แชร์

บทที่ 548

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-24 17:00:00
ส่วนพูดเรื่องอะไรนั้น…

ฉินเย่รีบตอบกลับ “ไม่ได้ครับ พรุ่งนี้ผมไม่ว่างเหมือนกัน ตอนนี้ผมต้องการใช้เงินด่วน คุณหาเวลามาแล้วกัน”

เสิ่นหยินอู้ที่เห็นข้อความนี้แล้วพลันขมวดคิ้วมุ่น

เพราะข้อความที่อีกฝ่ายส่งมามีแต่คำที่แสดงถึงความแข็งกร้าว

เหมือนเมื่อคืน ถ้าหากตนจะคืนเงินให้เขา ก็ต้องทำตามที่เขาพูด

เสิ่นหยินอู้มีความรู้สึกเหมือนถูก ‘ลักพาตัว’ อย่างไรอย่างนั้น

ถึงแม้เธอจะสามารถโทรหาโม่ไป๋ว่าไม่ไปดูรถแล้ว ให้เขาไม่ต้องไปเป็นเพื่อนตนแล้วก็ได้ เพราะอย่างไรเรื่องที่จะพูดก็สามารถพูดคราวหลังได้

แต่ตอนนี้เธอรู้สึกไม่พอใจกับคำพูดแข็งกร้าวของอีกฝ่ายมาก เซ้นต์ของเธอบอกเธอว่าห้ามทำแบบนี้

แต่เขากลับบอกว่าตนรีบใช้เงิน

เสิ่นหยินอู้ตอบกลับ “ถ้าคุณรีบใช้เงินจริง งั้นฉันโอนให้คุณเลยดีกว่าค่ะ พกเงินสดมากไปมันไม่ปลอดภัยเท่าไหร่”

หลังกดส่งข้อความแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกว่าคำขอของอีกฝ่ายไม่สมเหตุสมผลเลย

โจวชวงชวงมีเวลาว่างพูดคุยกับตนพอดี ดังนั้นเสิ่นหยินอู้จึงได้เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังคร่าวๆ

โจวชวงชวงได้ยินดังนั้น ก็โทรมาหาเธอทันที

“นี่มันสะพานรักโรแมนติกหรือเปล่าเนี่ย? เขาอยากเจอเธอใช่ไหม แต่หาข้ออ้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 549

    คำพูดเหล่านี้ทำเอาเสิ่นหยินอู้อยากหัวเราะออกมา“เธอนี่มันกังวลเรื่องของฉันทั้งวันทั้งคืนเลยนะ”“ก็ฉันมีเพื่อนสนิทแค่เธอคนเดียวนี่ ฉันไม่กังวลแทนเธอ แล้วจะกังวลแทนใครล่ะ? จริงๆ เลยเธอเนี่ย อีกอย่างนี่เป็นความสุขของเธอในอนาคตนะ ฉันต้องใส่ใจให้มากอยู่แล้ว”เสิ่นหยินอู้ฟังเงียบๆ แล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ“แทนที่จะกังวลแทนฉัน กังวลเรื่องตัวเองดีกว่านะโจวชวงชวง ผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่มีแฟนเลยสักคน”“อย่ามาตัดบท อย่าพยายามเบนความสนใจมาที่ฉัน ฉันกำลังพูดเรื่องจริงจังกับเธออยู่”จากนั้นเสิ่นหยินอู้อยากจะพูดอะไรต่ออีก เมื่อเห็นเย่มู่ส่งข้อความมาหาเธออีก เธอจึงบอกโจวชวงชวงถึงแม้โจวชวงชวงจะไม่ใช่คนที่ประสบปัญหา แต่เธอก็มีท่าทีตื่นเต้นมาก“รีบตอบไปสิ ตอบเหมือนที่ฉันบอกเธอ”เสิ่นหยินอู้ “…”“เร็วเข้าสิหยินอู้ โอกาสดีๆ แบบนี้จะรออะไรอีก? อีกฝ่ายร่ำรวยเงินทองขนาดนั้น”“ตอนเย็นฉันนัดโม่ไป๋ไว้”โจวชวงชวงพูดตรงๆ “ยกเลิกสิ”“แต่ว่า…”“อย่ามาแต่ ยังไงเธอก็ไม่ชอบเขาอยู่แล้ว ถึงจะทำให้เขาผิดหวังก็ทำอะไรไม่ได้ มันไม่มีทางที่เรื่องทุกเรื่องจะราบรื่นหรอกนะ เขาดีกับเธอก็จริง พวกเธอโตมาด้วยกั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 550

