กลางดึก ฝนยังโปรยปรายอย่างต่อเนื่องดึกดื่นค่อนคืนฮุ่ยอวิ่นผลักประตูของมู่หรงฉิงเทียน “เทียน ลุกเร็ว เกิดเรื่องแล้ว เขื่อนแตกแล้ว!”มู่หรงฉิงเทียนผุดลุกขึ้นมาจากเตียง “เกิดอะไรขึ้น?”ฮุ่ยอวิ่นตัวชุ่มโชก วาวโรจน์ “ทางน้ำตัน น้ำไม่ลด เอ่อขึ้นมาจนเขื่อนรับไม่ไหวก็เลยแตก”“ลอกทางน้ำนานแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดจึงตันได้?” มู่หรงฉิงเทียนคลุมเสื้อรวบผมแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที“หัวหน้างานเป็นคนของราชครูถง กรมคลังจ่ายเงินไปแล้ว แต่กรมโยธาไม่ทำงานให้ดี” ฮุ่ยอวิ่นตอบด้วยความโกรธโทสะคลั่งปกคลุมดวงตาของมู่หรงฉิงเทียน เขาเอ่ยเสียงหนัก “ไปที่เขื่อนก่อน สั่งทหารไปช่วยภัยพิบัติ ลากตัวทุกคนในกรมคลังและกรมโยธาไปที่เขื่อนให้หมด!”ฝนหนักมาก เทสาดลงมาจากฟ้าเมืองหลวงมีพายุฝนเป็นประจำ เคยน้ำท่วมต่อหลายครั้ง ดังนั้นเรื่องแรกหลังจากมู่หรงฉิงเทียนขึ้นรั้งตำแหน่งก็คือสร้างเขื่อนและลอกทางระบายน้ำ น้ำจากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเลโดยตรง ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงไร หากมิได้เทกระหน่ำสามวันสามคืนจนทำให้มีน้ำหลากจากภูเขา จะไม่ทำให้เขื่อนแตกเด็ดขาดแต่... ยามนี้ฝนตกแค่สองชั่วยามเขื่อนก็พังแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าใช้วัสดุใดในการสร
ตอนนี้เอง ทหารกองหนุนก็เพิ่งถึงใต้เท้าหลี่ผู้ว่าการเมืองหลวงก็มาถึงแล้วเช่นกัน เขาเปียกปอนไปทั้งตัวเหมือนกับมู่หรงฉิงเทียน ผู้ใต้บังคับบัญชาส่งเสื้อและหมวกกันฝนให้เขา ไม่ขอให้กันฝน ขอเพียงสามารถลืมตาท่ามกลางลมพายุฝนกระหน่ำเช่นนี้ได้ก็พอ“ท่านอ๋อง จะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?” ชั่วขณะใต้เท้าหลี่คิดไม่ออก นับจากเขาดำรงตำแหน่ง นี่คืออุทกภัยร้ายแรงที่สุดในเมืองหลวง“สั่งให้ช่วยคน!” มู่หรงฉิงเทียนบัญชาการทั้งหน้าตาเคร่งเครียด มือหนึ่งลากทหารรักษาการณ์ของเมืองหลวงแล้วสั่งเสียงกร้าว “เร็ว ช่วยได้เท่าไรเท่านั้น เรือไม้ล่ะ? เตรียมแล้วหรือ?!”“เตรียมแล้วพ่ะย่ะค่ะ จะลงน้ำเดี๋ยวนี้!” นายทหารผู้นั้นน่าจะถูกคนเรียกตกใจตื่นจากเตียง แต่งตัวไม่เรียบร้อย ผมเผ้ารุงรัง“ให้ไว!” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยบรรดาทหารลงน้ำช่วยคน น้ำเชี่ยวมาก ช่วยคนมือเปล่าเป็นเรื่องลำบากยิ่ง ดังนั้นจึงลากเชือกป่านหลายเส้นมาที่ชายฝั่ง ด้านหนึ่งมัดกับตะขอเหล็กบนฝั่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ผูกติดกับตัวของทหารเรือไม้ลำน้อยลงน้ำตามลำดับ แล่นไปทางชาวบ้าน“เสนาบดีกรมโยธาและเสนาบดีกรมคลังอยู่ที่ไหน?!” มู่หรงฉิงเทียนดวงตาแดงก่ำวาวโรจน์ ตะคอกก
