Share

บทที่ 231

Author: ลิ่วเยว่
มู่หรงเจี้ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้มังกร เล่นแหวนอังคุฐหยกอยู่ในมือวงหนึ่ง “ยามนี้ใต้หล้าสงบ ไหนเลยยังมีเรื่องต้องหารือ? มิจำเป็น”

ราชครูถงเอ่ยเรียบ “เวลานี้ฎีกาทั้งหลายล้วนผ่านมือของเขาจึงจะถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาท แม้จะดำรงตำแหน่งเซ่อเจิ้งอ๋อง แต่เช่นนี้จะเอาตามใจตัวเองมากไปหน่อยแล้ว ไม่สอดคล้องกับกฎบรรพชนพ่ะย่ะค่ะ”

มู่หรงเจี้ยนเงยหน้า “เขาคือเซ่อเจิ้งอ๋องที่เสด็จพ่อทรงแต่งตั้ง ก่อนเสด็จพ่อสวรรคตก็ทรงกำชับเช่นนี้เหมือนกัน ราชครูมีวิธีใดยึดอำนาจมาจากมือของเขาได้หรือไม่? เวลานี้ขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักส่วนมากเป็นคนของเขาทั้งสิ้น”

ราชครูถงแลเฉินไท่ฟู่ “ฝ่าบาท พระองค์ต้องตระหนัก พระองค์ต่างหากที่เป็นโอรสสวรรค์ในปัจจุบัน เป็นฮ่องเต้ของแคว้นต้าโจว ฝ่าบาทสามารถออกราชโองการปลดอำนาจทางทหารและอำนาจทางการเมืองของเขาได้พ่ะย่ะค่ะ”

มู่หรงเจี้ยนนิ่งงันครู่หนึ่ง มองเฉินไท่ฟู่ “เฉินไท่ฟู่ ท่านมีความเห็นอย่างไร?”

เฉินไท่ฟู่คือบิดาหยวนผินที่เขาโปรดปราน จงรักภักดี ทั้งยังมีความสามารถ เขาเชื่อใจเฉินไท่ฟู่มาก

เฉินไท่ฟู่พิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “โปรดประทานอภัยที่กระหม่อมกล่าวตามตรง กระหม่อมคิดว่าเวลานี้บ้าน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 232

    “เรื่องนี้ยังไม่ต้องพูดถึง อีกไม่กี่วันราชทูตจากแคว้นอันหนานก็จะมาถึง หลายปีก่อนหลังจากฮ่องเต้แคว้นอันหนานเจอน้องแปดแล้วก็เฝ้าคิดถึงมาตลอด ประสงค์อภิเษกแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮา” มู่หรงเจี้ยนเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม“บัดนี้แคว้นอันหนานกำลังทหารแข็งแกร่ง แม้จะเป็นพันธมิตรกับต้าโจวเรา แต่พันธมิตรที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์เช่นนี้ บอกจะตัดก็ตัด ยามนี้ราชอำนาจเรายังไม่มั่นคง กระหม่อมของเสนอ มิสู้ทำตามความประสงค์ของฮ่องเต้แคว้นอันหนานพ่ะย่ะค่ะ” ราชครูถงเอ่ยเฉินไท่ฟู่ไม่รอให้มู่หรงเจี้ยนเอ่ยก็แย้งขึ้นมาทันที “กระหม่อมไม่เห็นด้วย ยังไม่ต้องเอ่ยถึงอดีตฮ่องเต้เคยปฏิเสธเรื่องการอภิเษกนี้ ฮ่องเต้แคว้นอันหนานพระชนมายุสูง เป็นปู่ขององค์หญิงแปดได้สบาย ๆ อีกอย่าง บัดนี้ต้าโจวเราบ้านเมืองแข็งแกร่งเช่นกัน หากจะรบกันจริง ๆ แคว้นอันหนานหรือจะเป็นคู่ต่อสู้ของเรา?”“ท่านเลอะเลือนยิ่งนัก! การเปิดศึกต้องคร่าชีวิตผู้คน ท่านทำใจเห็นพสกนิกรต้องพลัดพรากบ้านแตกสาแหรกขาดหรือ? อีกอย่าง ทันทีที่บ้านเมืองหนึ่งมีกำลังทหารแข็งแกร่ง ขุนศึกครองเมือง ท่านจะควบคุมสถานการณ์เช่นนี้ได้หรือไม่?” ราชครูถงเอ่ยเสียงแข็ง“พูดไปพูดมา ล้วนแต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 233