    “เดี๋ยวผมจะติดต่อหาพวกเขาเลย ดูซิว่าจะยอมย้ายลูกมาเรียนที่นี่ไหม แต่ว่าโรงเรียนที่นี่อยู่ห่างจากที่พักของพวกเขามาก อีกฝ่ายอาจจะไม่ยอมก็ได้”สิ้นเสียง ฉินเย่มองไปที่เขา แล้วพูดว่า “ทำทุกวิถีทาง”“เข้าใจแล้วครับ”-เฉาหานอวี่และภรรยาสวีเจียโหรวเพิ่งเลิกงานกำลังจะกลับบ้านพร้อมกันสองสามีภรรยาทำงานในบริษัทเดียวกัน เลิกงานพร้อมกัน ช่วงกลางวันมีเวลาพักสองชั่วโมง ทั้งสองพักอยู่ไม่ไกลจากบริษัท ดังนั้นเพียงแค่เดินเท้าก็กลับถึงบ้านได้ หลังจากทำกับข้าวกินเสร็จเรียบร้อยยังพอมีเวลาพักอีกครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยเดินกลับไปทำงานต่อถ้าไม่มีอะไรผิดปกติ พวกเขาสองคนใช้ชีวิตเรียบง่ายแบบนี้ทุกวันเฉาหานอวี่พึงพอใจกับชีวิตแบบนี้มาก จะให้เขาใช้ชีวิตธรรมดาๆ แบบนี้ไปจนตายเขาก็ยอม แน่นอนว่าขอแค่ภรรยาของเขาไม่บ่นก็พอเพราะบางครั้งภรรยาของเขามักจะบ่นว่าเขาไม่ได้เรื่องอยู่บ่อยครั้ง ผู้ชายคนอื่นมีเงินขนาดนั้น มีโอกาสได้เลื่อนขั้น แต่เขาทำงานอยู่ที่บริษัทมาหลายปีกลับยังอยู่กับที่ไม่ไปไหนพอบ่นหลายครั้งเข้า เฉาหานอวี่ก็จำฝังลึกอยู่ในใจ นานๆ ไปก็กลายเป็นปมในใจเพียงแต่ปมในใจนี้ยังไม่กระทบต่อชีวิตแต่งงานของทั้งส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 551

    เฉาหานอวี่ไม่รู้ว่าหลี่มู่ถิงคือใคร แต่เขาจะไม่รู้จักฉินกรุ๊ปได้อย่างไรกัน นอกจากนี้ชื่อของฉินเย่ยังเป็นที่รู้จักกันดีในบริษัทของพวกเขาสวีเจียโหรวที่อยู่ถัดจากพวกเขาก็รู้จักเช่นกัน ดังนั้นสีหน้าของคู่สามีภรรยาจึงเปลี่ยนไปทันที “กำลังตามหาพวกเราอยู่เหรอครับ?” เมื่อเห็นท่าทางตกตะลึงของทั้งคู่ หลี่มู่ถิงก็หยิบข้อมูลออกมาจากกระเป๋าเอกสารและพูดชื่อของสามีภรรยาคู่นั้นซ้ำอีกรอบ “เฉาหานอวี่ สวีเจียโหรว พวกคุณสินะ? รูปด้านบนนี้ ตรงกันอยู่นะ” ทั้งคู่เอาหัวเข้าไปใกล้ๆกัน และแน่นอนว่าพวกเขาเห็นสิ่งที่แสดงอยู่บนเอกสารว่าเป็นข้อมูลส่วนตัวของพวกเขา และที่ติดอยู่ก็คือรูปถ่ายของพวกเขา “พวกเราเองครับ แต่ว่า คุณต้องการอะไรจากเราครับ?” “ไม่สะดวกที่จะคุยที่นี่ เราเข้าไปคุยกันข้างในบ้านกันไหมครับ?” "ได้ค่ะ ไปกันเถอะ" ทั้งคู่รีบเชิญหลี่มู่ถิงเข้ามาในบ้าน หลังจากที่หลี่มู่ถิงเข้าไปในบ้าน เขาก็มองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว ตามที่คาดไว้ เป็นแบบที่ข้อมูลระบุไว้ สภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ของทั้งคู่นั้นธรรมดา แม้ว่าพวกเขาจะรวบรวมเงินได้เพียงพอสำหรับเงินดาวน์ แต่ในการใช้ชีวิต พวกเขาก็ยังต้องจ่ายค่าเงินกู้บ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-25
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 552

