กระบี่เย็นเฉียบสัมผัสคอของเขา น้ำฝนซัดสาดลงมากระทบกับตัวกระบี่เป็นละอองกระเด็นใส่ใบหน้าของเขาเขาเห็นศพเกลื่อนพื้นก็รู้สึกขนพองสยองเกล้า ท่าทางอ่อนลงมากทันที “ข้า...ต้องกลับไปดู จำไม่ค่อยได้แล้ว”“ใต้เท้าหลี่ อย่าถ่วงเวลาอีกเลย สถานการณ์คับขัน!” ใต้เท้าหลี่ร้อนใจจนเดินวนไปวนมาครั้นเชียนอวี่ยกกระบี่ขึ้นเล็กน้อย คอของถงจื่อหยาก็มีเลือดซึมออกมา ถงจื่อหยารู้สึกเจ็บแล้วจึงรีบพูด “ได้ ได้ ข้าพูด วางกระบี่ลงก่อน!”มือของเชียนอวี่ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย “พูด!”ถงจื่อหยายกมือขึ้นแล้วรีบพูด “ได้ ได้ นอกจากตรงนี้ สันเขื่อนด้านล่างลงไปอีกสิบห้าลี้ทำจากทรายปนเศษหินหมด มีแต่ข้างนอกที่ใช้หินกรวดกับอิฐ ดินเหนียวก็ไม่พอ ดังนั้น...”ใต้เท้าหลี่โกรธจนลมออกหู “ใต้เท้าถง จากที่ข้ารู้มา การสร้างสันเขื่อนนี้ใช้เงินถึงสามแสนตำลึงเต็ม ๆ สามแสนตำลึง เอามาซื้อทรายกับเศษหินหรือ? พวกเราต่างรู้ว่าเขื่อนต้องใช้อิฐ หินกรวด และทรายร่วมกับดินเหนียวจึงจะสร้างได้แข็งแรง นี่คือเรื่องชีวิตคน ท่านรู้หรือไม่?!”“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร? ข้าแค่ดูแลเงิน ไม่เคยเข้าร่วมกับการก่อสร้างเสียหน่อย นี่คืองานของกรมโยธา” ถงจื่อหยายังปา
คนข้างตัวมู่หรงฉิงเทียนทำงานว่องไวมาก เพียงครึ่งชั่วยามก็เตรียมของที่นางต้องการครบแล้วนางหลบทำระเบิดอยู่ในบ้านหลังหนึ่งตอนนี้นางกำลังห่วงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือข้างนอกฝนตกหนักปานนั้น จะวางระเบิดไว้ใต้หินใหญ่ประตูน้ำได้อย่างไร?นอกเสียจากหาคนจำนวนหนึ่งมามัดระเบิดกับตัวพวกเขา ใช้เรือส่งไป จากนั้นก็จุดชนวน แต่หากทำเช่นนี้... คนพวกนี้ก็จะไม่รอดใครจะยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อระเบิดประตูน้ำกัน?นางยอม แต่นางคนเดียวระเบิดไม่ได้ นางประมาณคร่าว ๆ ต้องมีคนแบกระเบิดอย่างน้อยสี่คน จึงจะระเบิดประตูน้ำสำเร็จเมื่อนางบอกเรื่องนี้กับใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าหลี่ก็เงียบไปพักหนึ่ง “ข้าไปเอง!”“ไม่!” เชียนอวี่คัดค้านทันใด “ข้าไป!”“ไม่อนุญาต!” ใต้เท้าหลี่ค้านเสียงแข็ง “เจ้ามีวรยุทธ์ สามารถสร้างความผาสุกให้กับราชสำนัก ที่ไร้ประโยชน์คือบัณฑิต หากข้าตายแล้ว ย่อมมีผู้มีความสามารถมาเป็นผู้ว่าการเมืองหลวงแทน”เชียนอวี่ตาแดง “ไม่ อย่างไรข้าก็ตัวคนเดียว ตายแล้วไม่มีใครเสียดาย ใต้เท้ายังมีบุพการีต้องดูแล ต้องเป็นข้าไป”“ใครบอกว่าเจ้าตายแล้วไม่มีคนเสียดาย? ข้าคือผู้บังคับบัญชาของเจ้า คำสั่งของข้า เจ้าต้องปฏิบัติ
