Share

บทที่ 225

Author: ลิ่วเยว่
เขาตกใจหันมามองจ่านเหยียนอย่างระแวง จ่านเหยียนหน้าซีดแล้ว นางเอามือกดบั้นเอว เลือดไหลย้อยลงมาตามตัวนางนองเต็มพื้น ร่างกายซวนเซจะล้ม

อาเสอปัดมือของฮุ่ยอวิ่น และเอ่ยด้วยโทสะ “พูดอะไรน่ะ? หลีกไปนะ ข้าจะฆ่าไอ้นักพรตชั่วนี่!”

ฟางจี้จื่อหัวเราะเสียงเย็น หยิบกระดิ่งสีทองใบหนึ่งมาจากข้างหลัง จังหวะที่อาเสอเห็นพลันใบหน้าถอดสี “กระดิ่งสยบฟ้า?”

“ถือว่าเจ้าตาแหลม!” ฟางจี้จื่อแค่นเสียงหัวเราะ “คราวนี้ดูสิว่าพวกเจ้าจะหนีไปไหนได้?”

“ท่านนักพรต นี่เกิดอะไรขึ้น?” ฮุ่ยอวิ่นถาม

ฟางจี้จื่ออธิบาย “ความจริงแล้วหลงอู่ก็คือหลงจ่านเหยียน หรือก็คือหมู่โฮ่วฮองไทเฮาองค์ปัจจุบัน นางเป็นปีศาจ ก่อนหน้านี้ที่ยืมวิญญาณมังกรก็เพื่อต่อกรกับนาง ใครจะคิดว่าวิญญาณมังกรจะถูกหลงจ่านเหยียนทำลาย เห็นได้ว่าวิชามารของนางร้ายกาจมาก ข้ารู้ว่านางไม่ระวังเทพโอสถ ดังนั้นจึงให้เทพโอสถทำร้ายนางแบบไม่ทันตั้งตัว เช่นนี้ข้าก็จะสยบนางได้”

กล่าวจบก็สั่นกระดิ่งสยบฟ้าในมือ พลางท่อนคาถาในปาก เมื่อเสียงกระดิ่งสยบฟ้าดังขึ้น ราวกับเสียงมารอย่างไรอย่างนั้น กรอกเข้าโสตอาเสอ อาเสอเอามือปิดหู อวัยวะภายในทรมานดังถูกกระแทกแหลกลาญ นางกรีดร้องอย่าง
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 226

    ทว่า... รัศมีแสงแต่ละวงจากกระดิ่งสยบฟ้ากระแทกไปทางจ่านเหยียน จ่านเหยียนกลับยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงนั้น ความทรมานไม่ปรากฏบนใบหน้านางสักนิดครั้นแล้วนางก็ค่อย ๆ ชูคทามังกรขึ้น เมื่อโบก กระดิ่งสยบฟ้าถูกคทามังกรปัดตกลงพื้นแตกเป็นเสี่ยง ๆ หลายชิ้นทันที และพอหลงจ่านเหยียนสะบัดแขนเสื้ออีกที เศษชิ้นส่วนกระดิ่งสยบฟ้าก็ลอยขึ้นและสลายตัวเป็นผงกลางอากาศฟางจี้จื่อตกตะลึงพรึงเพริด เบิกตาโพลงมองคทามังกรในมือนางอย่างเหลือเชื่อ เขาเคยคิดว่านางจะต่อต้าน และเตรียมต่อสู้กับนางหลายร้อยยก แต่... เขาไม่เคยคิดเด็ดขาด กระดิ่งสยบฟ้ากลับสลายเป็นผุยผงเหมือนวิญญาณมังกรด้วยหนึ่งกระบวนท่าของนางนี่คือสิ่งที่เขาไม่มีทางคาดถึง“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ฟางจี้จื่ออ้าปากกว้าง ถามอย่างอึ้งจังงัง ความครั่นคร้ามอย่างหนึ่งผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ความครั่นคร้ามเช่นนี้เคยเกิดขึ้นตอนอยู่ในจวนตระกูลหลง นั่นก็คือตอนที่นางทำลายวิญญาณมังกรแต่... เขายืนกรานว่านี่เป็นเพราะนางคือปีศาจซึ่งมีตบะแก่กล้า ดังนั้นเขาจึงอัญเชิญกระดิ่งสยบฟ้า“ข้าเคยบอกแล้ว” จ่านเหยียนเอื้อนเอ่ยด้วยใบหน้าไร้ซึ่งอารมณ์ “หากเจ้ามองไม่ออกว่าข้าคือใคร นั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 227