    “ฝ่าบาท มิได้เป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ การทำเช่นนี้จะทำให้ต้าโจวเราเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่าง...”“ไท่ฟู่ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาเคยล้างข้อสงสัยให้หยวนผินบุตรสาวท่าน ท่านจึงเห็นนางเป็นผู้มีพระคุณ จุดนี้ข้าสามารถเข้าใจได้ แต่เรื่องเกี่ยวพันถึงบ้านเมือง หวังว่าท่านจะพิจารณาเพื่อส่วนรวม” ราชครูถงเอ่ยด้วยสีหน้าบึ้งตึง“อื่ม เรื่องนี้ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน เรื่องนี้หากมิใช่นาง หยวนผินต้องรับกับความอยุติธรรมแล้วจริง ๆ เพียงแต่... นางคือหมู่โฮ่วฮองไทเฮา นางสมควรทำเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว” มู่หรงเจี้ยนกล่าวอย่างเรียบง่าย“ฝ่าบาท กระหม่อมมิใช่เพื่อสำนึกบุญคุณ เพียงคิดว่าการทำเช่นนี้จะเป็นการเสื่อมเสียเกียรติของบ้านเมือง มิสู้ปฏิเสธฮ่องเต้แคว้นอันหนานโดยตรง”“ปฏิเสธฮ่องเต้แคว้นอันหนานแล้ว ไท่ฟู่สามารถแบกรับผลที่จะตามมาได้หรือ?” มู่หรงเจี้ยนถามเขาเกลียดเรื่องเช่นนี้ที่สุด อย่าว่าแต่ให้เขาแต่งหลงจ่านเหยียนไปแทน ต่อให้ต้องส่งองค์หญิงแปดซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขาแต่งงานไปไกลถึงอันหนาน เขาก็ยินดี มีเพียงเช่นนี้จึงทำให้เขามิต้องวุ่นวายมากอย่างนั้นและที่สำคัญที่สุดคือ ราชครูถงกล่าวมีเหตุผล ทันทีที่เปิดศึก ฐา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 234

    จ่านเหยียนยืนอยู่บนยอดเขา มองทิวเขาทอดตัวต่อกันเบื้องล่างชั้นเมฆหนาสีขาวบริสุทธิ์ มองออกไปราวกับผืนนางปุยฝ้ายไร้ที่สิ้นสุดเบื้องล่างภูเขามีไอพิษพวยพุ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง นี่คือไอปีศาจร้ายกาจข้างใต้มีคนกำลังฆ่าฟันอย่างขยันขันแข็ง ฟางจี้จื่อสมกับที่เป็นผู้สูงส่งทางพรตอันมีชื่อเสียงของแคว้นต้าโจว สังหารปีศาจอย่างต่อเนื่อง สะกดปีศาจซึ่งบำเพ็ญมากกว่าห้าร้อยปีสองตนจนอ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้วจ่านเหยียนมิได้ออกโรงช่วยเขา อย่างน้อยนางก็ไม่ลงมือในช่วงนี้กรรมที่เขาสั่งสมเอาไว้ อย่างไรก็ต้องให้เขาได้ลิ้มรสจึงจะดี!“เลือดนองเป็นสายน้ำก็คือเช่นนี้!” อาเสอเห็นแล้วรู้สึกครั่นคร้ามเล็กน้อย“วางใจ ปีศาจที่ถูกสะกดพวกนี้ เพราะก่อกรรมทำเข็ญมามาก มีไอสังหารอยู่เต็มตัวจึงถูกสะกด ยามนี้พวกเขาหนีออกมา ความอาฆาตมิเจือจาง มีแต่จะเป็นภัยบนแดนมนุษย์” จ่านเหยียนเอ่ย“ดูอย่างไรว่าพวกเขายังมีความอาฆาตอยู่? สะกดแล้วพวกเขาอาจสำนึกได้เล่า?” ในฐานะที่อยู่ทางปีศาจเหมือนกัน อาเสอยังมีใจเมตตา“หากใจมิคิดชั่ว ไอของพวกเขาจะเป็นสีขาว แต่เจ้าดูสีพวกนั้นสิ ยิ่งเข้มยิ่งหมายถึงความชั่วในใจมีมาก ความอาฆาตเช่นนี้เพียงพอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 235

    “แต่... อาเสอ เรื่องมันผ่านไปหลายปีแล้ว เจ้าควรวางลงแล้ว” จ่านเหยียนกล่าวจริงจังอาเสอยิ้ม “ก็ข้าวางลงแล้วมิใช่หรือ? ข้าชอบคุณชายหวังแล้ว”จ่านเหยียนจ้องนาง แล้วเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่หลงเหลืออยู่อย่างไม่รู้ตัว “งูไม่ควรมีน้ำตา เลือดของงูเย็น เจ้าเย็นเยือกเช่นนี้ดีมาก”อาเสอยิ้มสวยปนเศร้ารับกับสายลม “นั่นสิ เดิมข้าก็คืองูตัวหนึ่ง เพียงแต่เป็นคนนานเกินไป ได้รับผลกระทบจากคน แต่... ข้าเป็นเช่นนี้เท่านั้น หรือว่าท่านไม่คิดจะมีความรักสักหน?”จ่านเหยียนมองการฆ่าฟันเบื้องล่างปุยเมฆ ยิ้มอย่างห่วงใยบ้านเมืองประชาชน “เจ้าแน่ใจหรือว่าพูดเรื่องนี้เหมาะสมกับสถานการณ์เช่นนี้แล้ว?”อาเสอยิ้ม “ไม่เหมาะสมจริง ๆ”“ฟางจี้จื่อจะแพ้แล้ว!” จ่านเหยียนชี้นิ้วอาเสอมองไป ฟางจี้จื่อกำลังต่อสู้กับปีศาจหมาป่า คงเพราะก่อนหน้านี้เสียกำลังและพลังมากเกินไป เวลานี้จึงอ่อนล้าแล้วปีศาจหมาป่ากลับเพิ่งผุดขึ้นมาจากพื้น พลังปีศาจน่าสะพรึง มีตบะพันปี ต่อให้ฟางจี้จื่อมิได้ต่อสู้กับปีศาจมากมายปานนั้นก็มิแน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของปีศาจหมาป่าเห็นเพียงเอวเขามีเมฆดำกลุ่มหนึ่งกำลังนัวเนียกับเมฆเหลืองกลุ่มหนึ่ง ตรงสุดสายตา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 236

