คลั่งรักไม่หยุด

คลั่งรักไม่หยุด

By:   เสี่ยวหวังเจี้ยง  Completed
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
10Chapters
12views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
Scan code to read on App

การขึ้นรถโดยสารธรรมดาๆ กลับกลายเป็นเรื่องที่ไม่ปกติอีกต่อไป เมื่อเธอถูกชายแปลกหน้าจับจ้องอย่างไม่ละสายตา และเธอก็ค่อยๆ ถูกล่อลวงเข้าสู่กับดักที่วางเอาไว้อย่างช้าๆ...

View More

Latest chapter

Free Preview

บทที่ 1

บนรถโดยสารยามค่ำคืน ทันใดนั้นเองก็มีมือๆหนึ่งยื่นเข้ามาใต้กระโปรงของฉัน ลมหายใจร้อนระอุของชายคนนั้นพ่นใส่หลังใบหูของฉันฉันพยายามแนบตัวเองกับประตูกระจกจนสุด แต่ก็ไม่อาจเห็นใบหน้าของชายคนนั้นได้ ฉันสัมผัสได้เพียงเข่าของเขาที่เบียดชิดต้นขาของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกประหม่าอย่างมาก“สาวน้อย นี่คือก้าวแรกสู่จุดตกต่ำของเธอ”ในช่วงกลางฤดูร้อน ความร้อนอบอ้าวและความชื้นแผ่ซ่านไปทั่ว อากาศยามค่ำคืนยังคงอวลไปด้วยความเหนียวเหนอะจากฝนที่เพิ่งตกลงมาฉันขึ้นรถบัสทั้งตัวที่เปียกโชกกลิ่นของน้ำฝนผสมปนเปไปกับกลิ่นเหงื่ออบอวลไปทั่วในรถ ฉันหาที่ว่างใกล้ประตูแล้วยืนอยู่ตรงนั้น หยดน้ำฝนที่กระเด็นมาโดนหน้าของฉันเป็นครั้งคราว ทำให้รู้สึกเย็นวาบฉันสูดหายใจเข้าลึก มองดูเสื้อผ้าที่เปียกแนบติดกับร่างกาย รู้สึกอึดอัดจนอดไม่ได้ที่จะดึงคอเสื้อออกสองสามครั้ง เนื้อผ้าติดแน่นกับผิวหนังนี่มันช่างไม่สบายเอาเสียเลยระแวกนี้มีบริษัทอินเทอร์เน็ตชื่อดังตั้งอยู่ใกล้ๆ รถจึงแน่นไปด้วยผู้คนที่เพิ่งเลิกงาน แต่จู่ๆก็มีบางอย่างมากระทบกับต้นขาของฉันเป็นระยะ จนกระทั่งฉันรู้สึกแปลกใจและหันไปมองกลับเป็นเพียงแค่กระเป๋าถือเท่านั้น...

