หลังจากจัดการคนของจ้าวเฉิงเรียบร้อยแล้ว เซียวอี้เซียนก็เริ่มจัดการคัดกรองคน นางมาอยู่ที่นี่ต้องคัดคนที่ไว้ใจไม่ได้ออกไป ยุคโบราณคนมักหน้าเนื้อใจเสือ แม้ว่ายุคปัจจุบันที่นางจากมาจะมีพวกใส่หน้ากากเข้าหากัน แต่เรื่องวางแผนการกลับไม่อาจล้ำลึกเช่นคนโบราณได้เลย
เมื่อคัดกรองแล้ว ก็ปรากฏว่ามีแม่บ้านที่ไม่อาจไว้ใจได้อีกสองคน เรื่องนี้ดูไม่ยากคนไม่เคยมีพอมีขึ้นมาก็อยากอวด ป้าฝางมีสัญญาขายตัวเดิมทีไม่มีเงินเดือนแต่กลับมีกำไลสวมใส่ วงนั้นน่าจะไม่ต่ำกว่าสามตำลึง สาวใช้เรือนซักล้างยิ่งแล้วใหญ่ งานต่ำสุดที่ไม่มีใครอยากทำกลับมีปิ่นเงินราคาสองตำลึงเช่นกัน ส่วนคนที่เหลือก็ทำงานปกติ นางยังไม่จัดการ รอราชโองการมาถึงก่อนนางจะตัดรากถอนโคนต้นไม้พิษเหล่านี้ให้เกลี้ยง
"ฉลาดเสียด้วยเลือกใช้คนที่ไม่มีใครคาดคิด หึ สกุลจ้าวปัญหาภัยแล้งที่พวกเจ้าแก้ไม่ได้ข้าจะทำให้สกุลจ้าวของพวกเจ้าต้องกลืนเลือดตนเองเชียวล่ะ"
เมื่อวาดแบบกังหันวิดน้ำเรียบร้อยเซียวอี้เซียนก็เข้านอน นางวาดแบบแยกกัน หากไม่ใช่นางต่อให้ใครได้ไปก็ไม่อาจสร้างออกมาได้ ชิ้นส่วนการคำนวณกว้างยาว ความสูงของฐานนางแยกเป็นส่วนๆเอาไว้กันผิดพลาด เด็กน้อยเสี่ยวฮวาหลับไปแล้ว น้ำลายไหลย้อยมุมปากเชียว
เซียวอี้เซียนห่มผ้าให้สาวใช้ตนเอง นางให้เสี่ยวฮวามานอนด้วยข้างล่างของเตียงเอาผ้านวมผืนหนามาปูให้ เสี่ยวฮวาชอบที่สุดที่ได้นอนกับคุณหนู สองนายบ่าวหลับไปแล้ว วันพรุ่งนี้คงมีเรื่องให้ปวดหัวอีกแน่นอน จ้าวอันป๋อเสียหน้าเพียงนั้นไม่มีวันปล่อยนางไปแน่ๆ
ดรุณีน้อยไม่รู้เลยว่าหลังจากนางหลับไปแล้ว ปรากฏร่างสูงของบุรุษหนุ่มคนหนึ่งมานั่งมองนางอยู่เกือบครึ่งคืน หยางเทียนหลงนั่งมองนางที่กำลังนอนหลับ เขาได้รับข่าวว่าจ้าวอันป๋อคิดทำร้ายนาง จึงให้คนไปดักรอคนของจ้าวอันป๋อเรียบร้อยแล้ว ส่วนตัวเองก็มานั่งอยู่ในห้องนี้
เซียวอี้เซียนนอนตัวเกร็งนางมิได้หลับ แม้จะรับรู้ว่าในห้องมีคนแต่นางกลับนอนนิ่ง มีเพียงลมหายใจที่แรงขึ้น หยางเทียนหลงจึงเอ่ยออกมา
"คุณหนูเซียวเจ้าไม่ได้หลับ แปลว่ายาที่ถูกพ่นเอาไว้ทำอันใดเจ้าไม่ได้ ข้าเป็นห่วงเจ้าเสียเที่ยวแล้ว"
เซียวอี้เซียนลุกขึ้นมองหน้าเขา แต่แสงสลัวของดวงจันทร์สว่างไม่พอ นางได้กลิ่นยาสลบแต่แรกแล้วจึงหาทางแก้ อยู่ในโรงพยาบาลมาทั้งชีวิตอยู่กับกลิ่นยาทุกวันนางจึงจมูกไว เซียวอี้เซียนเอ่ยถามคนตรงหน้า
"พี่ชาย..ข้ารู้ว่าท่านมิได้มาร้าย ว่าแต่ท่านมาในห้องข้าได้อย่างไร"
"ข้าได้ข่าวไม่ดีมาว่ามีคนจะมาทำร้ายเจ้า"
"ท่านเป็นผู้ใดกันเจ้าคะ เหตุใดถึงรู้เรื่องนี้"
"ข้าเป็นองครักษ์ ข้าคือคนที่ฝ่าบาทส่งมาคุ้มครองเจ้า คุณหนูเซียวขออย่าได้กังวลใจ"
"อืม..หากท่านอยากทำร้ายข้า ท่านคงลงมือไปแล้ว ว่าแต่เข้าห้องสตรีเกรงว่าจะไม่ควร รบกวนท่านออกไปเถอะ ด้านหลังเรือนข้ามีห้องว่างไปนั่งเฝ้าที่ห้องนั้นเถิด มีหมอนกับผ้าห่มอยู่สำหรับรับแขก แต่จวนเซียวไร้แขกมาเยี่ยมเยือนนานมากแล้ว อาจอับชื้นไปสักหน่อย"
หยางเทียนหลงอมยิ้มในความมืด สตรีตรงหน้าไม่หวาดกลัวเขาทั้งที่เขาเป็นคนแปลกหน้า อีกทั้งนั่งเจรจากับเขาเสียอีก แต่ประโยคต่อมาทำให้เขาถึงกับต้องมองนางใหม่
"องครักษ์ท่านนี้ เราเคยเจอกันมาก่อนข้าจำเสียงท่านได้ เป็นถึงองครักษ์เงินทองคงมีไม่น้อย ปิ่นเล่มนั้นท่านยังค้างข้าอยู่สี่สิบห้าตำลึง บวกดอกเบี้ยอีกห้าตำลึงรบกวนท่านจ่ายข้าด้วย ไม่ทราบท่านแม่ของท่านพอใจของขวัญวันเกิดจากบุตรชายหรือไม่เล่า"
หยางเทียนหลงหันกลับมามองคนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนเตียง ฉลาดอะไรเยี่ยงนี้กันนะ นางจำกระทั่งเสียงของเขาได้ พระชายาคนนี้อย่างไรเขาก็ต้องแต่ง ยอมให้เป็นของคนอื่นไม่ได้ นางคือของเขาคนเดียวเท่านั้น หยางเทียนหลงปลดถุงเงินออกจากเอวส่งให้นางก่อนจะเอ่ย
"ข้าเพิ่มดอกเบี้ยให้เจ้าอีกเป็นห้าร้อยตำลึง พอใจหรือไม่คุณหนูเซียว"
"ไม่ล่ะ ..ข้าต้องการเท่าที่ข้าควรได้ พี่ชายท่านนี้ท่านไปได้แล้ว หากมีคนมาเห็นท่านเดินออกจากห้องข้าจะไม่ดี ท่านย่าของข้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ นางรับอะไรที่รุนแรงสะเทือนจิตใจอีกไม่ไหวแล้ว"
หยางเทียนหลวงรับถุงเงินกลับมาก่อนจะล้วงเอาตั๋วเงินห้าสิบตำลึงส่งให้นาง คนตัวสูงออกไปจากห้องแล้ว เซียวอี้เซียนนอนคิดหาทางทำห้องให้มิดชิดปลอดภัยกว่านี้ เขามาตอนไหนเมื่อไหร่นางไม่รู้เลย คนยุคโบราณนี้เหมือนผีจริงๆเชียว
ยามเหมาเสี่ยวฮวาน้อยตื่นขึ้นมาพร้อมกับเก็บห่มพับผ้าเรียบร้อย ก็ไปที่ครัวเล็กต้มน้ำให้คุณหนูของตนเอง วันนี้เซียวอี้เซียนใส่ชุดสีชมพูหวาน ชายกระโปรงปักดอกไม้สีขาวเล็กๆรอบชาย ปิ่นแมลงปอตัวน้อยที่เสียบแซมมวยผมที่เกล้าต่ำทำให้นางดูงดงามเย้ายวน ใบหน้าหวานดวงหน้าที่เรียวเล็กดวงตาสุกใสราวผลซิ่งหากประคองด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียวก็คงหมด
ยามเฉินสองคนนายบ่าวเดินออกมาจากห้องก่อนจะไปคารวะท่านพ่อและไปหาท่านย่าอีกด้วย เซียวอี้เซียนเจอกับหมอเทวดาซุนเจิ้นหนานนางคารวะผู้อาวุโสก่อนจะเอ่ยถาม
"ท่านปู่เจ้าคะ อาการท่านย่าเป็นเช่นไรบ้าง ส่วนอาการของท่านพ่อเล่าเจ้าคะ"
"อืม..ย่าเจ้าขอเพียงไม่มีเรื่องสะเทือนใจอีกก็นับว่าดีแล้ว ส่วนบิดาเจ้านั้นขับพิษยาปลุกกำหนัดหมดแล้ว เพียงแต่ยังคงลุกไม่ไหวน่ะ"
"เซี่ยนเซี่ยนขอบพระคุณท่านปู่ซุนมากนะเจ้าคะ หากไม่ได้ท่านข้าอาจเสียคนที่รักไปถึงสองคนเลยทีเดียว"
"เจ้าอย่าเกรงใจเลย หากมิใช่เพราะเจ้าหวังพึ่งคนอื่นมากเกินไปจนเหตุการณ์ล่วงเลยก็ไม่ลำบากเช่นนี้ เซี่ยนเซี่ยน ตาดีใจที่ในที่สุดสายเลือดสกุลเซียวก็คือสายเลือดสกุลเซียว ปู่ของเจ้าเซียวหานจากชาวนาขาเปื้อนโคลน เป็นเด็กฝึกงานอยู่โรงไม้ มเป็นคนงานทำงานให้กรมโยธา จนได้เป็นถึงเจ้ากรมทุกอย่างได้มาด้วยความสามารถมิใช่อาศัยโชคช่วยหรือแรงสนับสนุนจากผู้ใด บิดาเจ้าร่างกายอ่อนแอแต่กลับมีปัญญา สองคนพ่อลูกร่วมใจในต้าฉินใครจะกล้าต่อว่าสกุลเซียวเป็นเพียงสกุลเล็กๆที่ไม่สำคัญอีก จากนี้ไปจงเดินตามรอยปู่เจ้าเถอะ ไม่มีขาคู่ใดเดินได้มั่นคงเท่ากับขาเจ้าเอง"
"เซี่ยนเซี่ยนจะจำไว้เจ้าค่ะ ขอบคุณท่านตาเจิ้นหนานที่เตือนสติ จากนี้ไป ข้าจะเอาความรู้ที่ท่านปู่เคยสอนมากอบกู้สกุลเซียวให้รุ่งเรือง ทำให้ยืนอยู่แถวหน้าแม้ว่าเป็นตระกูลอันดับหนึ่งไม่ได้แต่ก็จะให้อยู่หนึ่งในสิบตระกูลใหญ่ของเมืองหลวง"
"ดีๆๆ เห็นเจ้ามุ่งมั่นเช่นนี้ข้าที่เป็นสหายของปู่เจ้าก็ดีใจแทนเขา เสี่ยวฮวาเด็กคนนั้นฉลาดรอบรู้ ข้าเอ่ยไม่กี่คำนางก็จำได้ ข้าอายุปูนนี้แล้วหากได้คนมาสืบทอดวิชาแพทย์ก็คงตายตาหลับ"
ท่านตาเจิ้นหนานจะรับเสี่ยวฮวาเป็นลูกศิษย์หรือเจ้าคะ เสี่ยวฮวายังไม่ขอบคุณอีก"
สาวน้อยทำหน้างงเมื่อคุณหนูของตนหันมาบอก แต่ก็กล่าวขอบคุณผู้อาวุโสตรงหน้า ที่ผ่านมาคุณหนูมักสอนนางเขียนหนังสือจนนางอ่านออกเขียนได้ หากได้เรียนวิชาแพทย์ ท่านยายที่ป่วยบ่อยๆก็จะได้ไม่ต้องทรมาน
"เสี่ยวฮวาขอบคุณหมอเทวดาเจ้าค่ะ แต่ว่าแล้วคุณหนูจะทำเช่นไรเจ้าคะ"
"อย่าห่วงข้าเลย เจ้าไปเรียนกับท่านตาพอเรียนจบก็มาเป็นหมอประจำจวนให้ข้าไง"
