ปราย
“สวัสดีค่ะแม่” ฉันส่งภาษามือทักทายแม่ทันทีที่ลงจากรถ
“เป็นไงบ้างลูก” แม่ถามกลับด้วยภาษามือเช่นเดียวกัน แล้วเราสองคนเดินก็กอดกันเข้าบ้าน
“ลูกพ่อกลับมาแล้ว มาให้พ่อดูหน่อย” พ่อส่งภาษามือทัก ยิ้มกว้างพร้อมกางแขนออกต้อนรับ ฉันรีบกระโจนเข้าหาอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดในโลก
“ลูกดูตัวสูงขึ้นกว่าเดิมจากที่เจอกันครั้งก่อนอีกแล้ว” พ่อมักจะทักฉันเป็นเด็กเล็ก ๆ แบบนี้ทุกครั้ง แล้วพวกเราก็ได้แต่หัวเราะเพราะอายุเท่านี้ส่วนสูงไม่เพิ่มขึ้นแล้ว
พ่อออกไปช่วยฉันขนกระเป๋าเข้าบ้านแล้วถามขึ้นทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามา “สติ๊กเกอร์ติดรถลูกไปไหน” พ่อหมายถึงสติ๊กเกอร์ที่บอกว่าคนขับรถคันนี้หูหนวก
“หนูทำหายค่ะ เดี๋ยวหนูหาอันใหม่มาติด” ตอบเสร็จก็ทำเป็นเดินหนีเพราะไม่อยากเห็นพ่อบ่นอีก ฉันรู้ว่าท่านเป็นห่วงความปลอดภัยแล้วก็ลงทุนเรื่องอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ในรถฉันไปมาก ซึ่งแต่ละอย่างค่อนข้างมีราคา ฉันไม่อยากให้ท่านเสียเงินมากกว่านี้ ท่านควรเก็บเงินไว้ใช้ตอนเกษียณดีกว่า
“ตัวแสบไปไหนคะแม่” ฉันถามหาน้องชาย
“ขลุกอยู่แต่ในห้องทั้งวัน ลูกไปล
“เดี๋ยวก่อนพี่ปราย พี่ชอบใครอะ พี่ตูนเหรอ”“ถามอะไรนักหนา ไม่ใช่ตูน เขาแก่กว่าพี่ตั้งเยอะ”“อืม...ให้ผมเดา พี่แอบชอบอาจารย์เหรอ”ฉันเลิกคิ้วมอง “ทำไมถึงคิดว่าพี่แอบชอบอาจารย์”“ก็พี่บอกว่าเขาแก่กว่า แล้วเหมือนพี่จะเคยพูดถึงอาจารย์คนหนึ่งให้ผมฟังว่าพี่ปลื้มเขามาก”“ไม่ใช่!”“ถ้างั้น แล้วใครล่ะ”ฉันถอนใจอีกรอบ “เจ้านายพี่เอง”“หา!”“แต่ก็ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่แบบว่าแอบปลื้มเขาเฉย ๆ ไรงี้ เขาหล่อรวย มีแต่คนชอบเขา คนอย่างเขาไม่มีทางขาดแคลนผู้หญิง เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางมาชายตาแลพี่หรอก” พูดเองแล้วทำไมถึงรู้สึกแอบเศร้านะ“ผมจะบอกอะไรให้นะ ใครได้พี่เป็นแฟนอะโครตโชคดี ถ้าใครปฏิเสธพี่แม่งก็โง่เต็มที”“โห น้อย ๆ หน่อย พูดอย่างนี้อยากได้อะไรเนี่ย”“เปล่าซะหน่อย ผมพูดจริง พี่สาวผมออกจะสวยเพอร์เฟกต์ราวกับนางฟ้ามาจุติซะขนาดนี้”“เวอร์!” ฉันพยายามกลั้นยิ้มกับคำชม “พอ ๆ ออกไปได้แล้ว พี่จะนอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”โชคดีที่เจ้าเปรมไม่เซ้าซี้ต่อ ยอมออกจากห้องไปแต่โดยดี แต่ฉันเนี่ยสิ ทำยังไงก็นอนไม่หล