Interesting books of the same period

Comments

No Comments
10 Chapters
บทที่ 1
บนรถโดยสารยามค่ำคืน ทันใดนั้นเองก็มีมือๆหนึ่งยื่นเข้ามาใต้กระโปรงของฉัน ลมหายใจร้อนระอุของชายคนนั้นพ่นใส่หลังใบหูของฉันฉันพยายามแนบตัวเองกับประตูกระจกจนสุด แต่ก็ไม่อาจเห็นใบหน้าของชายคนนั้นได้ ฉันสัมผัสได้เพียงเข่าของเขาที่เบียดชิดต้นขาของฉัน ทำให้ฉันรู้สึกประหม่าอย่างมาก“สาวน้อย นี่คือก้าวแรกสู่จุดตกต่ำของเธอ”ในช่วงกลางฤดูร้อน ความร้อนอบอ้าวและความชื้นแผ่ซ่านไปทั่ว อากาศยามค่ำคืนยังคงอวลไปด้วยความเหนียวเหนอะจากฝนที่เพิ่งตกลงมาฉันขึ้นรถบัสทั้งตัวที่เปียกโชกกลิ่นของน้ำฝนผสมปนเปไปกับกลิ่นเหงื่ออบอวลไปทั่วในรถ ฉันหาที่ว่างใกล้ประตูแล้วยืนอยู่ตรงนั้น หยดน้ำฝนที่กระเด็นมาโดนหน้าของฉันเป็นครั้งคราว ทำให้รู้สึกเย็นวาบฉันสูดหายใจเข้าลึก มองดูเสื้อผ้าที่เปียกแนบติดกับร่างกาย รู้สึกอึดอัดจนอดไม่ได้ที่จะดึงคอเสื้อออกสองสามครั้ง เนื้อผ้าติดแน่นกับผิวหนังนี่มันช่างไม่สบายเอาเสียเลยระแวกนี้มีบริษัทอินเทอร์เน็ตชื่อดังตั้งอยู่ใกล้ๆ รถจึงแน่นไปด้วยผู้คนที่เพิ่งเลิกงาน แต่จู่ๆก็มีบางอย่างมากระทบกับต้นขาของฉันเป็นระยะ จนกระทั่งฉันรู้สึกแปลกใจและหันไปมองกลับเป็นเพียงแค่กระเป๋าถือเท่านั้น
Read more
บทที่ 2
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ฉันถูกใครบางคนผลักลงจากรถจนล้มลงไปในแอ่งโคลน น้ำโคลนเย็นเฉียบกระเซ็นเปื้อนทั่วตัวของฉันสายตาของผู้คนรอบข้าง มองมาด้วยความแปลกใจและประหลาดฉันหอบหายใจแรงอยู่พักใหญ่แต่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นได้ฉันพบว่าตัวเองกำลังจินตนาการถึงการกระทำที่เลวร้ายของคนชั่วคนนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกสับสนในใจฉันเดินกลับบ้านด้วยความใจลอย แม้แต่เสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโคลนก็ไม่คิดจะถอดออก เมื่อเข้าประตูบ้านไป ฉันก็ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นในทันทีความรู้สึกตื่นเต้นที่เกิดขึ้นกับร่างกายของฉันนั้นไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าฉันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองต่อคนชั่วคนนั้นในสถานการณ์แบบนั้น เป็นไปได้ยังไงกัน...ฉันหายใจหนักๆ ราวกับว่ายังคงสัมผัสได้ถึงรสชาติของชายคนนั้นที่ยังหลงเหลืออยู่ในปากของฉันคนๆ นั้นเป็นใครกัน ทำไมถึงทำท่าทางที่น่ารังเกียจแบบนั้นอยู่ข้างหลังฉัน ฉันกลืนน้ำลายและจ้องมองไปที่พื้นอย่างเหม่อลอย โคลนไหลไปตามร่างกายของฉัน และค่อยๆ กระจายไปรอบๆ เท้าของฉัน พอคิดถึงท่าทางของตัวเองเมื่อครู่นี้ ที่อาจมีคนมากมายเห็น ฉันก็อยากตบหน้าตัวเองสักสองสามที ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะเผชิญห
Read more
บทที่ 3
บ้านฝั่งตรงข้ามฉันไม่มีคนอาศัยอยู่ เขารู้ที่อยู่ของฉันและช่องทางที่จะติดต่อฉันได้อย่างไร ยังย้ายเข้าไปอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้ เขาต้องวางแผนมาอย่างดีเพื่อจะจัดการกับฉันแน่ๆ ถ้าฉันไม่ไป คลิปวิดีโอและรูปภาพพวกนั้นอาจจะถูกเผยแพร่ออกไปให้ใครต่อใครดู ทั้งความกลัว และความคาดหวังบางอย่างผุดขึ้นในใจของฉัน เช้าวันถัดมา ฉันเดินเหยียบน้ำขังบนพื้นมาก่อนจะขึ้นไปบนรถเมล์ วันนี้คนบนรถไม่เยอะมากนัก ฉันยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมของเมื่อวาน พร้อมใจที่เต้นแรงด้วยความกังวล รอชายคนนั้นมาถึง มือที่จับราวเริ่มกำแน่นขึ้นเรื่อยๆ สายตาของฉันกวาดไปที่ทุกคนที่อยู่บนรถ เป็นคนใส่แว่นคนนั้น หรือคนที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ หรือว่าผู้ชายที่ถือกระเป๋าอยู่ใกล้ๆ ฉันที่สุดกัน ฉันกัดริมฝีปาก แยกแยะไม่ออกเลยว่าใครเป็นใคร ทุกคนดูมีพิรุธทั้งนั้น ทันใดนั้น ผ้าหยาบๆ ที่แข็งกระด้างก็ค่อยๆ ลากผ่านต้นขาของฉัน ฉันเผลอหยุดหายใจไปชั่วขณะ ราวกับว่ามีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปทั่วร่างกายของฉันชั่วขณะหนึ่ง ฉันไม่กล้าขยับตัว ได้แต่ก้มหน้ามองพื้นและไม่กล้าเปล่งเสียงออกมาแม้แต่นิดเดียว สิ่งนั้นยิ่งหนักขึ้น ล
Read more
บทที่ 4
เมื่อเห็นว่ารถเมล์เริ่มชะลอความเร็ว ฉันก็รู้สึกกังวลใจ เขาจะตามฉันลงจากรถไหม? หรือเขาจะสงสัยว่าฉันกำลังวางแผนอะไรหรือเปล่า ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลับตารอข้อความตอบกลับจากเขา แต่จนกระทั่งรถจอดสนิทที่ป้ายแล้ว ฉันก็ยังไม่ได้รับข้อความใดๆ หัวใจของฉันเย็นวาบราวกับตกลงไปในเหวลึกฉันจัดกระโปรงให้เรียบร้อย มองประตูรถที่เปิดออกช้าๆ แล้วเดินลงไป เขาคงไม่ตามมาแล้ว แต่ทันใดนั้น ฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากข้างหลัง ฉันไม่กล้าหันกลับไปมอง เดินไปอย่างช้าๆ ไปยังซอยที่จำได้ มือของฉันกำแน่น เหงื่อชุ่มเต็มฝ่ามือ หัวใจก็เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา รอบๆ ตรงนี้ไม่มีคน เสียงฝีเท้าข้างหลังยังคงตามมาอย่างชัดเจน เสียงฝีเท้าของเขาดังตามมาอย่างเชื่องช้าแต่สม่ำเสมอฉันไม่กล้าแสดงอาการผิดปกติ กลัวว่าเขาจะสงสัยและคิดว่าฉันจะหนี เดินมาถึงปากซอย ไฟสลัวรอบข้างทำให้ซอยมืดครึ้ม และร้านค้ารอบๆ ต่างก็ปิดสนิท มันมืดจนดูเหมือนปิดกิจการไปนานแล้ว ทั้งซอยเงียบสงัด ฉันเดินเข้าไปในซอย แต่ชายคนนั้นหยุดยืนอยู่ที่ปากซอย ฉันตัดสินใจแน่วแน่ ไม่สนใจเขา แล้วเดินตรงไปยังป่าลึกที่อยู่ไกลออกไปที่นั่นมีหญ้าขึ้นรก