    เฉาหานอวี่ไม่อยากจะเชื่อ “คุณไม่ได้โกหกเราใช่ไหม? คุณไม่ใช่นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องการใช้วิธีนี้มาหลอกเราให้ซื้อบ้านราคาสูงๆใช่ไหม?” วินาทีถัดมา หลี่มู่ถิงก็โยนใบรับรองอสังหาริมทรัพย์ไปไว้ตรงหน้าทั้งสองคน “บ้านได้รับการชำระเงินเต็มจำนวนแล้ว สิ่งที่คุณสองคนต้องทำคือย้ายเข้าไปก็พอ” ยี่สิบนาทีต่อมา ทั้งคู่ลงมาส่งหลี่มู่ถิงที่ชั้นล่างด้วยท่าทีสงบ โดยพวกเขาบอกว่าจะไปลาออกจากงานและไปทำเรื่องลาออกให้ลูกที่โรงเรียนในช่วงบ่าย และรับปากว่าจะไปรายงานตัวที่โรงเรียนใหม่ในวันพรุ่งนี้ หลี่มู่ถิงพอใจมาก "อย่าช้านะครับ พรุ่งนี้เช้าผมต้องเห็นพวกคุณ" “โอเค ไม่มีปัญหา เราจะย้ายไปตอนเย็น ต่อให้ไม่ได้นอนก็ต้องไปย้ายไปให้ได้” หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในที่สุดหลี่มู่ถิงก็จากไปอย่างพึงพอใจ -เสิ่นหยินอู้ไปที่ธนาคารและถอนเงินสดจำนวน 50,000 หยวน เนื่องจากเธอมีลูก กระเป๋าของเธอมักจะต้องเก็บของใช้ต่างๆของเด็กๆไว้เสมอ ดังนั้นกระเป๋าที่เธอถือจึงเปลี่ยนจากกระเป๋าใบเล็กที่มีเสน่ห์ที่เธอสะพายเมื่อตอนสาวๆไปเป็นกระเป๋าใบใหญ่ เงินสดห้าหมื่นหยวนเก็บไว้ในกระเป๋าก็มากเพียงพอแล้ว เธอคาดไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-25
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 553

    เมื่อโกรธ เหตุผลของผู้คนมักจะถูกแทนที่ด้วยอารมณ์ แม้แต่ฉินเย่ก็ไม่มีข้อยกเว้นหากพูดถึงผู้หญิงที่เขารัก แต่ทันทีที่หลี่มู่ถิงพูดประโยคนั้นไป เขาก็คิดได้ ความโกรธดับลงในทันที เขาลดสายตาลง ปกปิดอารมณ์ที่แสดงผ่านดวงตาสีดำของเขา ใช่สิ เขามีสิทธิ์อะไรที่จะโกรธล่ะ? เป็นอย่างที่ผู้ช่วยของเขาบอกจริงๆ ห้าปีผ่านไปแล้ว และเขาควรจะดีใจที่เธอยังไม่ได้แต่งงาน ดังนั้นเขาจึงมีโอกาสที่จะนัดเธอออกมา ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าอยู่ในสถานะไหน ตราบใดที่ชายคนนั้นไม่ใช่คนอื่น เมื่อคิดเช่นนี้ ฉินเย่ก็กวาดสายตาไปมองหลี่มู่ถิง “ก็ได้ ผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะมีประโยชน์มากขนาดนี้” "ใช่ไหมล่ะครับ?" หลี่มู่ถิงเห็นเขาเชยชม จึงถามถึงรางวัลทันที: "ประธานฉิน งั้นปีนี้คุณช่วยเพิ่มเงินเดือนให้ผมได้ไหมครับ?" เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินเย่ก็หัวเราะเยาะ "ไว้ค่อยคุย" “คุณทำเรื่องที่ผมบอกให้ไปทำเสร็จหรือยัง?” “เสร็จแล้วครับ พวกเขาบอกว่าจะย้ายไปในตอนเย็น พรุ่งนี้เราค่อยไปลูกของพวกเขา แต่ว่า... ประธานฉิน คุณจะแกล้งทำเป็นว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของคุณต่อหน้าเด็กๆทั้งสองคนเหรอครับ ผมเกรงว่าแบบนี้มันไม่ค่อยดีหรอกนะครับ” "ไม่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-25
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 554

