Share

ตอนที่ 3 สำนักศึกษาป๋อเหวิน

last update Last Updated: 2025-02-27 00:06:13

 

ท่านอ๋องมองหน้านางที่ยังเรียบสงบ แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับเย็นยะเยือกขึ้นอย่างน่าอึดอัดแปลกๆ เหมือนครั้งแรกที่เขาพบนางที่เมืองเหลียง นางมักจะทำให้เขาอึดอัดขึ้นมาจนน่าขนลุกได้เสมอโดยที่ตัวเขาก็ไม่ทราบสาเหตุ 

“เยว่ซิน เจ้าคิดดีแล้วแน่หรือเอาเก็บไปคิดอีกหน่อยดีหรือไม่ การไปที่สำนักศึกษานั่นต้องไปถึงสี่ปี กว่าจะได้กลับลงมา”

“จะอยู่ที่ใดก็ไม่ต่างกันหรอกเพคะ หากไม่มีสิ่งใดแล้วหม่อมฉันขอตัวก่อน เรื่องกำหนดการรบกวนเสด็จ…เอ่อ ท่านอ๋องให้คนนำส่งให้หม่อมฉันด้วยเพคะ”

“หลันเยว่ซิน เหตุใดเจ้า…”

“ขอบพระทัยที่ทรงดูแลตลอดช่วงเวลาหนึ่งปีนี้นะเพคะ”

“เยว่ซิน เดี๋ยวก่อนข้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ ข้าแค่นำเรื่องนี้มาหารือกับเจ้า แต่เหตุใดเจ้า....”

“ทูลลาเพคะ”

เยว่ซินเดินถอยออกมาและคำนับให้เขาเต็มพิธีการและเดินออกจากห้องอักษรไป นางคิดถูกแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะตำหนักอ๋อง สำนักศึกษา หรือแม้กระทั่งข้างถนน ขอแค่นางยังมีชีวิตอยู่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับนาง

เรือนพักของเยว่ซิน

“คุณหนู จะไปจริงๆหรือเจ้าคะ แล้ว…”

“แม่นม ท่านเองก็ชรามากแล้ว ท่านรอข้าอยู่นี่เถิดเจ้าค่ะ อีกไม่นานข้าก็กลับ ไม่ต้องติดตามข้าไปหรอกเจ้าค่ะ”

“แต่ว่า…คุณหนูเจ้าคะ”

“เชื่อข้านะ”

วันส่งตัวหลันเย่วซิน

“ข้าจะให้คนไปส่งเจ้าถึงสำนักศึกษาและนำจดหมายส่งตัวนี้ให้อาจารย์ที่นั่น เยว่ซิน ดูแลตัวเองด้วย”

ท่านอ๋องเดินเข้าไปเพื่อจะจับไหล่ของนาง แต่เยว่ ซินถอยออกมาพร้อมคำนับให้เขาอย่างเย็นชา จวินลู่หานรู้สึกราวกับว่าครั้งนี้เขาตัดสินใจผิดที่ส่งนางออกจากตำหนักไปยังสำนักศึกษา แต่มาถึงตอนนี้เขาคงเปลี่ยนแปลงสิ่งใดไม่ได้แล้ว

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง หม่อมฉันรบกวนฝากดูแลแม่นมเถียนจนกว่าหม่อมฉันจะกลับมาด้วยเพคะ”

“เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องห่วง แม่นมของเจ้าจะรออยู่ที่นี่เพื่อรอเจ้ากลับมา”

นี่เป็นสิ่งเดียวที่จะเป็นสิ่งยืนยันว่านางจะต้องกลับมายังตำหนักนี้อีกครั้งเพราะเขาต้องรั้งให้แม่นม  เถียนอยู่รอนางที่นี่ ไม่ให้นางเดินทางไปกับหลันเยว่ซิน เขาไม่รู้เหตุผล แต่เขาก็ทำไปแล้ว นางหันหลังเดินขึ้นรถม้าไป พร้อมกับเปิดหน้าต่างมาลาแม่นมพร้อมกับลาทุกคน ยกเว้น….ท่านอ๋องจวินลู่หาน

สำนักศึกษาป๋อเหวิน

เมื่อคนของตำหนักอ๋องส่งตัวคุณหนูหลันเยว่      ซินเรียบร้อยก็พากันลงเขาตามคำสั่งท่านอ๋อง ที่นั่นเยว่ซินมีโอกาสได้รู้จักเพื่อนร่วมสำนักหลายๆคนและมีทั้งคนที่มาจากหลากหลายที่

