Share

บทที่ 73

Author: ลิ่วเยว่
ฮองเฮาตบที่วางแขน นัยน์ตาเย็นเยียบดุจน้ำค้างแข็ง “หลักฐานแน่นอน เจ้าจะปฏิเสธได้อย่างไร?”

หยวนผินเองก็อดระเบิดความไม่ยินยอมออกมาไม่ได้ภายใต้ความตกตะลึง “หลักฐานที่ฮองเฮาตรัสถึงคือหลักฐานอะไรเพคะ?”

ฮองเฮาหัวเราะหยัน “ใครก็ได้ พาคนจากตำหนักหานชุ่ยมา!”

หยวนผินอึ้งไป หันหน้าไปมองก็เห็นองครักษ์หลายนายลากนางกำนัลข้างกายนางเข้ามา พวกเขาตัวสั่นระริกพลางหมอบอยู่บนพื้น ปากก็พูดว่า “ฮองเฮาทรงพระปรีชา ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคำสั่งของหยวนผินเพคะ พวกหม่อมฉันแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น”

หยวนผินได้ยินคำพูดนี้ก็แทบจะกระอักเลือดออกมา นางเบิกตาโตด้วยความโกรธเกรี้ยว ข่มกลั้นความคาวหวานในลำคอไว้ “พวกเจ้าพูดจาเหลวไหล ข้าเคยสั่งพวกเจ้าตั้งแต่เมื่อไร?”

ฮองเฮาแค่นเสียงเย็น “เสี่ยวซานจื่อ เจ้าจงเล่าเรื่องทุกอย่างออกมา ให้จิตใจอันชั่วร้ายของนางไร้ที่ซ่อน”

เสี่ยวซานจื่อเงยหน้าขึ้นกล่าว "พ่ะย่ะค่ะ เรียนฮองเฮา นับตั้งแต่หยวนผินรู้ว่าเหลียงกุ้ยเหรินตั้งครรภ์ก็ซึมเซามาโดยตลอด แม้ว่าใบหน้าจะดูดีใจแทนเหลียงกุ้ยเหริน แต่กลับคอยถามพวกกระหม่อมในตำหนักว่ามีวิธีการใดบ้างที่จะทำให้ทารกในครรภ์ของเหลียงกุ้ยเหรินหายไปอย่างเงียบงัน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 74

    ดวงหน้าที่ประแป้งของฮองเฮาดูเย็นชาดุจน้ำค้างแข็ง “เจ้าไม่เคยทำ? ความหมายคือบอกว่าข้าใส่ความเจ้าหรือ? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่เจ้ากำเริบเสิบสานเลย เจ้ามาดู ถุงผ้านี้เป็นของที่เจ้าส่งให้เหลียงกุ้ยเหรินใช่หรือไม่?”นางกล่าวจบก็หยิบถุงเครื่องหอมขึ้นมาแล้วโยนลงพื้นอย่างแรงหยวนผินก้มหน้ามอง ถุงหอมสีแดงลายไผ่และกล้วยไม้นั้นเป็นฝีมือของนางจริง ๆ ตอนที่ปักถุงหอมนี้ เสี่ยวซานจื่อยังเคยบอกว่านางฝีมือดีมาก ไม่มีงานเย็บปักถักร้อยของผู้ใดในวังสามารถทำได้ดีเช่นนี้เลย“เป็นของที่หม่อมฉันมอบให้เหลียงกุ้ยเหรินจริง ๆ เพคะ แต่ว่าในถุงหอมนี้เป็นเครื่องหอมที่ช่วยให้จิตใจสงบทั้งหมด ไม่มีชะมดเช็ดเลยเพคะ” หยวนผินเก็บถุงหอมขึ้นมาแล้วเอาเข้ามาใกล้จมูกดมกลิ่นอย่างละเอียด ก่อนจะทำสีหน้าอึ้งไปแล้วมองฮองเฮาอย่างตกตะลึงพรึงเพริด “ฮึ เจ้าพูดเองสิว่ามีชะมดเช็ดหรือไม่?” ฮองเฮาแค่นเสียงเย็นชา กลอกตามองนางหยวนผินหน้าซีดเผือด ส่ายหัวพึมพำว่า “เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่เคยใส่ชะมดเช็ด”“ยังไม่ยอมรับอีก?” สีหน้าของฮองเฮาเปลี่ยนไป “ดูเหมือนถ้าไม่ทรมานเจ้า เจ้าคงไม่ยอมรับความผิดสินะ!”นางเงยหน้าขึ้นแล้วร้องเรียกว่า

