หลังจากที่ ‘รถถัง’ เข้ามาอยู่ในไร่กรุณาธร สิ่งที่รถถังแปลกและไม่เหมือนวัวตัวอื่น ๆ คือ รถถังเป็นวัวที่พูดรู้เรื่อง และมีนิสัยคล้ายเจ้าของ นั่นคือคล้ายกับเจ้ดาวเรืองนั่นเอง
เนื่องจากไร่ของเราไม่ได้เป็นไร่สำหรับการท่องเที่ยวอะไร หรือเรียกง่าย ๆ ว่าไร่ระบบปิด ไม่ได้เปิดให้เป็นคนทั่วไปมาเที่ยวเหมือนไร่ที่เขาทำกัน แต่มีผู้สนใจได้ยินข่าวนิด ๆ หน่อย ๆ มาจากในจังหวัด แล้วอยากเข้ามาเที่ยวชม ซึ่งทางเราและทางบ้านไร่กรุณาธร ต่างก็ปฏิเสธเหมือนกัน เว้นแต่ว่าทางการมีหนังสือมาขอเข้าตรวจเยี่ยมชม หรือตรวจมาตรฐานการผลิต อันนี้เรายินดีเต็มที่อยู่แล้ว ถูกกฎหมายเป็นเรื่องที่ทางไร่เราเน้นที่สุด
ในตอนแรกผมกับเจ้เคยคุยกันเกี่ยวกับเรื่องอาหารของเจ้ารถถัง คือเรามีอาหารเสริมอย่างอื่นตามที่ทางเกษตรอำเภอแนะนำ ที่เรากลัวกันคือ ‘กลัวหญ้าไม่พอให้รถถังบริโภค’
ปัญหานี้ในขณะนี้ตัดไปได้เลยครับ
คุณชายออโต้จัดให้ บวกกับในตอนนี้ไร่เราปลูกหญ้าเอาไว้ให้เจ้ารถถังอีกส่วนหนึ่ง พ่อเลยให้จ้างพนักงานในไร่แบบรายวันเข้ามาทำความสะอาดที่พักของเจ้ารถถัง และเกี่ยวหญ้ามาเก็บไว้ให้มันกินด้วย ว่าง่าย ๆ คื
“เรื่องนั้นแม่บอกหลินแล้วว่ามีใช้เงินนะ เขาไม่ติดเรื่องนี้ แต่ก็ให้บอกประมาณการเงินไปให้เขาหน่อย”“ได้ครับแม่ ถ้าเขามีคอมพิวเตอร์อยู่แล้วก็อาจจะแค่ต้องไปถ่ายรูป นั่น นี่ นู่นเยอะแยะอยู่นะครับ ไร่ของเราเองยังขาดพวกรูปภาพสวย ๆ ยังดีที่เรายังมีกล้องที่แม่เคยซื้อให้สมัยที่ผมเรียน มันยังใช้ได้ดี เดี๋ยวจะเอามาใช้กับงานพวกนี้เลย”ผมร่ายยาว จนทุกคนละทิ้งจากจานข้าวมาฟังผม“เพลินจังแก พูดเพราะ เสียงดี แกน่าจะเป็นนักร้องนะ” เจ้ดาวเรืองแกล้งทำตาเคลิ้ม“เหอะ ดนตรีพอได้แต่ให้ร้อง ไม่ไหวว่ะเจ้” ผมแขยงการร้องเพลงครับ ไม่เพี้ยน แต่ก็ไม่เพราะ ถ้าดนตรียังพอได้บ้างนะ พวกเปียโน คีย์บอร์ด ฟลูต ผมพอได้“แม่ ๆ คู่จิ้นคอนเทนต์ต้องมานะ” เจ้เสริมเรื่องที่ผมคิดไว้ จากสายตาที่ส่งมาของเจ้“ว่าแล้ว” เป็นหวยผมคงถูกรางวัลใหญ่ สายตาแบบนี้ผมเคยเห็นตอนที่ผมเผลอหลับบนเตียงเดียวกับออโต้เมื่อหลายวันก่อน“จิ้นกับใครเหรอดาวเรือง” เอาละครับ แม่ผมสนใจขึ้นมาแล้ว“หนุ่มไร่ข้าง ๆ เราไงแม่ ออโต้ ออโต้” ดาวเรืองเสนอชื่ออย่างไม่รีรอแม่ขำกิ๊ก ขณะที่พ่อยัง
