Share

บทที่ 237

Author: ลิ่วเยว่
บัดนี้เผชิญหน้ากับฟางจี้จื่อ แม้เขาจะมีวิชาพรตสูงส่งเช่นนี้ สุดท้ายก็เกือบตายอนาถด้วยน้ำมือเขาอยู่ดี

หากนางหนูที่ดูเหมือนไร้พิษไร้ภัยตรงหน้า ใช้แค่กระบวนท่าเดียว แค่กระบวนท่าเดียว! เขาก็สิ้นกำลังตอบโต้แล้ว

จ่านเหยียนมิได้ตอบเขา มังกรตัวเขื่อนสีทองอร่ามคำรามทีหนึ่งก็กลายเป็นเพลิงโหมไหม้ในพริบตา

“อ๊าาา”

เสียงหมาป่าโหยหวนดังก้องหุบเขาเป็นพัก ๆ ส่งเสียงออกไปยังสถานที่อันไกลโพ้น อาเสอได้ยินแล้วพลันตัวสั่นหงึกหงัก

ปีศาจหมาป่าวิญญาณแตกสลาย ดวงวิญญาณนับไม่ถ้วนลอยออกมาจากไฟโหมไหม้นั้น ทั้งหมดล้วนเป็นชีวิตที่ถูกปีศาจหมาป่าดูด

วิญญาณเหล่านั้นกลายร่างเป็นคน โค้งคำนับจ่านเหยียนทีหนึ่งก่อนจะสลายตัวลอยออกไป

“ม่องเท่งหรือยัง?” อาเสอเดินไปเตะแขนของเสวี้ยนจื่อเบา ๆ

เสวี้ยนจื่อถูกเผาจนเป็นตอตะโกทั้งตัว เขายังไม่ตาย แต่... เขาทรมาน หลักการนี้เหมือนกับจ่านเหยียน

ครั้นเขาลืมตาก็อยากจะลุกขึ้น ดวงตามองไปทางฟางจี้จื่อ ฟางจี้จื่อลมหายใจรวยรินแล้ว ฟางจี้จื่อมองจ่านเหยียน ในดวงตามีน้ำตาขุ่นมัว และมีความรู้สึกผิดที่เห็นได้อย่างชัดเจน

“ขออภัย...” เขาเปล่งคำนี้ออกมาจากปากไหม้เกรียม ร่างกายสั่นเทา

จ่านเห
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 238

    คทามังกรของจ่านเหยียนลอยออกไปหมุนวนอยู่กลางอากาศ จากนั้นก็กลับถึงมือของจ่านเหยียนอีกครั้งอาเสอมองนางนิ่ง ๆ ฟางจี้จื่อก็มองนางนิ่ง ๆ เหมือนกันเสวี้ยนจื่อลืมตาขึ้น ในดวงตาเจือการวิงวอนจ่านเหยียนถอนหายใจทีหนึ่ง เก็บก้อนหินด้านข้างมาก้อนหนึ่ง แล้วใช้กำลังฝ่ามือขัดจนกลายเป็นรูปหัวใจ ปากก็ว่า “ความจริง...การเป็นคนใจหินไส้เหล็กก็ไม่เลวเหมือนกัน”นางวางก้อนหินเข้าไปในหัวใจของเสวี้ยนจื่อ จากนั้นก็ปิดผนึก ตามด้วยกรีดเลือดจากนิ้วของตัวเองแล้วหยดลงไปหลอมรวมกับหัวใจของเสวี้ยนจื่อเสวี้ยนจื่อรู้สึกเพียงตรงตำแหน่งหัวใจถูกเติมเต็มทันใด และความทรมานบรรเทาลงทีละน้อยฟางจี้จื่อมองภาพนี้ด้วยความอัศจรรย์ใจ เขามิเคยเจอเรื่องเช่นนี้มาก่อน กระทั่งไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น เขาเดินไปประคองเสวี้ยนจื่อและถาม “รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”เนื่องจากเลือดหนึ่งหยดของจ่านเหยียน สีเลือดบนใบหน้าของเสวี้ยนจื่อจึงค่อย ๆ กลับมาแดงระเรื่อดังเดิม หนำซ้ำยังแดงยิ่งกว่าเมื่อก่อน เขาเอามือคลำตำแหน่งหัวใจของตัวเอง ตรงนั้นแนบสนิทไม่มีรอยสักนิด ความรู้สึกของเขาผสมปนเปอย่างอธิบายไม่ถูก ซาบซึ้ง ตื่นเต้น...จ่านเหยียนเอ่ย “ในตัวของ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 239

