"คู่สนทนาชะงักไป ก่อนที่จะเข้าใจ “งั้นคุณต้องระวังตัวด้วยนะ” "ขอบคุณค่ะ" เสิ่นหยินอู้ยิ้มหน้าซีดๆ แล้วพูดขอบคุณ หลังจากออกมา เสิ่นหยินอู้เห็นเกทผู้โดยสารอยู่ข้างหน้า เธอจึงเดินไปหาที่นั่งและหยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความให้ผู้ช่วยเฉิน "ผู้ช่วยเฉิน คุณอยู่ที่เกทผู้โดยสารหรือยังคะ?" ตอนที่ผู้ช่วยเฉินได้รับข้อความจากเสิ่นหยินอู้ เขารออยู่ที่ร้านกาแฟมานานแล้ว แต่โกโก้ร้อนสามแก้วก็ยังไม่มา จนเขาเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ร้านนี้บริการช้าจริงๆ ตอนนั้นเอง เขาได้รับข้อความจากเสิ่นหยินอู้ ผู้ช่วยเฉินตอบโดยอัตโนมัติ "พวกเราอยู่ที่ร้านกาแฟใกล้ๆ......""คุณผู้ชาย โกโก้ร้อนสามแก้วของคุณได้แล้วค่ะ" เขายังพิมพ์ข้อความไม่เสร็จ พนักงานก็เรียกเขาไปรับออร์เดอร์"โอเคครับ" ผู้ช่วยเฉินเก็บมือถือแล้วลากกระเป๋าเดินทางพร้อมบอกเสิ่นเหมิงเหมิงและเสิ่นซือเหนียน "โกโก้ร้อนของเราเสร็จแล้ว ไปกันเถอะ" จากนั้นเขาก็ลากกระเป๋าเดินหน้าไปก่อน โดยมีเด็กทั้งสองคนเดินตามหลัง เมื่อเดินผ่านฉินเย่ เสิ่นซือเหนียนที่เดินตามหลังสุดก็หันมองเขาโดยอัตโนมัติ เพียงแค่แวบเดียว เสิ่นซือเหนียนก็จำได้ว่าเขาคือคุณอาสุด
คนที่โทรมาเป็นคู่ค้าทางธุรกิจพอดีเมื่อการสนทนาใกล้จะจบลง ฉินเย่ก็วางสายอย่างไม่ลังเล แล้วมอบหมายงานที่เหลือให้หลี่มู่ถิงจัดการหลี่มู่ถิงได้แต่ทำงานตามหน้าที่ไป แต่ใจยังคงคิดถึงเด็กสองคนนั้นที่เขาเห็นเมื่อซักครู่พอคิดทบทวนอยู่พักหนึ่ง หลี่มู่ถิงถึงตัดสินใจกล้าเสี่ยงบอกฉินเย่ไป"เอ่อ...ประธานฉิน เมื่อกี้นี้ผมเห็นเด็กสองคน"ยังไม่ทันพูดจบ ฉินเย่ก็ส่งสายตาเตือนมาพอเห็นสายตานั้น หลี่มู่ถิงก็ได้แต่พูดต่ออย่างกล้าๆกลัวๆ "เด็กสองคนนั้นดูเหมือนจะเป็นเด็กที่คุณดูในไลฟ์สดบ่อยๆนะครับ"ปลายนิ้วของฉินเย่หยุดนิ่ง การเก็บกระเป๋าเอกสารของเขาก็หยุดตามไปด้วยจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว"นายว่าอะไรนะ?"หลี่มู่ถิงเกาหัวอย่างกระอักกระอ่วน "ผมไม่แน่ใจครับ ผมเห็นแค่ด้านข้างของพวกเขา เด็กสองคนนั้นหน้าตาคล้ายกันมาก เป็นฝาแฝดชายหญิง ผมเดาว่า......""อยู่ที่ไหน?"ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ฉินเย่ก็ลุกขึ้นยืน"ครับ?...พวกเขาไปแล้ว" หลี่มู่ถิงชี้ไปข้างนอกไม่ทันไร ร่างสูงของฉินเย่ก็หายไปจากสายตาของหลี่มู่ถิงหลี่มู่ถิงยืนนิ่งอยู่สักพัก ก่อนจะตั้งสติได้เขาเก็บของอย่างรวดเร็วแล้วตามไปในสนามบิ
