ทั้งสามพูดคุยกันอีกเล็กน้อยจากนั้นเซียวอี้เซียนก็ไปเยี่ยมบิดาและท่านย่า ก่อนจะแวะโรงครัวขออาหารเพิ่ม นางบอกว่าเมื่อคืนนางออกแรงเยอะจึงหิว แม่ครัวจัดอาหารเพิ่มให้คุณหนูอีกชุด เซียวอี้เซียนกลับมายังห้องของตนก่อนจะเดินไปเคาะประตูห้องรับรองด้านหลังเรือนของนางแล้วเดินจากมา
หยางเทียนหลงเปิดประตูออกมาก็เจอตะกร้าวางตั้งไว้ เขาเปิดผ้าออกดูก็พบปิ่นโตไม้เถาหนึ่ง ในนั้นมีอาหารอย่างดี บุรุษหนุ่มยิ้มให้กับตนเองก่อนจะหันไปยังทิศที่คนตัวเล็กเดินกลับไป กลิ่นกายหอมกรุ่นของนางยังไม่จางไปเลย ชายหนุ่มหยิบตะกร้าอาหารเข้ามาในห้องก่อนจะเริ่มกิน อืม..ทำไมอาหารวันนี้ช่างหวานไปเสียทุกคำกันนะ
ยามซื่อมีคนจากในวังมาเยือน เซียวอี้เซียนประคองบิดาที่เพิ่งฟื้นออกมาจากห้อง ลู่กงกงเห็นหน้าดรุณีน้อยตรงหน้าก็เข้าใจทันทีเหตุใดท่านอ๋องถึงอยากแต่งกับนาง ช่างงดงามเหลือเกิน
"นายท่านเซียวมิทราบว่าที่ยืนอยู่ข้างท่านใช่บุตรสาวท่านคุณหนูเซียวอี้เซียนหรือไม่"
"เอ่อ แค่กๆๆ ขอรับใต้เท้า เอ่อ เซียนเอ๋อร์คารวะท่านกงกงเสียสิ เขาคือคนของฝ่าบาทน่ะ"
"ข้าน้อยเซียวอี้เซียนคารวะลู่กงกงเจ้าค่ะ"
"อืม..รูปงามนามไพเราะ กิริยามารยาทก็งดงาม เหมาะสมกันจริงๆ คุณหนูเซียวมีราชโองการมาถึงท่านคุกเข่าเถอะ"
ทั้งจวนคุกเข่าลงรับราชโองการ ลู่กงกงประกาศราชโองการชาวบ้านที่วันนี้ไม่รู้มาจากไหนยืนออกันเต็มหน้าจวนต่างก็คุกเข่าตาม
"คุณหนูเซียวอี้เซียน เนื่องด้วยเคยหมั้นหมายกับจ้าวเฉิงแห่งจวนอำมาตย์ซ้าย บัดนี้สกุลจ้าวได้กระทำผิดสัญญาหมั้นหมายเป็นฝ่ายไปแต่งสตรีอื่นมาเป็นภรรยา ตามที่ทางสกุลเซียวร้องขอข้าจึงออกราชโองการฉบับนี้ให้คุณหนูเซียวอี้เซียนเป็นฝ่ายถอนหมั้นจ้าวเฉิงแห่งสกุลจ้าว มิเกี่ยวข้องใดๆกันอีก ห้ามมิให้ในภายหน้าทางสกุลเซียวไปหาเรื่องหรือหึงหวง และห้ามมิให้จ้าวเฉิงมาหาเรื่องและหึงหวงเช่นกัน จบราชโองการ คุณหนูเซียวโปรดยื่นมือ"
เซียวอี้เซียนยื่นสองมือไปรับราชโองการจากขันทีเฒ่าก่อนจะเอ่ยขอบพระทัยฮ่องเต้
"หม่อมฉันเซียวอี้เซียน ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา"
"คุณหนูยังมีราชโองการถึงท่านอีกฉบับหนึ่งน่ะ"
ลู่กงกงกำลังจะประกาศ จ้าวอันป๋อก็มาถึงพอดี เขามาพร้อมเกี้ยวสีชมพูกับคนแบกเกี้ยวสี่คน ก่อนจะเอ่ยทักทาย
"ลู่กงกง..เหตุใดท่านจึงมาเยือนจวนเล็กๆแห่งนี้ได้ขอรับ"
"ข้ามาประกาศราชโองการฝ่าบาทน่ะท่านอำมาตย์ ว่าแต่ท่านเล่ามาที่จวนเล็กๆนี้ด้วยเหตุใดกัน"
จ้าวอันป๋อขมวดคิ้วแต่ก็ไม่สนใจ ชาวบ้านนับร้อยเป็นเขาจ้างมาให้มาดูความอัปยศของนังเด็กนี่ที่กล้าหาเรื่องสกุลจ้าว ตอนนี้มีลู่กงกงมาเป็นพยานด้วยนับว่าดี ก่อนจะเอ่ย
"ข้าน้อย มาเพื่อรับสาวใช้อุ่นเตียงให้หลานชาย เขายังคงหวานชื่นกับภรรยาเอก แต่ก็อยากให้เกียรติคุณหนูเซียวที่เคยเป็นคู่หมั้น จึงไปขอร้องข้าให้มารับนางสักหน่อย ว่าก็ว่านะเซียวอี้เซียนหลานชายข้าคนนี้นับว่ามีน้ำใจ เป็นสาวใช้อุ่นเตียงของเขาก็นับว่าเจ้ามีวาสนาแล้ว คนอย่างจ้าวเฉิงมิได้หาง่ายนัก"
ลู่กงกงยิ้มในหน้า ดูท่าเขาคงออกมาก่อนที่หลานชายของตนจะนำราชโองการไปถึงสินะ แต่เสียงของดรุณีน้อยทำเอาเขาแทบสำลักอยากจะหัวเราะก็ต้องสำรวม
"เฮ้อ..ผู้อาวุโสจ้าวอย่างหลานชายท่านจ้าวเฉิงจะว่าหายากก็ไม่ยากจะว่าหาง่ายก็ไม่ง่ายนะเจ้าคะ"
"เจ้าหมายความว่าอย่างไร"
"อย่างหลานชายท่าน หาได้ตามกองขยะหรือกองอาจมสิ่งปฏิกูลทั่วไป แค่ใช้เท้าเขี่ยก็เจอ แต่ที่ข้าบอกว่าจะว่ายากก็ยากเพราะน้อยคนที่จะยอมเอาเท้าไปเปื้อนอาจมหรือสิ่งปฏิกูลเหล่านั้น เพราะในเมืองหลวงรองเท้าดีๆคู่หนึ่งก็หลายร้อยอีแปะเจ้าค่ะ"
"นี่เจ้า.."