    “ผู้ดูแลเฉิน เมื่อคืนแม่นั่นหนำใจละสิ? เสียดายแพงไปหน่อย มิเช่นนั้นข้าจะได้สนุกด้วยแล้ว” ชายร่างกำยำดื่มสุราชามหนึ่ง แล้วหัวเราะฮ่า ๆ“แพงไปหน่อย แต่ก็คุ้มค่า!” ผู้ที่กล่าวคือชายหน้าขาวเนียนเหมือนบัณฑิตอายุสามสิบกว่า ใบหน้ากะลิ้มกะเหลี่ยถ้อยคำที่พวกเขากล่าว อาเสอและจ่านเหยียนได้ยินแล้วสงบราบเรียบ แม้แต่เสวี้ยนจื่อก็ยังไม่รู้สึกอะไร ทว่าฟางจี้จื่อกลับขุ่นเคืองเล็กน้อย เอ่ยเสียงเบา “กลางวันแสก ๆ ก็หยิบยกเรื่องพวกนี้ออกมาพูด ไม่รู้จักอายเสียบ้าง”จ่านเหยียนมองเขาแวบหนึ่ง “เจ้ายุ่งเกินไปแล้ว การพูดคืออิสระ พวกเขาจะพูดอะไรก็เรื่องของพวกเขา แค่ไม่ทำร้ายคน เจ้าก็มิจำเป็นต้องยุ่ง”ก็จริง หลาย ๆ เรื่อง ที่ควรยุ่งก็ยุ่ง ที่ไม่ควรยุ่งเขาก็ยุ่งฟางจี้จื่อหน้าแดงเล็กน้อย “ถูกต้อง ข้าได้รับการสั่งสอนแล้ว”จ่านเหยียนกลับไม่มีใจจะสั่งสอน กล่าวตามความจริง นางไม่ค่อยชอบให้คนอื่นเคารพนบนอบกับนางเช่นนี้ อย่างกับนางเป็นเทพเซียนสูงส่งที่รับควันธูปจากแดนมนุษย์อย่างนั้นแหละนางคิดแล้วจึงเอ่ย “กินข้าวเถอะ”เสวี้ยนจื่อมิได้ขยับตะเกียบ เขากินของพวกนี้ไม่ได้จ่านเหยียนปราดตามองเขาแวบหนึ่ง “ตอนนี้เจ้ากิน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 240

    หลังจากจ่านเหยียนกินเสร็จก็เดินไปหน้าราวกันของโรงน้ำชาเพื่อแหงนหน้าดูท้องฟ้าไอปีศาจวุ่นวายมาก แผ่ออกไปทุกทิศทุกทาง แต่ก็มีไม่น้อยที่กรูมาทางเมืองหลวงเหมือนกัน “วันนี้ก็ไม่รู้อย่างไรสิน่า มักรู้สึกมีลมเย็นยะเยือกพัดมา เฮ้อ หรือว่าจะอากาศเปลี่ยนแล้ว?” เสี่ยวเอ้อร์พาดผ้าขนหนูไว้ที่ไหล่ เอ่ยกับเสี่ยวเอ้อร์ที่กำลังเช็ดโต๊ะยกจานอยู่ด้านข้างอีกคนหนึ่ง“คงอย่างนั้นกระมัง เวลานี้เพิ่งจะลงต้นกล้า ถ้าฝนตกหนักก็แย่แล้ว” เสี่ยวเอ้อร์เอ่ยอย่างกังวล“ก็นั่นนะสิ บ้านข้าก็เพิ่งลงกล้าเหมือนกัน เมียข้ายังปลูกแตงในนาแน่ะ ถ้าฝนเทลงมา นางต้องยุ่งอีกแล้ว”“น่ารำคาญจริง ๆ!”จ่านเหยียนหันไปมองเสี่ยวเอ้อร์ทั้งสองคนที่กำลังสนทนาสิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือฝนตกต้องตามฤดูกาล อยู่เย็นเป็นสุข แต่ก็เหมือนกับปฏิกิริยาของผีเสื้อ น้ำผึ้งหยดเดียว อากาศ ราชสำนัก ล้วนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีพของพวกเขานางมองไปทางฟางจี้จื่อ ฟางจี้จื่อกำลังมองเสี่ยวเอ้อร์ทั้งสองนิ่ง ๆ เขารู้สึกทรมานใจอย่างพูดไม่ออกหลายปีนี้เขาไม่เคยสงสัยความเชื่อของตัวเอง เพื่อกำจัดปีศาจ เขาสามารถเปลี่ยนแปลงอากาศได้ตามอำเภอใจ อัญเชิญอาวุธวิเศษร้ายกาจอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 241

