“แกไปนั่งกับออโต้ ฉันจะนั่งข้างหลังเอง” ว่าแล้วเจ้ก็กระโดดขึ้นท้ายรถอย่างชำนาญ ผมเลยไม่ต้องถามอีกว่าจะนั่งตรงไหน เปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างออโต้อย่างไม่ลังเล
รถเริ่มถอยหลัง มันเงียบกริบจริง ๆ
พอรถเริ่มออกตัว มันก็ไปได้ค่อนข้างช้าเพราะทางไม่ได้เรียบเหมือนถนนใหญ่ มันเป็นทางกรวดที่ทำไว้สำหรับใช้งานในไร่จริง ๆ
“ไม่ชอบอะไรรึเปล่า ไม่ค่อยคุยกับเราเลย” ออโต้ที่กำลังขับรถ อยู่ดี ๆ ก็โพล่งถามขึ้นมา
“เปล่านิ เราเอ่อ ตะวันแค่กำลังปรับตัว” ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี ไอ้ครั้นจะบอกว่าประหม่าเพราะแกแหละออโต้ มันก็ไม่ใช่เรื่องนะ เดี๋ยวเกิดออโต้ไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิดไว้ จะเข้าหน้าไม่ติด จะเกิดเรื่องแย่ขึ้นในรุ่นผมได้
“ปรับตัวอะไร แต่เราว่าตะวันเงียบลงเยอะ สุขุม แล้วก็...” เขาหยุดพูดแค่นั้นแล้วหันกลับไปขับรถต่อ
ผมที่ตั้งใจฟังก็คาใจสิ
“ก็อะไร” ปากถาม มือเริ่มทำงานอย่างเคยชิน เอื้อมไปจับแขนเสื้อออโต้ไว้ คาดคั้น
“น่ารักขึ้นมากด้วย” ออโต้พูดโดยไม่ได้หันมามองผม แต่สิ่งที่ฟ้องว่าเขาเองก็เขินมากอยู่นั่นคือ ‘หู’
เอ ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิ กลิ่นมันตุอยู่นะนายออ
ไร่องุ่นสุดลูกหูลูกตา ผมได้แต่ชะเง้อมองด้วยความทึ่ง คนงานบางส่วนที่กำลังออกไปเก็บองุ่น พอเห็นเจ้ดาวเรือง ต่างก็ตะโกนทักทาย ขณะเดียวกันเจ้ก็โบกมือทักทายกลับ แหม เจ้เรา แต่พอพวกนั้นเห็นผม ต่างก็ทำตาโต โดยเฉพาะพวกคนเก่าที่ยังมีเหลืออยู่หลายคนมองผมยังกะตัวประหลาด ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้จนผมต้องรีบโบกมือไปมา พร้อมตะโกนว่า “ไม่ต้องไหว้ครับ ไม่ต้อง โว้วว”เจ้ดาวเรืองกับออโต้พากันหัวเราะผม ผมไม่ชอบให้ใครมาไหว้นี่กว่าจะสงบได้ เฮ้อผมรีบพาตัวเองเดินเข้าไปที่โรงเก็บองุ่น ที่นี่ น่าจะเรียกว่าโรงงานได้ เพราะมีเครื่องจักร เครื่องมือประเภทสายพานลำเลียง มีโต๊ะสำหรับนั่งคัดขนาด ใช้แรงงานคนล้วน ๆ ครับ สาเหตุน่าจะเพราะมันเป็นแหล่งอาชีพให้กับชาวบ้านแถบนี้ด้วยตามที่พ่อเคยเล่าให้ฟังคนงานหลายคนมองหน้าผมแล้วเกิดปฏิกิริยาที่หลากหลายมาก บางคนก็ก้มหน้างุดทำงานอย่างขยันขันแข็ง บางคนก็มองค้างอยู่อย่างนั้น น้องผู้หญิงหลายคนพอเห็นผมก็อายม้วนเป็นก้อนผ้าพับไปเลย หนักสุดก็คนชาย (ไม่แท้) สองสามคนหน้าแดงหันไปซุบซิบแล้วหัวเราะต่อกระซิกกันผมล่ะ กลอกตาไปมาสิครับ ทำอะไ
