บุรุษต่างวัยมองหน้ากันจากนั้นก็พยักหน้าเดินตามเซียวอี้เซียนไปทางสวนหลังจวน ปกติที่ตรงนี้มิค่อยมีคนมาเท่าไหร่ บุตรสาวเขาพามาทำไมกัน จนกระทั่งทั้งหมดมาถึงหลังภูเขาจำลอง เซียวอี้เซียนก็พาทั้งคู่มานั่งลงที่แอ่งน้ำแอ่งเล็กๆที่นางสร้างขึ้นมา จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้น"ท่านพ่อท่านสามารถทำให้น้ำในแอ่งลึกที่ข้าขุดผันมายังเส้นทางน้ำด้านบนที่สูงกว่าได้หรือไม่เจ้าคะ""อืม..แอ่งน้ำของเจ้ามันต่ำเพียงนั้นจะผันน้ำให้ขึ้นมายังทางระบายน้ำนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ มีเพียงน้ำล้นแอ่งเท่านั้นเอง""อืม..บิดาเจ้ากล่าวถูกแล้ว ว่าแต่หลานพาพวกเรามาทำไมหรือเซี่ยนเซี่ยนหรือว่าเจ้ามีวิธี""ท่านปู่เจิ้นหนาน ท่านพ่อข้ามีวิธีแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับฝ่าบาท แต่วันนี้อยากให้ท่านพ่อรับปากข้าสักเรื่องหนึ่งก่อนเจ้าค่ะ""ลูกบอกว่ามีวิธีหรือ หนังสือสามเล่มที่เจ้าเขียนถวายฝ่าบาทนั้นคือวิธีแก้ภัยแล้วใช่หรือไม่เซียนเอ๋อร์""ท่านพ่อ...ในนั้นลูกเขียนเพียงความเป็นไปได้เท่านั้น หากฝ่าบาทอยากแก้ปัญหาจริงๆลูกพอจะช่วยพระองค์ได้เจ้าค่ะ""แล้วเจ้ามีวิธีอันใดหรือเซี่ยนเซี่ยน ปู่รู้ว่าเจ้าฉลาดเจ้ามีเลือดของท่านปู่เจ้าอยู่ในตัวสายเลือดสกุลเซียวย่อมต้องเ
เซียวอี้เซียนกินมื้อค่ำเรียบร้อยก็กลับห้องนอน และมีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ที่ห้องนาง ดีที่เสี่ยวฮวาไม่อยู่นางไล่ให้ไปพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว องครักษ์คนนี้คือคนที่ฮ่องเต้ส่งให้มาคุ้มครองนาง แต่เหตุใดเขาดูเอาแต่ใจเหลือเกิน เซียวอี้เซียนจำต้องเอ่ยออกไปอย่างข่มขู่"องครักษ์ท่านนี้ ฮ่องเต้ส่งท่านมาคุ้มครองข้าหรือส่งท่านมาคุกคามข้ากันแน่""คุณหนูเซียว....ข้ามาตรวจความปลอดภัยของท่าน เผื่อมีคนของสกุลจ้าวลักลอบเข้ามาจะทำเช่นไร""นี่ท่านองครักษ์ ข้ากำลังจะแต่งงาน หากมีใครรู้ว่ามีบุรุษมาพบข้ายามวิกาล อีกทั้งยังเป็นที่รโหฐานจะให้ข้าแก้ตัวแก่คู่หมั้นเช่นไร""ดูเหมือนคุณหนูเซียวจะให้ความสำคัญกับท่านอ๋องเสียจริงๆนะ""ย่อมต้องเป็นเช่นนั้นเขาคือคนที่จะมาเป็นสามีของข้า ท่านออกไปเถอะข้ามิเป็นอันใดหรอก"หยางเทียนหลงอมยิ้มก่อนจะเดินออกไป เขาหยุดที่ประตูแล้วหันกลับมาเอ่ยถามนาง"คุณหนูเซียวท่านชอบหนิงอ๋องหรือไม่""จะว่าไปนี่เป็นเรื่องข้าสองคนสามีภรรยา ท่านมีหน้าที่มาแค่ดูแลความปลอดภัยของข้ามิใช่หรือ เหตุใดซอกแซกนัก ข้าอยากรู้เสียแล้วว่าท่านใช่คนของฮ่องเต้แน่หรือเปล่า แน่นอนท่านคิดว่าข้าคงกลัวเรื่องเสียชื่อเสียงหา