ทั้งสามพูดคุยกันอีกเล็กน้อยจากนั้นเซียวอี้เซียนก็ไปเยี่ยมบิดาและท่านย่า ก่อนจะแวะโรงครัวขออาหารเพิ่ม นางบอกว่าเมื่อคืนนางออกแรงเยอะจึงหิว แม่ครัวจัดอาหารเพิ่มให้คุณหนูอีกชุด เซียวอี้เซียนกลับมายังห้องของตนก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องรับรองด้านหลังเรือนของนางแล้วเดินจากมาหยางเทียนหลงเปิดประตูออกมาก็เจอตะกร้าวางตั้งไว้ เขาเปิดผ้าออกดูก็พบปิ่นโตไม้เถาหนึ่ง ในนั้นมีอาหารอย่างดี บุรุษหนุ่มยิ้มให้กับตนเองก่อนจะหันไปยังทิศที่คนตัวเล็กเดินกลับไป กลิ่นกายหอมกรุ่นของนางยังไม่จางไปเลย ชายหนุ่มหยิบตะกร้าอาหารเข้ามาในห้องก่อนจะเริ่มกิน อืม..ทำไมอาหารวันนี้ช่างหวานไปเสียทุกคำกันนะยามซื่อมีคนจากในวังมาเยือน เซียวอี้เซียนประคองบิดาที่เพิ่งฟื้นออกมาจากห้อง ลู่กงกงเห็นหน้าดรุณีน้อยตรงหน้าก็เข้าใจทันทีเหตุใดท่านอ๋องถึงอยากแต่งกับนาง ช่างงดงามเหลือเกิน "นายท่านเซียวมิทราบว่าที่ยืนอยู่ข้างท่านใช่บุตรสาวท่านคุณหนูเซียวอี้เซียนหรือไม่""เอ่อ แค่กๆๆ ขอรับใต้เท้า เอ่อ เซียนเอ๋อร์คารวะท่านกงกงเสียสิ เขาคือคนของฝ่าบาทน่ะ""ข้าน้อยเซียวอี้เซียนคารวะลู่กงกงเจ้าค่ะ""อืม..รูปงามนามไพเราะ กิริ
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจ้าวอันป๋อจำต้องกลับจวน เขาให้คนส่งจดหมายไปหาจ้าวอันพี่ชายคนโตที่เป็นคนหมั้นหมายหลานชายของตนกับเซียวอี้เซียน บัดนี้นางกลายเป็นคนของหนิงอ๋องไปแล้ว จะแย่งกลับมาคงไม่ได้ แต่แผนการก่อสร้างที่สกุลเซียวครอบครองอยู่นั้นเขาจำต้องวเอามาให้ได้หากสกุลจ้าวสามารถกุมเอากรมโยธาและแบบแผนการสร้างเมืองมาอยู่ในกำมือได้เขายังต้องหวาดกลัวอันใดกัน เสียดายสกุลจ้าวไร้บุตรีมิเช่นนั้นเขาคงส่งเข้าวังไปเป็นสนมฮ่องเต้สักคน ยังต้องกังวลเรื่องที่อำนาจจะถูกแย่งชิงอีกหรือเมื่อกลับมาถึงจวนก็เรียกหาหลานชายตนเองทันที แต่จ้าวเฉิงไม่ว่างกำลังทะเลาะกับหลิวเย่วอยู่ เมื่อคืนแทนที่เขาจะนอนเรือนกลางกลับไปนอนเรือนเล็กเรียกหาสาวใช้ที่ชื่อเหยาเหยามาปรนนิบัติ จ้าวเฉิงกำลังดีใจที่จะได้เซียวอี้เซียนมาครอบครองก็ต้องฝันสลาย เพราะลู่เสวียนนำพระราชโองการมาประกาศว่าเซียวอี้เซียนขอถอนหมั้นกับเขา และที่สำคัญฝ่าบาทเป็นคนอนุญาตเอง จ้าวอันป๋อเดินมาก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันลอดออกมา"เจ้ามันสตรีใจแคบ เหยาเหยานางก็แค่สาวใช้ ตำแหน่งเมียเอกเจ้าก็ได้ไปแล้วยังไม่พอใจอีกหรือ""หึ เจ้ามันมักมาก สารเลวแต่งข้า
จ้าวเฉิงเดินมาที่ศาลา มองน้องชายต่างมารดาอย่างรังเกียจ เขาสั่งห้ามจ้าวเหวินเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ เป็นเพียงบุตรนางโลมก็เหมือนบ่าวในเรือน เหตุใดเขาต้องยอมรับมัน จ้าวเหวินที่มองมายังเขาสายตามีแววอาฆาตนิดหนึ่งก่อนจะกลบเกลื่อน จ้าวเฉิงมองไม่ออก แต่ชายชรากลับทันได้เห็น ดูท่าสกุลจ้าวต้องเลือกสักคนแล้วไม่เช่นนั้นอาจนองเลือด จ้าวเหวินหันกลับมาหาชายชราก่อนจะเอ่ย"สกุลเซียวขายทอดสินสอดของคุณชายใหญ่อย่างไร้ค่า นำเงินที่ได้พร้อมกับออกเงินอีกสองแสนตำลึงถวายให้ฝ่าบาทนำไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ราษฎรที่ประสบภัย คนที่มาซื้อสินค้าวันนั้นนางจดชื่อถวายรายงาน ตอนนี้ป้ายทองคำที่เป็นลายพระหัตถ์ของฝ่าบาทประทับอยู่หน้าร้านพวกเขา รวมถึงขุนนางเล็กๆเหล่านั้นมีสิทธิ์ที่ส่งบุตรหลานเข้าสำนักศึกษาหลวงด้วยขอรับ"ปัง!!!เสียงทุบโต๊ะดังลั่น สำนักศึกษาหลวงเป็นสถานที่ๆสกุลจ้าวกอบโกยได้มากไม่น้อย หากให้พวกบุตรหลานขุนนางปลายแถวมาเรียนปะปนจะทำให้การเงินของเขาสั่นคลอน จ้าวเฉิงที่ได้ฟังก็ยิ้มเยาะก่อนจะเอ่ย"หึ..ดูท่านเจ้าจะแตกตื่นเสียเหลือเกินนะจ้าวเหวิน แค่ขุนนางปลายแถวกับพ่อค้าตัวเล็กๆ นางอยากขอให้พวกมันก็ขอไปสิ สกุลจ้าวเก่าแก่เ
ทันทีที่เซียวอี้เซียนเอ่ยจบบ่าวก็ชวนเสี่ยวฮวาออกไปเดินเล่นนอกจวน กำจัดเกลือเป็นหนอนไปหมดแล้วที่เหลือแค่เดินตามแผนที่วางเอาไว้ นางมาอยู่ที่นี่ได้ห้าวันแล้วนับแต่ลืมตาขึ้นมา ที่นางยอมทำเพื่อสกุลเซียวเพียงนี้เพราะเห็นแก่ความรักที่พวกเขามีต่อร่างเดิม อีกทั้งที่ร่างเดิมต้องจากไปก็เพราะอยากให้พวกเขามีชีวิตดีขึ้นแต่กลับตกหลุมพรางผูู้อื่น นางมาอยู่ร่างนี้จึงต้องเอาคืนให้สาสม อีกอย่างหากต้องแต่งงานกับคนอย่างจ้าวเฉิงจริงๆ ชีวิตคงไร้ความสุขเสียงเรียกนางดังมาจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปก็เจอจ้าวเฉิงที่มากับเพื่อบัณฑิตด้วยกัน ยังเป็นเพียงลูกแหง่ขอเงินพ่อแม่ไปโรงเรียนกล้ามาลูบคมเจ๊เหรอย่ะ อยากตายหรือ หึ"อี้เซียน..พอถอนหมั้นกับข้าก็หาทางมาหาบุรุษใหม่แล้วหรือ ข้าไม่คิดจริงๆว่าเจ้าเป็นสตรีเช่นนี้""โอ่ว..ต้องเป็นสตรีเช่นไรถึงจะเหมาะกับคุณชายไร้ค่าเช่นเจ้าหรือจ้าวเฉิง เอ๋ใบหน้าคุณชายไปโดนสตรีนางใดตบมาเล่านั้น ไอ้หยาในหมู่พวกเจ้าภรรยาผู้ใดคลอดบุตรก็พินิจหน้าตาบุตรที่คลอดออกมาสักหน่อยเล่า เผื่อทารกเหล่านั้นจะเหมือนสหายมากกว่าบิดาตนเอง"หลายคนมองหน้ากัน จ้าวเฉิงถือว่าเป็นบุรุษเจ้าชู้ที่รูปงามมากนัก หรือว่า
หลังจากมีเรื่องกับจ้าวเฉิงเรียบร้อยแล้ว เซียวอี้เซียนก็เดินฮัมเพลงอย่างสบายใจ นางหาซื้อข้าวของพะรุงพะรังเพื่อกลับไปทำของบำรุงให้บิดากับมารดาและท่านย่าของนาง หยางเทียนหลงลุกจากโรงเตี๊ยมเดินลงมาทางที่นางเดินเลือกซื้อสินค้าอยู่ เซียวอี้เซียนที่ก้มๆเงยๆไม่ได้มองว่าเป็นเขา กระทั่งเขาเข้ามาใกล้ๆแล้วเอ่ยทักทาย"คุณหนูเซียว....วันนี้ออกมาเดินเที่ยวได้หรือ"เซียวอี้เซียนหันไปหาทิศที่มาของเสียงก็ได้เจอกับเขา เมื่อคืนไม่เห็นใบหน้าแต่จำเสียงเขาได้ ให้ตายสิตอนที่เขาแต่งตัวเป็นยาจกขอทานก็ว่าไม่อาจบดบังความหล่อเหลาได้แล้ว มาตอนนี้คือออร่าพุ่งมาก เซียวอี้เซียนได้แต่คิดในใจ ยุคโบราณมีผู้ชายหล่อเพียงนี้ด้วยหรือ"แม่เจ้า...หล่อน้ำเดินเลยแฮะ เสียดายจังอีกไม่ถึงเจ็ดวันเจ๊ก็จะมีผัวแล้ว ไม่งั้นจะเอามานอนกอดเล่นๆสักคืนสองคืน"หยางเทียนหลงที่เดินมาใกล้ๆถึงกับต้องล้วงเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำลายของนางที่ไหลอยู่มุมปาก ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบข้างหู"คุณหนูเซียวเจ้าจะไม่เก็บอาการสักหน่อยหรือ ข้ารู้ว่าตนเองนั้นรูปงาม แต่เจ้าก็ไม่ควรแสดงอาการว่าต้องการข้าถึงเพียงนี้กระมัง"เซียวอี้เซียนถึงกับหน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะปรับ
บุรุษต่างวัยมองหน้ากันจากนั้นก็พยักหน้าเดินตามเซียวอี้เซียนไปทางสวนหลังจวน ปกติที่ตรงนี้มิค่อยมีคนมาเท่าไหร่ บุตรสาวเขาพามาทำไมกัน จนกระทั่งทั้งหมดมาถึงหลังภูเขาจำลอง เซียวอี้เซียนก็พาทั้งคู่มานั่งลงที่แอ่งน้ำแอ่งเล็กๆที่นางสร้างขึ้นมา จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้น"ท่านพ่อท่านสามารถทำให้น้ำในแอ่งลึกที่ข้าขุดผันมายังเส้นทางน้ำด้านบนที่สูงกว่าได้หรือไม่เจ้าคะ""อืม..แอ่งน้ำของเจ้ามันต่ำเพียงนั้นจะผันน้ำให้ขึ้นมายังทางระบายน้ำนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ มีเพียงน้ำล้นแอ่งเท่านั้นเอง""อืม..บิดาเจ้ากล่าวถูกแล้ว ว่าแต่หลานพาพวกเรามาทำไมหรือเซี่ยนเซี่ยนหรือว่าเจ้ามีวิธี""ท่านปู่เจิ้นหนาน ท่านพ่อข้ามีวิธีแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับฝ่าบาท แต่วันนี้อยากให้ท่านพ่อรับปากข้าสักเรื่องหนึ่งก่อนเจ้าค่ะ""ลูกบอกว่ามีวิธีหรือ หนังสือสามเล่มที่เจ้าเขียนถวายฝ่าบาทนั้นคือวิธีแก้ภัยแล้วใช่หรือไม่เซียนเอ๋อร์""ท่านพ่อ...ในนั้นลูกเขียนเพียงความเป็นไปได้เท่านั้น หากฝ่าบาทอยากแก้ปัญหาจริงๆลูกพอจะช่วยพระองค์ได้เจ้าค่ะ""แล้วเจ้ามีวิธีอันใดหรือเซี่ยนเซี่ยน ปู่รู้ว่าเจ้าฉลาดเจ้ามีเลือดของท่านปู่เจ้าอยู่ในตัวสายเลือดสกุลเซียวย่อมต้องเ