เดือนมิถุนายนของทุกปี หากเป็นที่กรุงเทพฯ ฯ ผมต้องพกร่มออกไปเรียนเป็นประจำ รวมถึงระยะหลังต้องหากระเป๋ากันน้ำด้วย มันไม่คุ้มเลยหากชีตที่ได้มาจะเปียกจนขาด อ่านไม่ได้ ต้องไปรบกวนเพื่อน ๆ อีกช่วงที่เรียนปี 3 ปี 4 ดีหน่อยที่เอกสารเกือบทั้งหมด อาจารย์ส่งให้ทางอีเมล เป็นพีดีเอฟ. ที่ไม่ต้องเปลืองกระดาษ แค่ต้องปรับตัวกับมันนิดหน่อย สำหรับผมแล้ว เรื่องจิ๊บ จิ๊บ มากเวลานี้ ไร่กรุณาธรมีระบบเครือข่ายไร้สายครบถ้วนแล้ว แต่ปัญหายังมีอยู่บ้างเรื่องสัญญาณที่ส่งไปท้ายไร่ ตอนหลังผมเลยแก้ปัญหาด้วยการใช้แอร์การ์ดแยกระบบออนไลน์ท้ายไร่ออกเป็นอีกส่วน เพื่อใช้ในการควบคุมกล้องวงจรปิด ซึ่งมันก็ได้ผล และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มนิดหน่อย เพราะผมใช้แบบมัลติซิมการ์ด เบอร์เดียวแยกออกเป็นสองซิม แค่นี้ก็ควบคุมได้ไม่ยากอีกประการที่เป็นปัญหาคืออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมาก ๆ ยังมาไม่ถึงอำเภอนี้ แต่จากการสอบถามทางหน่วยที่ให้บริการแจ้งว่ากำลังขยายเคเบิ้ลมา หากมีโหนด*มาขยายใกล้ ๆ ก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเหมือนในเมืองได้เช่นกัน‘ก็หวังว่าจ
หลังจากกินอาหารเที่ยงกันเรียบร้อย ออโต้ลงไปนอนกลิ้งที่เตียงผมจนผล็อยหลับไป ส่วนผมกำลังเริ่มลงมือทำงานต่อแต่หนังท้องตึง หนังตาก็หย่อนผมหันไปมองที่เตียง อ้าว แขกแก้วของผมจมหายไปกับผ้านวมเรียบร้อย คงเป็นแบบเดียวกับผม ยิ่งเจอกับอากาศเย็น ๆ จากเครื่องปรับอากาศด้วย ไม่แปลกที่ผู้มาเยือนจะหลับจมอยู่กับผ้านวมนุ่มนิ่มแบบนั้นผมผลักออโต้ให้กลิ้งไปอีกฟากของเตียง ขอเจ้าของห้องงีบบ้างสิครับ คุณชายแล้วผมก็หลับกลางวันตามแขกอย่างรวดเร็ว แหมคนมันง่วงนี่นา+++++ผลั๊ก!“แก ฉันกลับมาแล้ว ว้าย!!!”เสียงร้องของเจ้ดาวเรืองทำให้ผมกับออโต้ตื่นจากการนอนกลางวัน แล้วนี่เจ้จะร้องทำไมวะ เสียงดังมาก“แก...แก...นอนกอดกัน...กรี๊ดด”เจ้ดาวเรืองตอนนี้เหมือนหญิงเสียสติ กรีดร้องแต่ตาโตมองผมกับออโต้ตาค้างผมที่ขณะนี้สติกลับมาแล้ว มองตัวเองก็ถึงกับตกใจ ผมอยู่ในอ้อมกอดของออโต้ที่ยังงัวเงีย ที่สำคัญคือ“ออโต้...” ผมแทบตะโกนใส่หูแขกผู้มาหลับในห้องผม“อะไร เสียงดังมาก”“กอด... นายกอดเรา”“นายก็กอด
หลังจากที่ ‘รถถัง’ เข้ามาอยู่ในไร่กรุณาธร สิ่งที่รถถังแปลกและไม่เหมือนวัวตัวอื่น ๆ คือ รถถังเป็นวัวที่พูดรู้เรื่อง และมีนิสัยคล้ายเจ้าของ นั่นคือคล้ายกับเจ้ดาวเรืองนั่นเองเนื่องจากไร่ของเราไม่ได้เป็นไร่สำหรับการท่องเที่ยวอะไร หรือเรียกง่าย ๆ ว่าไร่ระบบปิด ไม่ได้เปิดให้เป็นคนทั่วไปมาเที่ยวเหมือนไร่ที่เขาทำกัน