Share

บทที่ 2 ทะลุมิติ

Author: Luffy.g
last update Last Updated: 2025-02-11 00:08:32

บทที่ 2 ทะลุมิติ

          เมื่อภัทราลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอรู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาในทันที สองมือยกขึ้นบีบขมับเพื่อบรรเทาอาการปวดดังกล่าว สายตามองจ้องไปยังเพดานที่ดูแปลกตา เพดานที่เห็นไม่ใช่เพดานเรียบของห้องนอนของเธอ แต่กลับเป็นเพดานที่ประดับด้วยลวดลายไม้แกะสลักซับซ้อน

          ภัทรารีบชันตัวลุกขึ้น ดวงตาหรี่เล็กลงพร้อมกับหัวคิ้วที่ขมวดกันเป็นปมอย่างรู้สึกแปลกใจที่พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในห้องนอนของเธอ แต่กลับนอนอยู่บนเตียงที่ประดับด้วยผ้าปักลายดอกโบตั๋นละเอียดอ่อน กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกำยานลอยโชยมาแตะจมูกสร้างความแปลกประหลาดใจเพิ่มขึ้นเท่าทวีคูณ

ภัทรามองไปรอบๆ ตัวด้วยความงุนงง ก่อนที่จะรีบลุกขึ้นเพื่อสำรวจไปรอบๆ บริเวณดังกล่าว เท้าเปล่าสัมผัสกับพื้นไม้ที่เย็นเฉียบ ภายในห้องประดับตกแต่งคล้ายเรือนนอนในละครจีนโบราณที่เธอดูอยู่บ่อยๆ รอบตัวมีข้าวของและเครื่องประดับโบราณอันดูสวยงามและมีมูลค่าเรียงรายอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ โต๊ะเขียนหนังสือไม้เนื้อดีตั้งอยู่ริมหน้าต่าง ด้านบนมีพู่กันวางเรียงอย่างเป็นระเบียบ ข้างๆ กันนั้นมีกระจกทองเหลืองตั้งอยู่

แต่แล้วภัทราก็ต้องสะดุดกับเงาสะท้อนในกระจกทองเหลืองที่ตั้งอยู่ด้านข้างของมุมห้องด้วยสายตาที่ตกตะลึง ภาพในกระจกไม่ใช่ใบหน้าที่คุ้นเคยของเธอ แต่เป็นเด็กสาววัยรุ่นที่มีผิวขาวนวล ใบหน้ากลมมน และดวงตากลมโตที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน แต่กลับฉายแววประหลาดใจจนเกินบรรยาย ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นเผยอออกเล็กน้อยราวกับกำลังเพ้ออย่างคาดไม่ถึง

“นี่มัน...ฉันหรือ” ภัทราอุทานเบาๆ แล้วรีบยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าไปมาอย่างตื่นตระหนก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะความคิด ภัทรารีบหันไปทางต้นเสียง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกอย่างเบามือ หญิงสาววัยดรุณีในชุดแพรต่วนสีเทาอ่อนเดินเข้ามาอย่างนอบน้อม

“คุณหนูใหญ่เจ้าคะ ใกล้จะได้เวลาพิธีปักปิ่นแล้วเจ้าค่ะ นายท่านกับฮูหยินให้บ่าวมาตามคุณหนู แขกเหรื่อล้วนทยอยมาในจวนจนครบแล้ว คุณหนูรีบไปที่ห้องโถงเถิดเจ้าค่ะ”

คำกล่าวที่ดูแปลกตากับหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเอื้อนเอ่ยด้วยความนอบน้อมทำให้ภัทรารู้สึกเหมือนถูกปลุกให้ตื่นจากภวังค์ เธอมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความงุนงงและชะงักค้างไปในทันที

“ท่านพูดสิ่งใดนะ” ภัทราถามด้วยความประหลาดใจอีกหน ราวกับตนเองกำลังอยู่ในห้วงฝัน

“คุณหนูใหญ่เป็นอันใดเจ้าคะ ไม่สบายตรงไหนหรือไม่” หญิงสาวตรงหน้ารีบปรี่เข้ามาตรงด้านหน้าภัทรา พร้อมเพ่งมองด้วยความเป็นห่วง

ภัทรากัดริมฝีปากพยายามตั้งสติ เธอคิดว่าเธออาจกำลังฝันหรืออาจเป็นเหตุการณ์ที่เกิดจากความเครียดสะสม “คุณหนูใหญ่...ท่านเรียกฉันว่าคุณหนูใหญ่หรือ” ภัทรายังคงถามอย่างงงงวย

“คุณหนูใหญ่อย่าล้อเล่นกับบ่าวเช่นนี้สิเจ้าคะ...คุณหนูกำลังทำให้บ่าวกลัวนะเจ้าคะ” เสียงร้อนรนที่ดังอย่างตื่นตระหนกทำเอาภัทราถึงกับพ่นลมหายใจออกมา

“เอ่อ...คือ...เฮ้อ...เอาเป็นว่าข้ารู้สึกปวดหัวเล็กน้อยเลยทำให้ความคิดสับสนไปหน่อย...ท่านบอกข้าหน่อยสิว่าข้าชื่ออะไร”

“คุณหนู...คุณหนูชื่อเจียงอันเล่อ เป็นบุตรสาวของท่านโหวเจียงเสิ่นเย่วกับฮูหยินไงเจ้าคะ...หรือว่า...หรือว่าคุณหนูความจำเสื่อม...ข้าจะตามหมอมาเดี๋ยวนี้เจ้าค่ะ”

“เดี๋ยวก่อน...หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ...ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น...ขอเวลาข้าคิดสักครู่หนึ่งก่อน” ภัทรารีบตะโกนห้ามเอาไว้ ก่อนจะเดินไปเดินมาอย่างกระสับกระส่ายด้วยความร้อนรน “เจียงอันเล่อ...นี่ฉันอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ บุตรสาวเจียงเสิ่นเย่วหรือ” ภัทราพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย

          ความทรงจำจากนิยายผุดขึ้นในหัวราวกับสายธารที่ไม่หยุดไหล เจียงอันเล่อคือบุตรสาวคนเดียวของเจียงเสิ่นเย่ว ท่านโหวผู้ทรงอิทธิพลในแคว้น ทว่าเพราะความมักใหญ่ใฝ่สูงและคิดเพ้อแต่สิ่งที่หล่นหายไปแล้ว ทำให้สุดท้ายชะตากรรมของคนสกุลเจียงถึงกับต้องมอดม้วย แถมยังลากเอาหานอี้หลง พระรองในดวงใจของเธอพลอยตกต่ำไปด้วย

“นี่ฉันหลุดเข้ามาในนิยายจริงๆ หรือ...หรือว่าเป็นแค่ความฝัน” ภัทราเพ้อออกมาก่อนจะรีบยกมือขึ้นหยิกแขนของตนเองอย่างแรง

“โอ๊ย...เจ็บ” ภัทราอุทานออกมาเมื่อเนื้อขาวนวลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจ้ำ “ไม่ใช่ฝัน...แล้วฉันจะทำยังไงต่อไปดีละเนี่ย”

หญิงสาวคนดังกล่าวยืนมองเจียงอันเล่ออย่างตกตะลึงกับท่าทีที่ดูแปลกตาราวกับนางกำลังถูกผีร้ายเข้าสิง

“คุณหนูใหญ่...ให้บ่าวตามหมอเถิดเจ้าค่ะ...หรือจะให้บ่าวไปเรียนนายท่าน”

“เจ้าอย่าได้ปริปากเรื่องนี้เป็นอันขาด” ภัทรารีบหันมาตวาดใส่นางในทันที ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกอีกครั้งอย่างต้องการตั้งสติ

“เจ้าชื่ออะไร...มานั่งตรงนี้ ข้ามีเรื่องอยากสอบถามเจ้า”

“บ่าว...หลีอันไงเจ้าคะ เป็นบ่าวรับใช้คุณหนู...คุณหนูจำไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะ”

“เอาละหลีอัน...ตอนนี้ข้าคิดอันใดมิค่อยออกนัก เจ้าช่วยเล่าเรื่องของข้าและสกุลเจียงให้ฟังอย่างละเอียดที”

หลีอันเบิกตากว้างอย่างตะลึงค้าง แต่เมื่อเห็นท่าทางเคร่งขรึมของเจียงอันเล่อ นางก็รีบคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมกับเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้นายหญิงของตนฟังในทันที

ภัทราร้อยเรียงเรื่องราวต่างๆ ผสานกับเนื้อหาในนิยายที่เธออ่านจนแทบจะจดจำได้ขึ้นใจ จนได้รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในช่วงอายุสิบห้า กำลังจะเข้าพิธีปักปิ่นซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนที่หานอี้หลงจะพบเจอเคราะห์กรรมในอีกหนึ่งปีข้างหน้า

ภัทราใช้เวลารวบรวมสติและตัดสินใจแน่วแน่ เธอจะไม่ยอมให้หานอี้หลงต้องเผชิญชะตากรรมอันแสนเศร้าตามที่เธออ่านมาในนิยายเด็ดขาด ในเมื่อโชคชะตานำพาให้เธอมาอยู่ที่นี่ เธอก็จะเปลี่ยนแปลงชะตากรรมนี้ให้ได้

“หานอี้หลง ฉันจะช่วยคุณเอง ฉันจะไม่ยอมให้คุณตกอยู่ในชะตากรรมที่เลวร้ายนั้นอีกแล้ว” ภัทราพูดกับตัวเองด้วยแววตามุ่งมั่นและตั้งใจ

          ภารกิจพิทักษ์พระรองจึงเริ่มต้นขึ้นในโลกของนิยายที่เธอหลุดเข้ามา พร้อมกับความหวังที่จะเปลี่ยนบทสรุปของเรื่องราว และปกป้องชายในดวงใจของเธอจากชะตากรรมที่ไม่เป็นธรรมดังกล่าวให้ได้ในที่สุด

Related chapters

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   บทที่ 3 พิธีปักปิ่น

    บทที่ 3 พิธีปักปิ่น “หลีอัน...เจ้าห้ามแพร่งพรายเรื่องเมื่อสักครู่เป็นอันขาด...เข้าใจหรือไม่” ภัทรากล่าวเสียงเข้มย้ำกับสาวใช้ของตนเองอีกครั้ง “เจ้าค่ะ...บ่าวจะปิดปากให้สนิทเจ้าค่ะ” หลีอันก้มหน้าต่ำ สองมือประสานกันแน่นพร้อมกับรีบพยักหน้ารับปากอย่างแข็งขัน แม้ภายในใจจะรู้สึกวิตกกังวลอยู่มากก็ตาม แต่ในเมื่อเจียงอันเล่อเป็นนายหญิงของตน ดังนั้นตนจึงมีหน้าที่เพียงทำตามคำสั่งของเจียงอันเล่อเท่านั้นเสียงฆ้องดังขึ้นย้ำเตือนเวลาสำคัญในพิธีปักปิ่น ภัทราในร่างเจียงอันเล่อสวมชุดแพรไหมสีชมพูอ่อนปักลวดลายดอกเหมย ผมยาวดำขลับถูกเกล้าอย่างวิจิตรพร้อมด้วยปิ่นหยกชั้นเลิศภัทราเดินตามหลีอันไปยังห้องโถงใหญ่ หัวใจของเธอเต้นแรงด้วยความตื่นเต้นและเป็นกังวลห้องโถงใหญ่ของจวนสกุลเจียงในวันนี้เต็มไปด้วยความครึกครื้น แขกเหรื่อผู้มีเกียรติมากมายหลั่งไหลเข้ามาร่วมแสดงความยินดี เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ผสมกับเสียงดนตรีบรรเลงเบา ๆ กลิ่นหอมของเครื่องหอมที่จุดไว้ลอยอ้อยอิ่งในอากาศภัทราในร่างของเจียงอันเล่อก้าวเข้าสู่ห้องโถงใหญ่ของจวนสกุลเจียง ร่างของเธอดูสง่างามจนผู้คนพากันจับจ้อง ใบหน้าของเธอมีรอยยิ้ม