“ฟู่หย่งเล่อ” บุตรชายแม่ทัพใหญ่ในเฉินโจวที่มาเรียนก่อนหน้านางหนึ่งปี นับเป็นศิษย์พี่ของนาง และ    “ลี่หลานเฟิน” บุตรสาวคนเล็กของมหาบัณฑิตแห่งเฉินโจวที่มาหลังจากที่เยว่ซินอยู่ที่สำนักศึกษาได้สิบวัน  เป็นเพียงสองคนที่นางสนิทในสำนักศึกษานี้เพราะทั้งสองอยู่ที่เฉินโจวเหมือนกัน 

แม้ว่าในตอนนี้ไฟสงครามด้านล่างยังประทุอยู่เป็นระลอก ข่าวของสงครามทำให้สำนักศึกษาเริ่มไม่เป็นอันเรียนเต็มที่เพราะต้องให้นักเรียนเตรียมฝึกวิชาป้องกันตัวเป็นหลัก

 พิธีปักปิ่นในวัยสิบเจ็ดที่แต่ละจวนจะส่งของขวัญมาให้้บุตรสาว แต่ละคนก็จะได้รับเหมือนๆกัน ยกเว้น …หลันเยว่ซิน

“นี่เยว่ซิน ท่านแม่ข้ารู้ว่าข้ามีเพื่อนสนิทที่แสนดีเช่นเจ้า นางจึงส่งปิ่นมาให้เจ้าด้วย เจ้ารับไปนะ”

“ขอบใจนะหลานเฟิน”

สองปีถัดมา

“อีกไม่นานจะได้ลงจากเขาแล้ว เฮ้อ คงคิดถึงที่นี่น่าดูเลยนะ”

“เจ้าอยากลงจากเขาหรือ”

“อยากสิ ข้างล่างนั่นยังมีอย่างอื่นให้ทำตั้งมากมาย อยู่บนนี้มาสี่ปี แม้ว่าจะได้กลับไปบ้านช่วงปิดพัก แต่เพราะข้างล่างนั่นมีสงคราม เราแทบจะไม่ได้ลงไปไหนเลย ตอนนี้เห็นว่าเสด็จอาของเจ้านำชัยชนะมาสู่เฉินโจวแล้ว เจ้าไม่ดีใจหรอกหรือ”

“สงครามมีอะไรดี เจ้าไม่เห็นหรือว่ามีพวกเรากี่คนที่ต้องลงเขาไปก่อนที่จะเรียนจบ”

เยว่ซินพูดได้ไม่ผิด ก่อนหน้านั้นเพื่อนนักเรียนบางคนก็ต้องลงจากเขาเพราะได้รับข่าวร้ายที่บ้าน และบางคนก็ไม่มีเงินส่งเสียต่อ

แม้ว่าอาจารย์จะบอกว่าเรื่องเงินนั้นไม่จำเป็น แต่ว่าพวกเขาก็ต้องกลับลงไปเพื่อทำงานหาเลี้ยงคนที่ยังเหลืออยู่จึงไม่สามารถอยู่ร่ำเรียนได้จนจบ

“เยว่ซิน แล้วเจ้าลงไปเจ้าอยากจะทำสิ่งใด”

“ข้า…”

“ข้าก็ลืมไปว่าเจ้าต้องกลับไปที่ตำหนักอ๋องอยู่แล้วสินะ”

“ไม่ ข้าไม่อยากกลับไป ข้า…อยากอยู่ที่นี่”

“เยว่ซิน แต่เจ้าอยู่นี่มาเกือบสี่ปีโดยไม่ได้ลงจากเขาเลยนะ เจ้าไม่คิดถึงเสด็จอาเจ้าบ้างเลยหรือ”

“คิดถึง?? เหตุใดข้าต้องคิดถึงเขาด้วย”

“อ้าว ก็เขาคือเสด็จอาของเจ้า เป็นคนในครอบครัว เหตุสงครามที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่าเจ้าจะเป็นห่วงเขาเลยสักนิด หากข้าไม่รู้จักเจ้าดีกว่าคนอื่น คงคิดว่าเจ้าน่ะ ไม่มีความรู้สึกและใจดำเหลือเกิน”