ระหว่างทางเดิน ผมคิดว่าอยากเปลี่ยนไอ้ทางตัวหนอนนี่ให้มันเรียบแล้วใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขี่มา น่าจะเร็วและไม่ร้อนแบบนี้“ร้อนอิ๊บอ๋าย” ผมบ่นไปเดินไปไม่นานก็ถึงประตูทางเชื่อม ประตูเปิดไว้อ้าซ่าจริง ๆ มีร่องรอยอารยธรรมของเจ้ารถถังบ่งบอกว่ามันเดินมาถึงนี่แล้วก็ข้ามประตูนี้ไปอะไรรู้ไหม?อึวัวไงคุณ มันเป็นเครื่องย่อยต้นหญ้าเคลื่อนที่นะ กินปากออกตูด ตลอดวัน นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็น... คิดเองนะครับผมขอถือวิสาสะข้ามรั้วไป ผมพอจำทางได้ครับ พอข้ามรั้วไปผมก็เร่งฝีเท้าพร้อมกับดูซ้ายขวาไปตลอดทาง ร่องรอยของรถถังหายเข้าไปในดงหญ้าก่อนถึงตัวบ้านของออโต้ราว ๆ ร้อยเมตร มันตัดตรงลงพงหญ้าแล้วหายไปในนั้น ผมตามไปไม่ได้เพราะหญ้าค่อนข้างสูง“มันไปไหนของมันวะ ไอ้เด็กวัว” ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินต่อไปยังบ้านของออโต้เมื่อไปถึงก็พบว่าออโต้ยืนรอผมอยู่พร้อมรถไฟฟ้าคันเดิมที่ผมเคยนั่ง“รออยู่ เจ้โทรมาบอกแล้ว ตอนนี้น้าดิเรกช่วยจับวัวไว้ให้แล้ว”“เจอแล้วเหรอ” ผมที่เริ่มหอบเพราะร้อนและเหนื่อย ยิ้มออกมาได้“เห็นน้าว่ามันเดินเข้าไปหา ก็เลยจั
หลังจากคุยกับครอบครัวของออโต้เป็นที่เรียบร้อย ผมขอตัวกลับมาเอาโน้ตบุ๊กและไอแพดที่บ้าน ขากลับผมเห็นพี่ไม้ กำลังมาไล่เก็บอึของรถถัง พอเห็นผมก็รีบร้องทักทายอย่างดีใจ“สวัสดีครับคุณทานตะวัน” แล้วเขาก็หันกลับไปก้มหน้าก้มตาเก็บกวาดต่ออย่างตั้งใจผมเดาว่าตอนนี้เจ้ารถถังน่าจะกลับไปบ้านเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้ถามอะไรเขาอีก ยิ้มให้แล้วรีบเดินข้ามประตูกลับไปที่บ้านผมลืมร่ม!เดินตากแดดไปสิครับ รอบนี้ เดี๋ยวกลับมาอีกรอบผมจะขับรถเข้ามาทางหน้าไร่แล้ว มีสัมภาระมาด้วยนี่เดินฝ่าแดดกลับมาไม่ไหวจริง ๆผมกลับมาถึงบ้าน เจอแค่แม่เฟื่องฟ้าที่กำลังนั่งดูงานบัญชีอยู่ ผมลืมเล่าไปว่า บ้านผมมีห้องแล็บด้วยนะจะบอกให้พ่อแม่ผมจบฟู้ดไซน์ เขาทั้งสองถนัดในการทำเครื่องดื่ม ไวน์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเขา และห้องลดทองที่ว่า เหมือนเป็นห้องตรวจสอบคุณภาพไปด้วยในตัวแม่เล่าว่า บ่อยครั้งที่เราจะเมากันทั้งบ้าน เพราะต้องมาเทสไวน์กันด้วยดีงามมากผมเดินไปบอกแม่ว่าจะไปทำงานที่บ้านไร่จินตรา ท่านรับรู้แล้วโบกมือบ๊ายบายให้ผม คงกำลังติดพันงานอยู่&nb
ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง ติ๊ง....