    Last Updated : 2025-02-11
  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   บทที่ 4 ชายในดวงใจ

    บทที่ 4 ชายในดวงใจเจียงเสิ่นเย่วกำลังต้อนรับขุนนางทั้งหลายด้วยท่าทีสุขุมและเปี่ยมด้วยบารมี ในขณะที่เจียงอันเล่อยืนอยู่ข้างกายผู้เป็นบิดาอย่างสำรวม แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย นางก้มลงมองปลายรองเท้าของตัวเองอย่างไร้ความสนใจ“เล่อเอ๋อร์ เจ้าไปทักทายคุณหนูหลิวที่มุมโน้นก่อนดีหรือไม่” เจียงเสิ่นเย่วกล่าวแผ่วเบา พร้อมพยักพเยิดไปยังบุตรสาวของใต้เท้าหลิวฟู่เว่ยที่ยืนอยู่ไกลออกไปเจียงอันเล่อถอนหายใจเงียบๆ ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย “เจ้าค่ะ ท่านพ่อ” แต่ก่อนที่นางจะก้าวออกไป เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา“คารวะท่านโหว”น้ำเสียงนั้นชัดเจนทุ้มนุ่มราวกับสายน้ำที่รินไหลแฝงไปด้วยความอ่อนโยนเจืออยู่ในที เสียงนั้นทำให้ทุกคนในบริเวณนั้นหันมามองต้นเสียง รวมถึงเจียงอันเล่อที่กำลังจะก้าวเท้าเดินไปเจียงอันเล่อชะงักเท้าหันหน้ากลับมามองยังต้นเสียงดังกล่าว แล้วสายตาของนางก็ประสานเข้ากับชายหนุ่มในชุดคลุมยาวสีกรมท่าปักลวดลายขลิบทอง ชายหนุ่มผู้นี้มีคิ้วเข้มดั่งกระบี่ที่โค้งรับกับดวงตาคมกริบราวอัญมณี จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเป็นรูปกระจับเผยรอยยิ้มเพียงน้อยนิดที่กลับทำให้ใจเต้นแรง“ใต้เท้าหานอย่าได้มากพิธี พวกเ

    Last Updated : 2025-02-11
  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   บทที่ 5 คำพูดเสียดแทง

    บทที่ 5 คำพูดเสียดแทงเจียงอันเล่อที่หัวเสียเรื่องหานอี้หลงและหยางชิวเหยา นางยังคงรู้สึกหงุดหงิดใจไม่หาย หัวใจของนางเต็มไปด้วยความคับข้องหมองใจ เจียงอันเล่อจึงตัดสินใจปลีกตัวออกมาเดินเล่นในสวนเพื่อคลายความรู้สึกที่เกาะกินจิตใจในตอนนี้ให้สงบลงเจียงอันเล่อเดินทอดน่องไปตามทางอย่างเลื่อนลอย ความคิดกังวลสับสนว้าวุ่นในใจปะปนผสมผสานจนนางรู้สึกปวดหัวไปหมด ใบหน้างดงามของนางมีความเคร่งเครียดปรากฏชัด ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น แววตาเรียวงามเต็มไปด้วยความว้าวุ่นใจและความผิดหวังขณะเดินไปเรื่อยๆ สายตาของเจียงอันเล่อก็พลันสะดุดเข้ากับร่างของหยางชิวเหยาที่กำลังนั่งอยู่ในศาลากลางสวนเพียงลำพัง ใบหน้าขาวละมุนของนางดูอ่อนโยนแต่แฝงด้วยความเหนื่อยล้า นางกำลังนั่งพิงเสาไม้ มองสระน้ำเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอยเจียงอันเล่อหยุดชะงักทันทีที่เห็นอีกฝ่าย นางเบือนหน้าเตรียมหันหลังกลับอย่างมิคิดจะเข้าไปเสวนาด้วย แต่แล้วความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัวเจียงอันเล่อตัดสินใจสาวเท้าเข้าไปภายในศาลาและประจันหน้ากับหยางชิวเหยาอย่างไม่รอช้า“ฮูหยินหาน ข้ามีเรื่องจะพูดกับท่าน” เสียงของเจียงอันเล่อดังขึ้นอย่างไม่ลังเล ดวงตาเรีย

    Last Updated : 2025-02-11
  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   บทที่ 6 ปรับแผน

