ชาร์ล็อตและไบรสัน มีบ้านริมชายหาดบนชายฝั่งแพลตตินัม ที่ซึ่งพวกเขาจะย้ายไปอยู่ หลังจากงานแต่งงานกัน เธอไปดูบ้านหลายร้อยหลังกับไบรสันก่อนที่จะเลือกที่นี่ในที่สุด ไบรสันอดทนและดีกับเธอมากในระหว่างกระบวนการนี้ การตกแต่งภายในของบ้าน ได้รับการออกแบบอย่างสมบูรณ์ ตามความชอบของไบรสัน ประตูบ้านเปิดกว้าง แต่ผู้คุมห้ามไม่ให้ชาร์ล็อตเข้าไป “คุณซิมม่อนส์ คุณเข้าไปไม่ได้นะครับ กรุณาหยุดอยู่ตรงนั้น” ในอดีต ยามมักจะเรียกชาร์ล็อตว่า "คุณฮาร์เปอร์" หรือ "มาดามฮาร์เปอร์" แต่ตอนนี้ เขาเรียกเธอว่า "คุณซิมม่อนส์" ชาร์ล็อตยืนกรานที่จะเข้าไปในวิลล่า "นี่คือบ้านของฉัน ฉันจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ ฉันจะเข้าไป" “คุณซิมม่อนส์ครับ...” ยามคว้าแขนเธออย่างไม่เต็มใจ “คุณดีกับผมมาตลอด ผมไม่อยากเห็นคุณเป็นแบบนี้ แต่ผมก็ไม่มีทางเลือก คุณฮาร์เปอร์สั่งไม่ให้คุณไปเข้าครับ ตอนที่เขาเพิ่งกลับบ้านมาเมื่อไม่นานมานี้” ไบรสันเพิ่งกลับมาบ้านเมื่อไม่นานมานี้? เขาอยู่บ้านงั้นเหรอ? เขาไม่ได้ไม่ว่าง แต่ก็ยังไม่ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมเธอ และเขายังห้ามเธอไม่ให้เข้าไปในบ้านอีก... ประตูโลหะอันหนักได้ปิดลง ทิ้งให้ชาร์ล็อตยืน
ชาร์ล็อตเริ่มตัวสั่น เธอยังคงจำได้ว่าไบรสันขอความช่วยเหลือจากเธอในคืนวันแต่งงาน “ไบรสัน บอกฉันที... บอกฉันทีว่าที่เธอพูดมันไม่จริง...” ชาร์ล็อตมองตาของไบรสันราวกับผู้หญิงที่กำลังจะจมน้ำ และพยายามตะเกียกตะกาย ไบรสันพยักหน้าและพูดว่า “ชาร์ล็อต ฉันขอโทษนะ” ชาร์ล็อตน้ำตาไหลอาบลงบนใบหน้าของเธอ มันไหลไม่ยอมหยุด ไบรสันเป็นคนถือตัวและทะนงตน ชาร์ล็อตไม่เคยเห็นเขาละทิ้งความหยิ่งจองหองและร้องขอสิ่งใด ๆ นั่นเป็นครั้งเดียวที่ไบรสันเคยขอร้องเธอ แต่มันกลับเป็นเพราะ เขาทำเพื่อทิฟฟานี่... "ไบรซ์ ฉันหนาว" เสียงของทิฟฟานี่เรียบง่ายและไพเราะ ในขณะนั้น ชาร์ล็อตก็ร้องไห้ออกมา แม้ว่าไบรสันจะรู้สึกแย่ แต่เห็นได้ชัดว่าเขาสนใจทิฟฟ์มากกว่า เขาไม่ได้มองชาร์ล็อตเลย ในขณะที่เขาโอบแขนทิฟฟานี่ไว้ "ทิฟฟ์ ขึ้นรถกันเถอะ" ชาร์ล็อตคงเป็นคนโง่เง่าถ้าเธอยังไม่เข้าใจว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไบรสันกับทิฟฟานี่เป็นอย่างไร ณ จุดนี้ แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังตรงเข้าไปจับประตูรถไว้ “ไบรสัน ฉันเป็นภรรยาของคุณ และฉันมีสิทธิ์ที่จะห้ามคุณไม่ให้ไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น พ่อของฉันเป็นพ่อตาของคุณ และเขาปฏิบัติต่อคุณด้ว