แต่มีผู้สนใจได้ยินข่าวนิด ๆ หน่อย ๆ มาจากในจังหวัด แล้วอยากเข้ามาเที่ยวชม ซึ่งทางเราและทางบ้านไร่กรุณาธร ต่างก็ปฏิเสธเหมือนกัน เว้นแต่ว่าทางการมีหนังสือมาขอเข้าตรวจเยี่ยมชม หรือตรวจมาตรฐานการผลิต อันนี้เรายินดีเต็มที่อยู่แล้ว ถูกกฎหมายเป็นเรื่องที่ทางไร่เราเน้นที่สุดในตอนแรกผมกับเจ้เคยคุยกันเกี่ยวกับเรื่องอาหารของเจ้ารถถัง คือเรามีอาหารเสริมอย่างอื่นตามที่ทางเกษตรอำเภอแนะนำ ที่เรากลัวกันคือ ‘กลัวหญ้าไม่พอให้รถถังบริโภค’ปัญหานี้ในขณะนี้ตัดไปได้เลยครับคุณชายออโต้จัดให้ บวกกับในตอนนี้ไร่เราปลูกหญ้าเอาไว้ให้เจ้ารถถังอีกส่วนหนึ่ง พ่อเลยให้จ้างพนักงานในไร่แบบรายวันเข้ามาทำความสะอาดที่พักของเจ้ารถถัง และเกี่ยวหญ้ามาเก็บไว้ให้มันกินด้วย ว่าง่าย ๆ คื
“เรื่องนั้นแม่บอกหลินแล้วว่ามีใช้เงินนะ เขาไม่ติดเรื่องนี้ แต่ก็ให้บอกประมาณการเงินไปให้เขาหน่อย”“ได้ครับแม่ ถ้าเขามีคอมพิวเตอร์อยู่แล้วก็อาจจะแค่ต้องไปถ่ายรูป นั่น นี่ นู่นเยอะแยะอยู่นะครับ ไร่ของเราเองยังขาดพวกรูปภาพสวย ๆ ยังดีที่เรายังมีกล้องที่แม่เคยซื้อให้สมัยที่ผมเรียน มันยังใช้ได้ดี เดี๋ยวจะเอามาใช้กับงานพวกนี้เลย”ผมร่ายยาว จนทุกคนละทิ้งจากจานข้าวมาฟังผม“เพลินจังแก พูดเพราะ เสียงดี แกน่าจะเป็นนักร้องนะ” เจ้ดาวเรืองแกล้งทำตาเคลิ้ม“เหอะ ดนตรีพอได้แต่ให้ร้อง ไม่ไหวว่ะเจ้” ผมแขยงการร้องเพลงครับ ไม่เพี้ยน แต่ก็ไม่เพราะ ถ้าดนตรียังพอได้บ้างนะ พวกเปียโน คีย์บอร์ด ฟลูต ผมพอได้“แม่ ๆ คู่จิ้นคอนเทนต์ต้องมานะ” เจ้เสริมเรื่องที่ผมคิดไว้ จากสายตาที่ส่งมาของเจ้“ว่าแล้ว” เป็นหวยผมคงถูกรางวัลใหญ่ สายตาแบบนี้ผมเคยเห็นตอนที่ผมเผลอหลับบนเตียงเดียวกับออโต้เมื่อหลายวันก่อน“จิ้นกับใครเหรอดาวเรือง” เอาละครับ แม่ผมสนใจขึ้นมาแล้ว“หนุ่มไร่ข้าง ๆ เราไงแม่ ออโต้ ออโต้” ดาวเรืองเสนอชื่ออย่างไม่รีรอแม่ขำกิ๊ก ขณะที่พ่อยัง
ระหว่างทางเดิน ผมคิดว่าอยากเปลี่ยนไอ้ทางตัวหนอนนี่ให้มันเรียบแล้วใช้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขี่มา น่าจะเร็วและไม่ร้อนแบบนี้“ร้อนอิ๊บอ๋าย” ผมบ่นไปเดินไปไม่นานก็ถึงประตูทางเชื่อม ประตูเปิดไว้อ้าซ่าจริง ๆ มีร่องรอยอารยธรรมของเจ้ารถถังบ่งบอกว่ามันเดินมาถึงนี่แล้วก็ข้ามประตูนี้ไปอะไรรู้ไหม?