไป ฟู่หย่วนเชินจะไปรู้สึกดีใจเพราะฉันได้อย่างไร?“พี่ฟู่คะ ฉันไปดีกว่า เผื่อพี่เค้าจะเข้าใจพวกเราผิด”ซูชิงฮวนเห็นฟู่หย่วนเชินไม่มีปฎิกิริยาอะไร จึงกดดันต่อไปอีกสายตาของฟู่หย่วนเชินเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย จากนั้นก็พลิกมือกอดเธอไว้แน่น พร้อมกับจูบหน้าผากเธออย่างปลอบโยน“ไม่ต้องกลัว เธอไม่กล้าทำอะไรหรอก”ฉันมองเห็นสีหน้าฟู่หย่วนเชินที่เหมือนมั่นใจว่าชนะแล้ว จนไม่สามารถเก็บอารมณ์โกรธเอาไว้ได้เสียงหมุนของลูกบิดประตูทำให้ฉันตกใจอยู่เหมือนกันบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พ่อฉันซื้อในปีที่แต่งงาน เขากลัวว่าฉันจะถูกคนที่บ้านสามีดูถูก เลยใช้เงินเก็บเกือบทั้งหมดเพื่อซื้อบ้านให้เรานอกจากฉันและฟู่หย่วนเชินแล้ว มีเพียงพ่อฉันเท่านั้นที่มีกุญแจตอนนี้ฉันตายไปแล้ว ก็ต้องเป็นพ่อฉันแน่ๆ!ฉันพยายามผลักฟู่หย่วนเชินออกไปอย่างไร้ประโยชน์ ไม่ว่าฟู่หย่วนเชินจะทำให้ฉันโกรธแค่
“คุณมาได้ยังไง?”ฟู่หย่วนเชินแสดงความผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด โดยไม่มีความเคารพต่อพ่อของฉันแม้แต่น้อยหน้าอกของพ่อฉันสั่นอย่างรุนแรง ชี้ไปที่ฟู่หย่วนเชินและซูชิงฮวนด้วยนิ้วที่สั่นเทา“เฉี่ยนเฉี่ยนล่ะ? เฉี่ยนเฉี่ยนอยู่ไหน! ฉันจะพาเฉี่ยนเฉี่ยนไป! คุณกล้าทำให้เธอทุกข์ใจได้อย่างไร!”ฉันคุกเข่าข้าง ๆ เท้าของพ่อ และเพิ่งรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาฉันทำผิดพลาดมากมายเพียงใดแต่ฉันและพ่ออยู่คนละโลกกันแล้ว ไม่มีโอกาสกตัญญูอีกแล้ว กลับทำให้เขาต้องกังวลใจเรื่องของฉัน“ลูกสาวของคุณไม่กลับบ้าน ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย”ฟู่หย่วนเชินอยู่ในตำแหน่งสูงมานานเกินไปจึงไม่สามารถรับฟังการตำหนิใด ๆ ได้ซูชิงฮวนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็คอยเติมเชื้อไฟ“คุณลุงคะ พี่เค้าไม่อยู่บ้านค่ะ แม้แต่เรื่องโรคกระเพาะของพี่ฟู่เธอก็ยังไม่สนใจ คุณสอนลูกสาวอย่างไรกัน?”ฉันอยากจะเข้าไปตบหน้าเธอสักสองที ในเมื่อรังแกฉันก็ยังพอทำใจได้ แต่คิดไม่ถึงว่ายังกล้ามาว่าพ่อของฉันอีกพ่อของฉันมองฟู่หย่วนเชินด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยอารมณ์มากมาย ความเศร้าในดวงตานั้นทำให้ใจของฉันเจ็บปวด“ฉันอาจจะสอนลูกสาวของฉันให้ดีเกินไป ถึงทำให้เธอถูกคุณทั้งสองคน