"นายเป็นใคร นี่มัน... บ้านของนายนี่ ทำไมนาย.. ถึงช่วยฉันไว้?" ชาร์ล็อตลุกขึ้นนั่งด้วยความตื่นตระหนก ในหัวของเธอเต็มไปด้วยคำถาม เธอพบว่าตัวเองอยู่บนเตียงของคนแปลกหน้า และเธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้าที่ใส่มาก่อนหน้านี้ ตอนนี้เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวของผู้ชาย ชายคนนั้นมองไปทางอื่นอย่างสงบ และพูดว่า “คุณซิมม่อนส์ ระวังหน่อย” "..." ชาร์ล็อตตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น และรีบโอบแขนของเธอไว้ด้วยความตื่นตระหนก ชายคนนั้นหันหลังให้กับเธอแล้ว แต่ถึงกระนั้น รัศมีความแข็งแกร่งของเขาก็ยังทำให้เธอหวาดกลัว ในขณะนั้น แสงสีทองส่องมาที่ขาของชาร์ล็อต มันสะท้อนให้เห็นนามบัตรที่ทำจากทองคำบริสุทธิ์ มีชื่อและตำแหน่งต่าง ๆ ที่สลักอยู่ในโลหะสีแดงมันวาว ชื่อที่สลักบนนามบัตรคือ "แซคคารี"! เดี๋ยวนะ! แซคคารี คอนเนอร์ เขาเป็นซีอีโอของฮาธาเวย์ กรุ๊ป! เขาเป็นปีศาจที่สุดแสนจะเลวร้ายไม่ใช่เหรอ? มีข่าวลือว่าคอนเนอร์โหดเหี้ยมและเย็นชา เมื่อ 3 ปีก่อน เขาทำให้พี่ชายต้องฆ่าตัวตาย เพื่อที่จะได้เข้าครอบครองฮาธาเวย์ กรุ๊ป ต่อมาเขาได้ใช้ความสามารถที่โดดเด่นของเขาในการทำให้ฮาธาเวย์ กรุ๊ป ซึ่งใกล้จะล้มละลาย ฟื้นตัวข
คฤหาสน์ที่สง่างามราวกับพระราชวัง ห้องโถงบนชั้นแรกมีพื้นที่กว่า 1,000 เมตร ชาร์ล็อตประคับประคองตัวเองให้เดินออกจากประตู ในขณะนั้น เธอไม่สามารถไปต่อได้อีก ขาของเธอหมดแรง และเธอก็ล้มลงบนขั้นบันไดหินหยกหน้าประตู ในคืนงานแต่งงานของชาร์ล็อตกลายเป็นฝันร้ายที่สุดของเธอ ตั้งแต่นั้นมา เธอก็ฝันถึงคืนนั้นตลอดเวลาและตื่นมากรีดร้องอยู่เสมอชาร์ล็อตอธิบายไม่ได้ว่าทำไม แต่ทุกครั้งที่เธอเห็นแซคคารี เธอจะรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในคืนนั้น คืนที่ชายเย็นชาราวกับปีศาจโจมตีเธอ... ผู้ชายอย่างแซคคารีน่ากลัวเกินไปสำหรับเธอ เธอภาวนาว่าจะไม่ได้พบเขาอีก ชาร์ล็อตพยุงตัวเองขึ้นจากขั้นบันไดหินหยก เมื่อเธอมองไปรอบ ๆ เธอตระหนักว่าลานบ้านเต็มไปด้วยหิมะหนาทึบ และทั้งหมดที่เธอเห็นคือหิมะที่ปกคลุมไปทุกที่ และมันก็ยังตกลงมาไม่หยุด ชาร์ล็อตวิ่งหนีจากแซคคารีด้วยความตื่นตระหนก เธอจึงไม่ใส่ใจแม้แต่จะสวมรองเท้า อย่างไรก็ตาม เธอไม่อยากกลับไปเผชิญหน้ากับเขาจริง ๆ เธอตัดสินใจอย่างเงียบ ๆ และเดินไปบนหิมะด้วยเท้าเปล่า “เฮ้ เฮ้ เฮ้ ทำไมคุณถึงพยายามทำตัวแข็งกร้าวนักนะ ผมเดิมพัน 1,000 ดอลลาร์เลย ว่าเท้าของคุณจะแข็งแน่ ๆ