“ไม่ใช่แบบนั้น แต่ข้ามั่นใจว่าเสด็จอาจะนำชัยชนะกลับมาได้ต่างหาก เขาเก่งกาจมีวรยุทธ์สูงและยังเชี่ยวชาญการศึกเป็นอย่างดี ข้าเลยไม่ห่วงต่างหากเล่า”

“ข้านึกว่าเจ้ายังโกรธเสด็จอาของเจ้าที่ส่งเจ้ามาที่นี่ และยังไม่ส่งของขวัญมาให้เจ้าในพิธีปักปิ่น”

“ข้าไม่ได้เป็นอะไรกับเขาเสียหน่อย พิธีนี้ก็ไม่ได้สำคัญกับข้าขนาดนั้น ก็แค่บ่งบอกว่าต่อไปจะต้องวุ่นวายทำผมและเอาสิ่งนี้มาประดับก็เท่านั้น”

“เจ้านี่กลายเป็นภูเขาน้ำแข็งเดินได้แล้วจริงๆ เสด็จอาเจ้าขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม เจ้าเองก็ขึ้นชื่อเรื่องเย็นชาไร้ความรู้สึก แต่เหตุใดบุรุษในสำนักเอาแต่ชอบเจ้าคนเดียวกันนะ”

“เจ้าอยากให้คนมองเจ้าราวกับเป็นตัวประหลาดเหมือนที่ข้าถูกมองมาสามสี่ปีนี้นะหรือ”

“ไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย ดูเจ้าสิ ไม่เอาละไม่พูดดีกว่า อย่างไรแล้วข้าก็ต้องฉุดเจ้าลงจากเขาไปกับข้าจนได้”

“ฉุดเลยหรือ พวกเจ้าจะตั้งสำนักใหม่หรืออย่างไร เหตุใดต้องฉุดเยว่ซินด้วย”

“เจ้าคนปากเสีย ยุ่งไม่เข้าเรื่อง”

“อ้าว ข้าก็ถามดีๆ เหตุใดมาว่าข้าเล่า นี่ ข้ามีของขวัญให้พวกเจ้า”

“ข้าไม่อยากได้”

“งั้นข้าก็ไม่ให้”

“เจ้า!!…”

ฟู่หย่งเล่อและลี่หลานเฟินมักจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากันแบบนี้เสมอ ทั้งๆที่เยว่ซินก็พอดูออกว่าหลานเฟินชื่นชอบฟู่หย่งเล่อ แต่ว่านางกลับเอาแต่ทะเลาะกับเขาทุกครั้งที่พบหน้ากัน ครั้งนี้เขายื่นเข็มกลัดไม้สองอันมาให้พวกนาง

“เข็มกลัด!!”

“ใช่ วันนี้เป็นวันเรียนจบของพวกเจ้า ถือว่าเป็นของขวัญจากศิษย์พี่อย่างข้า”

“ขอบคุณเจ้าค่ะศิษย์พี่หย่งเล่อ”

“เยว่ซินเจ้าไม่ต้องเกรงใจข้าขนาดนั้น ดูหลานเฟินสิ ไม่มีขอบใจข้าสักคำ นี่ถ้าไม่บอกว่านางเป็นบุตรมาหาบัณฑิต ข้าคงไม่เชื่อ”

“ฟู่หย่งเล่อ ข้าจะจัดการเจ้า คนปากเสีย”

พวกเขาวิ่งไล่กันออกไปแล้ว เยว่ซินมองลงไปเบื้องล่างที่อีกไม่กี่วันนางจะต้องกลับไป นางไม่พบท่านอ๋องมาสีปีเต็ม ข่าวว่าเขากรำศึกอยู่นอกเมืองเฉินโจวหลังจากที่นางจากมาได้สองปี และไม่ค่อยได้กลับเมืองเฉินโจวเช่นกัน

ตั้งแต่ส่งนางขึ้นเขามา เขาไม่เคยสักครั้งที่จะมาเยี่ยมนางเหมือนพ่อแม่คนอื่นๆ และไม่เคยส่งแม้แต่จดหมายมาสักครั้ง ข่าวการศึกเยว่ซินก็อาศัยฟังจากเหล่าอาจารย์ที่มาเล่าให้ฟัง ครั้งนี้หากพบกันอีกครา ก็คงไม่ต่างจากเดิมกระมัง

“เสด็จอา….”

