แชร์

บทที่ 571

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
“เพราะฉะนั้น พี่แค่กลัวว่าจะฟุ่มเฟือย ไม่ใช่เพราะชอบกินแป้งใช่ไหม?”

สีหน้าของเสิ่นซือเหนียนดูเจ็บปวดเล็กน้อย ใครจะชอบกินแป้งกัน?

“อุ๊บ”

“ขอโทษค่ะพี่ ต่อไปเดี๋ยวเหมิงเหมิงกินแป้งเอง”

อาจเป็นเพราะนึกถึงภาพที่ตัวเองต้องกินแป้งแฮมเบอร์เกอร์ บนใบหน้าน้อยๆ ของเสิ่นเหมิงเหมิงจึงย่นเข้าด้วยกัน อย่าว่าแต่แป้งแฮมเบอร์เกอร์เลย ความจริงแม้แต่ผักสดในแฮมเบอร์เกอร์ เธอก็อยากแยกมันออกด้วยซ้ำ

แต่ว่าพี่จะช่วยเธอกินทุกครั้ง เธอก็เลยคิดว่าพี่ชอบกิน ก็เลยกินมัน

เด็กทั้งสองคนกำลังพูดคุยเรื่องนี้กันอยู่ ฉินเย่ตั้งใจฟังอยู่ข้างๆ จนสุดท้ายหลุดหัวเราะออกมา

“ถ้าไม่อยากกินทั้งสองคน งั้นคุณลุงเย่มู่ช่วยกินดีไหม?”

ถึงแม้เขาเองก็ไม่ชอบกินของพวกนั้นก็ตาม

แฮมเบอร์เกอร์?

สำหรับฉินเย่แล้ว ของแบบนั้นก็เป็นแค่อาหารขยะเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าเด็กส่วนใหญ่ และวัยรุ่นจะชอบกินกัน

แน่นอนว่า ถ้าหากหลี่มู่ถิงที่อยู่ข้างๆ สามารถอ่านใจเขาได้ล่ะก็ ต้องพูดกับเขาด้วยสีหน้าดูถูกว่า “ประธานฉิน แล้วคุณไม่ใช่วัยรุ่นเหรอครับ?” แน่นอน

เด็กทั้งสองคนได้ยินดังนั้น ต่างก็หันไปมองเขาพร้อมกัน

เสิ่นซือเหนียนยังคงมีท่าทีระมัดระวังอยู่เห
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 572

    “ขอโทษนะครับ เมื่อวานผมติดธุระด่วน ก็เลยไม่ได้ไป”เขาไม่ไป ตนก็ไม่ได้ไปเช่นกันตนขอโทษแล้ว เขาเองก็ขอโทษแล้วเสิ่นหยินอู้เองก็โกรธไม่ลง เพราะเธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไร ได้แต่ถามกลับไปว่า“แล้วคุณยังต้องการเงินสดอยู่ไหมคะ? หรือว่าให้ฉันโอนให้แทนไหมคะ?”ตอนแรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ แต่ไม่คิดว่าครั้งนี้เขากลับตอบตกลง ผ่านไปสักพักเขาก็แจ้งเลขบัญชีกับชื่อมา“เฉาหานอวี่?”เขาแซ่เฉาเหรอ?เสิ่นหยินอู้เองก็ไม่คิดอะไรมาก แล้วกดโอนเงินให้กับคนแซ่เฉาทันทีหลังจากที่ส่งข้อความบอกอีกฝ่ายว่าโอนเรียบร้อยแล้วถึงจะเข้าห้องประชุมไปหลังจากที่ฉินเย่ได้รับข้อความ ก็หันไปบอกหลี่มู่ถิง หลี่มู่ถิงรีบแจ้งเฉาหานอวี่ เฉาหานอวี่ทราบเรื่อง ก็รีบโอนเงินคืนหลี่มู่ถิงทันทีถึงแม้ตอนที่เขาเห็นเงินหลายหมื่นนั่นแล้วรู้สึกตาร้อนแต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงสองสามวันนี้ ทำให้เขารู้สึกได้ถึงบางอย่าง เขาเป็นคนทำงานมาหลายปี ถึงจะไม่มีความสามารถถึงขนาดเป็นผู้จัดการได้ แต่เรื่องบางเรื่องเขาก็พอสัมผัสได้อยู่ผ่านไปนานขนาดนี้ ตระกูลฉินแห่งเมืองหนานเฉิงไม่เคยปรากฏตัวมาก่อน การที่พวกเขาอยากจะสร้างเครือข่ายด้วยนั้นแทบจะเป