อึวัวไงคุณ มันเป็นเครื่องย่อยต้นหญ้าเคลื่อนที่นะ กินปากออกตูด ตลอดวัน นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็น... คิดเองนะครับผมขอถือวิสาสะข้ามรั้วไป ผมพอจำทางได้ครับ พอข้ามรั้วไปผมก็เร่งฝีเท้าพร้อมกับดูซ้ายขวาไปตลอดทาง ร่องรอยของรถถังหายเข้าไปในดงหญ้าก่อนถึงตัวบ้านของออโต้ราว ๆ ร้อยเมตร มันตัดตรงลงพงหญ้าแล้วหายไปในนั้น ผมตามไปไม่ได้เพราะหญ้าค่อนข้างสูง“มันไปไหนของมันวะ ไอ้เด็กวัว” ผมบ่นกับตัวเองก่อนจะเดินต่อไปยังบ้านของออโต้เมื่อไปถึงก็พบว่าออโต้ยืนรอผมอยู่พร้อมรถไฟฟ้าคันเดิมที่ผมเคยนั่ง“รออยู่ เจ้โทรมาบอกแล้ว ตอนนี้น้าดิเรกช่วยจับวัวไว้ให้แล้ว”“เจอแล้วเหรอ” ผมที่เริ่มหอบเพราะร้อนและเหนื่อย ยิ้มออกมาได้“เห็นน้าว่ามันเดินเข้าไปหา ก็เลยจั
หลังจากคุยกับครอบครัวของออโต้เป็นที่เรียบร้อย ผมขอตัวกลับมาเอาโน้ตบุ๊กและไอแพดที่บ้าน ขากลับผมเห็นพี่ไม้ กำลังมาไล่เก็บอึของรถถัง พอเห็นผมก็รีบร้องทักทายอย่างดีใจ“สวัสดีครับคุณทานตะวัน” แล้วเขาก็หันกลับไปก้มหน้าก้มตาเก็บกวาดต่ออย่างตั้งใจผมเดาว่าตอนนี้เจ้ารถถังน่าจะกลับไปบ้านเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ได้ถามอะไรเขาอีก ยิ้มให้แล้วรีบเดินข้ามประตูกลับไปที่บ้านผมลืมร่ม!เดินตากแดดไปสิครับ รอบนี้ เดี๋ยวกลับมาอีกรอบผมจะขับรถเข้ามาทางหน้าไร่แล้ว มีสัมภาระมาด้วยนี่เดินฝ่าแดดกลับมาไม่ไหวจริง ๆผมกลับมาถึงบ้าน เจอแค่แม่เฟื่องฟ้าที่กำลังนั่งดูงานบัญชีอยู่ ผมลืมเล่าไปว่า บ้านผมมีห้องแล็บด้วยนะจะบอกให้พ่อแม่ผมจบฟู้ดไซน์ เขาทั้งสองถนัดในการทำเครื่องดื่ม ไวน์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินไปสำหรับพวกเขา และห้องลดทองที่ว่า เหมือนเป็นห้องตรวจสอบคุณภาพไปด้วยในตัวแม่เล่าว่า บ่อยครั้งที่เราจะเมากันทั้งบ้าน เพราะต้องมาเทสไวน์กันด้วยดีงามมากผมเดินไปบอกแม่ว่าจะไปทำงานที่บ้านไร่จินตรา ท่านรับรู้แล้วโบกมือบ๊ายบายให้ผม คงกำลังติดพันงานอยู่&nb
ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง ติ๊ง....ผมเอื้อมไปกดนาฬิกาปลุกที่หัวเตียง เอาจริงนะ ทำงานที่บ้านแบบนี้มันไม่น่าจะต้องตั้งนาฬิกาปลุกหรอก ใช่ไหม แต่เชื่อผมเถอะ ต้องปลุก เพราะถ้าไม่ปลุก จะมีคนมาช่วยปลุก จะใครล่ะ ก็เจ้ดาวเรืองนั่นแหละผมตื่นขึ้นในช่วงเช้าของทุกวัน วันนี้เป็นอีกวันที่ตื่นขึ้นมาพร้อมกับกิจกรรมที่กำลังจะเริ่มหลังจากล้างหน้าแปรงฟันเสร็จ‘พารถถังเดิน’วันนี้เจ้ดาวเรืองเข้าเมืองแต่เช้ามืด จึงฝากให้ผมช่วยพาเจ้าเด็กวัวออกเดินเล่นในไร่ ประมาณว่าจะได้เป็นวัวที่แข็งแรง และรวมมาถึงน้องชายของเธอจะได้ไม่อ้วนลงพุงด้วยผมไม่อ้วนเสียหน่อย อยู่ไร่นี้แค่เดินไปท้ายไร่ทุกวันก็ผอมแล้วครับ บอกเลยว่าในแต่ละวัน ผมเดินไม่ต่ำกว่า 5 กิโลเมตร กล้ามขาจะมีมากกว่ากล้ามแขนเสียอีกเธอให้ผมช่วยพาเดินแล้วค่อยเอาไปเก็บในโรงเลี้ยง รอให้พี่ไม้เข้างานในช่วงแปดโมงเพื่อเข้ามาจัดการอาบน้ำ ให้หญ้าต่อไปผมคว้ามือถือก่อนจะออกมาที่โรงเลี้ยงรถถัง พอมันเห็นหน้าผม มันก็ร้องเรียกทันที“มอ มอ ฟี๊ดด”เสียงอันหลังนี่คือมันพ่นล
