ทางฝั่งนั้นโทรมาเร่งรัดให้รีบพาลูกชายเข้าไปพูดคุยเจรจา ยิ่งทำให้คุณนายบุษยาร้อนใจ
ตระกูล ‘กิจธาดาวงศ์’ กับตระกูล ‘เดชากุล’ ปรองดองกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แถมยังเอื้อหนุนทำธุรกิจร่วมกัน คุณหญิงบุษยาค่อนข้างมั่นใจว่าลูกชายของเธอต้องชอบว่าที่คู่หมั้นคุณหนูพิมผกาอย่างแน่นอน สวย รวย เก่ง อ่อนหวานแถมชาติตระกูลไม่ได้น้อยหน้าใคร “ถ้าครีมอยากได้เงินเท่าไหร่แม่ยินดีให้ตามที่หนูต้องการ ขอแค่ให้เลิกกับฌอห์ณ” น้ำเสียงที่พูดฟังดูเห็นอกเห็นใจ เพราะรู้ว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาครีมต้องทนรองรับอารมณ์ร้ายๆ ของลูกชายขนาดไหน เงินที่ให้ไปจะถือว่าเป็นค่าทำขวัญ ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ยินดีจ่าย “หนูจะได้เอาเงินก้อนใหญ่ไปตั้งตัวเริ่มชีวิตใหม่” ทุกอย่างรอบตัวดูหมุนช้าลง ครีมยังคงยืนนิ่งไม่ได้พูดหรือตอบโต้อะไร “ฌอห์ณมีคู่หมั้นอยู่แล้ว หนูคงยังไม่เคยรู้เรื่องนี้ใช่ไหม” “…..” “ที่ฌอห์ณมาคบกับหนูก็เพื่อรอเวลาให้คู่หมั้นของเขาเรียนจบ ลูกชายแม่เขาไม่ได้จริงจังกับหนูเลยนะ” มือเล็กกำชายกระโปรงของตัวเองไว้แน่น เธอเพิ่งจะรู้ความจริงก็วันนี้ว่าฌอห์ณนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยปริปากพูดถึงเรื่องนี้เลย “แม่หวังดีไม่อยากให้ครีมเสียเวลาชีวิตอยู่กับฌอห์ณไปมากกว่านี้ เข้าใจที่แม่พูดใช่ไหม” “…..” “ตอนนี้คู่หมั้นของฌอห์ณกำลังจะกลับมา อีกไม่นานสองคนก็จะแต่งงานจดทะเบียนสมรสกัน แม่ไม่อยากให้ครีมกลายเป็นเมียน้อยของลูกชายแม่นะ” เพราะกลัวว่าลูกชายจะเลยเถิดถลำลึกกับครีมมากไปเลยคิดจะตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ยังไงคนที่เธออยากได้มาเป็นลูกสะใภ้ก็คือ ‘พิมผกา เดชากุล’ หรือถ้าลูกชายอยากเลี้ยงครีมไว้เป็นเมียน้อย เมียเก็บ เธอก็จะยอมทำเป็นปิดหูปิดตา “ครีมอยากให้แม่ลองไปคุยกับฌอห์ณดูก่อนว่าเขาต้องการแบบไหน ครีมเคารพการตัดสินใจของเขา ถ้าฌอห์ณบอกว่าจะเลิกครีมก็ยินดีจะไปเองค่ะ” “หนูครีมก็น่าจะรู้ว่าฌอห์ณคงไม่ทำแบบนั้น” “แล้วถ้าครีมเป็นฝ่ายบอกเลิกฌอห์ณขึ้นมาจริงๆ แม่คิดว่าฌอห์ณจะยอมเลิกกับครีมไหมคะ” “…..” ครั้งนี้เป็นฝ่ายคุณหญิงบุษยาที่เงียบไป เธอไม่เข้าใจว่าผู้หญิงอย่างครีมมีดีอะไร ลูกชายถึงหลงจนโงหัวไม่ขึ้น ไม่ยอมเขี่ยทิ้งไปสักที “ไม่ใช่ครีมไม่อยากไปนะคะ แต่เป็นฌอห์ณเองมากกว่าที่ไม่ยอมปล่อยครีม แม่ก็น่าจะรู้ดี” “…..” “เพราะทุกวันนี้ครีมก็ไม่ได้อยากอยู่กับเขาแล้วเหมือนกัน” หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดวงตากลมโตเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาแต่ต้องฝืนกลั้นมันเอาไว้ “…..” “มัวทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ยอมออกไปสักที” ฌอห์ณมองคนทั้งสองอย่างพิจารณา เป็นเพราะครีมหายออกมานานเกินไปจึงเดินมาตามด้วยตัวเอง แต่อารมณ์ของทั้งสองคนดูแปลกไปจนอดสงสัยไม่ได้ “อยากให้ครีมคุยเรื่องนี้กับฌอห์ณต่อหน้าแม่เลยไหมคะ?” คุณหญิงบุษยายืนนิ่ง สอดส่องสายตาไปมาคล้ายคนคิดหนักเมื่อมองเห็นสีหน้าของคนที่เพิ่งมาใหม่ “ถ้าแม่ต้องการแบบนั้น ครีมจะได้ช่วยพูดให้” “ว่ามาสิ ครีมมีอะไรจะคุยกับฌอห์ณ” “เลิกกัน…” “เลิกอะไร!?” ร่างสูงเลิกคิ้วถามก่อนจะรั้งคนตัวเล็กให้เข้าใกล้จนใบหน้าน้อยๆ แนบชิดกับแผงอกแกร่ง หัวใจของเธอสั่นไหวเมื่อสัมผัสถึงลมหายใจร้อนเจื่อกลิ่นบุหรี่ที่เป่ารดลงบนพวงแก้ม