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 573

    เมื่อเปรียบเทียบกับความดีใจของเสิ่นเหมิงเหมิง เสิ่นซือเหนียนก็ยังคงความนิ่งเฉยอยู่ขณะที่เฉาเหย้าจู่ที่อยู่ข้างๆ เห็นฉากนี้แล้ว ก็อดกลืนน้ำลายไม่ได้ถึงแม้ครอบครัวของเขาจะไม่ใช่ครอบครัวยากจนอะไร รายได้ของพ่อแม่ก็ถือว่าดี แต่เงินส่วนใหญ่ก็ถูกใช้ไปกับการคืนเงินกู้บ้านราคาสูง ดังนั้นปกติแล้วของพวกนี้จึงเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับเขาเดือนหนึ่งอาจจะไม่มีโอกาสได้กินด้วยซ้ำ“อะนี่”เสิ่นเหมิงเหมิงหยิบแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นแรกออกมามอบให้กับเฉาเหย้าจู่เฉาเหย้าจู่ตั้งใจจะยื่นมือไปรับ แต่เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้จึงหยุดชะงัก แล้วหันไปมองฉินเย่ถึงแม้คุณลุงหลี่จะบอกใหเขาเรียกผู้ชายคนนี้ว่าลุง แต่ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่กล้าเรียกมันออกไปรู้สึกว่าเขาน่ากลัวมาก ถ้าตนทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมา เขาจะต้องจัดการตนแน่นอนเสิ่นเหมิงเหมิงเห็นเขาหยุดชะงัก จึงหันไปมองฉินเย่ตามสายตาของเขารอยยิ้มบริเวณมุมปากของฉินเย่แข็งทื่อมองเขาทำไม?แม้แต่กินข้าวก็ต้องดูว่าเขาอนุญาตไหม? แล้วเด็กสองคนนี้จะมองตนยังไง? หลี่มู่ถิงทำให้เขาเปลี่ยนความคิดไปทางไหนกันเนี่ย“คุณลุงเย่มู่?”เสียงของเสิ่นเหมิงเหมิงดึงสติฉินเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 574