ใบหน้าน่าเกลียดและน่าขยะแขยงของวิกเตอร์อยู่ตรงหน้าชาร์ล็อต เขามีกลิ่นที่ย่ำแย่สุด ๆ และเขากำลังหายใจอย่างแรงรดของเธอ ชาร์ล็อตหลับตาลงด้วยความสิ้นหวัง "อะไร?!" “เดี๋ยวก่อนนะ… นี่ไม่ใช่…” วิกเตอร์ร้องโวยวายและปล่อยชาร์ล็อตทันที เขาสะดุ้งราวกับว่าเขาโดนไฟฟ้าช็อต เขาจ้องไปที่ตราตรงคอเสื้อผู้ชายที่ชาร์ล็อตใส่ ตราซึ่งทำด้วยทองคำบริสุทธิ์มีขนาดเท่ากับเหรียญ ตรามีสองขวานและสลักกะโหลกหนึ่งหัว สัญลักษณ์นี้มันเป็นของคอนเนอร์ และคอนเนอร์ไม่ใช่คนที่เขาจะยุ่งด้วยแน่นอน ขณะที่วิกเตอร์กำลังครุ่นคิดอยู่ ชาร์ล็อตก็ใช้กำลังทั้งหมดที่เหลืออยู่เพื่อผลักเขาออกไป! วิกเตอร์กัดฟัน และไม่กระโจนเข้าหาเธออีก “ฮึ่ม! ครั้งนี้เธอโชคดีไปนะ แต่ครั้งหน้าฉันไม่ยั้งมือแน่ เมื่อเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขอความช่วยเหลือจากฉัน วันนั้นฉันจะทำให้เธอเสียใจ ที่ปฏิเสธฉัน!” ชาร์ล็อตนั่งลงที่ขอบเตียงด้วยความงุนงง ใบหน้าของเธอซีดและเธอก็ทำอะไรไม่ถูก ทุกอย่างที่วิกเตอร์พูดกับเธอ มันดังก้องอยู่ในหูเหมือนคำสาป ในอดีต วิกเตอร์ รัทเทอร์ฟอร์ดเชื่องเหมือนสุนัขต่อหน้าเธอและพ่อของเธอ แต่บัดนี้ ตระกูลซิมม่อนส์ต้องอยู่
“ทำไมคุณถึงไม่ปฏิบัติตามกฎ ผมจะเรียกรปภ. ถ้าคุณไม่ออกไป!” คนตรวจบัตรและชาร์ล็อตหยุดนิ่ง ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงดังมาจากที่ไหนสักแห่ง "นี่ เจ้าทึ่ม ไม่รู้จักสาวไฮโซที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในรอธเซย์เลยเหรอ?" คนตรวจบัตรปล่อยมือที่จับแขนของชาร์ล็อตไว้ ก่อนที่เขาจะได้ยินเรื่องนี้ เขาบอกได้ตามตรงว่า แม้ว่าชาร์ล็อตจะสวมเสื้อผ้าที่โทรม แต่ใบหน้าของเธอยังดูบอบบางและงดงาม ออร่าที่เธอเปล่งออกมานั้นอ่อนโยนและสง่างามมาก เธอเป็นสาวชนชั้นสูงที่เป็นที่ต้องการตัวมากที่สุดในรอธเซย์งั้นเหรอ? เธอคือคุณหนูซิมม่อนส์เหรอ? แต่เธอเป็นผู้หญิงยากจนที่ถูกคุณฮาร์เปอร์ทิ้ง หลังจากคลอดลูกใช่ไหม? "ใส่ชื่อชาร์ล็อตในคำเชิญของฉัน แล้วให้เธอเข้ามา" เธอคือ ซาร่าห์ คอลลินส์ ลูกสาวคนโตของตระกูลคอลลินส์ ซึ่งเป็นนางแบบชั้นนำที่อาศัยอยู่ในรอธเซย์ ซาร่าห์โดดเด่น แต่ชาร์ล็อตก็ยังดูดีกว่าเธอ ผู้คนมักชอบเปรียบเทียบซาร่าห์กับชาร์ล็อตเสมอ บางคนถึงกับบอกว่าถ้าไม่มีชาร์ล็อต ซาร่าห์ก็คงจะเป็นผู้หญิงที่โด่งดังที่สุดในรอธเซย์ เหอะ! แต่ตอนนี้ตระกูลซิมม่อนส์จบสิ้นแล้ว และชาร์ล็อตก็ยังถูกไบรสันทิ้งอีกด้วย เธอยังคงเป
ทิฟฟ์โดนทำร้ายและถูกโยนลงทะเล เมื่อเขาเจอเธอ เลือดเต็มตัวเธอไปหมด มันน่ากลัวมาก หลังจากนั้น ทิฟฟานี่ได้บอกไบรสันว่าพ่อของชาร์ล็อตได้ส่งอัลเฟรดมาทำสิ่งเหล่านั้นกับเธอ เพื่อเห็นแก่ลูกสาวของเขา ชาร์ล็อตก็รู้เรื่องนี้เหมือนกัน... เมื่อเทียบกับสิ่งเลวร้ายทั้งหมดที่ตระกูลซิมม่อนส์ทำกับทิฟฟ์ การที่ชาร์ล็อตให้ลูกกับทิฟฟ์ มันไม่ได้มีความหมายอะไรเลย! เขาไม่ได้รู้สึกขอบคุณเธอเลยสักนิด ต่อจากนี้ไป เขาจะมุ่งแต่ทำดีกับทิฟฟ์เท่านั้น ผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อชาร์ล็อต จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไป ทันทีที่ไบรสันและทิฟฟานี่เข้าไปในลิฟต์ ผู้ชายที่ดูสง่าก็เดินลงบันไดไปยังล็อบบี้ชั้นหนึ่ง ซึ่งรายล้อมไปด้วยผู้คุ้มกัน ฝีเท้าของชายผู้นั้นเบา แต่รัศมีที่แข็งแกร่งของเขาก็ดึงดูดความสนใจในทันที “ซาร่าห์ คนที่เธอชอบมานู่นแล้ว” ธีร่า จอห์นสันเพื่อนสนิทของซาร่า ใช้นิ้วสะกิดเอวของซาร่าห์ ซาร่าห์ผู้ซึ่งให้ความสนใจกับชาร์ล็อตอยู่ เมื่อได้เห็นเขาเธอก็มีท่าทีเขินอาย และได้เปลี่ยนความสนใจไปที่ชายคนนั้นทันที แซคคารี คอนเนอร์! ผู้ชายที่ดีที่สุด ที่ผู้หญิงหลายพันคนในรอธเรย์ใฝ่ฝัน เขายังเป็นคนที่ซาร่า โคลลิ
"อะไรนะ!" เกิดความโกลาหลในหมู่คนที่ลังดูอยู่ ไม่มีใครคาดคิดว่าชาร์ล็อตจะเป็นไปได้ถึงขนาดนี้ แม้แต่แซคคารี คอนเนอร์เอง ชาร์ล็อตเงยหน้าขึ้นด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอขดมุมปาก “คราวที่แล้ว นายบอกว่าอยากให้ฉันคุกเข่าลงอ้อนวอน ฉันคิดผิดและฉันเสียใจ ตอนนี้ฉันก้คุกเข่าต่อหน้าทุกคนแล้ว” "อา..." แซคคารีไม่ได้มองชาร์ล็อตด้วยซ้ำ เขาจ้องมองไปข้างหน้าด้วยสายตาที่ลึกล้ำ “เธอความจำไม่ดีเหรอ คุณซิมม่อนส์ ฉันพูดว่า แม้ว่าเธอจะมาคุกเข่าขอร้องฉัน ฉันก็จะไม่สน” เขาเดินไปข้างหน้าโดยทิ้งชาร์ล็อตไว้ข้างหลัง ในขณะนั้น ชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง อย่างไรก็ตาม วินาทีต่อมา เธอกัดริมฝีปากล่างและยืนขึ้นด้วยความมุ่งมั่น เธอพูดเสียงดัง ขณะที่ทุกคนจ้องเขม็ง “มาพนันกัน” "โอ้ะ งั้นเหรอ?" แซคคารียิ้มมุมปากอย่างดูถูก แต่เขาก็ยังคงเดินไปข้างหน้าโดยไม่หันหลังกลับ ชาร์ล็อตเดินตามรอยเท้าของเขาและรวบรวมความกล้าทั้งหมดของเธอก่อนจะพูดว่า "คอนเนอร์ ฉันได้ยินมาว่านายแข่งรถแดร็กเก่ง และไม่มีใครสามารถเอาชนะนายได้ในรอธเซย์ ฉันอยากจะท้านาย" สิ่งนี้ทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่คนที่ดูอยู่ ทุกคนมองชาร์ล็อต ราวกับว่าเธ
"บาดแผลทางอารมณ์ของนายท่านรองในวันนี้ค่อนข้างแย่ การดื่มน้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอาการของเขาได้ เขาต้องการความสงบและเงียบ"ชาร์ล็อตดูเหมือนจะคิดได้ในทันที "ฉันไม่คิดว่าเขาจะเจ็บปวดขนาดนั้น เพียงเพราะเขาได้เจอกับแกริสันในวันนี้และทำให้นึกถึงลอร์เรน วันนี้เขาได้เจอกับลอร์เรนแล้วหรือยัง?""ลอร์เรน? ฮ่า!" ลูคัสยิ้มอย่างมีเลศนัย"นายหญิง ถ้าคุณสนุกกับการแต่งเติมความคิดแบบนี้ ทำไมไม่ลองขยายจินตนาการของคุณดูล่ะ?"ชาร์ล็อตเกือบจะสติหลุด"นายกำลังพูดอะไร?"ลูคัสหันกลับมา ส่งยิ้ม และขยิบตาให้เธอ "เอาล่ะ มีหลายคนเคยได้ยินข่าวลือว่านายท่านรองเป็นเกย์จริง ๆ ทำไมคุณไม่พิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่แกริสันจะมีความรักที่แท้จริงกับนายท่านรองล่ะ? บางทีบาดแผลของเขาอาจจะถูกรบกวนอย่างมากเพราะเขารู้ว่าแกริสันหลงใหลในตัวคุณแค่ไหน?""นั่น... เป็นไปได้ยังไงกัน!?" ดวงตาของชาร์ล็อตเต็มไปด้วยความตกใจลูคัสยิ้มอย่างลึกลับ "ผมไม่รู้ คุณสามารถถามนายท่านรองได้เสมอ บางทีเขาอาจจะให้คำตอบกับคุณได้... โอ้!"เขาตะโกนขณะที่ชาร์ล็อตตบเข้าที่หัวของเขาเวลาไม่นานนัก ชาร์ล็อตก็กลับมาถึงเขตวิหารศักดิ์
