Share

บทที่ 81

Author: ลิ่วเยว่
ถงไทเฮาโกรธสุดขีด “วังหลังจะเก็บสตรีอำมหิตเช่นเจ้าได้อย่างไร? ส่งนางไปยังตำหนักเย็นก่อนแล้วค่อยจัดการทีหลัง”

ผู้คนได้ยินคำกล่าวต่างก็ลอบตกใจ ขั้นตอนถัดไปหลังจากที่ส่งเข้าตำหนักเย็น เกรงว่าคงมีแต่ได้รับพระราชทานผ้าแพรขาวแล้ว

เหลียงกุ้ยเหรินทรุดลงกับพื้น หน้าซีดเซียวไร้ชีวิต

นางกำนัลดึงเหลียงกุ้ยเหรินลงไป หลังจากลากตัวออกไปแล้วก็พบว่าจุดที่นางเพิ่งทรุดตัวนั่งลงมีคราบน้ำอยู่หนึ่งแอ่ง เกรงว่าเมื่อครู่นี้คงจะตกใจกลัวจนปัสสาวะราดแล้ว

ไม่มีผู้ใดในที่แห่งนี้หัวเราะเยาะนาง เนื่องจากจุดจบของนางก็น่าสลดมากพอแล้ว

ถงไทเฮาจัดการลงโทษเหลียงกุ้ยเหรินแล้วก็เชยตาฝ้าฟางขึ้นมามองจ่านเหยียน “น้องหญิงว่าข้าจัดการเรื่องนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่?”

จ่านเหยียนแย้มยิ้มกล่าวว่า “ถงไทเฮาทรงจัดการได้อย่างเด็ดขาด ข้ารู้สึกถือนัก”

“เมื่อครู่นี้ฮองเฮาถูกคนหลอกลวงไปชั่วขณะ ถึงได้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นหยวนผินเป็นตัวการที่ทำให้เหลียงกุ้ยเหรินแท้ง บัดนี้เรื่องราวกระจ่างแล้ว ไม่สู้น้องหญิงยอมประนีประนอมยุติเรื่องราว ลงโทษเล็กน้อยตักเตือนให้มากก็พอแล้ว” ถงไทเฮาไม่ลืมขอความเมตตาให้ฮองเฮา

จ่านเหยียนเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ข
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 82

    หยวนผินเดินตามจ่านเหยียนกลับไปยังตำหนักหรูหลาน“คุกเข่าลง!” จ่านเหยียนเอ่ยอย่างเย็นชา หยวนผินเป็นคนเฉลียวฉลาดเช่นกัน เมื่อได้ยินจ่านเหยียนพูดเช่นนี้ก็รีบคุกเข่าลง “รับฟังคำสั่งสอนของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาเพคะ!”“เจ้ารู้ความผิดหรือไม่?” จ่านเหยียนเอ่ยถามอย่างเย็นชาหยวนผินก้มศีรษะ “หม่อมฉันรู้ความผิดแล้วเพคะ!”“ดี ออกไปคุกเข่าหน้าตำหนักหรูหลานหนึ่งชั่วยาม หากไม่มีคำสั่งจากข้า ห้ามลุกขึ้นมา” จ่านเหยียนสั่งการ “คุณหนูใหญ่...” จิ้นหรูอึ้งไปกำลังอยากจะห้ามปราม แต่ถูกกัวอวี้ยื่นมือออกมาดึงรั้งไว้ กัวอวี้ส่ายศีรษะบ่งบอกให้นางไม่ต้องพูดอะไร“หม่อมฉันขอบพระทัยหมู่โฮ่วฮองไทเฮาที่ช่วยชีวิตเพคะ!” หยวนผินโขกศีรษะสามครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็มีน้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะถอยออกไปนางคุกเข่าอยู่ในตรอกยาวหน้าประตูตำหนักหรูหราน มีนางกำนัลชะโงกหน้าลอบมองอยู่ใต้ต้นไหวหลังจากที่หยวนผินออกไปแล้ว จิ้นหรูก็อดถามไม่ได้ว่า “คุณหนูใหญ่ เหตุใดต้องลงโทษหยวนผินด้วยเพคะ? นางก็เป็นผู้ถูกกระทำเหมือนกัน” กัวอวี้แย้มยิ้ม “คุณหนูใหญ่ปกป้องหยวนผินต่างหาก วันนี้คุณหนูใหญ่ออกหน้าแทนนาง เปิดโปงแผนการของฮองเฮา ฮองเฮาจัดการคุณ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 83