เซียวอี้เซียนกินมื้อค่ำเรียบร้อยก็กลับห้องนอน และมีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ที่ห้องนาง ดีที่เสี่ยวฮวาไม่อยู่นางไล่ให้ไปพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว องครักษ์คนนี้คือคนที่ฮ่องเต้ส่งให้มาคุ้มครองนาง แต่เหตุใดเขาดูเอาแต่ใจเหลือเกิน เซียวอี้เซียนจำต้องเอ่ยออกไปอย่างข่มขู่"องครักษ์ท่านนี้ ฮ่องเต้ส่งท่านมาคุ้มครองข้าหรือส่งท่านมาคุกคามข้ากันแน่""คุณหนูเซียว....ข้ามาตรวจความปลอดภัยของท่าน เผื่อมีคนของสกุลจ้าวลักลอบเข้ามาจะทำเช่นไร""นี่ท่านองครักษ์ ข้ากำลังจะแต่งงาน หากมีใครรู้ว่ามีบุรุษมาพบข้ายามวิกาล อีกทั้งยังเป็นที่รโหฐานจะให้ข้าแก้ตัวแก่คู่หมั้นเช่นไร""ดูเหมือนคุณหนูเซียวจะให้ความสำคัญกับท่านอ๋องเสียจริงๆนะ""ย่อมต้องเป็นเช่นนั้นเขาคือคนที่จะมาเป็นสามีของข้า ท่านออกไปเถอะข้ามิเป็นอันใดหรอก"หยางเทียนหลงอมยิ้มก่อนจะเดินออกไป เขาหยุดที่ประตูแล้วหันกลับมาเอ่ยถามนาง"คุณหนูเซียวท่านชอบหนิงอ๋องหรือไม่""จะว่าไปนี่เป็นเรื่องข้าสองคนสามีภรรยา ท่านมีหน้าที่มาแค่ดูแลความปลอดภัยของข้ามิใช่หรือ เหตุใดซอกแซกนัก ข้าอยากรู้เสียแล้วว่าท่านใช่คนของฮ่องเต้แน่หรือเปล่า แน่นอนท่านคิดว่าข้าคงกลัวเรื่องเสียชื่อเสียงหา
เซียวอี้เซียนได้แต่ยิ้มแห้งๆ นางสงสารเซียวอี้เซียนคนเดิมยิ่งนัก นางจะรู้ไหมว่านางมีคนรักมากมาย เหตุใดต้องโทษตนเองจนสุดท้ายชีวิตตนเองก็รักษาไม่ได้ ดรุณีน้อยยิ้มให้หญิงชราก่อนจะเอ่ย"ท่านย่า ในยามนั้นท่านปู่เมาจึงรับปากเขาไป มาตอนนี้คิดๆดูแล้วคืนนั้นท่านปู่ถูกสองพี่น้องสกุลจ้าวมอมเหล้าหรือเปล่าเพื่อหลอกล่อให้รับปาก""เฮ้อ..คนจากไปชาก็เย็นชืด สองพี่น้องสกุลจ้าวจิตใจชั่วร้าย เซี่ยนเซี่ยนหลานต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ อีกอย่างแต่งงานไปแล้วเรื่องหลังบ้านต้องระวัง รีบมีบุตรเสียเพื่อจะได้มัดใจสามี หากรั้งนานเกินไปหนิงอ๋องอาจหาคนมาอุ้มท้องแทนเจ้า""ท่านย่า ต่อให้หลานคลอดบุตรชายออกมาสิบคน หากบุรุษไร้ใจรั้งเช่นไรก็มิอาจรั้งได้นะเจ้าคะ""เซี่ยนเซี่ยน...ดับไฟใต้กะทะไม่สู้ถอนฟืนออกจากเตาเสีย จงอย่าประมาท ว่าแต่เรื่องบิดาของเจ้าเหตุใดคิดว่าเขาจะได้รับตำแหน่งกัน""ทำท่านย่าเป็นห่วงแล้วหลานอกตัญญูยิ่งนัก เอ่อ..ท่านย่าเจ้าคะ ตอนที่ท่านปู่ยังอยู่มักเรียกข้าไปสอนตำราและการทำงาน เนื่องจากท่านพ่อสุขภาพไม่ดี ท่านปู่ไม่อยากให้วิชาที่ท่านปู่ศึกษามาต้องสูญหายจึงยอมให้หลานเรียนรู้ หลานทำบางอย่างก็เพื่อให้เรายืน
สองชายชรามองหน้ากันทันที บ้านก็ไขายไม่ออก คนเช่าก็ไม่มีมานับแต่เกิดเรื่อง มาวันนี้นางยังจะเอาแต่ใจให้คนมาอาศัยในบ้านที่พวกเขาลงทุนอีก เซียวอี้เซียนคนนี้เหตุใดถึงได้กล่าวเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาได้กัน หลิวเว่ยกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์นิดหน่อย"พระชายา บ้านเหล่านั้นตอนมาจำนองทรุดโทรมอย่างมาก เมื่อเจ้าของไถ่คืนไม่ไหวพวกเราก็ต้องซ่อมแซมเพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่า