    อาเสอกระซิบข้างหูจ่านเหยียน “คุณหนูใหญ่ ตอนนี้กระดิ่งสยบฟ้าส่งเสียงแล้ว กลัวแต่จะมีมารปีศาจไม่น้อยมาเมืองหลวงอย่างต่อเนื่อง ท่านแน่ใจนะว่าจะเหนื่อยตายเอง?”อาเสอเตือนจ่านเหยียน ทันทีที่กระดิ่งสยบฟ้าส่งเสียงปลุกปีศาจที่ถูกสะกด ถึงตอนนั้นหากนางรับมืออยู่คนเดียว นั่นจะเหน็ดเหนื่อยตายได้จริง ๆ โดยเฉพาะเวลานี้นางยังบาดเจ็บนางดึงมือกลับมาฉับพลัน พายุหมุนฝุ่นละอองสลายไปต่อหน้าฟางจี้จื่อ ทันใดนั้นฟางจี้จื่อทรุดตัวลงกับพื้น สองตาเหลือกมองฟ้า ร่างกายกระตุกไม่หยุดเทพโอสถรีบเข้าไปรักษาเขาเหลียนถังเห็นอาเสอพยุงฮุ่ยอวิ่นขึ้นมา นึกว่านางจะทำร้ายฮุ่ยอวิ่น จึงรุดหน้าไปด้วยความร้อนใจ “เจ้าจะทำอะไร?”อาเสอตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้ามาพยุงพาเขาไปพักผ่อน พื้นเย็นเช่นนี้ เขานอนนาน ๆ มิต้องล้มป่วยหรือ? ข้าหวังดีมากนะ”อาเสอส่งฮุ่ยอวิ่นให้เหลียนถัง แต่เหลียนถังเป็นสตรีอ่อนแอคนหนึ่ง จะพยุงฮุ่ยอวิ่นที่ไม่ได้สติไหวอย่างไร ทั้งสองจึงล้มลงกับพื้นด้วยกันเหลียนถังใบหน้าแดงซ่าน ผลักฮุ่ยอวิ่นบนร่างตัวเอง จากนั้นจึงทอดสายตาขอความช่วยเหลือกับอาเสออาเสอฉีกยิ้มแล้วเข้าไปดึงฮุ่ยอวิ่นขึ้น พยุงเขาเดินออกไปข้างนอก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 228

    ฟางจี้จื่อเนื้อตัวอ่อนแรง เขาย่อมรู้ว่าที่จ่านเหยียนกล่าวมาคือความจริง บรรพจารย์ก็เคยกล่าวเช่นนั้น หากไม่วิกฤตจริง ๆ ห้ามแตะต้องกระดิ่งสยบฟ้าเด็ดขาด“จะบอกข้าได้หรือไม่ว่าเจ้าคือใครกันแน่?” ฟางจี้จื่อเงยหน้าถามจ่านเหยียนโยนคทามังกรในมือออกไป “เก็บขึ้นมา มันจะบอกเจ้า!”ฟางจี้จื่อมองคทามังกรที่นอนอยู่บนพื้น นี่คือคทาหยกยาวที่ดูไม่มีอะไรพิเศษด้ามหนึ่ง บนนั้นแกะสลักอักขระสวัสติกะ เขายื่นมือออกไป ยังไม่ทันสัมผัสคทามังกรก็รู้สึกฝ่ามือเย็นเฉียบแล้วเขาข่มใจ ครั้นมือหนึ่งกำไปก็มีกระแสไฟแล่นผ่านฝ่ามือไปยังมือเท้าและกระดูกทั่วสรรพางค์กายทันที กระแสไฟทะลวงความสับสนทั้งมวลของเขา สติสัมปชัญญะแจ่มชัดอย่างหาที่เปรียบมิได้ทันใดเขาปล่อยคทามังกรแล้วหัวเราะอย่างเศร้าสร้อย คุกเข่าลงกับพื้น “ข้ามีตามิรู้เขาไท่ซัน ท่านเซียนโปรดประทานความตายให้ด้วย!”จ่านเหยียนเอ่ยเรียบ “ข้าจะฆ่าเจ้าไปทำไม? กรรมที่เจ้าก่อขึ้น ต้องไปจัดการความวุ่นวายด้วยตัวเอง”ฟางจี้จื่อเข้าใจว่านางหมายถึงอะไร จึงเอ่ยอย่างหนักแน่น “ข้าจะสะกดมารปีศาจทั้งหมดอีกครั้งอย่างสุดความสามารถ”“พาลูกศิษย์ของเจ้าไสหัวไปเถอะ!” จ่านเหยียนเอ่ยอย่