“ว่าไงไอ้น้องชาย มีอะไรถึงได้โทรตามฉันมา” พี่ชายผมเดินถือเบียร์มาสมทบที่โต๊ะพูล“คิดถึงพี่มั้ง” ผมตอบส่ง ๆถ้าจะมีใครทำให้ผมเลิกคิดถึงเรื่องผู้หญิงได้ก็มีแต่กฤตฤณพี่ชายผมคนเดียวนี่แหละ เป็นคนที่รู้ไส้รู้พุงผมถึงแก่นจนนึกอยากเกลียด“เอาละ บอกมามีเรื่องอะไร”ผมไหวไหล่ กระดกเบียร์ไปทีหนึ่ง โดยมีสายตาของพี่ชายจ้องเขม็ง“คือผมเจอผู้หญิงคนนึง”“ผู้หญิง” พี่เลิกคิ้วมอง“ผมเพิ่งเจอเธอเมื่อไม่กี่วันก่อนแต่ว่าหยุดคิดถึงเธอไม่ได้เลย”“แล้วนายได้ขอเบอร์เธอไว้รึเปล่า”“เธอเป็นนักศึกษาฝึกงานที่บริษัท”“นักศึกษาฝึกงาน!”ผมเห็นหน้าพี่ชายแล้วอยากขำแต่ขำไม่ออก เขาอึ้งไปพักแล้วพูดต่อ“เออดี งั้นก็ง่ายขึ้นหน่อย ลองชวนเธอไปเดทสิ”“ถ้าง่ายขนาดนี้ก็ดีสิ ผมไม่อยากให้เธอปฏิเสธ”“อะไรกันวะ กวิน นายมีทั้งเงินทั้งอำนาจ หน้าตาก็หล่อถึงแม้ว่าจะน้อยกว่าฉันก็ตาม ยังจะมัวคิดมากอะไรอยู่อีก ผู้หญิงที่ไหนเห็นนายมีแต่จะวิ่งตาม”“แต่ไม่ใช่กับเธอน่ะสิ”พี่ชายทำหน้าประหลาดใจอีกรอบพลางใช้ความคิด สัก
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาสมตาผมเข้าพอดี เธอจ้องผมตาค้าง ก่อนที่จะเลื่อนสายตาลงมองปากที่อ้าออกแทบน้ำลายหกเพราะอยากกลืนกินเธอ ผมเห็นว่าเธอหายใจติดขัดขึ้นเล็กน้อย รีบยิ้มให้เพื่อบอกว่าผมมาดี เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันมองไปรอบห้องเหมือนกำลังหาตัวช่วยหรือไม่ก็ทางหนีทีไล่ ผมไม่มีวันยอมให้เธอทำอย่างนั้นจึงเดินรุกเข้าหา“ปภาดา” ผมเรียกเมื่อเข้าใกล้ในระยะที่คิดว่าเธอสามารถอ่านปากได้ “ฉันอยากขอโทษเธออีกครั้งสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อครั้งสุดท้าย”เธอมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง เล่นเอาผมประหม่าคิดว่าเธอไม่อยากคุยด้วย แต่ในที่สุดผมก็รู้เหตุผล เธอต้องการหาเครื่องมือสื่อสาร คงคิดว่าระหว่างนั่งแยกจดหมายไม่จำเป็นต้องใช้มือถือจึงไม่ได้หยิบติดมือมาด้วย ผมสามารถถามแล้วให้เธอพยักหน้าหรือส่ายหน้าได้ แต่ถ้าเธอปฏิเสธผมก็อยากรู้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่อยากไปกับผม สุดท้ายเธอได้กระดาษโน้ตกับปากกามาด้ามหนึ่ง“ไม่เป็นไรค่ะท่านประธาน”ผมพยักหน้า เงียบไปสักพัก จู่ ๆ ก็รู้สึกติดขัดขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจุดประสงค์จริง ๆ ที่มาอยู่ตรงนี้ยังไงดีพูดไปสิวะ กล้า ๆ หน่
กวินศร คนขับรถและผู้ช่วยส่วนตัวเลี้ยวรถเข้าจอดที่ลานจอดรถหน้าหอพักของปภาดา ตอนแรกผมกะว่าจะขับรถมาเอง แต่คิดอีกทีน่าจะยุ่งยากน่าดูตอนที่สื่อสารกับเธอเลยให้สอนขับรถให้ในขณะที่ผมจะได้โฟกัสกับเธอได้เต็มที่ หวังว่าเธอจะไม่เกร็งเวลาที่อยู่กับผมนายทำได้น่ากวิน แค่คืนเดียวเอง ปกปิดดอมที่อยู่ในตัวนายซะ วานิลลาก็ไม่ได้แย่ คืนนี้นายต้องเป็นผู้ชายปกติที่กำลังไปเดทกับผู้หญิงปกติ พูดคุย ยิ้ม หัวเราะ ทำทุกอย่างให้เป็นปกติลื่นไหล อย่าแม้แต่จะคิดควบคุมอะไร แล้วอย่าลืมว่านายไม่ได้รับอนุญาตให้ทำโทษเธอผมย้ำกับตัวเองระหว่างเดินไปหาปภาดาที่ห้อง ผมกดกริ่ง สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเธอจะรู้ได้ไงว่ามีคนมาหา รอไม่นานก็มีเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันเปิดประตูออกมาทัก“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเหมือนฝัน เป็นรูมเมทของปราย” หล่อนพูดเสียงเรียบเป็นโทนเดียวแต่ก็สามารถเข้าใจได้ เธอยิ้มให้เหมือนว่ารู้จักผมมาก่อน แต่อาจเป็นเพราะเมื่อก่อนผมเคยอยู่ในวงการบันเทิง ผมมั่นใจว่าไม่เคยเจอเธอมาก่อนผมเดินเข้าด้านในตามคำเชิญ มองสำรวจรอบ ๆ ไม่ต่างจากที่
ผมไม่ได้พาเธอไปห้องอาหารตามโรงแรมหรู แต่เป็นร้านอาหารริมน้ำที่บรรยากาศเป็นส่วนตัว เมื่อไปถึงพนักงานก็เดินนำไปยังโต๊ะส่วนตัวที่จองไว้ เป็นโต๊ะประจำของผม พอนั่งลงแล้วปรายมองไปรอบ ๆ ริมฝีปากคลี่ยิ้มน้อย ๆ เหมือนกำลังรำลึกถึงอะไรสักอย่าง ผมนึกสงสัยว่าจะเป็นยังไงหากต้องการซึมซับบรรยากาศและทำความคุ้นเคยกับสถานที่หนึ่งโดยที่ต้องพึ่งพาแค่ประสาทสัมผัสทางสายตาอย่างเดียว ไม่รู้ว่าหากเป็นผม จะทนได้ยังไงถ้าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ผมเอื้อมมือไปแตะมือเธอเพื่อดึงความสนใจ เธอหันกลับมาสบตา“เธอเคยมาที่นี่มาก่อนเหรอ” ผมเดาจากท่าทางที่เห็น“ค่ะ พ่อเคยพามาฉลองตอนที่ฉันเข้ามหาลัย”“เธอชอบมหาลัยมั้ย” ผมอยากรู้จริง ๆ เพราะมหาวิทยาลัยนี้ผมตั้งใจก่อตั้งสำหรับผู้พิการโดยเฉพาะ ในทุกชั้นเรียนและหลักสูตรการศึกษาถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกส่งเสริมให้กับนักศึกษาพิการทุกประเภท ถึงผมจะงี่เง่าแค่ไหนแต่ผมอยากให้คนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสในสังคม“ฉันชอบมากค่ะ พอนึกว่ากำลังจะเรียนจบฉันก็อดคิดถึงไม่ได้ ขอบคุณนะคะที่ก่อตั้งมหาลัยนี้ขึ้นมา”ในฐานะคนก่อตั้งพอได้รับฟีดแบ็กแบบนี้ก็
ผมเห็นเธอกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยแล้วมีความสุข ไม่เหมือนพวกดารานางแบบที่ผมเจอที่มักจะกัดคำสองคำเพราะกลัวอ้วนทั้งที่ตัวผอมแห้งเป็นไม้เสียบผีไม่เห็นจะสวยตรงไหนเธอทำมือบอกว่าอาหารอร่อยและเธอชอบ ส่วนที่ผมชอบก็คือท่าทางตอนเธอเคี้ยวอาหารตุ้ย ๆ แต่น่าเสียดายที่อาหารมื้อนี้จบลงเร็วไปหน่อยแต่ผมยังอยากใช้เวลากับเธอต่ออีกสักนิด“ไปเดินเล่นริมน้ำกันมั้ย” ผมชวนหลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วปรายพยักหน้าเห็นด้วย ผมลุกขึ้น เดินอ้อมไปด้านหลังเธอเพื่อช่วยดึงเก้าอี้ให้ เธอส่งยิ้มเป็นประกายที่เล่นเอาผู้ตาลายผมจูงมือเธอเดินไปเรื่อย ๆ ตามทางเรียบริมน้ำที่ทำเป็นสวนสาธารณะแล้วนั่งลงที่ม้านั่งหันหน้าเข้าแม่น้ำเพื่อดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน“คุณเล่าเรื่องครอบครัวคุณให้ฟังได้มั้ยคะ”“ครอบครัวฉันเธอ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”“ยังไงคะ ฉันชักสงสัยแล้วเนี่ย”ผมไม่ได้รังเกียจที่เธอถามและจะเล่าเรื่องที่คิดว่าเป็นส่วนตัวแบบเรื่องครอบครัวให้เธอฟัง ว่ามีพี่ชายที่แก่กว่าห้าปีแต่ไม่รู้จักโตอย่างพี่ตฤณหนึ่งคน มิรา น้องสาวสุดรักแต่น่ารำคาญไปพร้อมกันซึ่งเป็นล