เขาให้เชียนอวี่เตรียมระเบิดให้พร้อม สวมชุดกันฝนตัวใหญ่ และหมวกไม้ไผ่สานใบใหญ่“ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนี้จะอันตรายมากนะเพคะ” เชียนอวี่พูดสู้เขาไม่ได้ จึงได้แต่เตือนอีกมู่หรงฉิงเทียนมัดสิ่งของติดกับตัวเรียบร้อย “ข้าย่อมมีความมั่นใจ”มั่นใจ? ไม่! แต่หากมองทั้งแคว้นต้าโจว ผู้ที่มีวิชาตัวเบายอดเยี่ยมที่สุด นอกจากเขาก็มีเพียงไม่กี่คนหากเป็นแต่ก่อน เขาจะมีความมั่นใจมากกว่านี้ แต่... ร่างกายในยามนี้มีปัญหา โดยเฉพาะเวลาออกแรง เขามักรู้สึกว่าเลือดลมติดขัด คาดว่าอาจเกี่ยวกับวิญญาณมังกรถูกทำลายการบรรเทาภัยพิบัติ ที่ต้องแย่งชิงคือเวลา เขาจะล่าช้าไม่ได้ฮุ่ยอวิ่นเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ แทบจะหมดเรี่ยวแรง เขาอุ้มคนห้าสิบแปดคนขึ้นมา แต่ที่ยังมีชีวิตอยู่กลับมีแค่สิบเจ็ดคนเท่านั้นใจของเขาทั้งโกรธแค้นและเสียใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขาคือคนที่เคยผ่านสนามรบ เห็นการเกิดการตายจนเคยชิน แต่... นั่นมันไม่เหมือนกันทหารออกรบเตรียมตัวพลีชีพแล้ว การพลีชีพของพวกเขาคือเกียรติยศ เพราะพวกเขาประสบความสำเร็จในคุณค่าการดำรงอยู่ของพวกเขาแต่ชาวบ้านตาสีตาสาเหล่านี้มีผู้ใดที่มิใช่ผู้บริสุทธิ์? พวกเขายังอยู่ในความฝันก็ต้อ
คนบนฝั่งมองไม่เห็นเขา ที่นี่มิอาจจุดตะบันไฟ การส่องสว่างจากกู้ภัยล้วนแล้วแต่อาศัยแสงจากโคมไฟอันน้อยนิดแม้จะเป็นเชียนอวี่ที่ขี่ม้าเรียบชายฝั่งตามเรือไปก็มองไม่เห็นเหมือนกัน ได้แต่มองเงาราง ๆ นางเป็นห่วงมาก เพราะนางไม่ค่อยได้เห็นวรยุทธ์สมัยโบราณของจริงสักเท่าไร นางคิดว่าคนเพียงคนเดียวไม่สามารถโยนระเบิดสี่ลูกได้ในเวลาเดียวกัน เพราะก้อนหินแต่ละก้อนห่างกันประมาณหนึ่ง จะต้องเป็นความเร็วแบบอัศจรรย์ถึงจะทำได้ อีกอย่าง ระเบิดที่ทำจากดินปืนชนิดนี้จะมีอานุภาพรุนแรง แค่โยนไปก็ระเบิด เซ่อเจิ้งอ๋องจะออกมาอย่างปลอดภัยได้หรือไม่? เขาจะโดนหินที่แตกตัวจากการระเบิดหรือไม่? ต่อให้เขากระโดดลงน้ำทันที แต่เนื่องจากประตูน้ำถูกระเบิดเปิดออก น้ำจะหลากลงที่ต่ำ เขาต้องถูกน้ำพัดไปแน่หลังจากฮุ่ยอวิ่นสงบสติได้แล้วก็วิเคราะห์ความร้ายแรงของเรื่องเช่นนี้ เขาขี่ม้ากวดเชียนอวี่ ใบหน้ารับกับลมฝน เอ่ย “เจ้าบอกข้ามา ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงที่สุดคืออะไร?”เชียนอวี่หันไปมองเขา บนใบหน้าแยกแยะไม่ออกว่าเป็นน้ำฝนหรือน้ำตา แต่เสียงกลับสั่นเครือผิดปกติ “ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงที่สุด ก็คือกลับมาไม่ได้ และประตูน้ำก็ระเบิดไม่สำเร็จ”“เจ