"ท่านอำมาตย์ ข้ามาประกาศราชโองการท่านยังจะถ่วงเวลาอีกนานไหม แล้วต่อหน้าราชโองการท่านกลับยืนหลังตรงจะให้ข้าทูลฝ่าบาทเช่นไรดีกัน"
จ้าวอันป๋อจำต้องคุกเข่าลง ลู่กงกงประกาศราชโองการอีกฉบับทันที
"ด้วยโองการแห่งฟ้า คุณหนูเซียวอี้เซียนบุตรีแห่งสกุลเซียวกิริยางดงาม อีกทั้งยังฉลาดเฉลียว ข้าจึงประกาศสมรสพระราชทานระหว่างหยางเทียนหลงแม่ทัพใหญ่แห่งต้าฉินกับคุณหนูเซียวอี้เซียนหลานสาวอดีตเจ้ากรมโยธาเซียวหาน พิธีมงคลสมรสจัดในอีกเจ็ดวันข้างหน้า จบราชโองการ คุณหนูเซียวรับราชโองการเถอะ"
เซียวอี้เซียนที่ตอนนี้กำลังตกใจได้ถอนหมั้นเป็นเรื่องที่อยู่ในแผนการ แต่ว่าไม่ทันราชโองการจะเย็นก็ได้ผัวเฉยอะไรวะเนี่ย แถมว่าที่ผัวก็แบล็กใหญ่เสียด้วย เท่าที่รู้เขาเป็นหลานชายฮ่องเต้ หืม...กะจะเอานางไว้ใช้งานแรงงานทาสหรือไงวะ ไม่รับก็ไม่ได้ยุคนี้ฮ่องเต้ใหญ่ที่สุด อยากเห็นหน้าตาแก่นั่นจัง ได้ข่าวอายุเลยเลขสามแล้วยังไม่ยอมมีเมียบ่ายเบี่ยงจนมารดาอ่อนใจ หรือเป็นพวกนั้นแล้วแต่งนางไปเป็นไม้กันหมาวะ
"หม่อมฉันเซียวอี้เซียนน้อมรับราชโองการ ขอบพระทัยฝ่าบาทที่ทรงเมตตา"
จ้าวอันป๋อกำมือแน่น แต่งกับหนิงอ๋องหรือ นังเด็กนี่มีวาสนาเช่นนี้ได้อย่างไร เขาจึงเอ่ยขึ้น
"ลู่กงกง..นางเป็นคู่หมั้นเฉิงเอ๋อร์หลานชายของข้าแล้วจะแต่งกับหนิงอ๋องได้อย่างไรกัน เซียวหง...เจ้าทูลความเท็จอันใดต่อฝ่าบาทหรือ"
"ท่านอำมาตย์เข้าใจผิดแล้ว ดูเหมือนราชโองการที่ฝ่าบาทพระราชอนุญาตให้คุณหนูเซียวเป็นฝ่ายถอนหมั้นหลานชายท่านจะถึงจวนช้าไปหน่อยท่านจึงมาที่นี่เสียเที่ยวแล้ว นายท่านเซียวคุณหนูเซียวข้าน้อยขอตัวก่อน"
เซียวอี้เซียนลุกขึ้นก่อนจะเอาถุงเงินสอดในแขนเสื้อของลู่กงกง แล้วประคองเขาเดินไปที่รถม้า เอ่ยกับเขาบางอย่าง ลู่กงกงยิ้มให้นางก่อนจะขึ้นรถม้าแล้วกลับวังไปรายงาน จ้าวอันป๋อมองมายังสาวน้อยสายตาแทบจะฆ่านางให้ตาย เซียวอี้เซียนเดาะปากก่อนเอ่ย
"สุนัขแหงนมองจันทร์ สุดท้ายแม้แต่เงาในน้ำก็คว้าไม่ได้ ช่างน่าสงสาร อุ๊ยไม่ใช่สิน่าสมเพชยิ่งนัก ท่านพ่อเข้าเรือนเถอะเจ้าค่ะ ลูกมีเรื่องต้องจัดการกับพวกที่กินบนเรือนถ่ายบนหลังคา"
ป้าฝางกับสาวใช้ห้องซักล้างใจคอไม่ดีทันที หวังว่าคุณหนูจะไม่รู้อะไรนะ วิธีที่นางจัดการเสี่ยวลี่นับว่าเหี้ยมโหดนัก
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจ้าวอันป๋อจำต้องกลับจวน เขาให้คนส่งจดหมายไปหาจ้าวอันพี่ชายคนโตที่เป็นคนหมั้นหมายหลานชายของตนกับเซียวอี้เซียน บัดนี้นางกลายเป็นคนของหนิงอ๋องไปแล้ว จะแย่งกลับมาคงไม่ได้ แต่แผนการก่อสร้างที่สกุลเซียวครอบครองอยู่นั้นเขาจำต้องวเอามาให้ได้หากสกุลจ้าวสามารถกุมเอากรมโยธาและแบบแผนการสร้างเมืองมาอยู่ในกำมือได้เขายังต้องหวาดกลัวอันใดกัน เสียดายสกุลจ้าวไร้บุตรีมิเช่นนั้นเขาคงส่งเข้าวังไปเป็นสนมฮ่องเต้สักคน ยังต้องกังวลเรื่องที่อำนาจจะถูกแย่งชิงอีกหรือเมื่อกลับมาถึงจวนก็เรียกหาหลานชายตนเองทันที แต่จ้าวเฉิงไม่ว่างกำลังทะเลาะกับหลิวเย่วอยู่ เมื่อคืนแทนที่เขาจะนอนเรือนกลางกลับไปนอนเรือนเล็กเรียกหาสาวใช้ที่ชื่อเหยาเหยามาปรนนิบัติ จ้าวเฉิงกำลังดีใจที่จะได้เซียวอี้เซียนมาครอบครองก็ต้องฝันสลาย เพราะลู่เสวียนนำพระราชโองการมาประกาศว่าเซียวอี้เซียนขอถอนหมั้นกับเขา และที่สำคัญฝ่าบาทเป็นคนอนุญาตเอง จ้าวอันป๋อเดินมาก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันลอดออกมา"เจ้ามันสตรีใจแคบ เหยาเหยานางก็แค่สาวใช้ ตำแหน่งเมียเอกเจ้าก็ได้ไปแล้วยังไม่พอใจอีกหรือ""หึ เจ้ามันมักมาก สารเลวแต่งข้า
