Share

- 4 -

กวิน

“คุณปล่อยให้เด็กฝึกงานเข้ามาตอนผมกำลังคุยเรื่องสำคัญกับวัลลภได้ยังไง ผมสั่งไว้แล้วนี่ว่าห้ามใครรบกวน” ผมเดินออกมาตวาดใส่ผู้ช่วยเลขาฯ หน้าห้อง เจ้าหล่อนก้มหน้าไม่กล้าสบตา

“ขอโทษค่ะ คุณชาร์มบอกแค่ว่าคุณเรียกคุณวัลลภเข้าพบเฉย ๆ ดิฉันเลยคิดว่าไม่เป็นไร”

“ไม่เป็นไรเหรอ เธอใช้อะไรคิด” ผมถามเสียงเย็นบังคับตัวเองไม่ให้ตวาดออกไปอีกรอบ

“คือดิฉันคิดว่าหมายถึงแขก...เอ่อ...”

คำตอบที่ได้เล่นเอาผมอึ้ง แขก คนทั่วไปจะมาหาผมได้ยังไงถ้าไม่ได้นัดหมายล่วงหน้ามาก่อน นั่นหมายความว่าผมรับรู้และอนุญาตแล้ว ยกเว้นแค่คนในครอบครัวผมเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้ตลอดเวลา ผมนับหนึ่งถึงสิบในใจเพื่อไม่ให้ระเบิดอารมณ์ใส่ผู้หญิงบื้อตรงหน้า

“โทรไปหาคุณจุ๋มหัวหน้าห้องจดหมายแล้วขอโทษสำหรับความผิดพลาดของคุณซะ” ผมรวบรัด เบื่อจะฟังคำแก้ตัวงี่เง่า

“ค่ะท่าน”

“คุณปลา แล้วกรุณาจำไว้ด้วยว่าเวลาที่ผมคุยธุระส่วนตัวอยู่ใครหน้าไหนก็ห้ามเข้ามารบกวนเป็นอันขาด เข้าใจมั้ยครับ”

“ทราบแล้วค่ะท่าน” หล่อนรับคำแล้วหยิบหูโทรศัพท์ขึ้นมาปฏิบัติตามคำสั่ง

นี่คือผลของการที่ผมยอมใจอ่อนรับเพื่อนน้องสาวเข้าทำงาน พวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ หัวสมองกลวง เอาแต่นั่งแต่งหน้าทาปากไปวัน ๆ แล้วผมจะไล่ออกก็ไม่ได้ด้วย

ผมเดินกลับเข้าห้องทำงาน พยายามสลัดเรื่องวุ่นวายนี่ออกแต่ไม่สามารถจดจ่ออะไรได้เลย ในหัวดันมีแต่ภาพนัยน์ตาสีน้ำตาลที่แฝงแววตื่นกลัวขณะจ้องผมอยู่ ปกติแล้วผมไม่เคยคิดใส่ใจ เรียกง่าย ๆ ว่าไม่เห็นหัวใครทั้งนั้น แต่กับเด็กสาวคนนั้นกลับรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างรบกวนจิตใจผมอยู่

ไม่เอาน่ากวิน แกแค่รู้สึกแย่ที่ไปตะคอกใส่คนพิการ

ผมพยายามให้เหตุผลกับตัวเอง แต่ว่ามันไม่สามารถอธิบายถึงปฏิกิริยาที่ในเป้ากางเกงผมแข็งโป๊กตอนคิดถึงใบหน้าสวยหวานนั้นได้

“สัส!” ผมสบถตัวเองเมื่อในหัวปรากฏภาพของเธอถูกมัดและกำลังอ้อนวอนให้ผมปลดปล่อยให้

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมอยากรู้เรื่องราวของเธอมากขึ้น จึงไม่รอช้ากดโทรศัพท์ต่อสายหาบีมฝ่ายไอที เพราะรู้ว่าสิ่งที่ผมต้องการแผนกบุคคลไม่สามารถให้ได้ เขารับสายผมตั้งแต่สัญญาณแรกดัง

“มีอะไรให้ผมรับใช้ครับท่านประธาน” เสียงทุ้มออกจะติดกวนเอ่ยขึ้น ผมคิดว่าลูกน้องผมเป็นพวกชอบกวนประสาทแทบทุกคน