Related chapters

  • ข้านี่แหละหลาน(ไม่แท้)ของท่านอ๋องจอมโหด   ตอนที่ 4 หวนคืนสู่เฉินโจว

    พิธีจบการศึกษาผ่านไปอย่างเต็มรูปแบบแต่ก็ไม่ได้มีความคึกคักเนื่องจากอยู่ในภาวะช่วงสงคราม แต่ละคนร่ำลาอาจารย์และทยอยลงเขาส่วนทางเยว่ซินนั้น ตำหนักอ๋องส่งจดหมายมาให้อาจารย์ที่สำนักและกำหนดวันที่จะมารับนางเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว “เยว่ซิน น่าเสียดายที่เจ้าต้องกลับไปกับรถม้าของตำหนัก ข้าอยากลงเขาไปกับเจ้า”“เอาไว้พบกันที่เฉินโจวก็ได้ ข้าจะแวะไปเยี่ยมเจ้าบ่อยๆนะ”“เจ้าพูดจริงนะ อย่าลืมเสียละ”“ไม่ลืมแน่นอน รีบเก็บของเถอะ”“เฮ้อ ต้องจากไปแล้วจริงๆ คงคิดถึงที่นี่ไม่น้อยเลยนะ”“ข้าจำได้ว่าตอนที่เจ้าพึ่งมาที่นี่เจ้าร้องไห้อยู่เดือนหนึ่งเต็มๆเพราะคิดถึงบ้าน”“ก็ตอนนั้นข้ายังเด็ก ดูสิตอนนี้พวกเราโตแล้ว ดูเจ้าสิเยว่ซิน เจ้าไม่เคยส่งกระจกบ้างหรือว่าเจ้างดงามขนาดไหน สตรีอันดับหนึ่งของเฉินโจวคงต้องสะเทือนบ้างละหากเจ้ากลับไปครานี้”“สตรีอันดับหนึ่ง คือสิ่งใดกันชื่อเสียงจอมปลอมเหล่านั้น มีอะไรให้น่าชื่นชมกัน”“ตายละเยว่ซิน เจ้าคงไม่คิดจะบวชเป็นแม่ชีหรอกนะ ดูพูดเข้าสิ เหตุใดเจ้าพูดแต่ละคำราวกับไม่สนใจทางโลกแล้วเช่นนี้เล่า ไม่เอาๆ หลังจากลงเขาไปแล้วเจ้าต้องมาหาข้า แล้วเราจะไปเที่ยวข้างล่างนั่นให้สะใจไปเลย

    Last Updated : 2025-02-27
  • ข้านี่แหละหลาน(ไม่แท้)ของท่านอ๋องจอมโหด   ตอนที่ 1 เรียกข้าว่าท่านอา

    เมืองเหลียง / เฉินโจว“จะยอมบอกหรือไม่ ผู้ใดส่งเจ้ามาฆ่าล้างสกุลหลัน“ข้ายอมตายแต่ไม่มีทางยอมบอกเจ้า”“ได้ จงลี่ ตัดแขนซ้ายมันออก”“อยะ…นี่พวกเจ้า อย่านะ อ๊ากกก…….”เสียงที่ฟันฉับลงไปที่แขนนั้นทำให้ผู้ที่ถูกกระทำดิ้นพล่านจนแทบทนไม่ไหว สายตาเยือกเย็นดุจเพชฌฆาตหน้าหยกของท่านอ๋องและแม่ทัพหนุ่มแห่งเฉินโจวมองไปยังกบฏที่เขาจับตัวมาไตร่สวน คนที่เหลือเริ่มออกอาการสั่นกลัวจนตัวสั่น “ว่าอย่างไร ไม่มีผู้ใดกล้าพูดเลยงั้นหรือ ได้”ท่านอ๋อง “จวินลู่หาน” เดินไปลากตัวกบฏอีกคนออกมาพร้อมกับถีบเขาให้ล้มลงไปข้างๆศพที่ตายอยู่กับผู้ที่ถูกตัดแขนไป เขาก้มลงพร้อมกับเฉือนหูด้านขวาของกบฏออกไป เสียงร้องโหยหวนนั้นทำเอาเด็กน้อยที่อายุเพียงสิบสี่ที่มีแม่นมกอดอยู่ถึงกับไม่กล้ามอง“เจ้า…เจ้ามันโหดเหี้ยม ต่อหน้าเด็ก…ตัวเล็กๆ…เจ้ายังกล้าทำร้ายคน”“แล้วพวกเจ้าเล่า…พวกเจ้าฆ่าล้างตระกูลนาง ตอนนี้เจ้านับว่าเป็นอะไร ทางที่ดีบอกข้ามาดีๆว่าพวกเจ้ากบดานอยู่ที่ใด ไม่อย่างนั้น…แม้แต่ลูกเมียเจ้าข้าก็ไม่เว้น!!”“ข้ายอมแล้ว…ข้าบอก…ข้าบอกแล้ว”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าหลายคนเริ่มตายลงไปพร้อมกับบาดเจ็บและนอนจมกองเล