    ปีศาจหมาป่าหัวเราะฮ่า ๆ ดังลั่น ครั้นเหินตัวไปมือหนึ่งก็เสียบเข้าหัวใจของเสวี้ยนจื่อ แล้วออกแรงขยุ้มควักหัวใจออกมาทั้งอย่างนั้น“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ตาย เจ้าคือผีดิบ แต่ข้าแค่อยากรู้ว่าผีดิบที่ไม่มีหัวใจจะอยู่อย่างไร” ปีศาจหมาป่าหัวเราะอย่างดุร้าย หัวใจของเสวี้ยนจื่อลุกไหม้กลายเป็นผงอยู่ในมือของเขาทีละน้อยเสวี้ยนจื่อเจ็บจนตัวยืดตรง จากนั้นก็ชักกระตุก เขาขบฟันกรามแน่น ไม่ยอมส่งเสียงสักแอะ“โอ๊ะ ปากแข็งเสียด้วย” ปีศาจหมาป่าแย้มยิ้มชั่วร้ายต่ำทราม เผยฟันแหลมคมน่ากลัวหลายซี่เขายื่นมือออกไปตรง ๆ อัคคีสองดวงขึ้นร่างกลางฝ่ามือของเขา เปลวไฟสูงขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มจากสีเหลือง จากนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงและสีดำในท้ายที่สุด“วิชาไฟบรรลัยกัลป์?” จ่านเหยียนอึ้งเล็กน้อย“เหมือนจะเคยได้ยินท่านบอกว่าเป็นวิชาเหมาซัน” อาเสอเอ่ยจ่านเหยียนพยักหน้า “ดูท่าคนที่สะกดเขาจะตายไปพร้อมกับเขาแล้ว คนผู้นั้นใช้ชีวิตสะกดเขา สุดท้าย คนตายแล้ว เขากลับดูดซับแก่นวิญญาณของอีกฝ่าย บัดนี้ขึ้นมาจากใต้พิภพ ใช้ดวงวิญญาณของคนผู้นั้น”“นั่นคือนักพรตเหมาซันที่น่าเคารพ เสียดาย เขาใช้ชีวิตสะกดปีศาจหมาป่า ตอนนี้กลับถูกฟางจี

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 237

    บัดนี้เผชิญหน้ากับฟางจี้จื่อ แม้เขาจะมีวิชาพรตสูงส่งเช่นนี้ สุดท้ายก็เกือบตายอนาถด้วยน้ำมือเขาอยู่ดีหากนางหนูที่ดูเหมือนไร้พิษไร้ภัยตรงหน้า ใช้แค่กระบวนท่าเดียว แค่กระบวนท่าเดียว! เขาก็สิ้นกำลังตอบโต้แล้ว จ่านเหยียนมิได้ตอบเขา มังกรตัวเขื่อนสีทองอร่ามคำรามทีหนึ่งก็กลายเป็นเพลิงโหมไหม้ในพริบตา“อ๊าาา”เสียงหมาป่าโหยหวนดังก้องหุบเขาเป็นพัก ๆ ส่งเสียงออกไปยังสถานที่อันไกลโพ้น อาเสอได้ยินแล้วพลันตัวสั่นหงึกหงักปีศาจหมาป่าวิญญาณแตกสลาย ดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากไฟโหมไหม้นั้น ทั้งหมดล้วนเป็นชีวิตที่ถูกปีศาจหมาป่าดูดวิญญาณเหล่านั้นกลายร่างเป็นคน โค้งคำนับจ่านเหยียนทีหนึ่งก่อนจะสลายตัวลอยออกไป“ม่องเท่งหรือยัง?” อาเสอเดินไปเตะแขนของเสวี้ยนจื่อเบา ๆเสวี้ยนจื่อถูกเผาจนเป็นตอตะโกทั้งตัว เขายังไม่ตาย แต่... เขาทรมาน หลักการนี้เหมือนกับจ่านเหยียนครั้นเขาลืมตาก็อยากจะลุกขึ้น ดวงตามองไปทางฟางจี้จื่อ ฟางจี้จื่อลมหายใจรวยรินแล้ว ฟางจี้จื่อมองจ่านเหยียน ในดวงตามีน้ำตาขุ่นมัว และมีความรู้สึกผิดที่เห็นได้อย่างชัดเจน“ขออภัย...” เขาเปล่งคำนี้ออกมาจากปากไหม้เกรียม ร่างกายสั่นเทาจ่านเห