จะใช้โอกาสนี้ไปเจอพวกเขาสักครั้งไหม? จริงๆแล้วฉินเย่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกผูกพันกับเด็กสองคนนั้นมากขนาดนี้ บางทีอาจเป็นเพราะรอยยิ้มที่สดใสของพวกเขาเวลามองพวกเขา มันเหมือนมองเห็นแสงอาทิตย์ สดใส น่ารัก มีชีวิตชีวา เบ่งบานต่างจากเขาที่อยู่ในความมืดมิดอย่างสิ้นเชิง เขาเต็มไปด้วยความโกรธ เย็นชา อารมณ์ร้าย เข้ากับคนอื่นยากแต่เรื่องแปลกๆแบบนี้ ถ้าเล่าให้คนอื่นฟัง พวกเขาคงคิดว่าเขาไม่ปกติ ทำไมถึงชอบเด็กสองคนนี้โดยไม่มีเหตุผลคิดได้แบบนั้น ฉินเย่ก็หลับตาลงแล้วพูดเสียงเบา "ไม่จำเป็นหรอก" แค่ดูในมือถือก็พอแล้ว เด็กสองคนนั้นมีชีวิตชีวาขนาดนั้น แสดงว่าพวกเขามีสภาพแวดล้อมที่ดีในการเติบโต เขาเป็นแค่ผู้ชมที่ดูไลฟ์สดเพื่อรับความอบอุ่นเล็กน้อยเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องไปก้าวก่ายชีวิตของพวกเขา บางทีอาจจะไปรบกวนพวกเขาด้วยซ้ำ หลี่มู่ถิงรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในบรรยากาศรอบตัวฉินเย่ แค่พริบตาเดียวเขากลายเป็นคนมืดมนและลึกลับ อุณหภูมิรอบข้างก็เหมือนจะลดลงไปหลายองศาโอเค ห้าปีมานี้ หลี่มู่ถิงชินกับนิสัยที่เปลี่ยนเหมือนเปลี่ยนหน้าหนังสือของฉินเย่แล้ว- เสิ่นหยินอู้รอพวกเขาอยู่ที่
"ไม่ๆๆ"เสิ่นหยินอู้ปฏิเสธ "ไม่เป็นไรจริงๆค่ะ ผู้ช่วยเฉิน" แต่ผู้ช่วยเฉินยังคงยืนยัน "คุณเสิ่นครับ ผมแรงเยอะ แค่เข็นคุณกับลากกระเป๋าพวกนี้มันไม่ใช่ปัญหาครับ"เสิ่นหยินอู้: "…ถ้าคุณอยากเข็นนักล่ะก็ เหมิงเหมิง ไปนั่งบนกระเป๋าสิลูก ให้อาเฉินเข็นหนู""ได้ค่ะหม่ามี๊"เสิ่นเหมิงเหมิงเป็นเด็กที่ฉลาด หลังจากได้ยินคำพูดของเสิ่นหยินอู้ เธอก็รีบปีนขึ้นไปบนกระเป๋าทันที แม้ว่าตอนปีนจะไม่ค่อยคล่องแคล่วนัก แต่ก็ยังยื่นมือเล็กๆ ไปหาผู้ช่วยเฉินแล้วพูดเสียงหวานว่า "อาเฉิน ช่วยดึงเหมิงเหมิงหน่อยค่ะ" ผู้ช่วยเฉินรีบยื่นมือไปช่วยให้เธอนั่งบนกระเป๋าได้อย่างเรียบร้อยโดยสัญชาตญาณ เมื่อเธอนั่งเรียบร้อยแล้ว ผู้ช่วยเฉินก็เพิ่งนึกอะไรขึ้นมาได้"ไม่ใช่ครับ คุณเสิ่น ความหมายของผมคือ......""เหมิงเหมิงเดินเหนื่อยแล้ว งั้นรบกวนผู้ช่วยเฉินเข็นเธอทีนะคะ ซือเหนียนครับ ไปเอากระเป๋าเดินทางของหนูมาเร็ว หนูถือเองนะครับ""ครับ" เด็กสองคนนี้เชื่อฟังเสิ่นหยินอู้มาก ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ทำตามทุกอย่าง สุดท้าย ผู้ช่วยเฉินก็ทำได้แค่เข็นเสิ่นเหมิงเหมิงไปข้างหน้า"ขอบคุณค่ะ อาเฉิน" เสิ่นเหมิงเหมิงยังคงกล่าวขอบคุณผู้ช