    ฟางจี้จื่อยิ้มกระดาก “วันนั้นข้าแค่สนใจแต่จะกำจัดผีป่า แม้จะช่วยเขา แต่นั่นคือเขากั่งสูงชัน ข้ากลับไม่เคยคิดว่าเขาจะลงไปอย่างไร? เขารอดมาได้ล้วนเป็นความกรุณาของสวรรค์ ไม่เกี่ยวกับข้าจริง ๆ แม้นข้ามีความเมตตาสักนิด ก็ควรส่งเขาลงเขา”จ่านเหยียนไม่พูด สำหรับฟางจี้จื่อในขณะนั้น การสังหารผีป่าคือเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง เขายึดการช่วยคนเป็นหลัก แต่ระหว่างนั้นกลับละเลยเจตนารมณ์เดิมและจุดเริ่มต้น นี่คือความผิดที่มนุษย์มักพลาดบ่อย ๆ“ท่านอาจารย์ เป็นท่านที่มอบชีวิตใหม่ให้เขา ท่านรับความซาบซึ้งใจจากเขาได้ขอรับ” เสวี้ยนจื่อทำใจให้ฟางจี้จื่อเสียใจไม่ได้ จึงกล่าวปลอบฟางจี้จื่อไม่สุ้มเสียง ความเชื่อในใจที่ยึดมั่นมานานหลายปีพังทลายในพริบตา นี่สำหรับเขาแล้วคือการโจมตีอย่างหนักทุกคนกลับยอดเขาอีกครั้ง จ่านเหยียนเอ่ย “พวกเราสี่คนแยกย้ายกันไปดักสี่ทิศ ข้าต้องชี้แจงเรื่องหนึ่ง หากพบกับอันตราย ห้ามฝืนรับคนเดียว ต้องขอความช่วยเหลือ”“รับทราบ!” เสวี้ยนจื่อกับอาเสอขานรับจ่านเหยียนมองฟางจี้จื่อแล้วเอ่ยเรียบ “หากเจ้ารู้สึกว่าชาตินี้ตัวเองทำผิดมากมาย เช่นนั้นตอนนี้เจ้าต้องการโอกาสในการชดเชย เจ้าอย่าได้คิดจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 242

    จังหวะที่กระบี่เหรียญทองแดงกำลังจะแทงเข้าหัวใจของเขา จู่ ๆ เขาก็สะดุ้งตื่น เขาต้องวิชาภาพลวงตาเข้าให้แล้วแม้จะเข้าใจวิชาภาพลวงตา แต่เขารู้ว่าตัวเองมิใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจงู ก็วินาทีนั้นเอง เขารู้สึกอ่อนล้าขึ้นมากะทันหัน ให้มันเป็นเช่นนี้เถอะ หลุดพ้นเสียได้ก็ดี มิเช่นนั้น เขามิรู้ว่าจะเผชิญหน้ากับบาปกรรมของตัวเองได้อย่างไรกระบี่เหรียญทองแดงของเขาลังเลเพียงชั่วขณะก็แทงเข้าหัวใจของเขาต่อจ่านเหยียนกำลังจัดการปีศาจคางคกตนหนึ่งอยู่บนเมฆ เหลือบเห็นสถานการณ์ของฟางจี้จื่อโดยบังเอิญ จึงปล่อยคทามังกรพุ่งออกไปกระแทกมือของฟางจี้จื่อด้วยความเดือดดาล และกระบี่เหรียญทองแดงก็ตกลงด้วยเหตุนี้คทามังกรกลายเป็นมังกรยักษ์สีเหลืองทองกลืนกินปีศาจงู เมื่อนั้นไอดำจึงสลายไปจ่านเหยียนใช้อักขระสวัสติกะสะกดปีศาจคางคก แล้วเหาะมาตบหน้าฟางจี้จื่อฉาดหนึ่ง เอ่ยด้วยโทสะ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?!”ฟางจี้จื่อใบหน้าหมองหม่น คุกเข่าลง “เหตุใดท่านเซียนต้องช่วยข้าด้วย? ให้ข้าใช้ความตายไถ่โทษเถอะ”จ่านเหยียนชี้ไอดำทั่วท้องฟ้า แล้วตวาดอย่างโกรธเกรี้ยว “เจ้าตายมันง่าย แต่เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าใครต้องเก็บกวาดผลที่ตามมา? เจ้าบำเ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 243