    บทที่ 6 ปรับแผนในห้องโถงใหญ่ของเรือนสกุลเจียง เจียงเสิ่นเย่วนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้สลักลวดลายมังกรอย่างสง่างาม ใบหน้าคมคายดุเข้มฉายแววเคร่งเครียด ริมฝีปากหนาเม้มแน่น มือหนาวางบนโต๊ะไม้เนื้อแข็ง พร้อมเคาะเบาๆ อย่างไม่สบอารมณ์เจียงอันเล่อที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ด้านข้าง พร้อมกับกำลังนั่งก้มหน้ามองพื้นด้วยใบหน้าสลด“เล่อเอ๋อร์” เสียงทุ้มต่ำของเจียงเสิ่นเย่วดังขึ้นพร้อมสายตาดุดัน “เจ้าเป็นอันใดหรือ...เหตุใดเจ้าจึงใช้วาจาหยาบคายต่อหน้าฮูหยินหานเช่นนั้น”เจียงอันเล่อเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตากลมโตแฝงแววขัดเคืองใจ ริมฝีปากอิ่มที่มักยิ้มแย้ม กลับเม้มแน่นเหมือนต้องการกลั้นคำพูดไว้ นางอยากตะโกนว่าเหตุใดใต้เท้าหานจึงโง่งมหลงรักหยางชิวเหยาที่ไม่ได้รักเขา แต่ก็กลั้นใจไม่พูดออกมา“เฮ้อ...เล่อเอ๋อร์ เจ้าก็รู้ว่าข้าอุตส่าห์พยายามรักษาความสัมพันธ์กับใต้เท้าหานมาช้านาน แล้วเหตุใดวันนี้เจ้ากลับทำเรื่องไม่สมควรจนทำให้ใต้เท้าหานโกรธเคืองถึงเพียงนี้ เจ้ามิรู้หรอกหรือว่าใต้เท้าหานรักใคร่ฮูหยินของเขามาเพียงใด”เจียงอันเล่อได้แต่สะบัดหน้าหนีพร้อมกับความหงุดหงิดใจ ยิ่งบิดาของตนกล่าวเช่นนั้นก็ยิ่งทำให้นางรู้สึกเดือด

    Last Updated : 2025-02-11
  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   บทที่ 7 ฝากฝัง

    บทที่ 7 ฝากฝังวันถัดมาเจียงเสิ่นเย่วและเจียงอันเล่อก็เดินทางออกจากจวน ทั้งสองก้าวเท้าขึ้นไปบนรถม้าที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย ก่อนที่คนขับจะบังคับม้าตรงไปยังด้านหน้าของสำนักโยธา“เล่อเอ๋อร์...แม้เจ้าจะพรางตัวเช่นนี้ แต่ข้าก็อดรู้สึกหวาดหวั่นใจไม่ได้ทีเดียว” เจียงเสิ่นเย่วกล่าวออกมาพร้อมจ้องมองบุตรสาวตรงหน้า หญิงสาวที่มัดผมรวบขึ้นศีรษะดั่งเช่นชายหนุ่ม ทั้งยังแต่งกายเฉกเช่นบุรุษด้วยชุดผ้าต่วนสีเทา รูปร่างเล็กผิวขาวซีดจนดูนุ่มนิ่ม เจียงเสิ่นเย่วยังคงมองบุตรสายด้วยสายตาเป็นกังวล แม้ว่าฝีมือในการแต่งหน้าพรางตัวของแม่นมหลินจะดีเยี่ยมแต่ด้วยรูปร่างที่แตกต่างจากชายหนุ่มอย่างลิบลับ ก็ทำให้เขายังคงไม่สบายใจอยู่ดี“ท่านพ่ออย่าได้กังวลไปเลย ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่มิให้ผู้ใดจับได้” เจียงอันเล่อยื่นมือไปบีบมือหนาของบิดาเอาไว้ พร้อมมองเขาด้วยสายตาออดอ้อน“ข้าจะลองดูแล้วกัน” เจียงเสิ่นเย่วเบือนหน้าหนีอย่างนึกระอาใจ นี่คงเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ของตนหรือไม่กันแน่“เช่นนั้นเจ้าจงจำไว้ ต่อไปนี้เจ้าคือ “หลงซีอ่าว” เด็กหนุ่มกำพร้าไร้ซึ่งญาติมิตรและชาติกำเนิด”“ขอรับนายท่าน ต่อไปนี้ซีอ่าวจะ

    Last Updated : 2025-02-11
  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   บทที่ 8 ลองภูมิ

    บทที่ 8 ลองภูมิหานอี้หลงก้าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหลงซีอ่าว เขาจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาคมกริบอย่างต้องการจับพิรุธ“เอ่อ...ใต้เท้าหานเชิญท่านว่ามาเถิด” หลงซีอ่าวเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก เสียงของเขานุ่มนวลราวกับผู้หญิง ดวงตากลมโตจ้องมองหานอี้หลงอย่างไม่กะพริบตาหานอี้หลงถึงกับกระแอมออกมาพร้อมเบือนสายตาหนีออกไปอย่างรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูกเจียงเสิ่นเย่วที่ยืนอยู่ด้านข้างพลางส่งสายตาอย่างเป็นกำลังใจและหนักใจอยู่ในเวลาเดียวกัน บุตรสาวของเขาเป็นเด็กสาวที่อยู่แต่ในเรือนหลัง ตำราที่เคยศึกษาล้วนแล้วแต่เป็นเพียงตำราสอนหญิงเท่านั้น หากแต่นางกลับมีความมั่นใจอย่างน่าประหลาดว่าจะสามารถชนะใจหานอี้หลงได้ ซึ่งคนเป็นพ่อเช่นเขาจึงได้แต่เออออไปตามนางอย่างนึกห่วงใยหานอี้หลงหันหลังให้หลงซีอ่าวพร้อมกับยกมือขึ้นไพล่หลังไว้อย่างใช้ความคิด ชายหนุ่มผู้นี้ทำให้เขาอดตั้งคำถามในใจไม่ได้ว่าเขาจะมีความสามารถเช่นที่เจียงเสิ่นเย่วยกยอจริงหรือไม่“ข้าจะถามเจ้าเรื่องง่ายๆ ก่อนก็แล้วกัน” หานอี้หลงกล่าวด้วย น้ำเสียงเข้มขรึม คิ้วหนาขมวดแน่นเป็นปมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด “ในงานก่อสร้างเขื่อน หากต้องขุดลอกดินลึกถึงส

    Last Updated : 2025-02-11
  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   บทที่ 9 เริ่มงาน