ผมเอื้อมไปกดนาฬิกาปลุกที่หัวเตียง เอาจริงนะ ทำงานที่บ้านแบบนี้มันไม่น่าจะต้องตั้งนาฬิกาปลุกหรอก ใช่ไหม แต่เชื่อผมเถอะ ต้องปลุก เพราะถ้าไม่ปลุก จะมีคนมาช่วยปลุก จะใครล่ะ ก็เจ้ดาวเรืองนั่นแหละผมตื่นขึ้นในช่วงเช้าของทุกวัน วันนี้เป็นอีกวันที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับกิจกรรมที่กำลังจะเริ่มหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ‘พารถถังเดิน’วันนี้เจ้ดาวเรืองเข้าเมืองแต่เช้ามืด จึงฝากให้ผมช่วยพาเจ้าเด็กวัวออกเดินเล่นในไร่ ประมาณว่าจะได้เป็นวัวที่แข็งแรง และรวมมาถึงน้องชายของเธอจะได้ไม่อ้วนลงพุงด้วยผมไม่อ้วนเสียหน่อย อยู่ไร่นี้แค่เดินไปท้ายไร่ทุกวันก็ผอมแล้วครับ บอกเลยว่าในแต่ละวัน ผมเดินไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเมตร กล้ามขาจะมีมากกว่ากล้ามแขนเสียอีกเธอให้ผมช่วยพาเดินแล้วค่อยเอาไปเก็บในโรงเลี้ยง รอให้พี่ไม้เข้างานในช่วงแปดโมงเพื่อเข้ามาจัดการอาบน้ำ ให้หญ้าต่อไปผมคว้ามือถือก่อนจะออกมาที่โรงเลี้ยงรถถัง พอมันเห็นหน้าผม มันก็ร้องเรียกทันที“มอ มอ ฟี๊ดด”เสียงอันหลังนี่คือมันพ่นล
ออโต้ได้ยินที่ผมเล่าก็พยักหน้ายืนยันว่าจริง แถมยังเพิ่มข้อมูลล่าสุดให้ผมฟังว่า“เคยได้ยินแม่บอกว่าการพีอาร์ ของแม่เป็นรุ่นโบราณ สมัยใหม่แบบพวกเพจออนไลน์อะไรแบบนี้แม่ไม่ถนัด แต่ถ้าให้แม่ออกกล้องหรืออ่านข่าววิทยุละก็ แม่ไม่แพ้ใครเลย” ออโต้เมื่อพูดถึงแม่ ดูเขาภาคภูมิใจมาก ผมเองก็ยังรู้สึกว่าน้าหลินเป็นคนเก่งมาก ๆ คนหนึ่งนะ“ไว้เราอาจจะยืมเสียงน้าหลินมาทำคอนเทนต์ก็ได้นะ” ผมขยิบตา ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องกลับมาที่งานของเราในตอนนี้เราตกลงกันว่าจะเริ่มไปถ่ายในไร่ที่ผลไม้กำลังสุก รอเก็บมาตัดแยก“งั้นไปทางโรงปลูกที่แปด วันนี้น่าจะรอเก็บแล้ว” ออโต้บอกผมหลังจากที่เขาเปิดแท็บเล็ตขอตรวจดูข้อมูล“ใช้แอปอะไรเช็คข้อมูลผลไม้สุกเนี่ย” ผมอดถามไม่ได้“เปล่า ก็ใช้ปฏิทินออนไลน์ช่วยน่ะ ออโต้จะรู้ว่าผลไม้โรงไหนเริ่มออกลูกตอนไหน ก็คำนวณได้เลยว่าอีกกี่สัปดาห์ กี่วัน ที่ผลไม้จะสุกพร้อมให้เก็บน่ะ”ออโต้อธิบายยืดยาว ผมสรุปความว่า ออโต้ใช้การบันทึกลงในปฏิทินออนไลน์ แต่เป็นการคำนวณแบบแมน่วลที่อาศัยความรู้เฉพาะตัว“ใช้คนเดียวเหรอ” ผมถา
Part’s ออโต้เขาให้ผมออกมาพูดบ้างผมคชา หรือออโต้ที่หลายคนรู้จักกันแล้ว หลังจากที่ผมเรียนจบปริญญาตรีในสาขาการเกษตรจากมหาวิทยาลัยในจังหวัด ผมไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพียงแต่อยู่บ้านมากขึ้น ทำงานช่วยคุณพ่อคุณแม่มากขึ้น นำสิ่งที่เรียนมาใช้ ซึ่งเอาจริงนะ ตอนเรียนกับของจริงมันต่างกันอยู่มาก แต่คอนเน็กชันต่างหากที่ผมได้มาอาจารย์ของผมหลายท่านชำนาญและเก่งเรื่องพืชสวนพืชไร่ ผมจึงขอคำปรึกษาแลกกับการขอเข้ามาดูงานบ้างอะไรบ้างนิดหน่อย มันไม่เป็นปัญหาอยู่แล้วแถมที่บ้านยังมี ‘เจ้’ ข้างบ้านคอยเข้ามาช่วยเหลืออีกต่างหากในระหว่างที่เรียน