    ก็เหมือนกับปัจจุบันที่เผชิญหน้ากับศพมากมาย เผชิญหน้ากับครอบครัวเบื้องหลังศพมากมายเหล่านี้ นางเสียใจมากเผ่ามังกรเคยสะกดมารร้ายนอกรีตมากมาย และเคยจองจำราชามารตลอดจนเทพชั่วช้าในคุกวารีไม่น้อย ดังนั้นนางในยามนี้ แม้จะออกปฏิบัติภารกิจเป็นประจำ แต่ก็ไม่มีหน้าเผชิญหน้ากับผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นวงกว้างเช่นนี้ เพราะนั่นแทบจะเป็นโลกศิวิไลซ์สุขสงบบนแดนดินทว่าบัดนี้นางต้องเผชิญหน้ากับคนมากมายที่ตายเพราะนาง และผู้ที่ตายยังเป็นชาวบ้านตาดำ ๆ สิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอที่สุดในสามโลกหกวิถี“คุณหนูใหญ่!” อาเสอประคองจ่านเหยียน การห้ำหั่นสองวันนี้อาเสออ่อนเปลี้ยเพลียแรงแล้วเหมือนกัน แต่นางรู้ว่าจ่านเหยียนเหนื่อยยิ่งกว่า เพราะในอักขระสวัสติกะของนางสะกดปีศาจไปแล้วยี่สิบกว่าตน อีกทั้งนางยังบาดเจ็บ“อย่าเสียใจเลยนะ” อาเสอปลอบจ่านเหยียนมองฟางจี้จื่อและเอ่ยเสียงเย็น “นี่ก็คือผลจากความวู่วาม หากเมื่อครู่เจ้าตายก็จะไม่ได้เห็น ต่อจากนี้ยังอาจมีเรื่องมากมายเกิดขึ้น เจ้าไปตายเถอะ ตายแล้วก็จบ ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น และไม่ต้องเผชิญหน้ากับผลกรรมที่ตนก่อ!”ลมพายุหอบมา กระพือฝุ่นดินทลายฟุ้งทั่วฟ้าหลังจากฟ้าผ่าลงมาก็มี

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 244

    จ่านเหยียนถามฟางจี้จื่อ “ตอนนี้เจ้าจะไปตายอย่างกล้าหาญชาญชัย หรือจะเผชิญหน้ากับเรื่องต่อจากนี้ที่โหดร้ายยิ่งกว่า?”ฟางจี้จื่อนิ่งงันครู่ใหญ่จึงเงยหน้ามองจ่านเหยียน “ทุกอย่าง สุดแล้วแต่ท่านเซียนจะบัญชา”เขาต้องการตามหาดวงวิญญาณทั้งสามสิบแปดดวงกลับคืนมา พวกเขาตายเพราะเขา เขามิอาจปัดความรับผิดชอบได้จ่านเหยียนพยักหน้า เอ่ย “พวกเจ้าสี่คนช่วยคุ้มกันให้ข้า ข้าต้องใช้มหาเวทสวัสติกะสะกดพวกเขาอีกครั้ง ระหว่างนี้ห้ามถูกรบกวนแม้แต่น้อย มิเช่นนั้นมหาเวทสิ้นฤทธิ์ และข้าก็จะบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน”หนีเข้าเมืองหลวงแล้ว นางจึงได้แต่ปล่อยวางลงก่อน จัดการความโกลาหลตรงหน้าแล้วค่อยว่ากัน“รับทราบ!”ลมพายุหมุนหอบสิ่งของนอกโรงน้ำชาขึ้นบนฟ้า จากนั้นก็ทุ่มลงมากระจัดกระจายส่งเสียงดังเปรียะ ๆ ไปทั่ว ต้นหรงร้อยปีต้นหนึ่งถูกถอนรากถอนโคนพัดไปไกลหลายจั้ง ก่อนจะตกทับรถม้าของคณะพ่อค้าที่ผ่านมาคันหนึ่งคณะพ่อค้าเหล่านั้นตายอนาถอยู่ในโรงน้ำชาแล้วจ่านเหยียนร่ายเวทส่งคนไปบนเขาน้ำแข็ง ใช้น้ำแข็งกลบผนึกเอาไว้ รอนางหาดวงวิญญาณกลับมาได้แล้วค่อยร่ายเวทให้พวกเขากลับมามีชีวิตลมพายุพาฝนกระหน่ำมาถึง ปรากฏการณ์ท้องฟ้ามีช่อ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 245