เซียวอี้เซียนได้แต่ยิ้มแห้งๆ นางสงสารเซียวอี้เซียนคนเดิมยิ่งนัก นางจะรู้ไหมว่านางมีคนรักมากมาย เหตุใดต้องโทษตนเองจนสุดท้ายชีวิตตนเองก็รักษาไม่ได้ ดรุณีน้อยยิ้มให้หญิงชราก่อนจะเอ่ย"ท่านย่า ในยามนั้นท่านปู่เมาจึงรับปากเขาไป มาตอนนี้คิดๆดูแล้วคืนนั้นท่านปู่ถูกสองพี่น้องสกุลจ้าวมอมเหล้าหรือเปล่าเพื่อหลอกล่อให้รับปาก""เฮ้อ..คนจากไปชาก็เย็นชืด สองพี่น้องสกุลจ้าวจิตใจชั่วร้าย เซี่ยนเซี่ยนหลานต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ อีกอย่างแต่งงานไปแล้วเรื่องหลังบ้านต้องระวัง รีบมีบุตรเสียเพื่อจะได้มัดใจสามี หากรั้งนานเกินไปหนิงอ๋องอาจหาคนมาอุ้มท้องแทนเจ้า""ท่านย่า ต่อให้หลานคลอดบุตรชายออกมาสิบคน หากบุรุษไร้ใจรั้งเช่นไรก็มิอาจรั้งได้นะเจ้าคะ""เซี่ยนเซี่ยน...ดับไฟใต้กะทะไม่สู้ถอนฟืนออกจากเตาเสีย จงอย่าประมาท ว่าแต่เรื่องบิดาของเจ้าเหตุใดคิดว่าเขาจะได้รับตำแหน่งกัน""ทำท่านย่าเป็นห่วงแล้วหลานอกตัญญูยิ่งนัก เอ่อ..ท่านย่าเจ้าคะ ตอนที่ท่านปู่ยังอยู่มักเรียกข้าไปสอนตำราและการทำงาน เนื่องจากท่านพ่อสุขภาพไม่ดี ท่านปู่ไม่อยากให้วิชาที่ท่านปู่ศึกษามาต้องสูญหายจึงยอมให้หลานเรียนรู้ หลานทำบางอย่างก็เพื่อให้เรายืน
ทางด้านฮูหยินเฒ่าสกุลจ้าวที่เห็นหญิงชราตรงหน้าถึงกับตะลึง อาภรณ์ที่นางสวมใส่ช่างงดงามนัก ผ้าไหมชั้นดีสีม่วงอ่อนสวมอยู่ด้านใน เสื้อคลุมสีม่วงเข้มปักลายคลื่นเมฆด้วยด้ายสีทอง ปิ่นปักผมแม้จะเพียงแค่ชิ้นเดียวแต่กลับเป็นหยกเนื้อดีสีเขียว แกะเป็นลายนกเพิ่งหวง ลูกตาของนกใช้อัญมณีสีแดงราวกับว่านกมีชีวิต ปิ่นที่แกะสลักลวดลายละเอียดยิ่งนักส่วนไป๋จินหวงภรรยาของเซียวหงแต่กายด้วยอาภรณ์สีขาว เสื้อคลุมสีฟ้าปักปิ่นหยกแกะสลักเป็นรูปดอกหลันฮวา เซียวหงที่สวมอาภรณ์สีขาวปีกลายใบไผ่สีฟ้าเข้ม ดูคล้ายชุดคู่ของสามีภรรยา นางยิ่งกำมือแน่น สามีของนางจ้าวอันป๋อมองภรรยาของเซียวหงไม่วางตา นางจิ้งจอกแพศยามีสามีอยู่แล้วยังยั่วยวนบุรุษ นางจึงเอ่ยออกมาทักทายคนสกุลเซียว"ไท่ฮูหยินท่านสบายดีหรือไม่ เรื่องของจ้าวเฉิงกับอี้เซียนคงทำให้สกุลเซียวอื้อฉาวไม่น้อย เฮ้อ ทำอย่างไรได้หลิวเย่วนางก็ไม่ผิด เด็กทั้งสองคนรักกัน ข้าจะพรากคู่รักก็ทำไม่ได้ เรื่องนี้สกุลจ้าวมิใช่ไม่เสียใจ"ท่านย่าของจ้าวเฉิงใช้ผ้าซับน้ำตาที่หางตาเบาๆ เซียวอี้เซียนกลอกตามองบน ท่านย่าของนางจึงเอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"อืม..ฮูหยินท่านอำมาตย์กล่าวเกินไปจร