บริษัทของฟู่หย่วนเชินถูกผลักเข้าสู่จุดสนใจอีกครั้ง พ่อของฉันถือป้ายประท้วงอยู่ที่หน้าตึกของเขาเรียกร้องให้เขาชดใช้ชีวิต จนสื่อมวลชนมาเก็บข่าวกันทุกวัน“ฉันไม่ได้บอกไปแล้วเหรอว่าให้เปลี่ยนอาหารเป็นร้านเก่าร้านนั้น!”ผู้ช่วยต้องทนกับอารมณ์โกรธที่ไม่มีเหตุผลของฟู่หย่วนเชิน จึงไม่สามารถยับยั้งการพูดความจริงออกมาได้“ประธานฟู่ อาหารเมื่อก่อนคืออาหารที่คุณเสิ่นทำให้เอง และเธอก็ไม่ได้ส่งมาเป็นเวลานานแล้ว”ฟู่หย่วนเชินเงียบไปในทันที จากนั้นโบกมือสั่งให้ผู้ช่วยออกไป“เสิ่นอวิ๋นเฉี่ยน คุณจะทำให้เรื่องมันยุ่งเหยิงไปถึงเมื่อไหร่กันแน่?”เขายังคงไม่เชื่อว่าฉันตายไปแล้ว และดื้อรั้นเชื่อว่าฉันแค่สร้างเรื่องไร้สาระเขาสั่งให้คนส่งข่าวไปบอกพ่อของฉันว่าต้องการพบ แต่ได้รับการปฏิเสธอย่างไม่ใยดีจากพ่อของฉัน“พี่ฟู่คะ พี่อวิ๋นเฉี่ยนคงไม่ได้ตายจริงๆ ใช่ไหมคะ?”ซูชิงฮวนทำตัวไร้เดียงสา เอนตัวพิงฟู่หย่วนเชินแล้วกระพริบตาปริบๆฟู่หย่วนเชินวางมืออยู่บนไหล่ของเธอแล้วจู่ๆ ก็บีบไหล่เธอแน่นขึ้น จนทำให้ซูชิงฮวนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดฟู่หย่วนเชินทำเป็นไม่สนใจ พูดจาปลอบเธอให้สบายใจ แล้วก็พึมพำกับตัวเอง“คง
พ่อของฉันเปิดเผยข่าวการเสียชีวิตของฉัน เงินที่ฟู่หย่วนเชินใช้เพื่อลบกระแสข่าวนั้นไม่ได้ผลอะไรเลยเขาสวมชุดสูทและผูกเนกไทอย่างเรียบร้อย เดินไปงานศพของฉันด้วยท่าทางหยิ่งผยองแม่สามีของฉันเดินเข้ามาประคองเขาอย่างสั่นเทา น้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ“เล่นละครเนียนแบบนี้ คงไม่ตายจริงใช่ไหม”ฟู่หย่วนเชินมองรูปภาพสีขาวดำตรงกลางงานศพ แล้วนวดหว่างคิ้วเขาไม่ได้หลับมาหลายวันแล้ว เมื่อก่อนจะมีฉันคอยกล่อมให้เขานอนหลับอย่างอ่อนโยน ตอนนี้เขาคงยังไม่ชินกับความแตกต่างนี้“ตายก็ตายไป แค่สาวนั่งดริ๊งแค่นั้น ตายไปก็ไม่เสียดาย!”ฉันได้ยินคำดูถูกที่เลวร้ายขึ้นเรื่อย ๆ ของเขา แต่ในใจกลับไม่รู้สึกสะทกสะเทือนอะไรอีกแล้ว มีเพียงความห่วงใยต่อพ่อของฉันที่ยังเหลืออยู่เท่านั้น“พ่อ อย่าให้คนอื่นหัวเราะเยาะสิ เสิ่นอวิ๋นเฉี่ยนไม่มีเหตุผล แล้วทำไมพ่อถึงทำเรื่องไร้สาระตามไปด้วย?”พ่อของฉันทำเป็นไม่ได้ยิน บทเพลงไว้อาลัยดังขึ้นในงานศพ ฟู่หย่วนเชินฟังจนขมวดคิ้วแขกที่มางานส่วนใหญ่เป็นคนของครอบครัวฝ่ายฉัน ทุกคนต่างเมินเฉยและไม่ให้เกียรติฟู่หย่วนเชินแม้แต่น้อย“เสิ่น... อวิ๋น... เฉี่ยน!”สีหน้าของฟู่หย่วนเช