จ้าวเฉิงเดินมาที่ศาลา มองน้องชายต่างมารดาอย่างรังเกียจ เขาสั่งห้ามจ้าวเหวินเรียกเขาว่าพี่ใหญ่ เป็นเพียงบุตรนางโลมก็เหมือนบ่าวในเรือน เหตุใดเขาต้องยอมรับมัน จ้าวเหวินที่มองมายังเขาสายตามีแววอาฆาตนิดหนึ่งก่อนจะกลบเกลื่อน จ้าวเฉิงมองไม่ออก แต่ชายชรากลับทันได้เห็น ดูท่าสกุลจ้าวต้องเลือกสักคนแล้วไม่เช่นนั้นอาจนองเลือด จ้าวเหวินหันกลับมาหาชายชราก่อนจะเอ่ย"สกุลเซียวขายทอดสินสอดของคุณชายใหญ่อย่างไร้ค่า นำเงินที่ได้พร้อมกับออกเงินอีกสองแสนตำลึงถวายให้ฝ่าบาทนำไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ราษฎรที่ประสบภัย คนที่มาซื้อสินค้าวันนั้นนางจดชื่อถวายรายงาน ตอนนี้ป้ายทองคำที่เป็นลายพระหัตถ์ของฝ่าบาทประทับอยู่หน้าร้านพวกเขา รวมถึงขุนนางเล็กๆเหล่านั้นมีสิทธิ์ที่ส่งบุตรหลานเข้าสำนักศึกษาหลวงด้วยขอรับ"ปัง!!!เสียงทุบโต๊ะดังลั่น สำนักศึกษาหลวงเป็นสถานที่ๆสกุลจ้าวกอบโกยได้มากไม่น้อย หากให้พวกบุตรหลานขุนนางปลายแถวมาเรียนปะปนจะทำให้การเงินของเขาสั่นคลอน จ้าวเฉิงที่ได้ฟังก็ยิ้มเยาะก่อนจะเอ่ย"หึ..ดูท่านเจ้าจะแตกตื่นเสียเหลือเกินนะจ้าวเหวิน แค่ขุนนางปลายแถวกับพ่อค้าตัวเล็กๆ นางอยากขอให้พวกมันก็ขอไปสิ สกุลจ้าวเก่าแก่เ
ทันทีที่เซียวอี้เซียนเอ่ยจบบ่าวก็ชวนเสี่ยวฮวาออกไปเดินเล่นนอกจวน กำจัดเกลือเป็นหนอนไปหมดแล้วที่เหลือแค่เดินตามแผนที่วางเอาไว้ นางมาอยู่ที่นี่ได้ห้าวันแล้วนับแต่ลืมตาขึ้นมา ที่นางยอมทำเพื่อสกุลเซียวเพียงนี้เพราะเห็นแก่ความรักที่พวกเขามีต่อร่างเดิม อีกทั้งที่ร่างเดิมต้องจากไปก็เพราะอยากให้พวกเขามีชีวิตดีขึ้นแต่กลับตกหลุมพรางผูู้อื่น นางมาอยู่ร่างนี้จึงต้องเอาคืนให้สาสม อีกอย่างหากต้องแต่งงานกับคนอย่างจ้าวเฉิงจริงๆ ชีวิตคงไร้ความสุขเสียงเรียกนางดังมาจากทางด้านหลัง เมื่อหันไปก็เจอจ้าวเฉิงที่มากับเพื่อบัณฑิตด้วยกัน ยังเป็นเพียงลูกแหง่ขอเงินพ่อแม่ไปโรงเรียนกล้ามาลูบคมเจ๊เหรอย่ะ อยากตายหรือ หึ"อี้เซียน..พอถอนหมั้นกับข้าก็หาทางมาหาบุรุษใหม่แล้วหรือ ข้าไม่คิดจริงๆว่าเจ้าเป็นสตรีเช่นนี้""โอ่ว..ต้องเป็นสตรีเช่นไรถึงจะเหมาะกับคุณชายไร้ค่าเช่นเจ้าหรือจ้าวเฉิง เอ๋ใบหน้าคุณชายไปโดนสตรีนางใดตบมาเล่านั้น ไอ้หยาในหมู่พวกเจ้าภรรยาผู้ใดคลอดบุตรก็พินิจหน้าตาบุตรที่คลอดออกมาสักหน่อยเล่า เผื่อทารกเหล่านั้นจะเหมือนสหายมากกว่าบิดาตนเอง"หลายคนมองหน้ากัน จ้าวเฉิงถือว่าเป็นบุรุษเจ้าชู้ที่รูปงามมากนัก หรือว่า