กวินเดทครั้งนี้เป็นความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ ผมรับไม่ได้อย่างแรงเพราะมันเป็นแบบผู้ชายธรรมดาไปออกเดทกับผู้หญิงธรรมดา มันคือวานิลลา! เอาน่า อย่างน้อยก็ได้ลองแล้ว ทำให้รู้ว่ามันไม่เวิร์ค เพราะฉะนั้นควรมูฟออนได้แล้วแต่ตอนที่ได้ใกล้ชิดกัน ตอนที่เธอนั่งซบ ให้ความรู้สึกดีมาก ๆ ทุกอย่างมันถูกต้องเหมาะสมไปซะหมดเหมือนว่าเธอถูกกำหนดให้เป็นของผม แต่ถ้าเธอจะสามารถรองรับความต้องการรุนแรงของผมได้แล้วละก็ ผมจะนับว่าเป็นผู้ชายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเธอ ทว่าความจริงไม่เป็นแบบนั้น เธอสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าที่ผมจะเสนอให้นรกเหอะ! ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเสนออะไรให้เธอ ก่อนหน้านี้ผมยังมีความตั้งใจที่จะค่อย ๆ เรียนรู้ไปพร้อมกับเธอ แต่ตอนนี้ผมมั่นใจว่าตัวเองจะต้องทำทุกอย่างพัง ผมพยายามอย่างมากที่จะแสร้งทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษ มันยากมาก ผมเกือบจะหลุดแสดงความเป็นตัวตนตั้งหลายหน ปรายบริสุทธิ์อ่อนหวานเกินกว่าที่จะมาเสียเวลากับคนอย่างผมอย่างที่บอก ผมจำเป็นต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แต่ว่าก็ยังอยากได้เธออยู่ อยากครอบครองเป็นเจ้าของ จับเธอฟา
ปราย“เจอที่ถูกใจรึยัง” ฝันทำมือถามหลังจากที่นำบรั่นดีโอลด์แฟชั่นแก้วที่สองมาวางตรงหน้า“นอกจากแก้วนี้แล้วก็ยัง” ฉันทำมือตอบ เสร็จแล้วก็ดึงชุดหนังเกาะอกให้สูงขึ้นเพื่อปิดเนินอกที่ทะลักออกมา“เธอน่ะเลือกมาก ลองลดมาตรฐานตัวเองลงหน่อย”ฉันหมุนแก้วในมือมองก้อนน้ำแข็งกลิ้งไปมาเล่น ฉันจะทำแบบที่ว่าได้ยังไงในเมื่อรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ ไม่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ให้เกียรติกันในฐานะคนรัก ดูแลเอาใจใส่ทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนฝันไม่ชอบให้ผู้ชายมาดูแล ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน รายนั้นชอบเป็นผู้นำ เป็นดอม ส่วนฉันเลือกที่จะมองหาคนที่ใช่ ไม่งั้นก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวเสียดีกว่าฉันคิดว่าคุณกวินมีทุกอย่างที่ฉันมองหาในผู้ชายคนหนึ่ง วิธีการที่เขาใช้ควบคุมให้ฉันตกอยู่ใต้อำนาจตอนที่ตกใจกลัวทำให้ฉันคิดว่าเขาเป็นแบบที่คิด ตอนนั้นฉันรู้สึกยอมจำนนอย่างเต็มตัวเต็มใจ ฉันคิดว่าเขาต้องเป็นดอมแน่ แต่หลังจากที่ไปเดท ปรากฏว่าฉันคิดผิด หลังเวลางานเขาเป็นผู้ชายปกติธรรมดาคนหนึ่ง น่าจะถูกของฝ