    Last Updated : 2025-02-27
  • ข้านี่แหละหลาน(ไม่แท้)ของท่านอ๋องจอมโหด   ตอนที่ 2 หลานของเสด็จอา

    “แต่ว่าท่านมิได้เป็นน้องชายบิดาข้า เหตุใดข้าถึงต้องเรียกท่านว่าท่านอาด้วย”“เช่นนั้นเจ้าอยากเรียกว่าอะไรเล่า”“ข้าก็ไม่รู้เจ้าค่ะ”“ข้ากับบิดาเจ้าสนิทสนมกันมาก ช่วงสงครามเคยติดตามเขาออกรบบ่อยๆ เขาเป็นแม่ทัพผู้กล้าที่ยากจะมีใครล้มได้ หากมิใช่แผนชั่วของซุนหวง เขาคง….”“พวกเขาเรียกท่านว่าท่านอ๋อง นั่นแสดงว่าท่านคือผู้ที่ปกครองเฉินโจว ท่านอ๋องจะมาเป็นท่านอาของข้าได้อย่างไรกัน”เขาหันมามองหน้าหลันเยว่ซิน นางฉลาดและมีความกล้าจริงๆ เขายิ้มให้นางเป็นยิ้มแรกที่ทำให้ หลันเยว่ซินมองแล้วรู้สึกอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์ในยามเช้า แสงแรกที่ให้ชีวิตใหม่กับนาง แสงแรกที่เปิดออกจากห้องหนังสือตอนที่เขามาช่วยนางเอาไว้“ข้าอยากให้เจ้าเรียกท่านอา เจ้าก็เรียกท่านอา เอาไว้อีกหน่อยเจ้านึกได้แล้วว่าจะเปลี่ยนคำเรียก เราค่อยมาคุยกันใหม่ ดีหรือไม่”หลันเยว่ซินเงยหน้ามองท่านอ๋องที่ยืนสบตานาง สุดท้ายนางจึงคุกเข่าลง ท่านอ๋องตกใจเพราะนางทำเรื่องนี้กะทันหัน“หลันเยว่ซินคารวะท่านอา จากนี้ไปเยว่ซินจะเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านอาเจ้าค่ะ”จวินลู่หานถึงกับทำตัวไม่ถูก เขาพึ่งจะอายุยี่สิบสองแต่ต้องมาเป็นอาของเด็กที่อายุห่างจากเ