+++++ตะวันกลับออกมาด้วยเสื้อผ้าของผม“น่ารักว่ะ”“อะไร!?” ตะวันทำหน้าตื่นเมื่อผมชมว่าน่ารักแต่ตะวันก็คือตะวัน เขาเปลี่ยนโหมดกลับมาเป็นตัวเองอย่างเร็ว“เรามารอเพื่อเอาหลักฐานมาให้ดูว่าบ้านเราบริสุทธิ์”ตะวันพยายามยื่นมือถือมาให้ผม“เชื่อแล้ว...” ผมตอบ“อะไร ทำไมเชื่อง่าย ๆ ทีก่อนหน้านี้ ไม่ยอมเจอเลย ปิดบ้านหนีอีกต่างหาก” ตะวันก็ยังคงเป็นตะวัน เขาเริ่มเปลี่ยนเป็นโวยวายจนผมต้องรีบยกมือห้าม“เดี๋ยว ๆ ใจเย็น ไหนหลักฐานที่อยากให้ฟัง เปิดให้ฟังสิ” ผมรีบห้ามก่อนที่ตะวันจะโวยวายไปมากกว่านี้ตะวันยอมสงบ เขากดเปิดเสียงให้ผมฟังตั้งแต่ต้นจนจบ“เชื่อตะวันแล้วใช่ไหม”“ก็ไม่เคยไม่เชื่อนะ” ผมตอบจากใจ“เอ้าแล้วทำไมปิดเครื่องหนี ติดต่ออะไรไม่ได้ ปิดประตูทุกช่องทาง” ตะวันกลับมาเริ่มโวยวายอีกจนผมต้องใช้ไม้ตายหมับ!ผมกอดตะวันไว้แน่น ตะวันเริ่มหายใจราบเรียบขึ้น ผมสัมผัสได้ว่าหัวใจของตะวันเต้นแรงและเร็ว ซึ่งไม่ต่างจากผมในตอนนี้ที่&
Part ทานตะวันผมจ้องมองหน้าจอจนแน่ใจว่าไฟล์เสียงที่เจ้ดาวแชร์มาให้ มันเป็นคลิปจากเครื่องของเจ้เองและจากเครื่องของพี่อัค ตอนนี้ส่งมาครบถ้วนแล้วขณะนั้นเองท้องฟ้าเมฆดำอิ่มตัว เริ่มร้องคำราม ฝนน่าจะตกหนักในไม่ช้า ผมเห็นเจ้ดาวกับพวกพากันวิ่งออกไปเก็บลังผลไม้หน้าร้านเพื่อไม่ให้ถูกฝนเข้ามาในร้าน ผมจึงคิดได้ว่าถ้ารีบไปหาออโต้แล้วทำความเข้าใจกับเขาโดยให้ฟังคลิปเสียงนี้ เขาน่าจะเข้าใจผมมากขึ้นรออะไรล่ะ ไปสิครับ ก่อนที่ฝนจะลง ผมเดินออกทางหลังร้านลัดไปยังลานจอดรถเพื่อขับรถไปไร่กรุณาธร ซึ่งผมก็คงต้องจอดอยู่แค่หน้าไร่นั่นแหละ ตายิ้มแกคงไม่ยอมให้ผมเข้าไปอยู่ แต่เรื่องแบบนี้มันก็ต้องเสี่ยงใช่ไหมผมเงยหน้ามองท้องฟ้าเมื่อลงจากรถ ฝนใกล้จะตกเต็มแก่แล้ว แต่มันยังไม่เท่ากับความต้องการพิสูจน์ให้ออโต้ได้รู้ว่าบ้านผมบริสุทธิ์ใจจริงผมเดินไปที่ป้อมหน้าของบ้านไร่กรุณาธร เห็นตายิ้มยืนมองอยู่ก็รู้แล้วว่าเดี๋ยวจะเกิดอะไรขึ้น“ตายิ้ม ผมมาหาออโต้”“คุณกลับไปเถอะครับ” ตายิ้มพูดอย่างสุภาพ