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 229

    “ไปกันเถอะ หลวงจีนน้อย เจ้าออกจวนไปกับศิษย์เจ้าก่อน ข้าจะไปบอกท่านอ๋องสักคำ!” จ่านเหยียนรู้สึกอ่อนล้านัก เพิ่งอยู่สบายได้แค่ไม่กี่วันก็ต้องใช้แรงงานอีกแล้ว“ได้ น้อมส่งท่านเซียน!” พระอาจารย์เป่ากวงขานรับจ่านเหยียนไปยังเรือนของมู่หรงฉิงเทียน มู่หรงฉิงเทียนยังไม่ฟื้นจ่านเหยียนนั่งอยู่ข้างเตียงยลโฉมหลับใหล จำต้องยอมรับ แม้พูดไม่ได้ว่าเค้าโครงหน้าของเขาสมบูรณ์แบบ กลับน่าดึงดูดอย่างยิ่งโดยเฉพาะยามหลับใหล ประกายในดวงตาถูกเก็บซ่อนเอาไว้ เส้นสายดวงหน้าอ่อนโยน ท่าทางไร้พิษภัย“อยากบอกลากับท่านสักหน่อย แต่ในเมื่อท่านไม่ตื่น เช่นนั้นข้าก็บอกลากับท่านตรงนี้แล้วกัน” ไม่รู้เพราะเหตุใด จ่านเหยียนจึงอยากมาอำลา แต่ไม่นานนางก็หาข้ออ้างได้ คือเพราะเขาเคยบอกว่าห้ามนางออกจากจวนเวลานี้นางจะไปแล้ว อย่างไรก็ต้องบอกกล่าวเขาสักคำกระมัง?แม้นางก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เหตุใดขนาดสาวใช้ก็บอกแล้วว่ามู่หรงฉิงเทียนยังไม่ฟื้น แต่นางยังดึงดันมาพบสักครั้งให้ได้ยิ่งไม่เข้าใจ ทั้งที่บอกกับฮุ่ยอวิ่นก็ได้เหมือนกัน แต่ก็ยังยืนกรานจะบอกกับเขาบางที... เพราะเขาต่างหากที่เป็นเจ้าของจวนแห่งนี้?“เจ้าจะไปไหน?” เขาลืมตา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 230

    มู่หรงฉิงเทียนนอนลงบนเตียงต่อ หัวใจของเขาไม่เคยเต้นมานานมากแล้ว แต่เริ่มจากเมื่อคืน เขาหวนคิดถึงความรู้สึกใจเต้นแบบนั้นขึ้นมาได้อย่างชัดเจนนับจากพระอาจารย์กวงสือนำวิญญาณมังกรและวิญญาณของเขารวมเข้าด้วยกัน เขามักฝันถึงสตรีนางหนึ่งเขาไม่เคยเห็นโฉมหน้าของนางชัด ทุกครั้งที่เห็น มือของนางจะมือคทาหยกขาวด้ามหนึ่ง ยืนอยู่ท่ามกลางสายลม อาภรณ์ปลิวไสวเขาไม่เคยรู้ว่านางคือใคร และเคยสงสัยว่าสตรีนางนี้จะมีตัวตนจริง ๆ หรือไม่เมื่อคืนเขามิได้หมดสติ หลังจากฮุ่ยอวิ่นออกไป เขาก็ตามไปด้วยเหมือนกันดังนั้น เขาเห็นหลงอู่ถือคทามังกรอยู่ในมือ ยืนอยู่ท่ามกลางสายลมเช่นเดียวกับภาพในความฝันของเขา แต่... สตรีในฝันอยู่ในอาภรณ์ของสตรี หลงอู่แต่งเป็นบุรุษทว่าเขารู้ดีอยู่แก่ใจ ความจริงหลงอยู่ก็คือหลงจ่านเหยียน คือสตรีขณะนั้นของตกตะลึงพรึงเพริดถึงขีดสุด หลายปีแล้ว ในที่สุดก็มีความรู้สึกหัวใจเต้นเช่นนี้เขามิได้ดูต่อ สำหรับเขา ความตกตะลึงเช่นนี้หมายถึงจังหวะของชีวิตและความฝัน เขาไม่กล้าอยู่ต่อนาน เขากลัวถูกลบความทรงจำนี้เหมือนกับฮุ่ยอวิ่นเขาไม่รู้ว่านางจะไปแห่งหนตำบลใด แต่... เขาตงิดใจว่านางต้องเผชิญหน้าก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 231

    มู่หรงเจี้ยนนั่งอยู่บนเก้าอี้มังกร เล่นแหวนอังคุฐหยกอยู่ในมือวงหนึ่ง “ยามนี้ใต้หล้าสงบ ไหนเลยยังมีเรื่องต้องหารือ? มิจำเป็น”ราชครูถงเอ่ยเรียบ “เวลานี้ฎีกาทั้งหลายล้วนผ่านมือของเขาจึงจะถึงพระหัตถ์ของฝ่าบาท แม้จะดำรงตำแหน่งเซ่อเจิ้งอ๋อง แต่เช่นนี้จะเอาตามใจตัวเองมากไปหน่อยแล้ว ไม่สอดคล้องกับกฎบรรพชนพ่ะย่ะค่ะ” มู่หรงเจี้ยนเงยหน้า “เขาคือเซ่อเจิ้งอ๋องที่เสด็จพ่อทรงแต่งตั้ง ก่อนเสด็จพ่อสวรรคตก็ทรงกำชับเช่นนี้เหมือนกัน ราชครูมีวิธีใดยึดอำนาจมาจากมือของเขาได้หรือไม่? เวลานี้ขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักส่วนมากเป็นคนของเขาทั้งสิ้น”ราชครูถงแลเฉินไท่ฟู่ “ฝ่าบาท พระองค์ต้องตระหนัก พระองค์ต่างหากที่เป็นโอรสสวรรค์ในปัจจุบัน เป็นฮ่องเต้ของแคว้นต้าโจว ฝ่าบาทสามารถออกราชโองการปลดอำนาจทางทหารและอำนาจทางการเมืองของเขาได้พ่ะย่ะค่ะ”มู่หรงเจี้ยนนิ่งงันครู่หนึ่ง มองเฉินไท่ฟู่ “เฉินไท่ฟู่ ท่านมีความเห็นอย่างไร?”เฉินไท่ฟู่คือบิดาหยวนผินที่เขาโปรดปราน จงรักภักดี ทั้งยังมีความสามารถ เขาเชื่อใจเฉินไท่ฟู่มากเฉินไท่ฟู่พิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ย “โปรดประทานอภัยที่กระหม่อมกล่าวตามตรง กระหม่อมคิดว่าเวลานี้บ้าน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 232