จ่านเหยียนนอนอยู่ในดอกบัวราวกับปุยนุ่น ตกอยู่บนภูเขา“คุณหนูใหญ่!” ในโสตได้ยินเสียงร้องไห้ของอาเสอจ่านเหยียนลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนแอ มองอาเสอด้วยใบหน้าซีดเซียวแล้วยิ้ม “ข้าเคยบอกแล้ว งูคือสัตว์เลือดเย็น ไม่ควรมีน้ำตา”“ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” อาเสอไม่มีต่อมน้ำตา ก็ไม่รู้ว่าน้ำตาออกมาจากทางไหน เช็ดอย่างไรก็เช็ดไม่หมดสี่คนที่เหลือก็มองจ่านเหยียนด้วยใบหน้ากังวลเหมือนกันจ่านเหยียนพรูลมทีหนึ่ง เสียงเนิบนาบมาก “ข้ารู้สึกง่วง ๆ เหนื่อย ๆ นอนสักตื่นก็หายแล้ว”“ห้ามนอนนะ ห้ามนอน!” อาเสอตบแก้มนาง คิดแล้วจึงเอานิ้วจิ้มไปที่จุดตันเถียนจ่านเหยียนดึงมือของนางไว้ “ไม่ เจ้าคือปีศาจงู มุกวิญญาณของเจ้าไม่เหมาะกับข้า ข้าไม่เป็นไร แค่เสียพลังชั่วคราว อีกสี่สิบเก้าวันก็ปลอดภัยแล้ว”“จริงหรือ?” อาเสอถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือจ่านเหยียนมองไปทางฟางจี้จื่อแล้วคลี่ยิ้มตรงมุมปากอย่างอิดโรย “ฟางจี้จื่อ เจ้าอยากฆ่าข้ามาตลอด ตอนนี้ เจ้าสามารถทำอย่างที่หวังได้แล้ว”ฟางจี้จื่อส่ายหน้า “ไม่ ข้าไม่อยากฆ่าท่านแล้ว และจะขัดขวางทุกคนที่จะฆ่าท่านอย่างสุดความสามารถด้วย”จ่านเหยียนหัวเราะ “เช่นนี้ ข้าถือว่าปราบพยศข
ตากฝนมาทั้งคืน แล้วยังต้องวิ่งไปวิ่งมาอีกหลายหน นางไร้เรี่ยวแรงสนับสนุนนานแล้ว กำลังราวกับเชือกที่พันธนาการมือขาของนางเอาไว้ ในที่สุดนางก็ไม่มีแรงว่ายต่อนางมองไปทางฮุ่ยอวิ่นอย่างสิ้นหวัง ฮุ่ยอวิ่นดีกว่านางหน่อย แต่สุดท้ายก็ว่ายอยู่ได้ไม่นาน คืนนี้เขาช่วยคนขึ้นจากน้ำ ผลาญกำลังภายในไปมาก ตอนนี้ยังทานแรงน้ำที่หลากมาได้อย่างไร?ก็ขณะที่ทั้งสองกำลังจะจมลงไปก็มีมือมากด้วยกำลังมือหนึ่งฉุดพวกเขาไว้ จากนั้นก็พุ่งขึ้นฟ้าแล้วร่อนตัวตกลงริมฝั่ง“เทียน!” ฮุ่ยอวิ่นโพล่งปากอุทาน “ท่านไม่เป็นไรนะ?”มู่หรงฉิงเทียนมิได้ตอบเขา แต่เงยหน้าไปมองฟ้า “ฝนหยุดแล้วหรือ?”ฝนหยุดแล้ว? ฮุ่ยอวิ่นกับเชียนอวี่ยื่นมือออกไป ในใจดีใจลิงโลด ฝนหยุดแล้วจริง ๆ สวรรค์มีเมตตา ฝนหยุดแล้วจริง ๆฮุ่ยอวิ่นพูดทั้งตาแดง “ข้ายังนึกว่าท่าน...”เมื่อบรรดาเจ้าหน้าที่และทหารที่ถือคบเพลิงอยู่ในมือเข้ามาหา โดยรอบก็ถูกส่องสว่างทันที ส่องราตรีมืดมิดให้สว่างราวกับทิวากาล“ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นไร ยอดไปเลยพ่ะย่ะค่ะ!” ใต้เท้าเหลียงดีใจจนน้ำตาร้อนคลอเบ้า ทุกคนเห็นภาพไฟระเบิดเมื่อครู่กันหมด หัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มเดิมยังคิด ถึงท่านอ๋องจะไ
เทพโอสถแสยะยิ้ม “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าข้าเรียนวิชาแพทย์มากมาย ก็เพื่อรักษาแบบไร้สิ่งตอบแทนหรือ?”“เช่นนั้นขอถามหมอเทวดา เรียนวิชาแพทย์มากมายมิใช่เพื่อรักษา แล้วเพื่อสิ่งใดกัน?”“ทุกเรื่องที่ทำล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย เขาต้องการให้ข้ารักษาลูกสาวของเขา ย่อมต้องจ่ายเพื่อสิ่งนี้”“ข้าคิดมาตลอดว่าการรักษาช่วยคนคือหน้าที่ของหมอ...”