หลังจากมีเรื่องกับจ้าวเฉิงเรียบร้อยแล้ว เซียวอี้เซียนก็เดินฮัมเพลงอย่างสบายใจ นางหาซื้อข้าวของพะรุงพะรังเพื่อกลับไปทำของบำรุงให้บิดากับมารดาและท่านย่าของนาง หยางเทียนหลงลุกจากโรงเตี๊ยมเดินลงมาทางที่นางเดินเลือกซื้อสินค้าอยู่ เซียวอี้เซียนที่ก้มๆเงยๆไม่ได้มองว่าเป็นเขา กระทั่งเขาเข้ามาใกล้ๆแล้วเอ่ยทักทาย"คุณหนูเซียว....วันนี้ออกมาเดินเที่ยวได้หรือ"เซียวอี้เซียนหันไปหาทิศที่มาของเสียงก็ได้เจอกับเขา เมื่อคืนไม่เห็นใบหน้าแต่จำเสียงเขาได้ ให้ตายสิตอนที่เขาแต่งตัวเป็นยาจกขอทานก็ว่าไม่อาจบดบังความหล่อเหลาได้แล้ว มาตอนนี้คือออร่าพุ่งมาก เซียวอี้เซียนได้แต่คิดในใจ ยุคโบราณมีผู้ชายหล่อเพียงนี้ด้วยหรือ"แม่เจ้า...หล่อน้ำเดินเลยแฮะ เสียดายจังอีกไม่ถึงเจ็ดวันเจ๊ก็จะมีผัวแล้ว ไม่งั้นจะเอามานอนกอดเล่นๆสักคืนสองคืน"หยางเทียนหลงที่เดินมาใกล้ๆถึงกับต้องล้วงเอาผ้าเช็ดหน้ามาซับน้ำลายของนางที่ไหลอยู่มุมปาก ก่อนจะก้มหน้าลงไปกระซิบข้างหู"คุณหนูเซียวเจ้าจะไม่เก็บอาการสักหน่อยหรือ ข้ารู้ว่าตนเองนั้นรูปงาม แต่เจ้าก็ไม่ควรแสดงอาการว่าต้องการข้าถึงเพียงนี้กระมัง"เซียวอี้เซียนถึงกับหน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะปรับ
บุรุษต่างวัยมองหน้ากันจากนั้นก็พยักหน้าเดินตามเซียวอี้เซียนไปทางสวนหลังจวน ปกติที่ตรงนี้มิค่อยมีคนมาเท่าไหร่ บุตรสาวเขาพามาทำไมกัน จนกระทั่งทั้งหมดมาถึงหลังภูเขาจำลอง เซียวอี้เซียนก็พาทั้งคู่มานั่งลงที่แอ่งน้ำแอ่งเล็กๆที่นางสร้างขึ้นมา จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้น"ท่านพ่อท่านสามารถทำให้น้ำในแอ่งลึกที่ข้าขุดผันมายังเส้นทางน้ำด้านบนที่สูงกว่าได้หรือไม่เจ้าคะ""อืม..แอ่งน้ำของเจ้ามันต่ำเพียงนั้นจะผันน้ำให้ขึ้นมายังทางระบายน้ำนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้ มีเพียงน้ำล้นแอ่งเท่านั้นเอง""อืม..บิดาเจ้ากล่าวถูกแล้ว ว่าแต่หลานพาพวกเรามาทำไมหรือเซี่ยนเซี่ยนหรือว่าเจ้ามีวิธี""ท่านปู่เจิ้นหนาน ท่านพ่อข้ามีวิธีแก้ปัญหาภัยแล้งให้กับฝ่าบาท แต่วันนี้อยากให้ท่านพ่อรับปากข้าสักเรื่องหนึ่งก่อนเจ้าค่ะ""ลูกบอกว่ามีวิธีหรือ หนังสือสามเล่มที่เจ้าเขียนถวายฝ่าบาทนั้นคือวิธีแก้ภัยแล้วใช่หรือไม่เซียนเอ๋อร์""ท่านพ่อ...ในนั้นลูกเขียนเพียงความเป็นไปได้เท่านั้น หากฝ่าบาทอยากแก้ปัญหาจริงๆลูกพอจะช่วยพระองค์ได้เจ้าค่ะ""แล้วเจ้ามีวิธีอันใดหรือเซี่ยนเซี่ยน ปู่รู้ว่าเจ้าฉลาดเจ้ามีเลือดของท่านปู่เจ้าอยู่ในตัวสายเลือดสกุลเซียวย่อมต้องเ
เซียวอี้เซียนกินมื้อค่ำเรียบร้อยก็กลับห้องนอน และมีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ที่ห้องนาง ดีที่เสี่ยวฮวาไม่อยู่นางไล่ให้ไปพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว องครักษ์คนนี้คือคนที่ฮ่องเต้ส่งให้มาคุ้มครองนาง แต่เหตุใดเขาดูเอาแต่ใจเหลือเกิน เซียวอี้เซียนจำต้องเอ่ยออกไปอย่างข่มขู่"องครักษ์ท่านนี้ ฮ่องเต้ส่งท่านมาคุ้มครองข้าหรือส่งท่านมาคุกคามข้ากันแน่""คุณหนูเซียว....