ผมมีเพื่อนผู้หญิงมาจีบอยู่บ้าง แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ผมอยู่รอดปลอดภัยมาถึงตอนนี้ นั่นคือ ผมมุ่งเรียนให้จบ และผมมีสัญญากับใครบางคนที่ไม่รู้ว่าเขาลืมรึยังมันเป็นสัญญาในวัยเด็ก แต่ไม่คิดว่ามันจะทำให้ผมกลายเป็นคนที่ยังไม่รู้ว่าตกลงชอบผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่คนที่ผมสัญญาด้วย เขาหายไปจากชีวิตจริง ๆ นับจากที่เขาย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ถาวร กล่าวคือเขาไม่กลับมาที่นี่อีกเลยเป็นเวลาสิบกว่าปีมันเจือจางไปตามกาลเว
ทานตะวันเวลานี้ดูปล่อยตัวตามสบายมากกว่าตอนอยู่ในไร่มาก ผมแอบหวั่นใจ กลัวว่าทานตะวันจะเบื่อแล้วขอกลับไปอยู่กรุงเทพฯ จัง“ไปกันเถอะ” ผมสะดุ้งเมื่ออยู่ดี ๆ ทานตะวัน ดึงแขนผมให้ออกเดินต่อ พอเขาได้น้ำตาลสดเหมือนจะมีพลังขึ้นมา ทานตะวันเดินจับแขนผมลากไปดูของพื้นเมืองที่อยู่ถัดไปอย่างรวดเร็ว เวลานี้ผมคงปล่อยให้เขาลากไปนั่นไปนี่ได้เต็มที่ผมเดินตามแรงดึงของทานตะวันไปเรื่อย ๆ เขาอยากดูอะไร ผมก็ดูไปด้วย จนเรามาสะดุดที่ร้านเสื้อสกรีน“เสื้อคู่” ผมบอก เมื่อสังเกตว่าร้านนี้เน้นเป็นเสื้อคู่ทั้งร้านลายหมาคู่กับแมว น่ารักดี ผมนึกไปถึงเจ้ดาวเรือง น่าจะมี คนคู่กับวัวเข้าท่าดีนะ“ตัวนี้ดีไหม” คำถามจากทานตะวัน ดึงผมกลับมาโฟกัสที่เสื้ออีกครั้ง“ยังไง” ผมยังไม่เข้าใจความหมาย“ผัก ผลไม้ ออโต้กับเรา”“หืม?”ผมเพิ่งสังเกตว่ารอบข้างผม นอกจากทานตะวันแล้ว มีแม่ค้าร้านเสื้อที่กำลังยิ้มหน้าแดง กับคนรอบ ๆ ข้างที่น่าจะเป็นลูกค้าแต่กลับมาลุ้นอะไรกับผมกับทานตะวันเนี่ย?“เอ่อ คือ” ผมเริ่มประหม่า พวกเร
Part ‘s ดาวเรืองขอพื้นที่ให้สาวสวยหน่อยค่ะเอ่อ ขอเรียกแทนตัวเองว่า ‘ดาว’ ก็แล้วกันนะคะอันที่จริง ดาวก็ไม่อยากยุ่งเรื่องของคนอื่นนัก หากว่าเรื่องนั้นไม่ใช่เรื่องของน้องชายสุดที่รักของดาวอย่าง ‘ทานตะวัน’ หรือตะวันตั้งแต่เด็กมา ดาวคือหัวหน้าของเด็กทั้งหมดในไร่และลูกน้องของพ่อ ไม่อยากเรียกตัวเองว่าเจ้าแม่หรอกนะคะ เพียงแค่สามารถดูแลไม่ให้น้อง ๆ ทะเลาะกัน รวมถึงควบคุมไม่ให้พวกเขาไปเล่นในเรื่องที่พิเรนทร์หรือทโมนจนเกินไปพ่อแม่ไว้ใจว่างั้นเถอะ อยู่เป็นเพื่อนเล่นหลังเลิกเรียนไปเรื่อย ๆ น้อง ๆ ก็ค่อย ๆ หายไปทีละคนสองคนด้วยเหตุผลต่าง ๆ กันไป เช่นพ่อแม่ย้ายถิ่น ย้ายที่เรียน เริ่มโตขึ้นไม่อยากจะมาเล่นด้วยแล้วสารพัดนะคะก็แล้วแต่!สุดท้ายเลยเหลือกันแค่ 3 คน คือดาว ทานตะวัน และออโต้ ลูกเพื่อนพ่อที่อยู่ไร่ข้าง ๆที่จริงดาวเองก็กลัวนะคะ กลัวว่าเราเป็นผู้หญิงแล้วสองคนนั้นเป็นผู้ชาย พอเริ่มโตขึ้น มันจะมีปัญหาอะไรไหม ปัญหากลายเป็นว่าดาวนี่แหละ ที่ต้องแยกตัวออกมาจากน้องทั้งสอง เพราะดาวต้องเรียนในชั้นที่สูงขึ้น ย้ายโ