ชาร์ล็อตตกตะลึง "ไม่ใช่ว่าฉันจะมีพลังวิเศษนะ ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกสี่ปีข้างหน้า?" เธอและแกริสันมีสัญญาสิบปีระหว่างกัน ตอนนี้ก็หกปีแล้ว สัญญาจะครบกำหนดในอีกสี่ปี เธอจะแต่งงานกับเขาอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า?" แซคคารีถามด้วยสีหน้าจริงจังมาก"เฮอะ!" ชาร์ล็อตหัวเราะออกมาราวกับว่าเธอได้ยินเรื่องที่ตลกที่ใหญ่ที่สุดในโลก"ถ้านายกำลังจะพยายามเล่นตลก ก็ไม่จำเป็นต้องดูจริงจังขนาดนั้นก็ได้ จริง ๆ แล้วนายดูดีมากเลยนะเวลายิ้ม มาเถอะ ยิ้มหน่อย!"แซคคารีดูบูดบึ้งยิ่งกว่าที่เคย รูม่านตาน้ำแข็งของเขาที่จ้องมาที่เธอดูน่ากลัวยิ่งกว่าเดิมชาร์ล็อตเข้าใจทันทีว่าแซคคารีไม่ได้พูดเล่น ๆ กับเธอเลย!'พอได้แล้ว! เราแต่งงานกันมาเกือบสามเดือนแล้ว และฉันไม่เคยได้ยินแซคคารีพูดเรื่องตลกมาก่อน ฉันเริ่มสงสัยแล้วว่าก้อนน้ำแข็งที่อยู่ในร่างกายของเขาเริ่มหลอมละลายตอนไหนกัน!'เธอส่ายศีรษะอย่างงุ่มง่าม"ถึงแม้ว่าแกริสันจะโง่เขลาพอที่จะรออยู่ที่สะพานนั้นเป็นเวลาสิบปี ฉันก็ไม่มีวันแต่งงานกับเขา ฉันบอกเรื่องนี้กับเขานับครั้งไม่ถ้วนตลอดหกปีที่ผ่านมา รวมทั้งวันนี้ด้วย แต่เขาก็ปฏิเสธที่จะฟัง มันเป็นเรื่อ
เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วที่แซคคารีไม่เคยพบหรือติดต่อกับเขาเลย เขาคิดว่าความเย่อหยิ่งและถือตัวของแซคคารีนั้น จะทำให้แซคคารีไม่มีวันที่จะติดต่อกับเขาอีกเว้นแต่เขาจะเป็นคนเริ่มทำเช่นนั้นเอง มันทำให้เขาประหลาดใจที่แซคคารีเป็นคนทำลายกำแพงระหว่างพวกเขาเพราะเห็นแก่ชาร์ล็อต!แซคคารีช่วยพยุงแกริสันออกจากสะพานชาร์ล็อตรู้ดีถึงความสัมพันธ์ของแกริสันและแซคคารี ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจที่พวกเขารู้จักกัน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจนั้นก็คือ ในช่วงห้านาทีที่ผ่านมาตั้งแต่ที่แซคคารีช่วยพยุงแกริสันลงมาจากสะพานแล้วเดินไปยังรถของเจมส์สัน พวกเขาไม่พูดอะไรกันเลย แท้ที่จริงแล้วพวกเขาไม่แม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ...ดังนั้นพวกเขาจริงเดินไปด้วยกันด้วยใบหน้าที่เย็นชาในลักษณะที่แปลกประหลาดไปตลอดทาง ราวกับภูเขาน้ำแข็งสองลูกที่มาบรรจบกันที่ด้านหนึ่งชาร์ล็อตที่ยืนอยู่ข้างพวกเขา รู้สึกราวกับว่าเธอเสี่ยงที่จะถูกแช่แข็งตายเพราะพวกเขา ดังนั้น เมื่อพวกเขาลงมาจากสะพานแล้ว เธอจึงไม่เดินไปกับพวกเขาต่อ เธอหันหลังและมุ่งหน้าไปที่รถจองแซคคารีแทน"อ่า! คุณคอนเนอร์ ผมคิดว่าคุณจะไม่มาเจอคุณลาร์สันอีกแล้ว ช่างน่าประหลาดใจเสียนี่กระไร..." เ