    จ่านเหยียนบอกกับพวกเขา “ตอนทำพิธีอาจทำให้อากาศแปรปรวน วันคืนสลับสับเปลี่ยน แต่ด้วยสีของท้องฟ้าในเวลานี้ ต่อให้วันคืนสลับสับเปลี่ยนก็ไม่เป็นไร พวกเจ้าต้องดูเอาไว้ ห้ามให้ผู้ใดบุกเข้าลานเวทของข้า จำไว้ คน ปีศาจ ตลอดจนสิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็บุกเข้าไปไม่ได้!”“ปีศาจบุกเข้าไปจะเป็นอย่างไรหรือ? เหตุใดคนจึงบุกเข้าไปไม่ได้? คนบุกเข้าไปได้หรือ?” อาเสอถาม“ปีศาจจะดวงวิญญาณสลาย การใช้มหาเวทสวัสติกะในแดนมนุษย์ เป็นการใช้รูปแบบปราการสวรรค์บนโลกมนุษย์ แต่ผู้คุมกฎสามโลกคือคน ธิดามังกรก็คือคน ดังนั้นทันทีที่มีคนบุกเข้ามา ค่ายอาคมจะแตกเพราะพลังวิญญาณของคนผู้นั้นกับข้า และข้าก็จะถูกพลังมังกรแว้งกัด” จ่านเหยียนเอ่ย“ได้ เข้าใจแล้ว!” พระอาจารย์เป่ากวงเอ่ยจ่านเหยียนมองฟางจี้จื่อ คนผู้นี้คือคนที่วางใจไม่ได้ที่สุด ความมุ่งมั่นของเขายังไม่แน่วแน่พอฟางจี้จื่อไม่รอให้นางเอ่ยปากก็กล่าว “ท่านเซียนโปรดวางใจ ข้ารู้ความร้ายแรงของเรื่องนี้ ต้องปกป้องค่ายกลด้วยชีวิตแน่”จ่านเหยียนอื่มเสียงหนึ่ง จากนั้นก็เด็ดใบไม้ลอยขึ้นฟ้าใบไหม้แหวกเมฆดำเป็นช่องหนึ่ง ประกายแสงสีเหลืองสายหนึ่งเปล่งออกมาจากหว่างคิ้วของจ่านเหยียน

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 271

    “ข้าได้ยินมา ทุกคืนนางจะเรียกนักดนตรีไปบรรเลงเพลง ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่?”“ทูลไทเฮา เรื่องนี้เกินไปหน่อยเพคะ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาทรงเรียกพวกเขามาในยามวิกาลน้อยนัก!”รอยยิ้มของถงไทเฮาบานสะพรั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ “ข้าก็รู้ว่าวังหลังมีปากหอยปากปูมาก จริงสิ ปกติเวลาอดีตฮ่องเต้ทรงสะสางราชกิจ ทรงโปรดทำอันใดหรือ?”หัวข้าสนทนาวกกลับมาเรื่องอดีตฮ่องเต้ จิ้นหรูลอบโล่งอก เวลาตอบคำถามจึงเป็นมิตรมากขึ้นบางส่วน “อดีตฮ่องเต้มีเวลาวางน้อยนัก แต่พระองค์โปรดอู้งานยามยุ่ง ทรงโปรดการเดินหมาก เสวยพระสุธารสชาเพคะ”“เดินหมาก? เดินกับผู้ใด?” ถงไทเฮาถาม“กับบ่าวเพคะ” จิ้นหรูยิ้มบาง “เพียงแต่ฝีมือการเดินหมากของบ่าวไม่ดี แพ้อยู่เรื่อยเลยเพคะ”“อดีตฮ่องเต้ทรงยินดีเดินหมากกับเจ้า แสดงว่าฝีมือการเดินหมากของเจ้าต้องดี” ถงไทเฮายิ้มเอ่ย “เจ้าอย่าได้ถ่อมตัวนักเลย วันหลังข้าจะเดินหมากกับเจ้าบ้าง เจ้าก็คลายเหงาให้ข้าหน่อย”“ขอเพียงไทเฮาโปรด บ่าวก็เดินหมากเป็นเพื่อนไทเฮาได้ทุกเมื่อเพคะ” จิ้นหรูกล่าวจากใจ“เจ้าช่างเป็นคนเข้าใจผู้อื่นแท้ ๆ มิน่าอดีตฮ่องเต้จึง ‘โปรดปราน’ เจ้าเช่นนี้” ถงไทเฮายิ้มเอ่ยคำพูดนี้ไม่มีอะไรพิเศษ ใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 270