    เฉาเหย้าจู่พยักหน้า“ถึงตอนนั้นให้ขึ้นรถของเขานะ”“ครับคุณลุง”หลังจากบอกลาเด็กๆ แล้ว ฉินเย่ก็ออกจากโรงเรียนหลังจากที่ออกจากรั้วโรงเรียนแล้ว สีหน้าของฉินเย่ก็เปลี่ยนไป เขาเอามือปิดปาก แล้วขมวดคิ้วแน่นหลี่มู่ถิงรีบยื่นแก้วเก็บความร้อนให้เขา“ประธานฉิน กระเพาะของคุณยังไม่หายดี คุณกินอาหารขยะแบบนั้นเข้าไปไม่ดีต่อกระเพาะของคุณนะ”ฉินเย่รับแก้วมา แล้วจิบสองสามทีด้วยสีหน้านิ่งขรึมหลี่มู่ถิงเห็นดังนั้น ก็หยิบยาออกมาฉินเย่เห็นยาพวกนั้นแล้ว ก็ไม่ได้รับมา“ประธานฉิน กินเถอะครับ ถ้าเกิดไม่สบายขึ้นมา แล้วมาเจอเด็กๆ ไม่ได้จะทำยังไง?”“…”เป็นไปตามคาด ฉินเย่เชื่อฟังคำพูดของเขา แล้วกินยาลงไปแต่โดยดีหลี่มู่ถิงแอบดีใจเยี่ยมไปเลย แต่ก่อนไม่ชอบกินยาดีนัก ชอบคิดว่าตัวเองทนไหว พอตอนนี้หาเหตุผลที่ต้องกินยาได้แล้ว ทุกอย่างก็ง่ายขึ้นเยอะหลังจากกินยาไป ฉินเย่ก็นั่งพักอยู่บนรถ แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายกระเพาะอยู่เป็นอาหารขยะสมชื่อจริงๆ ฉินเย่คิดครั้งหน้าถ้าจะซื้อของกินให้เด็กๆ ต้องไม่ซื้อของพวกนี้อีก“ประธานฉิน อาการของคุณดูไม่ดีเท่าไหร่ หรือไม่…เราไปแอดมิดที่โรงพยาบาลสักสองวันดีไหมครับ?

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 575

    เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็หันไปมองเฉาเหย้าจู่ แล้วถามเขาเบาๆ ว่า “หนูน้อย ชื่ออะไรเหรอจ๊ะ?”“ผม…ผมชื่อเฉาเหย้าจู่ครับ”เฉาเหย้าจู่?เป็นแซ่เดียวกันกับชื่อเจ้าของบัญชีที่เธอโอนไปให้ตอนกลางวันจริงแซ่เดียวกันแบบนี้ แสดงว่าต้องเป็นญาติใกล้ชิดกันมากแน่นอน“คนที่เหมิงเหมิงพูดถึงเป็นอะไรกับเราเหรอ?”คำถามนี้เฉาเหย้าจู่รู้ เพราะหลี่มู่ถิงได้ล้างสมองเขาตั้งนานแล้ว“เป็นลุงของผมครับ?”ลุง?ไม่น่าล่ะถึงแซ่เฉาเหมือนกันหมดเมื่อคิดได้แบบนั้น เสิ่นหยินอู้จึงถามเบาๆ ว่า “ถ้างั้นเดี๋ยวคุณลุงของเราจะมารับเราไหมจ๊ะ?”เฉาเหย้าจู่ส่ายหน้า“คุณลุงยุ่งครับ แต่ว่าเดี๋ยวคนขับรถมารับครับ”เขายังจำคำพูดที่ฉินเย่กำชับไว้เมื่อตอนกลางวันได้ ความจริงปกติแล้วเฉาเหย้าจู่เป็นเด็กขี้หลงขี้ลืม แต่อาจเป็นเพราะฉินเย่น่ากลัวเกินไป ดังนั้นเขาจึงจำทุกคำที่เขาพูดกับตนได้“จะมาเมื่อไหร่เหรอจ๊ะ?”“ไม่…ไม่รู้เหมือนกันครับ”ปกติเสิ่นหยินอู้ก็ไม่ใช่คนใจร้อนอะไร แต่เธอเกิดความอยากรู้อยากเห็นต่อเย่มู่ ดังนั้นจึงพลั้งปากออกไปว่า “ให้น้าไปส่งไหม?”ขณะที่พูดอยู่นั้น ก็มีรถหรูคันหนึ่งแล่นมาจากข้างหลัง จากนั้นคนขั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 576