บ่าวรับใช้ได้ยินคำพูดของเชียนอวี่แล้วก็หัวเราะเหน็บ การเดินทอดน่องที่แต่เดิมก็ช้าอยู่แล้วหยุดลงกะทันหัน “มีคนตายแล้ว? ใต้หล้านี้มีวันใดบ้างที่ไม่มีคนตาย? ตายก็ถือได้แค่ว่าคนพวกนั้นดวงซวย เกี่ยวอะไรกับใต้เท้าเรา?”เชียนอวี่สะกดความวู่วามที่อยากตบหน้าเขา แล้วเอ่ย “รบกวนรีบไปเร็วเถอะ ท่านอ๋องกำลังรออยู่ที่เขื่อน”บ่าวรับใช้อยู่นั่นแค่นเสียงฮึ “ท่านอ๋อง อ๋องท่านไหน? เมืองหลวงนี้มิใช่อ๋องทุกคนก็เรียกใช้ใต้เท้าเราได้นะ”เชียนอวี่กัดฟันพูด “เซ่อเจิ้งอ๋อง!”บ่าวรับใช้ผู้นั้นผงะ “เซ่อเจิ้งอ๋อง? เซ่อเจิ้งอ๋องเชิญใต้เท้าเรากลางดึกไปทำอะไร?”“ข้าบอกแล้ว แม่น้ำรอบเมืองเขื่อนแตก” เชียนอวี่แทบอดทนถึงที่สุดแล้วหลังจากบ่าวรับใช้ผู้นั้นพิจารณาครู่หนึ่งก็เอ่ยชืด ๆ “รอเถอะ!”เมื่อนั้นบ่าวรับใช้จึงเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปถงจื่อหยากำลังกอดอนุภรรยานอนหลับฝันหวาน ในเรือนของเขามีภรรยาและอนุภรรยานับสิบคน ย่อมไม่สามารถพักอยู่ในเรือนหลักได้ทั้งหมด จึงซื้อเรือนพักอีกสิบกว่าแห่งให้อนุภรรยาเหล่านั้นอยู่บ่าวรับใช้เดินไปถึงหน้าห้อง อาฟาบ่าวคนสนิทของถงจื่อหยากำลังเข้าเวรนั่งอยู่หน้าระเบียงทางเดินเมื่อเห็นบ่าว
“แต่... ท่านราชครูก็ยำเกรงเขาอยู่บางส่วน ใต้เท้าว่าควรให้เกียรติเขาหน่อย ไปดูสักหน่อย? เขื่อนแตกครั้งนี้ คาดว่าต้องมีคนตายไม่น้อย” อาฟาเกลี้ยกล่อม “ไปเปยอะไร? ไม่ไป! ข้าไม่ได้ทำให้คนตายสักหน่อย” ถงจื่อหยาไม่พอใจ “เจ้าพาสองคนไปดู เขาอย่างมากก็ไม่พอใจนิดหน่อย จะทำอะไรข้าได้?”อาฟาเห็นว่าเกลี้ยกล่อมไม่ได้ผล จึงได้แต่รับคำ “ขอรับ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”อาฟาพาผู้ติดตามสองคนออกประตู เชียนอวี่นั่งยองหลบฝนอยู่ด้านหน้า รอจนหงุดหงิดแล้ว เมื่อเห็นประตูเปิดออกจึงผุดลุกขึ้น นางไม่รู้จักถงจื่อหยา นึกว่าอาฟาก็คือถงจื่อหยา จึงเดินไปทำความเคารพ “คำนับใต้เท้าถง”อาฟามองนางแวบหนึ่ง เอ่ย “ใต้เท้าถงไม่สบาย ให้ข้าไปแทน”เชียนอวี่ผงะ “ไม่ทราบท่านคือ?”“มิจำเป็นต้องถาม ไปเถอะ” อาฟาเอ่ยเรียบ“แต่ท่านอ๋องบอกแล้วว่าต้องเชิญใต้เท้าถงไป” เชียนอวี่พลันรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก จึงแสดงอารมณ์โกรธออกมาจากใบหน้า“ใต้เท้าถงก็บอกแล้วว่าให้ข้าไปก็พอ เจ้าเป็นคนมาเชิญกระมัง? มีคนไปก็พอ เจ้าจะเรื่องมากทำไม?”“นี่จะได้อย่างไร? ท่านอ๋องต้องมีเรื่องสำคัญอยากถามใต้เท้าถง...”อาฟาระเบิดอารมณ์ทันที “ข้าว่าเหตุใดเจ้าจึงไม่รู้จั