ปราย“เจอที่ถูกใจรึยัง” ฝันทำมือถามหลังจากที่นำบรั่นดีโอลด์แฟชั่นแก้วที่สองมาวางตรงหน้า“นอกจากแก้วนี้แล้วก็ยัง” ฉันทำมือตอบ เสร็จแล้วก็ดึงชุดหนังเกาะอกให้สูงขึ้นเพื่อปิดเนินอกที่ทะลักออกมา“เธอน่ะเลือกมาก ลองลดมาตรฐานตัวเองลงหน่อย”ฉันหมุนแก้วในมือมองก้อนน้ำแข็งกลิ้งไปมาเล่น ฉันจะทำแบบที่ว่าได้ยังไงในเมื่อรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ผู้ชายที่มีความรับผิดชอบ ไม่เห็นแก่ตัวเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ให้เกียรติกันในฐานะคนรัก ดูแลเอาใจใส่ทั้งร่างกายและจิตใจ ส่วนฝันไม่ชอบให้ผู้ชายมาดูแล ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน รายนั้นชอบเป็นผู้นำ เป็นดอม ส่วนฉันเลือกที่จะมองหาคนที่ใช่ ไม่งั้นก็เลือกที่จะอยู่คนเดียวเสียดีกว่าฉันคิดว่าคุณกวินมีทุกอย่างที่ฉันมองหาในผู้ชายคนหนึ่ง วิธีการที่เขาใช้ควบคุมให้ฉันตกอยู่ใต้อำนาจตอนที่ตกใจกลัวทำให้ฉันคิดว่าเขาเป็นแบบที่คิด ตอนนั้นฉันรู้สึกยอมจำนนอย่างเต็มตัวเต็มใจ ฉันคิดว่าเขาต้องเป็นดอมแน่ แต่หลังจากที่ไปเดท ปรากฏว่าฉันคิดผิด หลังเวลางานเขาเป็นผู้ชายปกติธรรมดาคนหนึ่ง น่าจะถูกของฝ
กวินเดทครั้งนี้เป็นความผิดพลาดที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ ผมรับไม่ได้อย่างแรงเพราะมันเป็นแบบผู้ชายธรรมดาไปออกเดทกับผู้หญิงธรรมดา มันคือวานิลลา! เอาน่า อย่างน้อยก็ได้ลองแล้ว ทำให้รู้ว่ามันไม่เวิร์ค เพราะฉะนั้นควรมูฟออนได้แล้วแต่ตอนที่ได้ใกล้ชิดกัน ตอนที่เธอนั่งซบ ให้ความรู้สึกดีมาก ๆ ทุกอย่างมันถูกต้องเหมาะสมไปซะหมดเหมือนว่าเธอถูกกำหนดให้เป็นของผม แต่ถ้าเธอจะสามารถรองรับความต้องการรุนแรงของผมได้แล้วละก็ ผมจะนับว่าเป็นผู้ชายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเธอ ทว่าความจริงไม่เป็นแบบนั้น เธอสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่าที่ผมจะเสนอให้นรกเหอะ! ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเสนออะไรให้เธอ ก่อนหน้านี้ผมยังมีความตั้งใจที่จะค่อย ๆ เรียนรู้ไปพร้อมกับเธอ แต่ตอนนี้ผมมั่นใจว่าตัวเองจะต้องทำทุกอย่างพัง ผมพยายามอย่างมากที่จะแสร้งทำตัวให้เป็นสุภาพบุรุษ มันยากมาก ผมเกือบจะหลุดแสดงความเป็นตัวตนตั้งหลายหน ปรายบริสุทธิ์อ่อนหวานเกินกว่าที่จะมาเสียเวลากับคนอย่างผมอย่างที่บอก ผมจำเป็นต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม แต่ว่าก็ยังอยากได้เธออยู่ อยากครอบครองเป็นเจ้าของ จับเธอฟา