    “เรื่องนี้ยังไม่ต้องพูดถึง อีกไม่กี่วันราชทูตจากแคว้นอันหนานก็จะมาถึง หลายปีก่อนหลังจากฮ่องเต้แคว้นอันหนานเจอน้องแปดแล้วก็เฝ้าคิดถึงมาตลอด ประสงค์อภิเษกแต่งตั้งนางเป็นฮองเฮา” มู่หรงเจี้ยนเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม“บัดนี้แคว้นอันหนานกำลังทหารแข็งแกร่ง แม้จะเป็นพันธมิตรกับต้าโจวเรา แต่พันธมิตรที่ตั้งอยู่บนผลประโยชน์เช่นนี้ บอกจะตัดก็ตัด ยามนี้ราชอำนาจเรายังไม่มั่นคง กระหม่อมของเสนอ มิสู้ทำตามความประสงค์ของฮ่องเต้แคว้นอันหนานพ่ะย่ะค่ะ” ราชครูถงเอ่ยเฉินไท่ฟู่ไม่รอให้มู่หรงเจี้ยนเอ่ยก็แย้งขึ้นมาทันที “กระหม่อมไม่เห็นด้วย ยังไม่ต้องเอ่ยถึงอดีตฮ่องเต้เคยปฏิเสธเรื่องการอภิเษกนี้ ฮ่องเต้แคว้นอันหนานพระชนมายุสูง เป็นปู่ขององค์หญิงแปดได้สบาย ๆ อีกอย่าง บัดนี้ต้าโจวเราบ้านเมืองแข็งแกร่งเช่นกัน หากจะรบกันจริง ๆ แคว้นอันหนานหรือจะเป็นคู่ต่อสู้ของเรา?”“ท่านเลอะเลือนยิ่งนัก! การเปิดศึกต้องคร่าชีวิตผู้คน ท่านทำใจเห็นพสกนิกรต้องพลัดพรากบ้านแตกสาแหรกขาดหรือ? อีกอย่าง ทันทีที่บ้านเมืองหนึ่งมีกำลังทหารแข็งแกร่ง ขุนศึกครองเมือง ท่านจะควบคุมสถานการณ์เช่นนี้ได้หรือไม่?” ราชครูถงเอ่ยเสียงแข็ง“พูดไปพูดมา ล้วนแต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 233

    “ฝ่าบาท มิได้เป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ การทำเช่นนี้จะทำให้ต้าโจวเราเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่าง...”“ไท่ฟู่ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาเคยล้างข้อสงสัยให้หยวนผินบุตรสาวท่าน ท่านจึงเห็นนางเป็นผู้มีพระคุณ จุดนี้ข้าสามารถเข้าใจได้ แต่เรื่องเกี่ยวพันถึงบ้านเมือง หวังว่าท่านจะพิจารณาเพื่อส่วนรวม” ราชครูถงเอ่ยด้วยสีหน้าบึ้งตึง“อื่ม เรื่องนี้ข้าก็ได้ยินมาเหมือนกัน เรื่องนี้หากมิใช่นาง หยวนผินต้องรับกับความอยุติธรรมแล้วจริง ๆ เพียงแต่... นางคือหมู่โฮ่วฮองไทเฮา นางสมควรทำเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว” มู่หรงเจี้ยนกล่าวอย่างเรียบง่าย“ฝ่าบาท กระหม่อมมิใช่เพื่อสำนึกบุญคุณ เพียงคิดว่าการทำเช่นนี้จะเป็นการเสื่อมเสียเกียรติของบ้านเมือง มิสู้ปฏิเสธฮ่องเต้แคว้นอันหนานโดยตรง”“ปฏิเสธฮ่องเต้แคว้นอันหนานแล้ว ไท่ฟู่สามารถแบกรับผลที่จะตามมาได้หรือ?” มู่หรงเจี้ยนถามเขาเกลียดเรื่องเช่นนี้ที่สุด อย่าว่าแต่ให้เขาแต่งหลงจ่านเหยียนไปแทน ต่อให้ต้องส่งองค์หญิงแปดซึ่งเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของเขาแต่งงานไปไกลถึงอันหนาน เขาก็ยินดี มีเพียงเช่นนี้จึงทำให้เขามิต้องวุ่นวายมากอย่างนั้นและที่สำคัญที่สุดคือ ราชครูถงกล่าวมีเหตุผล ทันทีที่เปิดศึก ฐา