ข้ามาตรวจความปลอดภัยของท่าน เผื่อมีคนของสกุลจ้าวลักลอบเข้ามาจะทำเช่นไร""นี่ท่านองครักษ์ ข้ากำลังจะแต่งงาน หากมีใครรู้ว่ามีบุรุษมาพบข้ายามวิกาล อีกทั้งยังเป็นที่รโหฐานจะให้ข้าแก้ตัวแก่คู่หมั้นเช่นไร""ดูเหมือนคุณหนูเซียวจะให้ความสำคัญกับท่านอ๋องเสียจริงๆนะ""ย่อมต้องเป็นเช่นนั้นเขาคือคนที่จะมาเป็นสามีของข้า ท่านออกไปเถอะข้ามิเป็นอันใดหรอก"หยางเทียนหลงอมยิ้มก่อนจะเดินออกไป เขาหยุดที่ประตูแล้วหันกลับมาเอ่ยถามนาง"คุณหนูเซียวท่านชอบหนิงอ๋องหรือไม่""จะว่าไปนี่เป็นเรื่องข้าสองคนสามีภรรยา ท่านมีหน้าที่มาแค่ดูแลความปลอดภัยของข้ามิใช่หรือ เหตุใดซอกแซกนัก ข้าอยากรู้เสียแล้วว่าท่านใช่คนของฮ่องเต้แน่หรือเปล่า แน่นอนท่านคิดว่าข้าคงกลัวเรื่องเสียชื่อเสียงหา
เซียวอี้เซียนได้แต่ยิ้มแห้งๆ นางสงสารเซียวอี้เซียนคนเดิมยิ่งนัก นางจะรู้ไหมว่านางมีคนรักมากมาย เหตุใดต้องโทษตนเองจนสุดท้ายชีวิตตนเองก็รักษาไม่ได้ ดรุณีน้อยยิ้มให้หญิงชราก่อนจะเอ่ย"ท่านย่า ในยามนั้นท่านปู่เมาจึงรับปากเขาไป มาตอนนี้คิดๆดูแล้วคืนนั้นท่านปู่ถูกสองพี่น้องสกุลจ้าวมอมเหล้าหรือเปล่าเพื่อหลอกล่อให้รับปาก""เฮ้อ..คนจากไปชาก็เย็นชืด สองพี่น้องสกุลจ้าวจิตใจชั่วร้าย เซี่ยนเซี่ยนหลานต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดีล่ะ อีกอย่างแต่งงานไปแล้วเรื่องหลังบ้านต้องระวัง รีบมีบุตรเสียเพื่อจะได้มัดใจสามี หากรั้งนานเกินไปหนิงอ๋องอาจหาคนมาอุ้มท้องแทนเจ้า""ท่านย่า ต่อให้หลานคลอดบุตรชายออกมาสิบคน หากบุรุษไร้ใจรั้งเช่นไรก็มิอาจรั้งได้นะเจ้าคะ""เซี่ยนเซี่ยน...ดับไฟใต้กะทะไม่สู้ถอนฟืนออกจากเตาเสีย จงอย่าประมาท ว่าแต่เรื่องบิดาของเจ้าเหตุใดคิดว่าเขาจะได้รับตำแหน่งกัน""ทำท่านย่าเป็นห่วงแล้วหลานอกตัญญูยิ่งนัก เอ่อ..ท่านย่าเจ้าคะ ตอนที่ท่านปู่ยังอยู่มักเรียกข้าไปสอนตำราและการทำงาน เนื่องจากท่านพ่อสุขภาพไม่ดี ท่านปู่ไม่อยากให้วิชาที่ท่านปู่ศึกษามาต้องสูญหายจึงยอมให้หลานเรียนรู้ หลานทำบางอย่างก็เพื่อให้เรายืน
ทางด้านฮูหยินเฒ่าสกุลจ้าวที่เห็นหญิงชราตรงหน้าถึงกับตะลึง อาภรณ์ที่นางสวมใส่ช่างงดงามนัก ผ้าไหมชั้นดีสีม่วงอ่อนสวมอยู่ด้านใน เสื้อคลุมสีม่วงเข้มปักลายคลื่นเมฆด้วยด้ายสีทอง ปิ่นปักผมแม้จะเพียงแค่ชิ้นเดียวแต่กลับเป็นหยกเนื้อดีสีเขียว แกะเป็นลายนกเพิ่งหวง ลูกตาของนกใช้อัญมณีสีแดงราวกับว่านกมีชีวิต ปิ่นที่แกะสลักลวดลายละเอียดยิ่งนักส่วนไป๋จินหวงภรรยาของเซียวหงแต่กายด้วยอาภรณ์สีขาว เสื้อคลุมสีฟ้าปักปิ่นหยกแกะสลักเป็นรูปดอกหลันฮวา เซียวหงที่สวมอาภรณ์สีขาวปีกลายใบไผ่สีฟ้าเข้ม ดูคล้ายชุดคู่ของสามีภรรยา นางยิ่งกำมือแน่น สามีของนางจ้าวอันป๋อมองภรรยาของเซียวหงไม่วางตา นางจิ้งจอกแพศยามีสามีอยู่แล้วยังยั่วยวนบุรุษ นางจึงเอ่ยออกมาทักทายคนสกุลเซียว"ไท่ฮูหยินท่านสบายดีหรือไม่ เรื่องของจ้าวเฉิงกับอี้เซียนคงทำให้สกุลเซียวอื้อฉาวไม่น้อย เฮ้อ ทำอย่างไรได้หลิวเย่วนางก็ไม่ผิด เด็กทั้งสองคนรักกัน ข้าจะพรากคู่รักก็ทำไม่ได้ เรื่องนี้สกุลจ้าวมิใช่ไม่เสียใจ"ท่านย่าของจ้าวเฉิงใช้ผ้าซับน้ำตาที่หางตาเบาๆ เซียวอี้เซียนกลอกตามองบน ท่านย่าของนางจึงเอ่ยกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย"อืม..ฮูหยินท่านอำมาตย์กล่าวเกินไปจร