ผมเห็นเธอกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อยแล้วมีความสุข ไม่เหมือนพวกดารานางแบบที่ผมเจอที่มักจะกัดคำสองคำเพราะกลัวอ้วนทั้งที่ตัวผอมแห้งเป็นไม้เสียบผีไม่เห็นจะสวยตรงไหนเธอทำมือบอกว่าอาหารอร่อยและเธอชอบ ส่วนที่ผมชอบก็คือท่าทางตอนเธอเคี้ยวอาหารตุ้ย ๆ แต่น่าเสียดายที่อาหารมื้อนี้จบลงเร็วไปหน่อยแต่ผมยังอยากใช้เวลากับเธอต่ออีกสักนิด“ไปเดินเล่นริมน้ำกันมั้ย” ผมชวนหลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้วปรายพยักหน้าเห็นด้วย ผมลุกขึ้น เดินอ้อมไปด้านหลังเธอเพื่อช่วยดึงเก้าอี้ให้ เธอส่งยิ้มเป็นประกายที่เล่นเอาผู้ตาลายผมจูงมือเธอเดินไปเรื่อย ๆ ตามทางเรียบริมน้ำที่ทำเป็นสวนสาธารณะแล้วนั่งลงที่ม้านั่งหันหน้าเข้าแม่น้ำเพื่อดูพระอาทิตย์ตกด้วยกัน“คุณเล่าเรื่องครอบครัวคุณให้ฟังได้มั้ยคะ”“ครอบครัวฉันเธอ ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอก”“ยังไงคะ ฉันชักสงสัยแล้วเนี่ย”ผมไม่ได้รังเกียจที่เธอถามและจะเล่าเรื่องที่คิดว่าเป็นส่วนตัวแบบเรื่องครอบครัวให้เธอฟัง ว่ามีพี่ชายที่แก่กว่าห้าปีแต่ไม่รู้จักโตอย่างพี่ตฤณหนึ่งคน มิรา น้องสาวสุดรักแต่น่ารำคาญไปพร้อมกันซึ่งเป็นล
ผมไม่ได้พาเธอไปห้องอาหารตามโรงแรมหรู แต่เป็นร้านอาหารริมน้ำที่บรรยากาศเป็นส่วนตัว เมื่อไปถึงพนักงานก็เดินนำไปยังโต๊ะส่วนตัวที่จองไว้ เป็นโต๊ะประจำของผม พอนั่งลงแล้วปรายมองไปรอบ ๆ ริมฝีปากคลี่ยิ้มน้อย ๆ เหมือนกำลังรำลึกถึงอะไรสักอย่าง ผมนึกสงสัยว่าจะเป็นยังไงหากต้องการซึมซับบรรยากาศและทำความคุ้นเคยกับสถานที่หนึ่งโดยที่ต้องพึ่งพาแค่ประสาทสัมผัสทางสายตาอย่างเดียว ไม่รู้ว่าหากเป็นผม จะทนได้ยังไงถ้าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ผมเอื้อมมือไปแตะมือเธอเพื่อดึงความสนใจ เธอหันกลับมาสบตา“เธอเคยมาที่นี่มาก่อนเหรอ” ผมเดาจากท่าทางที่เห็น“ค่ะ พ่อเคยพามาฉลองตอนที่ฉันเข้ามหาลัย”“เธอชอบมหาลัยมั้ย” ผมอยากรู้จริง ๆ เพราะมหาวิทยาลัยนี้ผมตั้งใจก่อตั้งสำหรับผู้พิการโดยเฉพาะ ในทุกชั้นเรียนและหลักสูตรการศึกษาถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกส่งเสริมให้กับนักศึกษาพิการทุกประเภท ถึงผมจะงี่เง่าแค่ไหนแต่ผมอยากให้คนกลุ่มนี้ได้รับโอกาสในสังคม“ฉันชอบมากค่ะ พอนึกว่ากำลังจะเรียนจบฉันก็อดคิดถึงไม่ได้ ขอบคุณนะคะที่ก่อตั้งมหาลัยนี้ขึ้นมา”ในฐานะคนก่อตั้งพอได้รับฟีดแบ็กแบบนี้ก็