Read more
บทที่ 5
เขาตาเบิกกว้างขึ้น มองฉันด้วยความเหลือเชื่อ“เป็นไปไม่ได้ เขาตามสืบประวัติของเธอมาดีแล้ว จะเป็นไปได้ยังไง…”ฉันไม่ได้ตอบคำถามเขา ดึงเขาไปยังหน้าปากซอยช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับการคุกคามทางเพศและการหายตัวไปของหญิงสาวมากมายในระยะนี้บ่อยๆ ฉันเลยถูกส่งตัวมาที่เมืองนี้ และยังไม่เคยปรากฏตัวในฐานะตำรวจมาก่อน เลยทำให้ดึงดูดความสนใจของพวกเขามาที่ฉันฉันรอให้พวกเขาเริ่มลงมือชายคนนี้ที่ฉันจับเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่มีจิตใจชั่วร้ายแต่ไม่มีความกล้า เขาแค่ซื้อข้อมูลจากคนอื่นมา เพราะงั้นการจับตัวเขาจะช่วยให้คดีดำเนินต่อไปได้ฉันไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถจับตัวคนบงการเบื้องหลังได้หรอกฉันโทรแจ้งทีมให้มารับตัวฉันแสงอาทิตย์สาดส่องผ่านใบหน้าของฉัน ในขณะที่ฉันเตรียมจะพาเขาไปยังสถานีตำรวจ จู่ๆเขาก็หัวเราะเยาะขึ้นฉันรู้สึกไม่ดีทันที พอหันกลับไปฉันก็ถูกคลุมด้วยกระสอบฉันดิ้น แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นข้างนอกได้ เอาแต่ต่อยและเตะกับอากาศงานนี้ฉันทำคนเดียว คนที่ฉันเรียกมาก็ยังมาไม่ถึงฉันมองอะไรไม่เห็นเลย เขาปลดกุญแจมือออก เสียงกุญแจมือก็ดังตกกระทบกับพื้นมีคนเดินเข้ามาใกล้และกระซิบเยาะเย้ยข้างหูฉันว่า “แล้ว
Read more
บทที่ 6
ได้ยินฉันพูดแบบนั้น ผู้ชายที่พาฉันมาที่นี่ก็แสดงท่าทีไม่พอใจทันที เขากระชากไหล่ฉันและเอามือมาปิดปากฉันไว้“อย่าไปฟังเธอพูดอะไรไร้สาระ พาคนของนายไป แล้วรีบไปซะ”ฉันกัดนิ้วของเขาอย่างแรงและพุ่งเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าของชายคนนั้นเขาก้มหัวมามองฉัน พร้อมดันแว่นบนจมูก แสงสะท้อนจากเลนส์ทำให้เขาดูแปลกตาเป็นพิเศษฉันนึกว่าเขาจะปฏิเสธ แต่กลับกลายเป็นว่าเขายื่นมือมาหาฉัน“งั้นก็เอาเธอนี่แหละ”ชายคนนั้นพยายามขัดขวางแต่ถูกชายใส่แว่นข่มขู่“อะไร ยังจะไม่ให้เลือกอีกหรือไง?”ชายคนนั้นก้มหน้า รับเงินแล้วเงียบไปท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ฉันก็ถูกลากตัวออกไปทันใดนั้น เขาก็กระชากแขนของฉันฉันหันไปมองด้วยความสงสัย แต่เขากลับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และตบหัวฉันเบาๆ ก่อนจะหันไปโบกมือให้ชายคนนั้นฉันรู้สึกชะงักไปครู่นึง กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยเข้ามาในจมูก แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจมากนักฉันเดินตามหลังเขาด้วยความหวาดระแวง หวังจะหาโอกาสเพื่อที่จะหลบหนีห้องใต้ดินมันมืดมาก กำแพงสีเทามีใยแมงมุมปกคลุมอยู่เต็มไปหมด แม้แต่อากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นอับชื้นจนทำให้ฉันไอฉันไม่รู้ว่าเขาจะพาฉันไปที่ไหนทันใดนั้น สา