เมื่อได้ยินคำพูดของเชียนอวี่ ใต้เท้าหลี่ก็ขมวดคิ้วและเอ่ยด้วยโทสะ “ส่งขี้ข้ามาจะทำอะไรได้?! คนของกรมโยธาล่ะ? คนของกรมโยธาอยู่ที่ไหน? มาแล้วหรือยัง?!”เนื่องจากเมื่อครู่ใต้เท้าหลี่เดินเร็วจึงหกล้มหลายหน ยังไม่ทันได้ทำแผล ใบหน้าจึงมีเลือด ยามนี้บันดาลโทสะ ใบหน้าจึงยิ่งดุดันมีมือปราบเดินมาเอ่ย “ใต้เท้า เสนาบดีกรมโยธาใต้เท้าเฉินป่วยฉับพลันเสียชีวิต เกรงว่าโรคจะแพร่ไปทั้งจวนจึงเผาศพแล้วขอรับ”ใต้เท้าหลี่ผงะ จากนั้นก็แค่นเสียงหัวเราะ “ป่วยฉับพลันเสียชีวิต? ตายแล้วหรือหนีไปแล้ว?”“นี่... ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ” มือปราบเอ่ยใต้เท้าเหลียงรองเสนาบดีกรมคลังมาถึง เขากระหืดกระหอบเอ่ย “ใต้เท้าหลี่ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่? เขื่อนที่เพิ่งสร้างเสร็จบอกจะแตกก็แตกได้อย่างไร?”“ข้าก็อยากถามเรื่องนี้กับท่านอยู่พอดี จากที่ข้ารู้มา กรมคลังกับกรมโยธาตรวจสอบรับด้วยกัน ตอนที่ตรวจสอบไม่ได้ดูอย่างละเอียดหรือ?” ใต้เท้าหลี่มองตาขวางและถามใต้เท้าเหลียงยิ้มขม “ใต้เท้าหลี่ก็ใช่จะไม่รู้ ข้าอยู่ในกรมคลังเฉกเช่นอากาศธาตุ ใต้เท้าถงเป็นคนตรวจสอบด้วยตัวเอง ข้าไม่เคยเห็นมีแต่ภาพแบบและการใช้วัสดุด้วยซ้ำ!”“แม่งเอ๊ย
เขาแค่นเสียง “หญิงไร้ยางอาย หญิงเช่นนี้ให้ข้าเปล่า ๆ ข้ายังไม่เอาเลย!”“คิดมากไปแล้ว มิมีผู้ใดอยากให้ท่านเปล่า ๆ หรอก” เชียนอวี่เอ่ยชืด ๆถงจื่อหยาแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็สั่งให้คนเตรียมรถม้า เชียนอวี่เอ่ย “มิจำเป็น ข้าขี่ม้ามา ใต้เท้าถงขี่ม้าตัวเดียวกับข้าก็ได้”ถงจื่อหยาบันดาลโทสะ “ข้างนอกฝนตกหนักออกอย่างนั้น เจ้าจะให้ข้าขี่ม้าไปหรือ? แล้วยังต้องขี่กับหญิงเยี่ยงชายเช่นเจ้า? เจ้าเห็นข้าเป็นใคร? เจ้าเป็นแค่คนต้อยต่ำ แต่ข้าสูงส่งเทียมฟ้า”เชียนอวี่อดทนต่อความวู่วามที่อยากจะผลัวะเขาหนัก ๆ จูงม้ามา พลิกตัวขึ้นหลังม้า ตามด้วยโน้มตัวลงมือฉุดแขนของถงจื่อหยาขึ้นมาทั้งอย่างนั้นถงจื่อหยาตกใจรีบจับแขนเสื้อของเชียนอวี่เอาไว้พร้อมก่นด่ายกใหญ่ แต่เสียงลมดังเกินไป เชียนอวี่จึงถือเสียว่าไม่ได้ยินถ้อยคำของเขาเมื่อถึงริมกำแพงกั้นน้ำ เชียนอวี่ก็ลากเขาไปถึงตรงหน้าใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าหลี่ยังมิทันเอ่ยปาก ถงจื่อหยาก็ตบหน้าไปฉาดหนึ่งแล้วใต้เท้าหลี่เอียงศีรษะไปด้านหนึ่ง ก่อนจะหันมาจ้องถงจื่อหยาถงจื่อหยาถุยและกล่าววาจาหยามเหยียด “ทำไม? ยังคิดจะตอบโต้หรือ? เจ้าตีสิ ตี ตีสิ...”เชียนอวี่หวดหมัดใส่เขา ต
กระบี่เย็นเฉียบสัมผัสคอของเขา น้ำฝนซัดสาดลงมากระทบกับตัวกระบี่เป็นละอองกระเด็นใส่ใบหน้าของเขาเขาเห็นศพเกลื่อนพื้นก็รู้สึกขนพองสยองเกล้า ท่าทางอ่อนลงมากทันที “ข้า...ต้องกลับไปดู จำไม่ค่อยได้แล้ว”“ใต้เท้าหลี่ อย่าถ่วงเวลาอีกเลย สถานการณ์คับขัน!” ใต้เท้าหลี่ร้อนใจจนเดินวนไปวนมาครั้นเชียนอวี่ยกกระบี่ขึ้นเล็กน้อย คอของถงจื่อหยาก็มีเลือดซึมออกมา ถงจื่อหยารู้สึกเจ็บแล้วจึงรีบพูด “ได้ ได้ ข้าพูด วางกระบี่ลงก่อน!”