    Last Updated : 2025-02-27

Latest chapter

  • ข้านี่แหละหลาน(ไม่แท้)ของท่านอ๋องจอมโหด   ตอนที่ 4 หวนคืนสู่เฉินโจว

    พิธีจบการศึกษาผ่านไปอย่างเต็มรูปแบบแต่ก็ไม่ได้มีความคึกคักเนื่องจากอยู่ในภาวะช่วงสงคราม แต่ละคนร่ำลาอาจารย์และทยอยลงเขาส่วนทางเยว่ซินนั้น ตำหนักอ๋องส่งจดหมายมาให้อาจารย์ที่สำนักและกำหนดวันที่จะมารับนางเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว “เยว่ซิน น่าเสียดายที่เจ้าต้องกลับไปกับรถม้าของตำหนัก ข้าอยากลงเขาไปกับเจ้า”“เอาไว้พบกันที่เฉินโจวก็ได้ ข้าจะแวะไปเยี่ยมเจ้าบ่อยๆนะ”“เจ้าพูดจริงนะ อย่าลืมเสียละ”“ไม่ลืมแน่นอน รีบเก็บของเถอะ”“เฮ้อ ต้องจากไปแล้วจริงๆ คงคิดถึงที่นี่ไม่น้อยเลยนะ”“ข้าจำได้ว่าตอนที่เจ้าพึ่งมาที่นี่เจ้าร้องไห้อยู่เดือนหนึ่งเต็มๆเพราะคิดถึงบ้าน”“ก็ตอนนั้นข้ายังเด็ก ดูสิตอนนี้พวกเราโตแล้ว ดูเจ้าสิเยว่ซิน เจ้าไม่เคยส่งกระจกบ้างหรือว่าเจ้างดงามขนาดไหน สตรีอันดับหนึ่งของเฉินโจวคงต้องสะเทือนบ้างละหากเจ้ากลับไปครานี้”“สตรีอันดับหนึ่ง คือสิ่งใดกันชื่อเสียงจอมปลอมเหล่านั้น มีอะไรให้น่าชื่นชมกัน”“ตายละเยว่ซิน เจ้าคงไม่คิดจะบวชเป็นแม่ชีหรอกนะ ดูพูดเข้าสิ เหตุใดเจ้าพูดแต่ละคำราวกับไม่สนใจทางโลกแล้วเช่นนี้เล่า ไม่เอาๆ หลังจากลงเขาไปแล้วเจ้าต้องมาหาข้า แล้วเราจะไปเที่ยวข้างล่างนั่นให้สะใจไปเลย

  • ข้านี่แหละหลาน(ไม่แท้)ของท่านอ๋องจอมโหด   ตอนที่ 3 สำนักศึกษาป๋อเหวิน

    ท่านอ๋องมองหน้านางที่ยังเรียบสงบ แต่บรรยากาศรอบตัวเขากลับเย็นยะเยือกขึ้นอย่างน่าอึดอัดแปลกๆ เหมือนครั้งแรกที่เขาพบนางที่เมืองเหลียง นางมักจะทำให้เขาอึดอัดขึ้นมาจนน่าขนลุกได้เสมอโดยที่ตัวเขาก็ไม่ทราบสาเหตุ “เยว่ซิน เจ้าคิดดีแล้วแน่หรือเอาเก็บไปคิดอีกหน่อยดีหรือไม่ การไปที่สำนักศึกษานั่นต้องไปถึงสี่ปี กว่าจะได้กลับลงมา”“จะอยู่ที่ใดก็ไม่ต่างกันหรอกเพคะ หากไม่มีสิ่งใดแล้วหม่อมฉันขอตัวก่อน เรื่องกำหนดการรบกวนเสด็จ…เอ่อ ท่านอ๋องให้คนนำส่งให้หม่อมฉันด้วยเพคะ”“หลันเยว่ซิน เหตุใดเจ้า…”“ขอบพระทัยที่ทรงดูแลตลอดช่วงเวลาหนึ่งปีนี้นะเพคะ”“เยว่ซิน เดี๋ยวก่อนข้าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเช่นนี้ ข้าแค่นำเรื่องนี้มาหารือกับเจ้า แต่เหตุใดเจ้า....”“ทูลลาเพคะ”เยว่ซินเดินถอยออกมาและคำนับให้เขาเต็มพิธีการและเดินออกจากห้องอักษรไป นางคิดถูกแล้ว ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะตำหนักอ๋อง สำนักศึกษา หรือแม้กระทั่งข้างถนน ขอแค่นางยังมีชีวิตอยู่นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับนางเรือนพักของเยว่ซิน“คุณหนู จะไปจริงๆหรือเจ้าคะ แล้ว…”“แม่นม ท่านเองก็ชรามากแล้ว ท่านรอข้าอยู่นี่เถิดเจ้าค่ะ อีกไม่นานข้าก็กลับ ไม่ต้องติด

