แชร์

บทที่ 365

ผู้เขียน: ลั่วหูโยว
หลังจากนั้นไม่กี่วินาที ฉินเย่ก็ก้มหน้าลง

แต่ว่าเด็กน้อยนั้นกลับไม่อยู่แล้ว เขาเข้าห้องน้ำไปตั้งแต่หลังขอบคุณฉินเย่เสร็จแล้ว ตอนนี้ไม่รู้ว่าอยู่ห้องไหนด้วย

ฉินเย่เม้มริมฝีปาก แล้วยืนขมวดคิ้วอยู่ที่เดิม

คนที่อยู่ปลายสายพูดอะไรบ้าง เขาไม่ได้ยินอีก

หูฝาดเหรอ?

หรือเป็นเพราะเด็กสองคนนี้ประกาศว่าจะหยุดไลฟ์ไปก่อน เขาเลยคิดถึงก็เลยทำให้ได้ยินเสียงของเหนียนเหนียนไปได้

“ประธานฉิน สำหรับการร่วมงานกันครั้งนี้ ความจริงแล้วผมยังมีอีกความคิดหนึ่ง คุณช่วยดูเวลา…”

อีกฝ่ายยังไม่ทันพูดจบ ก็ได้ยินฉินเย่พูดขัดขึ้น

“เมื่อกี้คุณได้ยินอะไรไหม?”

คู่เจรจาได้ถูกขัดกะทันหันก็มึนงงทันใด

“ครับ?”

“ฝั่งผม คุณได้ยินเสียงอะไรไหม?”

ถ้าไม่ใช่หูฝาด ถ้างั้นอีกฝ่ายก็น่าจะได้ยินเสียงขอบคุณ

คู่เจรจาที่อยู่ปลายสายไม่เข้าใจว่าฉินเย่หมายถึงอะไร แต่เขาก็ตระหนักได้ว่าเหมือนเคยได้ยินว่าฉินเย่ไม่ชอบเสียงรบกวนที่สุด

เมื่อกี้เขาดูเหมือนจะได้ยินเสียงไม่ถึงประสงค์อยู่บ้าง แต่ว่าบอกต่อหน้าฉินเย่เลยจะดีเหรอ?

คิดไปคิดมา คนคนนั้นก็เลือกที่จะไม่พูด

“ประธานฉิน ผมไม่ได้ยินเสียงอะไรนะ เกิดอะไรขึ้นกับคุณหรือเปล่า?”

อีกฝ่ายถามอย่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 366

    ถ้าเธอมองไม่ผิด เขาเพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำใช่ไหม?ถ้างั้น…แย่แล้ว!“หยินอู้!”โจวชวงชวงรีบวิ่งไปทางห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ตอนที่ต่อแถวอยู่นั้น เธอเพิ่งนึกได้ว่าเหนียนเหนียนเป็นเด็กผู้ชาย เสิ่นหยินอู้ไม่มีทางพาเขาเข้าไปในห้องน้ำหญิง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ไม่สามารถเข้าไปในห้องน้ำชายตามเหนียนเหนียนด้วยเช่นกัน เรื่องนี้จะกลายเป็นเรื่องลำบากและไม่สะดวกทันทีดังนั้นโจวชวงชวงรีบวิ่งไป อยากรอดูอยู่ข้างนอกว่ามีอะไรให้ช่วยไหมไม่คิดว่าจะพบกับฉินเย่เข้าได้ครั้งก่อนที่เจอฉินเย่ ก็นานมาแล้วผ่านไปห้าปี ตอนนี้หน้าตาของฉินเย่กลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว และดูมั่นคงขึ้นไม่น้อย แต่ออร่าทั้งหมดดูยิ่งเย็นชากว่าเดิม และแข็งแกร่งกว่าเดิมเพียงแค่เห็นจากที่ไกล เธอก็สัมผัสได้ถึงรังสีเย็นชาที่แพร่ออกจากกระดูกของฉินเย่อีกอย่างหน้าตาของเขายังดูหล่อกว่าแต่ก่อนด้วยดังนั้นโจวชวงชวงถึงสามารถเห็นเขาได้จากกลุ่มคนในทันทีหล่อจริงๆ!ไม่น่าล่ะตอนนั้นเสิ่นหยินอู้ถึงชอบเขา และยังไม่ลืมสักทีถ้าเขาไม่ใช่ผู้ชายที่เพื่อนสนิทของตนชอบล่ะก็ โจวชวงชวงเองก็คงจะชอบผู้ชายคนนี้เพราะหน้าตาเช่นกันรอให้โจวชวงชวงมาถึงห้องน้ำ ก็เห็