    บทที่ 9 เริ่มงานบรรยากาศในจวนสกุลเจียงเย็นเยือกและสงบเงียบในยามพลบค่ำ เจียงเสิ่นเย่วและเจียงอันเล่อเดินทางกลับจากการจัดการตามแผนที่วางไว้อย่างเรียบร้อยเจียงเสิ่นเย่วก้าวเข้ามาภายในห้องโถงใหญ่พร้อมกับบุตรสาวด้วยความรู้สึกสงสัยที่ติดอยู่ในใจในความฉลาดหลักแหลมของบุตรสาวที่มีอย่างมิอาจเชื่อได้ มือใหญ่ยังคงกำวนกันไปมาอย่างใช้ความคิดและชั่งใจอยู่นาน หน้าผากของเขาขมวดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายเจียงเสิ่นเย่วจึงตัดสินใจหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับเจียงอันเล่ออีกครั้ง พร้อมกับจ้องมองบุตรสาวด้วยสายตาที่จับพิรุธอยู่ในที“เล่อเอ๋อร์...แม้ว่าเจ้าจะได้เข้าทำงานที่สำนักโยธาแล้ว แต่ข้ากลับอดรู้สึกสงสัยไม่ได้...เจ้าคิดสิ่งประดิษฐ์เช่นนี้ขึ้นมาได้เช่นใด” เจียงเสิ่นเย่วเอ่ยขึ้นมาอย่างต้องการคลายความค้างคาในใจที่มี ปลายสายตาคมกริบยังคงจับจ้องไปยังบุตรสาวอย่างไม่กะพริบตาเจียงอันเล่อได้แต่ยิ้มบางออกมาพร้อมกับใบหน้าที่มีสีหน้าเจื่อนลงเล็กน้อยเมื่อต้องพบกับคำถามดังกล่าวของบิดาเจียงอันเล่อเม้มปากแน่นอย่างต้องการตั้งสติ ก่อนจะกล่าวออกไปอย่างหน้าตาย “ท่านพ่อ...ตัวข้าเป็นเพียงหญิงสาวภายในจวนจะหาได้มีความรู้อั

    Last Updated : 2025-02-11
  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   บทที่ 10 ผู้ช่วย

    บทที่ 10 ผู้ช่วยเจียงอันเล่อกลับมาที่จวนด้วยสภาพอ่อนล้า วันนี้ทั้งวันนางได้แต่ยกเอกสารขึ้นลงไปมาจนร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัว ทั้งยังหงุดหงิดใจที่ได้ยินข่าวเรื่องหานอี้หลงอีกต่างหาก “เฮ้อ...ท่านจะตายเพราะนางอยู่แล้วยังไม่สำนึกอีก” เจียงอันเล่อได้แต่ก่นด่าในใจด้วยความหงุดหงิดหลีอันรีบเข้ามาปรนนิบัตินายหญิงของตนอย่างรวดเร็ว หลังจากเจียงอันเล่ออาบน้ำเป็นที่เรียบร้อย นางก็ล้มตัวลงนอนในทันที ความเหนื่อยล้าที่ก่อตัวขึ้นอย่างมาก ทำให้เปลือกตาของนางที่หนักอึ้งปิดลงไปอย่างรวดเร็วในที่สุดยามเช้าที่แสงแดดเริ่มทอประกาย เจียงอันเล่อเดินทางมาถึงด้านหน้าของสำนักโยธาอย่างกระตือรือร้นอีกครั้ง นางก้าวเดินเข้าสู่ด้านในด้วยท่าทีคล่องแคล่วและมั่นใจ มวยผมที่มัดรวบขึ้นเหนือหัวเฉกเช่นบุรุษกับชุดขุนนางสีกรมท่าที่ดูหลวมโคร่งกว่าชายหนุ่มทั่วไปแอบซ่อนอำพรางเรือนร่างหญิงสาวไว้ได้อย่างมิดชิดเมื่อเจียงอันเล่อก้าวเท้าเข้าสู่ห้องทำงานใหญ่ของสำนัก ดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นด้วยความตื่นเต้น รอยยิ้มเล็กผุดขึ้นที่มุมปากพร้อมกับมือที่กำแน่นขึ้นมาตรงกลางห้องโถงใหญ่หานอี้หลงกำลังยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ซึ่งเต็มไปด้วยเอ

    Last Updated : 2025-02-11

Latest chapter

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 53 บทสรุปของนิยาย

    ตอนที่ 53 บทสรุปของนิยายค่ำคืนในเมืองหลวงสงบเงียบลงหลังจากความวุ่นวายภายในวังหลวงได้จบสิ้นลง เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นก็ค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลาเหตุการณ์ในครั้งนั้นส่งผลให้เจียงเสิ่นเย่วถูกริบทรัพย์สินจนหมดสิ้นเหลือเพียงเงินทองบางส่วนเพื่อประทังชีวิตอย่างไม่ยากลำบากนัก เขาถูกกักบริเวณอยู่ภายในจวนสกุลเจียงโดยมีทหารควบคุมเพื่อมิให้ติดต่อผู้ใดซึ่งอาจเป็นการกบฏขึ้นอีกในภายหลัง ส่วนเหล่าขุนนางที่เกี่ยวข้อง บ้างก็ถูกประหาร บ้างก็ถูกเนรเทศจนมิเหลือสิ้นในขณะที่องค์หญิงห้าหงอวิ๋นชิว เจียงอันเล่อรู้ดีว่านางมีความทะเยอทะยานอยากมีอำนาจเพื่อปกป้องตนเองจากความโหดร้ายของวังหลวงมากเพียงใด การร่วมมือกันในครั้งนี้จึงทำให้นางได้รับความโปรดปรานจากหงจูเหลียง รวมถึงได้รับพระราชทานตรายศสำหรับละเว้นโทษให้กับนางอีกด้วยในขณะที่หงฟางซินแม้จะเป็นบุตรชายคนเล็ก แต่เพราะความเฉลียวฉลาดและผลงานชิ้นดังกล่าว เดิมทีหงจูเหลียงตั้งใจจะมอบตำแหน่งรัชทายาทให้แก่เขา แต่หงฟางซินกลับปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ทำให้ตำแหน่งรัชทายาทจึงยังคงเป็นของพี่ชายของตนสืบต่อไป ส่วนฮองเฮาเม่งฉีเต๋อนั้นไม่ว่าจะเป็นบุตรคนใดของนางเป็นรัชทาย