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 75

    นางยืนอยู่ทางด้านข้างเช่นเดิม จ้องมองด้วยสายตาเย็นชาจ่านเหยียนกระซิบข้างหูจิ้นหรูสองประโยค จากนั้นจิ้นหรูก็พยักหน้าแล้วเดินเข้ามาเอ่ยถามว่า “พยานบุคคลและพยานหลักฐานที่ฮองเฮาตรัสเมื่อครู่นี้ล้วนอยู่ที่นี่หรือเพคะ?”หากเป็นจ่านเหยียนเอ่ยถาม เกรงว่าคงไม่มีใครพูด ทว่าแต่เดิมจิ้นหรูรับใช้ข้างกายฮ่องเต้พระองค์ก่อน และเป็นนางกำนัลชั้นหนึ่ง เมื่อนางเอ่ยถาม นางกำนัลที่อยู่ต่ำกว่าย่อมต้องตอบคำถาม ดังนั้น พวกคำพูดที่เสี่ยวซานจื่อเอ่ยเมื่อครู่นี้ เวลานี้จึงทวนซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงสะอื้นไห้ต่อหน้าจ่านเหยียนฮองเฮารักษาสีหน้าเย็นชามาโดยตลอด เมื่อมีนางกำนัลยกเก้าอี้มา นางก็ไม่นั่ง ราวกับโกรธเคืองจ่านเหยียนจ่านเหยียนฟังคำพูดของเสี่ยวซานจื่อแล้วพูดกับจิ้นหรูว่า “นำถุงหอมมาให้ข้า”จิ้นหรูเดินขึ้นหน้าไปหยิบถุงหอมในมือหยวนผิน หยวนผินมองจ่านเหยียนด้วยสายตาไหววูบ นางรู้ว่าไทเฮารีบรุดมาโดยไม่ลังเลที่จะล่วงเกินฮองเฮาก็เพื่อที่จะช่วยเหลือนางเพียงแต่ว่า...จิ้นหรูยื่นถุงหอมให้จ่านเหยียน ภายใต้สายตาจับจ้องของผู้คน จ่านเหยียนเอาถุงหอมจ่อไว้ที่ใต้ปลายจมูกแล้วสูดดม จากนั้นก็พยักหน้า “อืม มีชะมดเช็ดอยู่จ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 76

    จ่านเหยียนเพียงแต่นั่งอย่างสบายอารมณ์ ไม่สนใจฮองเฮาที่โกรธจนหน้าเขียวเลยหมอหลวงถูกเชิญมาอย่างรวดเร็ว เขาถวายบังคมฮองเฮาก่อน เมื่อเห็นจ่านเหยียน สีหน้าก็ตกตะลึงไปเล็กน้อยแต่ยังคงเข้ามาถวายบังคม “กระหม่อมถวายบังคมหมู่โฮ่วฮองไทเฮาพ่ะย่ะค่ะ”“ตอนที่เหลียงกุ้ยเหรินแท้ง เจ้าเป็นคนรักษาหรือ?” จ่านเหยียนเอ่ยถาม“กราบทูลไทเฮา เป็นกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ” หมอหลวงตอบรับ “เช่นนั้นทำความสะอาดเลือดคั่งในร่างกายนางหมดแล้วหรือไม่? ได้จ่ายยาขับเลือดให้นางกินบ้างหรือไม่?”“กระหม่อมจ่ายยาบำรุงเลือดลม ครรภ์หลุดออกมาสะอาดมาก ไม่จำเป็นต้องจ่ายยาขับเลือดอีกพ่ะย่ะค่ะ” “หม่อมฉันจ่ายยาเสริมเลือดและพลังงานให้แล้วเพคะ ครรภ์หลุดออกมาจนหมด ไม่จำเป็นต้องจ่ายยาขับเลือดเพิ่มเติม” หมอหลวงตอบจ่านเหยียนโยนถุงหอมลงตรงหน้าเขา “หลุดออกมาจนหมด? เหลียงกุ้ยเหรินดมชะมดเช็ดในถุงหอมนี้ก็ทำให้แท้ง เจ้าบอกข้ามาสิว่าชะมดเช็ดปริมาณเล็กน้อยพวกนี้เพียงพอที่จะทำให้ครรภ์ของเหลียงกุ้ยเหรินหลุดออกมาจนหมดจดถึงเพียงนี้ได้เชียวหรือ?”หมอหลวงหยิบถุงหอมขึ้นมา หลังจากเปิดออกก็เทชะมดเช็ดทั้งหมดลงมาบนฝ่ามือ หลังจากพิจารณาอย่างละเอียดแล้วเ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 77