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 367

    ในเมื่อไม่รู้ ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรมากอย่างไรก็เป็นโชคชะตาที่ตัดขาดไปแล้วและเสิ่นหยินอู้ของเธอคู่ควรกับผู้ชายที่ดีกว่าเมื่อคิดได้แบบนั้น โจวชวงชวงก็สงบลง เธอเผยรอยยิ้มออกมา แล้วพูดหยอกเล่นว่า “อืม เช่น เจอคนจูงหมา หรือว่าขอทานอะไรงี้”เสิ่นหยินอู้ “…เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? สนามบินไม่ให้เอาสัตว์เลี้ยงเข้ามา ขอทานก็ไม่มีทางเข้ามาด้วย”“ก็จริงเนอะ โอ๊ย อาจเป็นเพราะพวกเธอจะไปกันแล้ว ฉันเสียใจเกินไปก็เลยลืมตัวน่ะ พวกเธออยู่ต่อเลยได้ไหม”เชอะ เสิ่นหยินอู้ไม่อยากสนใจเธอด้วยซ้ำเธอก้มหน้าจัดเสื้อให้กับเด็กทั้งสอง แล้วได้ยินเสิ่นซือเหนียนพูดขึ้นว่า“หม่ามี๊ เมื่อกี้ผมเจอลุงที่หล่อมากคนหนึ่งในห้องน้ำครับ เขาช่วยผมเปิดประตู”เสิ่นหยินอู้ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงใคร เพียงแค่ตอบไปว่า “แล้วเหนียนเหนียนบอกขอบคุณเขาหรือยัง?”“บอกแล้วครับหม่ามี๊”“มีมารยาทจริงๆ” เสิ่นหยินอู้เข้าไปใกล้ แล้วจูบหน้าผากของเขาทีหนึ่งเสิ่นซือเหนียนตัวน้อยเต็มไปด้วยความพึงพอใจเสิ่นเหมิงเหมิงเห็นดังนั้น ก็รีบยืดตัวออกมา“หม่ามี๊ เหมิงเหมิงก็จะเอาด้วย”โจวชวงชวงเห็นสามแม่ลูกนี้แล้ว ในใจอิจฉาสุดขีดถ้าเป็นไปได้ เธออ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 368

    ต่อไปหากเจอเรื่องอะไร เธอต้องใจเย็นบ้างแล้ว“ชวงชวง เป็นอะไรไป?”พ่อเสิ่นกับน้าฟู่ที่เดินไปไกลแล้วพอหันกลับมาเห็นว่าโจวชวงชวงยังอยู่ที่เดิมอยู่ ทั้งสองจึงหยุดฝีเท้าแล้วเดินกลับมาหาเธอเสียงของพวกท่านทำให้โจวชวงชวงได้สติ แล้วยิ้มตอบ“ไม่อยากจากหยินอู้ไปใช่ไหม? โธ่เอ้ย คนหนุ่มสาวอย่างพวกหนู แค่นั่งเครื่องบินไปก็เจอกันแล้ว ไม่ต้องเสียใจไปนะ”น้าฟู่ปลอบใจเธอ“ค่ะน้าฟู่ น้าไม่ต้องห่วงนะคะ ถ้าหนูคิดถึงหล่อน หนูจะไปหาทันที”“ไปกันเถอะ”ก่อนที่จะเดินจากไป โจวชวงชวงยังอดหันไปมองที่ด่านตรวจไม่ได้ขอให้หยินอู้ไม่เจอกับฉินเย่ด้วยเถอะทำให้โชคชะตานี้เหมือนกับตอนที่อยู่หน้าห้องน้ำ ที่เพียงแค่ผ่านๆ ไป_หลังจากผ่านด่านตรวจ เสิ่นหยินอู้ก็พาเด็กสองคนเดินไปข้างหน้า กระเป๋าเดินทางและของอื่นๆ เธอไม่ต้องถือเลยด้วยซ้ำเพราะทันทีที่ผ่านจากด่านตรวจมา ผู้ช่วยเฉินก็พูดกับเธอทันทีว่า“ผู้จัดการเสิ่น เอาของมาให้ผม เดี๋ยวผมถือให้ดีกว่าครับ”“ไม่เป็นไรค่ะผู้ช่วยเฉิน ของบ้านฉันเยอะมาก คุณถือคนเดียวไม่ได้ เดี๋ยวฉันถือเองดีกว่า”“ผู้จัดการเสิ่น เอามาให้ผมเถอะ ประธานโม่บอกให้ผมกลับประเทศไปพร้อมกับคุณ ก็