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 52 ล้อมจับ

    ตอนที่ 52 ล้อมจับท้องฟ้ายามราตรีถูกแต่งแต้มด้วยแสงพลุที่แตกกระจายเป็นประกายระยิบระยับ งานเลี้ยงเฉลิมฉลองชัยชนะของจางลู่เหวินถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในพระราชวัง หงจูเหลียงประทับบนบัลลังก์สูงสุด ล้อมรอบไปด้วยเหล่าขุนนางที่มาร่วมงานเลี้ยง เสียงเครื่องดนตรีบรรเลงขับกล่อม ผสมกับเสียงหัวเราะของเหล่าขุนนางและแขกที่มาร่วมงาน บรรยากาศเต็มไปด้วยความครึกครื้นเจียงเสิ่นเย่วได้รับเทียบเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงในครั้งนี้ด้วย เขาสวมอาภรณ์หรูหราตามฐานะ ใบหน้าคงความสง่างามและเยือกเย็นเฉกเช่นทุกครั้ง แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยความหวาดระแวง แผนการใหญ่ของเขากำลังใกล้จะเริ่มต้นขึ้น การที่หงจูเหลียงเชิญเขามาร่วมงานในค่ำคืนนี้มิรู้ว่าจะมีแผนการร้ายอันใดหรือไม่ แต่คนอย่างเขาเมื่อขึ้นหลังเสือแล้วก็มิอาจลงได้โดยง่าย เจียงเสิ่นเย่วจึงข่มใจปั้นหน้านิ่งขรึมและวางท่าอย่างสง่างามเพียงเท่านั้น“ท่านพ่อ...” เจียงอันเล่อมองบิดาของตนจากที่นั่งฝั่งตรงข้ามด้วยแววตาแห่งความรู้สึกผิดและวิตกกังวล นางรับรู้ได้ถึงพายุแห่งความเปลี่ยนแปลงที่กำลังใกล้เข้ามา ดวงตาของหานอี้หลงที่ยืนอยู่ด้านข้างของนางฉายแววความห่วงใยในตัวหญิงสาวข้างก

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 51 เดินแผนการ

    ตอนที่ 51 เดินแผนการสายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาที่บานหน้าต่างกระทบกับผิวบางที่เปลือยเปล่าของเจียงอันเล่อ นางขยับกายซุกไซ้เข้ากระชับกับแผงอกหนาอุ่นนุ่ม ก่อนจะเหลือบมองหานอี้หลงที่นอนอยู่เคียงข้าง ใบหน้าของเขาสงบนิ่ง ดวงตาปิดสนิทกับลมหายใจที่เข้าออกอย่างสม่ำเสมอ เจียงอันเล่อยกยิ้มขึ้นมาอย่างรู้สึกตื้นตันใจ นางมิกล้าคิดหวังว่านางจะสมหวังเช่นนี้ เจียงอันเล่อหลับตาลงอีกครั้ง ดวงตาปิดสนิทพร้อมกับหลับใหลไปในที่สุดช่วงสายของวันใหม่หงฟางซินมายืนรออยู่ที่ด้านหน้าจวน เมื่อเขาเห็นเจียงอันเล่อและหานอี้หลงเดินออกมาพร้อมกัน คิ้วทั้งสองข้างของหงฟางซินก็กระตุกขึ้นมาในทันที สายตาของเขาฉายแววไม่พอใจอย่างชัดเจน “เล่อเอ๋อร์...ดูท่าความสัมพันธ์ของพวกเจ้าจะดีขึ้นมากกว่าที่ข้าคิดไว้” หงฟางซินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงประชดประชัน พลางพ่นลมหายใจออกมาเบาๆหานอี้หลงปรายตามองหงฟางซินอย่างไม่สบอารมณ์ เขายิ้มเยาะก่อนเอ่ยกลับออกมา “ข้ากับฮูหยินรักใคร่กันดี แล้วท่านเกี่ยวอันใดด้วยเล่า”“เจ้า” หงฟางซินกัดฟันแน่น นัยน์ตาวาวโรจน์ด้วยความขุ่นเคือง มือที่กำหมัดแน่นสั่นเล็กน้อยราวกับต้องการระงับอารมณ์ของตนเอง“พอได้แล้ว ทั้งสองคนน

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 50 ยอมทิ้งศักดิ์ศรี

    ตอนที่ 50 ยอมทิ้งศักดิ์ศรีเจียงอันเล่อยิ้มเจื่อนขึ้นมาเมื่อเห็นว่าหานอี้หลงยังคงนิ่งเฉย นางกะพริบตาเพื่อไล่หยาดน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น ดวงตาคู่งามฉายแววแน่วแน่ พยายามรักษาศักดิ์ศรีของตนไว้ให้คงอยู่ แม้ว่าในใจจะแหลกสลายไปแล้วก็ตาม“พรุ่งนี้ข้าจะส่งหนังสือหย่าให้ท่าน หวังว่าท่านจะมิทำให้ข้าลำบากใจอีก” เจียงอันเล่อกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแต่กลับสั่นเครือแม้ว่าจะพยายามรักษาท่าทีมากเพียงใดก็ตาม นางตัดสินใจหมุนกายเตรียมก้าวเดินออกจากห้องไปเสียหานอี้หลงยืนนิ่งราวกับถูกตรึงเอาไว้ ความรู้สึกต่างๆ ประเดประดังเข้าใส่ราวกับคลื่นมหาสมุทร ดวงตาคมกริบที่เคยแน่วแน่ฉายแววเจ็บปวดอย่างที่สุด เมื่อเจียงอันเล่อหันหลังให้กับเขา ความรู้สึกหวาดกลัวพลันแล่นเข้ามาจับขั้วหัวใจจนหานอี้หลงแทบหายใจไม่ออก“เล่อเอ๋อร์” หานอี้หลงร้องเรียกออกมา ก่อนจะโถมตัวเข้าสวมกอดร่างบางจากทางด้านหลังเอาไว้แน่น อ้อมแขนแกร่งรัดแน่นราวกับกลัวว่านางจะสลายหายไปในพริบตา“เล่อเอ๋อร์...ได้โปรดอย่าทิ้งข้าไปเลย ข้ามีเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้น” น้ำเสียงของหานอี้หลงสั่นไหวอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน ศีรษะก้มต่ำซบลงที่ลาดไหล่ของเจี