    “เหลียงกุ้ยเหรินน่าจะรู้คร่าว ๆ เช่นกัน แต่นางก็ต้องลองเสี่ยงดู เพราะไม่ว่าลูกของนางจะหลุดออกมาหรือไม่ ขอเพียงพิสูจน์ว่าหยวนผิดใส่ชะมดเช็ดไว้ในถุงหอม ทำให้ทารกในครรภ์ของนางไม่มั่นคง นางก็ต้องโดนเล่นงานเหมือนกัน” จ่านเหยียนกล่าว“แล้วหมอหลวงหลี่รู้ได้อย่างไรเพคะ?” จิ้นหรูเอ่ยถาม“เหลียงกุ้ยเหรินอยากลอบติดสินบนหมอหลวงเพื่อปิดบังฮองเฮา แต่หมอหลวงหลี่รับเงินของเหลียงกุ้ยเหรินแล้วกลับหักหลังเหลียงกุ้ยเหริน คนเช่นนี้ ต่อให้ตายร้อยครั้งก็ยังไม่สาสม” จ่านเหยียนเอ่ยอย่างเย็นชา “เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพคะ!” จิ้นหรูพูดอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นนางก็เงยหน้ามองจ่านเหยียน “คุณหนูใหญ่รู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไรเพคะ?” จ่านเหยียนแย้มยิ้ม เล่นไข่มุกราตรีในมือ “ใต้หล้านี้ ขอเพียงข้าอยากรู้ก็ไม่มีเรื่องใดที่ข้าไม่อาจรู้ได้”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของนาง กัวอวี้กับจิ้นหรูก็สบตายิ้มให้กัน ดีเหลือเกิน ดูเหมือนว่าคุณหนูใหญ่กำลังจะลงมือโจมตีแล้ว“อันที่จริงคุณหนูใหญ่ไม่จำเป็นต้องช่วยหยวนผินเลย ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขมาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ เหตุใดจู่ ๆ ถึงอยากไปหาเรื่องคนตระกูลถงเพคะ?” จิ้นหรูเอ่ยถา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 84

    ภายในตำหนักเฟยเฟิ่งถงไทเฮาถงยังไม่ได้จากไป นั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือในท้องพระโรง เก้าอี้ตัวนี้เป็นเก้าอี้ที่จ่านเหยียนนั่งเมื่อครู่นี้นางโกรธจนสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าที่เดิมทีหมองคล้ำยิ่งดูอึมครึมมากขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่นางจะส่งสายตาเย็นเยียบราวกับเกาทัณฑ์ไปหาฮองเฮา “เจ้าดูสิว่าเจ้าทำเรื่องอะไรลงไปบ้าง? เหตุใดที่หาเรื่องให้นังแพศยานั่นออกมาด้วย?”ฮองเฮาถูกหลงจ่านเหยียนทำลายเรื่องดี ๆ และถูกกักบริเวณ ในใจรู้สึกคับข้องใจมากแล้ว เมื่อเห็นถงไทเฮาตำหนินางอีกก็อดตาแดงไม่ได้เช่นกัน “ท่านป้า ใครจะคาดคิดนางจะร้ายกาจถึงเพียงนี้? เมื่อก่อนเห็นนางหลบอยู่ในตำหนักหรูหลานเหมือนกับกระต่าย ยังนึกว่าไม่มีความน่ากลัวเสียอีก” ความเคียดแค้นแล่นวาบขึ้นมาในดวงตาอึมครึมของถงไทเฮา “นางแย่งตำแหน่งของข้าไม่ว่า ตอนนี้ยังกล้ากำเริบเสิบสานเหนือหัวข้าอีก นางเห็นว่าคนตระกูลถงของเรารังแกง่ายจริง ๆ หรือไร?” “ท่านป้า ท่านว่าตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเพคะ?” ฮองเฮาเอ่ยถามอย่างคับแค้นใจ “หรือว่าหม่อมฉันต้องโดนกักบริเวณสามเดือนเต็มจริง ๆ หรือเพคะ? “เจ้าก็นะ” ถงไทเฮากวาดมองนางแวบหนึ่ง “ก็ควรคิดทบทวนให้ดี ๆ หยวนผินได้รับโปรดป