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 369

    เสิ่นเหมิงเหมิงเลียปากของตนเอง ก็ยังรู้สึกว่าตนอยากกินมากแต่ทว่าหม่ามี๊บอกแล้วว่ากินไม่ได้ เธอก็ทำได้แต่กินถึงขนมเครื่องดื่มบนเครื่องบินแล้วเธอกะพริบตาปริบๆ แล้วมองภาพแขวนในร้านค้าผู้ช่วยเฉินมองอยู่ข้างๆ ก็รู้สึกว่าเธอน่ารักจนใจละลาย เห็นแล้วก็อยากซื้อให้กินเลยเขาจึงพูดขึ้นว่า “ผู้จัดการเสิ่น เด็กๆ น่ะบางครั้งก็ชอบกินของแบบนั้น ผมซื้อให้เด็กทั้งสองคนถ้วยหนึ่งได้ไหม?”เสิ่นหยินอู้ยิ้มเบาๆ“ผู้ช่วยเฉินเป็นเบ๊ไม่ใช่เหรอคะ? ให้พวกเราซื้อให้คุณสักถ้วยดีไหมคะ? ยังไงคุณก็ลำบากมากขนาดนี้แล้ว”ผู้ช่วยเฉิน “…ไม่เป็นไรครับ ผมไม่เอา”“จริงสิผู้ช่วยเฉิน ต่อไปคุณไม่ต้องเรียกฉันว่าผู้จัดการเสิ่นแล้ว เพราะตอนนี้ฉันไม่ใช่ผู้จัดการของบริษัทอีกแล้ว”ผู้ช่วยหลี่ครุ่นคิดแล้วพยักหน้า“ครับคุณหนูเสิ่น”พวกเขาเดินไปข้างหน้าต่อไปเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ดังขึ้น เสิ่นหยินอู้หยิบขึ้นมาดู พบว่าเป็นข้อความจากโม่ไป๋“เป็นยังไงบ้าง? ผ่านด่านตรวจหรือยัง?”เมื่อเห็นข้อความจากเขา เสิ่นหยินอู้ก็ยกมุมปากขึ้น“ผ่านแล้ว”ข้อความถูกส่งไปไม่กี่วินาที โม่ไป๋ก็โทรมาแล้ว“เป็นยังไงบ้าง? ผู้ช่วยเฉินดูแลเธอดีไห