    ฮองเฮาคิดไม่ถึงเลยว่าจิ้นหรูจะกล้าตบนางจึงตกตะลึงไปทันที เมื่อนางได้สติกลับมา นางก็โกรธจนลืมฐานะตัวเอง พุ่งเข้าไป กระชากคอเสื้อของจิ้นหรู หมายจะตบหน้าฉาดใหญ่แววตาของจ่านเหยียนไหววูบ ดวงหน้าเย็นชาลงสายลมพัดขึ้นมาในตำหนัก ลมหอบนี้พุ่งมาตรงหน้าฮองเฮาดังฟิ้ว ฮองเฮาถูกลมพัดจนหรี่ตาลง ผลักจิ้นหรูออกแล้วไปปิดตาทันทีจิ้นหรูกลับมาอยู่ข้างกายจ่านเหยียนด้วยใบหน้าซีดเผือด ยื่นมือไปลูบหน้าอก ยังคงรับสถานการณ์ตรงหน้านี้ไม่ได้นิดหน่อย หัวใจเต้นเร็วมาก หลังจากสูดลมหายใจลึกแล้วก็เอ่ยกับจ่านเหยียนว่า “คุณหนูใหญ่ เมื่อครู่นี้บ่าวไม่ได้ตั้งใจนะเพคะ” จ่านเหยียนแย้มยิ้ม “ตบได้ดี!” ย่อมไม่ได้ตั้งใจอยู่แล้ว ต่อให้มอบความกล้าให้จิ้นหรูอีกหมื่นเท่า นางก็ไม่กล้าตบฮองเฮาหรอก การกระทำของจิ้นหรูเมื่อครู่นี้เป็นฝีมือนางที่ลอบควบคุมจิตใจของจิ้นหรู จิ้นหรูมองนางอย่างตกตะลึง กัวอวี้ดึงจิ้นหรูไว้แล้วเอ่ยเสียงเบาว่า “ไม่เป็นไร คุณหนูใหญ่ย่อมมีบันยะบันยัง” สีหน้าของฮองเฮาดูย่ำแย่มาก แก้มมีรอยนิ้วมือเด่นชัดมาก ดวงหน้าดูอับอายและเดือดดาล นางจ้องมองจิ้นหรูอย่างบึ้งตึง “ดีมาก บ่าวรับใช้อย่างเจ้ากล้าลงมือตบข้า เจ้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 78

    จ่านเหยียนยกริมฝีปากยิ้มอย่างเย็นชา เดินไปอยู่ข้างกายหยวนผินที่คุกเข่าอยู่บนพื้นไม่กล้าลุกขึ้นมา ก่อนจะดึงนางให้ลุกขึ้น จากนั้นก็มองบรรดาสนมรอบ ๆ แล้วพูดว่า “แม้ว่าข้าไม่ได้เดินเล่นในวังหลัง แต่พวกเจ้าแต่ละคนทำอะไร ข้าล้วนรู้ดี อย่าคิดว่าทำเรื่องสกปรกลับหลังแล้วจะไม่มีผู้ใดรู้นะ หากเป็นเรื่องเล็กเรื่องน้อย ข้าไม่สนใจพวกเจ้าอย่างแน่นอน แต่โหดร้ายจนถึงขั้นทำให้คนแท้งลูก ถึงขนาดที่ใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น ข้าไม่อาจไม่ยุ่งเกี่ยวได้”ภายใต้สายตาเคร่งขรึมของนาง บรรดาสนมก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว ในใจลอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าไทเฮาที่ไม่เคยออกมาผู้นี้จะมีมาดเช่นนี้ด้วย?จ่านเหยียนหยุดชะงักไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อว่า “พวกเจ้าคิดว่าหมอหลวงหรี่ตายอย่างไม่เป็นธรรมมากใช่หรือไม่? ข้าจะบอกพวกเจ้าว่า เขาไม่ได้ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเลยสักนิดเดียว เขาตายไปอย่างสบายเช่นนี้ได้ก็เป็นวาสนาของเขาแล้ว เขาทำเรื่องอะไรเอาไว้ ข้ารู้ดีทั้งหมด” นางเบนสายตากลับไปที่ใบหน้าของฮองเฮา “ฮองเฮา เจ้าว่าใช่หรือไม่?”ฮองเฮาโดนสายตาของนางจับต้องจนรู้สึกขนลุกชัน นางยืดหลังตรงแล้วเอ่ยอย่างเย็นชาว่า “หม่อมฉันไม่ทราบว่าไทเฮ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 79

    ฮองเฮาสูดหายใจเย็นเยียบ นัยน์ตาที่เกรี้ยวกราดและตื่นตระหนกจับจ้องไปที่จ่านเหยียน “ท่านกล้าหรือ?”จ่านเหยียนแย้มยิ้ม นัยน์ตาเฉียบคม “เจ้าว่าอย่างไรเล่า?”“หลงจ่านเหยียน ท่านจะต่อต้านข้าสินะ!” ฮองเฮาโกรธจัด ร้อนใจจนพูดจาไม่ยั้งคิดเพียงแต่จากคำพูดของนางก็รู้ได้ว่าคนตระกูลถงไม่เคยเห็นจ่านเหยียนอยู่ในสายตาเลยจริง ๆ นางเป็นแค่คนที่ตายแทน ไม่ตายก็เป็นวาสนาใหญ่ของนางแล้ว แต่ไม่ใช่เจ้านายอย่างเด็ดขาด“อาซาน ถ่ายทอดคำสั่งข้า นำตัวฮองเฮาเข้าตำหนักเย็น หากมีคนฝ่าฝืนบัญชาของข้า...” สายตาของนางเคร่งขรึมขึ้นมา ก่อนจะค่อย ๆ หลุดพูดออกมาหนึ่งคำ “ฆ่า!”เมื่อครู่นี้อาซานสังหารหมอหลวงหลี่ก็ทำให้ผู้คนในที่แห่งนี้สั่นสะท้านแล้ว บัดนี้คนในวังเบิกตามองอาซานลากตัวฮองเฮาออกไป ไม่มีผู้กล้าขัดขวางเลย“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเสด็จ!” มีคนถ่ายทอดคำสั่งด้านนอกตำหนัก จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้ารีบเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ที่แท้ตอนที่ฮองเฮาโดยตบหน้าเมื่อครู่นี้ก็มีคนไปแจ้งถงไทเฮาแล้ว ถงไทเฮาได้ยินว่าหลงจ่านเหยียนตบฮองเฮาก็รีบมาทันทีภายใต้ความโกรธจัด เมื่อนางเห็นอาซานลากตัวฮองเฮาที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงหน้าตำหนักก็อดเดือดดาลไม่