“พ่อหนุ่ม ที่เจ้าพูดนั่นคือหมอทั่วไป มิใช่ข้า ข้ามีชื่อว่าเทพโอสถ ก็รู้ว่ามิใช่ผู้ใดก็สามารถมาขอให้ข้ารักษาได้ มิเช่นนั้น ท่านอ๋องของพวกเจ้าก็คงไม่ตามหาข้ามาสองปี” เทพโอสถเอ่ยเสียงเย็นอาซิ่นโกรธจนแทบแทบกระอักเลือด เขานิ่งครู่หนึ่ง หลังจากปรับน้ำเสียงได้แล้วก็ขอร้อง “ท่านดูนางสิ เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ท่านทำใจเห็นนางตายได้หรือ?”“ชีวิตนี้ข้าเห็นคนตายมาน้อยหรือ? เอาออกไป!” เทพโอสถปรายตามองเด็กผู้หญิงคนนั้นอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง ใบหน้าของนางมีแต่คราบเลือด ลมหายใจรวยรินพ่อของเด็กผู้หญิงคุกเข่าโขกศีรษะดังตุบ “ท่านหมอเทวดา ขอร้องท่านช่วยลูกสาวของข้าด้วย บัวหิมะจากเขาเทียนซันที่ท่านต้องการ เอาไว้รักษาลูกสาวข้าแล้ว ข้าจะไปเอามาให้ท่านทันที”“พูดเสียน่าฟัง บัวหิมะจากเขาเทีย
“คุณชายมิใช่ไปจวนอ๋องแล้วหรือ?” ผู้ที่เอ่ยก็คืออาหู นางถูกจ่านเหยียนทิ้งอยู่ที่นี่ไม่ได้พาไปด้วยอาซิ่นเห็นฝนท่าทางจะหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงถามอาหู “ไม่ทราบว่าข้าจะเข้าไปได้หรือไม่?” ถ้าสุดท้ายก็ยังช่วยนางไม่ได้ เขาก็หวังว่าจะหาที่หลบฝนให้นางสักแห่ง ให้นางไปสบายหน่อยอาหูลังเลเล็กน้อย “แต่คุณชายบ้านข้าไม่อยู่”“ขอร้องละ ข้าแค่อยากหลบฝนสักหน่อย” อาซิ่นเอ่ยอาหูกำลังพิจารณาก็เห็นเด็กผู้หญิงในอกของเขา “สวรรค์! นางเป็นอะไรไปน่ะ?”“นางบาดเจ็บ หาหมอรักษาไม่ได้!” อาซิ่นเอ่ย“รีบเข้ามา!” อาหูยื่นมือไปทดสอบลมหายใจ ยังมีลมอยู่“ได้!” อาซิ่นรีบลุกขึ้นมา “ขอบคุณแม่นาง”อาหูพาอาซิ่นเข้าไป ให้เขาวางเด็กผู้หญิงไว้บนตั่งนอน จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปผ่านไปพักหนึ่งก็ถือขวดใบหนึ่งกลับมา “นี่คือยารักษาแผลชั้นดีที่คุณชายบ้านข้าทำขึ้น รักษาแผลภายในโดยเฉพาะ”นางเทใส่ฝ่ามือสี่เม็ด คิดครู่หนึ่ง “คุณชายเคยบอกว่าเด็กลดครึ่งหนึ่ง” นางเทกลับเข้าไปสองเม็ด เหลืออยู่ในฝ่ามือสองเม็ดนางใส่ยาลงในถ้วย ละลายด้วยน้ำร้อน แล้วใช้ช้อนคันเล็กเทลงปากของเด็กผู้หญิงช้า ๆปากของนางค่อย ๆ อ้าออก นางไม่รู้ว่ากลืนอะไรลงไป ค
มู่หรงเจี้ยนก็ไม่มีโทสะ สีหน้างุนงงเล็กน้อย “เราคิดว่าฮองเฮาต้องตกลง”“ไม่ ไม่เด็ดขาดเพคะ ใครก็ได้หมด มีแต่นางที่ไม่ได้!” ฮองเฮาพูดอย่างตะบึงตะบอน นางคิดอย่างไร้เดียงสาว่าที่มู่หรงเจี้ยนต้องการให้นางรับปากเรื่องการแต่งตั้งหยวนผินเป็นหยวนกุ้ยเฟย เพราะเคารพความคิดเห็นของนางแต่... คำพูดต่อมากลับทำให้นางหน้าซีดเผือดฉับพลัน“ตามกฎมณเฑียรบาล การแต่งตั้งนางสนม จำเป็นต้องให้ฮองเฮาจัดการเรื่องพิธี หากฮองเฮาไม่เห็นด้วย เช่นนั้น เราก็ไม่มีทางอื่นแล้ว