+++++ตะวันกลับออกมาด้วยเสื้อผ้าของผม“น่ารักว่ะ”“อะไร!?” ตะวันทำหน้าตื่นเมื่อผมชมว่าน่ารักแต่ตะวันก็คือตะวัน เขาเปลี่ยนโหมดกลับมาเป็นตัวเองอย่างเร็ว“เรามารอเพื่อเอาหลักฐานมาให้ดูว่าบ้านเราบริสุทธิ์”ตะวันพยายามยื่นมือถือมาให้ผม“เชื่อแล้ว...” ผมตอบ“อะไร ทำไมเชื่อง่าย ๆ ทีก่อนหน้านี้ ไม่ยอมเจอเลย ปิดบ้านหนีอีกต่างหาก” ตะวันก็ยังคงเป็นตะวัน เขาเริ่มเปลี่ยนเป็นโวยวายจนผมต้องรีบยกมือห้าม“เดี๋ยว ๆ ใจเย็น ไหนหลักฐานที่อยากให้ฟัง เปิดให้ฟังสิ” ผมรีบห้ามก่อนที่ตะวันจะโวยวายไปมากกว่านี้ตะวันยอมสงบ เขากดเปิดเสียงให้ผมฟังตั้งแต่ต้นจนจบ“เชื่อตะวันแล้วใช่ไหม”“ก็ไม่เคยไม่เชื่อนะ” ผมตอบจากใจ“เอ้าแล้วทำไมปิดเครื่องหนี ติดต่ออะไรไม่ได้ ปิดประตูทุกช่องทาง” ตะวันกลับมาเริ่มโวยวายอีกจนผมต้องใช้ไม้ตายหมับ!ผมกอดตะวันไว้แน่น ตะวันเริ่มหายใจราบเรียบขึ้น ผมสัมผัสได้ว่าหัวใจของตะวันเต้นแรงและเร็ว ซึ่งไม่ต่างจากผมในตอนนี้ที่&
Part ทานตะวันผมจ้องมองหน้าจอจนแน่ใจว่าไฟล์เสียงที่เจ้ดาวแชร์มาให้ มันเป็นคลิปจากเครื่องของเจ้เองและจากเครื่องของพี่อัค ตอนนี้ส่งมาครบถ้วนแล้วขณะนั้นเองท้องฟ้าเมฆดำอิ่มตัว เริ่มร้องคำราม ฝนน่าจะตกหนักในไม่ช้า ผมเห็นเจ้ดาวกับพวกพากันวิ่งออกไปเก็บลังผลไม้หน้าร้านเพื่อไม่ให้ถูกฝนเข้ามาในร้าน ผมจึงคิดได้ว่าถ้ารีบไปหาออโต้แล้วทำความเข้าใจกับเขาโดยให้ฟังคลิปเสียงนี้ เขาน่าจะเข้าใจผมมากขึ้นรออะไรล่ะ ไปสิครับ ก่อนที่ฝนจะลง ผมเดินออกทางหลังร้านลัดไปยังลานจอดรถเพื่อขับรถไปไร่กรุณาธร ซึ่งผมก็คงต้องจอดอยู่แค่หน้าไร่นั่นแหละ ตายิ้มแกคงไม่ยอมให้ผมเข้าไปอยู่ แต่เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเสี่ยงใช่ไหมผมเงยหน้ามองท้องฟ้าเมื่อลงจากรถ ฝนใกล้จะตกเต็มแก่แล้ว แต่มันยังไม่เท่ากับความต้องการพิสูจน์ให้ออโต้ได้รู้ว่าบ้านผมบริสุทธิ์ใจจริงผมเดินไปที่ป้อมหน้าของบ้านไร่กรุณาธร เห็นตายิ้มยืนมองอยู่ก็รู้แล้วว่าเดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้น“ตายิ้ม ผมมาหาออโต้”“คุณกลับไปเถอะครับ” ตายิ้มพูดอย่างสุภาพ