คนของตำหนักอ๋องส่งรายการสินสอดให้กับไป๋จินหวน นางรับเอามาก่อนจะได้ยินเสียงพระชายาเอ่ยสำทับ"เซียวฮูหยิน..รายการสินสอดนั้นเป็นเพียงเพชรนิลจินดาทั่วไปไม่กี่แสนตำลึงท่านนำไปเก็บเถอะ ส่วนที่ประกาศคือสินสอดที่ข้ากับท่านอ๋องตั้งใจนำมาแต่งสะใภ้น่ะ พ่อบ้านหวางประกาศเถอะ""พ่ะย่ะค่ะพระชายา รายการสินสอดมีดังนี้ เงินตำลึงจำนวนสองล้านตำลึงทอง ร้านค้าคูหาตรอกอี้ผิงทั้งตรอกจำนวนยี่สิบห้อง ที่ดินทิศตะวันออกแปดร้อยหมู่ ร้านขายเครื่องเรือนตรอกผิงอันสามห้อง ร้านธัญพืชสองห้อง นายท่านเซียวผ้าไหม เครื่องประดับล้ำค่า ภาพวาด โสมชั้นดีสำหรับบำรุงไท่ฮูหยินล้วนอยู่ในรายการที่มอบแด่เซียวฮูหยินเรียบร้อยแล้วขอรับ"ทันทีที่พ่อบ้านจวนอ๋องประกาศรายการสินสอดชิ้นใหญ่จบก็มีเสียงฮือฮาที่หน้าจวน ตรอกอี้ผิงทั้งตรอกเป็นที่ดินพระชายา ห้องทั้งยี่สิบห้องหากขายไปทำเงินได้ไม่ต่ำกว่าห้าล้านตำลึง ไหนจะร้านเครื่องเรือนและร้านธัญพืชที่ตำหนักชินอ๋องผูกขาดการค้าอีก เสียงซุบซิบดังอื้ออึงทันที"คุณหนูเซียวช่างมีวาสนายิ่งนักเจ้าว่าหรือไม่""นั่นน่ะสิ วันก่อนข้าได้ยินคนสกุลหลิวกับสกุลจ้าวดูหมิ่นนางอยู่เลย มาวันนี้ได้เป็นพระชายาอีกทั้งสิน
หยางเทียนหลงเปลี่ยนจากอมยิ้มเป็นสีหน้าจริงจังก่อนจะนั่งลง มองหน้าสตรีตรงหน้าอย่างนับถือ นางรู้ว่างานแต่งงานครั้งนี้เขามีผลประโยชน์แอบแฝง เดิมเขาไม่ได้ต้องการเมียจริงๆแต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้วนางนี่แหละคู่ควรที่สุดที่จะเป็นแม่ของลูกเขา ไหนๆก็แต่งแล้วทำให้นางรักเขาคงไม่ยากนักหรอก ตอนนี้เอาเรื่องตรงหน้าก่อน"ข้าขอเอ่ยตามตรง เอาเป็นว่าข้าชอบเจ้านะคุณหนูเซียว เจ้าจริงใจและกว้างเปิดเผยงั้นข้าจะพูดตรงๆ ข้าต้องการแผนผังก่อสร้างเมืองจำลองที่ปู่เจ้าวาดแบบร่างเอาไว้ แต่นี่ไม่เกี่ยวกับที่ข้าแต่งเจ้ามา""หม่อมฉันทราบ เพราะด้วยฝีมือย่องเบาของพระองค์หากต้องการขโมยคงไม่ยาก ตรัสมาเถอะเพคะว่าต้องการอะไร""ข้าต้องการบิดาเจ้ามาเป็นคนคุมการก่อสร้าง แต่เขาห่วงใยเจ้ามากเกินไปไม่ยอมสานต่อเจตนารมณ์ท่านปู่ของเจ้า คุณหนูเซียวบิดาเจ้านับไปก็แก่กว่าข้าเพียงห้าปี ข้านับเป็นน้องชายของเขาได้เลย เรื่องทุกอย่างของเขาจึงมิพ้นหูตาของข้าเท่าไหร่นัก""หึ..ตาแก่เอ๊ย แก่แล้วยังหลงตัวเอง""หืม...ว่าอะไรนะเซี่ยนเซี่ยน""เปล่าเพคะ ท่านอ๋องเอาเป็นว่าหม่อมฉันขอบพระทัยที่กู้หน้าคืนให้กับสกุลเซียว พรุ่งนี้ในท้องพระโรงทรงสนับส