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 238

    คทามังกรของจ่านเหยียนลอยออกไปหมุนวนอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็กลับถึงมือของจ่านเหยียนอีกครั้งอาเสอมองนางนิ่ง ๆ ฟางจี้จื่อก็มองนางนิ่ง ๆ เหมือนกันเสวี้ยนจื่อลืมตาขึ้น ในดวงตาเจือการวิงวอนจ่านเหยียนถอนหายใจทีหนึ่ง เก็บก้อนหินด้านข้างมาก้อนหนึ่ง แล้วใช้กำลังฝ่ามือขัดจนกลายเป็นรูปหัวใจ ปากก็ว่า “ความจริง...การเป็นคนใจหินไส้เหล็กก็ไม่เลวเหมือนกัน”นางวางก้อนหินเข้าไปในหัวใจของเสวี้ยนจื่อ จากนั้นก็ปิดผนึก ตามด้วยกรีดเลือดจากนิ้วของตัวเองแล้วหยดลงไปหลอมรวมกับหัวใจของเสวี้ยนจื่อเสวี้ยนจื่อรู้สึกเพียงตรงตำแหน่งหัวใจถูกเติมเต็มทันใด และความทรมานบรรเทาลงทีละน้อยฟางจี้จื่อมองภาพนี้ด้วยความอัศจรรย์ใจ เขามิเคยเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน กระทั่งไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น เขาเดินไปประคองเสวี้ยนจื่อและถาม “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”เนื่องจากเลือดหนึ่งหยดของจ่านเหยียน สีเลือดบนใบหน้าของเสวี้ยนจื่อจึงค่อย ๆ กลับมาแดงระเรื่อดังเดิม หนำซ้ำยังแดงยิ่งกว่าเมื่อก่อน เขาเอามือคลำตำแหน่งหัวใจของตัวเอง ตรงนั้นแนบสนิทไม่มีรอยสักนิด ความรู้สึกของเขาผสมปนเปอย่างอธิบายไม่ถูก ซาบซึ้ง ตื่นเต้น...จ่านเหยียนเอ่ย “ในตัวของ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 239

    “ผู้ดูแลเฉิน เมื่อคืนแม่นั่นหนำใจละสิ? เสียดายแพงไปหน่อย มิเช่นนั้นข้าจะได้สนุกด้วยแล้ว” ชายร่างกำยำดื่มสุราชามหนึ่ง แล้วหัวเราะฮ่า ๆ“แพงไปหน่อย แต่ก็คุ้มค่า!” ผู้ที่กล่าวคือชายหน้าขาวเนียนเหมือนบัณฑิตอายุสามสิบกว่า ใบหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยถ้อยคำที่พวกเขากล่าว อาเสอและจ่านเหยียนได้ยินแล้วสงบราบเรียบ แม้แต่เสวี้ยนจื่อก็ยังไม่รู้สึกอะไร ทว่าฟางจี้จื่อกลับขุ่นเคืองเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบา “กลางวันแสก ๆ ก็หยิบยกเรื่องพวกนี้ออกมาพูด ไม่รู้จักอายเสียบ้าง”จ่านเหยียนมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้ายุ่งเกินไปแล้ว การพูดคืออิสระ พวกเขาจะพูดอะไรก็เรื่องของพวกเขา แค่ไม่ทำร้ายคน เจ้าก็มิจำเป็นต้องยุ่ง”ก็จริง หลาย ๆ เรื่อง ที่ควรยุ่งก็ยุ่ง ที่ไม่ควรยุ่งเขาก็ยุ่งฟางจี้จื่อหน้าแดงเล็กน้อย “ถูกต้อง ข้าได้รับการสั่งสอนแล้ว”จ่านเหยียนกลับไม่มีใจจะสั่งสอน กล่าวตามความจริง นางไม่ค่อยชอบให้คนอื่นเคารพนบนอบกับนางเช่นนี้ อย่างกับนางเป็นเทพเซียนสูงส่งที่รับควันธูปจากแดนมนุษย์อย่างนั้นแหละนางคิดแล้วจึงเอ่ย “กินข้าวเถอะ”เสวี้ยนจื่อมิได้ขยับตะเกียบ เขากินของพวกนี้ไม่ได้จ่านเหยียนปราดตามองเขาแวบหนึ่ง “ตอนนี้เจ้ากิน