    ตำหนักชิงหนิงจิ้นหรูคุกเข่าลงคำนับ “ถวายพระพรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮา”“ลุกขึ้นเถอะ จิ้นหรู” ถงไทเฮาแย้มยิ้มจิ้นหรูลุกขึ้นยืนก้มหน้าแล้วไปยืนอยู่ด้านข้าง“ไม่ต้องเกร็งไป วันนี้ที่ข้าเรียกเจ้ามา เพราะอยู่ ๆ ก็นึกถึงอดีตฮ่องเต้ อดีตฮ่องเต้เคยรับสั่งว่าทักษะการชงชาของเจ้าเป็นหนึ่งในใต้หล้า เจ้าจะชงให้ข้าสักครั้งได้หรือไม่?” ถงไทเฮากล่าวขอด้วยใบหน้าราบเรียบ“เพคะ!” จิ้นหรูขานรับ“หรูหัว ไปเตรียมเครื่องชงชา” ถงไทเฮาสั่งหรูหัวขานรับแล้วจึงออกไปถงไทเฮาปรายตามองจิ้นหรู วันนี้นางสวมชุดสีครามปักลายใบไม้ไผ่สีแดงเข้ม มิได้ผัดแป้ง แม้อายุล่วงเลยสี่สิบ กลับยังสง่าเรียบง่ายจิ้นหรูไม่เคยคลอดลูก จึงดูอ่อนเยาว์กว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันมิได้เลอโฉม กลับมีท่วงทำนองอย่างหนึ่งหรูหัวยกเครื่องชงชามา นางมองการต้มน้ำ ล้างชา ล้างถ้วย รินน้ำชาอย่างสง่างามของจิ้นหรูยังไม่พูดถึงฝีไม้ลายมือที่สง่างาม แต่ขณะนางชงชาจะมีสมาธิมาก ยามที่คนคนหนึ่งจดจ่ออยู่กับเรื่องหนึ่ง จะมีเสน่ห์ชวนหลงใหลเป็นพิเศษในฐานะที่ถงไทเฮาคือสตรีก็รู้สึกถึงมนตร์เสน่ห์น่าหลงใหลนี้เหมือนกัน“อดีตฮ่องเต้โปรดเสวยพระสุธารสชาอะไรหรือ?” นา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 269

    ถงไทเฮาถอนตายตากลับช้า ๆ ก็จริง นับจากหรูหัวเข้าวังก็อยู่ข้างตัวนางมาตลอด รวมแล้วอดีตฮ่องเต้เคยมองนางเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่ชื่อของนางก็ยังจำไม่ได้ด้วยซ้ำที่สำคัญที่สุดคือ แม้หน้าตาของหรูหัวจะพอใช้ได้ แต่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับคำว่า ‘สวย’ เด็ดขาด“ในฐานะที่เป็นบุตรสาวสกุลถง ตั้งแต่ข้าเกิดมาก็ใช้ชีวิตเหมือนพญาหงส์ แล้วยังจะสูงศักดิ์ยิ่งกว่าองค์หญิงเสียด้วยซ้ำ หลังจากเข้าวังก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา เกียรติยศไร้ขีดจำกัด แต่... นี่ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ให้คนอื่นดู สิ่งที่ข้าต้องการ ก็แค่สายตาอาวรณ์หนึ่งของอดีตฮ่องเต้ เมื่อไม่ได้มา ข้าก็ไม่อยากให้ผู้ใดได้มันไปทั้งนั้น ไม่ว่านางจะอยู่หรือตาย ข้าก็ต้องรู้ว่านางคือใคร”ถงไทเฮาพูดเนิบช้ามาก แต่... มีความโหดเหี้ยมทุกถ้อยคำหรูหัวพิจารณาอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพึ่บ “เสี่ยวหรู? คนที่ปรนนิบัติอดีตฮ่องเต้ในตำหนักในสมัยก่อน มีคนหนึ่งที่ชื่อจิ้นหรูเพคะ”“จิ้นหรู? ไม่ใช่นาง” ถงไทเฮาส่ายหน้า “นางโตมากับอดีตฮ่องเต้ ถูกส่งไปปรนนิบัติข้างพระวรกายอดีตฮ่องเต้นานแล้ว หากนางคือคนที่อดีตฮ่องเต้โปรดปราน ไยไม่แต่งตั้งนางเป็นสนมเล่า?”หรูหัวคิ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 268

    ฮองเฮาส่ายหน้า “ไม่ ซูอี้จะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไม่กลัวว่า...” ความกลัวเริ่มปกคลุมใบหน้าของนาง และไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย“ถ้าเจ้ายังอยากรักษาชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้ ก็ไปหาฮ่องเต้” ถงไทเฮากล่าวอย่างแค้นที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้าเทียบกับสมัยก่อน ถงไทเฮาเติบโตและรู้ความมากแล้ว เมื่อก่อนนางไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เข้าใจนาง เหตุใดมักให้นางทำเรื่องที่ลำบากใจ บัดนี้นางรู้แล้ว มีเพียงให้ตัวเองลำบาก สกุลถงจึงจะมั่นคงในใจของคนสกุลถง ชื่อเสียงและความมั่นคงของวงศ์ตระกูลสำคัญที่สุดเสมอ นางรู้ว่าตอนนี้ถงเหยียนยังไม่ตระหนักในจุดนี้ แต่นางจะเข้าใจในไม่ช้าก็เร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลานี้นับเป็นอันใด? ภายภาคหน้ายามสกุลถงกับสกุลมู่หรงแบ่งใต้ฟ้า นางจะรู้ว่าความอยุติธรรมทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้คุ้มค่าดวงหน้าไฉไลของฮองเฮาประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ที่เจืออยู่ในดวงตาคือน้ำตาแห่งความน้อยใจ “เหตุใดต้องให้ข้าไปช่วยด้วยเจ้าคะ? ท่านสั่งคำเดียวก็ได้แล้วนี่ กลับต้องให้ข้าวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้”ถงไทเฮานวดศีรษะ รู้สึกว่าความอึดอัดสายหนึ่งพุ่งขึ้นสมอง นางอยากระเบิดอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและเอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 267