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 80

    จ่านเหยียนกวาดตามองทุกคน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดข้าสั่งให้คนเรียกตัวชุนหัวมาแล้ว แต่นานถึงเพียงนี้ยังไม่มาเสียที?” “กราบทูลหมู่โฮ่วฮองไทเฮา มีคนไปเรียกแล้วเพคะ!” เซียวเซียว นางกำนัลผู้ดูแลตำหนักของฮองเฮารีบออกมาตอบเมื่อเซียวเซียวพูดจบก็รีบส่งสายตาให้นางกำนัลข้างกาย นางกำนัลผู้นั้นก็เป็นคนฉลาดหลักแหลมเช่นกัน เมื่อเห็นสายตาของเซียวเซียวก็มุดออกไปอย่างเงียบเชียบจ่านเหยียนทำเป็นมองไม่เห็น เพียงแต่ยิ้มอย่างเอ้อระเหยพลางพูดกับถงไทเฮาถงไทเฮาข่มกลั้นโทสะในใจ หนึ่งปีมานี้นางใช้ชีวิตอย่างอึดอัดใจมาก วังหลังแย่งชิงตำแหน่งกัน พระสนมตั้งครรภ์แต่สุดท้ายก็แท้งบุตรกันหมดบัดนี้ใต้เข่านางมีเพียงองค์ชายที่ประสูติจากฉินเฟยตอนที่อยู่ในจวนรัชทายาท แม้แต่ฮองเฮาก็ยังไม่มีบุตรดังนั้นการที่เหลียงกุ้ยเหรินแท้งบุตรในครั้งนี้ นางจึงโกรธเกรี้ยวจริง ๆ แล้วสั่งให้ฮองเฮาตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนเพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเมื่อครู่นี้มาคนมารายงาน บอกว่าฮองเฮาจับตัวคนร้ายได้แล้ว แต่ถูกหลงจ่านเหยียนขัดขวาง หลงจ่านเหยียนยังกล้าสั่งคนตบหน้าฮองเฮาอีกด้วย ภายใต้ความเดือดดาล และนึกถึงเรื่องที่พระสนมทั้งหลายแท้งบุตรก่อนหน้

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 81

    ถงไทเฮาโกรธสุดขีด “วังหลังจะเก็บสตรีอำมหิตเช่นเจ้าได้อย่างไร? ส่งนางไปยังตำหนักเย็นก่อนแล้วค่อยจัดการทีหลัง”ผู้คนได้ยินคำกล่าวต่างก็ลอบตกใจ ขั้นตอนถัดไปหลังจากที่ส่งเข้าตำหนักเย็น เกรงว่าคงมีแต่ได้รับพระราชทานผ้าแพรขาวแล้วเหลียงกุ้ยเหรินทรุดลงกับพื้น หน้าซีดเซียวไร้ชีวิตนางกำนัลดึงเหลียงกุ้ยเหรินลงไป หลังจากลากตัวออกไปแล้วก็พบว่าจุดที่นางเพิ่งทรุดตัวนั่งลงมีคราบน้ำอยู่หนึ่งแอ่ง เกรงว่าเมื่อครู่นี้คงจะตกใจกลัวจนปัสสาวะราดแล้ว ไม่มีผู้ใดในที่แห่งนี้หัวเราะเยาะนาง เนื่องจากจุดจบของนางก็น่าสลดมากพอแล้วถงไทเฮาจัดการลงโทษเหลียงกุ้ยเหรินแล้วก็เชยตาฝ้าฟางขึ้นมามองจ่านเหยียน “น้องหญิงว่าข้าจัดการเรื่องนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่?” จ่านเหยียนแย้มยิ้มกล่าวว่า “ถงไทเฮาทรงจัดการได้อย่างเด็ดขาด ข้ารู้สึกถือนัก”“เมื่อครู่นี้ฮองเฮาถูกคนหลอกลวงไปชั่วขณะ ถึงได้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นหยวนผินเป็นตัวการที่ทำให้เหลียงกุ้ยเหรินแท้ง บัดนี้เรื่องราวกระจ่างแล้ว ไม่สู้น้องหญิงยอมประนีประนอมยุติเรื่องราว ลงโทษเล็กน้อยตักเตือนให้มากก็พอแล้ว” ถงไทเฮาไม่ลืมขอความเมตตาให้ฮองเฮาจ่านเหยียนเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ข