    ช่างเถอะ เขาต้องใจเย็นก่อน เพราะผู้ชายที่เธอมาตามนัดด้วยก็คือ 'เขา'เสิ่นหยินอู้ถือกระเป๋าเดินเข้าไปในร้านอาหาร พนักงานร้านอาหารมาต้อนรับในทันที "สวัสดีครับคุณหนู" “สวัสดีค่ะ ที่ที่ฉันจองไว้คือ...” หลังจากที่เสิ่นหยินอู้บอกที่ที่เธอจองไว้กับพนักงาน พนักงานก็พาเธอเข้าไปข้างใน ในเวลานี้ ฉินเย่ซึ่งนั่งอยู่ชั้นบนกำลังมองดูอยู่ด้วยสายตาที่เย็นชา ที่นั่งที่เธอจองไว้คือริมหน้าต่าง เดิมทีใบหน้าของเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง แต่เขาเห็นว่าพนักงานไม่ได้พาเสิ่นหยินอู้ไปที่ที่นั่งริมหน้าต่าง เขากลับพาเธอไปที่ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เกิดอะไรขึ้น? พนักงานทำงานผิดพลาดหรือเธอลืม? ขณะที่กำลังคิด พนักงานก็พาเสิ่นหยินอู้เดินไปที่บันไดแล้ว สีหน้าของฉินเย่เปลี่ยนไป เขาได้ยินหลี่มู่ถิงที่อยู่ข้างๆเขาอุทานว่า: "พระเจ้า พนักงานคงไม่พาเธอมาหาเราที่นี่หรอกใช่ไหม? ประธานฉิน ทำยังไงดีครับ?" บันไดขึ้นลงเพียงไม่กี่ขั้นเอง และมีทางลงก็มีเพียงทางเดียวเท่านั้น หลี่มู่ถิงร้อนรนราวกับมดบนหม้อร้อนๆ "ทำไงดีครับ? คุณหนูเสิ่นจะจับได้ไหม?" ท้ายที่สุด วันนี้ก็ไม่ได้มาเพื่อเจอกัน แต่แค่เรียกให้เธอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-25
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 555

    ฉินเย่สูงมากและเกือบจะยืนติดกับเธอ ดังนั้นออร่าที่เย็นยะเยือกของเขาจึงปกคลุมไว้ในเธอทันที แม้จะเย็นเฉียบ แต่ก็ทรงพลังมาก เสิ่นหยินอู้ก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว เธอคิดที่จะอยู่ให้ห่างจากเขา น่าเสียดายที่โชคไม่ดีนัก เมื่อเธอก้าวถอยหลัง เท้าของเธอก็แพลง เธอเริ่มเซ และกำลังจะล้มไปข้างหลัง ฉินเย่ยกมือขึ้นมาจับเอวของเธอไว้ แล้วดึงเธอเข้าหาเขา เสิ่นหยินอู้พุ่งเข้าใส่เขาไปตามแรงที่ดึงเธอ มีกลิ่นหอมจางๆบนร่างกายของเธอ และมันแทรกแซงเข้าไปในลมหายใจของฉินเย่ ฉินเย่รู้สึกว่าร่างกายที่นุ่มนิ่มของเธอพุ่งเข้ามาในอ้อมแขนของเขา แม้แต่เอวที่มือเขาจับไว้อยู่ก็นุ่มเป็นพิเศษ เขายกริมฝีปากบางขึ้นเล็กน้อยและเลิกคิ้วเชิงหยอกล้อ “เห็นผมแล้วตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลังจากที่เสิ่นหยินอู้ยืนอย่างมั่นคงแล้ว เธอก็ผลักฉินเย่ออกไปโดยไม่รู้ตัว "ปล่อยฉันนะ" มือที่โอบรอบเอวของเธอกลับใช้แรงมากขึ้น แต่ฉินเย่ซึ่งถูกผลักยังคงนิ่งไม่ขยับไปไหนราวกับภูเขา เมื่อพนักงานเห็นเช่นนั้น ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ และพวกเขาก็ถอยหลังไปสองก้าว “ในเมื่อรู้จักกันแล้ว ก็นั่งโต๊ะเดียวกับผมส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-26
  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 556

    หลังจากที่เขาปล่อยมือ เอวของเสิ่นหยินอู้ก็เป็นอิสระ แล้วเธอก็ถอยหลังไปสองก้าวเพื่อรักษาระยะห่างจากฉินเย่ สายตาของฉินเย่จับจ้องไปที่เธอ “คุณหนูเสิ่น นั่งกับเราไหมครับ? เราควรดีกันไว้นะครับ ว่าไง?” เสิ่นหยินอู้มองไปที่หลี่มู่ถิงที่มีท่าทางสุภาพ เธอไม่สามารถพูดอะไรที่รุนแรงกับเขาได้เลยจริงๆ ดังนั้นเธอจึงหันมาอธิบายว่า: "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมีนัด" ฉินเย่: "กับใคร?" เสิ่นหยินอู้: "เกี่ยวอะไรกับคุณ?" "ผู้ชายเหรอ?" “มันเกี่ยวกับคุณหรอ?” แม้ว่าเขาจะรู้ว่าคนที่เธอนัดคือใคร แต่ตอนนี้ฉินเย่ไม่สามารถควบคุมตัวเองจากความอิจฉาอย่างบ้าคลั่งได้ หลี่มู่ถิงที่อยู่ข้างๆรู้สึกละอายใจเมื่อได้ยินบทสนทนา ประธานฉินกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย? เมื่อครู่นี้เขาเพิ่งบอกให้ทำตัวดีๆ ต้องสงบสติอารมณ์ไว้แท้ๆ แต่ทำไมถึง... แต่เมื่อนึกถึงท่าทางต่อต้านของเสิ่นหยินอู้ และต้องการที่จะไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ถ้าเขาเป็นประธานฉิน คงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้อารมณ์สงบไว้ได้ ฉินเย่หัวเราะเยาะอย่างเย็นชา "มีนัดกับโม่ไป๋หรอ?" เขาอยากจะรู้มากว่าถ้าเขาไม่ได้ใช้ตัวตนของลุงเย่มู่มาบังคับให้เธอออกมา เธอจะออกไปกับโ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-26