“ผมต้องการประวัติส่วนตัวโดยละเอียดของนักศึกษาฝึกงานชื่อปภาดาที่อยู่ห้องจดหมาย ด่วน คุณเข้าใจมั้ยว่าผมหมายถึงอะไร”

“ครับท่าน” ปลายสายตอบรับพร้อมเสียงรัวนิ้วลงบนแป้นคีย์บอร์ดดังขึ้น “ท่านต้องการข้อมูลส่วนตั๊วส่วนตัวแบบที่หาทั่วไปไม่ได้ใช่มั้ยครับ ให้เวลาผมสิบห้านาที”

ผมวางสาย หัวเราะพอใจที่ลูกน้องคนนี้ไม่เสียเวลาคิดเรื่องหลักจรรยาบรรณใด ๆ เลยสักนิด

สิบห้านาทีพอดีเป๊ะหนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นก็มาปรากฏตัวตรงหน้า ยื่นแฟ้มส่งให้

“ได้แล้วครับ”

“ชาร์มอยู่ข้างนอกรึเปล่า”

“อยู่ครับ” เขาตอบ แอบอมยิ้มเมื่อพูดถึงเลขาฯ ผม ไม่ปิดบังว่าแอบชอบหล่อนอยู่ แต่ผมมั่นใจว่าหล่อนไม่ชายตาแลลูกน้องผมคนนี้แน่ ดูสิว่าแต่งตัวยังไง แว่นหนาเตอะ ผมไม่หวี เสื้อยับ ๆ อย่างไรก็ตาม ผมไม่คิดพูดให้เสียกำลังใจ แต่ก็แอบเอาใจช่วยอยู่เหมือนกัน

“ผมรับรองว่าท่านจะได้ข้อมูลทุกอย่างที่ท่านต้องการในแฟ้มนี้ มีอะไรให้ผมรับใช้อีกมั้ยครับ”

“นายลองออกไปเปิดหูเปิดตาซะบ้างก็ดี อย่ามัวแต่หมกตัวอยู่กับหน้าจอคอมฯ ทั้งวัน “ผมแนะนำ

“ครับท่าน” บีมรับคำอย่างรวดเร็วแต่ผมรู้ว่าไม่ทำตามหรอก

คล้อยหลังบีมผมจึงเปิดแฟ้มออกดู ตาลุกวาวเมื่อเห็นภาพถ่ายส่วนตัวของปภาดา ลูกน้องคนนี้ช่างรู้ในผมเสียจริง เห็นทีควรจะขึ้นเงินเดือนให้ซะหน่อย แต่ก็แอบสงสัยว่าหมอนี่จะรู้รึเปล่าว่าผมสนใจเธออยู่ ผมสลัดความคิดนั้นทิ้ง อย่างเจ้านั้นคงคิดว่าผมไม่พอใจเธอย่างมากและต้องการไล่เธอออกมากกว่า

ผมเพ่งสายตาดูรูปถ่ายของเด็กสาวในแฟ้ม เธอเกล้าผมเป็นมวยไว้ด้านหลังหมือนกับวันนี้ สายตาหลุบต่ำกำลังอ่านหนังสือที่อยู่ในมือ ทำให้ดูเหมือนเป็นซับเชื่อง ๆ แม้กระนั้นผมก็ยังเห็นดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วคู่นั้นได้ชัดเจน เธอไม่ได้แต่งหน้า แต่ผิวขาวเนียนไม่มีจุดด่างดำเลยสักจุด ผมไล้นิ้วผ่านรูปเธอ อยากจะสัมผัสเธอจริง ๆ

ความต้องการผมอัดแน่นจนกลางกายที่แข็งขึงอยู่แล้วเริ่มมีน้ำซึมออกมา จึงเปิดผ่านเพื่ออ่านประวัติของเธอเพื่อเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็น ปภาดา ชื่อเล่นว่าปราย ชื่อเพราะหมาะสมกับตัวเธอ แล้วผมก็สะดุดเมื่ออ่านถึงที่ว่าเธอย้ายมาเรียนโรงเรียนสำหรับคนหูหนวกโดยเฉพาะเมื่อตอนอายุสิบห้า แสดงว่าไม่ได้หูหนวกตั้งแต่เกิด อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่ แต่ก็ยั้งตัวเองไม่ให้สั่งให้บีมแฮ็กประวัติทางการแพทย์เธอมาให้ดู

“เกิดอะไรขึ้นกับเธอนะปราย”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status