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 100

    หลงจ่านซินพึงพอใจกับความเยินยอของจ่านเหยียนเป็นอย่างยิ่ง นางเงยหน้าขึ้นมองหลงจ่านเหยียน แล้วยิ้มภาคภูมิใจออกมา “เมื่อก่อนยามมีแขกมาเยือนถึงบ้าน พอพูดถึงพวกเราสองพี่น้อง ต่างก็บอกว่าข้างามยิ่งกว่าพี่หญิง บัดนี้มาคิดดูแล้วเห็นจะไม่ใช่คำโกหก”หลงจ่านเหยียนยิ้มเล็กน้อย ยามมีแขกมาเยือนถึงประตูบ้าน หลงจ่านเหยียนไหนเลยจะได้ออกมาเผยโฉม?เดิมทีงานนี้เป็นงานเลี้ยงยามเย็นที่เป็นทางการยิ่ง เนื่องจากการมาถึงของหลงจ่านซิน บรรยากาศจึงแปลกประหลาดไปคนที่ยังสามารถรักษาสีหน้าให้เป็นปกติได้ มีเพียงแค่เซ่อเจิ้งอ๋องมู่หรงฉิงเทียนคนเดียวเท่านั้นเขาถือจอกสุรา ตรงมุมปากเผยความเย็นชา หลังจากดื่มสุราไปหลายจอก สีหน้าของเขาก็ยังไม่แปรเปลี่ยน มีเพียงกลิ่นสุราเท่านั้นที่โชยออกมา กระทั่งจ่านเหยียนที่นั่งอยู่ข้างเขาก็ยังได้กลิ่นสุราที่มอมให้คนเมามายในสถานการณ์เช่นนี้ หากมีใครสักคนเปิดหัวข้ออะไรสักอย่างขึ้นมา เพื่อให้งานเลี้ยงยามเย็นดำเนินต่อไปได้ ย่อมไม่เป็นปัญหาอะไรทว่ามีแต่คนที่อยากจะใช้โอกาสนี้ เผยหน้าแสดงให้เห็นถึงการมีตัวตนต่อหน้าใต้เท้ามากมายขนาดนี้หงฮวาอยู่แถวนั้น นางเดินผ่านเย่เต๋อโหรว แล้วเข้าไปพู

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 99

    ไม่ไม่เพียงแต่ประหลาดใจ ไม่มีมนุษย์คนไหนมีชีวิตอยู่ทั้งที่หัวใจไม่เต้น ที่เป็นเช่นนั้นมีอยู่ด้วยกันสามเหตุผล หนึ่ง มีของวิเศษไม่ก็ของศักดิ์สิทธิ์อยู่ในร่างกาย คอยประคองรักษาชีวิตเขาไว้สอง คือเป็นซอมบี้ แต่ซอมบี้จะต้องมีกลิ่นศพแผ่ออกมาจากกาย ไม่อาจเห็นแสงตะวัน ใบหน้าก็จะขาวซีดราวกับกระดาษ ไม่มีวันได้ใช้ชีวิตอย่างคนปกติทั่วไป ดังนั้นจึงมิใช่เหตุผลนี้ความเป็นไปได้สุดท้าย ก็คือผีดิบที่โดดออกมาจากสามโลกไม่อยู่ในห้าธาตุ แต่เขาไม่ใช่ผีดิบสภาพการณ์ของเขานั้น ตรงกับเหตุผลข้อที่หนึ่งเซ่อเจิ้งอ๋องมีเพียงรอยยิ้มบาง ๆ ให้กับคำสรรเสริญของหลงฉางเทียนเท่านั้น มิได้ตอบกลับไปแต่อย่างใดขณะที่จ่านเหยียนกำลังจมอยู่ในความคิด ก็ได้ยินน้ำเสียงจงใจดัดให้นุ่มนวลดังขึ้นมา “จ่านเหยียนคารวะฉีชินอ๋อง”เนื่องจากนางเงยหน้าขึ้นกะทันหัน ไม่ทันได้เตรียมพร้อม ทำให้ตกใจจนดวงตาทั้งสองข้างแทบจะถลนออกมาหลงจ่านซินใส่ชุดกระโปรงยาวจับจีบเผยช่วงอกสีแดงไข่มุกปักลายดอกเบญจมาศสีทองดอกใหญ่ ช่วงบนคลุมไว้ด้วยผ้าโปร่งบาง ช่วยบดบังได้ราง ๆ ทว่ากลับปิดความเย้ายวนไม่ได้ท่ามกลางความวับ ๆ แวม ๆ ผ้าโปร่งบางสีแดงยิ่งขับให้ผิวขา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 98