ชาร์ล็อตหันกลับมาและเห็นแกริสันนั่งคุกเข่าบนสะพานโดยมีมือทั้งสองข้างของเขาพยุงตัวเองไว้กับพื้น ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหน้าผากเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ แขนและขาของเขากำลังสั่น"ดูฉันตอนนี้สิ แค่เจ็บป่วยเล็กน้อยยังทำให้ฉันดูไร้ประโยชน์ขนาดนี้เลย ฉันยังเดินตรงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าช่วยฉันนะ ฉันลุกขึ้นเองได้"เขาบังคับตัวเองให้ยืนขึ้น แต่เพราะเขาเจ็บป่วยและอ่อนแอมาก เขาจึงไม่สามารถยืนขึ้นได้เลยชาร์ล็อตเม้มริมฝีปากของเธอแกริสันคือความภาคภูมิใจของโรงเรียนมัธยมของพวกเขาในอดีต ไม่เพียงแต่เขาจะเป็นนักปราชญ์ที่ไม่มีใครกล้าแตะต้องเท่านั้น แต่เขายังเป็นความภาคภูมิใจและความสุขของคุณครูสอนพละอีกด้วย และเขาเคยทำลายสถิติการวิ่งระยะไกลอีกสองสามรายงานไม่น่าแปลกใจเลยที่เจมส์สันมาขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับเขา แกริสัน แชมป์นักวิ่งที่ตอนนี้ป่วยจนแทบจะเดินไม่ได้!"หยุดฝืนตัวเองได้แล้ว มาเถอะ"ชาร์ล็อตเดิยมาอยู่เคียงข้างเขาและยื่นมือออกมาหาเขาแกริสันประหลาดใจกับการแสดงความรู้สึกที่กระทันหันจนน่าสับสนนี้ จากนั้นเขาก็คว้ามือของชาร์ล็อตไว้อย่างรวดเร็ว"ขอบคุณ!"แกริสันที่สุขภาพดีและแข็งแรงในตอนนี้ดูเหมือนชายชรา
เนื่องจากเขาไม่ได้รับการตอบรับใด ๆ จากแซคคารี ลูคัสจึงดึงโทรศัพท์ออกมา เปิดข้อมูลมี่เขาพบ และยื่นให้แซคคารีดู"ฟังนะครับ แกริสันมอบช่อดอกไม้ให้นายหญิงคอนเนอร์ 237 ช่อ เขียนจดหมายรัก 698 ฉบับ และสารภาพความรักที่เขามีต่อเธอ 1,966 ครั้งในช่วงหนึ่งภาคการศึกษา และอาจจะมากกว่านั้นหากเราพิจารณาถึงช่วงเวลาที่ไม่มีใครรู้หรือช่วงเวลาที่ไม่สามารถติดตามได้"แซคคารียังคงอยู่ในภาวะตึงเครียด ดวงตาของเขามืดลงจนน่ากลัวลูคัสทำได้เพียงพยายามปลอบเขา"แต่ถึงอย่างนั้น นายหญิงคอนเนอร์ก็ยังไม่ไปไหน เธอเคยล้อเล่นกับเขาด้วย... โดยการขอให้เขารอเธออยู่ที่สะพาน นั่นหมายความว่าแกริสันเป็นเพียงของเล่นที่ขาดไม่ได้สำหรับเธอ" "นายพูดอะไร?" ในที่สุดแซคคารีก็พูดขึ้นลูคัสจดจ่ออยู่กับข้อมูลในโทรศัพท์ของเขาอย่างเต็มที่ เขาไม่ได้สังเกตว่าการจ้องมองของแซคคารีนั้นลดลงกลายเป็นแสงสะท้อนสันทรายที่เยือกเย็น เขายังคงอธิบายต่อไป "เอ่อ พูดตามตรงนะครับ สำหรับนายหญิงคอนเนอร์แล้ว แกริสันเป็นเหมือนพี่ชายที่คอยดูแลเธอที่มีสถานะเดียวกับทิฟฟานี่ มิลเลอร์นายหญิงคอนเนอร์ไม่สนใจเขาเลยจริง ๆ เมื่อเธอเล่นกับเขาเสร็จแล้ว เธอจะ... แอ๊ะ!"