สายตาเย็นเยียบที่ชายหนุ่มจ้องมองพร้อมจะพังทุกอย่างถ้าเกิดได้ยินอะไรที่ไม่เข้าหู “ไม่มีอะไรหรอกฌอห์ณ เราสองคนแค่คุยกันเรื่องทั่วไปน่ะ” ผู้เป็นแม่รีบพูดแทรกขึ้น กลัวลูกชายจะไม่พอใจถ้าเกิดรู้ว่าเธอไปพูดหลับหลังอะไรกับครีมบ้าง “ครีมรู้สึกปวดหัวมาก ขอตัวกลับบ้านก่อนนะ ฌอห์ณอยู่คุยกับแม่ต่อเถอะ” “แล้วจะกลับยังไง?” “เดี๋ยวครีมนั่งรถแท็กซี่กลับเอง” “ถ้าจะกลับก็กลับด้วยกัน ฌอห์ณไม่ปล่อยให้ครีมไปไหนคนเดียวหรอก” “ฌอห์ณอยู่กับแม่ก่อน ไหนบอกว่าคืนนี้จะกลับมาค้างที่บ้านกับแม่” “เอาไว้วันหลังผมจะมาหาใหม่” คุณนายบุษยารู้ดีว่าลูกชายเป็นคนไม่ชอบเดินตามใคร แต่การที่เขายอมเดินตามหลังผู้หญิงคนนี้ออกไปแบบไม่ลังเล มันแสดงให้คนเป็นแม่ได้เห็นชัดเจน ว่าฌอห์ณเลือกครีมแล้วจริงๆ“รออยู่ในห้อง ถ้ากลับมาแล้วจะเปิดให้” คนตัวเล็กถูกผลักให้เข้ามาอยู่ด้านใน ทันทีที่กลับมาถึงคอนโด เมื่อเห็นว่าฌอห์ณกำลังจะล็อกประตูจึงรีบวิ่งเข้าไปหา “จะขังครีมไว้อีกแล้วเหรอ แล้วจะขังไปถึงเมื่อไหร่?” “…..” ไม่มีคำตอบใดๆ จากปากแฟนหนุ่ม มีแค่สายตาว่างเปล่าที่ใช้มองเธออย่างพิจารณา “ปล่อยได้ไหม ครีมคงไม่มีปัญญาหนีไปไหนได้อยู่แล้ว ฌอห์ณก็น่าจะรู้ดี” ครีมพยายามพูดหวานล้อมเพราะไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้อีกแล้ว อยากมีอิสระได้ออกไปใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นบ้าง “ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้ คราวหลังก็อย่าคิดจะหนี อย่าคิดจะขัดใจ!” “จะไม่ทำแบบนั้นแล้ว” “หรือถ้าคิดจะหนีขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าครีมจะอยู่ที่ไหน ฌอห์ณจะตามไปลากคอกลับมาเหมือนเดิม” ครีมนั่งบนโซฟาก้มหน้านิ่ง เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาตัวเล็กๆไม่มีความสามารถพิเศษอะไรที่จะหลุดพ้นจากสายตาของเขาไปได้ ยิ่งมีตัวประกันเป็นคนรอบข้าง ยิ่งหมดสิทธิ์ที่จะหนี “วันนี้ไม่ออกไปหาเพื่อนเหรอ” ครีมเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นฌอห์ณหยิบกระป๋องเบียร์ออกจากตู้เย็นแล้วเดินกลับมานั่งดื่มข้างๆ เธอ ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าโชว์รอยสักที่มีอยู่เต็มแผ่นหลัง ส่วนท่อนล่าง
(พี่ครีม!)เสียงเรียกของน้องชายช่วยปลุกเธอให้หลุดจากความคิด ในขณะที่นั่งเหม่อลอยทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่าน“ว่าไงคราม?”ครามเป็นน้องชายคนกลาง ส่วนเค้กคือน้องสาวคนสุดท้อง อีกไม่นานเธอจะพาน้องๆ ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพ อาจจะเช่าหอเล็กๆ หรือไม่ก็อพาร์ตเมนต์ให้น้องอยู่(ครามไม่อยากอยู่ที่บ้านแล้ว) เพราะชอบถูกพ่อดุด่าอยู่เป็นประจำเวลาพ่อโมโหหนักมักจะด่าทอลามปามไปถึงแม่แบบเสียๆ หายๆ สุดท้ายก็เอามาลงที่ลูก “เกิดอะไรขึ้น?”(พ่อชอบดุครามกับเค้ก ไม่อยากอยู่กับพ่อเลย) น้องชายทำหน้าเศร้า ถ้าได้ย้ายไปอยู่กับพี่สาวคงจะดีกว่านี้“อดทนก่อนได้ไหม อีกไม่กี่เดือนก็จะปิดเทอมแล้ว พี่จะรีบไปรับนะ”(พี่ครีมพูดแล้วนะว่าจะมารับครามกับเค้กไปอยู่ด้วย)“พี่สัญญา”(ครามกับเค้กจะรอพี่นะ)“ครามต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ พี่ฝากดูแลน้องด้วย” ครีมยิ้มให้น้องผ่านโทรศัพท์ ถ้าเกิดมาตัวคนเดียวคงตัดสินใจอะไรได้ง่ายกว่านี้ แต่เธอยังมีน้องทั้งสองคนที่ต้องดูแล ยังไงก็ทิ้งไม่ได้(เค้กบ่นคิดถึงพี่ทุกวันเลย ครามก็คิดถึงพี่เหมือนกัน)“รอพี่หน่อยนะ”(ครามจะรอพี่)“เป็นยังไงบ้าง มีเงินไปโรงเรียนกันไหม”(มีเยอะเลย พี่ฌอห์ณโอนเข้าบัญ