    บนบันไดหินหน้าระเบียงทางเดิน คนกลุ่มหนึ่งเดิมห้อมล้อมเซ่อเจิ้งอ๋องมู่หรงฉิงเทียนเข้ามาท่ามกลางแสงเทียนเลือนราง จ่านเหยียนเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเขาสวมใส่ชุดคลุมสีขาวนวลดั่งแสงจันทร์ คาดผ้าคาดเอวสีทองไว้บนช่วงเอว บริเวณกลางผ้าคาดเอวฝังหยกโมราสีเขียวขนาดเท่าไข่นกกระทาไว้หนึ่งชิ้น มันทอประกายหลากสีสันออกมาใต้แสงเทียนนี่เป็นครั้งที่สามที่จ่านเหยียนได้พบเขา ทว่าบุรุษผู้นี้มักมอบความสะเทือนขวัญใหม่ ๆ แก่นางทุกครั้งที่ได้เจอใบหน้าของเขาและฉีชินอ๋องมู่หรงหานเทียนละม้ายคล้ายคลึงกันสามถึงสี่ส่วน ทว่าแฝงไปด้วยความเด็ดขาดสองอย่างที่ต่างกันออกไปสามารถใช้คำว่าอ่อนโยนดุจหยกมาบรรยายได้ฉีชินอ๋อง ส่วนเขานั้นกลับมีรัศมีองอาจดุดันแผ่ออกมาทั้งกายตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาไม่ได้ตั้งแต่แผ่ความองอาจดุดันนี้ออกมา ทว่าเพียงแค่เจ้าเห็นเขา ต่อให้เขาไม่แสดงสีหน้าอันใดเลย เจ้าก็ยังคงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายองอาจดุดันที่แผ่ออกมากดดันผู้คนท่ามกลางความองอาจดุดันนั้นแฝงไปด้วยเสน่ห์แสนน่าประหวั่นที่ทำให้ผู้คนใจสั่น อืม ใช่แล้ว คำว่าเสน่ห์สุดแสนร้ายกาจที่มักจะถูกใช้บรรยายอยู่ในนิยายนั่นแหละ เมื่อก่อนนางไม่เคยเข้าใจเลย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 97

    พูดอีกอย่างก็คือ มิใช่เขาที่เป็นคนชมชอบจ่านเหยียนชะงักไปเล็กน้อย นางไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ ยังนึกอยู่เลยว่าเขาเต็มใจแต่งงานนางกล่าวออกไปไม่ตรงกับที่ใจคิดว่า “น้องหญิงเป็นคนร่าเริงฉลาดเฉลียว งดงามแลใจกว้าง เป็นแม่นางน้อยที่ไม่เลวเลยนางหนึ่ง”นอกจากจะชอบแทงเข็มใส่เล็บคนอื่นเขาทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิดกับชอบตะโกนเรียกผู้อื่นมาตบบ้องหูทั้งที่เขายังไม่ทันทำอะไรเลยแล้ว ที่เหลือก็คงไม่มีข้อบกพร่องอะไรแล้วอย่างน้อย นางก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นน่ะนะฉีชินอ๋องยิ้มเย็นชา “อย่างนั้นหรือ?”จากที่เขารู้ ที่ว่าร่าเริงฉลาดเฉลียวนั้นสามารถตีความได้หลากหลายแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาบรรยายหลงจ่านซินจ่านเหยียนเห็นว่าเขามีสีหน้าไม่ดี ก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขาไม่ค่อยพอใจนัก จึงปลอบไปว่า “ท่านอ๋องไม่ต้องกลัดกลุ้มไป หากไม่ไหวจริง ๆ ก็คิดเสียว่าแต่งงานกับแจกันดอกไม้เพื่อเอากลับไปเชยชมก็พอ ถึงอย่างไรมีสตรีงามให้ได้เชยชม ก็ถือว่าเป็นที่เจริญตาเจริญใจเรื่องหนึ่งมิใช่หรือ?”ฉีชินอ๋องยกมุมปากเผยรอยยิ้มไม่แยแสออกมา “ขอบพระทัยพระเชษฐภคินีที่ทรงปลอบ”“เรื่องที่กำหนดไว้แล้ว คิดมากไปก็ไร้ประโยชน์” จ่านเหยียนเอ่ยค

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 96

    ครั้นหลงฉางเทียนกล่าวจบ จ่านเหยียนจึงเริ่มตกรางวัลนี่เป็นรายการที่สกุลหลงตั้งตาคอยที่สุด ถึงอย่างไรก็ได้ยินมาจากคนของกรมพิธีการแล้วว่าครานี้ไทฮองไทเฮาลงทุนไปไม่น้อย ของที่เลือกมาล้วนเป็นของล้ำค่าในวังทั้งสิ้นของรางวัลแต่ละชุดวางอยู่บนโต๊ะ ทั้งหมดล้วนบรรจุไว้ในกล่องของขวัญ ยามตกรางวัลก็มิได้พูดชัดเจนว่าคืออะไร เรียกความสับสนงุนงงจากคนที่มาร่วมงาน การตกรางวัลโดยปกติแล้ว มักจะแจ้งชื่อเรียกของรางวัลนั้น ๆ เพื่อให้คนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย การตกรางวัลที่ดูลึกลับเช่นนี้ นับเป็นครั้งแรกทว่าในเมื่อไทเฮาไม่พูด จึงไม่มีคนกล้าเปิดออกดู ได้แต่สั่งให้บ่าวรับใช้ส่งกลับไปที่เรือนของตนเองก่อน กลับไปแล้วค่อยเปิดดูหงฮวาอยากเห็นมาตลอดว่าของรางวัลที่นางได้เป็นอะไร ทว่าเห็นคนอื่นไม่เปิดดู นางเองก็ไม่กล้าเปิดเช่นกันอันที่จริงนางไม่ค่อยพอใจเท่าไรนัก เพราะตกรางวัลมาให้นางเพียงชุดเดียว จะดีร้ายอย่างไรยามนี้นางก็ตั้งท้องเลือดเนื้อเชื้อไขของสกุลหลง แม้บุตรจะยังไม่คลอดออกมา แต่ก็ควรให้เพิ่มขึ้นอีกสักสุดนางเอื้อมมือออกไปรั้งแขนเสื้อเย่เต๋อโหรว กระซิบถามว่า “ฮูหยิน ท่านว่านางควรจะตกรางวัลให้ข้าเพิ่มอีกสัก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 95