มือของเชียนอวี่ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย “พูด!”ถงจื่อหยายกมือขึ้นแล้วรีบพูด “ได้ ได้ นอกจากตรงนี้ สันเขื่อนด้านล่างลงไปอีกสิบห้าลี้ทำจากทรายปนเศษหินหมด มีแต่ข้างนอกที่ใช้หินกรวดกับอิฐ ดินเหนียวก็ไม่พอ ดังนั้น...”ใต้เท้าหลี่โกรธจนลมออกหู “ใต้เท้าถง จากที่ข้ารู้มา การสร้างสันเขื่อนนี้ใช้เงินถึงสามแสนตำลึงเต็ม ๆ สามแสนตำลึง เอามาซื้อทรายกับเศษหินหรือ? พวกเราต่างรู้ว่าเขื่อนต้องใช้อิฐ หินกรวด และทรายร่วมกับดินเหนียวจึงจะสร้างได้แข็งแรง นี่คือเรื่องชีวิตคน ท่านรู้หรือไม่?!”“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร? ข้าแค่ดูแลเงิน ไม่เคยเข้าร่วมกับการก่อสร้างเสียหน่อย นี่คืองานของกรมโยธา” ถงจื่อหยายังปา
คนข้างตัวมู่หรงฉิงเทียนทำงานว่องไวมาก เพียงครึ่งชั่วยามก็เตรียมของที่นางต้องการครบแล้วนางหลบทำระเบิดอยู่ในบ้านหลังหนึ่งตอนนี้นางกำลังห่วงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือข้างนอกฝนตกหนักปานนั้น จะวางระเบิดไว้ใต้หินใหญ่ประตูน้ำได้อย่างไร?นอกเสียจากหาคนจำนวนหนึ่งมามัดระเบิดกับตัวพวกเขา ใช้เรือส่งไป จากนั้นก็จุดชนวน แต่หากทำเช่นนี้... คนพวกนี้ก็จะไม่รอดใครจะยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อระเบิดประตูน้ำกัน?นางยอม แต่นางคนเดียวระเบิดไม่ได้ นางประมาณคร่าว ๆ ต้องมีคนแบกระเบิดอย่างน้อยสี่คน จึงจะระเบิดประตูน้ำสำเร็จเมื่อนางบอกเรื่องนี้กับใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าหลี่ก็เงียบไปพักหนึ่ง “ข้าไปเอง!”“ไม่!” เชียนอวี่คัดค้านทันใด “ข้าไป!”“ไม่อนุญาต!” ใต้เท้าหลี่ค้านเสียงแข็ง “เจ้ามีวรยุทธ์ สามารถสร้างความผาสุกให้กับราชสำนัก ที่ไร้ประโยชน์คือบัณฑิต หากข้าตายแล้ว ย่อมมีผู้มีความสามารถมาเป็นผู้ว่าการเมืองหลวงแทน”เชียนอวี่ตาแดง “ไม่ อย่างไรข้าก็ตัวคนเดียว ตายแล้วไม่มีใครเสียดาย ใต้เท้ายังมีบุพการีต้องดูแล ต้องเป็นข้าไป”“ใครบอกว่าเจ้าตายแล้วไม่มีคนเสียดาย? ข้าคือผู้บังคับบัญชาของเจ้า คำสั่งของข้า เจ้าต้องปฏิบัติ
เขาให้เชียนอวี่เตรียมระเบิดให้พร้อม สวมชุดกันฝนตัวใหญ่ และหมวกไม้ไผ่สานใบใหญ่“ท่านอ๋อง ท่านทำเช่นนี้จะอันตรายมากนะเพคะ” เชียนอวี่พูดสู้เขาไม่ได้ จึงได้แต่เตือนอีกมู่หรงฉิงเทียนมัดสิ่งของติดกับตัวเรียบร้อย “ข้าย่อมมีความมั่นใจ”มั่นใจ? ไม่! แต่หากมองทั้งแคว้นต้าโจว ผู้ที่มีวิชาตัวเบายอดเยี่ยมที่สุด นอกจากเขาก็มีเพียงไม่กี่คนหากเป็นแต่ก่อน เขาจะมีความมั่นใจมากกว่านี้ แต่... ร่างกายในยามนี้มีปัญหา โดยเฉพาะเวลาออกแรง เขามักรู้สึกว่าเลือดลมติดขัด คาดว่าอาจเกี่ยวกับวิญญาณมังกรถูกทำลายการบรรเทาภัยพิบัติ ที่ต้องแย่งชิงคือเวลา เขาจะล่าช้าไม่ได้ฮุ่ยอวิ่นเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ แทบจะหมดเรี่ยวแรง เขาอุ้มคนห้าสิบแปดคนขึ้นมา แต่ที่ยังมีชีวิตอยู่กลับมีแค่สิบเจ็ดคนเท่านั้นใจของเขาทั้งโกรธแค้นและเสียใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ เขาคือคนที่เคยผ่านสนามรบ เห็นการเกิดการตายจนเคยชิน แต่... นั่นมันไม่เหมือนกันทหารออกรบเตรียมตัวพลีชีพแล้ว การพลีชีพของพวกเขาคือเกียรติยศ เพราะพวกเขาประสบความสำเร็จในคุณค่าการดำรงอยู่ของพวกเขาแต่ชาวบ้านตาสีตาสาเหล่านี้มีผู้ใดที่มิใช่ผู้บริสุทธิ์? พวกเขายังอยู่ในความฝันก็ต้อ
คนข้างตัวมู่หรงฉิงเทียนทำงานว่องไวมาก เพียงครึ่งชั่วยามก็เตรียมของที่นางต้องการครบแล้วนางหลบทำระเบิดอยู่ในบ้านหลังหนึ่งตอนนี้นางกำลังห่วงเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือข้างนอกฝนตกหนักปานนั้น จะวางระเบิดไว้ใต้หินใหญ่ประตูน้ำได้อย่างไร?นอกเสียจากหาคนจำนวนหนึ่งมามัดระเบิดกับตัวพวกเขา ใช้เรือส่งไป จากนั้นก็จุดชนวน แต่หากทำเช่นนี้... คนพวกนี้ก็จะไม่รอดใครจะยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อระเบิดประตูน้ำกัน?นางยอม แต่นางคนเดียวระเบิดไม่ได้ นางประมาณคร่าว ๆ ต้องมีคนแบกระเบิดอย่างน้อยสี่คน จึงจะระเบิดประตูน้ำสำเร็จเมื่อนางบอกเรื่องนี้กับใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าหลี่ก็เงียบไปพักหนึ่ง “ข้าไปเอง!”“ไม่!” เชียนอวี่คัดค้านทันใด “ข้าไป!”“ไม่อนุญาต!” ใต้เท้าหลี่ค้านเสียงแข็ง “เจ้ามีวรยุทธ์ สามารถสร้างความผาสุกให้กับราชสำนัก ที่ไร้ประโยชน์คือบัณฑิต หากข้าตายแล้ว ย่อมมีผู้มีความสามารถมาเป็นผู้ว่าการเมืองหลวงแทน”เชียนอวี่ตาแดง “ไม่ อย่างไรข้าก็ตัวคนเดียว ตายแล้วไม่มีใครเสียดาย ใต้เท้ายังมีบุพการีต้องดูแล ต้องเป็นข้าไป”“ใครบอกว่าเจ้าตายแล้วไม่มีคนเสียดาย? ข้าคือผู้บังคับบัญชาของเจ้า คำสั่งของข้า เจ้าต้องปฏิบัติ
กระบี่เย็นเฉียบสัมผัสคอของเขา น้ำฝนซัดสาดลงมากระทบกับตัวกระบี่เป็นละอองกระเด็นใส่ใบหน้าของเขาเขาเห็นศพเกลื่อนพื้นก็รู้สึกขนพองสยองเกล้า ท่าทางอ่อนลงมากทันที “ข้า...ต้องกลับไปดู จำไม่ค่อยได้แล้ว”“ใต้เท้าหลี่ อย่าถ่วงเวลาอีกเลย สถานการณ์คับขัน!” ใต้เท้าหลี่ร้อนใจจนเดินวนไปวนมาครั้นเชียนอวี่ยกกระบี่ขึ้นเล็กน้อย คอของถงจื่อหยาก็มีเลือดซึมออกมา ถงจื่อหยารู้สึกเจ็บแล้วจึงรีบพูด “ได้ ได้ ข้าพูด วางกระบี่ลงก่อน!”มือของเชียนอวี่ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย “พูด!”ถงจื่อหยายกมือขึ้นแล้วรีบพูด “ได้ ได้ นอกจากตรงนี้ สันเขื่อนด้านล่างลงไปอีกสิบห้าลี้ทำจากทรายปนเศษหินหมด มีแต่ข้างนอกที่ใช้หินกรวดกับอิฐ ดินเหนียวก็ไม่พอ ดังนั้น...”