  • ข้านี่แหละหลาน(ไม่แท้)ของท่านอ๋องจอมโหด   ตอนที่ 2 หลานของเสด็จอา

    “แต่ว่าท่านมิได้เป็นน้องชายบิดาข้า เหตุใดข้าถึงต้องเรียกท่านว่าท่านอาด้วย”“เช่นนั้นเจ้าอยากเรียกว่าอะไรเล่า”“ข้าก็ไม่รู้เจ้าค่ะ”“ข้ากับบิดาเจ้าสนิทสนมกันมาก ช่วงสงครามเคยติดตามเขาออกรบบ่อยๆ เขาเป็นแม่ทัพผู้กล้าที่ยากจะมีใครล้มได้ หากมิใช่แผนชั่วของซุนหวง เขาคง….”“พวกเขาเรียกท่านว่าท่านอ๋อง นั่นแสดงว่าท่านคือผู้ที่ปกครองเฉินโจว ท่านอ๋องจะมาเป็นท่านอาของข้าได้อย่างไรกัน”เขาหันมามองหน้าหลันเยว่ซิน นางฉลาดและมีความกล้าจริงๆ เขายิ้มให้นางเป็นยิ้มแรกที่ทำให้ หลันเยว่ซินมองแล้วรู้สึกอบอุ่นราวกับแสงอาทิตย์ในยามเช้า แสงแรกที่ให้ชีวิตใหม่กับนาง แสงแรกที่เปิดออกจากห้องหนังสือตอนที่เขามาช่วยนางเอาไว้“ข้าอยากให้เจ้าเรียกท่านอา เจ้าก็เรียกท่านอา เอาไว้อีกหน่อยเจ้านึกได้แล้วว่าจะเปลี่ยนคำเรียก เราค่อยมาคุยกันใหม่ ดีหรือไม่”หลันเยว่ซินเงยหน้ามองท่านอ๋องที่ยืนสบตานาง สุดท้ายนางจึงคุกเข่าลง ท่านอ๋องตกใจเพราะนางทำเรื่องนี้กะทันหัน“หลันเยว่ซินคารวะท่านอา จากนี้ไปเยว่ซินจะเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านอาเจ้าค่ะ”จวินลู่หานถึงกับทำตัวไม่ถูก เขาพึ่งจะอายุยี่สิบสองแต่ต้องมาเป็นอาของเด็กที่อายุห่างจากเ

  • ข้านี่แหละหลาน(ไม่แท้)ของท่านอ๋องจอมโหด   ตอนที่ 1 เรียกข้าว่าท่านอา

    เมืองเหลียง / เฉินโจว“จะยอมบอกหรือไม่ ผู้ใดส่งเจ้ามาฆ่าล้างสกุลหลัน“ข้ายอมตายแต่ไม่มีทางยอมบอกเจ้า”“ได้ จงลี่ ตัดแขนซ้ายมันออก”“อยะ…นี่พวกเจ้า อย่านะ อ๊ากกก…….”เสียงที่ฟันฉับลงไปที่แขนนั้นทำให้ผู้ที่ถูกกระทำดิ้นพล่านจนแทบทนไม่ไหว สายตาเยือกเย็นดุจเพชฌฆาตหน้าหยกของท่านอ๋องและแม่ทัพหนุ่มแห่งเฉินโจวมองไปยังกบฏที่เขาจับตัวมาไตร่สวน คนที่เหลือเริ่มออกอาการสั่นกลัวจนตัวสั่น “ว่าอย่างไร ไม่มีผู้ใดกล้าพูดเลยงั้นหรือ ได้”ท่านอ๋อง “จวินลู่หาน” เดินไปลากตัวกบฏอีกคนออกมาพร้อมกับถีบเขาให้ล้มลงไปข้างๆศพที่ตายอยู่กับผู้ที่ถูกตัดแขนไป เขาก้มลงพร้อมกับเฉือนหูด้านขวาของกบฏออกไป เสียงร้องโหยหวนนั้นทำเอาเด็กน้อยที่อายุเพียงสิบสี่ที่มีแม่นมกอดอยู่ถึงกับไม่กล้ามอง“เจ้า…เจ้ามันโหดเหี้ยม ต่อหน้าเด็ก…ตัวเล็กๆ…เจ้ายังกล้าทำร้ายคน”“แล้วพวกเจ้าเล่า…พวกเจ้าฆ่าล้างตระกูลนาง ตอนนี้เจ้านับว่าเป็นอะไร ทางที่ดีบอกข้ามาดีๆว่าพวกเจ้ากบดานอยู่ที่ใด ไม่อย่างนั้น…แม้แต่ลูกเมียเจ้าข้าก็ไม่เว้น!!”“ข้ายอมแล้ว…ข้าบอก…ข้าบอกแล้ว”เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลัง เมื่อเห็นว่าหลายคนเริ่มตายลงไปพร้อมกับบาดเจ็บและนอนจมกองเล

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status