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 872

    แต่ในไม่ช้า สายตาของฉินเย่ก็เปลี่ยนไปเพราะเขาเห็นฉากหลังด้านหลังของเธอ “คุณอยู่บ้านเหรอ?” เสิ่นหยินอู้เห็นเขามองฉากหลังที่อยู่ด้านหลัง ไม่รู้ด้วยเหตุใด เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมาเล็กน้อย อาจเป็นเพราะเธอไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอให้อภัยเขาเร็วขนาดนี้ และเธอก็รู้สึกไม่เต็มใจอยู่เสมอ แม้ว่าทั้งสองจะเข้าใจผิดกันในตอนแรก แต่เขาก็ทำร้ายเธอจริงๆ แม้ว่าเธออยากอยู่กับเขา แต่เธอไม่ได้ต้องการให้อภัยเขาเร็วขนาดนี้ เมื่อเห็นว่าเธอไม่ตอบอะไร อีกทั้งยังลดสายตาลงต่ำ สายตาของฉินเย่มืดลงเล็กน้อย แต่ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักถึงสิ่งที่เธอกำลังคิดได้ จึงเปลี่ยนหัวข้อ “เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนนอนแล้วหรอ?” เมื่อได้ยินหัวข้ออื่น เสิ่นหยินอู้ก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดว่า "น่าจะหลับไปแล้วนะ คืนนี้พวกเขานอนกับ... " เมื่อเธอพูดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็ชะงักไปอีกครั้ง ฉินเย่อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดต่อจากคำพูดของเธอ “ตอนนี้เหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนอยู่กับพ่อแม่งั้นเหรอ?”เสิ่นหยินอู้พยักหน้า “อืม พวกผู้ใหญ่ชอบพวกเขามาก” อาจเป็นเพราะเมื่อครู่นี้ที่เสิ่นหยินอู้เงียบไปถึงสองครั้งและลังเลที่จะพูด บรรยากาศ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 871

    เสิ่นหยินอู้ตกใจกับเรื่องที่ตระกูลฉินจะย้ายจากหนานเฉิงไปยังเจียงเฉิง ขณะเดียวกัน เธอก็รู้สึกถึงการได้รับความเคารพอย่างมาก แต่เธอก็ถามคุณแม่ฉินในขณะที่เธอจะตัดสินใจ “ต้นตระกูลฉินอยู่ที่หนานเฉิงไม่ใช่หรอคะ? ถ้าย้ายไปที่เจียงเฉิงมันจะ…” “กำลังพูดเรื่องอะไรจ๊ะเนี่ย พ่อกับแม่แก่มากแล้ว คนที่เราห่วงก็มีแค่ลูกๆนี่แหละจ๊ะ ตอนนี้เรามีหลานเพิ่มมาอีกสองคน แน่นอนว่าหนูคือคนที่สำคัญที่สุด ไม่ต้องพูดถึงเราสองคนสามีภรรยาเลย เราอยู่ที่ไหนมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอจ๊ะ? สภาพแวดล้อมในเจียงเฉิงเหมาะสมกว่าที่นี่อีก หนูเปิดบริษัทอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ? ถึงตอนนั้นถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็แค่ถามพ่อ ตั้งใจทำงานให้ดี ส่วนเรื่องเด็กๆน่ะไม่ต้องห่วงเลย มีพ่อกับแม่อยู่ เดี๋ยวเราจะช่วยหนูเลี้ยงพวกเขาให้อ้วนท้วนสมบูรณ์ไปเลย” หลังจากนั้น คุณแม่ฉินก็ไม่ได้คุยอะไรกับเธอเพิ่ม เธอยุ่งอยู่กับการพาเด็กๆไปที่ห้องและปรึกษาหารือกับคุณพ่อฉินเรื่องการย้ายที่อยู่ของครอบครัว ระหว่างทางกลับห้อง เสิ่นหยินอู้ยังคงคิดถึงเรื่องนี้อยู่ตลอด ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่บริษัทในตอนนี้ของเธอเพิ่งเปิดเลย แม้ว่าบริษัทของเธอจะเริ่มพัฒนาขึ้นมาแล