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 370

    “คุณหนูเสิ่น?” ผู้ช่วยเฉินทำงานให้กับโม่ไป๋นานแล้ว จึงมีทักษะการมองสีหน้า เมื่อเห็นสีหน้าของเสิ่นหยินอู้แล้ว จึงถามไปว่า “เป็นอะไรไปครับ?”อย่างไรผู้ช่วยเฉินก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่ง เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกเกรงใจเหมือนกันแต่ทว่าในสถานการณ์แบบนี้ เธอต้องไปจัดการในห้องน้ำก่อนเธอเม้มปากแล้วบอกว่า “ขอโทษนะคะ ฉันขอไปห้องน้ำแป๊บหนึ่ง”“พวกหนูไปหาที่นั่งกับผู้ช่วยเฉินก่อน เดี๋ยวหม่ามี้ตามไป”หลังจากที่เสิ่นหยินอู้จากไปแล้ว ผู้ช่วยเฉินก็ดูแลเด็กสองคนต่อ“ถ้างั้น พวกหนูไปกับลุงก่อนไหม?”เสิ่นซือเหนียนเผยสีหน้ากังวลใจออกมาเล็กน้อยเมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้จึงเอ่ยถามผู้ช่วยเฉิน“ลุงเฉินครับ วันนี้วันอะไรเหรอครับ?”ผู้ช่วยเฉินกดดูโทรศัพท์ แล้วแจ้งวันที่ออกไป“วันนี้ทำไมเหรอ?”หลังจากได้รู้วันที่แล้ว เสิ่นซือเหนียนก็เข้าใจทันที แล้วนับนิ้วคำนวณพลางเอ่ยว่า “ดูเหมือนว่าวันนี้จะเป็นวันนั้นของเดือนของหม่ามี๊ครับ”ได้ยินดังนั้น สีหน้าของผู้ช่วยเฉินก็เปลี่ยนไปทันที หลังจากนั้นไม่นานก็เกาศีรษะอย่างทำอะไรไม่ถูกวันนั้นของเดือนนี่เองโทรศัพท์ของเขาสั่นไปทีหนึ่ง มีข้อความส่งเข้ามา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 371

    “ได้ค่ะ โกโก้ร้อนสามแก้ว กรุณารอสักครู่นะคะ คุณผู้ชายคะ คุณไปหาที่นั่งก่อนนะคะ” "โอเคครับ" ผู้ช่วยเฉินมองไปรอบๆ เขาเห็นที่นั่งริมหน้าต่าง จึงพาเด็กสองคนไปตรงนั้น “ปะ ไปตรงนั้นกับลุงเฉินนะ” เสิ่นเหมิงเหมิงวิ่งไปข้างหน้าและจับชายเสื้อของผู้ช่วยเฉินในทันที ผู้ช่วยเฉินมองลงไป เห็นมือสีชมพูเล็กๆจับชายเสื้อของเขาไว้ กำปั้นนั้นเล็กมากจนมีขนาดไม่ถึงหนึ่งในสามของมือของเขาด้วยซ้ำ มันเล็กมากเช่นนี้ แต่ก็จับชายเสื้อของเขาไว้แน่น ผู้ช่วยเฉินเป็นชายร่างสูงท้วม เขารู้สึกได้ทันทีว่าหัวใจของเขาอ่อนโยนขึ้นมาก ไม่แปลกใจเลยที่หลายๆคนชอบเด็กมากขนาดนั้น ดังนั้นเขาจึงชะลอฝีเท้าลงเพื่อเสิ่นเหมิงเหมิงจะได้ตามทันเขา จากนั้นก็มองไปที่เสิ่นซือเหนียน เด็กผู้ชายก็เป็นเด็กผู้ชายอยู่วันยังค่ำจริงๆ เขาพยายามรักษาระยะห่างจากผู้ช่วยเฉิน และเดินตามน้องสาวของเขาไปด้วยใบหน้าที่สงบราวกับผู้ใหญ่ตัวเล็กๆ นับตั้งแต่เขาได้รับคำเตือนจากฉินเย่ หลี่มู่ถิงก็ไม่กล้าที่จะฟุ้งซ่านอีก แต่เมื่อเขาได้ยินชายคนนั้นเดินมาหาเขาพร้อมกับกระเป๋าเดินทาง เขาก็อดไม่ได้ที่จะฟุ้งซ่านและอยากจะไปดูโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อนึกถึงสาย