หลังจากนั้นชั่วโมงกว่า ๆ อัคก็เดินทางมาถึงไร่ ดาวสั่งให้ป้อมหน้าเปิดรอรับประดุจแขกวีไอพี. เดินทางมาเที่ยวชมไร่เลยค่ะ แต่เปล่านะคะ ที่จริงเตรียมการสอบสวนอย่างเข้มงวดไว้รอต่างหาก“เข้ามาก่อนตรงนี้เลยครับ” ทานตะวันเชื้อเชิญเพื่อนของดาวเข้าบ้านอย่างเสแสร้ง แต่พอให้หลังอัค ทานตะวันก็กดล็อกประตูหน้าบ้านทันที น้องฉันไม่ธรรมดาเหมือนกันส่วนดาวในตอนนี้ได้เตรียมภาพเอกสารหลักฐานและหันกล้องวงจรปิดที่อัดเสียงได้มาเตรียมรอ รู้ค่ะว่ามันผิดกฎหมาย แต่ทำยังไงได้คะ จะจับผู้ร้ายมันก็ต้องเก็บหลักฐานสิคะอัคนั่งลงที่โซฟาด้วยท่าทางกระตือรือร้น มองซ้ายมองขวากวาดตา มองไปรอบห้อง“นายมองหาอะไรอัค” ดาวถามเพื่อนเสียงต่ำ เวลานี้บรรยากาศภายในห้องเริ่มอึมครึมขึ้นมา แม่บ้านเดินมาเสิร์ฟน้ำด้วยท่าทีมึนตึงตึ๊ก...แม่บ้านวางแก้วกระแทกโต๊ะ อัคสะดุ้งเฮือก แต่กิริยากลับไม่มีใครต่อว่า ใครจะว่าล่ะค่ะ ทุกอย่าง...‘การละคร’ ค่ะทานตะวันเข้าไปนัดแนะให้พี่แม่บ้านทำมึนตึงออกไปเสิร์ฟน้ำ ซึ่งอาการของอัคทำใ
Part ดาวเรืองดาวรู้เรื่องที่น้าชายเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จากทานตะวัน จึงพยายามติดต่อกลับไปเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่า ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นน้าสมชายเอง น้าหลิน และออโต้ ไม่มีใครรับสายหรืออ่านข้อความ เดาว่าน่าจะยุ่งอยู่กับเรื่องอุบัติเหตุ จึงบอกกับทานตะวันว่ารุ่งขึ้นให้ลองติดต่ออีกทีรุ่งขึ้น แม่เฟื่องฟ้าบอกว่าติดต่อกับน้าหลินได้แล้ว น้าหลินบอกว่าน้าสมชายไม่เป็นอะไรมากขณะที่ดาวกำลังนั่งคุยอยู่กับแม่เฟื่องฟ้า พ่อมงคลก็เข้ามาสมทบ แล้วบอกว่า ระหว่างพ่อแม่ กับน้าชายน้าหลิน เราเชื่อใจกัน แต่ก็คงต้องหาข้อมูลว่ามันเป็นการข่มขู่ หรืออุบัติเหตุจริง ๆ“คุณดาวเรือง พี่มีเรื่องจะรายงานและแจ้งข่าวครับ”พี่ไม้ ผู้ดูแลน้องรถถังของดาว โผล่หน้าเข้ามาด้วยความไม่แน่ใจว่าจะสะดวกรึเปล่า“เข้ามาสิพี่ น้องรถถังไปทำเรื่องอะไรอีกล่ะ” ดาวคิดว่าเป็นเรื่องของรถถัง แต่กลับไม่ใช่“ไม่ใช่รถถังครับ แต่เป็นเรื่องที่ตอนนี้กำลังเกิด เรื่องไร่ข้าง ๆ ครับ”
ผมเดินลงมาจากบ้านเพื่อจะไปดูรถของพ่อที่พี่ผันขับมาจอดไว้ที่หน้าบ้านแล้ว แต่กลับพบว่าตายิ้มกับพี่ผันยืนรอผมอยู่“รถเป็นไงบ้างพี่” ผมถามพี่ผัน“ผมขับรถกลับมาแล้ว รถเสียศูนย์ต้องไปตั้งศูนย์ใหม่ แล้วก็กันชนบุบนิดหน่อย ไฟแตกข้างซ้าย ที่เหลือไม่เป็นอะไรครับ”พี่ผันรายงาน“ส่วนอีกเรื่อง มีข่าวลือว่าที่คุณสมชายโดนรถปาดหน้า จะเป็นเพราะไม่ยอมขายที่รึเปล่า แบบว่าข่มขู่เหมือนในละครน่ะ” ตายิ้มที่นาน ๆ จะพูดที ร่ายยาวผมเอง ในตอนแรกไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนี้เลย กลับต้องมาฉุกคิดทันที