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 870

    เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขายังอยู่ที่ต่างประเทศและร่างกายยังได้รับบาดเจ็บ รอยยิ้มบนริมฝีปากของเสิ่นหยินอู้ก็จางหายไปเล็กน้อย “เอาล่ะ อย่าเพิ่งไปคิดมากเรื่องอื่นเลย นั่งเครื่องบินมาทั้งวัน หิวแย่แล้วใช่ไหม? อาหารในครัวน่าจะใกล้ทำเสร็จแล้ว อีกเดี๋ยวก็ไม่ต้องคิดอะไรสักพักแล้วก็กินข้าวให้อร่อยนะ มีอะไรไว้ค่อยคุยต่อพรุ่งนี้แล้วกันนะ" อาหารเย็นหลากหลายมากและมีแต่สิ่งที่เธอคุ้นเคย ซึ่งแตกต่างจากที่กินที่ต่างประเทศโดยสิ้นเชิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ... รสชาติของอาหารต่างก็เป็นรสชาติที่คุ้นเคยทั้งนั้น... เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองคุณแม่และคุณพ่อฉิน แม้ว่าเธอจะแก้ปมในใจได้แล้ว แต่เธอก็ยังไม่มีความมั่นใจเพราะเธอหายไปเป็นเวลานานมาก เธอพูดขึ้นมาอย่างขวยเขินและยากลำบากว่า: "พ่อคะ แม่คะ หลายปีมานี้พ่อครัวของบ้านนี้ไม่ได้เปลี่ยนเลยเหรอคะ?" คุณแม่ฉินมองดูเธออย่างอ่อนโยน “ไม่ได้เปลี่ยนเลยจ๊ะ เขาอยู่กับตระกูลฉินมาหลายปีแล้ว และเราก็ชินกับรสชาติอาหารที่เขาทำมานานแล้ว ทำไมเหรอ กินไปนิดเดียวก็รู้แล้วเหรอจ๊ะ?” “ใช่ค่ะ มันเป็นรสชาติที่น่าคิดถึงมาก” มันเป็นอาหารเธอคุ้นเคย และแม้กระทั

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 869

    ระหว่างทางกลับบ้าน เธอไม่ได้พูดอะไร คุณแม่ฉินกลับเอาใจใส่เธอเป็นพิเศษ เธอจับมือหยินอู้และลังเลเหมือนจะพูดอะไรอยู่หลายครั้ง นอกจากคุณแม่ฉิน เสิ่นหยินอู้ก็ลังเลที่จะพูดเช่นกันเพราะเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร หรือเรียกคุณแม่ฉินอย่างไร แม้ว่าเด็กทั้งสองจะเรียกพวกเขาว่าปู่กับย่า แต่เธอกลับไม่สามารถเรียกคุณแม่ฉินว่าแม่ได้ ท้ายที่สุด...มันก็ผ่านมาห้าปีแล้ว ห้าปี ช่างเป็นตัวเลขที่เนิ่นนานเสียจริง อาจเป็นเพราะสายตาที่สื่อออกมาหรือไม่ก็การแสดงออกของเธอ แม่ฉินจึงรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอยื่นมือออกไปจับปรอยผมของเธอเบาๆและนำมันไปทัดที่หลังหู จากนั้นก็พูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน “เด็กดี หลายปีมานี้คงลำบากมามากเลยสินะ” ประโยคเดียวนี้ทำให้เสิ่นหยินอู้อดไม่ได้ที่จะตาแดงขึ้นมา เธอคิดไว้ก่อนแล้วว่าคุณแม่ฉินจะพูดอะไร แต่เธอไม่ได้คิดเลยว่าสิ่งที่คุณแม่ฉินจะพูดนั้นจะเป็นประโยคนี้ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกลำบากใจที่ได้ยิน มีความน้อยใจมากมายอยู่ในที่เธอไม่อาจพูดออกมาได้ ความรู้สึกใกล้ชิดกับคนที่เป็นญาติผู้ใหญ่เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก เธอมีความฝันที่จะมีแม่ หรือผู้ปกค