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 254

    เขาให้เชียนอวี่เตรียมระเบิดให้พร้อม สวมชุดกันฝนตัวใหญ่ และหมวกไม้ไผ่สานใบใหญ่“ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนี้จะอันตรายมากนะเพคะ” เชียนอวี่พูดสู้เขาไม่ได้ จึงได้แต่เตือนอีกมู่หรงฉิงเทียนมัดสิ่งของติดกับตัวเรียบร้อย “ข้าย่อมมีความมั่นใจ”มั่นใจ? ไม่! แต่หากมองทั้งแคว้นต้าโจว ผู้ที่มีวิชาตัวเบายอดเยี่ยมที่สุด นอกจากเขาก็มีเพียงไม่กี่คนหากเป็นแต่ก่อน เขาจะมีความมั่นใจมากกว่านี้ แต่... ร่างกายในยามนี้มีปัญหา โดยเฉพาะเวลาออกแรง เขามักรู้สึกว่าเลือดลมติดขัด คาดว่าอาจเกี่ยวกับวิญญาณมังกรถูกทำลายการบรรเทาภัยพิบัติ ที่ต้องแย่งชิงคือเวลา เขาจะล่าช้าไม่ได้ฮุ่ยอวิ่นเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ แทบจะหมดเรี่ยวแรง เขาอุ้มคนห้าสิบแปดคนขึ้นมา แต่ที่ยังมีชีวิตอยู่กลับมีแค่สิบเจ็ดคนเท่านั้นใจของเขาทั้งโกรธแค้นและเสียใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขาคือคนที่เคยผ่านสนามรบ เห็นการเกิดการตายจนเคยชิน แต่... นั่นมันไม่เหมือนกันทหารออกรบเตรียมตัวพลีชีพแล้ว การพลีชีพของพวกเขาคือเกียรติยศ เพราะพวกเขาประสบความสำเร็จในคุณค่าการดำรงอยู่ของพวกเขาแต่ชาวบ้านตาสีตาสาเหล่านี้มีผู้ใดที่มิใช่ผู้บริสุทธิ์? พวกเขายังอยู่ในความฝันก็ต้อ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 253

    คนข้างตัวมู่หรงฉิงเทียนทำงานว่องไวมาก เพียงครึ่งชั่วยามก็เตรียมของที่นางต้องการครบแล้วนางหลบทำระเบิดอยู่ในบ้านหลังหนึ่งตอนนี้นางกำลังห่วงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือข้างนอกฝนตกหนักปานนั้น จะวางระเบิดไว้ใต้หินใหญ่ประตูน้ำได้อย่างไร?นอกเสียจากหาคนจำนวนหนึ่งมามัดระเบิดกับตัวพวกเขา ใช้เรือส่งไป จากนั้นก็จุดชนวน แต่หากทำเช่นนี้... คนพวกนี้ก็จะไม่รอดใครจะยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อระเบิดประตูน้ำกัน?นางยอม แต่นางคนเดียวระเบิดไม่ได้ นางประมาณคร่าว ๆ ต้องมีคนแบกระเบิดอย่างน้อยสี่คน จึงจะระเบิดประตูน้ำสำเร็จเมื่อนางบอกเรื่องนี้กับใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าหลี่ก็เงียบไปพักหนึ่ง “ข้าไปเอง!”“ไม่!” เชียนอวี่คัดค้านทันใด “ข้าไป!”“ไม่อนุญาต!” ใต้เท้าหลี่ค้านเสียงแข็ง “เจ้ามีวรยุทธ์ สามารถสร้างความผาสุกให้กับราชสำนัก ที่ไร้ประโยชน์คือบัณฑิต หากข้าตายแล้ว ย่อมมีผู้มีความสามารถมาเป็นผู้ว่าการเมืองหลวงแทน”เชียนอวี่ตาแดง “ไม่ อย่างไรข้าก็ตัวคนเดียว ตายแล้วไม่มีใครเสียดาย ใต้เท้ายังมีบุพการีต้องดูแล ต้องเป็นข้าไป”“ใครบอกว่าเจ้าตายแล้วไม่มีคนเสียดาย? ข้าคือผู้บังคับบัญชาของเจ้า คำสั่งของข้า เจ้าต้องปฏิบัติ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 252