สองพ่อลูกคุยกันอีกพักหนึ่ง เซียวหงก็ลุกขึ้น บุตรสาวเข้ามาประคองเขาทั้งคู่เดินลงมาจากศาลาก่อนจะไปยังเรือนกลางเพื่อรับมื้อค่ำ ไป๋จินหวงและไท่ฮูหยินที่ตอนนี้ยิ้มหน้าบาน เพราะสินสอดที่ทางตำหนักอ๋องส่งมานั้นมากมายจนเก็บแทบไม่หมด ยังมีเงินตำลึงอีกสองล้านตำลึงที่ทางหนิงอ๋องส่งมาในหีบไม้เพื่อให้เซียวอี้เซียนนำไปเป็นสินเดิมของตนเองอีกด้วยฝ่าบาทพระราชทานสินเดิมให้นางติดตัวกว่าหนึ่งล้านตำลึงทอง รวมถึงที่ดินและร้านค้า ทรงพระเมตตานางยิ่งนัก มีเพียงเซียวอี้เซียนที่รู้ดีว่าฮ่องเต้ทำำเช่นนี้ทำไม หึๆ สิ่งที่นางให้ลู่กงกงนำไปในวันที่มาประกาศราชโองการเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับแผ่นดินต้าฉิน หนึ่งล้านตำลึงทองนี่คือซื้อมันสมองของนางจะได้ไม่ติดหนี้บุญคุณนาง และทรงอาศัยจังหวะที่นางจะแต่งงานเป็นทางผ่านในการส่งมอบ ใช้ข้ออ้างว่าให้เป็นสินเดิมนางติดตัว สองพ่อลูกทักทายทั้งสองคนที่กำลังมีความสุขกันอยู่"ท่านย่า ท่านแม่พวกท่านดีใจอันใดกันอยู่หรือเจ้าคะ"เซียวอี้เซียนเลื่อนเก้าอี้ให้บิดา ทั้งสี่คนนั่งกินมื้อค่ำกันไปคุยกันไปแต่ไม่มีใครเอ่ยเรื่องสำคัญ เพราะยังคงไม่สามารถไว้ใจผู้ใดได้ กระทั่งมื้อค่ำผ่านไป มารดาก็พาท่านย่า
คนตัวโตไปแล้ว เซียวอี้เซียนขนลุกตอนที่ลมหายใจเขาปะทะที่ซอกคอ แม้ว่าเขาจะจากไปแล้วแต่กลิ่นกายและไอร้อนของเขายังเหลืออยู่ นางนอนเอาผ้าปิดหน้าก่อนนจะกรี๊ดเบาๆเหมือนสาวๆที่คลั่งดาราหรือเน็ตไอดอล ในยุคที่นางจากมาหลังจากที่หยางเทียนหลงไปแล้ว เซียวอี้เซียนก็นอนหลับ ตกดึกนางรู้สึกว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอกห้อง ไม่น่าจะใช่เขา หยางเทียนหลงเคลื่อนไหวเบามาก ถึงตัวนางแล้วนางยังไม่รับรู้เลย นี่ไม่ใช่เขาแน่นอน เซียวอี้เซียนลูกจากที่นอนก่อนจะเดินเข้าห้องเล็ก มีทางออกจากทางด้านหลัง ตอนมาใหม่ๆนางสร้างไว้เองเพราะไม่ไว้ใจคนสกุลจ้าว พยายามเงี่ยหูฟังจึงได้ยิน"เจ้าพ่นยาสลบหรือยัง หึได้ยินว่านางงามมากนัก คืนนี้พวกเราได้ขึ้นสวรรค์แน่ๆ""ชู่เบาๆสิ สาวใช้ของนางก็หน้าตาน่ารัก เอาไปด้วย หึเป็นศัตรูกับสกุลจ้าว นางช่างไม่เจียม""คิดว่าเป็นคู่หมายหนิงอ๋องแล้วจะรอดหรือ หากนางเป็นเมียข้ากับเจ้าแล้วหนิงอ๋องยังจะอยากได้นางอยู่อีกหรือ ฮ่าๆ พ่นยาสลบได้แล้ว"คนร้ายด้านนอกเจาะรูก่อนจะสอดท่อไม้ไผ่เข้ามาในห้อง เซียวอี้เซียนออกมาจากห้องเล็ก นางใช้ผ้าปิดจมูกก่อนจะเอาเศษผ้าอุดรูปล้องไม้ไผ่ ทั้งคู่เป่าเท่าไหร่ก็รู้สึกว่
เสียงในห้องเงียบไปแล้ว บนเตียงฉีฮุ่ยหมิ่นนอนหนุนแขนของหยางเฟยหยางอยู่ นางตะแคงกอดเขาเอาไว้ มือหนาลูบหลังนางปลอบโยน เอ่ยด้วยถ้อยคำรักใคร"หมิ่นเอ๋อร์ลำบากเจ้านัก หากพี่ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาความรักของเราคงจะดีกว่านี้""ทรงแน่ใจหรือเพคะว่าจางลี่เฟยเป็นคนวางยาฮองเฮาพระองค์ก่อนจริงๆ นางทำได้อย่างไรกันนางเป็นเพียงสนมที่ฝ่าบาทไม่เคยพลิกป้ายด้วยซ้ำ""นางมีคนช่วย และคนๆนั้นก็มีอำนาจมากพอ เอาล่ะพี่ต้องไปแล้วอยากอยู่กับเจ้าทั้งคืนจริงๆไม่อยากห่างเลย