สองชายชรามองหน้ากันทันที บ้านก็ไขายไม่ออก คนเช่าก็ไม่มีมานับแต่เกิดเรื่อง มาวันนี้นางยังจะเอาแต่ใจให้คนมาอาศัยในบ้านที่พวกเขาลงทุนอีก เซียวอี้เซียนคนนี้เหตุใดถึงได้กล่าวเรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาได้กัน หลิวเว่ยกล่าวกับนางด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์นิดหน่อย"พระชายา บ้านเหล่านั้นตอนมาจำนองทรุดโทรมอย่างมาก เมื่อเจ้าของไถ่คืนไม่ไหวพวกเราก็ต้องซ่อมแซมเพื่อขายต่อหรือปล่อยเช่า ค่าซ่อมแซมแน่นอนว่าใช้เงินตำลึงไม่น้อยนะพ่ะย่ะค่ะ""จริงของหลิวเว่ย พระชายาสกุลหลิวมีรายได้มาจากการให้เช่าบ้านและปล่อยกู้ ยามนี้หากไม่มีบ้านให้เช่าลำพังเงินเดือนเจ้ากรมกับอดีตเจ้ากรมคงไม่พอเลี้ยงคนกว่าร้อยชีวิตนะพ่ะย่ะค่ะ"สองพี่น้องสกุลหลิวเอ่ยออกมา หลิวต่งเองก็ให้ไม่พอใจเท่าไหร่ นางบอกว่าจะมาเจรจานี่มันเป็นการเจรจาที่ไหนกันนางตั้งใจมาแล้วชัดๆ กระทั่งเซียวอี้เซียนยกยิ้มมุมปากก่อนจะส่งสัญญาณ แม่นมจางและชุ่ยเหยียนรู้ว่าพระชายาต้องการสิ่งใดจึงเดินมาส่งม้วนกระดาษให้กับหลิวหลางเมื่อชายชรารับมาอ่านก็ตาเบิกโพลง นี่มันค่าตอบแทนมากถึงเพียงนี้เชียวหรือ ที่สำคัญตำแหน่งที่นางมอบให้เขานั้นนับว่าสูงกว่าตำแหน่งอำมาตย์ฝ่า
เซียวอี้เซียนที่สั่งให้ลงโทษสองแม่ลูกสกุลจ้าวก็เดินผ่านร่างของทั้งคู่ไปโดยไม่ใส่ใจ ไม่นานเรื่องที่เยี่ยหรานและจ้าวเฉิงดูหมิ่นพระชายาหนิงอ๋องและถูกศาลราชวงศ์ลงโทษด้วยตนเองก็กระจายไปทั่วเมืองหลวง ปากต่อปากจากเพียงแค่ดูหมิ่นพระชายากลับขยายไปว่าจ้าวเฉิงลงมือทำร้ายพระชายา หลิวต่งคุณชายใหญ่ให้การช่วยเหลือกลับถูกจ้าวเฉิงชี้หน้าด่าทอ และกลับกล่าวหาว่าพระชายาไม่อาจตัดใจจากเขาได้จึงตามมาหาเรื่องหลิวเย่วถึงจวน สุดท้ายสองแม่ลูกถูกสั่งโบยตามกฎหมายต้าฉิน ทางด้านสองพี่น้องสกุลจ้าวที่อยู่ในวัง กำลังทำงานยังไม่รู้ว่าสะใภ้กับหลานชายบาดเจ็บเจียนตายและอยู่ในคุกหลวง เซียวอี้เซียนเดินตามหลิวต่งเข้าไปยังศาลากลางสระบัวที่หลิวหลางนั่งรออยู่ เซียวอี้เซียนอมยิ้มไม่ยอมมาต้อนรับ อยากให้นางยอมก้มหัวให้เพราะเรื่องที่ถูกยึดทรัพย์ครั้งก่อนตาแก่นี่สูญเสียไม่น้อยและคงโกรธนางแต่เพราะฐานะนางตอนนี้อยากเอาคืนนางก็ทำไม่ได้ หลิวหลางเห็นนางเดินมาแต่ยังคงวางท่า ก็แค่เด็กเมื่อวานซืนอวดอำนาจอันใดกัน แต่เขารู้กาลเทศะดีกว่าสองแม่ลูกสกุลจ้าวนั่นจึงลุกขึ้นยืน ทำความเคารพนางตามธรรมเนียม"กระหม่อมหลิวหลางถวายพ
เซียวอี้เซียนกับหยางเทียนหลงกลับมาถึงจวนอ๋องก็เกือบยามซวีแล้ว ท่านอ๋องกับพระชายาแจ้งว่าอีกสามวันจะออกไปท่องเที่ยว สองสามีภรรยารู้ดีว่าเสด็จพ่อกับเสด็จแม่เอาเรื่องท่องเที่ยวมาบังหน้าเพื่อตามหาคนหยางเทียนหลงส่งเซียวอี้เซียนเข้านอนจากนั้นก็ไปห้องหนังสือฟังรายงานจาก จินฮวนซึ่งเป็นพี่ชายจินฝานและเป็นองครักษ์เพียงหนึ่งเดียวของเขาที่ไม่มีใครรู้จัก หากพูดถึงเรื่องวรยุทธเขาเองยังเป็นรองจินฮวนด้วยซ้ำ"มีอะไรรายงานหรือไม่""ท่านอ๋อง วันนี้มีองครักษ์จากตำหนักองค์ชายใหญ่ไปเฝ้าที่จวนเซียวเกือบยี่สิบคน แต่พวกเขาไม่อาจหลบพ้นคนของท่านอ๋องกับคนของฝ่าบาทได้พ่ะย่ะค่ะ""แล้วเรื่องอื่นๆเล่าสืบได้อะไรอีก""เหมือนสนมจางจะมีความสัมพันธ์กับองค์ชายใหญ่พ่ะย่ะค่ะ""หืม คบชู้หรือเป็นไปได้อย่างไรกัน เสด็จลุงมิใช่คนโง่เขลา แม้พระองค์จะไม่เคยพลิกป้ายนางแต่อย่างไรนางก็ไม่น่าจะเสี่ยงเช่นนี้""นางเป็นคนของราชวงศ์เก่า ฝ่าบาทแต่งนางเข้ามาเพราะสงสารไม่เช่นนั้นนางจะต้องถูกประหารตามธรรมเนียม ยามนั้นนางเพิ่งจะอายุสิบสองปี อีกอย่างฝ่าบาทไม่ได้ต้องการนางจริงๆ แต่งเพราะปกป้องนางพระองค์ก็ทราบนี่พ่ะย่ะค่ะ""อืม ข้