เพราะพ่อสมชายอยู่มาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยมีเรื่องอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเลย สักครั้งก็ไม่เคยมีแต่พอมีนายหน้ามาติดต่อจะซื้อที่ดิน แล้วพ่อไม่ยอมขาย หลังจากนั้นก็เกิดเรื่อง เวลามันคล้องจองมาก“แล้วยังไงต่อตายิ้ม” ผมเห็นว่าแกยังฮึดฮัดอยู่กับพี่ผัน เหมือนพี่ผันไม่อยากให้ตายิ้มพูดอะไรต่อ“มีอะไรว่ามาเลยตายิ้ม พี่ผัน ให้แกพูดเถอะ”ผมปรามพี่ผัน ทำให้พี่ผันจำยอม ถอยห่างออกจากตายิ้ม“คื
Part ออโต้ช่วงนี้งานเยอะครับ หลังจากที่พ่อตัดสินใจว่าเพิ่มกำลังการผลิตพืชไฮโดรโปนิกส์ให้มากขึ้น ทันต่อปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นมาอย่างพรวดพราดอันเกิดจากการเปิดไร่เข้าสู่โลกออนไลน์เรื่องนี้ยกให้ทานตะวันเขาล่ะครับความสนิทของเราทั้งสองกลับมาได้ดีกว่าเดิมมาก นั่นอาจเป็นเพราะเราทั้งคู่โตขึ้นมาก รึเปล่า?แต่ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาไปเจอทานตะวันเท่าไร เวลาเขามา หากไม่ได้บอกไว้ก่อน ก็ต้องเข้าไร่ไปหาผมอีกที คุยอะไรก็ไม่ถนัดเพราะมันอยู่ในโรงปลูกไฮโดรโปนิกส์ มีคนงานหลายคน สำคัญคือมันร้อน ทานตะวันไม่ชอบสิ่งนี้ครับขณะที่ผมกำลังช่วยปรับสารเคมีสำหรับใช้ในการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ผมเห็นพ่อนั่งพักร้อนอยู่ใต้ต้นไม้หน้าโรง จึงพักงานแล้วออกไปนั่งคุยด้วยพ่อเล่าให้ผมฟัง ว่ามีนายหน้าเข้ามาสอบถามว่าอยากขายที่ดินไหม ผมขมวดคิ้วทันที ส่วนพ่อ พอเห็นผมขมวดคิ้วก็หัวเราะเบา ๆ ออกมา“ปฏิเสธไปแล้วน่ะ เขาก็ไม่อะไรนะ แต่ถือว่ากล้าบ้าบิ่นมากที่ใช้ความเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารอ
Part ทานตะวันผมหลับไปตอนไหน จำไม่ได้จริง ๆ แต่พอตื่นขึ้นมา มันปวดหัวเหมือนคนดื่มเหล้ามาแบบสุดซอย ความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัว ใช่แล้ว วันนี้ผมมีธุระสำคัญอย่างหนึ่ง และนั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ปวดหัวใช่แล้ว ผมต้องไปหาออโต้กิจวัตรยามเช้าประจำวันของผมหลังจากทำกิจส่วนตัวเสร็จ ก็ต่อด้วยอาหารเช้ากับพ่อแม่และพี่สาว ซึ่งบางวันพ่ออาจจะไม่ได้มาร่วมโต๊ะเพราะต้องเข้าไร่แต่เช้ามืด บางวันก็เหลือแต่ผมกับแม่ เจ้ดาวเรืองจะหายตามพ่อไปด้วยอีกคนวันนี้เจ้ดาวไปธุระกับพ่อในเมือง บ่าย ๆ คงกลับมา จึงเหลือแค่เพียงผมกับแม่ที่ร่วมโต๊ะอาหารกันมื้อนี้เป็นโจ๊กที่แม่บ้านทำเตรียมไว้ให้ บางวันมีปาท่องโก๋พ่วงท้ายมาด้วย ที่มาที่ไปของปาท่องโก๋นี้คือ แม่เฟื่องฟ้าฝากให้พี่คนงานที่มาทำงานเช้าซื้อเข้ามาจากตลาดในหมู่บ้านบางวันก็เป็นขนมครก ผมยังเคยคิดว่าจะชวนออโต้เข้าไปเดินเล่นที่ตลาดในหมู่บ้านบ้าง แต่จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่เคยได้ไปสักที ไม่ใช่อะไรหรอกนะครับ ตื่นไม่ทัน ตลาดวายก่อน