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 372

    "คู่สนทนาชะงักไป ก่อนที่จะเข้าใจ “งั้นคุณต้องระวังตัวด้วยนะ”
"ขอบคุณค่ะ" เสิ่นหยินอู้ยิ้มหน้าซีดๆ แล้วพูดขอบคุณ
หลังจากออกมา เสิ่นหยินอู้เห็นเกทผู้โดยสารอยู่ข้างหน้า เธอจึงเดินไปหาที่นั่งและหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความให้ผู้ช่วยเฉิน
"ผู้ช่วยเฉิน คุณอยู่ที่เกทผู้โดยสารหรือยังคะ?"
ตอนที่ผู้ช่วยเฉินได้รับข้อความจากเสิ่นหยินอู้ เขารออยู่ที่ร้านกาแฟมานานแล้ว แต่โกโก้ร้อนสามแก้วก็ยังไม่มา จนเขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
ร้านนี้บริการช้าจริงๆ
ตอนนั้นเอง เขาได้รับข้อความจากเสิ่นหยินอู้
ผู้ช่วยเฉินตอบโดยอัตโนมัติ "พวกเราอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้ๆ......""คุณผู้ชาย โกโก้ร้อนสามแก้วของคุณได้แล้วค่ะ"
เขายังพิมพ์ข้อความไม่เสร็จ พนักงานก็เรียกเขาไปรับออร์เดอร์"โอเคครับ" ผู้ช่วยเฉินเก็บมือถือแล้วลากกระเป๋าเดินทางพร้อมบอกเสิ่นเหมิงเหมิงและเสิ่นซือเหนียน "โกโก้ร้อนของเราเสร็จแล้ว ไปกันเถอะ"
จากนั้นเขาก็ลากกระเป๋าเดินหน้าไปก่อน โดยมีเด็กทั้งสองคนเดินตามหลัง
เมื่อเดินผ่านฉินเย่ เสิ่นซือเหนียนที่เดินตามหลังสุดก็หันมองเขาโดยอัตโนมัติ
เพียงแค่แวบเดียว เสิ่นซือเหนียนก็จำได้ว่าเขาคือคุณอาสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 373

    คนที่โทรมาเป็นคู่ค้าทางธุรกิจพอดีเมื่อการสนทนาใกล้จะจบลง ฉินเย่ก็วางสายอย่างไม่ลังเล แล้วมอบหมายงานที่เหลือให้หลี่มู่ถิงจัดการหลี่มู่ถิงได้แต่ทำงานตามหน้าที่ไป แต่ใจยังคงคิดถึงเด็กสองคนนั้นที่เขาเห็นเมื่อซักครู่พอคิดทบทวนอยู่พักหนึ่ง หลี่มู่ถิงถึงตัดสินใจกล้าเสี่ยงบอกฉินเย่ไป"เอ่อ...ประธานฉิน เมื่อกี้นี้ผมเห็นเด็กสองคน"ยังไม่ทันพูดจบ ฉินเย่ก็ส่งสายตาเตือนมาพอเห็นสายตานั้น หลี่มู่ถิงก็ได้แต่พูดต่ออย่างกล้าๆกลัวๆ "เด็กสองคนนั้นดูเหมือนจะเป็นเด็กที่คุณดูในไลฟ์สดบ่อยๆนะครับ"ปลายนิ้วของฉินเย่หยุดนิ่ง การเก็บกระเป๋าเอกสารของเขาก็หยุดตามไปด้วยจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว"นายว่าอะไรนะ?"หลี่มู่ถิงเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน "ผมไม่แน่ใจครับ ผมเห็นแค่ด้านข้างของพวกเขา เด็กสองคนนั้นหน้าตาคล้ายกันมาก เป็นฝาแฝดชายหญิง ผมเดาว่า......""อยู่ที่ไหน?"ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ฉินเย่ก็ลุกขึ้นยืน"ครับ?...พวกเขาไปแล้ว" หลี่มู่ถิงชี้ไปข้างนอกไม่ทันไร ร่างสูงของฉินเย่ก็หายไปจากสายตาของหลี่มู่ถิงหลี่มู่ถิงยืนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะตั้งสติได้เขาเก็บของอย่างรวดเร็วแล้วตามไปในสนามบิ

บทล่าสุด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status