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 268

    ฮองเฮาส่ายหน้า “ไม่ ซูอี้จะกล้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร เขาไม่กลัวว่า...” ความกลัวเริ่มปกคลุมใบหน้าของนาง และไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย“ถ้าเจ้ายังอยากรักษาชีวิตพ่อของเจ้าเอาไว้ ก็ไปหาฮ่องเต้” ถงไทเฮากล่าวอย่างแค้นที่เหล็กไม่เป็นเหล็กกล้าเทียบกับสมัยก่อน ถงไทเฮาเติบโตและรู้ความมากแล้ว เมื่อก่อนนางไม่เข้าใจ เหตุใดเสด็จแม่จึงไม่เข้าใจนาง เหตุใดมักให้นางทำเรื่องที่ลำบากใจ บัดนี้นางรู้แล้ว มีเพียงให้ตัวเองลำบาก สกุลถงจึงจะมั่นคงในใจของคนสกุลถง ชื่อเสียงและความมั่นคงของวงศ์ตระกูลสำคัญที่สุดเสมอ นางรู้ว่าตอนนี้ถงเหยียนยังไม่ตระหนักในจุดนี้ แต่นางจะเข้าใจในไม่ช้าก็เร็ว ความน้อยเนื้อต่ำใจในเวลานี้นับเป็นอันใด? ภายภาคหน้ายามสกุลถงกับสกุลมู่หรงแบ่งใต้ฟ้า นางจะรู้ว่าความอยุติธรรมทั้งหลายที่ได้รับในวันนี้คุ้มค่าดวงหน้าไฉไลของฮองเฮาประเดี๋ยวเขียวประเดี๋ยวขาว ที่เจืออยู่ในดวงตาคือน้ำตาแห่งความน้อยใจ “เหตุใดต้องให้ข้าไปช่วยด้วยเจ้าคะ? ท่านสั่งคำเดียวก็ได้แล้วนี่ กลับต้องให้ข้าวุ่นวายกับเรื่องพวกนี้”ถงไทเฮานวดศีรษะ รู้สึกว่าความอึดอัดสายหนึ่งพุ่งขึ้นสมอง นางอยากระเบิดอารมณ์ แต่สุดท้ายก็ส่ายหน้าและเอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 267

    นางนวดศีรษะ “อาไฉ่ ไปตามฮองเฮามา”นางกำนัลรับคำแล้วจึงออกไปผ่านไปครึ่งชั่วยาม ฮองเฮาจึงร้องห่มร้องไห้มาถึง พอเห็นถงไทเฮาก็ถลาเข้ามาคุกเข่ากับพื้น “อาหญิง ครั้งนี้ท่านต้องช่วยหลานนะเจ้าคะ”ถงไทเฮานั่งจ้องนางอยู่บนเก้าอี้ “เจ้าทำอะไรมาอีก? ทำจนฮ่องเต้กริ้วอย่างนั้น ขืนเจ้ายังไม่หยุดมือ ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้แล้ว” ฮองเฮาเอ่ยอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “หลานไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นนะเจ้าคะ วันนี้ตั้งใจสั่งให้คนทำอาหารรสเลิศ คิดจะสนทนากับฝ่าบาทดี ๆ ใครจะรู้ เขากลับจะไปหาหยวนผิน แล้วยังบอกว่าจะคืนตำแหน่งหยวนผิน หลานพูดไปแค่ไม่กี่คำ เขาถึงกลับบอกว่าจะเลื่อนตำแหน่งนางให้เป็นกุ้ยเฟยอีก นี่มิเท่ากับฉีกหน้าหลานชัด ๆ หรือเจ้าคะ”ถงไทเฮาถอนหายใจทีหนึ่ง สั่งให้คนประคองนางลุกขึ้นมาแล้วตักเตือนดี ๆ “เขาต้องรู้เรื่องเรื่องที่เจ้าปรักปรำหยวนผินครั้งก่อนแน่ เขาไม่ได้เอาผิดเจ้าก็แล้วไป ตอนนี้เขาต้องการเลื่อนตำแหน่งหยวนผิน เจ้าก็ให้เขาเลื่อนไปสิ จะขัดขวางเขาทำไม? อย่างไรเขาก็คือโอรสสวรรค์ มิอาจให้ผู้ใดท้าทายศักดิ์ศรีได้”“นางถือดีอย่างไร? นางไม่มีลูก บ้านมารดาก็ไม่ได้มีความดีความชอบอะไรพิเศษ แล้วเหตุใดบอกว่าจะเลื