“ทำไมยังไม่นอน รอฌอห์ณอยู่เหรอ”ฌอห์ณกลับเข้าบ้าน แต่ต้องหยุดชะงักขมวดคิ้วเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นแฟนสาวนั่งอยู่บนโซฟากำลังตั้งหน้าตั้งตากินอะไรบางอย่างดูน่าเอร็ดอร่อย“ไม่ได้รอ แค่หิวเลยลุกมาหาอะไรกิน” ครีมตอบคำถามโดยไม่มองหน้าฌอห์ณเลยด้วยซ้ำ เธอหยิบสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ขึ้นมากัดกินตามด้วยโยเกิร์ตรสชาติโปรดปราน โดยมีสายตาของคนที่มาใหม่จ้องมองด้วยความสงสัย ปกติครีมไม่เคยลุกขึ้นมากินจุกจิกอะไรแบบนี้“หิวตอนตีสอง?” เขาเดินเข้าไปหาก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงข้างคนตัวเล็ก ยกแขนพาดหลังโซฟาทำท่าเหมือนโอบไหล่เธออยู่ “แล้วโทรหาฌอห์ณทำไมตั้งหลายสาย มีเรื่องอะไรจะคุยก็พูดมา”“เมื่อก่อนน่ะมี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”“ฌอห์ณกำลังจะลงสนาม ไม่อยากรับสายให้เสียสมาธิ” ยิ่งเธอพูดแบบนี้ยิ่งอยากรู้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร“ครีมมันไม่เคยสำคัญอะไรอยู่แล้ว ขนาดครีมป่วย ฌอห์ณยังกล้าทิ้งให้อยู่คนเดียวเลย”“เป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอมาหรือยัง?”“ไปมาแล้ว”“แล้วหมอบอกว่าเป็นอะไร?”“เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย”ครีมตอบน้ำเสียงเรียบนิ่ง หันมองหน้าคนรักที่ดูเหมือนจะช็อคค้างกลางอากาศ ท่าทางแบบนี้ไม่เคยได้เห็นจากที่ไหน ก่อนที่ฌอห์ณจะดึงสติก
ฌอห์ณนั่งมองคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ครีมหอบข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือหลังจากออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตตั้งนานสองนานร่างสูงก้าวขาเข้ามาประชิดทางด้านหลัง ทำเอาหญิงสาวถึงกลับสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าเขาจะตามมาถึงในครัว“มีอะไร?” ครีมเอ่ยถามพลางหันหน้ากลับมาสบตา สองสามวันมานี้ฌอห์ณดูแปลกๆ จนเธอเองสัมผัสได้ เหมือนถูกเขาจ้องมองอยู่ตลอดเวลา แต่ช่างเถอะ! เขาไม่ได้สนใจอะไรเธอขนาดนั้น บางทีคงคิดมากไปเอง“วันนี้ซื้ออะไรมาบ้าง?”“ก็หลายอย่าง” ปกติเขาไม่เคยจะสนใจแต่ทำไมวันนี้ถึงถาม ฌอห์ณมองสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะ มีทั้งผลไม้หลายอย่างโดยเฉพาะสตรอว์เบอร์รี ที่พักนี้ครีมกินบ่อย กินทุกวัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ชอบมันสักเท่าไหร่นัก ไหนจะพวกนมกล่องUHT อาหารเสริมวิตามินอะไรอีกมากมาย ฌอห์ณเคยเห็นมันก่อนหน้านั้น แต่ไม่ได้คิดสงสัย พอเจฟบอกเลยกลับมาครุ่นคิดว่ามีหลายสิ่งที่แปลกไปแต่เขากลับมองข้ามมันมาตลอด“กินนมด้วยเหรอ แต่ก่อนไม่เห็นชอบกิน”“เอาไว้กินตอนหิวน่ะ”“ครีม” ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าใกล้แนบชิดจนปลายจมูกสัมผัสคลอเคลียกันไปมา“อะไร?”“มีอะไรจะบอกฌอห์ณไหม?”“ไม่มี”ร่างเล็กลอยขึ้