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 85

    ถงไทเฮาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามกัวเจียเสี่ยงว่า “รู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใดถึงถูกลงโทษให้คุกเข่า?”กัวเจียเสี่ยงตอบว่า “บ่าวไม่ทราบพ่ะย่ะค่ะ แต่ได้ยินนางกำนัลที่กวาดพื้นตรงหน้าประตูบอกว่าตอนที่หยวนผินบุกเข้าไปในตำหนักหรูหลาน ได้เห็นเรื่องที่ไม่ควรเห็นเข้า หมู่โฮ่วฮองไทเฮาเลยโกรธเกรี้ยวเพราะเหตุนี้พ่ะย่ะค่ะ”“เรื่องที่ไม่ควรเห็น?” ฮองเฮาเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “ตำหนักหรูหลานนี้มีเรื่องอะไรที่ไม่อาจให้คนเห็นได้?” นางกล่าวจบก็ส่งเสียงถุยทันที นึกถึงข่าวลือในวังก่อนหน้านี้ “คิดว่านางกำลังแอบนัดพบนักดนตรีผู้นั้นแล้วถูกหยวนผินเจอเข้า” ถงไทเฮาส่งเสียงอืม “หากเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ไม่ต้องสิ้นเปลืองความคิดไปจัดการหยวนผินแล้ว นางเห็นเรื่องเสื่อมเสียของสตรีนางนั้นเข้า สตรีนางนั้นย่อมไม่ปล่อยนางเอาไว้แน่”นางชะงักไปครู่หนึ่งแล้วมองฮองเฮาอย่างตำหนิอีกครั้ง “ไม่ใช่ข้าจะว่าเจ้า แต่เจ้าใจแคบเกินไปแล้ว หยวนผินถือว่าเป็นคนว่านอนสอนง่าย เจ้ายังพุ่งเป้าไปที่นางเช่นนี้อีก มิน่าล่ะฝ่าบาทถึงไม่เสด็จมาหาเจ้า”ฮองเฮาเอ่ยอย่างไม่ยินยอมว่า “ฝ่าบาทไม่เสด็จมาก็เพราะโดนนังจิ้งจอกหยวนผินผู้นั้นล่อลวงจิตใจ หา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 86