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 266

    มู่หรงเจี้ยนก็ไม่มีโทสะ สีหน้างุนงงเล็กน้อย “เราคิดว่าฮองเฮาต้องตกลง”“ไม่ ไม่เด็ดขาดเพคะ ใครก็ได้หมด มีแต่นางที่ไม่ได้!” ฮองเฮาพูดอย่างตะบึงตะบอน นางคิดอย่างไร้เดียงสาว่าที่มู่หรงเจี้ยนต้องการให้นางรับปากเรื่องการแต่งตั้งหยวนผินเป็นหยวนกุ้ยเฟย เพราะเคารพความคิดเห็นของนางแต่... คำพูดต่อมากลับทำให้นางหน้าซีดเผือดฉับพลัน“ตามกฎมณเฑียรบาล การแต่งตั้งนางสนม จำเป็นต้องให้ฮองเฮาจัดการเรื่องพิธี หากฮองเฮาไม่เห็นด้วย เช่นนั้น เราก็ไม่มีทางอื่นแล้ว ได้แต่เปลี่ยนฮองเฮาเสีย”เขาพูดจบก็เดินจากไปอย่างสง่างามแบบกระทั่งไม่เหลียวแลนางสักสายตาความราบเรียบสง่างามเช่นนี้ ในสายตาของฮองเฮา คือความน่าชังถึงที่สุดนางสั่นเทาไปทั้งตัว หัวสมองว่างเปล่า คำพูดนี้ ต่อให้ตายนางก็ไม่คิดว่าเขาจะพูดออกมาได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา แม้เขาจะไม่โปรดปรานนางที่สุด แต่ความเคารพและสถานะที่ควรมีก็มอบให้นางเต็มที่เวลานี้ เพียงเพราะการคัดค้านคำเดียว เขาก็พูดเรื่องปลดฮองเฮาออกมาอย่างง่ายดายเช่นนี้แล้วนางโกรธ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่หวาดกลัว ไม่ตื่นตระหนก เพราะนางรู้ว่าการปลดฮองเฮาเป็นเพียงการพูดไปอย่างนั้น มีไทฮองไทเฮาและถงไทเฮาอ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 265

    “แต่ซูอี้นั่นเป็นคนโหดร้ายป่าเถื่อนเพียงไร? หม่อมฉันได้ยินว่าคนที่เข้าคุกทักษิณ โดยมากแล้วล้วนถูกทรมานจนยอมรับผิด” ฮองเฮาซอยเท้าตามไปพูด“อ้อ? ดูท่าฮองเฮาจะสนใจเรื่องของราชสำนักมากนะ!” มู่หรงเจี้ยนเอ่ยชืด ๆฮองเฮาชะงักงัน ดวงหน้าสะสวยเผยความหวาดกลัวเล็กน้อย “หม่อมฉันก็แค่ได้ยินคนพูดมาเพคะ มิได้รู้ชัดเจน”“ในเมื่อไม่รู้ชัดเจนก็อย่าพูดจาเลื่อนเปื้อน เซ่อเจิ้งอ๋องเป็นผู้ก่อตั้งคุกทักษิณด้วยตนเอง พิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมเสมอมา ไม่ปรักปรำผู้ใดเด็ดขาด” พอมู่หรงเจี้ยนนั่งลงบนตั่งก็มีนางกำนัลยื่นผ้าขนหนูร้อนมาให้เขาหยิบมาเช็ดมือแล้วโยนกลับลงใส่กะละมัง เหล่มองฮองเฮาทีหนึ่ง “ฮองเฮามิจำเป็นต้องกังวล เราเชื่อท่านพ่อตา เขาจะไม่สมคบคิดยักยอกเงินกับกรมโยธาเด็ดขาด การพิจารณาคดีนี้ก็เพื่อคืนความบริสุทธิ์ให้เขาเท่านั้น”ฮองเฮาลังเลครู่หนึ่ง เอ่ย “เกรงแต่คนในคุกทักษิณเหล่านั้นจะลงทัณฑ์ให้รับสารภาพ จะได้ไขคดีสร้างผลงานโดยเร็ว เช่นนั้นท่านพ่อมิต้องถูกปรักปรำหรือเพคะ?” มู่หรงเจี้ยนเริ่มเคือง “เลอะเทอะ! เราบอกแล้ว คนของคุกทักษิณทำงานอย่างเป็นธรรม แล้วจะลงทัณฑ์ให้รับสารภาพได้อย่างไร? หากพิจารณาคดีนี้ไม

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 264

    พระอาจารย์เป่ากวงส่ายหน้า “คนผู้นี้จิตใจไม่ตรง!”“ดูอย่างไร?” ฮุ่ยอวิ่นถามพระอาจารย์เป่ากวงยิ้มจาง ๆ “คนคนหนึ่ง หากจิตใจซื่อตรง ดวงตาย่อมใส แต่เขามีความคิดมากนัก”“เช่นนั้นเขาจะรักษาโรคให้กุ้ยไท่เฟยอย่างจริงใจหรือ?” ฮุ่ยอวิ่นอดกังวลไม่ได้“เขาต้องการมีชื่อในหล้า ย่อมทุ่มเทใจรักษาโรคให้กุ้ยไท่เฟย จุดนี้วางใจได้ อีกอย่าง เขามาด้วยมีจุดประสงค์ ได้ยินว่าเขาต้องการให้ศิษย์หญิงของเขาแต่งงานกับคุณชาย”เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ดวงตาของฮุ่ยอวิ่นก็เย็นชาเล็กน้อย “ถูกต้อง เขาบอกว่าต้องการหาสามีท่านหนึ่งให้ศิษย์หญิงของเขา และข้า ก็เคราะห์ร้ายถูกเขาหมายตา”พระอาจารย์เป่ากวงหัวเราะเล็กน้อย “ขอเตือนคุณชาย การแต่งงานคือเรื่องทั้งชีวิต หากไม่ชอบ ก็อย่าได้ฝืน โลกใบนี้ เรื่องที่ฝืนมักมีจุดจบน่าอนาถเสมอ”“สำหรับข้า การแต่งภรรยามิสำคัญ แต่งกับใครก็คือแต่ง” ฮุ่ยอวิ่นกล่าวเช่นนี้ นึกถึงที่หลงอู่ทำนายให้เขา บอกว่าเขาจะได้เจอกับหญิงที่ชอบมากคนหนึ่ง จึงนึกขำไม่ได้ ไม่ ชาตินี้ไม่ ความรักชายหญิงมิเคยเป็นประเด็นสำคัญในชีวิตของเขาการหลับครั้งนี้ของจ่านเหยียนกินเวลาสามวันสามคืนเต็ม ๆสามวันนี้ราชสำนักวุ่นวา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 263