ใต้เท้าหลี่โกรธจนลมออกหู “ใต้เท้าถง จากที่ข้ารู้มา การสร้างสันเขื่อนนี้ใช้เงินถึงสามแสนตำลึงเต็ม ๆ สามแสนตำลึง เอามาซื้อทรายกับเศษหินหรือ? พวกเราต่างรู้ว่าเขื่อนต้องใช้อิฐ หินกรวด และทรายร่วมกับดินเหนียวจึงจะสร้างได้แข็งแรง นี่คือเรื่องชีวิตคน ท่านรู้หรือไม่?!”“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร? ข้าแค่ดูแลเงิน ไม่เคยเข้าร่วมกับการก่อสร้างเสียหน่อย นี่คืองานของกรมโยธา” ถงจื่อหยายังปา
เขาแค่นเสียง “หญิงไร้ยางอาย หญิงเช่นนี้ให้ข้าเปล่า ๆ ข้ายังไม่เอาเลย!”“คิดมากไปแล้ว มิมีผู้ใดอยากให้ท่านเปล่า ๆ หรอก” เชียนอวี่เอ่ยชืด ๆถงจื่อหยาแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็สั่งให้คนเตรียมรถม้า เชียนอวี่เอ่ย “มิจำเป็น ข้าขี่ม้ามา ใต้เท้าถงขี่ม้าตัวเดียวกับข้าก็ได้”ถงจื่อหยาบันดาลโทสะ “ข้างนอกฝนตกหนักออกอย่างนั้น เจ้าจะให้ข้าขี่ม้าไปหรือ? แล้วยังต้องขี่กับหญิงเยี่ยงชายเช่นเจ้า? เจ้าเห็นข้าเป็นใคร? เจ้าเป็นแค่คนต้อยต่ำ แต่ข้าสูงส่งเทียมฟ้า”เชียนอวี่อดทนต่อความวู่วามที่อยากจะผลัวะเขาหนัก ๆ จูงม้ามา พลิกตัวขึ้นหลังม้า ตามด้วยโน้มตัวลงมือฉุดแขนของถงจื่อหยาขึ้นมาทั้งอย่างนั้นถงจื่อหยาตกใจรีบจับแขนเสื้อของเชียนอวี่เอาไว้พร้อมก่นด่ายกใหญ่ แต่เสียงลมดังเกินไป เชียนอวี่จึงถือเสียว่าไม่ได้ยินถ้อยคำของเขาเมื่อถึงริมกำแพงกั้นน้ำ เชียนอวี่ก็ลากเขาไปถึงตรงหน้าใต้เท้าหลี่ ใต้เท้าหลี่ยังมิทันเอ่ยปาก ถงจื่อหยาก็ตบหน้าไปฉาดหนึ่งแล้วใต้เท้าหลี่เอียงศีรษะไปด้านหนึ่ง ก่อนจะหันมาจ้องถงจื่อหยาถงจื่อหยาถุยและกล่าววาจาหยามเหยียด “ทำไม? ยังคิดจะตอบโต้หรือ? เจ้าตีสิ ตี ตีสิ...”เชียนอวี่หวดหมัดใส่เขา ต
เมื่อได้ยินคำพูดของเชียนอวี่ ใต้เท้าหลี่ก็ขมวดคิ้วและเอ่ยด้วยโทสะ “ส่งขี้ข้ามาจะทำอะไรได้?! คนของกรมโยธาล่ะ? คนของกรมโยธาอยู่ที่ไหน? มาแล้วหรือยัง?!”เนื่องจากเมื่อครู่ใต้เท้าหลี่เดินเร็วจึงหกล้มหลายหน ยังไม่ทันได้ทำแผล ใบหน้าจึงมีเลือด ยามนี้บันดาลโทสะ ใบหน้าจึงยิ่งดุดันมีมือปราบเดินมาเอ่ย “ใต้เท้า เสนาบดีกรมโยธาใต้เท้าเฉินป่วยฉับพลันเสียชีวิต เกรงว่าโรคจะแพร่ไปทั้งจวนจึงเผาศพแล้วขอรับ”ใต้เท้าหลี่ผงะ จากนั้นก็แค่นเสียงหัวเราะ “ป่วยฉับพลันเสียชีวิต? ตายแล้วหรือหนีไปแล้ว?”“นี่... ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ” มือปราบเอ่ยใต้เท้าเหลียงรองเสนาบดีกรมคลังมาถึง เขากระหืดกระหอบเอ่ย “ใต้เท้าหลี่ เกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่? เขื่อนที่เพิ่งสร้างเสร็จบอกจะแตกก็แตกได้อย่างไร?”“ข้าก็อยากถามเรื่องนี้กับท่านอยู่พอดี จากที่ข้ารู้มา กรมคลังกับกรมโยธาตรวจสอบรับด้วยกัน ตอนที่ตรวจสอบไม่ได้ดูอย่างละเอียดหรือ?” ใต้เท้าหลี่มองตาขวางและถามใต้เท้าเหลียงยิ้มขม “ใต้เท้าหลี่ก็ใช่จะไม่รู้ ข้าอยู่ในกรมคลังเฉกเช่นอากาศธาตุ ใต้เท้าถงเป็นคนตรวจสอบด้วยตัวเอง ข้าไม่เคยเห็นมีแต่ภาพแบบและการใช้วัสดุด้วยซ้ำ!”“แม่งเอ๊ย