“ประธานฉิน ครั้งนี้ขอโทษจริงๆครับ เป็นความผิดพลาดของผมเอง ผมไม่คิดเลยว่าเที่ยวบินนี้จะไม่มีที่นั่งเหลือแล้ว”ได้ยินแบบนั้น ฉินเย่หยุดก้าวทันที พร้อมกับจ้องมองเขาด้วยสายตาที่คมดั่งมีด"หลี่มู่ถิง ถ้าครั้งหน้าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ก็เตรียมตัวออกไปไปได้เลย""ได้ครับ ได้ครับ จะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้อีกแล้วครับท่านประธาน ผมรับประกัน ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดจริงๆครับ"เมื่อขึ้นเครื่อง ฉินเย่ก็เดินไปยังที่นั่งเฟิร์สคลาสตามความเคยชิน“ยินดีต้อนรับขึ้นเครื่องค่ะ”พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกล่าวทักทายหลากหลายรูปแบบ เมื่อเธอมองไปเห็นฉินเย่ สายตาเธอก็เปล่งประกายขึ้นทันที“คุณผู้ชายคะ ตั๋วของคุณ......”ก่อนที่จะพูดจบ หลี่มู่ถิงก็รีบยื่นตั๋วของทั้งสองคนให้ทันทีพนักงานต้อนรับรับตั๋วมาแล้วดูแวบหนึ่ง ก่อนจะขวางฉินเย่ที่ตั้งใจจะไปยังที่นั่งเฟิร์สคลาส “ขอโทษนะคะ คุณผู้ชาย ที่นั่งของคุณอยู่ทางนี้ค่ะ”ฉินเย่หยุดเดินทันทีพนักงานต้อนรับยิ้มอย่างสุภาพ และชี้ไปทางที่นั่งชั้นประหยัด “ทางนี้ค่ะ คุณผู้ชาย”ผู้โดยสารบางคนที่กำลังขึ้นเครื่องหันมามองทางนี้สายตาที่มองฉินเย่นั้น เต็มไปด้วยคว
เมื่อหลี่มู่ถิงเข้ามาในชั้นเฟิร์สคลาส สายตาของเขาก็เริ่มกวาดมองไปรอบๆ เพื่อหาคนที่อาจจะยินดีที่จะแลกที่นั่งสุดท้าย เขาก็ล็อคเป้าหมายไปที่ชายวัยกลางคนชาวเอเชียคนหนึ่ง"สวัสดีครับ คุณผู้ชาย"หลี่มู่ถิงเดินเข้าไปหาและยื่นนามบัตรของตัวเองให้ทันทีชายคนนั้นชะงักไปซักพัก แต่เมื่อเห็นหลี่มู่ถิงก็ยิ้มอย่างดีใจ"ผู้ช่วยหลี่?"หลี่มู่ถิง "?""คุณรู้จักผมหรอครับ?""รู้จักสิครับ ผู้ช่วยหลี่ ผมผู้จัดการสวี่จากกลุ่มบริษัทจ้าว พวกเราเคยเจอกันแล้วครั้งหนึ่ง"หลี่มู่ถิงมองใบหน้าเหลี่ยมๆ ตาเล็กๆ และจมูกแบนๆของชายคนนี้ที่อยุ่ตรงหน้า และพยายามค้นหาในความทรงจำอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอเขามาก่อนเห็นหลี่มู่ถิงทำหน้าตาเหมือนไม่เคยเจอเขามาก่อน ผู้จัดการสวี่ก็ไม่รู้สึกโกรธ เพียงแค่ยกมือขึ้นเกาจมูกแล้วพูดว่า "ไม่เป็นไรครับ ผู้ช่วยหลี่ คุณงานยุ่งมาก คงจำผมไม่ได้ก็เป็นเรื่องปกติ"ผู้ช่วยหลี่ทำได้เพียงพยักหน้า"ว่าแต่ ผู้ช่วยหลี่ คุณมานี่แสดงว่าประธานฉินก็มาด้วยใช่ไหมครับ?" พูดจบ ผู้จัดการสวี่ก็ลุกขึ้นยืนแล้วมองไปรอบๆ พร้อมกับถามว่า "ทำไมไม่เห็นเขาล่ะครับ?"หลี่มู่ถิงรู้สึกว่าท่าทางของเขาดู