-โรงพยาบาลใกล้บ้าน-“น้ำหนักน้องตามเกณฑ์ปกติ ช่วงนี้คุณแม่ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบห้าหมู่นะคะ”ครีมชำเลืองสายตามองปฏิกิริยาของแฟนหนุ่มที่นั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ส่วนเธอกำลังนอนเปิดหน้าท้องอยู่บนเตียงในขณะคุณหมอกำลังอัลตราซาว์ดให้ดูทารกในครรภ์ภาพเคลื่อนไหวของลูกน้อยค่อยๆ ปรากฏอยู่บนหน้าจอที่ติดอยู่ฝาผนัง ฌอห์ณนั่งมองแบบไม่ละสายตา ไม่มีคำพูดใดๆ และไม่มีใครล่วงรู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่“คุณแม่ได้สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าไหมคะ?”“ไม่ค่ะ”“แล้วคุณพ่อล่ะคะ สูบบุหรี่ไหม?”“ก็ทุกวัน” คนถูกถามตอบสั้นๆ ไม่รู้ว่าการที่เขาสูบบุหรี่ทุกวันมันไปเกี่ยวข้องอะไรตรงไหน“ถ้างดได้จะดีมากเลยค่ะ กลิ่นบุหรี่มีผลกระทบกับเด็กในครรภ์ ถ้าคุณแม่สูดดมเข้าไปมากๆ น้องอาจจะเกิดมามีปัญหาหรือพิการได้”“…..”“เคสเมื่อวานเพิ่งแท้งไปเองค่ะ”“แท้งเลยเหรอ?” ฌอห์ณทวนถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนลง หัวใจแกร่งกระตุกวูบหันมองหญิงสาว แล้วที่ผ่านมาจะเป็นยังไงเมื่อครีมต้องได้กลิ่นจากเขาทุกวัน“มีโอกาสเสี่ยงค่ะ”“ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”“ได้ลูกสาวค่ะคุณพ่อ”ฌอห์ณผ่อนลมหายใจลากยาวแรงๆ คล้ายกับระงับความรู้สึกอะไรบางอย่างท
“ตีสามแล้วนะ ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ”(อยากกลับเดี๋ยวกลับเองนั่นแหละ จะตามอะไรทุกชั่วโมง ว่าแต่ครีมทำไมยังไม่นอน?)“ครีมนอนไม่หลับเลยเพราะเป็นห่วงฌอห์ณ”(จะเป็นห่วงฌอห์ณทำไม ฌอห์ณไม่ใช่เด็กแล้วนะ)“อยู่ห้องไฟดับ รีบกลับมาได้ไหม” (จะอะไรกันนักกันหนา ไฟฉายก็มี อย่าทำเป็นอ่อนแอได้ป่ะ)“ผู้ชายคนนั้นเขาเดินวนเวียนอยู่หน้าห้องเราอีกแล้ว ครีมกลัวมากเลย”(ดึกขนาดนี้แล้วใครจะมาเดินสุ่มสี่สุ่มห้าไปหาหลับหานอนได้แล้วครีม น่ารำคาญแค่นี้นะ)“ฮึก…ฌอห์ณ”หลังจากแฟนหนุ่มกดวางสาย ‘ครีม’ รีบกดส่งข้อความไลน์หานิติคอนโดเมื่อรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลที่กำลังเกิดขึ้นคัทลียา : คุณเบิร์ดคะ ช่วยขึ้นมาดูหน้าห้องครีมหน่อย ผู้ชายคนนั้นมาเดินวนเวียนอีกแล้วค่ะคุณเบิร์ด : คุณครีมโอเคไหมครับ ยังปลอดภัยดีอยู่ใช่ไหม แล้วตอนนี้คุณชลากรอยู่ไหมครับคัทลียา : ปลอดภัยดีค่ะ แต่แฟนครีมไม่อยู่ ตอนนี้ครีมอยู่คนเดียว คุณเบิร์ดรีบมาเลยนะคะคุณเบิร์ด : ตอนนี้ลิฟต์ใช้ไม่ได้ รออีกสักครู่นะครับแล้วผมจะรีบไปคัทลียา : (ส่งสติกเกอร์ขอบคุณ)เพื่อนชายข้างห้องที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ ชอบทำท่าทางลับๆ ล่อๆ เวลาเห็นเธอ บ้างก็คอยเดินวนสอด
ครีมหอบสังขารอันบอบช้ำพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล เธอก้มมองกลางหว่างขาที่เต็มไปด้วยคราบน้ำสีขาวขุ่นของแฟนหนุ่มแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆหลังจากเสร็จกิจฌอห์ณยังนอนคว่ำหน้าไม่รู้สึกตัว ครีมดันท่อนแขนแกร่งที่พาดอยู่บนเอวให้ออกห่าง ก่อนจะหยัดตัวลุกจากที่นอนอย่างระมัดระวังตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงกว่าแล้ว ไม่มีเวลามานั่งร้องไห้หรือคร่ำครวญอะไรทั้งนั้น ถ้าไปเข้างานสายอีกครั้งมีหวังคงโดนหัวหน้าไล่ออกจากบริษัทเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรก! แต่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสาเหตุทั้งหมดก็มาจากเขาที่ใช้กำลังบังคับข่มเหงจนเธอเสียการเสียงานครีมเป็นพนักงานของบริษัทเอกชน ทำแผนกเกี่ยวกับบัญชี รายได้ต่อเดือนก็สองหมื่นต้นๆ แต่แทบจะไม่เหลือใช้เพราะต้องส่งให้พ่อกับน้องอีกสองคนที่อยู่ต่างจังหวัดครีมมีน้องสาวกับน้องชายที่กำลังเรียนอยู่มัธยมด้วยกันทั้งคู่สามพี่น้องอาศัยอยู่กับพ่อตั้งแต่เด็ก ส่วนแม่หนีไปแต่งงานใหม่ จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลย“ยัยครีม” เสียงของ‘เอม’ เพื่อนร่วมงานคนสนิทร้องเรียก หลังจากที่เห็นครีมวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในบริษัท เธอมีเพื่อนสนิทอยู่สองคนคือ ‘เอม’ กับ ‘น้ำตาล’“ว่า