    “อาหู?” ฮุ่ยอวิ่นไม่รู้จักอาหู“อื่ม สาวใช้ของคุณชายบ้านข้าน่ะ” อาเสอเอ่ยกับเขา “ท่านก็หาที่นั่งเองเถอะ ในจวนไม่มีคนรับใช้คนอื่น พ่อบ้านใหญ่กัวกำลังดูแลคุณชายบ้านข้าอยู่”“พ่อบ้านใหญ่กัว?” ฮุ่ยอวิ่นนึกขึ้นได้ว่าข้างตัวจ่านเหยียนมีกัวอวี้เสียนอยู่คนหนึ่งอาเสอรู้ข้อสงสัยจากคำพูดของเขา เพียงแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาจะสนใจเรื่องนี้ ถึงอย่างไรนายบ้านตัวเองก็ไม่ได้คิดร้ายกับท่านอ๋อง ต่อให้ถูกเปิดโปงก็ไม่เป็นอะไรอย่างน้อย ตอนนี้อาเสอก็คิดอย่างนี้อาเสอเคาะประตูของพระอาจารย์เป่ากวง เมื่อพระอาจารย์เป่ากวงได้ยินว่าท่านอ๋องเกิดเรื่องก็ตามฮุ่ยอวิ่นไปอย่างเร่งรีบบนรถม้า ฮุ่ยอวิ่นเล่าเรื่องทั้งหมดกับพระอาจารย์เป่ากวงพระอาจารย์เป่ากวงถอนหายใจทีหนึ่ง “ภัยพิบัตินี้ใหญ่หลวงยิ่งนัก”เขารู้ว่าทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะฟางจี้จื่อ แต่วาสนากลั่นแกล้งคน มังกรร้ายตนนี้คงได้เวลาขึ้นสู่พิภพแล้ว ฟางจี้จื่อแค่สร้างโอกาสเท่านั้นเรื่องมาถึงขั้นนี้ มิใช่เวลาจะบ่นเมื่อถึงจวนอ๋อง มู่หรงฉิงเทียนยังหมดสติอยู่ อาซื่อบอกว่ามู่หรงฉิงเทียนกระอักเลือดสองครั้งแล้วพระอาจารย์เป่ากวงใช้มหาเวทยลหทัยตรวจมู่หรงฉิงเทียนครู่หน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 262

    “ท่านอาจารย์ เหตุใดจึงไม่ช่วยเด็กผู้หญิงนั่นล่ะเจ้าคะ?” หลังจากอาซิ่นไป เหลียนถังก็ถามเทพโอสถเทพโอสถนั่งอยู่ในห้อง แสงไฟสะท้อนใบหน้าผอมตอบของเขา สีหน้าจนใจเล็กน้อย“เจ้าไม่เข้าใจ” เทพโอสถเอ่ยเหลียนถังไม่เข้าใจจริง ๆ “ศิษย์รู้ ท่านอาจารย์มิใช่คนที่เห็นใครตายแล้วจะไม่ช่วย”“หาก ข้าเจอนางอยู่ในเขา อาจจะยื่นมือช่วยนาง แต่... ตอนนี้ไม่ได้ อย่างน้อยก็ที่นี่ไม่ได้” เทพโอสถปรายตามองนาง “เจ้าไปพักผ่อนเถอะ อย่าถามอีกเลย”เหลียนถังเคารพอาจารย์มาตลอด เห็นเขามีสีหน้าปั้นยาก คล้ายกับมีความลำบากใจจึงไม่ถามอีก “เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์ก็พักผ่อนเร็วหน่อยนะเจ้าคะ”ค่ำคืนนี้ถูกกำหนดให้ไม่สงบไม่นานมู่หรงฉิงเทียนก็ถูกส่งตัวกลับมา บ่าวไปเชิญเทพโอสถ แต่ฮุ่ยอวิ่นห้ามไว้ เขารู้ เชิญเทพโอสถไม่ได้ เพราะหัวใจของมู่หรงฉิงเทียนไม่เต้นเขาถามคนรับใช้ “คุณชายอู่กับพระอาจารย์เป่ากวงกลับมาแล้วหรือ?”“จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นกลับมาขอรับ!” คนรับใช้ตอบ“อาซิ่นล่ะ?”“ใต้เท้าอาซิ่นก่อนหน้านี้อุ้มเด็กผู้หญิงกลับมาขอให้เทพโอสถช่วยรักษา แต่เทพโอสถปฏิเสธการรักษานาง ดังนั้นใต้เท้าอาซิ่นจึงอุ้มนางออกไปหาหมอแล้วขอรับ” คนรับใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 261