เรื่องของหลานซิ่วเอ๋อร์เด็กดีเจ้าอดทนหน่อยนะ วันหน้าพี่จะชดเชยให้เจ้าเอง""เพคะ ขอแค่พระองค์ปลอดภัยหม่อมฉันยินดีอดทนทุกอย่าง"หยางเฟยหยางลุกขึ้นรั้งนางขึ้นมากอด เขาอยากรักนางมากกว่านี้แต่ทำไม่ได้ มีแค่ต้องเกลียดชังนางเพราะตระกูลของนางไร้บุรุษแล้วมีเพียงบ่าวไพร่และท่านย่าชราเท่านั้น นี่เป็นการปกป้องคนในครอบครัวนางด้วยฉีฮุ่ยหมิ่นลุกมาหยิบอาภรณ์แล้วส่งให้เขา หยางเฟยหยางเข้าใจจึงกระชากแล้วฉีกมันออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เขาใช้ปิ่นปักผมกรีดฝ่ามือตนเองก่อนจะหยดเลือดลงบนที่นอนว่าเขากับนางได้เข้าหอกันครั้งแรก ฉีฮุ่ยหมิ่น
หยางเฟยหยางกลับมาถึงตำหนักบูรพาก็ตรงไปหาฉีฮุ่ยหมิ่นทันที ไม่ได้เขาต้องทำอะไรสักอย่างแล้วไม่เช่นนั้นแม่ตัวดีหลานซิ่วเอ๋อร์แทรกแซงแน่ๆ สตรีน่าตายนั่นหากไม่ใช่เพราะนางต้องสืบความลับให้กับเขาละก็เขาคงไม่เอาไว้แล้ว เมื่อเข้ามาถึงก็ถามหาพระชายาทันที แต่เงาดำพาดผ่านนอกตำหนักทำให้เขาไม่รีบร้อนจนเกินไป ดูท่าคนขององค์ชายใหญ่หรือสนมจางคงมาดูลาดเลาเพื่อไปรายงาน หยางเฟยหยางจึงออกอาการเกรี้ยวกราดเรียกคนด้านใน "ฉีฮุ่ยหมิ่นออกมานะข้ามีเรื่องต้องคุยกับเจ้า"เสียงเรียกดังกังวาน น้ำเสียงฟังก็รู้ว่าเขากำลังโมโห ซีซีหน้างอง้ำ มาถึงก็โวยวายคนอะไรหาเรื่องได้ทุกวัน ไม่หาเรื่องคนจะตายหรือไงกันนะก่อนจะเอ่ยแก่นายสาวของตน"พระชายา รัชทายาทมาหาเรื่องอีกแล้วเพคะ""อืม เจ้าออกไปเถอะ เดี๋ยวจะถูกลูกหลงเอาได้""แต่ว่า...""ไปเถอะ ข้าจะออกไปรับเสด็จน่ะ"ซีซีสวมเสื้อคลุมให้กับนายของตน จากนั้นทั้งคู่ก็มายังห้องโถง หยางเฟยหยางส่งสายตามายังร่างบางด้วยความเสน่หา ก่อนจะปรับเป็นสายตาเกรี้ยวกราดเอ่ยปากต่อว่านาง เสียงดังจนเหล่าข้ารับใช้สะดุ้ง"ฉีฮุ่ยหมิ่น นับวันเจ้าช่างใจกล้านักนะ แค่ซิ่วเอ๋อร์นาง
หยางเทียนหลงเสร็จจากข่มขู่หรานซิ่วเอ๋อร์ก็รีบกลับมายังจวนเซียวเพื่อรับพระชายาของตน ร่างสูงมาถึงก็เห็นเซียวอี้เซียนกำลังแยกเมล็ดพันธุ์พืชอยู่ ใบหน้านวลมีรอยยิ้มทุกครั้งที่นางได้ทำงาน หยางเทียนหลงเดินมาหาคนตัวเล็กที่กำลังเขียนชื่อของพืชชนิดต่างๆ เซียวอี้เซียนกำกับว่าพืชชนิดใดเหมาะกับดินแบบใด ท่านย่าของนางช่างเก่งกล้าสามารถยิ่งนัก เมื่อนางเงยหน้าก็เห็นคนที่นางคิดถึงมายืนตรงหน้า"ท่านอ๋อง...ทรงมาแล้วหรือเพคะ ทรงรอหม่อมฉันรอสักครู่หม่อมฉันจะไปอุ่นอาหารให้นะเพคะ""อย่าเลย พี่ยังไม่หิว น้องหญิงเจ้าทำอะไรอยู่ เริ่มจะค่ำแล้วกลับจวนอ๋องก่อนเถอะ""หม่อมฉันแยกเมล็ดพันธุ์อยู่เพคะ จริงสิวันนี้ทรงไปจัดการเรื่องชิ้นส่วนเรียบร้อยดีหรือไม่เพคะ""อืม..