ค่าซ่อมแซมแน่นอนว่าใช้เงินตำลึงไม่น้อยนะพ่ะย่ะค่ะ""จริงของหลิวเว่ย พระชายาสกุลหลิวมีรายได้มาจากการให้เช่าบ้านและปล่อยกู้ ยามนี้หากไม่มีบ้านให้เช่าลำพังเงินเดือนเจ้ากรมกับอดีตเจ้ากรมคงไม่พอเลี้ยงคนกว่าร้อยชีวิตนะพ่ะย่ะค่ะ"สองพี่น้องสกุลหลิวเอ่ยออกมา หลิวต่งเองก็ให้ไม่พอใจเท่าไหร่ นางบอกว่าจะมาเจรจานี่มันเป็นการเจรจาที่ไหนกันนางตั้งใจมาแล้วชัดๆ กระทั่งเซียวอี้เซียนยกยิ้มมุมปากก่อนจะส่งสัญญาณ แม่นมจางและชุ่ยเหยียนรู้ว่าพระชายาต้องการสิ่งใดจึงเดินมาส่งม้วนกระดาษให้กับหลิวหลางเมื่อชายชรารับมาอ่านก็ตาเบิกโพลง นี่มันค่าตอบแทนมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ที่สำคัญตำแหน่งที่นางมอบให้เขานั้นนับว่าสูงกว่าตำแหน่งอำมาตย์ฝ่า
เซียวอี้เซียนที่สั่งให้ลงโทษสองแม่ลูกสกุลจ้าวก็เดินผ่านร่างของทั้งคู่ไปโดยไม่ใส่ใจ ไม่นานเรื่องที่เยี่ยหรานและจ้าวเฉิงดูหมิ่นพระชายาหนิงอ๋องและถูกศาลราชวงศ์ลงโทษด้วยตนเองก็กระจายไปทั่วเมืองหลวง ปากต่อปากจากเพียงแค่ดูหมิ่นพระชายากลับขยายไปว่าจ้าวเฉิงลงมือทำร้ายพระชายา หลิวต่งคุณชายใหญ่ให้การช่วยเหลือกลับถูกจ้าวเฉิงชี้หน้าด่าทอ และกลับกล่าวหาว่าพระชายาไม่อาจตัดใจจากเขาได้จึงตามมาหาเรื่องหลิวเย่วถึงจวน สุดท้ายสองแม่ลูกถูกสั่งโบยตามกฎหมายต้าฉิน ทางด้านสองพี่น้องสกุลจ้าวที่อยู่ในวัง กำลังทำงานยังไม่รู้ว่าสะใภ้กับหลานชายบาดเจ็บเจียนตายและอยู่ในคุกหลวง เซียวอี้เซียนเดินตามหลิวต่งเข้าไปยังศาลากลางสระบัวที่หลิวหลางนั่งรออยู่ เซียวอี้เซียนอมยิ้มไม่ยอมมาต้อนรับ อยากให้นางยอมก้มหัวให้เพราะเรื่องที่ถูกยึดทรัพย์ครั้งก่อนตาแก่นี่สูญเสียไม่น้อยและคงโกรธนางแต่เพราะฐานะนางตอนนี้อยากเอาคืนนางก็ทำไม่ได้ หลิวหลางเห็นนางเดินมาแต่ยังคงวางท่า ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนอวดอำนาจอันใดกัน แต่เขารู้กาลเทศะดีกว่าสองแม่ลูกสกุลจ้าวนั่นจึงลุกขึ้นยืน ทำความเคารพนางตามธรรมเนียม"กระหม่อมหลิวหลางถวายพ
เซียวอี้เซียนกับหยางเทียนหลงกลับมาถึงจวนอ๋องก็เกือบยามซวีแล้ว ท่านอ๋องกับพระชายาแจ้งว่าอีกสามวันจะออกไปท่องเที่ยว สองสามีภรรยารู้ดีว่าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่เอาเรื่องท่องเที่ยวมาบังหน้าเพื่อตามหาคนหยางเทียนหลงส่งเซียวอี้เซียนเข้านอนจากนั้นก็ไปห้องหนังสือฟังรายงานจาก จินฮวนซึ่งเป็นพี่ชายจินฝานและเป็นองครักษ์เพียงหนึ่งเดียวของเขาที่ไม่มีใครรู้จัก หากพูดถึงเรื่องวรยุทธเขาเองยังเป็นรองจินฮวนด้วยซ้ำ"มีอะไรรายงานหรือไม่""ท่านอ๋อง วันนี้มีองครักษ์จากตำหนักองค์ชายใหญ่ไปเฝ้าที่จวนเซียวเกือบยี่สิบคน แต่พวกเขาไม่อาจหลบพ้นคนของท่านอ๋องกับคนของฝ่าบาทได้พ่ะย่ะค่ะ""แล้วเรื่องอื่นๆเล่าสืบได้อะไรอีก""เหมือนสนมจางจะมีความสัมพันธ์กับองค์ชายใหญ่พ่ะย่ะค่ะ""หืม คบชู้หรือเป็นไปได้อย่างไรกัน เสด็จลุงมิใช่คนโง่เขลา แม้พระองค์จะไม่เคยพลิกป้ายนางแต่อย่างไรนางก็ไม่น่าจะเสี่ยงเช่นนี้""นางเป็นคนของราชวงศ์เก่า ฝ่าบาทแต่งนางเข้ามาเพราะสงสารไม่เช่นนั้นนางจะต้องถูกประหารตามธรรมเนียม ยามนั้นนางเพิ่งจะอายุสิบสองปี อีกอย่างฝ่าบาทไม่ได้ต้องการนางจริงๆ แต่งเพราะปกป้องนางพระองค์ก็ทราบนี่พ่ะย่ะค่ะ""อืม ข้