    “คุณเฉา ฉันได้ยินมาว่าลูกทั้งสองคนของฉันได้เจอคุณแล้ว?”หลังจากส่งไป อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบกลับเธอสิบนาทีต่อมา เสิ่นหยินอู้เปิดดูโทรศัพท์ของเธออีกครั้ง แต่เย่มู่เฉินจี้ก็ยังไม่ตอบกลับมาเธอไม่รีบร้อน เพราะลูกบอลถูกโยนไปแล้ว ไม่ว่ายังไงเขาก็ต้องรับมันอยู่ดีเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เสิ่นหยินอู้ก็เสริมอีกประโยคหนึ่งว่า“ลูกของคุณก็อยู่โรงเรียนนี้ด้วยเหรอ?”หลังจากส่งไปแล้ว พี่เลี้ยงเด็กก็เรียกเธอ เสิ่นหยินอู้ขานตอบ กำลังจะวางโทรศัพท์แล้วเดินไป แต่ใครจะรู้ว่าโทรศัพท์กลับสั่น เย่มู่เฉินจี้ตอบกลับมาแล้ว“ไม่ใช่ลูกผม”ความเร็วของการตอบกลับในครั้งนี้ ทำให้เสิ่นหยินอู้ประหลาดใจ แล้วเลิกคิ้วขึ้นตอบกลับทันทีเลย?กล่าวอีกนัยหนึ่ง เขาเห็นข้อความของตนตั้งนานแล้ว แต่แค่ไม่ตอบกลับเท่านั้น?ทำไมถึงไม่ตอบล่ะ?เขากำลังปิดบังอะไรอยู่?ดวงตาที่สวยงามของเสิ่นหยินอู้หรี่ลงเล็กน้อย ทันใดนั้นก็เริ่มอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเย่มู่เฉินจี้ขึ้นมาว่าเขาต้องการอะไรบนโลกนี้?ไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบกลับเธออีกครั้ง “เป็นลูกของญาติน่ะ ผมแค่แวะไปดูบางโอกาสเท่านั้น”เสิ่นหยินอู้เบะปาก "งั้นเหรอ? คุณเฉายุ่งมากเหรอคะ?"

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 577

    เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะขอโทษเร็วขนาดนี้ “เจ้าหน้าที่ในโรงเรียน” คำตอบนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้หยุดชะงัก ดูเหมือนเป็นเรื่องปกติที่จะมีคนรู้จักในโรงเรียนประเภทนั้น และด้วยความรู้จักนี้ หากเห็นว่าเขารู้จักเหมิงเหมิงและเหนียนเหนียน ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติที่จะพูดถึงพ่อแม่ของพวกเขา?แต่ไม่ใช่ว่า ทุกคนในโรงเรียนจะคิดว่าโม่ไป๋เป็นพ่อกับเหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนหรอกเหรอ? เขารู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ? ถ้าเขารู้เรื่องนี้ แล้วทำไมเขาถึงยังนัดเจอตนอีกล่ะ? ยิ่งเธอคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่ เสิ่นหยินอู้ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ มันไม่ง่ายอย่างที่อีกฝ่ายพูด แต่ตอนนี้ เธอไม่อยากเค้นถามต่อไป ปล่อยให้เขาลดความพะวงลงก่อนแล้วกัน เมื่อคิดเช่นนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ตอบเขาไปว่า “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ รีบเข้านอนเถอะ” แค่นี้?ฉินเย่ขมวดคิ้ว แล้วเม้มริมฝีปากบางแน่นเขาโตมากับเสิ่นหยินอู้ตั้งแต่เด็ก เขารู้นิสัยของเสิ่นหยินอู้เกินไปแล้ว หากเธอนึกสงสัยขึ้นมา เธอไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ แน่นอนถึงตอนนี้จะไม่ไล่สืบต่อแล้ว ก็อาจเป็นเพราะเธอนึกบางอย่างขึ้นได้ ดังนั้นเลยไม่ถามต่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 578