ได้แต่เปลี่ยนฮองเฮาเสีย”เขาพูดจบก็เดินจากไปอย่างสง่างามแบบกระทั่งไม่เหลียวแลนางสักสายตาความราบเรียบสง่างามเช่นนี้ ในสายตาของฮองเฮา คือความน่าชังถึงที่สุดนางสั่นเทาไปทั้งตัว หัวสมองว่างเปล่า คำพูดนี้ ต่อให้ตายนางก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้เขาจะไม่โปรดปรานนางที่สุด แต่ความเคารพและสถานะที่ควรมีก็มอบให้นางเต็มที่เวลานี้ เพียงเพราะการคัดค้านคำเดียว เขาก็พูดเรื่องปลดฮองเฮาออกมาอย่างง่ายดายเช่นนี้แล้วนางโกรธ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่หวาดกลัว ไม่ตื่นตระหนก เพราะนางรู้ว่าการปลดฮองเฮาเป็นเพียงการพูดไปอย่างนั้น มีไทฮองไทเฮาและถงไทเฮาอ
“แต่ซูอี้นั่นเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนเพียงไร? หม่อมฉันได้ยินว่าคนที่เข้าคุกทักษิณ โดยมากแล้วล้วนถูกทรมานจนยอมรับผิด” ฮองเฮาซอยเท้าตามไปพูด“อ้อ? ดูท่าฮองเฮาจะสนใจเรื่องของราชสำนักมากนะ!” มู่หรงเจี้ยนเอ่ยชืด ๆฮองเฮาชะงักงัน ดวงหน้าสะสวยเผยความหวาดกลัวเล็กน้อย “หม่อมฉันก็แค่ได้ยินคนพูดมาเพคะ มิได้รู้ชัดเจน”“ในเมื่อไม่รู้ชัดเจนก็อย่าพูดจาเลื่อนเปื้อน เซ่อเจิ้งอ๋องเป็นผู้ก่อตั้งคุกทักษิณด้วยตนเอง พิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมเสมอมา ไม่ปรักปรำผู้ใดเด็ดขาด” พอมู่หรงเจี้ยนนั่งลงบนตั่งก็มีนางกำนัลยื่นผ้าขนหนูร้อนมาให้เขาหยิบมาเช็ดมือแล้วโยนกลับลงใส่กะละมัง เหล่มองฮองเฮาทีหนึ่ง “ฮองเฮามิจำเป็นต้องกังวล เราเชื่อท่านพ่อตา เขาจะไม่สมคบคิดยักยอกเงินกับกรมโยธาเด็ดขาด การพิจารณาคดีนี้ก็เพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้เขาเท่านั้น”ฮองเฮาลังเลครู่หนึ่ง เอ่ย “เกรงแต่คนในคุกทักษิณเหล่านั้นจะลงทัณฑ์ให้รับสารภาพ จะได้ไขคดีสร้างผลงานโดยเร็ว เช่นนั้นท่านพ่อมิต้องถูกปรักปรำหรือเพคะ?” มู่หรงเจี้ยนเริ่มเคือง “เลอะเทอะ! เราบอกแล้ว คนของคุกทักษิณทำงานอย่างเป็นธรรม แล้วจะลงทัณฑ์ให้รับสารภาพได้อย่างไร? หากพิจารณาคดีนี้ไม
พระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า “คนผู้นี้จิตใจไม่ตรง!”“ดูอย่างไร?” ฮุ่ยอวิ่นถามพระอาจารย์เป่ากวงยิ้มจาง ๆ “คนคนหนึ่ง หากจิตใจซื่อตรง ดวงตาย่อมใส แต่เขามีความคิดมากนัก”“เช่นนั้นเขาจะรักษาโรคให้กุ้ยไท่เฟยอย่างจริงใจหรือ?” ฮุ่ยอวิ่นอดกังวลไม่ได้“เขาต้องการมีชื่อในหล้า ย่อมทุ่มเทใจรักษาโรคให้กุ้ยไท่เฟย จุดนี้วางใจได้ อีกอย่าง เขามาด้วยมีจุดประสงค์ ได้ยินว่าเขาต้องการให้ศิษย์หญิงของเขาแต่งงานกับคุณชาย”เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ดวงตาของฮุ่ยอวิ่นก็เย็นชาเล็กน้อย “ถูกต้อง เขาบอกว่าต้องการหาสามีท่านหนึ่งให้ศิษย์หญิงของเขา และข้า ก็เคราะห์ร้ายถูกเขาหมายตา”พระอาจารย์เป่ากวงหัวเราะเล็กน้อย “ขอเตือนคุณชาย การแต่งงานคือเรื่องทั้งชีวิต หากไม่ชอบ ก็อย่าได้ฝืน โลกใบนี้ เรื่องที่ฝืนมักมีจุดจบน่าอนาถเสมอ”“สำหรับข้า การแต่งภรรยามิสำคัญ แต่งกับใครก็คือแต่ง” ฮุ่ยอวิ่นกล่าวเช่นนี้ นึกถึงที่หลงอู่ทำนายให้เขา บอกว่าเขาจะได้เจอกับหญิงที่ชอบมากคนหนึ่ง จึงนึกขำไม่ได้ ไม่ ชาตินี้ไม่ ความรักชายหญิงมิเคยเป็นประเด็นสำคัญในชีวิตของเขาการหลับครั้งนี้ของจ่านเหยียนกินเวลาสามวันสามคืนเต็ม ๆสามวันนี้ราชสำนักวุ่นวา
“อาหู?” ฮุ่ยอวิ่นไม่รู้จักอาหู“อื่ม สาวใช้ของคุณชายบ้านข้าน่ะ” อาเสอเอ่ยกับเขา “ท่านก็หาที่นั่งเองเถอะ ในจวนไม่มีคนรับใช้คนอื่น พ่อบ้านใหญ่กัวกำลังดูแลคุณชายบ้านข้าอยู่”“พ่อบ้านใหญ่กัว?” ฮุ่ยอวิ่นนึกขึ้นได้ว่าข้างตัวจ่านเหยียนมีกัวอวี้เสียนอยู่คนหนึ่งอาเสอรู้ข้อสงสัยจากคำพูดของเขา เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาจะสนใจเรื่องนี้ ถึงอย่างไรนายบ้านตัวเองก็ไม่ได้คิดร้ายกับท่านอ๋อง ต่อให้ถูกเปิดโปงก็ไม่เป็นอะไรอย่างน้อย ตอนนี้อาเสอก็คิดอย่างนี้อาเสอเคาะประตูของพระอาจารย์เป่ากวง เมื่อพระอาจารย์เป่ากวงได้ยินว่าท่านอ๋องเกิดเรื่องก็ตามฮุ่ยอวิ่นไปอย่างเร่งรีบบนรถม้า ฮุ่ยอวิ่นเล่าเรื่องทั้งหมดกับพระอาจารย์เป่ากวงพระอาจารย์เป่ากวงถอนหายใจทีหนึ่ง “ภัยพิบัตินี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก”เขารู้ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะฟางจี้จื่อ แต่วาสนากลั่นแกล้งคน มังกรร้ายตนนี้คงได้เวลาขึ้นสู่พิภพแล้ว ฟางจี้จื่อแค่สร้างโอกาสเท่านั้นเรื่องมาถึงขั้นนี้ มิใช่เวลาจะบ่นเมื่อถึงจวนอ๋อง มู่หรงฉิงเทียนยังหมดสติอยู่ อาซื่อบอกว่ามู่หรงฉิงเทียนกระอักเลือดสองครั้งแล้วพระอาจารย์เป่ากวงใช้มหาเวทยลหทัยตรวจมู่หรงฉิงเทียนครู่หน
“ท่านอาจารย์ เหตุใดจึงไม่ช่วยเด็กผู้หญิงนั่นล่ะเจ้าคะ?” หลังจากอาซิ่นไป เหลียนถังก็ถามเทพโอสถเทพโอสถนั่งอยู่ในห้อง แสงไฟสะท้อนใบหน้าผอมตอบของเขา สีหน้าจนใจเล็กน้อย“เจ้าไม่เข้าใจ” เทพโอสถเอ่ยเหลียนถังไม่เข้าใจจริง ๆ “ศิษย์รู้ ท่านอาจารย์มิใช่คนที่เห็นใครตายแล้วจะไม่ช่วย”“หาก ข้าเจอนางอยู่ในเขา อาจจะยื่นมือช่วยนาง แต่... ตอนนี้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ที่นี่ไม่ได้” เทพโอสถปรายตามองนาง “เจ้าไปพักผ่อนเถอะ อย่าถามอีกเลย”เหลียนถังเคารพอาจารย์มาตลอด เห็นเขามีสีหน้าปั้นยาก คล้ายกับมีความลำบากใจจึงไม่ถามอีก “เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ก็พักผ่อนเร็วหน่อยนะเจ้าคะ”ค่ำคืนนี้ถูกกำหนดให้ไม่สงบไม่นานมู่หรงฉิงเทียนก็ถูกส่งตัวกลับมา บ่าวไปเชิญเทพโอสถ แต่ฮุ่ยอวิ่นห้ามไว้ เขารู้ เชิญเทพโอสถไม่ได้ เพราะหัวใจของมู่หรงฉิงเทียนไม่เต้นเขาถามคนรับใช้ “คุณชายอู่กับพระอาจารย์เป่ากวงกลับมาแล้วหรือ?”“จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นกลับมาขอรับ!” คนรับใช้ตอบ“อาซิ่นล่ะ?”“ใต้เท้าอาซิ่นก่อนหน้านี้อุ้มเด็กผู้หญิงกลับมาขอให้เทพโอสถช่วยรักษา แต่เทพโอสถปฏิเสธการรักษานาง ดังนั้นใต้เท้าอาซิ่นจึงอุ้มนางออกไปหาหมอแล้วขอรับ” คนรับใ