“แต่... ท่านราชครูก็ยำเกรงเขาอยู่บางส่วน ใต้เท้าว่าควรให้เกียรติเขาหน่อย ไปดูสักหน่อย? เขื่อนแตกครั้งนี้ คาดว่าต้องมีคนตายไม่น้อย” อาฟาเกลี้ยกล่อม “ไปเปยอะไร? ไม่ไป! ข้าไม่ได้ทำให้คนตายสักหน่อย” ถงจื่อหยาไม่พอใจ “เจ้าพาสองคนไปดู เขาอย่างมากก็ไม่พอใจนิดหน่อย จะทำอะไรข้าได้?”อาฟาเห็นว่าเกลี้ยกล่อมไม่ได้ผล จึงได้แต่รับคำ “ขอรับ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”อาฟาพาผู้ติดตามสองคนออกประตู เชียนอวี่นั่งยองหลบฝนอยู่ด้านหน้า รอจนหงุดหงิดแล้ว เมื่อเห็นประตูเปิดออกจึงผุดลุกขึ้น นางไม่รู้จักถงจื่อหยา นึกว่าอาฟาก็คือถงจื่อหยา จึงเดินไปทำความเคารพ “คำนับใต้เท้าถง”อาฟามองนางแวบหนึ่ง เอ่ย “ใต้เท้าถงไม่สบาย ให้ข้าไปแทน”เชียนอวี่ผงะ “ไม่ทราบท่านคือ?”“มิจำเป็นต้องถาม ไปเถอะ” อาฟาเอ่ยเรียบ“แต่ท่านอ๋องบอกแล้วว่าต้องเชิญใต้เท้าถงไป” เชียนอวี่พลันรู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก จึงแสดงอารมณ์โกรธออกมาจากใบหน้า“ใต้เท้าถงก็บอกแล้วว่าให้ข้าไปก็พอ เจ้าเป็นคนมาเชิญกระมัง? มีคนไปก็พอ เจ้าจะเรื่องมากทำไม?”“นี่จะได้อย่างไร? ท่านอ๋องต้องมีเรื่องสำคัญอยากถามใต้เท้าถง...”อาฟาระเบิดอารมณ์ทันที “ข้าว่าเหตุใดเจ้าจึงไม่รู้จั
บ่าวรับใช้ได้ยินคำพูดของเชียนอวี่แล้วก็หัวเราะเหน็บ การเดินทอดน่องที่แต่เดิมก็ช้าอยู่แล้วหยุดลงกะทันหัน “มีคนตายแล้ว? ใต้หล้านี้มีวันใดบ้างที่ไม่มีคนตาย? ตายก็ถือได้แค่ว่าคนพวกนั้นดวงซวย เกี่ยวอะไรกับใต้เท้าเรา?”เชียนอวี่สะกดความวู่วามที่อยากตบหน้าเขา แล้วเอ่ย “รบกวนรีบไปเร็วเถอะ ท่านอ๋องกำลังรออยู่ที่เขื่อน”บ่าวรับใช้อยู่นั่นแค่นเสียงฮึ “ท่านอ๋อง อ๋องท่านไหน? เมืองหลวงนี้มิใช่อ๋องทุกคนก็เรียกใช้ใต้เท้าเราได้นะ”เชียนอวี่กัดฟันพูด “เซ่อเจิ้งอ๋อง!”บ่าวรับใช้ผู้นั้นผงะ “เซ่อเจิ้งอ๋อง? เซ่อเจิ้งอ๋องเชิญใต้เท้าเรากลางดึกไปทำอะไร?”“ข้าบอกแล้ว แม่น้ำรอบเมืองเขื่อนแตก” เชียนอวี่แทบอดทนถึงที่สุดแล้วหลังจากบ่าวรับใช้ผู้นั้นพิจารณาครู่หนึ่งก็เอ่ยชืด ๆ “รอเถอะ!”เมื่อนั้นบ่าวรับใช้จึงเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปถงจื่อหยากำลังกอดอนุภรรยานอนหลับฝันหวาน ในเรือนของเขามีภรรยาและอนุภรรยานับสิบคน ย่อมไม่สามารถพักอยู่ในเรือนหลักได้ทั้งหมด จึงซื้อเรือนพักอีกสิบกว่าแห่งให้อนุภรรยาเหล่านั้นอยู่บ่าวรับใช้เดินไปถึงหน้าห้อง อาฟาบ่าวคนสนิทของถงจื่อหยากำลังเข้าเวรนั่งอยู่หน้าระเบียงทางเดินเมื่อเห็นบ่าว