    นางนวดศีรษะ “อาไฉ่ ไปตามฮองเฮามา”นางกำนัลรับคำแล้วจึงออกไปผ่านไปครึ่งชั่วยาม ฮองเฮาจึงร้องห่มร้องไห้มาถึง พอเห็นถงไทเฮาก็ถลาเข้ามาคุกเข่ากับพื้น “อาหญิง ครั้งนี้ท่านต้องช่วยหลานนะเจ้าคะ”ถงไทเฮานั่งจ้องนางอยู่บนเก้าอี้ “เจ้าทำอะไรมาอีก? ทำจนฮ่องเต้กริ้วอย่างนั้น ขืนเจ้ายังไม่หยุดมือ ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว” ฮองเฮาเอ่ยอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “หลานไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นนะเจ้าคะ วันนี้ตั้งใจสั่งให้คนทำอาหารรสเลิศ คิดจะสนทนากับฝ่าบาทดี ๆ ใครจะรู้ เขากลับจะไปหาหยวนผิน แล้วยังบอกว่าจะคืนตำแหน่งหยวนผิน หลานพูดไปแค่ไม่กี่คำ เขาถึงกลับบอกว่าจะเลื่อนตำแหน่งนางให้เป็นกุ้ยเฟยอีก นี่มิเท่ากับฉีกหน้าหลานชัด ๆ หรือเจ้าคะ”ถงไทเฮาถอนหายใจทีหนึ่ง สั่งให้คนประคองนางลุกขึ้นมาแล้วตักเตือนดี ๆ “เขาต้องรู้เรื่องเรื่องที่เจ้าปรักปรำหยวนผินครั้งก่อนแน่ เขาไม่ได้เอาผิดเจ้าก็แล้วไป ตอนนี้เขาต้องการเลื่อนตำแหน่งหยวนผิน เจ้าก็ให้เขาเลื่อนไปสิ จะขัดขวางเขาทำไม? อย่างไรเขาก็คือโอรสสวรรค์ มิอาจให้ผู้ใดท้าทายศักดิ์ศรีได้”“นางถือดีอย่างไร? นางไม่มีลูก บ้านมารดาก็ไม่ได้มีความดีความชอบอะไรพิเศษ แล้วเหตุใดบอกว่าจะเลื

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 266

    มู่หรงเจี้ยนก็ไม่มีโทสะ สีหน้างุนงงเล็กน้อย “เราคิดว่าฮองเฮาต้องตกลง”“ไม่ ไม่เด็ดขาดเพคะ ใครก็ได้หมด มีแต่นางที่ไม่ได้!” ฮองเฮาพูดอย่างตะบึงตะบอน นางคิดอย่างไร้เดียงสาว่าที่มู่หรงเจี้ยนต้องการให้นางรับปากเรื่องการแต่งตั้งหยวนผินเป็นหยวนกุ้ยเฟย เพราะเคารพความคิดเห็นของนางแต่... คำพูดต่อมากลับทำให้นางหน้าซีดเผือดฉับพลัน“ตามกฎมณเฑียรบาล การแต่งตั้งนางสนม จำเป็นต้องให้ฮองเฮาจัดการเรื่องพิธี หากฮองเฮาไม่เห็นด้วย เช่นนั้น เราก็ไม่มีทางอื่นแล้ว ได้แต่เปลี่ยนฮองเฮาเสีย”เขาพูดจบก็เดินจากไปอย่างสง่างามแบบกระทั่งไม่เหลียวแลนางสักสายตาความราบเรียบสง่างามเช่นนี้ ในสายตาของฮองเฮา คือความน่าชังถึงที่สุดนางสั่นเทาไปทั้งตัว หัวสมองว่างเปล่า คำพูดนี้ ต่อให้ตายนางก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้เขาจะไม่โปรดปรานนางที่สุด แต่ความเคารพและสถานะที่ควรมีก็มอบให้นางเต็มที่เวลานี้ เพียงเพราะการคัดค้านคำเดียว เขาก็พูดเรื่องปลดฮองเฮาออกมาอย่างง่ายดายเช่นนี้แล้วนางโกรธ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่หวาดกลัว ไม่ตื่นตระหนก เพราะนางรู้ว่าการปลดฮองเฮาเป็นเพียงการพูดไปอย่างนั้น มีไทฮองไทเฮาและถงไทเฮาอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 265