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 49 เหนี่ยวรั้งครั้งสุดท้าย

    ตอนที่ 49 เหนี่ยวรั้งครั้งสุดท้ายหานอี้หลงกระชากแขนเจียงอันเล่อเข้าปะทะกับแผงอกเข้าอย่างจัง ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วห้องมีเพียงเสียงลมหายใจที่ติดขัดของทั้งสองคน พร้อมสายตาที่จ้องมองกันอย่างมิมีใครยอมใคร“เจ้าคิดจะทำอันใดกันแน่” หานอี้หลงตะคอกออกมาอย่างหมดความอดทน น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยโทสะ ความหึงหวงแผ่ซ่านไปทั่วร่างราวกับเพลิงที่ไม่มีวันดับ ดวงตาดุดันจ้องมองร่างบางที่เบื้องหน้า“ใต้เท้า...ท่านต่างหากที่คิดจะทำอันใดกันแน่” เจียงอันเล่อโต้กลับในทันที“เฮอะ...ฮูหยินของข้าออกตะลอนไปทั่วเมืองกับชายอื่น เจ้าจะให้ข้านั่งรออยู่ที่จวนเฉยๆ เช่นนั้นหรือ”“เพี๊ยะ...” เจียงอันเล่อยกมือขึ้นสะบัดไปที่ใบหน้าของหานอี้หลงจนเต็มแรง “ใต้เท้า...ท่านอย่าได้คิดว่าดูถูกข้าเช่นนี้”หานอี้หลงยกมือขึ้นลูบใบหน้า พร้อมกับแสยะยิ้มขึ้นมาจนดูน่าหวาดกลัว เขากระชากแขนของเจียงอันเล่อเข้าหาตัวอีกครั้ง “งั้นข้าควรคิดเช่นใด...เจ้าลองตอบข้ามาสักหน่อย”เจียงอันเล่อสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเขา นางเชิดหน้าขึ้นอย่างทระนง ทว่าดวงตาของนางกลับมีร่องรอยของความผิดหวังลึกซึ้ง นางกวาดตามองหานอี้หลงอย่างเย็นชา ก่อนจะเดินตรงไปยั

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 48 ร้อนใจ

    ตอนที่ 48 ร้อนใจในยามสายของวันหนึ่ง เจียงอันเล่อที่นั่งพลิกอ่านสารลับที่หลีอันเพิ่งนำมามอบให้ ดวงตางดงามแต่นิ่งลึกฉายแวววิตกกังวลใจขึ้นมาในทันที คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน นางเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะกำสารลับไว้ในมือแน่นขึ้น “ถึงเวลาแล้วสินะ”“หลีอันรีบเตรียมรถม้าให้ข้าที” เจียงอันเล่อรีบสั่งหลีอันอย่างเร่งร้อน พลางเงยหน้ามองออกไปภายนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าสีครามที่ดูงดงามราวกับภาพวาดกลับมิอาจกลบเกลื่อนความรู้สึกอึดอัดภายในใจที่มี เจียงอันเล่อมิรอช้าอีกต่อไป นางรีบเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดเรียบง่าย คลุมทับด้วยผ้าคลุมสีเข้มแล้วรีบออกจากจวนไปอย่างเงียบๆในขณะเดียวกันภายในห้องอักษรของจวนสกุลหาน หานอี้หลงนั่งอยู่หลังโต๊ะใหญ่ ม้วนเอกสารกระจัดกระจายอยู่เบื้องหน้า จ้าวกงยืนรายงานความเคลื่อนไหวของกองกำลังลับที่เตรียมซุ่มโจมตีจางลู่เหวินตามแผนการที่วางเอาไว้เป็นอย่างดี แต่หานอี้หลงกลับเพียงพยักหน้ารับอย่างเหม่อลอยราวกับจิตใจมิได้อยู่กับตัว“ใต้เท้า...ทหารลับรอเพียงคำสั่งจากท่าน...ชีวิตของแม่ทัพจางย่อมอยู่ในเงื้อมมือของเราขอรับ”ทันใดนั้นพ่อบ้านก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีลังเลใจ เขาเดินเข้ามาวางของว่างตรงหน