    จ่านเหยียนร้องเฮอะ “ที่หลงฉางเทียนมีนิสัยไม่มีเหตุผล ไร้ความเมตตาต่อผู้อื่นเช่นนี้ล้วนได้มาจากบรรพบุรุษอย่างที่คิดจริง ๆ”“เจ้ากล้านักนะ อยู่ในศาลบรรพชนตระกูลหลงของข้าแล้วยังจะกล้าพูดจาอวดดีเช่นนี้อีก?” ผู้เฒ่าผมขาวมองมาด้วยสายตาเดือดดาลจ่านเหยียนแย้มยิ้มชั่วร้าย “กระทั่งข้าเจ้าก็ยังไม่รู้จัก เมื่อไม่รู้จักก็เลยกล้าพูดจาสามหาวกับข้าเช่นนี้สินะ?” เมื่อจ่านเหยียนพูดจบ ก็ชูมือขาวผ่องขึ้น แหปลาสีทองปากหนึ่งพลันหล่นลงมาจากฟากฟ้า ปกคลุมกลุ่มดวงวิญญาณของสกุลหลงกลุ่มนั้นไว้ นางคว้าแหจับปลาแล้วใช้มือเหวี่ยงออกไป แหจับปลากลับหดเล็กลงเป็นกลุ่มก้อน แล้วบีบไว้ในมือแน่นหยางจิ่วเม่ยตกตะลึง รีบก้าวเข้าไปด้วยอยากจะร้องขอความเมตตา ทว่าจ่านเหยียนกลับมองนางด้วยสายตาเรียบนิ่งแล้วกล่าวว่า “เจ้าสนใจแต่ตัวเจ้าเองก็พอ”หยางจิ่วเม่ยชะงัก ก้าวถอยหลังไปอย่างระมัดระวัง“ขึ้นไปบนแท่นบูชาเถิด ข้าจะส่งเจ้าขึ้นไปด้วยมือของข้าเอง ไม่มีใครไล่เจ้าไปได้หรอก” จ่านเหยียนชูฝ่ามือขึ้นปล่อยพลังตรงไปดันหยางจิ่วเม่ยขึ้นไปวิญญาณของหยางจิ่วเม่ยกลายเป็นดอกบัวดอกหนึ่ง แล้วค่อย ๆ หายในแท่นบูชาจ่านเหยียนใช้พลังหยินกักขังบ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 94

    ก่อนงานเลี้ยงยามเย็นจะเริ่ม อยู่ ๆ จ่านเหยียนกลับบอกว่าอยากไปกราบไหว้หยางจิ่วเม่ยมารดาแท้ ๆ ของตนที่ศาลบรรพชนสักหน่อยเย่เต๋อโหรวสั่งให้คนไปนำแท่นบูชาออกมาเตรียมไว้ตั้งแต่เช้าแล้ว กำชับให้วางไว้ข้าง ๆ เหล่าบรรพชนสกุลหลง ทั้งให้วางกระถางธูปไว้ด้วยหลงจ่านเหยียนเจาะจงจะให้เย่เต๋อโหรวไปกับนางด้วย มาตรแม้นว่าเย่เต๋อโหรวจะไม่ยินยอม ทว่าก็ยังตามเข้าไปด้วยท่าทีระมัดระวังเนื่องจากนางมีฐานะเป็นไทเฮา ย่อมไม่จำเป็นต้องคุกเข่าจิ้นหรูจุดธูปให้นาง แล้วจึงถอยออกไปในศาลบรรพชนหลงเหลือแค่จ่านเหยียนกับเย่เต๋อโหรวเท่านั้น คนรับใช้ล้วนรออยู่ด้านนอกจ่านเหยียนมองไปยังแท่นบูชาของหยางจิ่วเม่ย จึงรู้ว่าเพิ่งจะนำออกมาวางไปใหม่ เพราะว่าแท่นบูชานั้นใหม่เอี่ยมเป็นอย่างยิ่ง ไม่มีร่องรอยควันธูปเจิมเลยสักนิด“ฮูหยิน ท่านสร้างภาพได้ไม่เลวเลย” จ่านเหยียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบเย่เต๋อโหรวกล่าวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “บัดนี้ไทเฮามีฐานะสูงส่ง กระทั่งคำว่ามารดาก็ไม่ยอมเรียกขานกันสักคำหรือเพคะ?”“มารดา?” จ่านเหยียนหัวเราะเสียดสี “ข้าแค่กลัวว่าถ้าเรียกออกไป แล้วท่านจะรับไม่ไหวน่ะสิ”“กฎแห่งฟ้าดินแลศีลธรรมของ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 93