ครีมลงจากรถแท็กซี่ รีบเดินฝ่าฝูงผู้คนมากมายเข้ามาในคลับ ดวงตาคู่สวยวาดสายตามองหา ก่อนจะเห็นฌอห์ณนั่งฟุบหลับลงบนโต๊ะโดยมีกลุ่มเพื่อนนั่งอยู่ข้างๆเธอตบใบหน้าหล่อเหลาเพื่อเรียกสติ เขาขยับตัวเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้นมอง“ฌอห์ณ…ได้ยินครีมไหม”“รอตั้งนานมัวทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่รีบมา” คนเมาพูดด้วยน้ำเสียงยืดยาน พร้อมรั้งเอวบางให้ขยับเข้ามาแนบชิด ใบหน้าคมคายคลอเคลียไปตามหน้าท้องแบนราบจนครีมต้องขยับถอยห่าง“ครีมรอรถแท็กซี่อยู่เลยมาช้า ว่าแต่ฌอห์ณลุกไหวมั้ย”“ลุกไม่ไหว พยุงหน่อย”“ค่อยๆ ลุกนะ” คนตัวเล็กค่อยๆ หิ้วปีกประคองชายหนุ่มด้วยความทุลักทุเล เธอสูงแค่ร้อยหกสิบแต่ฌอห์ณนั้นสูงกว่าเธอมาก“มาๆ เดี๋ยวมอสช่วย”“พวกมึงไม่ต้องยุ่ง! กูให้เมียกูจับคนเดียว” ฌอห์ณประกาศเสียงดัง ในขณะที่เพื่อนสนิทกำลังจะเข้ามาประคองเขาเดินออกไป“วันนี้ไอ้ฌอห์ณมันเมามาก ครีมอย่าไปถือสามันเลยนะ”“แล้วทำไมถึงปล่อยให้ดื่มหนักขนาดนี้”“พวกเราห้ามแล้ว แต่มันไม่ฟัง”ครีมเข้าใจทุกอย่างเพราะรู้จักนิสัยของแฟนหนุ่มดี ฌอห์ณเป็นคนเอาแต่ใจไม่ชอบฟังใคร เธอจึงไม่แปลกใจว่าทำไมถึงอยู่ในสภาพแบบนี้“งั้นครีมขอตัวกลับก่อนนะ”“ให้มอสไปส่
-โรงพยาบาลใกล้บ้าน-“น้ำหนักน้องตามเกณฑ์ปกติ ช่วงนี้คุณแม่ต้องทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบห้าหมู่นะคะ”ครีมชำเลืองสายตามองปฏิกิริยาของแฟนหนุ่มที่นั่งกอดอกอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ส่วนเธอกำลังนอนเปิดหน้าท้องอยู่บนเตียงในขณะคุณหมอกำลังอัลตราซาว์ดให้ดูทารกในครรภ์ภาพเคลื่อนไหวของลูกน้อยค่อยๆ ปรากฏอยู่บนหน้าจอที่ติดอยู่ฝาผนัง ฌอห์ณนั่งมองแบบไม่ละสายตา ไม่มีคำพูดใดๆ และไม่มีใครล่วงรู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่“คุณแม่ได้สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าไหมคะ?”“ไม่ค่ะ”“แล้วคุณพ่อล่ะคะ สูบบุหรี่ไหม?”“ก็ทุกวัน” คนถูกถามตอบสั้นๆ ไม่รู้ว่าการที่เขาสูบบุหรี่ทุกวันมันไปเกี่ยวข้องอะไรตรงไหน“ถ้างดได้จะดีมากเลยค่ะ กลิ่นบุหรี่มีผลกระทบกับเด็กในครรภ์ ถ้าคุณแม่สูดดมเข้าไปมากๆ น้องอาจจะเกิดมามีปัญหาหรือพิการได้”“…..”“เคสเมื่อวานเพิ่งแท้งไปเองค่ะ”“แท้งเลยเหรอ?” ฌอห์ณทวนถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอ่อนลง หัวใจแกร่งกระตุกวูบหันมองหญิงสาว แล้วที่ผ่านมาจะเป็นยังไงเมื่อครีมต้องได้กลิ่นจากเขาทุกวัน“มีโอกาสเสี่ยงค่ะ”“ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”“ได้ลูกสาวค่ะคุณพ่อ”ฌอห์ณผ่อนลมหายใจลากยาวแรงๆ คล้ายกับระงับความรู้สึกอะไรบางอย่างท