เซียวอี้เซียนที่ตอนนี้เพิ่งจะกลับถึงจวนก็ปรากฏว่าหยางเทียนหลงมารอแล้ว หน้าตาดูโกรธนิดๆ เขารู้ดีว่านางอยากแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อล่อไหม มิเช่นนั้นหากชาวบ้านที่เชื่อคำโกหกลุกฮือขึ้นมานางจะมีอันตรายเซียวอี้เซียนโบกมือให้สาวใช้และองครักษ์ออกไปจากบริเวณจนหมด นางมาถึงก็ยกแขนเรียวคล้องคอของคนตัวโตเอาไว้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างรู้สึกผิด"พี่เทียนหลง เซี่ยนเซี่ยนผิดไปแล้ว วันหลังจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้วเพคะ""ยังจะมีวันหลังอีกหรือเด็กเกเร ก่อนเข้าวังพี่บอกว่าอย่างไร แบบนี้ต้องลงโทษหนักๆแล้ว""ไม่มีวันหลังแล้วเพคะ อะ อื้อ"หยางเทียนหลงรวบร่างบางมาหาก่อนจะก้มหน้าลงจุมพิตนางอย่างหิวโหยเพื่อลงโทษที่นางขัดคำสั่งเขา ออกไปข้างนอกโดยพลการ องค์ชายใหญ่ไม่เหมือนตาเฒ่าสกุลจ้าว เล่ห์เหลี่ยมมากกว่า และมีคนใช้สอยมากกว่า กระทั่งเขาถอนจุมพิตออกจึงเอ่ยเสียงเข้มแฝงไปด้วยความห่วงใย"ต่อไปอย่าทำอะไรโดยไม่บอกอีก พอรู้ว่าเจ้าไปข้างนอกเพื่อล่อเหยื่อพี่อยากจะบินออกจากห้องทรงอักษรเลยเชียว เซี่ยนเซี่ยน หยางต่งมิใช่ตาแก่จ้าวสองพี่น้องนั่น เขามีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย พี่ก
เซียวอี้เซียนยืนขึ้นหลีกทางให้ซุนเจิ้นหนาน ไม่นานเขาก็พยักหน้า มีหมอหญิงสองคนมาตรวจ สตรีนางนั้นไม่ต้องการให้ตรวจนางดิ้นรน กระทั่งมีลูกธนูยิงมา จินฝานสกัดไว้ได้พอดี นางจึงไม่ตาย ใบหน้าซีดเผือด นี่มันฆ่าคนปิดปากหรือไหนว่าแค่แสดงละครไง ก่อนจะหันไปหาภรรยาของจ้าวลี่"เจ้าๆๆ จะฆ่าคนปิดปากหรือ เงินค่าจ้างมาใส่ร้ายเพียงแค่ยี่สิบตำลึง แต่พอไม่สำเร็จก็จะฆ่าคนปิดปาก ยายเฒ่าเจ้าๆๆ พวกคนโกหกหลอกลวง แม่นาง เป็นนางๆที่เอาเสื้อชุดนี้มาให้ เป็นนางที่ให้ข้ามาใส่ร้ายร้านของท่าน ข้าแค่รับเงินแล้วก็ทำงานเท่านั้น"เซียวอี้เซียนยิ้มร้าย และแน่นอนอยู่ในสายตาบุรุษอีกคนทั้งหมด นางฉลาดมากนัก ธนูดอกนั้นไม่ได้จะปลิดชีพ แต่ยิงมาเพื่อทำให้สตรีคนนั้นหวาดกลัวจนคิดไปว่าคนที่จ้างวานมาต้องการฆ่าปิดปากตนจึงเผลอพูดออกมาทั้งหมด มือธนูอยู่ที่ใดกัน หยางเทียนหลงมีองครักษ์คุ้มครองพระชายาของเขากี่คนกันแน่ สตรีในชุดน้ำเงินหน้าซีดก่อนจะเอ่ยกลับไปนางปฏิเสธทุกอย่าง ทำไมมีการฆ่าปิดปาก ทำไมไม่มีใครบอกนางก่อน เซียวอี้เซียนเดินไปหาสตรีที่ถูกกล่าวหาว่าจ้างวานก่อนจะนั่งยองๆใช้มือที่เล็กแต่แข็งแรงราวกับ
สามคนเดินเล่นในตลาด เสี่ยวจงเอารถม้าไปจอดรอ เสี่ยวฮวาวิ่งไปหาขนมกินตลอดทาง เซียวอี้เซียนที่เดินเลือกของอยู่ก็ตรงไปร้านขายธัญพืช นางเจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ กระทั่งหลิวเย่วเดินมาหาก่อนจะเอ่ยทักทาย"พระชายา ไม่เจอเสียนานสบายดีหรือไม่เพคะ""อ้อ คุณหนูหลิว ท่านสบายดีหรือไม่ สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง""ก็ดีเพคะ เรื่องจดหมายที่ส่งมาหม่อมฉันได้อ่านแล้ว""ท่านตัดสินใจอย่างไรหรือคุณหนูหลิว""เดิมทีหม่อมฉันรังเกียจท่านที่งดงามมากกว่า จึงหลอกล่อให้ท่านแต่งกายราวกับคนไว้ทุกข์ตลอดเวลา มาบัดนี้ถึงรู้ว่าความงามมิอาจมัดใจบุรุษเช่นจ้าวเฉิงได้ เมื่อมีของใหม่เขาก็พร้อมทิ้งขว้างคนเก่า""อย่าให้ค่าคนเช่นนั้นเลย จริงอยู่เด็กไร้บิดาอาจไม่ดี แต่บิดาเช่นจ้าวเฉิง..เฮ้อ...ท่านอยากให้บุตรของท่านเรียกคนเช่นนั้นว่าพ่อจริงๆหรือ ดูตัวอย่างจ้าวเฉิงสินี่คือการเลี้ยงดูจากสกุลจ้าว คุณหนูหลิวสกุลจ้าวไร้ผู้สืบทอด คุณชายรองทิ้งแซ่จ้าวไปใช้แซ่มารดาแล้ว หากเด็กในครรภ์ของท่านเป็นบุรุษนับว่าดีไป หากเป็นบุตรสาวเล่า ท่านยังจะกลับไปกลับมาสกุลหลิวและสกุลจ้าวได้หรือ มิกลัวว่าจะทำให้บรรพบุรุษของท่านนอนสะดุ้ง