ดังที่กล่าวไว้ ไม่ว่าชาร์ล็อตจะปฏิเสธแกริสันอย่างโหดร้ายสักกี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยยอมแพ้และยังคงไล่ตามเธอด้วยความมุ่งมั่นเมื่อหกปีที่แล้ว โรงเรียนของพวกเขาได้จัดทัศนศึกษามาที่ "สะพานสายรุ้ง" แกริสันได้สารภาพและมอบจดมายรักให้กับชาร์ล็อตที่สะพานสายรุ้งแห่งนี้ต่อหน้านักเรียนจำนวนมากเนื่องจากไม่มีทางเลือกอื่น ชาร์ล็อตจึงชี้ไปที่ "สะพานสายรุ้ง" และพูดว่า "เอาล่ะ แกริสัน คุณบอกว่าคุณจะไม่ยอมแพ้ใช่ไหม? ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณจะต้องมาที่สะพานแห่งนี้ทุกวันและรอฉันสองชั่วโมง ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดออก ถ้าคุณสามารถรักษามันไว้ได้เป็นเวลาสิบปีโดยที่ไม่ล้มเหลว หลังจากผ่านไปสิบปี ฉันจะแต่งงานกับคุณและเป็นภรรยาของคุณ"ชาร์ล็อตเดินจากไปทันทีหลังจากนั้น และเธอก็โยนจดหมายรักที่แกริสันมอบให้เธอลงไปในแม่น้ำด้วยชาร์ล็อตรู้สึกโล่งอกที่แกริสันจะต้องยอมแพ้เมื่อได้ยินสิ่งที่เธอพูดไป เพียงเพราะว่าเธอไม่เคยคาดหวังตั้งแต่แรก แต่แกริสันโดดเรียนทุกวันและมารอเธอที่สะพานสายรุ้ง โดยไม่คำนึงถึงสภาพอากาศ เขาทำแบบนี้มาหกปีแล้ว..."ที่นี่อากาศหนาวและชื้น และเธอค่อนข้างอ่อนแอ แค๊ก... ดังนั้นเธอควรกลับไปเดี๋ยวนี้" เสียงท
ลูคัสตัวสั่นเทาด้วยความกลัวต่อเสียงอันเคร่งขรึมของแซคคารี จากนั้นลูคัสก็สงบสติอารมณ์และยิ้มกว้างให้เขา "เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อความปลอดภัย ได้โปรดจิบน้ำอุ่นในแก้วนี้ไปก่อน นายท่านรอง"น้ำอุ่นหนึ่งแก้วถูกยื่นให้กับแซคคารี แต่เขาปัดมันออกไปอย่างเย็นชา ดวงตาของเขาดูลุ่มลึกราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ในขณะที่เขาคำราม "นายรีบขับรถบ้านี่ไปเดี๋ยวนี้!""ครับ!" ลูคัสตะโกนตอบรับดังลั่น'ดูเถอะ! แม้แต่ชายผู้สูงศักดิ์และมีการศึกษามากที่สุดในรอธเซย์ยังสบถหยาบคาย ทั้งคุณ นายหญิงคอนเนอร์ และคุณแกริสัน ลาร์สัน อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลยนะ!""สะพานสายรุ้ง" เป็นสะพานคู่ขนานสองเส้นเหตุผลที่ "สะพานสายรุ้ง" เป็นที่รู้จักในชื่อสะพานสายรุ้งก็เพราะมีหมอกหนาเป็นชั้น ๆ ตลอดเวลาในพื้นกว้างระยะสองเมตรระหว่างสะพานทั้งสองที่สร้างขนานกันเหนือน้ำ เมื่ออากาศไม่ดี คนบนสะพานด้านหนึ่งจะมองไม่เห็นคนที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสะพาน เพราะฉะนั้นช่วงที่อากาศแจ่มใสและดวงอาทิตย์ขึ้นสูงเท่านั้นที่คนบนสะพานทั้งสองฝั่งจะมองเห็นกัน ในช่วงเวลานั้น รุ้งกินน้ำจะเกิดขึ้นระหว่างสะพานสองเส้นนี้ และคู่รักที่ยืนอยู่บนสะพานทั้ง