วันพรุ่งนี้พร้อมที่จะติดตั้งแล้ว เสด็จลุงจะทรงเสด็จไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เอง แต่เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้""แล้ว เรื่องความปลอดภัยของฝ่าบาท""เรื่องนี้อย่ากังวลลู่เสวียนวางแผนการไว้หมดแล้ว อย่าเห็นว่าปกติลู่กงกงเป็นคนแก่ชรา ท่านลุงของลู่เสวียนคนนี้ฝีมือติดหนึ่งในสิบของยุทธภพเชียวนะน้องหญิง"เซียวอี้เซียนยิ้มให้เขา จากนั้นนางก็เก็บพันธุ์พืชเข้ากล่องที่แย
หรานซิ่วเอ๋อร์เดินมาถึงก็จับมือแล้วโอบเอวบางให้ลงมา ยามนี้เซียวอี้เซียนอยู่ในอ้อมกอดของนาง องครักษ์ต่างมองหน้ากัน เซียวอี้เซียนค่อยๆเอาตัวเองออกมาก่อนจะเอ่ยขอบคุณหรานซิ่วเอ๋อร์เบาๆ"ขอบคุณมากคุณหนูรอง ท่านมิใช่มาพบไท่จื่อเฟยหรอกหรือ เข้าด้านในกันเถอะ เอ่ออีกเรื่องไท่ฮูหยินนางป่วยอยู่คุณหนูรองหวังว่าท่านจะรู้ว่าอะไรควรพูดมิควรพูด""พระชายาวางใจ หม่อมฉันรู้ดีว่างสิ่งใดควรกล่าวเพคะ ไปกันเถอะ หม่อมฉันช่วยประคองนะเพคะ"เซียวอี้เซียนโบกมือแล้วส่งสายตาให้เสี่ยวฮวา สาวใช้ตัวน้อยรีบเข้ามาประคอง หรานซิ่วเอ๋อร์มองหน้าเซียวอี้เซียนอย่างหลงใหล แม้แต่เสี่ยวฮวานางยังมองราวกับจะกลืนกิน เสี่ยวฮวาลูบต้นแขนตนเองรู้สึกขนลุกปลกๆยามที่คุณหนูรองสกุลหรานคนนี้มองมายังนางทั้งหมดเข้ามายังลานด้านใน พ่อบ้านไปบอกแล้วว่าพระชายาหนิงอ๋องมาหา ฉีฮุ่ยหมิ่นเดินออกมายิ้มแย้มกับเซียวอี้เซียน แต่เมื่อเห็นหน้าอีกคนรอยยิ้มก็หายไปจากใบหน้างดงามทันที หรานซิ่วเอ๋อร์คนนี้คือคนของลี่เฟย นางมาจวนฉีทำไม่กัน กระทั่งเสียงอ่อนหวานดังมาจากหรานซิ่วเอ๋อร์"หม่อมฉันหรานซิ่วเอ๋อร์ ถวายพระพรไท่จื่อเฟยเพคะ""เฮ้อ..ตามส
หลังจากที่เซียวอี้เซียนจากไปแล้ว หลิวต่งก็ไปหาน้องสาวที่เรือน เขาเห็นร่างที่เริ่มอุ้ยอ้ายของหลิวเย่วที่กำลังจะลุกมาหาก็โบกมือห้ามปราม ก่อนจะเดินไปนั่งตรงกันข้าม พรชายาพูดถูกจวนเขามิได้มีแต่คนภักดี"เสี่ยวชุ่ย ไปเฝ้าด้านนอกอย่าให้ใครเข้ามากวน บอกไปว่าคุณหนูเพลียอยากนอนต้องการความสงบ บ่าวไพร่เหล่านั้นไม่ต้องมากวาดลานบามนี้""เจ้าค่ะคุณชายใหญ่"สาวใช้เสี่ยวชุ่ยออกไปแล้ว หลิวต่งจึงเอ่ยปากพูดคุยกับน้องสาว หลิวเย่วรู้ดีว่าพี่ชายรักและเป็นห่วงนางจึงนั่งฟังเขาไม่ขัดคอ"เย่วเอ๋อร์ เจ้าลืมไอ้คนสาระเลวจ้าวเฉิงได้หรือยัง""ข้าไม่อาวรณ์แล้วเจ้าค่ะพี่ใหญ่ จะว่าไปก็อิจฉาพระชายาที่นางสามารถหลุดพ้นคนอย่างจ้าวเฉิงไปได้ อนาคตนางมีแต่หนทางสว่าง""พระชายาจะไปไหว้พระในอีกสามวัน นางให้ข้ามาบอกว่าหากเจ้าอยากไปด้วยนางก็ยินดี""พี่ใหญ่ บอกตามตรงข้าไม่กล้าสู้หน้านาง ที่ผ่านมาข้าวกับจ้าวเฉิงเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของนาง ทำให้นางกลายเป็นตัวตลก สกุลเซียวต้องเป็นที่หัวเราะเยาะของผู้คนทั่วเมืองหลวง พี่ใหญ่ นางดีกับข้าเพียงนี้ ข้ารู้สึกละอายใจ""เฮ้อ...พระชายาทายไม่ผิด เจ้าต้องเอ่ยเช่นนี้ เย่วเ