Read more
บทที่ 7
ฉันไม่รู้ว่าสลบไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีเสียงพูดบางอย่างก็แว่วดังเข้ามาในหู ราวกับมีใครบางคนพยายามจะปลุกฉันแรงกระทบจากฝ่ามือที่ตบลงบนแก้มฉันเบาๆ เรียกให้ฉันลืมตาขึ้นมา“ตื่นสิ ตื่นเร็ว”ฉันค่อยๆ ลืมตาขึ้น รู้สึกตัวว่าตัวเองนอนอยู่บนพื้นปูนแข็งๆ สายตาเบลอมองขึ้นไปเห็นท้องฟ้าสีเทาหม่น ฉันรีบลุกขึ้นนั่งทันทีเพราะฉันถูกวางยาสลบเมื่อสักครู่นี้ เลยยังมึนๆหัวอยู่“ในที่สุดเธอก็ตื่นสักที” เสียงพูดที่ดังขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัวทำให้ฉันสะดุ้งเฮือก ฉันหันไปมองและพบว่าเป็นผู้ชายที่ซื้อฉันมา เขานั่งอยู่ข้างๆ ฉัน เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะด้วยความรำคาญ และสวมแว่นที่กรอบแตกซึ่งยังวางอยู่บนดั้งจมูกแต่ทำไมเขาถึงช่วยฉันไว้ล่ะ?ยังไม่ทันที่ฉันจะได้ถามอะไร เขาก็ยื่นมือมาตรงหน้าฉัน “ฉันเป็นทีมเสริมที่ถูกส่งมาช่วย ชื่อซ่งชวน”ซ่งชวน? ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลยเหมือนว่าเขาจะเห็นฉันมีท่าทางไม่ไว้ใจ เขาจึงไอเบาๆ สองครั้ง “แก๊งนี้มันแสบมาก ฉันเลยต้องปลอมตัวมาเหมือนเธอ เราทั้งคู่ถูกส่งมาจากต่างถิ่นเพื่อไม่ให้พวกมันสงสัย”ฉันพยักหน้า แล้วพยายามฝืนความเจ็บปวดตามร่างกายเพื่อที่จะยืนขึ้นแล้วต่อไปเราจะท
Read more
บทที่ 8
ซ่งชวน นี่เขาคิดอะไรของเขากัน พวกมันรู้กันหมดแล้วว่าฉันเป็นตำรวจ แต่เขากลับพูดออกมาตรง ๆ ว่าจะเอาฉันไปด้วยแบบนี้ จะไม่ทำให้พวกมันสงสัยหรือไง?ฉันอ้าปากเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็กัดฟันกลืนคำด่าเหล่านั้นลงไปชายคนนั้นมองตามมือของซ่งชวนมาที่ฉัน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที ดวงตากวาดมองฉันขึ้นลงอย่างไม่เชื่อสายตา ราวกับกำลังสงสัยว่าผู้หญิงธรรมดา ๆ อย่างฉัน ทำไมถึงทำให้ซ่งชวนหลงได้ขนาดนี้“น้องรัก ทำไมไม่เลือกคนอื่นล่ะ? คนนี้นายก็เล่นไปแล้วครั้งหนึ่งแล้วนี่…”ซ่งชวนไม่ปล่อยให้เขาพูดจนจบ เขารีบคว้าเงินที่เพิ่งใส่ลงไปในกระเป๋าของชายคนนั้นกลับมาทันทีธนบัตรสีแดงไม่กี่ใบร่วงหล่นลงบนพื้นซีเมนต์สีดำ สร้างความโดดเด่นในความมืดชายคนนั้นยิ้มเจื่อน ๆ ในขณะที่ซ่งชวนกำลังจะหันหลังเดินไป เขาก็คว้ามือของซ่งชวนไว้อย่างรวดเร็ว “เอาล่ะ ฉันยอมให้นายเอาเธอไปด้วยก็ได้”ซ่งชวนยื่นเงินกลับไปให้ชายคนนั้นด้วยท่าทางพอใจ ก่อนจะเดินตรงมาหาฉัน เขาหันหลังให้ชายคนนั้นและยิ้มให้ฉันฉันยืนงงอยู่อย่างนั้น นี่มันเรียกว่า ‘เงินสามารถทำให้ปีศาจช่วยงานได้’ สินะ?ซ่งชวนดึงแขนฉันและเตรียมจะพาฉันออกไป แต่ชา