กวินศร คนขับรถและผู้ช่วยส่วนตัวเลี้ยวรถเข้าจอดที่ลานจอดรถหน้าหอพักของปภาดา ตอนแรกผมกะว่าจะขับรถมาเอง แต่คิดอีกทีน่าจะยุ่งยากน่าดูตอนที่สื่อสารกับเธอเลยให้สอนขับรถให้ในขณะที่ผมจะได้โฟกัสกับเธอได้เต็มที่ หวังว่าเธอจะไม่เกร็งเวลาที่อยู่กับผมนายทำได้น่ากวิน แค่คืนเดียวเอง ปกปิดดอมที่อยู่ในตัวนายซะ วานิลลาก็ไม่ได้แย่ คืนนี้นายต้องเป็นผู้ชายปกติที่กำลังไปเดทกับผู้หญิงปกติ พูดคุย ยิ้ม หัวเราะ ทำทุกอย่างให้เป็นปกติลื่นไหล อย่าแม้แต่จะคิดควบคุมอะไร แล้วอย่าลืมว่านายไม่ได้รับอนุญาตให้ทำโทษเธอผมย้ำกับตัวเองระหว่างเดินไปหาปภาดาที่ห้อง ผมกดกริ่ง สงสัยอยู่เหมือนกันว่าเธอจะรู้ได้ไงว่ามีคนมาหา รอไม่นานก็มีเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันเปิดประตูออกมาทัก“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อเหมือนฝัน เป็นรูมเมทของปราย” หล่อนพูดเสียงเรียบเป็นโทนเดียวแต่ก็สามารถเข้าใจได้ เธอยิ้มให้เหมือนว่ารู้จักผมมาก่อน แต่อาจเป็นเพราะเมื่อก่อนผมเคยอยู่ในวงการบันเทิง ผมมั่นใจว่าไม่เคยเจอเธอมาก่อนผมเดินเข้าด้านในตามคำเชิญ มองสำรวจรอบ ๆ ไม่ต่างจากที่
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาสมตาผมเข้าพอดี เธอจ้องผมตาค้าง ก่อนที่จะเลื่อนสายตาลงมองปากที่อ้าออกแทบน้ำลายหกเพราะอยากกลืนกินเธอ ผมเห็นว่าเธอหายใจติดขัดขึ้นเล็กน้อย รีบยิ้มให้เพื่อบอกว่าผมมาดี เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก หันมองไปรอบห้องเหมือนกำลังหาตัวช่วยหรือไม่ก็ทางหนีทีไล่ ผมไม่มีวันยอมให้เธอทำอย่างนั้นจึงเดินรุกเข้าหา“ปภาดา” ผมเรียกเมื่อเข้าใกล้ในระยะที่คิดว่าเธอสามารถอ่านปากได้ “ฉันอยากขอโทษเธออีกครั้งสำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อครั้งสุดท้าย”เธอมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง เล่นเอาผมประหม่าคิดว่าเธอไม่อยากคุยด้วย แต่ในที่สุดผมก็รู้เหตุผล เธอต้องการหาเครื่องมือสื่อสาร คงคิดว่าระหว่างนั่งแยกจดหมายไม่จำเป็นต้องใช้มือถือจึงไม่ได้หยิบติดมือมาด้วย ผมสามารถถามแล้วให้เธอพยักหน้าหรือส่ายหน้าได้ แต่ถ้าเธอปฏิเสธผมก็อยากรู้เหตุผลว่าทำไมถึงไม่อยากไปกับผม สุดท้ายเธอได้กระดาษโน้ตกับปากกามาด้ามหนึ่ง“ไม่เป็นไรค่ะท่านประธาน”ผมพยักหน้า เงียบไปสักพัก จู่ ๆ ก็รู้สึกติดขัดขึ้นมา ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจุดประสงค์จริง ๆ ที่มาอยู่ตรงนี้ยังไงดีพูดไปสิวะ กล้า ๆ หน่
“ว่าไงไอ้น้องชาย มีอะไรถึงได้โทรตามฉันมา” พี่ชายผมเดินถือเบียร์มาสมทบที่โต๊ะพูล“คิดถึงพี่มั้ง” ผมตอบส่ง ๆถ้าจะมีใครทำให้ผมเลิกคิดถึงเรื่องผู้หญิงได้ก็มีแต่กฤตฤณพี่ชายผมคนเดียวนี่แหละ เป็นคนที่รู้ไส้รู้พุงผมถึงแก่นจนนึกอยากเกลียด“เอาละ บอกมามีเรื่องอะไร”ผมไหวไหล่ กระดกเบียร์ไปทีหนึ่ง โดยมีสายตาของพี่ชายจ้องเขม็ง“คือผมเจอผู้หญิงคนนึง”“ผู้หญิง” พี่เลิกคิ้วมอง“ผมเพิ่งเจอเธอเมื่อไม่กี่วันก่อนแต่ว่าหยุดคิดถึงเธอไม่ได้เลย”“แล้วนายได้ขอเบอร์เธอไว้รึเปล่า”“เธอเป็นนักศึกษาฝึกงานที่บริษัท”“นักศึกษาฝึกงาน!”ผมเห็นหน้าพี่ชายแล้วอยากขำแต่ขำไม่ออก เขาอึ้งไปพักแล้วพูดต่อ“เออดี งั้นก็ง่ายขึ้นหน่อย ลองชวนเธอไปเดทสิ”“ถ้าง่ายขนาดนี้ก็ดีสิ ผมไม่อยากให้เธอปฏิเสธ”“อะไรกันวะ กวิน นายมีทั้งเงินทั้งอำนาจ หน้าตาก็หล่อถึงแม้ว่าจะน้อยกว่าฉันก็ตาม ยังจะมัวคิดมากอะไรอยู่อีก ผู้หญิงที่ไหนเห็นนายมีแต่จะวิ่งตาม”“แต่ไม่ใช่กับเธอน่ะสิ”พี่ชายทำหน้าประหลาดใจอีกรอบพลางใช้ความคิด สัก