เซียวอี้เซียนที่ตอนนี้เพิ่งจะกลับถึงจวนก็ปรากฏว่าหยางเทียนหลงมารอแล้ว หน้าตาดูโกรธนิดๆ เขารู้ดีว่านางอยากแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเป็นเหยื่อล่อไหม มิเช่นนั้นหากชาวบ้านที่เชื่อคำโกหกลุกฮือขึ้นมานางจะมีอันตรายเซียวอี้เซียนโบกมือให้สาวใช้และองครักษ์ออกไปจากบริเวณจนหมด นางมาถึงก็ยกแขนเรียวคล้องคอของคนตัวโตเอาไว้ เอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างรู้สึกผิด"พี่เทียนหลง เซี่ยนเซี่ยนผิดไปแล้ว วันหลังจะไม่ทำเช่นนี้อีกแล้วเพคะ""ยังจะมีวันหลังอีกหรือเด็กเกเร ก่อนเข้าวังพี่บอกว่าอย่างไร แบบนี้ต้องลงโทษหนักๆแล้ว""ไม่มีวันหลังแล้วเพคะ อะ อื้อ"หยางเทียนหลงรวบร่างบางมาหาก่อนจะก้มหน้าลงจุมพิตนางอย่างหิวโหยเพื่อลงโทษที่นางขัดคำสั่งเขา ออกไปข้างนอกโดยพลการ องค์ชายใหญ่ไม่เหมือนตาเฒ่าสกุลจ้าว เล่ห์เหลี่ยมมากกว่า และมีคนใช้สอยมากกว่า กระทั่งเขาถอนจุมพิตออกจึงเอ่ยเสียงเข้มแฝงไปด้วยความห่วงใย"ต่อไปอย่าทำอะไรโดยไม่บอกอีก พอรู้ว่าเจ้าไปข้างนอกเพื่อล่อเหยื่อพี่อยากจะบินออกจากห้องทรงอักษรเลยเชียว เซี่ยนเซี่ยน หยางต่งมิใช่ตาแก่จ้าวสองพี่น้องนั่น เขามีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย พี่ก
เซียวอี้เซียนยืนขึ้นหลีกทางให้ซุนเจิ้นหนาน ไม่นานเขาก็พยักหน้า มีหมอหญิงสองคนมาตรวจ สตรีนางนั้นไม่ต้องการให้ตรวจนางดิ้นรน กระทั่งมีลูกธนูยิงมา จินฝานสกัดไว้ได้พอดี นางจึงไม่ตาย ใบหน้าซีดเผือด นี่มันฆ่าคนปิดปากหรือไหนว่าแค่แสดงละครไง ก่อนจะหันไปหาภรรยาของจ้าวลี่"เจ้าๆๆ จะฆ่าคนปิดปากหรือ เงินค่าจ้างมาใส่ร้ายเพียงแค่ยี่สิบตำลึง แต่พอไม่สำเร็จก็จะฆ่าคนปิดปาก ยายเฒ่าเจ้าๆๆ พวกคนโกหกหลอกลวง แม่นาง เป็นนางๆที่เอาเสื้อชุดนี้มาให้ เป็นนางที่ให้ข้ามาใส่ร้ายร้านของท่าน ข้าแค่รับเงินแล้วก็ทำงานเท่านั้น"เซียวอี้เซียนยิ้มร้าย และแน่นอนอยู่ในสายตาบุรุษอีกคนทั้งหมด นางฉลาดมากนัก ธนูดอกนั้นไม่ได้จะปลิดชีพ แต่ยิงมาเพื่อทำให้สตรีคนนั้นหวาดกลัวจนคิดไปว่าคนที่จ้างวานมาต้องการฆ่าปิดปากตนจึงเผลอพูดออกมาทั้งหมด มือธนูอยู่ที่ใดกัน หยางเทียนหลงมีองครักษ์คุ้มครองพระชายาของเขากี่คนกันแน่ สตรีในชุดน้ำเงินหน้าซีดก่อนจะเอ่ยกลับไปนางปฏิเสธทุกอย่าง ทำไมมีการฆ่าปิดปาก ทำไมไม่มีใครบอกนางก่อน เซียวอี้เซียนเดินไปหาสตรีที่ถูกกล่าวหาว่าจ้างวานก่อนจะนั่งยองๆใช้มือที่เล็กแต่แข็งแรงราวกับ