“ขอบคุณ!” เป็นอีกครั้งที่อาซิ่นได้ยินเรื่องหลงอู่รู้วิชาแพทย์ อยากจะถามให้ชัดเจนอีกหน่อย แต่รู้สึกว่าจะไม่จำเป็นอยู่บ้าง เพราะยาที่อีกฝ่ายผลิตขึ้นสามารถรักษาคนได้จริง คนไม่รู้วิชาแพทย์จะสามารถผลิตยาที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้ได้หรือ? กัวอวี้สั่งอาหู “เจ้าดูแลอยู่ที่นี่ ข้าจะออกไปเดินดูสักรอบ ดูสิว่าคุณ...คุณชายไปทางสันเขื่อนหรือไม่”“ข้ารู้สึกว่าเขาคงไม่มากเรื่องเช่นนี้เช่นนี้กระมัง?” อาหูเอ่ยกัวอวี้หัวเราะด่านางคำหนึ่ง “เจ้าติดตามเขานานเท่าไร? ถึงได้รู้จักเขาดีเช่นนี้ หากเขาอยู่ในเมืองหลวงจะต้องไปแน่”กัวอวี้รู้ ความจริงจ่านเหยียนเป็นคนปากแข็งใจอ่อน ภายนอกไร้หัวใจ แต่ข้างในมิรู้ว่ามีความเมตตาการุณย์เท่าไรนางกลัวว่าฝนจะตกลงมาอีก จึงหยิบเสื้อกันฝนและร่ม คิดจะออกบ้านเพิ่งเปิดประตูก็เห็นอาเสออุ้มจ่านเหยียนเข้ามา เบื้องหลังจะมีคนตามมาด้วยอีกหลายคนกัวอวี้ตกใจจนรีบวิ่งตามไป “เกิดอะไรขึ้น?!”อาเสอตอบ “ประเดี๋ยวค่อยอธิบายกับท่าน!”อาเสออุ้มจ่านเหยียนเดินเข้าไป เนื่องจากมีคนมาก นางจึงไม่ได้อุ้มไปเรือนด้านหลังโดยตรงเพิ่งวางจ่านเหยียนลง กัวอวี้ก็ลากนางมาถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? คุณชาย
อาหูยกน้ำอุ่นเข้ามากะละมังหนึ่ง วางผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมของนางลงซัก จากนั้นก็เช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของเด็กผู้หญิงให้สะอาดหลังจากล้างคราบเลือดสะอาด ก็เผยดวงหน้ารูปไข่ขาวเนียนงดงามดวงเล็ก ๆ อาหูเอ่ย “ลูกสาวของท่านงามมากเลยนะ”อาซิ่นหน้าแดงซ่าน “นางมิใช่ลูกสาวของข้า ข้าไม่รู้จักนาง”อาหูประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านไม่รู้จักนาง? ท่านไม่รู้จักนางแล้วเหตุใดจึงวิตกเช่นนี้? ข้ายังนึกว่านางคือลูกสาวของท่านเสียอีก?”อาซิ่นเอ่ย “คืนนี้สันเขื่อนพังทลาย นางคือชาวบ้านที่หนีภัยพิบัติ หกล้มลงพื้นถูกฝูงชนเหยียบ ท่านอ๋องจึงสั่งให้ข้าพานางมาหาหมอ”“สันเขื่อนพังทลาย? มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?” เรือนพักของหลงอู่ตั้งอยู่บนตำแหน่งที่ค่อนข้างห่างไกล ชัยภูมิสูง ดังนั้นจึงรอดพ้นจากสถานการณ์น้ำท่วม“เจ้าไม่รู้หรือ? เรื่องนี้คงสะเทือนเลือนลั่นไปทั้งเมืองแล้ว” คราวนี้ถึงตาอาซิ่นประหลาดใจบ้าง“ข้าไม่รู้!” อาหูตอบตามตรง “พ่อบ้านใหญ่กัวของเราไม่อนุญาตให้ข้าออกไป ส่วนข้ากลัวว่าคุณชายกลับมาจึงไม่ได้ออกไปเหมือนกัน จริงสิ คุณชายบ้านข้าสบายดีหรือไม่?”อาซิ่นส่ายหน้า “ก่อนหน้านี้ก็ดี แต่ตอนนี้ไม่รู้แล้ว”“หา? หมายความว่าอย่