    กระบี่เย็นเฉียบสัมผัสคอของเขา น้ำฝนซัดสาดลงมากระทบกับตัวกระบี่เป็นละอองกระเด็นใส่ใบหน้าของเขาเขาเห็นศพเกลื่อนพื้นก็รู้สึกขนพองสยองเกล้า ท่าทางอ่อนลงมากทันที “ข้า...ต้องกลับไปดู จำไม่ค่อยได้แล้ว”“ใต้เท้าหลี่ อย่าถ่วงเวลาอีกเลย สถานการณ์คับขัน!” ใต้เท้าหลี่ร้อนใจจนเดินวนไปวนมาครั้นเชียนอวี่ยกกระบี่ขึ้นเล็กน้อย คอของถงจื่อหยาก็มีเลือดซึมออกมา ถงจื่อหยารู้สึกเจ็บแล้วจึงรีบพูด “ได้ ได้ ข้าพูด วางกระบี่ลงก่อน!”มือของเชียนอวี่ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย “พูด!”ถงจื่อหยายกมือขึ้นแล้วรีบพูด “ได้ ได้ นอกจากตรงนี้ สันเขื่อนด้านล่างลงไปอีกสิบห้าลี้ทำจากทรายปนเศษหินหมด มีแต่ข้างนอกที่ใช้หินกรวดกับอิฐ ดินเหนียวก็ไม่พอ ดังนั้น...”ใต้เท้าหลี่โกรธจนลมออกหู “ใต้เท้าถง จากที่ข้ารู้มา การสร้างสันเขื่อนนี้ใช้เงินถึงสามแสนตำลึงเต็ม ๆ สามแสนตำลึง เอามาซื้อทรายกับเศษหินหรือ? พวกเราต่างรู้ว่าเขื่อนต้องใช้อิฐ หินกรวด และทรายร่วมกับดินเหนียวจึงจะสร้างได้แข็งแรง นี่คือเรื่องชีวิตคน ท่านรู้หรือไม่?!”“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร? ข้าแค่ดูแลเงิน ไม่เคยเข้าร่วมกับการก่อสร้างเสียหน่อย นี่คืองานของกรมโยธา” ถงจื่อหยายังปา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 251

    เขาแค่นเสียง “หญิงไร้ยางอาย หญิงเช่นนี้ให้ข้าเปล่า ๆ ข้ายังไม่เอาเลย!”“คิดมากไปแล้ว มิมีผู้ใดอยากให้ท่านเปล่า ๆ หรอก” เชียนอวี่เอ่ยชืด ๆถงจื่อหยาแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็สั่งให้คนเตรียมรถม้า เชียนอวี่เอ่ย “มิจำเป็น ข้าขี่ม้ามา ใต้เท้าถงขี่ม้าตัวเดียวกับข้าก็ได้”ถงจื่อหยาบันดาลโทสะ “ข้างนอกฝนตกหนักออกอย่างนั้น เจ้าจะให้ข้าขี่ม้าไปหรือ? แล้วยังต้องขี่กับหญิงเยี่ยงชายเช่นเจ้า? เจ้าเห็นข้าเป็นใคร? เจ้าเป็นแค่คนต้อยต่ำ แต่ข้าสูงส่งเทียมฟ้า”เชียนอวี่อดทนต่อความวู่วามที่อยากจะผลัวะเขาหนัก ๆ จูงม้ามา พลิกตัวขึ้นหลังม้า ตามด้วยโน้มตัวลงมือฉุดแขนของถงจื่อหยาขึ้นมาทั้งอย่างนั้นถงจื่อหยาตกใจรีบจับแขนเสื้อของเชียนอวี่เอาไว้พร้อมก่นด่ายกใหญ่ แต่เสียงลมดังเกินไป เชียนอวี่จึงถือเสียว่าไม่ได้ยินถ้อยคำของเขาเมื่อถึงริมกำแพงกั้นน้ำ เชียนอวี่ก็ลากเขาไปถึงตรงหน้าใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าหลี่ยังมิทันเอ่ยปาก ถงจื่อหยาก็ตบหน้าไปฉาดหนึ่งแล้วใต้เท้าหลี่เอียงศีรษะไปด้านหนึ่ง ก่อนจะหันมาจ้องถงจื่อหยาถงจื่อหยาถุยและกล่าววาจาหยามเหยียด “ทำไม? ยังคิดจะตอบโต้หรือ? เจ้าตีสิ ตี ตีสิ...”เชียนอวี่หวดหมัดใส่เขา ต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 250

    เมื่อได้ยินคำพูดของเชียนอวี่ ใต้เท้าหลี่ก็ขมวดคิ้วและเอ่ยด้วยโทสะ “ส่งขี้ข้ามาจะทำอะไรได้?! คนของกรมโยธาล่ะ? คนของกรมโยธาอยู่ที่ไหน? มาแล้วหรือยัง?!”เนื่องจากเมื่อครู่ใต้เท้าหลี่เดินเร็วจึงหกล้มหลายหน ยังไม่ทันได้ทำแผล ใบหน้าจึงมีเลือด ยามนี้บันดาลโทสะ ใบหน้าจึงยิ่งดุดันมีมือปราบเดินมาเอ่ย “ใต้เท้า เสนาบดีกรมโยธาใต้เท้าเฉินป่วยฉับพลันเสียชีวิต เกรงว่าโรคจะแพร่ไปทั้งจวนจึงเผาศพแล้วขอรับ”ใต้เท้าหลี่ผงะ จากนั้นก็แค่นเสียงหัวเราะ “ป่วยฉับพลันเสียชีวิต? ตายแล้วหรือหนีไปแล้ว?”“นี่... ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ” มือปราบเอ่ยใต้เท้าเหลียงรองเสนาบดีกรมคลังมาถึง เขากระหืดกระหอบเอ่ย “ใต้เท้าหลี่ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่? เขื่อนที่เพิ่งสร้างเสร็จบอกจะแตกก็แตกได้อย่างไร?”“ข้าก็อยากถามเรื่องนี้กับท่านอยู่พอดี จากที่ข้ารู้มา กรมคลังกับกรมโยธาตรวจสอบรับด้วยกัน ตอนที่ตรวจสอบไม่ได้ดูอย่างละเอียดหรือ?” ใต้เท้าหลี่มองตาขวางและถามใต้เท้าเหลียงยิ้มขม “ใต้เท้าหลี่ก็ใช่จะไม่รู้ ข้าอยู่ในกรมคลังเฉกเช่นอากาศธาตุ ใต้เท้าถงเป็นคนตรวจสอบด้วยตัวเอง ข้าไม่เคยเห็นมีแต่ภาพแบบและการใช้วัสดุด้วยซ้ำ!”“แม่งเอ๊ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 249