Read more
บทที่ 9
ใจฉันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ฉันกำหมัดแน่นจนรู้สึกเจ็บ ฉันมองไม่เห็นสีหน้าของชายทั้งสองคน แต่ฉันรู้สึกได้ว่า ซ่งชวนกำลังพยายามแก้เชือกที่ข้อมือฉันเขาคงไม่บ้าไปแล้วใช่ไหม? ฉันเห็นเขากำลังเดินเข้ามาใกล้ทีละก้าว จนกระทั่งเห็นรองเท้าที่เต็มไปด้วยโคลนปรากฏอยู่ในสายตาของฉัน ขณะที่มือของฉันถูกปลดออก นี่มันจบแล้วสินะความกลัวทำให้ฉันกำเชือกแน่นเพื่อสร้างภาพหลอกว่าฉันยังถูกมัดอยู่ แต่ไม่คิดว่าซ่งชวนจะเดินเข้ามาข้างๆ พร้อมกับสีหน้าที่แสดงถึงความไม่พอใจ ก่อนจะพูดขึ้นว่า “แล้วผู้หญิงที่เราพูดถึงกันไว้ล่ะ? ที่พาฉันมาที่นี่ไม่ใช่แค่เพราะหลอกฉันใช่ไหม” “ฉันเพิ่มเงินให้นายได้นะ” คนตรงข้ามเมื่อได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ไม่สนใจที่จะพูดอะไรต่ออีก ดึงซ่งชวนแล้วหันหลังไปเดินต่อไปฉันจึงค่อยๆ ตามไปอย่างระมัดระวัง มีเสียงดังเอี๊ยดขึ้นประตูถูกเปิดออกกลิ่นเหม็นฉุนพุ่งเข้ามาเตะที่จมูก ทำให้ฉันต้องขมวดคิ้วอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ฉันตามหลังซ่งชวนไป เขาทำทีเหมือนเลือกดูของในบ้านอยู่นาน แล้วจู่ๆ เขาก็ยื่นมือมาให้ฉันถือสิ่งของเย็นเฉียบชิ้นๆหนึ่ง มันคือมีดสั้นเล่มหนึ่งตั้งแต่ก้าวเข้ามาใน
Read more
บทที่ 10
ฉันและเขาไม่เคยเจอกันมาก่อน เราเพิ่งจะมาที่นี่ แล้วทำไมเขาถึงรู้ว่าฉันเป็นตำรวจได้? หรือว่า…… ฉันถึงกับไม่กล้าคิดต่อ ฉันเกร็งกรามแน่นในขณะที่มือที่ถือมีดของฉันก็บีบแน่นขึ้นอีก “ที่แท้นายก็รู้มาก่อนว่าฉันเป็นตำรวจสินะ” เขายกมือช้าๆ ขณะที่มุมปากของเขายิ้มเย้ยหยัน ไม่มีความกลัวต่อมีดในมือของฉันแม้แต่น้อย เขาหันมามองฉันด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความท้าทายแม้ปลายมีดจะจ่ออยู่บนใบหน้าของเขา ทำให้เกิดรอยเลือดได้ “แน่นอน ตั้งแต่ที่เธอขึ้นรถบัสไปบ่อย ๆ ฉันก็รู้แล้ว” แล้วเขาคือใครกัน? เป็นพวกเดียวกันกับที่รถบัสหรือเปล่า? เป็นคนแรกที่เข้ามาหาฉันเหรอ? ในหัวของฉันผุดใบหน้าขึ้นมาหลายคน แต่ไม่มีใบหน้าไหนที่ตรงกับชายคนนี้เลย ในขณะนั้นเองเขาก็ยกมือขึ้นท้าทาย ฉันหายใจติดขัด ความทรงจำถูกดึงกลับไปยังชายลึกลับที่ยืนอยู่ข้างนอกหน้าต่างห้องน้าตรงข้ามนั้น ที่ขยับโทรศัพท์ในมือไปมา ตัวต้นเหตุ ที่แท้จริงก็คือเขานี่เองพวกเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าฉันเป็นตำรวจ แล้วจงใจทำตามแผนของฉันอย่างนั้นเหรอ? แต่ทำไมพวกเขาต้องทำตามแผนของฉันด้วย? ในเมื่อรู้ว่าฉันเป็นตำรวจ พวกเขาควรจะหนีไปไกล ๆไม่ใช่หรอกเหรอ?
Read more
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status