ฌอห์ณนั่งมองคนตัวเล็กที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ครีมหอบข้าวของพะรุงพะรังเต็มสองมือหลังจากออกไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตตั้งนานสองนานร่างสูงก้าวขาเข้ามาประชิดทางด้านหลัง ทำเอาหญิงสาวถึงกลับสะดุ้งเฮือก ไม่คิดว่าเขาจะตามมาถึงในครัว“มีอะไร?” ครีมเอ่ยถามพลางหันหน้ากลับมาสบตา สองสามวันมานี้ฌอห์ณดูแปลกๆ จนเธอเองสัมผัสได้ เหมือนถูกเขาจ้องมองอยู่ตลอดเวลา แต่ช่างเถอะ! เขาไม่ได้สนใจอะไรเธอขนาดนั้น บางทีคงคิดมากไปเอง“วันนี้ซื้ออะไรมาบ้าง?”“ก็หลายอย่าง” ปกติเขาไม่เคยจะสนใจแต่ทำไมวันนี้ถึงถาม ฌอห์ณมองสิ่งของที่วางอยู่บนโต๊ะ มีทั้งผลไม้หลายอย่างโดยเฉพาะสตรอว์เบอร์รี ที่พักนี้ครีมกินบ่อย กินทุกวัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ชอบมันสักเท่าไหร่นัก ไหนจะพวกนมกล่องUHT อาหารเสริมวิตามินอะไรอีกมากมาย ฌอห์ณเคยเห็นมันก่อนหน้านั้น แต่ไม่ได้คิดสงสัย พอเจฟบอกเลยกลับมาครุ่นคิดว่ามีหลายสิ่งที่แปลกไปแต่เขากลับมองข้ามมันมาตลอด“กินนมด้วยเหรอ แต่ก่อนไม่เห็นชอบกิน”“เอาไว้กินตอนหิวน่ะ”“ครีม” ใบหน้าหล่อเหลาเคลื่อนเข้าใกล้แนบชิดจนปลายจมูกสัมผัสคลอเคลียกันไปมา“อะไร?”“มีอะไรจะบอกฌอห์ณไหม?”“ไม่มี”ร่างเล็กลอยขึ้
“ทำไมยังไม่นอน รอฌอห์ณอยู่เหรอ”ฌอห์ณกลับเข้าบ้าน แต่ต้องหยุดชะงักขมวดคิ้วเมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นแฟนสาวนั่งอยู่บนโซฟากำลังตั้งหน้าตั้งตากินอะไรบางอย่างดูน่าเอร็ดอร่อย“ไม่ได้รอ แค่หิวเลยลุกมาหาอะไรกิน” ครีมตอบคำถามโดยไม่มองหน้าฌอห์ณเลยด้วยซ้ำ เธอหยิบสตรอว์เบอร์รีลูกใหญ่ขึ้นมากัดกินตามด้วยโยเกิร์ตรสชาติโปรดปราน โดยมีสายตาของคนที่มาใหม่จ้องมองด้วยความสงสัย ปกติครีมไม่เคยลุกขึ้นมากินจุกจิกอะไรแบบนี้“หิวตอนตีสอง?” เขาเดินเข้าไปหาก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงข้างคนตัวเล็ก ยกแขนพาดหลังโซฟาทำท่าเหมือนโอบไหล่เธออยู่ “แล้วโทรหาฌอห์ณทำไมตั้งหลายสาย มีเรื่องอะไรจะคุยก็พูดมา”“เมื่อก่อนน่ะมี แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”“ฌอห์ณกำลังจะลงสนาม ไม่อยากรับสายให้เสียสมาธิ” ยิ่งเธอพูดแบบนี้ยิ่งอยากรู้ว่าสิ่งนั้นมันคืออะไร“ครีมมันไม่เคยสำคัญอะไรอยู่แล้ว ขนาดครีมป่วย ฌอห์ณยังกล้าทิ้งให้อยู่คนเดียวเลย”“เป็นยังไงบ้าง ไปหาหมอมาหรือยัง?”“ไปมาแล้ว”“แล้วหมอบอกว่าเป็นอะไร?”“เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย”ครีมตอบน้ำเสียงเรียบนิ่ง หันมองหน้าคนรักที่ดูเหมือนจะช็อคค้างกลางอากาศ ท่าทางแบบนี้ไม่เคยได้เห็นจากที่ไหน ก่อนที่ฌอห์ณจะดึงสติก
(พี่ครีม!)เสียงเรียกของน้องชายช่วยปลุกเธอให้หลุดจากความคิด ในขณะที่นั่งเหม่อลอยทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่าน“ว่าไงคราม?”ครามเป็นน้องชายคนกลาง ส่วนเค้กคือน้องสาวคนสุดท้อง อีกไม่นานเธอจะพาน้องๆ ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพ อาจจะเช่าหอเล็กๆ หรือไม่ก็อพาร์ตเมนต์ให้น้องอยู่(ครามไม่อยากอยู่ที่บ้านแล้ว) เพราะชอบถูกพ่อดุด่าอยู่เป็นประจำเวลาพ่อโมโหหนักมักจะด่าทอลามปามไปถึงแม่แบบเสียๆ หายๆ สุดท้ายก็เอามาลงที่ลูก “เกิดอะไรขึ้น?”(พ่อชอบดุครามกับเค้ก ไม่อยากอยู่กับพ่อเลย) น้องชายทำหน้าเศร้า ถ้าได้ย้ายไปอยู่กับพี่สาวคงจะดีกว่านี้“อดทนก่อนได้ไหม อีกไม่กี่เดือนก็จะปิดเทอมแล้ว พี่จะรีบไปรับนะ”(พี่ครีมพูดแล้วนะว่าจะมารับครามกับเค้กไปอยู่ด้วย)“พี่สัญญา”(ครามกับเค้กจะรอพี่นะ)“ครามต้องดูแลตัวเองดีๆ นะ พี่ฝากดูแลน้องด้วย” ครีมยิ้มให้น้องผ่านโทรศัพท์ ถ้าเกิดมาตัวคนเดียวคงตัดสินใจอะไรได้ง่ายกว่านี้ แต่เธอยังมีน้องทั้งสองคนที่ต้องดูแล ยังไงก็ทิ้งไม่ได้(เค้กบ่นคิดถึงพี่ทุกวันเลย ครามก็คิดถึงพี่เหมือนกัน)“รอพี่หน่อยนะ”(ครามจะรอพี่)“เป็นยังไงบ้าง มีเงินไปโรงเรียนกันไหม”(มีเยอะเลย พี่ฌอห์ณโอนเข้าบัญ