“เดี๋ยวก่อนพี่ปราย พี่ชอบใครอะ พี่ตูนเหรอ”“ถามอะไรนักหนา ไม่ใช่ตูน เขาแก่กว่าพี่ตั้งเยอะ”“อืม...ให้ผมเดา พี่แอบชอบอาจารย์เหรอ”ฉันเลิกคิ้วมอง “ทำไมถึงคิดว่าพี่แอบชอบอาจารย์”“ก็พี่บอกว่าเขาแก่กว่า แล้วเหมือนพี่จะเคยพูดถึงอาจารย์คนหนึ่งให้ผมฟังว่าพี่ปลื้มเขามาก”“ไม่ใช่!”“ถ้างั้น แล้วใครล่ะ”ฉันถอนใจอีกรอบ “เจ้านายพี่เอง”“หา!”“แต่ก็ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่แบบว่าแอบปลื้มเขาเฉย ๆ ไรงี้ เขาหล่อรวย มีแต่คนชอบเขา คนอย่างเขาไม่มีทางขาดแคลนผู้หญิง เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางมาชายตาแลพี่หรอก” พูดเองแล้วทำไมถึงรู้สึกแอบเศร้านะ“ผมจะบอกอะไรให้นะ ใครได้พี่เป็นแฟนอะโครตโชคดี ถ้าใครปฏิเสธพี่แม่งก็โง่เต็มที”“โห น้อย ๆ หน่อย พูดอย่างนี้อยากได้อะไรเนี่ย”“เปล่าซะหน่อย ผมพูดจริง พี่สาวผมออกจะสวยเพอร์เฟกต์ราวกับนางฟ้ามาจุติซะขนาดนี้”“เวอร์!” ฉันพยายามกลั้นยิ้มกับคำชม “พอ ๆ ออกไปได้แล้ว พี่จะนอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”โชคดีที่เจ้าเปรมไม่เซ้าซี้ต่อ ยอมออกจากห้องไปแต่โดยดี แต่ฉันเนี่ยสิ ทำยังไงก็นอนไม่หล
ปราย“สวัสดีค่ะแม่” ฉันส่งภาษามือทักทายแม่ทันทีที่ลงจากรถ“เป็นไงบ้างลูก” แม่ถามกลับด้วยภาษามือเช่นเดียวกัน แล้วเราสองคนเดินก็กอดกันเข้าบ้าน“ลูกพ่อกลับมาแล้ว มาให้พ่อดูหน่อย” พ่อส่งภาษามือทัก ยิ้มกว้างพร้อมกางแขนออกต้อนรับ ฉันรีบกระโจนเข้าหาอ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดในโลก“ลูกดูตัวสูงขึ้นกว่าเดิมจากที่เจอกันครั้งก่อนอีกแล้ว” พ่อมักจะทักฉันเป็นเด็กเล็ก ๆ แบบนี้ทุกครั้ง แล้วพวกเราก็ได้แต่หัวเราะเพราะอายุเท่านี้ส่วนสูงไม่เพิ่มขึ้นแล้วพ่อออกไปช่วยฉันขนกระเป๋าเข้าบ้านแล้วถามขึ้นทันทีเมื่อเดินกลับเข้ามา “สติ๊กเกอร์ติดรถลูกไปไหน” พ่อหมายถึงสติ๊กเกอร์ที่บอกว่าคนขับรถคันนี้หูหนวก“หนูทำหายค่ะ เดี๋ยวหนูหาอันใหม่มาติด” ตอบเสร็จก็ทำเป็นเดินหนีเพราะไม่อยากเห็นพ่อบ่นอีก ฉันรู้ว่าท่านเป็นห่วงความปลอดภัยแล้วก็ลงทุนเรื่องอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ในรถฉันไปมาก ซึ่งแต่ละอย่างค่อนข้างมีราคา ฉันไม่อยากให้ท่านเสียเงินมากกว่านี้ ท่านควรเก็บเงินไว้ใช้ตอนเกษียณดีกว่า“ตัวแสบไปไหนคะแม่” ฉันถามหาน้องชาย“ขลุกอยู่แต่ในห้องทั้งวัน ลูกไปล