    นางเฉินเพิ่งเดินออกไป หงฮวาก็เข้ามาแล้ว นางตั้งท้องได้เจ็ดแปดเดือนแล้ว บัดนี้กำลังสวมใส่ชุดสีชมพูอมม่วง ทันทีที่ก้าวเข้ามาก็กล่าวว่า “ฮูหยิน ไยเงินเดือนของเดือนนี้ถึงได้น้อยเช่นนี้เล่าเจ้าคะ? ท่านก็รู้ว่าตอนนี้ข้ากำลังท้องกำลังไส้ มีที่ที่ให้ต้องใช้เงินมากมายไปหมด เงินเล็กน้อยแค่นี้ แค่ครึ่งเดือนก็ยังไม่พอเลย”เย่เต๋อโหรวมองนางเล็กน้อย แล้วกล่าว “เดือนนี้ในจวนมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ เงินเดือนของทุกเรียนจึงลดลงเช่นกันหมด มิใช่ว่าให้ไฉ่หลีไปบอกเจ้าแล้วหรือ?”“ท่านลดเงินของผู้อื่นก็ไม่เป็นอะไรหรอกเจ้าค่ะ แต่นี่ข้ากำลังท้องอยู่ หมอบอกว่าครรภ์นี้ของข้าเป็นผู้ชาย หากมีอะไรผิดพลาดไป ท่านแม่ทัพต้องไม่ปล่อยข้าไว้แน่” หงฮวากล่าวด้วยดวงตาเยือกเย็นซึ่งเจือแววข่มขู่เล็กน้อยเย่เต๋อโหรวกล่าวด้วยความเหนื่อยหน่าย “พอแล้ว อีกประเดี๋ยวข้าจะแบ่งจากส่วนของข้าให้เจ้าครึ่งหนึ่ง แล้วสั่งให้คนนำไปมอบให้เจ้า เช่นนี้พอใจแล้วกระมัง?”หงฮวาถึงได้ยิ้มออกมา “ขอบคุณฮูหยินเจ้าค่ะ”นางชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงกล่าวขึ้นมาอีกว่า “นึกไม่ถึงว่าหลงจ่านเหยียนจะกลับมาเยี่ยมบ้านมารดา การต้อนรับคงใช้จ่ายเงินไปไม่น้อยสินะเจ้า

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 92

    เช้าวันต่อมา รางวัลของกรมพิธีการก็มาถึง บรรจุเอาไว้เต็มรถม้าสองคันใหญ่ ล้วนเป็นของที่ไทฮองไทเฮาพระราชทานให้แก่หมู่โฮ่วฮองไทเฮาเอาไว้แจกจ่ายเป็นรางวัลระหว่างที่เดินทางกลับบ้านที่เรียกว่ากลับสู่บ้านเกิดในสภาพเต็มยศ ก็เป็นเช่นนี้เองเกี้ยวหงส์หยุดอยู่ในตรอกตำหนักหรูหลาน ขันทีแลนางกำนัลยืนเรียงเป็นสองแถว ตามอยู่ด้านหลังกองทหารเกียรติยศ ห่างไกลกันถึงหนึ่งลี้จิ้นหรูและกัวอวี้ประคองจ่านเหยียนออกมา วันนี้จ่านเหยียนสวมชุดชาววังจากผ้าไหมปักลายดอกโบตั๋นสีชมพูดอกบัวดอกใหญ่ซึ่งสวมใส่เป็นประจำ เครื่องประดับเกศาก็ปักอย่างเรียบง่าย บนผมทรงอาชาร่วงปักปิ่นทองห้อยหางหงส์ พร้อมด้วยปิ่นหยกเขียวที่ช่วยเสริมให้ดูสง่างามขึ้นท่ามกลางความงดงามนางนั่งอยู่บนเกี้ยวหงส์ กองทหารเกียรติยศคอยเปิดทางให้อยู่ด้านหน้าราตรีอันมืดมิดคืนหนึ่งเมื่อประมาณหนึ่งปีก่อน นางก็ถูกหามเข้าวังไปเช่นนี้ กะพริบตาเพียงครั้ง เวลาก็ล่วงเลยผ่านไปหนึ่งปีเสียแล้ว คนสกุลหลงรอรับเกี้ยวหงส์ที่หน้าประตูจวนตั้งแต่เช้าแล้ว ครั้นได้ยินเสียงของกองทหารเกียรติยศดังขึ้น หลงฉางเทียนก็รีบสั่งให้คนออกมาต้อนรับทันทีพรมสีแดงผืนหนึ่งทอดยาวตั้งแต่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status