    “แต่... ท่านราชครูก็ยำเกรงเขาอยู่บางส่วน ใต้เท้าว่าควรให้เกียรติเขาหน่อย ไปดูสักหน่อย? เขื่อนแตกครั้งนี้ คาดว่าต้องมีคนตายไม่น้อย” อาฟาเกลี้ยกล่อม “ไปเปยอะไร? ไม่ไป! ข้าไม่ได้ทำให้คนตายสักหน่อย” ถงจื่อหยาไม่พอใจ “เจ้าพาสองคนไปดู เขาอย่างมากก็ไม่พอใจนิดหน่อย จะทำอะไรข้าได้?”อาฟาเห็นว่าเกลี้ยกล่อมไม่ได้ผล จึงได้แต่รับคำ “ขอรับ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”อาฟาพาผู้ติดตามสองคนออกประตู เชียนอวี่นั่งยองหลบฝนอยู่ด้านหน้า รอจนหงุดหงิดแล้ว เมื่อเห็นประตูเปิดออกจึงผุดลุกขึ้น นางไม่รู้จักถงจื่อหยา นึกว่าอาฟาก็คือถงจื่อหยา จึงเดินไปทำความเคารพ “คำนับใต้เท้าถง”อาฟามองนางแวบหนึ่ง เอ่ย “ใต้เท้าถงไม่สบาย ให้ข้าไปแทน”เชียนอวี่ผงะ “ไม่ทราบท่านคือ?”“มิจำเป็นต้องถาม ไปเถอะ” อาฟาเอ่ยเรียบ“แต่ท่านอ๋องบอกแล้วว่าต้องเชิญใต้เท้าถงไป” เชียนอวี่พลันรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก จึงแสดงอารมณ์โกรธออกมาจากใบหน้า“ใต้เท้าถงก็บอกแล้วว่าให้ข้าไปก็พอ เจ้าเป็นคนมาเชิญกระมัง? มีคนไปก็พอ เจ้าจะเรื่องมากทำไม?”“นี่จะได้อย่างไร? ท่านอ๋องต้องมีเรื่องสำคัญอยากถามใต้เท้าถง...”อาฟาระเบิดอารมณ์ทันที “ข้าว่าเหตุใดเจ้าจึงไม่รู้จั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 248

    บ่าวรับใช้ได้ยินคำพูดของเชียนอวี่แล้วก็หัวเราะเหน็บ การเดินทอดน่องที่แต่เดิมก็ช้าอยู่แล้วหยุดลงกะทันหัน “มีคนตายแล้ว? ใต้หล้านี้มีวันใดบ้างที่ไม่มีคนตาย? ตายก็ถือได้แค่ว่าคนพวกนั้นดวงซวย เกี่ยวอะไรกับใต้เท้าเรา?”เชียนอวี่สะกดความวู่วามที่อยากตบหน้าเขา แล้วเอ่ย “รบกวนรีบไปเร็วเถอะ ท่านอ๋องกำลังรออยู่ที่เขื่อน”บ่าวรับใช้อยู่นั่นแค่นเสียงฮึ “ท่านอ๋อง อ๋องท่านไหน? เมืองหลวงนี้มิใช่อ๋องทุกคนก็เรียกใช้ใต้เท้าเราได้นะ”เชียนอวี่กัดฟันพูด “เซ่อเจิ้งอ๋อง!”บ่าวรับใช้ผู้นั้นผงะ “เซ่อเจิ้งอ๋อง? เซ่อเจิ้งอ๋องเชิญใต้เท้าเรากลางดึกไปทำอะไร?”“ข้าบอกแล้ว แม่น้ำรอบเมืองเขื่อนแตก” เชียนอวี่แทบอดทนถึงที่สุดแล้วหลังจากบ่าวรับใช้ผู้นั้นพิจารณาครู่หนึ่งก็เอ่ยชืด ๆ “รอเถอะ!”เมื่อนั้นบ่าวรับใช้จึงเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปถงจื่อหยากำลังกอดอนุภรรยานอนหลับฝันหวาน ในเรือนของเขามีภรรยาและอนุภรรยานับสิบคน ย่อมไม่สามารถพักอยู่ในเรือนหลักได้ทั้งหมด จึงซื้อเรือนพักอีกสิบกว่าแห่งให้อนุภรรยาเหล่านั้นอยู่บ่าวรับใช้เดินไปถึงหน้าห้อง อาฟาบ่าวคนสนิทของถงจื่อหยากำลังเข้าเวรนั่งอยู่หน้าระเบียงทางเดินเมื่อเห็นบ่าว