“รออยู่ในห้อง ถ้ากลับมาแล้วจะเปิดให้” คนตัวเล็กถูกผลักให้เข้ามาอยู่ด้านใน ทันทีที่กลับมาถึงคอนโด เมื่อเห็นว่าฌอห์ณกำลังจะล็อกประตูจึงรีบวิ่งเข้าไปหา “จะขังครีมไว้อีกแล้วเหรอ แล้วจะขังไปถึงเมื่อไหร่?” “…..” ไม่มีคำตอบใดๆ จากปากแฟนหนุ่ม มีแค่สายตาว่างเปล่าที่ใช้มองเธออย่างพิจารณา “ปล่อยได้ไหม ครีมคงไม่มีปัญญาหนีไปไหนได้อยู่แล้ว ฌอห์ณก็น่าจะรู้ดี” ครีมพยายามพูดหวานล้อมเพราะไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้อีกแล้ว อยากมีอิสระได้ออกไปใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นบ้าง “ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้ คราวหลังก็อย่าคิดจะหนี อย่าคิดจะขัดใจ!” “จะไม่ทำแบบนั้นแล้ว” “หรือถ้าคิดจะหนีขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าครีมจะอยู่ที่ไหน ฌอห์ณจะตามไปลากคอกลับมาเหมือนเดิม” ครีมนั่งบนโซฟาก้มหน้านิ่ง เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาตัวเล็กๆไม่มีความสามารถพิเศษอะไรที่จะหลุดพ้นจากสายตาของเขาไปได้ ยิ่งมีตัวประกันเป็นคนรอบข้าง ยิ่งหมดสิทธิ์ที่จะหนี “วันนี้ไม่ออกไปหาเพื่อนเหรอ” ครีมเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นฌอห์ณหยิบกระป๋องเบียร์ออกจากตู้เย็นแล้วเดินกลับมานั่งดื่มข้างๆ เธอ ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าโชว์รอยสักที่มีอยู่เต็มแผ่นหลัง ส่วนท่อนล่าง
ทางฝั่งนั้นโทรมาเร่งรัดให้รีบพาลูกชายเข้าไปพูดคุยเจรจา ยิ่งทำให้คุณนายบุษยาร้อนใจ ตระกูล ‘กิจธาดาวงศ์’ กับตระกูล ‘เดชากุล’ ปรองดองกันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย แถมยังเอื้อหนุนทำธุรกิจร่วมกัน คุณหญิงบุษยาค่อนข้างมั่นใจว่าลูกชายของเธอต้องชอบว่าที่คู่หมั้นคุณหนูพิมผกาอย่างแน่นอน สวย รวย เก่ง อ่อนหวานแถมชาติตระกูลไม่ได้น้อยหน้าใคร “ถ้าครีมอยากได้เงินเท่าไหร่แม่ยินดีให้ตามที่หนูต้องการ ขอแค่ให้เลิกกับฌอห์ณ” น้ำเสียงที่พูดฟังดูเห็นอกเห็นใจ เพราะรู้ว่าตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาครีมต้องทนรองรับอารมณ์ร้ายๆ ของลูกชายขนาดไหน เงินที่ให้ไปจะถือว่าเป็นค่าทำขวัญ ไม่ว่าเท่าไหร่ก็ยินดีจ่าย “หนูจะได้เอาเงินก้อนใหญ่ไปตั้งตัวเริ่มชีวิตใหม่” ทุกอย่างรอบตัวดูหมุนช้าลง ครีมยังคงยืนนิ่งไม่ได้พูดหรือตอบโต้อะไร “ฌอห์ณมีคู่หมั้นอยู่แล้ว หนูคงยังไม่เคยรู้เรื่องนี้ใช่ไหม” “…..” “ที่ฌอห์ณมาคบกับหนูก็เพื่อรอเวลาให้คู่หมั้นของเขาเรียนจบ ลูกชายแม่เขาไม่ได้จริงจังกับหนูเลยนะ” มือเล็กกำชายกระโปรงของตัวเองไว้แน่น เธอเพิ่งจะรู้ความจริงก็วันนี้ว่าฌอห์ณนั้นมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคย
รถไฮเปอร์คาร์คันสีดำเงาตบไฟเลี้ยวเข้าบ้านหลังใหญ่หรูหราสไตล์ Modern classic ที่มีพื้นที่เกือบสองพันตารางเมตร มีสระว่ายน้ำข้างบ้านขนาดใหญ่ ครีมมาที่นี่ค่อนข้างบ่อยเลยคุ้นชินกับคนในบ้านหลังนี้เป็นอย่างดี “ตาฌอห์ณมาแล้วเหรอลูก” คุณนายบุษยารีบเดินออกไปต้อนรับถึงหน้าประตู เธอยืนอ้าแขนรอรับลูกชายกลับบ้านในรอบเดือน “แม่โทรตามผมมามีอะไรหรือเปล่า” “แม่คิดถึงฌอห์ณ อยากทานข้าวด้วย ทำไมพักนี้ไม่เข้ามาหาแม่บ้างเลย” “ผมไม่ค่อยว่างน่ะสิ” “สวัสดีค่ะ” คนตัวเล็กรีบยกมือไหว้ทักทายด้วยความนอบน้อม