“คุณชายมิใช่ไปจวนอ๋องแล้วหรือ?” ผู้ที่เอ่ยก็คืออาหู นางถูกจ่านเหยียนทิ้งอยู่ที่นี่ไม่ได้พาไปด้วยอาซิ่นเห็นฝนท่าทางจะหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงถามอาหู “ไม่ทราบว่าข้าจะเข้าไปได้หรือไม่?” ถ้าสุดท้ายก็ยังช่วยนางไม่ได้ เขาก็หวังว่าจะหาที่หลบฝนให้นางสักแห่ง ให้นางไปสบายหน่อยอาหูลังเลเล็กน้อย “แต่คุณชายบ้านข้าไม่อยู่”“ขอร้องละ ข้าแค่อยากหลบฝนสักหน่อย” อาซิ่นเอ่ยอาหูกำลังพิจารณาก็เห็นเด็กผู้หญิงในอกของเขา “สวรรค์! นางเป็นอะไรไปน่ะ?”“นางบาดเจ็บ หาหมอรักษาไม่ได้!” อาซิ่นเอ่ย“รีบเข้ามา!” อาหูยื่นมือไปทดสอบลมหายใจ ยังมีลมอยู่“ได้!” อาซิ่นรีบลุกขึ้นมา “ขอบคุณแม่นาง”อาหูพาอาซิ่นเข้าไป ให้เขาวางเด็กผู้หญิงไว้บนตั่งนอน จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปผ่านไปพักหนึ่งก็ถือขวดใบหนึ่งกลับมา “นี่คือยารักษาแผลชั้นดีที่คุณชายบ้านข้าทำขึ้น รักษาแผลภายในโดยเฉพาะ”นางเทใส่ฝ่ามือสี่เม็ด คิดครู่หนึ่ง “คุณชายเคยบอกว่าเด็กลดครึ่งหนึ่ง” นางเทกลับเข้าไปสองเม็ด เหลืออยู่ในฝ่ามือสองเม็ดนางใส่ยาลงในถ้วย ละลายด้วยน้ำร้อน แล้วใช้ช้อนคันเล็กเทลงปากของเด็กผู้หญิงช้า ๆปากของนางค่อย ๆ อ้าออก นางไม่รู้ว่ากลืนอะไรลงไป ค
เทพโอสถแสยะยิ้ม “เช่นนั้นเจ้าคิดว่าข้าเรียนวิชาแพทย์มากมาย ก็เพื่อรักษาแบบไร้สิ่งตอบแทนหรือ?”“เช่นนั้นขอถามหมอเทวดา เรียนวิชาแพทย์มากมายมิใช่เพื่อรักษา แล้วเพื่อสิ่งใดกัน?”“ทุกเรื่องที่ทำล้วนมีราคาที่ต้องจ่าย เขาต้องการให้ข้ารักษาลูกสาวของเขา ย่อมต้องจ่ายเพื่อสิ่งนี้”“ข้าคิดมาตลอดว่าการรักษาช่วยคนคือหน้าที่ของหมอ...”“พ่อหนุ่ม ที่เจ้าพูดนั่นคือหมอทั่วไป มิใช่ข้า ข้ามีชื่อว่าเทพโอสถ ก็รู้ว่ามิใช่ผู้ใดก็สามารถมาขอให้ข้ารักษาได้ มิเช่นนั้น ท่านอ๋องของพวกเจ้าก็คงไม่ตามหาข้ามาสองปี” เทพโอสถเอ่ยเสียงเย็นอาซิ่นโกรธจนแทบแทบกระอักเลือด เขานิ่งครู่หนึ่ง หลังจากปรับน้ำเสียงได้แล้วก็ขอร้อง “ท่านดูนางสิ เป็นแค่เด็กคนหนึ่ง ท่านทำใจเห็นนางตายได้หรือ?”“ชีวิตนี้ข้าเห็นคนตายมาน้อยหรือ? เอาออกไป!” เทพโอสถปรายตามองเด็กผู้หญิงคนนั้นอย่างรังเกียจแวบหนึ่ง ใบหน้าของนางมีแต่คราบเลือด ลมหายใจรวยรินพ่อของเด็กผู้หญิงคุกเข่าโขกศีรษะดังตุบ “ท่านหมอเทวดา ขอร้องท่านช่วยลูกสาวของข้าด้วย บัวหิมะจากเขาเทียนซันที่ท่านต้องการ เอาไว้รักษาลูกสาวข้าแล้ว ข้าจะไปเอามาให้ท่านทันที”“พูดเสียน่าฟัง บัวหิมะจากเขาเทีย