แซคคารีเลื่อนกระจกลงชายวัยกลางคนกล่าวอย่างเร่งรีบ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล "สวัสดี คุณคอนเนอร์...""ฉันเลิกยุ่งกับเธอแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย" แซคคารีพูดตัดบทชายคนนั้นให้สั้นลง ดวงตาที่เยือกเย็นของเขานั้นไม่มีสิ่งใดเลยนอกจากความแน่วแน่นและไม่แยแส"จำสิ่งที่ฉันจะพูดไว้ มิสเตอร์ฟอสเตอร์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอในอนาคต อย่ามาหาฉันอีก""เกี่ยวกับเรื่องนั้น..." มิสเตอร์ฟอสเตอร์พูดอย่างเชื่องช้า "ผมไม่ได้มาหาคุณ คุณคอนเนอร์ ผมมาหาคุณซิมม่อนส์ต่างหาก!"ใบหน้าที่ปราณีตของแซคคารีมีความประหลาดใจเล็กน้อยลูคัสหันหน้าจากที่นั่งคนขับเพื่อมองชาร์ล็อตมิสเตอร์ฟอสเตอร์เป็นพ่อบ้านของครอบครัวลาร์สัน ในช่วงเวลาที่แซคคารียังคงอยู่กับลอร์เรน มิสเตอร์ฟอสเตอร์มักจะตามลอร์เรนไปด้วยเสมอ'เป็นไปได้ไหมว่าแม่ของแซคคารีและมิสเตอร์ฟอสเตอร์จะเป็นเพื่อนกัน?'ชาร์ล็อตมุ่ยปากอย่างกังวลและพูดว่า "คุณต้องการอะไรจากฉัน?""เป็นเพราะคุณลาร์สัน" มิสเตอร์ฟอสเตอร์ถอนหายใจขณะที่จ้องมองใบหน้าอันบอบบางของชาร์ล็อต "คุณซิมมอนส์ คุณควรรู้ว่าคุณลาร์สันเป็นคนหัวแข็งและหยิ่งเหมือ
เสียงของแซคคารีดังขึ้นที่ข้างหูของชาร์ล็อต เมื่อเธอจ้องมองไปที่ขี้เถ้าในถังโลหะอย่างเลื่อนลอยรอยยิ้มว่างเปล่าเหยียดตรงริมฝีปากของเธอขณะที่เธอพูดว่า "ไม่ ต่อให้นายไม่ได้เป็นคนเผารูปพวกนี้ให้ฉัน สุดท้ายฉันก็จะเผามันเอง..."บางทีเธออาจจะมีความรู้สึกผิดหรือเหตุผลอื่นที่ตัวเธอเองเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นเธอจึงปกปิดมันไว้และพูดเสริมว่า "ฮ่าฮ่า ฉันไม่ได้โกหกนาย ฉันกำลังพูดจากก้นบึ้งหัวใจของฉันเลย... อ๊ะ!"ช่วงครึ่งหลังประโยคของเธอถูกตัดขาดด้วยเสียงร้องของเธอเอง เมื่อแซคคารีใช้แขนของเขาโอบรอบเอวเล็ก ๆ ของเธอราวกับเป็นเครื่องหนีบเหล็ก แล้วดึงเธอเข้าไปกอด บีบรัดร่างที่บอบบางและอ่อนนุ่มกับหน้าอกที่แข็งแกร่งเหมือนแผ่นเหล็กของเขาเมื่อลมหายใจที่เยือกเย็นและเย้ายวนของเขาห้อมล้อมเธอไปทั้งตัว สมองของเธอก็ว่างเปล่า"จำไว้นะ ชาร์ล็อต ซิมม่อนส์ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าพูดถึงข้อตกลงก่อนสมรส ว่าฉันต้องการไล่เธอออกไปจากบ้าน ฉันห้ามไม่ให้เธอพูดอีกถ้าฉันไม่ได้พูดถึงมัน"น้ำเสียงที่เยือกเย็นและมีเสน่ห์ของเขาแว่วเข้ามาในหูของเธอราวกับท่วงทำนองที่มาจากยอดของภูเขาหิมะชาร์ล็อตใช้เวลานา