    “แต่ซูอี้นั่นเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนเพียงไร? หม่อมฉันได้ยินว่าคนที่เข้าคุกทักษิณ โดยมากแล้วล้วนถูกทรมานจนยอมรับผิด” ฮองเฮาซอยเท้าตามไปพูด“อ้อ? ดูท่าฮองเฮาจะสนใจเรื่องของราชสำนักมากนะ!” มู่หรงเจี้ยนเอ่ยชืด ๆฮองเฮาชะงักงัน ดวงหน้าสะสวยเผยความหวาดกลัวเล็กน้อย “หม่อมฉันก็แค่ได้ยินคนพูดมาเพคะ มิได้รู้ชัดเจน”“ในเมื่อไม่รู้ชัดเจนก็อย่าพูดจาเลื่อนเปื้อน เซ่อเจิ้งอ๋องเป็นผู้ก่อตั้งคุกทักษิณด้วยตนเอง พิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมเสมอมา ไม่ปรักปรำผู้ใดเด็ดขาด” พอมู่หรงเจี้ยนนั่งลงบนตั่งก็มีนางกำนัลยื่นผ้าขนหนูร้อนมาให้เขาหยิบมาเช็ดมือแล้วโยนกลับลงใส่กะละมัง เหล่มองฮองเฮาทีหนึ่ง “ฮองเฮามิจำเป็นต้องกังวล เราเชื่อท่านพ่อตา เขาจะไม่สมคบคิดยักยอกเงินกับกรมโยธาเด็ดขาด การพิจารณาคดีนี้ก็เพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้เขาเท่านั้น”ฮองเฮาลังเลครู่หนึ่ง เอ่ย “เกรงแต่คนในคุกทักษิณเหล่านั้นจะลงทัณฑ์ให้รับสารภาพ จะได้ไขคดีสร้างผลงานโดยเร็ว เช่นนั้นท่านพ่อมิต้องถูกปรักปรำหรือเพคะ?” มู่หรงเจี้ยนเริ่มเคือง “เลอะเทอะ! เราบอกแล้ว คนของคุกทักษิณทำงานอย่างเป็นธรรม แล้วจะลงทัณฑ์ให้รับสารภาพได้อย่างไร? หากพิจารณาคดีนี้ไม

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 264

    พระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า “คนผู้นี้จิตใจไม่ตรง!”“ดูอย่างไร?” ฮุ่ยอวิ่นถามพระอาจารย์เป่ากวงยิ้มจาง ๆ “คนคนหนึ่ง หากจิตใจซื่อตรง ดวงตาย่อมใส แต่เขามีความคิดมากนัก”“เช่นนั้นเขาจะรักษาโรคให้กุ้ยไท่เฟยอย่างจริงใจหรือ?” ฮุ่ยอวิ่นอดกังวลไม่ได้“เขาต้องการมีชื่อในหล้า ย่อมทุ่มเทใจรักษาโรคให้กุ้ยไท่เฟย จุดนี้วางใจได้ อีกอย่าง เขามาด้วยมีจุดประสงค์ ได้ยินว่าเขาต้องการให้ศิษย์หญิงของเขาแต่งงานกับคุณชาย”เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ดวงตาของฮุ่ยอวิ่นก็เย็นชาเล็กน้อย “ถูกต้อง เขาบอกว่าต้องการหาสามีท่านหนึ่งให้ศิษย์หญิงของเขา และข้า ก็เคราะห์ร้ายถูกเขาหมายตา”พระอาจารย์เป่ากวงหัวเราะเล็กน้อย “ขอเตือนคุณชาย การแต่งงานคือเรื่องทั้งชีวิต หากไม่ชอบ ก็อย่าได้ฝืน โลกใบนี้ เรื่องที่ฝืนมักมีจุดจบน่าอนาถเสมอ”“สำหรับข้า การแต่งภรรยามิสำคัญ แต่งกับใครก็คือแต่ง” ฮุ่ยอวิ่นกล่าวเช่นนี้ นึกถึงที่หลงอู่ทำนายให้เขา บอกว่าเขาจะได้เจอกับหญิงที่ชอบมากคนหนึ่ง จึงนึกขำไม่ได้ ไม่ ชาตินี้ไม่ ความรักชายหญิงมิเคยเป็นประเด็นสำคัญในชีวิตของเขาการหลับครั้งนี้ของจ่านเหยียนกินเวลาสามวันสามคืนเต็ม ๆสามวันนี้ราชสำนักวุ่นวา

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status