หลังจากนั้นชั่วโมงกว่า ๆ อัคก็เดินทางมาถึงไร่ ดาวสั่งให้ป้อมหน้าเปิดรอรับประดุจแขกวีไอพี. เดินทางมาเที่ยวชมไร่เลยค่ะ แต่เปล่านะคะ ที่จริงเตรียมการสอบสวนอย่างเข้มงวดไว้รอต่างหาก“เข้ามาก่อนตรงนี้เลยครับ” ทานตะวันเชื้อเชิญเพื่อนของดาวเข้าบ้านอย่างเสแสร้ง แต่พอให้หลังอัค ทานตะวันก็กดล็อกประตูหน้าบ้านทันที น้องฉันไม่ธรรมดาเหมือนกันส่วนดาวในตอนนี้ได้เตรียมภาพเอกสารหลักฐานและหันกล้องวงจรปิดที่อัดเสียงได้มาเตรียมรอ รู้ค่ะว่ามันผิดกฎหมาย แต่ทำยังไงได้คะ จะจับผู้ร้ายมันก็ต้องเก็บหลักฐานสิคะอัคนั่งลงที่โซฟาด้วยท่าทางกระตือรือร้น มองซ้ายมองขวากวาดตา มองไปรอบห้อง“นายมองหาอะไรอัค” ดาวถามเพื่อนเสียงต่ำ เวลานี้บรรยากาศภายในห้องเริ่มอึมครึมขึ้นมา แม่บ้านเดินมาเสิร์ฟน้ำด้วยท่าทีมึนตึงตึ๊ก...แม่บ้านวางแก้วกระแทกโต๊ะ อัคสะดุ้งเฮือก แต่กิริยากลับไม่มีใครต่อว่า ใครจะว่าล่ะค่ะ ทุกอย่าง...‘การละคร’ ค่ะทานตะวันเข้าไปนัดแนะให้พี่แม่บ้านทำมึนตึงออกไปเสิร์ฟน้ำ ซึ่งอาการของอัคทำใ
Part ดาวเรืองดาวรู้เรื่องที่น้าชายเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จากทานตะวัน จึงพยายามติดต่อกลับไปเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่า ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นน้าสมชายเอง น้าหลิน และออโต้ ไม่มีใครรับสายหรืออ่านข้อความ เดาว่าน่าจะยุ่งอยู่กับเรื่องอุบัติเหตุ จึงบอกกับทานตะวันว่ารุ่งขึ้นให้ลองติดต่ออีกทีรุ่งขึ้น แม่เฟื่องฟ้าบอกว่าติดต่อกับน้าหลินได้แล้ว น้าหลินบอกว่าน้าสมชายไม่เป็นอะไรมากขณะที่ดาวกำลังนั่งคุยอยู่กับแม่เฟื่องฟ้า พ่อมงคลก็เข้ามาสมทบ แล้วบอกว่า ระหว่างพ่อแม่ กับน้าชายน้าหลิน เราเชื่อใจกัน แต่ก็คงต้องหาข้อมูลว่ามันเป็นการข่มขู่ หรืออุบัติเหตุจริง ๆ“คุณดาวเรือง พี่มีเรื่องจะรายงานและแจ้งข่าวครับ”พี่ไม้ ผู้ดูแลน้องรถถังของดาว โผล่หน้าเข้ามาด้วยความไม่แน่ใจว่าจะสะดวกรึเปล่า“เข้ามาสิพี่ น้องรถถังไปทำเรื่องอะไรอีกล่ะ” ดาวคิดว่าเป็นเรื่องของรถถัง แต่กลับไม่ใช่“ไม่ใช่รถถังครับ แต่เป็นเรื่องที่ตอนนี้กำลังเกิด เรื่องไร่ข้าง ๆ ครับ”
ผมเดินลงมาจากบ้านเพื่อจะไปดูรถของพ่อที่พี่ผันขับมาจอดไว้ที่หน้าบ้านแล้ว แต่กลับพบว่าตายิ้มกับพี่ผันยืนรอผมอยู่“รถเป็นไงบ้างพี่” ผมถามพี่ผัน“ผมขับรถกลับมาแล้ว รถเสียศูนย์ต้องไปตั้งศูนย์ใหม่ แล้วก็กันชนบุบนิดหน่อย ไฟแตกข้างซ้าย ที่เหลือไม่เป็นอะไรครับ”พี่ผันรายงาน“ส่วนอีกเรื่อง มีข่าวลือว่าที่คุณสมชายโดนรถปาดหน้า จะเป็นเพราะไม่ยอมขายที่รึเปล่า แบบว่าข่มขู่เหมือนในละครน่ะ” ตายิ้มที่นาน ๆ จะพูดที ร่ายยาวผมเอง ในตอนแรกไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนี้เลย กลับต้องมาฉุกคิดทันที