    “ใช่ค่ะ ลุงของเฉาเหย้าจู่ซื้อของกินมาหาเฉาเหย้าจู่เยอะแยะมากมาย เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนจึงไปด้วยกัน ทางโรงเรียนเห็นว่าลุงของเด็กอนุญาต ก็เลยไม่ได้ว่าอะไรค่ะ”หลังจากนั้น เสิ่นหยินอู้ก็เข้าใจสถานการณ์บางอย่าง และไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมจึงทำได้เพียงล้มเลิกความพยายามทุกอย่างดูปกติดีมากแต่ไม่รู้เพราะอะไร ในใจเธอถึงได้รู้สึกแปลกๆ ลุงของเฉาเหย้าจู่คนนี้แปลกๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นแปลกระหว่างทางไปบริษัท เสิ่นหยินอู้เล่าเรื่องนี้ให้โจวชวงชวงฟัง โจวชวงชวงได้ยินดังนั้นกลับมีความคิดตรงกันข้ามกับเธอ“เธอคิดมากเกินไปหรือเปล่า?”“เหรอ?”“แต่ถึงแม้เขาจะสืบหาเรื่องเธอ พอจะเป็นไปได้ไหมว่าเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอมันบังเอิญมากเกินไป ดังนั้นเขาก็เลยสนใจในตัวเธอ ก็เลยสืบหาข้อมูลของเธอ?”เสิ่นหยินอู้ “…”หลังจากเงียบอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็อดแซวเพื่อนสนิทตัวเองไม่ได้ว่า“ทำไมฉันรู้สึกว่าในสมองของเธอมีแต่เรื่องดราม่าไอดอลกันนะ?”“แหง่สิ คนอื่นเขามีทั้งเงินทั้งอำนาจ จะทำอะไรเธอได้? ชายหญิงน่ะ นอกจากจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์แล้ว ยังมีเหตุผลอื่นต้องเข้าใกล้เธอด้วยเหรอ?”เสิ่นหยินอู้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 579

    อาจเป็นเพราะรู้ตัวว่าตนทำผิด เสิ่นเหมิงเหมิงพลันก้มหน้าลงตอนที่ถูกเธอซักถามทันที นิ้วมือขาวๆ กระทบกันตรงหน้า“ขอโทษค่ะหม่ามี๊ เหมิงเหมิงเห็นแก่กินเอง”เสิ่นซือเหนียนกินของคนอื่นแล้วใจอ่อน คราวนี้ก็พูดอะไรไม่ออกเช่นกันเมื่อเสิ่นหยินอู้เห็นว่าแม้แต่เสิ่นซือเหนียนก็เป็นแบบนั้น จึงโมโหจนหลุดหัวเราะออกมา“เหนียนเหนียน เราก็เห็นแก่กินแล้วเหรอ?”เมื่อได้ยินคำเปรียบเปรยนี้แล้ว ใบหน้าหล่อเหลาของเสิ่นซือเหนียนก็แดงเถือก “ไม่ ไม่ใช่แบบนั้นครับหม่ามี๊…”“เฮ้อ”เสิ่นหยินอู้ถอนหายใจ แล้วพูดเสียงเบาว่า “พวกหนูสองคนเป็นอะไรไปเนี่ย? ก่อนหน้านี้หม่ามี๊บอกพวกหนูตลอดไม่ใช่เหรอว่าห้ามกินของจากคนแปลกหน้าน่ะ?”“แต่…แต่ว่าเมื่อวานหม่ามี๊บอกว่าพวกหนูเป็นเพื่อนกับเหย้าเหย้าแล้ว หม่ามี๊เองก็ให้ลูกอมกับเหย้าเหย้าด้วย”เสิ่นหยินอู้ “…”เธอถูกลูกสาวตัวเองเถียงจนพูดอะไรไม่ออกนั่นน่ะสิ ถ้าจะบอกว่าลุงของเฉาเหย้าจู่เป็นคนแปลกหน้าสำหรับเหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นสำหรับเฉาเหย้าจู่แล้ว เธอเองก็เป็นคนแปลกหน้าไม่ใช่เหรอ?เมื่อครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็ได้แต่พูดว่า “หม่ามี๊สื่อสารผิดเอง

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status