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 868

    แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเธอก็ยังไม่เร่งรีบ เสิ่นหยินอู้กับฉินเย่ซึ่งแต่งงานกันแล้วในเวลานั้นคงจะมีความคิดของตัวเองในแบบของคนหนุ่มสาว พวกเขาในฐานะผู้ใหญ่ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งมากเกินไป เช่นเดียวกับตอนที่เธอยังเด็ก การตั้งท้องฉินเย่ขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดเช่นกัน เดิมทีเธอต้องการใช้เวลากับสามีของเธอในโลกของพวกเขาสองคนให้นานกว่านี้ และคุณนายฉินก็ไม่ได้กดดันเธอ ดังนั้นเธอจึงอยู่ในโลกที่หวานชื่นของพวกเธอสองคนกับสามี และแล้ว...เธอก็ท้องโดยไม่ได้ตั้งใจเธอเองก็เป็นเช่นนี้ ดังนั้นแล้วเธอจึงไม่ต้องการเร่งหยินอู้กับฉินเย่ ใครจะรู้ว่าต่อมาพวกเขาจะหย่าร้างกัน และหยินอู้ก็จากไปในที่ไกลแสนไกล ต่อมาก็มีคนมาล้อเธอเรื่องหลานมากขึ้น ในเวลานั้นคุณแม่ฉินยิ้มเล็กน้อยและขี้เกียจเกินกว่าจะตอบโต้อะไร เธอเพียงแค่ยุติสัญญาระหว่างบริษัททั้งสองหลังจากที่กลับไป เธอทำให้อีกฝ่ายตกใจจนแทบจะหัวใจวาย ในคืนนั้นอีกฝ่ายมาหาเธอและร้องไห้โดยบอกว่าเขาผิดไปแล้ว ขอให้ตระกูลฉินปล่อยเขาไป หลังจากไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาหลายปี คุณแม่ฉินก็ไม่ได้หวังอะไรมากนัก แต่ตอนนี้... เมื่อพวกเขาเข้ามาใกล้ คุณแม่ฉินก็อดไม่ได้ที่จะย่อต

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 867

    จากระยะไกล คุณแม่ฉินสามารถมองเห็นเสิ่นหยินอู้และลูกๆทั้งสองได้ เด็กๆที่อยู่ข้างๆเธอเป็นเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง และพวกเขาก็ดูมีหน้าตาที่คล้ายกันมากเพราะเป็นฝาแฝดกัน เธอตกใจมากเมื่อหลี่มู่ถิงโทรหาเธอก่อนหน้านี้ “ลูกเหรอ? เป็นลูกของฉินเย่กับหยินอู้หรอ?” "ครับคุณผู้หญิง" “นี่...หยินอู้มีลูกกับฉินเย่จริงๆเหรอ? อายุเท่าไรแล้ว?” เมื่อหลี่มู่ถิงบอกเธอว่าเด็กสองคนอายุห้าขวบและเป็นฝาแฝดหญิงชาย คุณแม่ฉินก็แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เนื่องจากท่าทางที่ไม่สนใจใครของฉินเย่ก่อนหน้านี้ บวกกับการที่หยินอู้ไม่ต้องการที่จะมาเจอพวกเขาอีก คุณแม่ฉินจึงคิดว่าฉินเย่คงจะไม่มีคู่ครองอีกแล้วในชีวิตนี้ และเธอคงไม่มีโอกาสที่ได้อุ้มหลานๆแล้ว เรื่องนี้ทำให้เธอต้องเตรียมใจอยู่เป็นเวลานาน คุณแม่ฉินโน้มน้าวตัวเองอย่างยากลำบากว่าหากเธอไม่มีหลานก็ช่างมันไปเถอะ สำหรับลูกชายของเธอ ไม่ว่าเขาจะมีลูกหรือไม่ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอควรกังวล ฉินเย่ไม่ได้กังวล แล้วเธอจะกังวลอะไรล่ะ? เธอไม่คิดว่าเรื่องเหนือความคาดหมายจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เธอยังกังวลว่าเธอจะไม่มีหลานอยู่เลย แต่ผ่านไปไม่เท่าไรก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 866

    “ตอนคุณคิดบัญชีกับเขา ผมไปขวางคุณเมื่อไร? นับตั้งแต่ที่คุณแต่งงานเข้ามาในตระกูลฉิน คุณไม่ได้เป็นคนที่มีอำนาจตัดสินใจทุกอย่างมาโดยตลอดหรอกเหรอ?” หลังจากคิดอยู่สักพัก ฉินซวีโก้วก็รู้สึกว่าที่เขาพูดนั้นสมเหตุสมผล เธอเม้มริมฝีปากและไม่พูดอะไรอีก นับตั้งแต่หยินอู้หย่ากับฉินเย่และจากไป นิสัยของคุณแม่ฉินก็เปลี่ยนไปมาก บวกกับการจากไปของคุณนายฉินก็ทำให้อารมณ์ของเธอไม่ได้อ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน เธอไม่อดทนกับลูกชายเหมือนเมื่อก่อน เพราะเธอรู้สึกว่าการจากไปของหยินอู้จะต้องหนีไม่พ้นเรื่องลูกชายของเธออย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้ว พวกเธอทั้งคู่ก็เป็นผู้หญิงที่แต่งงานกันแล้วเหมือนกัน หากผู้หญิงยังต้องการจะจากไป แสดงว่าปัญหาจะต้องอยู่ที่ผู้ชาย ไม่เช่นนั้นก็คงจะเป็นผู้หญิงที่เปลี่ยนใจ แต่เธอเห็นหยินอู้เติบโตมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และเธอก็เข้าใจอารมณ์ของหยินอู้ได้อย่างลึกซึ้ง ในความคิดของคุณแม่ฉิน เด็กคนนั้นไม่มีทางจะทำอะไรที่เป็นผลร้ายแรงต่อเรื่องการแต่งงานอย่างแน่นอน ดังนั้นความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือการที่ลูกชายของเธอทำอะไรสักอย่างผิด เมื่อลูกชายทำผิด แม่ก็ต้องรับผิดชอบด้วยเพราะเธอสอนลูกไม