    เช้าวันรุ่งขึ้น จวนเซ่อเจิ้งอ๋อง“สวรรค์ ผีหลอกแล้วจริง ๆ!” ฮุ่ยอวิ่นเดินเข้ามาด้วยสภาพหน้าตามอมแมมเต็มไปด้วยฝุ่น เมื่อเข้าประตูมาแล้วก็ร้องตะโกนมู่หรงฉิงเทียนเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะหนังสือ มู่หรงฉิงเทียนเงยหน้าจากโต๊ะหนังสือ ดวงตาเฉียบแหลมภายใต้คิ้วเรียวกวาดมองอย่างเฉยชา “เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก?”“วันนี้ได้ยินเรื่องประหลาดมา!” ฮุ่ยอวิ่นนั่งลงมา ใบหน้ายังคงมีสีหน้าตกตะลึง“พูดมา!” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง“วันนี้อาซานออกมารายงาน บอกว่าเมื่อวานหลงจ่านเหยียนออกจากตำหนักหรูหลาน แถมยังไปช่วยหยวนผินที่ตำหนักเฟยเฟิ่งของฮองเฮาด้วย ทำลายแผนการใส่ร้ายหยวนผินของฮองเฮาจนยับเยิน ไม่เพียงแค่นั้น นางยังกดดันถงไทเฮา ถงไทเฮาทำได้เพียงโกรธจัดต่อหน้านางเท่านั้น!”“เล่ามาทีละขั้น!” สายตาของมู่หรงฉิงเทียนฉายแววประหลาดใจ แต่สีหน้ากลับสงบนิ่งมากฮุ่ยอวิ่นเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในตำหนักเฟยเฟิ่งเมื่อวานนี้ให้มู่หรงฉิงเทียนทราบทีละอย่าง แม้แต่เรื่องจ่านเหยียนสังหารหมอหลวงหลี่ก็เล่าออกมาจนหมดมู่หรงฉิงเทียนเชยตาขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ “นางเป็นคนสั่งฆ่าหมอหลวงหลี่จริง ๆ หรือ?”“ใช่แล้ว แค่คำพูดประโย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 87

    ฤดูใบไม้ร่วง ปีที่สามสิบเจ็ดของรัชสมัยเกาจง เวลานั้นเกาจงทรงประชวรหนัก จึงให้ถงไท่ซือบริหารราชการแผ่นดินแทน ถงไท่ซือใช้โทษฐานว่าตระกูลหนานกงก่อกบฏ กวาดล้างวงศ์ตระกูลหนานกงสามพันเจ็ดร้อยยี่สิบเจ็ดชีวิตคุณชายเล็กของตระกูลหนานกงโชคดีหนีรอดมาได้เพราะติดตามแม่นมออกจากเมืองไปไหว้พระขอพร วงศ์ตระกูลหนานกงทั้งหมดจึงเหลือสายเลือดแค่เขาคนเดียวคุณชายเล็กผู้นี้ ปีนั้นมีอายุแค่แปดปี เขาก็คือฮุ่ยอวิ่นในปัจจุบันส่วนบุตรีของแม่ทัพหนานกงคืออวิ๋นกุ้ยเฟยในเวลานั้น นางเป็นป้าของฮุ่ยอวิ่นเนื่องจากก่อนที่เกาจงจะสิ้นพระชนม์ ได้ออกพระราชโองการห้ามไม่ให้ผู้ใดลงโทษอวิ๋นกุ้ยเฟย ดังนั้นกุ้ยเฟยจึงรอดพ้นเภทภัยมาได้ แต่ว่าหลังจากที่เกาจงสวรรคตไปไม่กี่ปีก็ถูกจงเสี้ยนฮองไทเฮาในเวลานั้นวางยาพิษจนตาบอด มือเท้าถูกตัดเส้นเอ็นอวิ๋นกุ้ยเฟยผู้นี้ก็คือพระมารดาแท้ ๆ ของมู่หรงฉิงเทียน ปัจจุบันถูกแต่งตั้งเป็นอวิ๋นกุ้ยไท่เฟย พำนักอยู่ในจวนอันหนิงอ๋องร่วมกับมู่หรงฉิงเทียนดวงตาของมู่หรงฉิงเทียนมีความอาฆาตเคียดแค้นใจ เขาหลับตาลงช้า ๆ ปกปิดคลื่นอารมณ์ปั่นป่วนอย่างรุนแรงในดวงตา สีหน้าก็ค่อย ๆ สงบนิ่งขึ้นมา“ฮุ่ยอวิ่น วันนั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 88