เพราะพ่อสมชายอยู่มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเลย สักครั้งก็ไม่เคยมีแต่พอมีนายหน้ามาติดต่อจะซื้อที่ดิน แล้วพ่อไม่ยอมขาย หลังจากนั้นก็เกิดเรื่อง เวลามันคล้องจองมาก“แล้วยังไงต่อตายิ้ม” ผมเห็นว่าแกยังฮึดฮัดอยู่กับพี่ผัน เหมือนพี่ผันไม่อยากให้ตายิ้มพูดอะไรต่อ“มีอะไรว่ามาเลยตายิ้ม พี่ผัน ให้แกพูดเถอะ”ผมปรามพี่ผัน ทำให้พี่ผันจำยอม ถอยห่างออกจากตายิ้ม“คื
Part ออโต้ช่วงนี้งานเยอะครับ หลังจากที่พ่อตัดสินใจว่าเพิ่มกำลังการผลิตพืชไฮโดรโปนิกส์ให้มากขึ้น ทันต่อปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นมาอย่างพรวดพราดอันเกิดจากการเปิดไร่เข้าสู่โลกออนไลน์เรื่องนี้ยกให้ทานตะวันเขาล่ะครับความสนิทของเราทั้งสองกลับมาได้ดีกว่าเดิมมาก นั่นอาจเป็นเพราะเราทั้งคู่โตขึ้นมาก รึเปล่า?แต่ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาไปเจอทานตะวันเท่าไร เวลาเขามา หากไม่ได้บอกไว้ก่อน ก็ต้องเข้าไร่ไปหาผมอีกที คุยอะไรก็ไม่ถนัดเพราะมันอยู่ในโรงปลูกไฮโดรโปนิกส์ มีคนงานหลายคน สำคัญคือมันร้อน ทานตะวันไม่ชอบสิ่งนี้ครับขณะที่ผมกำลังช่วยปรับสารเคมีสำหรับใช้ในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ผมเห็นพ่อนั่งพักร้อนอยู่ใต้ต้นไม้หน้าโรง จึงพักงานแล้วออกไปนั่งคุยด้วยพ่อเล่าให้ผมฟัง ว่ามีนายหน้าเข้ามาสอบถามว่าอยากขายที่ดินไหม ผมขมวดคิ้วทันที ส่วนพ่อ พอเห็นผมขมวดคิ้วก็หัวเราะเบา ๆ ออกมา“ปฏิเสธไปแล้วน่ะ เขาก็ไม่อะไรนะ แต่ถือว่ากล้าบ้าบิ่นมากที่ใช้ความเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารอ
Part ทานตะวันผมหลับไปตอนไหน จำไม่ได้จริง ๆ แต่พอตื่นขึ้นมา มันปวดหัวเหมือนคนดื่มเหล้ามาแบบสุดซอย ความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัว ใช่แล้ว วันนี้ผมมีธุระสำคัญอย่างหนึ่ง และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดหัวใช่แล้ว ผมต้องไปหาออโต้กิจวัตรยามเช้าประจำวันของผมหลังจากทำกิจส่วนตัวเสร็จ ก็ต่อด้วยอาหารเช้ากับพ่อแม่และพี่สาว ซึ่งบางวันพ่ออาจจะไม่ได้มาร่วมโต๊ะเพราะต้องเข้าไร่แต่เช้ามืด บางวันก็เหลือแต่ผมกับแม่ เจ้ดาวเรืองจะหายตามพ่อไปด้วยอีกคนวันนี้เจ้ดาวไปธุระกับพ่อในเมือง บ่าย ๆ คงกลับมา จึงเหลือแค่เพียงผมกับแม่ที่ร่วมโต๊ะอาหารกันมื้อนี้เป็นโจ๊กที่แม่บ้านทำเตรียมไว้ให้ บางวันมีปาท่องโก๋พ่วงท้ายมาด้วย ที่มาที่ไปของปาท่องโก๋นี้คือ แม่เฟื่องฟ้าฝากให้พี่คนงานที่มาทำงานเช้าซื้อเข้ามาจากตลาดในหมู่บ้านบางวันก็เป็นขนมครก ผมยังเคยคิดว่าจะชวนออโต้เข้าไปเดินเล่นที่ตลาดในหมู่บ้านบ้าง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่เคยได้ไปสักที ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ ตื่นไม่ทัน ตลาดวายก่อน