Part ทานตะวันผมยังอยู่ในสภาพจมที่นอนหลังจากที่นั่งตัดคลิปวิดีโออยู่จนดึก ถึงแม้ว่าจะตัดได้ไม่ขั้นเทพเหมือนคนอื่น แต่ก็ถือว่าพอใช้งานได้ก็แล้วกันวันอาทิตย์แบบนี้ ผมไม่อยากตื่นเท่าไร อยากจมอยู่บนที่นอนแบบนี้อีกสักหน่อย แต่ทว่า“แก ตื่นได้แล้ว” เสียงเกือบตะโกนจากหน้าประตูห้องผมดังขึ้นผมพยายามไม่ตอบ แต่ทำไม่ได้น่ะสิ“ตื่นแล้ว โอ๊ย นี่วันอาทิตย์นะ” ผมโวยกลับ“หัดตื่นมาใส่บาตรกับที่บ้านบ้าง”ผมนึกถึงการใส่บาตร จริงสินะ ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้าน ยังไม่เคยตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อใส่บาตรไหว้พระอะไรเลยเอาจริง แม่เคยถามผมเรื่องบวชพระ แต่ผมยังไม่ได้ตอบอะไร ไม่มีแพลนอะไรเกี่ยวกับการบวช รู้แหละครับว่าพวกเขาอยากให้บวชเพราะอะไร แต่ผมอยากถามว่ามันจำเป็นด้วยเหรอ กฎหมายกำหนดรึเปล่า ไม่นะ แต่คงเป็นไปตามจารีตประเพณีที่ว่า บ้านไหนมีลูกชาย ก็อยากจะให้บวชเผื่อเกาะชายผ้าเหลืองขึ้นสวรรค์รอก่อนนะ ผมยังไม่คิดผมเหลือบไปมองนาฬิกาที่ข้างฝาผนัง แม่เจ้า
เช้าวันเสาร์ท้ายสัปดาห์ที่แสนวุ่นวายของอัค หลังจากที่เขาตัดสินใจว่าจะเดินทางเข้าไปที่บ้านไร่จินตรา ครั้งนี้เขากะว่าหลังจากไปขอพบเจ้าของบ้านไร่จินตราแล้ว ค่อยแวะหาเพื่อนของเขาตอนจะกลับอีกทีชายหนุ่มแต่งตัวในชุดสุภาพตามสไตล์ของเขา ไม่มีการนัดล่วงหน้าใด ๆ กับเจ้าของไร่ ดูบ้าบิ่นที่สุด ในทีแรกเขาเองก็ไม่กล้าจะทำอะไรบุ่มบ่ามและรวดเร็วแบบนี้‘เงินจำนวนมหาศาลรอเขาอยู่’อัคเป็นพนักงานธนาคารสายสินเชื่อที่มีความรอบรู้ในเนื้องานการปล่อยสินเชื่อมากพอประมาณ แต่อาชีพการเป็นนายหน้า ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับเขามาก การนั่งอยู่กับโต๊ะหรือออกตลาดเพื่อหาลูกค้ามาขอสินเชื่อ ทำได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยาก หากเข้าถึงความจำเป็นการใช้เงินของลูกค้า กับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ชวนให้น่าสนใจขณะที่อาชีพการเป็นนายหน้า ไม่ว่าจะเป็นนายหน้าในเรื่องใดก็ตาม แก่นของมันคือ ‘จับแพะชนแกะ’ หาคู่ให้ลงตัว เมื่อความต้องการมาตรงกัน ค่าตอบแทนที่ได้จากฝ่ายที่ขอให้จัดหา มันค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อสิ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจ เพียงเ