สองชายชรามองหน้ากันทันที บ้านก็ไขายไม่ออก คนเช่าก็ไม่มีมานับแต่เกิดเรื่อง มาวันนี้นางยังจะเอาแต่ใจให้คนมาอาศัยในบ้านที่พวกเขาลงทุนอีก เซียวอี้เซียนคนนี้เหตุใดถึงได้กล่าวเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาได้กัน หลิวเว่ยกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์นิดหน่อย"พระชายา บ้านเหล่านั้นตอนมาจำนองทรุดโทรมอย่างมาก เมื่อเจ้าของไถ่คืนไม่ไหวพวกเราก็ต้องซ่อมแซมเพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่า ค่าซ่อมแซมแน่นอนว่าใช้เงินตำลึงไม่น้อยนะพ่ะย่ะค่ะ""จริงของหลิวเว่ย พระชายาสกุลหลิวมีรายได้มาจากการให้เช่าบ้านและปล่อยกู้ ยามนี้หากไม่มีบ้านให้เช่าลำพังเงินเดือนเจ้ากรมกับอดีตเจ้ากรมคงไม่พอเลี้ยงคนกว่าร้อยชีวิตนะพ่ะย่ะค่ะ"สองพี่น้องสกุลหลิวเอ่ยออกมา หลิวต่งเองก็ให้ไม่พอใจเท่าไหร่ นางบอกว่าจะมาเจรจานี่มันเป็นการเจรจาที่ไหนกันนางตั้งใจมาแล้วชัดๆ กระทั่งเซียวอี้เซียนยกยิ้มมุมปากก่อนจะส่งสัญญาณ แม่นมจางและชุ่ยเหยียนรู้ว่าพระชายาต้องการสิ่งใดจึงเดินมาส่งม้วนกระดาษให้กับหลิวหลางเมื่อชายชรารับมาอ่านก็ตาเบิกโพลง นี่มันค่าตอบแทนมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ที่สำคัญตำแหน่งที่นางมอบให้เขานั้นนับว่าสูงกว่าตำแหน่งอำมาตย์ฝ่า
เซียวอี้เซียนที่สั่งให้ลงโทษสองแม่ลูกสกุลจ้าวก็เดินผ่านร่างของทั้งคู่ไปโดยไม่ใส่ใจ ไม่นานเรื่องที่เยี่ยหรานและจ้าวเฉิงดูหมิ่นพระชายาหนิงอ๋องและถูกศาลราชวงศ์ลงโทษด้วยตนเองก็กระจายไปทั่วเมืองหลวง ปากต่อปากจากเพียงแค่ดูหมิ่นพระชายากลับขยายไปว่าจ้าวเฉิงลงมือทำร้ายพระชายา หลิวต่งคุณชายใหญ่ให้การช่วยเหลือกลับถูกจ้าวเฉิงชี้หน้าด่าทอ และกลับกล่าวหาว่าพระชายาไม่อาจตัดใจจากเขาได้จึงตามมาหาเรื่องหลิวเย่วถึงจวน สุดท้ายสองแม่ลูกถูกสั่งโบยตามกฎหมายต้าฉิน ทางด้านสองพี่น้องสกุลจ้าวที่อยู่ในวัง กำลังทำงานยังไม่รู้ว่าสะใภ้กับหลานชายบาดเจ็บเจียนตายและอยู่ในคุกหลวง เซียวอี้เซียนเดินตามหลิวต่งเข้าไปยังศาลากลางสระบัวที่หลิวหลางนั่งรออยู่ เซียวอี้เซียนอมยิ้มไม่ยอมมาต้อนรับ อยากให้นางยอมก้มหัวให้เพราะเรื่องที่ถูกยึดทรัพย์ครั้งก่อนตาแก่นี่สูญเสียไม่น้อยและคงโกรธนางแต่เพราะฐานะนางตอนนี้อยากเอาคืนนางก็ทำไม่ได้ หลิวหลางเห็นนางเดินมาแต่ยังคงวางท่า ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนอวดอำนาจอันใดกัน แต่เขารู้กาลเทศะดีกว่าสองแม่ลูกสกุลจ้าวนั่นจึงลุกขึ้นยืน ทำความเคารพนางตามธรรมเนียม"กระหม่อมหลิวหลางถวายพ