    “ขอบคุณ!” เป็นอีกครั้งที่อาซิ่นได้ยินเรื่องหลงอู่รู้วิชาแพทย์ อยากจะถามให้ชัดเจนอีกหน่อย แต่รู้สึกว่าจะไม่จำเป็นอยู่บ้าง เพราะยาที่อีกฝ่ายผลิตขึ้นสามารถรักษาคนได้จริง คนไม่รู้วิชาแพทย์จะสามารถผลิตยาที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้ได้หรือ? กัวอวี้สั่งอาหู “เจ้าดูแลอยู่ที่นี่ ข้าจะออกไปเดินดูสักรอบ ดูสิว่าคุณ...คุณชายไปทางสันเขื่อนหรือไม่”“ข้ารู้สึกว่าเขาคงไม่มากเรื่องเช่นนี้เช่นนี้กระมัง?” อาหูเอ่ยกัวอวี้หัวเราะด่านางคำหนึ่ง “เจ้าติดตามเขานานเท่าไร? ถึงได้รู้จักเขาดีเช่นนี้ หากเขาอยู่ในเมืองหลวงจะต้องไปแน่”กัวอวี้รู้ ความจริงจ่านเหยียนเป็นคนปากแข็งใจอ่อน ภายนอกไร้หัวใจ แต่ข้างในมิรู้ว่ามีความเมตตาการุณย์เท่าไรนางกลัวว่าฝนจะตกลงมาอีก จึงหยิบเสื้อกันฝนและร่ม คิดจะออกบ้านเพิ่งเปิดประตูก็เห็นอาเสออุ้มจ่านเหยียนเข้ามา เบื้องหลังจะมีคนตามมาด้วยอีกหลายคนกัวอวี้ตกใจจนรีบวิ่งตามไป “เกิดอะไรขึ้น?!”อาเสอตอบ “ประเดี๋ยวค่อยอธิบายกับท่าน!”อาเสออุ้มจ่านเหยียนเดินเข้าไป เนื่องจากมีคนมาก นางจึงไม่ได้อุ้มไปเรือนด้านหลังโดยตรงเพิ่งวางจ่านเหยียนลง กัวอวี้ก็ลากนางมาถาม “เกิดเรื่องอะไรขึ้น? คุณชาย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 260

    อาหูยกน้ำอุ่นเข้ามากะละมังหนึ่ง วางผ้าเช็ดหน้าผ้าไหมของนางลงซัก จากนั้นก็เช็ดคราบเลือดบนใบหน้าของเด็กผู้หญิงให้สะอาดหลังจากล้างคราบเลือดสะอาด ก็เผยดวงหน้ารูปไข่ขาวเนียนงดงามดวงเล็ก ๆ อาหูเอ่ย “ลูกสาวของท่านงามมากเลยนะ”อาซิ่นหน้าแดงซ่าน “นางมิใช่ลูกสาวของข้า ข้าไม่รู้จักนาง”อาหูประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านไม่รู้จักนาง? ท่านไม่รู้จักนางแล้วเหตุใดจึงวิตกเช่นนี้? ข้ายังนึกว่านางคือลูกสาวของท่านเสียอีก?”อาซิ่นเอ่ย “คืนนี้สันเขื่อนพังทลาย นางคือชาวบ้านที่หนีภัยพิบัติ หกล้มลงพื้นถูกฝูงชนเหยียบ ท่านอ๋องจึงสั่งให้ข้าพานางมาหาหมอ”“สันเขื่อนพังทลาย? มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?” เรือนพักของหลงอู่ตั้งอยู่บนตำแหน่งที่ค่อนข้างห่างไกล ชัยภูมิสูง ดังนั้นจึงรอดพ้นจากสถานการณ์น้ำท่วม“เจ้าไม่รู้หรือ? เรื่องนี้คงสะเทือนเลือนลั่นไปทั้งเมืองแล้ว” คราวนี้ถึงตาอาซิ่นประหลาดใจบ้าง“ข้าไม่รู้!” อาหูตอบตามตรง “พ่อบ้านใหญ่กัวของเราไม่อนุญาตให้ข้าออกไป ส่วนข้ากลัวว่าคุณชายกลับมาจึงไม่ได้ออกไปเหมือนกัน จริงสิ คุณชายบ้านข้าสบายดีหรือไม่?”อาซิ่นส่ายหน้า “ก่อนหน้านี้ก็ดี แต่ตอนนี้ไม่รู้แล้ว”“หา? หมายความว่าอย่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status