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 247

    ตอนนี้เอง ทหารกองหนุนก็เพิ่งถึงใต้เท้าหลี่ผู้ว่าการเมืองหลวงก็มาถึงแล้วเช่นกัน เขาเปียกปอนไปทั้งตัวเหมือนกับมู่หรงฉิงเทียน ผู้ใต้บังคับบัญชาส่งเสื้อและหมวกกันฝนให้เขา ไม่ขอให้กันฝน ขอเพียงสามารถลืมตาท่ามกลางลมพายุฝนกระหน่ำเช่นนี้ได้ก็พอ“ท่านอ๋อง จะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?” ชั่วขณะใต้เท้าหลี่คิดไม่ออก นับจากเขาดำรงตำแหน่ง นี่คืออุทกภัยร้ายแรงที่สุดในเมืองหลวง“สั่งให้ช่วยคน!” มู่หรงฉิงเทียนบัญชาการทั้งหน้าตาเคร่งเครียด มือหนึ่งลากทหารรักษาการณ์ของเมืองหลวงแล้วสั่งเสียงกร้าว “เร็ว ช่วยได้เท่าไรเท่านั้น เรือไม้ล่ะ? เตรียมแล้วหรือ?!”“เตรียมแล้วพ่ะย่ะค่ะ จะลงน้ำเดี๋ยวนี้!” นายทหารผู้นั้นน่าจะถูกคนเรียกตกใจตื่นจากเตียง แต่งตัวไม่เรียบร้อย ผมเผ้ารุงรัง“ให้ไว!” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยบรรดาทหารลงน้ำช่วยคน น้ำเชี่ยวมาก ช่วยคนมือเปล่าเป็นเรื่องลำบากยิ่ง ดังนั้นจึงลากเชือกป่านหลายเส้นมาที่ชายฝั่ง ด้านหนึ่งมัดกับตะขอเหล็กบนฝั่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ผูกติดกับตัวของทหารเรือไม้ลำน้อยลงน้ำตามลำดับ แล่นไปทางชาวบ้าน“เสนาบดีกรมโยธาและเสนาบดีกรมคลังอยู่ที่ไหน?!” มู่หรงฉิงเทียนดวงตาแดงก่ำวาวโรจน์ ตะคอกก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 246

    กลางดึก ฝนยังโปรยปรายอย่างต่อเนื่องดึกดื่นค่อนคืนฮุ่ยอวิ่นผลักประตูของมู่หรงฉิงเทียน “เทียน ลุกเร็ว เกิดเรื่องแล้ว เขื่อนแตกแล้ว!”มู่หรงฉิงเทียนผุดลุกขึ้นมาจากเตียง “เกิดอะไรขึ้น?”ฮุ่ยอวิ่นตัวชุ่มโชก วาวโรจน์ “ทางน้ำตัน น้ำไม่ลด เอ่อขึ้นมาจนเขื่อนรับไม่ไหวก็เลยแตก”“ลอกทางน้ำนานแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดจึงตันได้?” มู่หรงฉิงเทียนคลุมเสื้อรวบผมแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที“หัวหน้างานเป็นคนของราชครูถง กรมคลังจ่ายเงินไปแล้ว แต่กรมโยธาไม่ทำงานให้ดี” ฮุ่ยอวิ่นตอบด้วยความโกรธโทสะคลั่งปกคลุมดวงตาของมู่หรงฉิงเทียน เขาเอ่ยเสียงหนัก “ไปที่เขื่อนก่อน สั่งทหารไปช่วยภัยพิบัติ ลากตัวทุกคนในกรมคลังและกรมโยธาไปที่เขื่อนให้หมด!”ฝนหนักมาก เทสาดลงมาจากฟ้าเมืองหลวงมีพายุฝนเป็นประจำ เคยน้ำท่วมต่อหลายครั้ง ดังนั้นเรื่องแรกหลังจากมู่หรงฉิงเทียนขึ้นรั้งตำแหน่งก็คือสร้างเขื่อนและลอกทางระบายน้ำ น้ำจากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเลโดยตรง ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงไร หากมิได้เทกระหน่ำสามวันสามคืนจนทำให้มีน้ำหลากจากภูเขา จะไม่ทำให้เขื่อนแตกเด็ดขาดแต่... ยามนี้ฝนตกแค่สองชั่วยามเขื่อนก็พังแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าใช้วัสดุใดในการสร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status