Part ทานตะวันผมยังอยู่ในสภาพจมที่นอนหลังจากที่นั่งตัดคลิปวิดีโออยู่จนดึก ถึงแม้ว่าจะตัดได้ไม่ขั้นเทพเหมือนคนอื่น แต่ก็ถือว่าพอใช้งานได้ก็แล้วกันวันอาทิตย์แบบนี้ ผมไม่อยากตื่นเท่าไร อยากจมอยู่บนที่นอนแบบนี้อีกสักหน่อย แต่ทว่า“แก ตื่นได้แล้ว” เสียงเกือบตะโกนจากหน้าประตูห้องผมดังขึ้นผมพยายามไม่ตอบ แต่ทำไม่ได้น่ะสิ“ตื่นแล้ว โอ๊ย นี่วันอาทิตย์นะ” ผมโวยกลับ“หัดตื่นมาใส่บาตรกับที่บ้านบ้าง”ผมนึกถึงการใส่บาตร จริงสินะ ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ยังไม่เคยตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อใส่บาตรไหว้พระอะไรเลยเอาจริง แม่เคยถามผมเรื่องบวชพระ แต่ผมยังไม่ได้ตอบอะไร ไม่มีแพลนอะไรเกี่ยวกับการบวช รู้แหละครับว่าพวกเขาอยากให้บวชเพราะอะไร แต่ผมอยากถามว่ามันจำเป็นด้วยเหรอ กฎหมายกำหนดรึเปล่า ไม่นะ แต่คงเป็นไปตามจารีตประเพณีที่ว่า บ้านไหนมีลูกชาย ก็อยากจะให้บวชเผื่อเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์รอก่อนนะ ผมยังไม่คิดผมเหลือบไปมองนาฬิกาที่ข้างฝาผนัง แม่เจ้า
เช้าวันเสาร์ท้ายสัปดาห์ที่แสนวุ่นวายของอัค หลังจากที่เขาตัดสินใจว่าจะเดินทางเข้าไปที่บ้านไร่จินตรา ครั้งนี้เขากะว่าหลังจากไปขอพบเจ้าของบ้านไร่จินตราแล้ว ค่อยแวะหาเพื่อนของเขาตอนจะกลับอีกทีชายหนุ่มแต่งตัวในชุดสุภาพตามสไตล์ของเขา ไม่มีการนัดล่วงหน้าใด ๆ กับเจ้าของไร่ ดูบ้าบิ่นที่สุด ในทีแรกเขาเองก็ไม่กล้าจะทำอะไรบุ่มบ่ามและรวดเร็วแบบนี้‘เงินจำนวนมหาศาลรอเขาอยู่’อัคเป็นพนักงานธนาคารสายสินเชื่อที่มีความรอบรู้ในเนื้องานการปล่อยสินเชื่อมากพอประมาณ แต่อาชีพการเป็นนายหน้า ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขามาก การนั่งอยู่กับโต๊ะหรือออกตลาดเพื่อหาลูกค้ามาขอสินเชื่อ ทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก หากเข้าถึงความจำเป็นการใช้เงินของลูกค้า กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชวนให้น่าสนใจขณะที่อาชีพการเป็นนายหน้า ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าในเรื่องใดก็ตาม แก่นของมันคือ ‘จับแพะชนแกะ’ หาคู่ให้ลงตัว เมื่อความต้องการมาตรงกัน ค่าตอบแทนที่ได้จากฝ่ายที่ขอให้จัดหา มันค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจ เพียงเ