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 865

    หลังจากลงจากเครื่องบินแล้ว หลี่มู่ถิงยังคงยุ่งอยู่กับการเข็นกระเป๋าเดินทางให้เธอ เสิ่นหยินอู้เพียงแค่พาลูกๆสองคนเดินไปข้างหน้าเท่านั้น อาจเพราะกังวลว่าเรื่องลักพาตัวเธอครั้งก่อนจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ดังนั้นจึงมีบอดี้การ์ดร่างสูงกำยำหลายคนเดินขนาบข้างเธอ บอดี้การ์ดแทบจะล้อมอยู่รอบๆข้างกายเธอ ด้านหน้าหนึ่งคน หลังหนึ่งคน ซ้ายหนึ่งคน หนึ่งขวาคน จากมุมมองของคนนอก เธอกับลูกๆสองคนของเธอจะต้องปลอดภัยเต็มร้อย ถ้าใครคิดที่จะทำอะไรกับเธอ คงไม่ได้แม้แต่จะคิด หลี่มู่ถิงเข็นกระเป๋าเดินทางเดินตามหลังเธอไป เมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงทางออกแล้ว เขาจึงพูดเตือนออกมา: "คุณหนูเสิ่น คุณผู้หญิงฉินกับคนอื่นๆกำลังรออยู่ที่ทางออก เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วครับ" เมื่อเขาเตือนเธอ เสิ่นหยินอู้ก็พยักหน้า "อืม" จากนั้นเธอก็ก้มลงและกระซิบบอกเด็กน้อยทั้งสอง: "เหมิงเหมิง เหนียนเหนียน ได้ยินแล้วใช่ไหม? อีกเดี๋ยวก็จะได้เจอคุณปู่กับคุณย่าแล้วนะ จำได้ไหมว่าหม่ามี๊บอกพวกหนูตอนที่อยู่บนเครื่องบินว่าอะไร?" "จำได้ค่า" “ไม่ต้องห่วงค่ะหม่ามี๊ เหมิงเหมิงกับพี่ชายมีมารยาทให้มากที่สุดค่ะ” เด็กน้อยสองคนทำให้เธอมั่นใจได้อย่

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 864

    "ดีใจค่ะ" เสิ่นเหมิงเหมิงเอื้อมมือออกไปด้วยความดีใจและคิดจะเข้าไปกอดเธอ แต่นี่เป็นบนเครื่องบิน และทั้งคู่ก็คาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถกอดหยินอู้ได้เสิ่นหยินอู้ทำได้เพียงยื่นมือออกมาให้เหมิงเหมิงจับมือเธอเพื่อแสดงความดีใจออกมา “หม่ามี๊คะ แล้วลุงเย่มู่รู้หรือเปล่า?”เขารู้หรือเปล่าเหรอ? มุมปากของเสิ่นหยินอู้โค้งขึ้น สีหน้าของเธออ่อนโยนขึ้น เดี๋ยวพอกลับถึงจีนเขาก็คงจะรู้เองแหละ "เดี๋ยวก็รู้แล้วจ๊ะ" “หม่ามี๊คะ แล้วคุณปู่กับย่าเข้ากับคนง่ายไหมคะ? พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่หรอคะ?” “ใช่แล้ว พวกเขาเป็นพ่อกับแม่ของลุงเย่มู่ พวกเขาอ่อนโยนมาก แล้วก็เข้ากับคนง่าย ไม่ต้องห่วง พวกเขาคือ…” หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็พูดว่า "พวกเขาคือปู่กับย่าแท้ๆของลูก" หลังจากได้ยิน ดวงตาของเหมิงเหมิงก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ “ปู่กับย่าเหรอคะ?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ลูบหัวของเหมิงเหมิงและมองไปที่เสิ่นซือเหนียน: "เหนียนเหนียนกับเหมิงเหมิง ลูกเข้าใจสิ่งที่หม่ามี๊พูดไหม? ลุงเย่มู่เป็นพ่อแท้ๆของลูก" เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว เป็นการบอกว่าเขาเข้าใจ อย่าง

DMCA.com Protection Status