    ด้านนอกสวนดอกไม้ แสงแดดสดใสราวกับทองคำสาดส่องลงมาบนดอกไม้หลากสีสันโดยไม่มีความตระหนี่เลยแม้แต่น้อย มีสตรีนางหนึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้นานที่ทำจากไม้ไผ่ในสวนดอกไม้ นางหลับตา ใบหน้ามีรอยยิ้มจาง ๆ ที่สงบนิ่งสตรีที่สวมชุดอาภรณ์สีเทาเฝ้าอยู่ข้างกายนาง ดึงผ้าห่มบางขึ้นมาคลุมถึงไหล่ให้นาง เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า นางก็เงยหน้าขึ้น ดวงหน้ามีรอยยิ้ม ก่อนจะเดินเข้ามาส่งเสียงดังชู่ว์ “ท่านอ๋อง คุณชายฮุ่ยอวิ่น กุ้ยไท่เฟยเพิ่งหลับไป อย่าทำให้นางตื่นเลยเพคะ”ฮุ่ยอวิ่นเด็ดใบไม้ขึ้นมาหนึ่งใบ ก่อนจะเดินเข้าไปปัดขนตาของอวิ๋นกุ้ยไท่เฟยเบา ๆ แล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้มซุกซนว่า “ยังจะแสร้งหลับอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ?”อวิ๋นกุ้ยไท่เฟยลืมตาขึ้น นัยน์ตามืดมนไร้สีสัน ทว่ารอยยิ้มตรงมุมปากกลับยิ่งลึกขึ้น “ก็ยังปิดบังเด็กบ้าอย่างเจ้าไม่ได้อยู่ดี”“เป็นเพราะทักษะการแสดงของไท่เฟยแย่เกินไป ขนตากระตุกตลอดเลย” ฮุ่ยอวิ่นเอื้อมมือไปปัดดอกไม้ที่ร่วงหล่นบนบ่าของนางออก“เสด็จแม่ วันนี้รู้สึกว่าเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ?” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยถามอวิ๋นกุ้ยไท่เฟยเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย กลายเป็นท่วงท่ามองมู่หรงฉิงเทียน ก่อนจะยิ้มพลางตอบกลับว่า “ดีข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 89

    “ไปเถิด อย่าพูดร่ำไรเลย ข้ารู้ว่าพวกเจ้ายุ่ง ไม่ต้องมาคารวะทุกวันหรอก ข้ามีอาจู๋อยู่เป็นเพื่อน สบายดีแล้ว”แม้นางจะพำนักอยู่ในเรือนจิ้งหนิงมาเป็นเวลานาน แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะตัดขาดจากโลกภายนอก เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นภายนอก นางล้วนรู้ดีดวงตามืดบอดไปแล้ว แต่หัวใจกลับยิ่งกระจ่างแจ้งหลังจากที่มู่หรงฉิงเทียนกับฮุ่ยอวิ่นจากไปแล้ว อาจู๋ก็ถือชามายืนอยู่ข้างกายอวิ๋นกุ้ยไท่เฟย แล้วเอ่ยถามด้วยความกังวลว่า “จะไม่บอกท่านอ๋องกับคุณชายฮุ่ยอวิ่นจริง ๆ หรือเพคะ?”“ไม่บอกแล้ว จะได้ไม่ต้องทำให้พวกเขาเสียสมาธิเพราะข้า” ความกังวลปกคลุมบนดวงหน้าของอวิ๋นกุ้ยไท่เฟย ก่อนจะเอ่ยอย่างแผ่วเบา“เพียงแต่ว่าคงจะปกปิดไว้ได้ไม่นานเท่าไรนัก” อาจู๋กล่าว“ปิดได้หนึ่งวันก็ปิดหนึ่งวันเถิด ข้าช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้แล้ว ไม่อาจเป็นตัวถ่วงพวกเขาได้ตลอดไป” อวิ๋นกุ้ยไท่เฟยพูดพลางหน้าอกกระเพื่อมขึ้นมา เสียงไอดังครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็กระอักเลือดออกมาอาจู๋ประคองนางไว้ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เสียงกลับฟังไม่ออกถึงความผิดปกติ “รีบกลับไปพักผ่อนเถิดเพคะ”ป่วยมานานหลายปีขนาดนี้ กินยามานานหลายปีถึงเพียงนี้ ทำให้ร่