เซียวอี้เซียนกับหยางเทียนหลงกลับมาถึงจวนอ๋องก็เกือบยามซวีแล้ว ท่านอ๋องกับพระชายาแจ้งว่าอีกสามวันจะออกไปท่องเที่ยว สองสามีภรรยารู้ดีว่าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่เอาเรื่องท่องเที่ยวมาบังหน้าเพื่อตามหาคนหยางเทียนหลงส่งเซียวอี้เซียนเข้านอนจากนั้นก็ไปห้องหนังสือฟังรายงานจาก จินฮวนซึ่งเป็นพี่ชายจินฝานและเป็นองครักษ์เพียงหนึ่งเดียวของเขาที่ไม่มีใครรู้จัก หากพูดถึงเรื่องวรยุทธเขาเองยังเป็นรองจินฮวนด้วยซ้ำ"มีอะไรรายงานหรือไม่""ท่านอ๋อง วันนี้มีองครักษ์จากตำหนักองค์ชายใหญ่ไปเฝ้าที่จวนเซียวเกือบยี่สิบคน แต่พวกเขาไม่อาจหลบพ้นคนของท่านอ๋องกับคนของฝ่าบาทได้พ่ะย่ะค่ะ""แล้วเรื่องอื่นๆเล่าสืบได้อะไรอีก""เหมือนสนมจางจะมีความสัมพันธ์กับองค์ชายใหญ่พ่ะย่ะค่ะ""หืม คบชู้หรือเป็นไปได้อย่างไรกัน เสด็จลุงมิใช่คนโง่เขลา แม้พระองค์จะไม่เคยพลิกป้ายนางแต่อย่างไรนางก็ไม่น่าจะเสี่ยงเช่นนี้""นางเป็นคนของราชวงศ์เก่า ฝ่าบาทแต่งนางเข้ามาเพราะสงสารไม่เช่นนั้นนางจะต้องถูกประหารตามธรรมเนียม ยามนั้นนางเพิ่งจะอายุสิบสองปี อีกอย่างฝ่าบาทไม่ได้ต้องการนางจริงๆ แต่งเพราะปกป้องนางพระองค์ก็ทราบนี่พ่ะย่ะค่ะ""อืม ข้
เซียวอี้เซียนที่ตอนนี้เพิ่งจะกลับถึงจวนก็ปรากฏว่าหยางเทียนหลงมารอแล้ว หน้าตาดูโกรธนิดๆ เขารู้ดีว่านางอยากแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อล่อไหม มิเช่นนั้นหากชาวบ้านที่เชื่อคำโกหกลุกฮือขึ้นมานางจะมีอันตรายเซียวอี้เซียนโบกมือให้สาวใช้และองครักษ์ออกไปจากบริเวณจนหมด นางมาถึงก็ยกแขนเรียวคล้องคอของคนตัวโตเอาไว้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างรู้สึกผิด"พี่เทียนหลง เซี่ยนเซี่ยนผิดไปแล้ว วันหลังจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้วเพคะ""ยังจะมีวันหลังอีกหรือเด็กเกเร ก่อนเข้าวังพี่บอกว่าอย่างไร แบบนี้ต้องลงโทษหนักๆแล้ว""ไม่มีวันหลังแล้วเพคะ อะ อื้อ"หยางเทียนหลงรวบร่างบางมาหาก่อนจะก้มหน้าลงจุมพิตนางอย่างหิวโหยเพื่อลงโทษที่นางขัดคำสั่งเขา ออกไปข้างนอกโดยพลการ องค์ชายใหญ่ไม่เหมือนตาเฒ่าสกุลจ้าว เล่ห์เหลี่ยมมากกว่า และมีคนใช้สอยมากกว่า กระทั่งเขาถอนจุมพิตออกจึงเอ่ยเสียงเข้มแฝงไปด้วยความห่วงใย"ต่อไปอย่าทำอะไรโดยไม่บอกอีก พอรู้ว่าเจ้าไปข้างนอกเพื่อล่อเหยื่อพี่อยากจะบินออกจากห้องทรงอักษรเลยเชียว เซี่ยนเซี่ยน หยางต่งมิใช่ตาแก่จ้าวสองพี่น้องนั่น เขามีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย พี่ก