"เหอะ ๆ ไม่แปลกใจเลยที่ทุกคนบอกว่าคุณฉินน่ะมีบารมีที่แข็งแกร่งจริง ๆ"หลี่มู่ถิงรีบรายงานเรื่องที่เปลี่ยนที่นั่งให้กับฉินเย่ฟังทันที ประธานฉินจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชาแล้วก็เดินออกไปทันทีผู้จัดการสวี่รีบเปิดทางให้เขาเดินออกไปพอฉินเย่เดินออกไปแล้ว ผู้จัดการสวี่ก็หันมาหาหลี่มู่ถิงทันที"ผู้ช่วยหลี่ เราแลกช่องทางติดต่อกันดีไหมครับ?"หลี่มู่ถิง: "......"ในเมื่อเขาติดหนี้บุญคุณคนอื่นแล้ว ก็จำต้องหยิบโทรศัพท์ออกมารับชะตากรรม-ฉินเย่เดินไปยังที่นั่งที่สลับกับผู้จัดการสวี่อย่างไร้อารมณ์พอนั่งลงแล้ว เขาก็ยังคงทำหน้าบึ้งเหมือนเดิม บรรยากาศเย็นชาที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ทำให้คนรอบข้างหันมามองด้วยความสนใจการเปลี่ยนที่นั่งบนเครื่องบินเป็นเรื่องปกติ ตราบใดที่ผู้โดยสารเต็มใจ พนักงานต้อนรับก็จะไม่ว่าอะไรและด้วยท่าทางของฉินเย่ที่ดูเหมือนเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูง พนักงานต้อนรับจึงรีบเดินเข้าไปถามอย่างรวดเร็ว"คุณผู้ชายคะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?"ฉินเย่ยังคงอารมณ์ไม่ดี เมื่อได้ยินแบบนั้นก็พูดเสียงเย็นชา: "เหล้า"พนักงานต้อนรับสาวชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า"ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ"หล
เพราะถ้าเขาต้องการได้ตัวเสิ่นหยินอู้จริง ๆ เขาก็สามารถใช้วิธีอื่นเพื่อไม่ให้เด็กทั้งสองคนนี้ลืมตาดูโลกได้ถ้าตั้งใจจะทำ ยังไงก็ต้องหาทางได้ ไม่ใช่เหรอ?แต่เขาไม่ทำ เด็กทั้งสองคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย และโม่ไป๋ยังดูแลพวกเขาราวกับเป็นลูกของตัวเอง ความรู้สึกที่มีต่อเสิ่นหยินอู้ก็ยังคงเหมือนเดิมในฐานะที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน ผู้ช่วยเฉินรู้สึกว่าแม้จะต้องตาย เขาก็ไม่มีทางที่จะใจกว้างได้ขนาดนี้แน่นอนแต่ตอนนี้เมื่อได้ใช้เวลากับเด็กทั้งสองคนผู้ช่วยเฉินก็รู้สึกว่า เขาอาจจะไม่ต้องตายแล้ว เพราะว่าเขาเองก็......ใจกว้างพอสมควรเหมือนกันท้ายที่สุดแล้ว ใครจะไม่ชอบเด็กที่น่ารัก มีมารยาท และหน้าตาดีขนาดนี้ได้ล่ะ!!ก่อนหน้านี้ผู้ช่วยเฉินรู้สึกสงสารโม่ไป๋แค่ไหน ตอนนี้เขาก็รู้สึกอิจฉาโม่ไป๋เท่านั้นขณะที่กำลังครุ่นคิดอยู่ เสิ่นเหมิงเหมิงก็เงยหน้ามองผู้ช่วยเฉินแล้วพูดว่า "อาเฉินคะ หนูอยากไปเข้าห้องน้ำค่ะ"ผู้ช่วยเฉิน"?"อ่าาา นี่ก่อนขึ้นเครื่องเพิ่งไปเข้าห้องน้ำมาไม่ใช่เหรอ?แต่ไม่นานผู้ช่วยเฉินก็นึกออกว่า แม้ว่าเธอจะไปห้องน้ำก่อนขึ้นเครื่องแล้ว แต่เธอก็เพิ่งดื่มเครื่องดื่มไปเยอะผู้ช่วยเฉินกำ