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 271

    “ข้าได้ยินมา ทุกคืนนางจะเรียกนักดนตรีไปบรรเลงเพลง ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”“ทูลไทเฮา เรื่องนี้เกินไปหน่อยเพคะ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาทรงเรียกพวกเขามาในยามวิกาลน้อยนัก!”รอยยิ้มของถงไทเฮาบานสะพรั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าก็รู้ว่าวังหลังมีปากหอยปากปูมาก จริงสิ ปกติเวลาอดีตฮ่องเต้ทรงสะสางราชกิจ ทรงโปรดทำอันใดหรือ?”หัวข้าสนทนาวกกลับมาเรื่องอดีตฮ่องเต้ จิ้นหรูลอบโล่งอก เวลาตอบคำถามจึงเป็นมิตรมากขึ้นบางส่วน “อดีตฮ่องเต้มีเวลาวางน้อยนัก แต่พระองค์โปรดอู้งานยามยุ่ง ทรงโปรดการเดินหมาก เสวยพระสุธารสชาเพคะ”“เดินหมาก? เดินกับผู้ใด?” ถงไทเฮาถาม“กับบ่าวเพคะ” จิ้นหรูยิ้มบาง “เพียงแต่ฝีมือการเดินหมากของบ่าวไม่ดี แพ้อยู่เรื่อยเลยเพคะ”“อดีตฮ่องเต้ทรงยินดีเดินหมากกับเจ้า แสดงว่าฝีมือการเดินหมากของเจ้าต้องดี” ถงไทเฮายิ้มเอ่ย “เจ้าอย่าได้ถ่อมตัวนักเลย วันหลังข้าจะเดินหมากกับเจ้าบ้าง เจ้าก็คลายเหงาให้ข้าหน่อย”“ขอเพียงไทเฮาโปรด บ่าวก็เดินหมากเป็นเพื่อนไทเฮาได้ทุกเมื่อเพคะ” จิ้นหรูกล่าวจากใจ“เจ้าช่างเป็นคนเข้าใจผู้อื่นแท้ ๆ มิน่าอดีตฮ่องเต้จึง ‘โปรดปราน’ เจ้าเช่นนี้” ถงไทเฮายิ้มเอ่ยคำพูดนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 270

    ตำหนักชิงหนิงจิ้นหรูคุกเข่าลงคำนับ “ถวายพระพรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮา”“ลุกขึ้นเถอะ จิ้นหรู” ถงไทเฮาแย้มยิ้มจิ้นหรูลุกขึ้นยืนก้มหน้าแล้วไปยืนอยู่ด้านข้าง“ไม่ต้องเกร็งไป วันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามา เพราะอยู่ ๆ ก็นึกถึงอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้เคยรับสั่งว่าทักษะการชงชาของเจ้าเป็นหนึ่งในใต้หล้า เจ้าจะชงให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?” ถงไทเฮากล่าวขอด้วยใบหน้าราบเรียบ“เพคะ!” จิ้นหรูขานรับ“หรูหัว ไปเตรียมเครื่องชงชา” ถงไทเฮาสั่งหรูหัวขานรับแล้วจึงออกไปถงไทเฮาปรายตามองจิ้นหรู วันนี้นางสวมชุดสีครามปักลายใบไม้ไผ่สีแดงเข้ม มิได้ผัดแป้ง แม้อายุล่วงเลยสี่สิบ กลับยังสง่าเรียบง่ายจิ้นหรูไม่เคยคลอดลูก จึงดูอ่อนเยาว์กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมิได้เลอโฉม กลับมีท่วงทำนองอย่างหนึ่งหรูหัวยกเครื่องชงชามา นางมองการต้มน้ำ ล้างชา ล้างถ้วย รินน้ำชาอย่างสง่างามของจิ้นหรูยังไม่พูดถึงฝีไม้ลายมือที่สง่างาม แต่ขณะนางชงชาจะมีสมาธิมาก ยามที่คนคนหนึ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่ง จะมีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นพิเศษในฐานะที่ถงไทเฮาคือสตรีก็รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหลนี้เหมือนกัน“อดีตฮ่องเต้โปรดเสวยพระสุธารสชาอะไรหรือ?” นา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 269