ตอนนี้เอง ทหารกองหนุนก็เพิ่งถึงใต้เท้าหลี่ผู้ว่าการเมืองหลวงก็มาถึงแล้วเช่นกัน เขาเปียกปอนไปทั้งตัวเหมือนกับมู่หรงฉิงเทียน ผู้ใต้บังคับบัญชาส่งเสื้อและหมวกกันฝนให้เขา ไม่ขอให้กันฝน ขอเพียงสามารถลืมตาท่ามกลางลมพายุฝนกระหน่ำเช่นนี้ได้ก็พอ“ท่านอ๋อง จะทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ?” ชั่วขณะใต้เท้าหลี่คิดไม่ออก นับจากเขาดำรงตำแหน่ง นี่คืออุทกภัยร้ายแรงที่สุดในเมืองหลวง“สั่งให้ช่วยคน!” มู่หรงฉิงเทียนบัญชาการทั้งหน้าตาเคร่งเครียด มือหนึ่งลากทหารรักษาการณ์ของเมืองหลวงแล้วสั่งเสียงกร้าว “เร็ว ช่วยได้เท่าไรเท่านั้น เรือไม้ล่ะ? เตรียมแล้วหรือ?!”“เตรียมแล้วพ่ะย่ะค่ะ จะลงน้ำเดี๋ยวนี้!” นายทหารผู้นั้นน่าจะถูกคนเรียกตกใจตื่นจากเตียง แต่งตัวไม่เรียบร้อย ผมเผ้ารุงรัง“ให้ไว!” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยบรรดาทหารลงน้ำช่วยคน น้ำเชี่ยวมาก ช่วยคนมือเปล่าเป็นเรื่องลำบากยิ่ง ดังนั้นจึงลากเชือกป่านหลายเส้นมาที่ชายฝั่ง ด้านหนึ่งมัดกับตะขอเหล็กบนฝั่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งก็ผูกติดกับตัวของทหารเรือไม้ลำน้อยลงน้ำตามลำดับ แล่นไปทางชาวบ้าน“เสนาบดีกรมโยธาและเสนาบดีกรมคลังอยู่ที่ไหน?!” มู่หรงฉิงเทียนดวงตาแดงก่ำวาวโรจน์ ตะคอกก
กลางดึก ฝนยังโปรยปรายอย่างต่อเนื่องดึกดื่นค่อนคืนฮุ่ยอวิ่นผลักประตูของมู่หรงฉิงเทียน “เทียน ลุกเร็ว เกิดเรื่องแล้ว เขื่อนแตกแล้ว!”มู่หรงฉิงเทียนผุดลุกขึ้นมาจากเตียง “เกิดอะไรขึ้น?”ฮุ่ยอวิ่นตัวชุ่มโชก วาวโรจน์ “ทางน้ำตัน น้ำไม่ลด เอ่อขึ้นมาจนเขื่อนรับไม่ไหวก็เลยแตก”“ลอกทางน้ำนานแล้วมิใช่หรือ? เหตุใดจึงตันได้?” มู่หรงฉิงเทียนคลุมเสื้อรวบผมแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที“หัวหน้างานเป็นคนของราชครูถง กรมคลังจ่ายเงินไปแล้ว แต่กรมโยธาไม่ทำงานให้ดี” ฮุ่ยอวิ่นตอบด้วยความโกรธโทสะคลั่งปกคลุมดวงตาของมู่หรงฉิงเทียน เขาเอ่ยเสียงหนัก “ไปที่เขื่อนก่อน สั่งทหารไปช่วยภัยพิบัติ ลากตัวทุกคนในกรมคลังและกรมโยธาไปที่เขื่อนให้หมด!”ฝนหนักมาก เทสาดลงมาจากฟ้าเมืองหลวงมีพายุฝนเป็นประจำ เคยน้ำท่วมต่อหลายครั้ง ดังนั้นเรื่องแรกหลังจากมู่หรงฉิงเทียนขึ้นรั้งตำแหน่งก็คือสร้างเขื่อนและลอกทางระบายน้ำ น้ำจากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเลโดยตรง ไม่ว่าฝนจะตกหนักเพียงไร หากมิได้เทกระหน่ำสามวันสามคืนจนทำให้มีน้ำหลากจากภูเขา จะไม่ทำให้เขื่อนแตกเด็ดขาดแต่... ยามนี้ฝนตกแค่สองชั่วยามเขื่อนก็พังแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าใช้วัสดุใดในการสร