หยางเทียนหลงที่กำลังพูดคุยกับเด็กชายสกุลเฉิน เด็กน้อยพยายามที่จะให้เขาช่วยตามหาสกุลเซียว หยางเทียนหลงมองหน้ากับเซียวอี้เซียน ก่อนที่นางจะเอ่ยถามเด็กชาย"เจ้าบอกว่าอยากตามหาคนสกุลเซียวหรือ""ขอรับพี่สาว ข้าตามหาท่านปู่เซียวหาน"หยางเทียนหลงกับเซียวอี้เซียนถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับเด็กน้อยที่นอนอยู่"ข้าแซ่เซียว เป็นหลานสาวคนเดียวของท่านปู่เซียวหาน ท่านปู่หายไปสองปีแล้วมีคนบอกว่าท่านปู่ของข้าตายไปแล้วแต่ข้าไม่เคยเชื่อเช่นนั้น""พี่สาว ท่านแซ่เซียวจริงๆหรือ คงมิได้หลอกลวงข้าหรอกกระมัง""เจ้าหนู ข้าแซ่เซียวจริงๆ บิดาข้าคือเซียวหง มารดาของข้าคือไป๋จินหวน ท่านปู่เจ้าคงเอ่ยถึงบ้างกระมัง""เซียวหงหรือ..ข้าเคยเจอท่านอาเซียวคนนั้นเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นท่านปู่หานพาเขาไปหาท่านปู่ของข้าเพื่อพูดคุย เขายังสนทนากับบิดาของข้าเลยขอรับ""บิดาของข้าไปดูสถานที่สร้างเมืองหลวงใหม่หรือ สถานที่สร้าง มิใช่หมู่บ้านอี้ห่างเมืองหลวงนี้ไปสองร้อยลี้หรอกหรือ""มิใช่ขอรับ สถานที่สร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ ห่างไปสองร้อยห้าสิบลี้ขอรับ คือว่า บ้านของข้าถูกคนค้น ฮึกๆๆคนในตระกูลถูกฆ่าตาย เพราะพวกเขาต
เซียวอี้เซียนที่พยายามเอามือตนเองออกจากการกอบกุมของสตรีอีกคน หรานซิ่วเอ๋อร์รู้ตัวจึงปล่อยมือบาง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ที่เซียวอี้เซียนแน่ใจว่านางมิได้รู้สึกผิดจริงๆอย่างที่กล่าวออกมา"ขอประทานอภัยเพคะ พระนางอย่าถือสาหม่อมฉันเลย จริงสิเพคะหม่อมฉันได้ยินว่าอีกไม่กี่วันพระนางจะไปไหว้พระ หม่อมฉันอยากตามเสด็จไปด้วยเสียจริงๆ อยากไปขอพรให้ท่านย่าที่กำลังป่วยอยู่""แต่ข้าได้ข่าวมาว่าท่านต้องเข้าวังมิใช่หรือ เวลานี้เริ่มเย็นแล้วคุณหนูรองถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องกลับจวนก่อน หากท่านอ๋องกลับมาไม่เจอข้าที่จวน จะทรงกังวลพระทัยได้"เซียวอี้เซียนเดินจากไป เสี่ยวฮวาเดินตามหลัง หรานซิ่วเอ๋อร์มองสาวน้อยในชุดสาวใช้สีเขียวสลับขาว เพียงแค่สาวใช้ตัวน้อยยังงามเพียงนี้ สกุลเซียวซ่อนสาวงามไว้มากมายเท่าไหร่กันนะ หรานซิ่วเอ๋อร์นึกถึงใบหน้างดงามของฉีฮุ่ยหมิ่นอีกคนที่อยู่ในวัง หยางเทียนหลง หยางเฟยหยางพวกเจ้าบุรุษน่าตายสองคนนี่ มีสิทธิ์อันใดได้ครอบครองสาวงามถึงเพียงนี้กัน กระทั่งคนข้างกายของนางเตือนว่าคนขององค์ชายใหญ่กำลังเดินมา หรานซิ่วเอ๋อร์จึงได้หยุดความคิดทุกอย่างหยางเฮ
เสี่ยวฮวาเตรียมขนมกับน้ำไว้ให้เด็กๆ ตอนนี้นางนั่งกินขนมแกว่งชิงช้าเล่นที่สวนดอกไม้เพื่อรอพระชายาของนาง มีบางคนกำลังเดินมาหา เขานั่งลงบนชิงช้าตัวเดียวกับนาง"ท่านอาจิน ท่านไม่ไปเฝ้าท่านอ๋องหรือเจ้าคะ อีกอย่างชิงช้าเล็กเพียงนี้ นั่งสองคนมันเบียดกันท่านตัวโตยิ่งนัก""เจ้านั่งตักข้าสิ จะได้ไม่เบียด อีกอย่างท่านอ๋องมีเรื่องสำคัญจะคุยกับสองพี่น้องสกุลเฉิน จึงให้ข้ามาเฝ้าด้านนอก นั่นเจ้ากินอะไรอยู่เสี่ยวฮวาน้อย ""ท่านอาจิน เฮ้อ ข้าเชื่อท่านเลย นี่เป็นขนมที่พระชายาทรงทำเอาไว้เพื่อมาเยี่ยมสองพี่น้อง แล้วก็แจกเจ้าขอทานน้อยเหล่านั้น จริงสิ ท่านเรียกข้าเซียวเสี่ยวฮวาเถอะ เสี่ยวฮวาน้อยเหมือนกับว่าข้าอายุสามขวบ ฟังแล้วดูยังไม่โต ข้าปักปิ่นแล้วนะ""งั้นเจ้าก็ออกเรือนได้แล้วสิ""ตามธรรมเนียมน่ะใช่ แต่ว่าข้าไม่แต่งงานหรอก ข้าจะเลี้ยงซื่อจื่อกับท่านหญิงให้พระชายาของข้า""แต่ข้าอยากแต่งนี่ ข้าอยากมีลูกชายลูกสาวหลายๆคน"เสี่ยวฮวาก้มหน้า ท่านอาจินพูดอะไรกันนั่น หมายความว่าอย่างไร เขาอยากมีลูกก็ไปหาภรรยาของตนสิ มาบอกนางทำไม"อืม..ท่านก็ไปบอกภรรยาท่านสิ มาบอกข้าทำไม""เส