    ถงไทเฮาถอนตายตากลับช้า ๆ ก็จริง นับจากหรูหัวเข้าวังก็อยู่ข้างตัวนางมาตลอด รวมแล้วอดีตฮ่องเต้เคยมองนางเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่ชื่อของนางก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำที่สำคัญที่สุดคือ แม้หน้าตาของหรูหัวจะพอใช้ได้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘สวย’ เด็ดขาด“ในฐานะที่เป็นบุตรสาวสกุลถง ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็ใช้ชีวิตเหมือนพญาหงส์ แล้วยังจะสูงศักดิ์ยิ่งกว่าองค์หญิงเสียด้วยซ้ำ หลังจากเข้าวังก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา เกียรติยศไร้ขีดจำกัด แต่... นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ให้คนอื่นดู สิ่งที่ข้าต้องการ ก็แค่สายตาอาวรณ์หนึ่งของอดีตฮ่องเต้ เมื่อไม่ได้มา ข้าก็ไม่อยากให้ผู้ใดได้มันไปทั้งนั้น ไม่ว่านางจะอยู่หรือตาย ข้าก็ต้องรู้ว่านางคือใคร”ถงไทเฮาพูดเนิบช้ามาก แต่... มีความโหดเหี้ยมทุกถ้อยคำหรูหัวพิจารณาอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพึ่บ “เสี่ยวหรู? คนที่ปรนนิบัติอดีตฮ่องเต้ในตำหนักในสมัยก่อน มีคนหนึ่งที่ชื่อจิ้นหรูเพคะ”“จิ้นหรู? ไม่ใช่นาง” ถงไทเฮาส่ายหน้า “นางโตมากับอดีตฮ่องเต้ ถูกส่งไปปรนนิบัติข้างพระวรกายอดีตฮ่องเต้นานแล้ว หากนางคือคนที่อดีตฮ่องเต้โปรดปราน ไยไม่แต่งตั้งนางเป็นสนมเล่า?”หรูหัวคิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 268

    ฮองเฮาส่ายหน้า “ไม่ ซูอี้จะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไม่กลัวว่า...” ความกลัวเริ่มปกคลุมใบหน้าของนาง และไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย“ถ้าเจ้ายังอยากรักษาชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้ ก็ไปหาฮ่องเต้” ถงไทเฮากล่าวอย่างแค้นที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้าเทียบกับสมัยก่อน ถงไทเฮาเติบโตและรู้ความมากแล้ว เมื่อก่อนนางไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เข้าใจนาง เหตุใดมักให้นางทำเรื่องที่ลำบากใจ บัดนี้นางรู้แล้ว มีเพียงให้ตัวเองลำบาก สกุลถงจึงจะมั่นคงในใจของคนสกุลถง ชื่อเสียงและความมั่นคงของวงศ์ตระกูลสำคัญที่สุดเสมอ นางรู้ว่าตอนนี้ถงเหยียนยังไม่ตระหนักในจุดนี้ แต่นางจะเข้าใจในไม่ช้าก็เร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลานี้นับเป็นอันใด? ภายภาคหน้ายามสกุลถงกับสกุลมู่หรงแบ่งใต้ฟ้า นางจะรู้ว่าความอยุติธรรมทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้คุ้มค่าดวงหน้าไฉไลของฮองเฮาประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ที่เจืออยู่ในดวงตาคือน้ำตาแห่งความน้อยใจ “เหตุใดต้องให้ข้าไปช่วยด้วยเจ้าคะ? ท่านสั่งคำเดียวก็ได้แล้วนี่ กลับต้องให้ข้าวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้”ถงไทเฮานวดศีรษะ รู้สึกว่าความอึดอัดสายหนึ่งพุ่งขึ้นสมอง นางอยากระเบิดอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและเอ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status