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 47 เดินตามวิถีทาง

    ตอนที่ 47 เดินตามวิถีทางภายในจวนสกุลหานกลับเข้าสู่บรรยากาศที่อึมครึม เจียงอันเล่อเอาแต่อยู่ภายในเรือนของตนเอง นางไม่คิดย่างกรายออกไปที่ใด วันๆ เอาแต่นั่งหน้าเคร่งเครียดกับเอกสารที่กองตรงหน้า มีเพียงหลีอันที่คอยวิ่งเข้าวิ่งออกภายในเรือนโดยมิให้ผู้ใดเข้าพบ แม้กระทั่งเงาของหานอี้หลงก็แทบจะมิได้พบเจอเช่นกัน ตั้งแต่วันนั้นมาความสัมพันธ์ระหว่างนางกับหานอี้หลงก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงหานอี้หลงออกจากจวนตั้งแต่เช้าตรู่และกลับมาในยามดึกเสมอ เขาหาได้มาหานางเฉกเช่นเคย ราวกับคนทั้งสองมิได้อยู่ร่วมจวนเดียวกัน จะมีก็แต่เพียงพ่อบ้านที่คอยเทียวไปเทียวมา รายงานความเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายให้ทั้งสองรับทราบอย่างอ่อนอกอ่อนใจ“ยามพวกท่านรักกันก็ตัวติดกันเป็นตังเม ยามโกรธเคืองกัน ไฉนเลยจึงมาลงเอาที่ข้าเพียงผู้เดียว” พ่อบ้านบ่นอุบเมื่อเข้ามารายงานความเคลื่อนไหวของหานอี้หลงให้ฮูหยินของจวนฟัง นางเพียงพยักหน้ารับพร้อมกับปัดมือไล่เขาออกไปในขณะที่หานอี้หลงเองเมื่อรายงานความคืบหน้าของเจียงอันเล่อเสร็จ หานอี้หลงก็เพียงเอ่ยถามเพียงว่านางได้พบผู้ใดหรือไม่ เมื่อได้คำตอบที่พึงพอใจ เขาก็โบกมือไล่เขาออกไปอย่างนึกรำคาญวันน

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 46 เจ้าช่างโง่ยิ่งนัก

    ตอนที่ 46 เจ้าช่างโง่ยิ่งนักหานอี้หลงอุ้มเจียงอันเล่อเข้าไปในเรือนของนางอย่างเร่งรีบ ร่างบางในอ้อมแขนสั่นเทาด้วยพิษไข้ที่เริ่มกำเริบ ดวงตาที่กลมโตปิดปรือขึ้นเล็กน้อยก่อนที่ริมฝีปากซีดจะสั่นระริกอย่างต้องการเอ่ยสิ่งใดออกมา“เหตุใดเจ้าช่างโง่เช่นนี้” หานอี้หลงพึมพำอย่างหัวเสีย เขาทั้งโกรธทั้งหงุดหงิดทั้งเป็นห่วงร่างบางในอ้อมแขนอย่างยิ่งดวงตาหม่นเศร้าจับจ้องไปที่ใบหน้าของหานอี้หลง “ใต้เท้า...ข้ามิต้องการให้ท่านทำผิดซ้ำอีก ข้ามิต้องการให้ท่านถลำลึกไปมากกว่านี้…”หัวใจของหานอี้หลงบีบรัดแน่นกับคำพูดของเจียงอันเล่อ เขาข่มความรู้สึกทั้งหมดเอาไว้ ก่อนจะกระซิบเสียงสั่นเครือ “เล่อเอ๋อร์...เจ้าเลิกพูดได้แล้ว เวลานี้เจ้าควรพักผ่อนเสียก่อนเถิด”ไม่นานหมอก็รีบเข้ามาด้านในพร้อมกล่องยา หานอี้หลงเดินกระสับกระส่ายไปมา คอยเฝ้ามองเจียงอันเล่ออยู่ไม่ห่างกาย“ใต้เท้า...บาดแผลจากลูกธนูมิโดนจุดสำคัญ แต่ลูกธนูนั้นอาบยาพิษไว้ จำต้องรีบขับพิษออกจากร่างกายโดยเร็วขอรับ”หานอี้หลงรีบให้คนนำยาถอนพิษมาให้หมอ “เจ้าต้องทำทุกอย่างให้นางปลอดภัย” หานอี้หลงกำชับหมออย่างกระวนกระวายหลังจากได้รับยาถอนพิษเจียงอันเล่อก็เข้าส

  • ข้าน้อยขอเป็นติ่งพระรอง   ตอนที่ 45 ธนูพิษ

    ตอนที่ 45 ธนูพิษช่วงสายของวันเจียงอันเล่อลืมตาตื่นขึ้นอย่างรู้สึกสดชื่น หลีอันที่ใบหน้ายิ้มแย้มเดินเข้ามาด้านในพร้อมสำรับอาหาร“คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ”“เจ้ามีเรื่องอันใด เหตุใดถึงดูมีความสุขเช่นนั้น” เจียงอันเล่อเอ่ยพลางลุกขึ้นผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าไปพลางหลีอันที่ช่วยแต่งกายอยู่ด้านข้างก็หัวเราะคิกคักขึ้นมา “เมื่อคืนใต้เท้าอยู่เป็นเพื่อนคุณหนูทั้งคืนนี่เจ้าคะ”เจียงอันเล่อชะงักพร้อมเลิกคิ้วขึ้น “ใต้เท้านอนที่นี่หรือ”“เจ้าค่ะ...ใต้เท้าเป็นห่วงคุณหนูมาก นอนเฝ้าไข้คุณหนูทั้งคืน เพิ่งออกจากจวนไปเมื่อตอนเช้าตรู่เจ้าค่ะ”เจียงอันเล่อเผลออมยิ้มขึ้นมาอย่างลืมตัว แต่เมื่อเห็นสายตาล้อเลียนของหลีอัน นางก็กระแอมออกมาเบาๆ “เจ้าจะไปทำอันใดก็ไปเถิด...อ้อแล้วเรื่องที่ข้าให้ไปสืบ มีความคืบหน้าถึงไหนแล้ว”เจียงอันเล่อลงนั่งที่โต๊ะพร้อมคีบอาหารเข้าปากอย่างหิวกระหาย หลีอันยื่นกระดาษเล็กๆ ให้กับนางในทันที เจียงอันเล่อรับกระดาษนั้นคลี่ออกอ่าน แต่แล้วใบหน้าที่แช่มชื่นก็แปรเปลี่ยนเป็นเศร้าหมองในทันที ความอยากอาหารที่มีหายวับไปในพริบตา “ท่านยังมิเลิกล้มความตั้งใจอยู่อีกหรือ”เจียงอันเล่อรีบลุกขึ้นจรดพู่กัน

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status