โดยมีคุณหญิงคอยยืนยิ้มให้ “สวัสดีจ้ะหนูครีม เป็นยังไงบ้าง ไม่เจอกันนานเลยนะ” “ครีมสะ…สบายดีค่ะ” เสียงหวานพูดคำว่าสบายดีไม่ค่อยเต็มเสียงมากนัก “วันนี้อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันนะ แม่มีเรื่องอยากจะคุยกับหนูเยอะแยะเลย” ครีมยิ้มรับไม่ปฏิเสธก่อนที่ฌอห์ณจะโอบเอวเธอไว้แน่นให้เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกัน “แล้วพ่อไปไหน?” “พ่อออกไปลงพื้นที่หาเสียง กว่าจะกลับก็คงดึก” “…..” ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา ตั้งแต่จำความได้ พ่อเอาแต่ทำงานแทบจนแทบไม่มีเวลาเจอหน้ากันในแต่ละวัน และมันก็เป็นแบบนั้นมาหลายสิบปีจนถึงตอนนี้ “ไปทานข
“ฌะ…ฌอห์ณ”ของเหลวสีขาวขุ่นที่ถูกปล่อยเข้าไปก่อนหน้า ค่อยๆ ทะลักไหลออกจากช่องทางฉ่ำเยิ้มยามที่ท่อนเอ็นลำใหญ่กระแทกเข้าออกจนเปรอะเปื้อนต้นขาขาวเนียน สองขาเรียวยกเกี่ยวเอวสอบไว้แน่นเพื่อให้แฟนหนุ่มผ่อนแรงลงฌอห์ณเข้ามามีอะไรกับเธอทุกวันจนพอใจ เสร็จแล้วขังเธอเอาไว้ในห้องนอน ส่วนเขาออกไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อน กว่าจะกลับมาก็เกือบรุ่งสาง เป็นแบบนี้ทุกวัน จากวันเลื่อนเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เลื่อนไปเป็นเดือนเดือนกว่าที่ครีมต้องใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดไม่ได้ออกไปพบเจอผู้คนภายนอก“วันนี้ฌอห์ณสัญญาแล้วนะ ว่าจะให้ครีมโทรหาพ่อกับน้อง”“ขึ้นอยู่ที่ครีมนั่นแหละว่าจะทำให้ฌอห์ณพอใจมากแค่ไหน”“…..”“ตอนที่เอากันอย่าพูดถึงเรื่องอื่น ถ้าฌอห์ณหมดอารมณ์ขึ้นมาระวังจะเจ็บตัว”“อื้ออ…เข้ามาลึกเกินไปแล้วนะ”ครีมยกมือขึ้นกุมหน้าท้องของตัวเองไว้แน่น กลีบดอกไม้งามเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงช้ำหลังจากโดนเสียดสีอย่างรุนแรงเป็นเวลานานดวงตาคู่สวยจ้องมองแฟนหนุ่มที่กำลังเสพสมอยู่บนเรือนร่างของเธอ ได้แต่ภาวนาให้เรื่องทั้งหมดรีบผ่านไปสักที“เมียฌอห์ณบอบบางจังเลยนะ โดนเอาทุกวัน ยังไม่ชินอีกเหรอ” ชายหนุ่มเปล่งเสียงน้ำเสียงแหบพ
เสียงสะอึกสะอื้นออกจากริมฝีปากเล็ก ครีมก้มหน้าร้องไห้จนตัวสั่นแต่ฌอห์ณยังคงนิ่งคอยเหลือบสายตามองอยู่บ่อยๆ“ร้องไห้ทำไมนักหนา แค่จะพากลับบ้าน ไม่ได้พาไปตาย!”“ครีมไม่อยากไปกับฌอห์ณ”ชายหนุ่มรีบตบไฟเลี้ยวหักพวงมาลัยรถหลบเข้าข้างทางกระทันหันหลังจากได้ยินประโยคแสลงหู“พูดแบบนี้หมายความว่าไง อยากกลับไปหาไอ้เวรนั่นมากใช่ไหม!”“ไม่ใช่เลย เขาเป็นแค่รุ่นพี่ที่ทำงาน” ร่างบางส่ายหน้าปฏิเสธ ฌอห์ณกำลังเข้าใจผิดและทำให้เรื่องราวมันบานปลาย“จะเป็นอะไรก็ช่าง แต่ฌอห์ณขอสั่งห้าม! ไม่ให้ครีมไปยุ่งกับผู้ชายคนไหน!”“…..” หญิงสาวสะอึกสะอื้นเบือนหน้าหันหนียามที่เขาโน้มริมฝีปากลงมาใกล้หมายจะจูบเธอ“ทำไมไม่มองหน้าฌอห์ณ?”“…..”“รังเกียจผัวตัวเองขนาดนั้น?” “…..”“ถ้าคิดจะเกลียดก็อย่าลืมนึกถึงตอนที่ตัวเองนอนอ้าขาให้ฌอห์ณเอาด้วยนะ”“ครีมไม่น่าตัดสินใจผิดมาคบกับฌอห์ณเลย ไม่น่าเลยจริงๆ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ครีมอยากขอให้เราไม่รู้จักกัน”คนตัวเล็กพรั่งพรูความในใจ เขาเคยเป็นคนที่ดีกว่านี้ รักและใส่ใจเธอมากกว่าใคร แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไป“ก็เสียใจด้วยแล้วกันที่คิดผิด สุดท้ายเลยได้คนชั่วๆ แบบฌอห์ณเป็นผัว!”ชายหนุ่มเหยี