สามคนเดินเล่นในตลาด เสี่ยวจงเอารถม้าไปจอดรอ เสี่ยวฮวาวิ่งไปหาขนมกินตลอดทาง เซียวอี้เซียนที่เดินเลือกของอยู่ก็ตรงไปร้านขายธัญพืช นางเจอคนที่ไม่คิดว่าจะได้เจอ กระทั่งหลิวเย่วเดินมาหาก่อนจะเอ่ยทักทาย"พระชายา ไม่เจอเสียนานสบายดีหรือไม่เพคะ""อ้อ คุณหนูหลิว ท่านสบายดีหรือไม่ สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง""ก็ดีเพคะ เรื่องจดหมายที่ส่งมาหม่อมฉันได้อ่านแล้ว""ท่านตัดสินใจอย่างไรหรือคุณหนูหลิว""เดิมทีหม่อมฉันรังเกียจท่านที่งดงามมากกว่า จึงหลอกล่อให้ท่านแต่งกายราวกับคนไว้ทุกข์ตลอดเวลา มาบัดนี้ถึงรู้ว่าความงามมิอาจมัดใจบุรุษเช่นจ้าวเฉิงได้ เมื่อมีของใหม่เขาก็พร้อมทิ้งขว้างคนเก่า""อย่าให้ค่าคนเช่นนั้นเลย จริงอยู่เด็กไร้บิดาอาจไม่ดี แต่บิดาเช่นจ้าวเฉิง..เฮ้อ...ท่านอยากให้บุตรของท่านเรียกคนเช่นนั้นว่าพ่อจริงๆหรือ ดูตัวอย่างจ้าวเฉิงสินี่คือการเลี้ยงดูจากสกุลจ้าว คุณหนูหลิวสกุลจ้าวไร้ผู้สืบทอด คุณชายรองทิ้งแซ่จ้าวไปใช้แซ่มารดาแล้ว หากเด็กในครรภ์ของท่านเป็นบุรุษนับว่าดีไป หากเป็นบุตรสาวเล่า ท่านยังจะกลับไปกลับมาสกุลหลิวและสกุลจ้าวได้หรือ มิกลัวว่าจะทำให้บรรพบุรุษของท่านนอนสะดุ้ง
หยางเทียนหลงที่กำลังพูดคุยกับเด็กชายสกุลเฉิน เด็กน้อยพยายามที่จะให้เขาช่วยตามหาสกุลเซียว หยางเทียนหลงมองหน้ากับเซียวอี้เซียน ก่อนที่นางจะเอ่ยถามเด็กชาย"เจ้าบอกว่าอยากตามหาคนสกุลเซียวหรือ""ขอรับพี่สาว ข้าตามหาท่านปู่เซียวหาน"หยางเทียนหลงกับเซียวอี้เซียนถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับเด็กน้อยที่นอนอยู่"ข้าแซ่เซียว เป็นหลานสาวคนเดียวของท่านปู่เซียวหาน ท่านปู่หายไปสองปีแล้วมีคนบอกว่าท่านปู่ของข้าตายไปแล้วแต่ข้าไม่เคยเชื่อเช่นนั้น""พี่สาว ท่านแซ่เซียวจริงๆหรือ คงมิได้หลอกลวงข้าหรอกกระมัง""เจ้าหนู ข้าแซ่เซียวจริงๆ บิดาข้าคือเซียวหง มารดาของข้าคือไป๋จินหวน ท่านปู่เจ้าคงเอ่ยถึงบ้างกระมัง""เซียวหงหรือ..ข้าเคยเจอท่านอาเซียวคนนั้นเมื่อสามปีก่อน ตอนนั้นท่านปู่หานพาเขาไปหาท่านปู่ของข้าเพื่อพูดคุย เขายังสนทนากับบิดาของข้าเลยขอรับ""บิดาของข้าไปดูสถานที่สร้างเมืองหลวงใหม่หรือ สถานที่สร้าง มิใช่หมู่บ้านอี้ห่างเมืองหลวงนี้ไปสองร้อยลี้หรอกหรือ""มิใช่ขอรับ สถานที่สร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ ห่างไปสองร้อยห้าสิบลี้ขอรับ คือว่า บ้านของข้าถูกคนค้น ฮึกๆๆคนในตระกูลถูกฆ่าตาย เพราะพวกเขาต
เซียวอี้เซียนที่พยายามเอามือตนเองออกจากการกอบกุมของสตรีอีกคน หรานซิ่วเอ๋อร์รู้ตัวจึงปล่อยมือบาง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด ที่เซียวอี้เซียนแน่ใจว่านางมิได้รู้สึกผิดจริงๆอย่างที่กล่าวออกมา"ขอประทานอภัยเพคะ พระนางอย่าถือสาหม่อมฉันเลย จริงสิเพคะหม่อมฉันได้ยินว่าอีกไม่กี่วันพระนางจะไปไหว้พระ หม่อมฉันอยากตามเสด็จไปด้วยเสียจริงๆ อยากไปขอพรให้ท่านย่าที่กำลังป่วยอยู่""แต่ข้าได้ข่าวมาว่าท่านต้องเข้าวังมิใช่หรือ เวลานี้เริ่มเย็นแล้วคุณหนูรองถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องกลับจวนก่อน หากท่านอ๋องกลับมาไม่เจอข้าที่จวน จะทรงกังวลพระทัยได้"เซียวอี้เซียนเดินจากไป เสี่ยวฮวาเดินตามหลัง หรานซิ่วเอ๋อร์มองสาวน้อยในชุดสาวใช้สีเขียวสลับขาว เพียงแค่สาวใช้ตัวน้อยยังงามเพียงนี้ สกุลเซียวซ่อนสาวงามไว้มากมายเท่าไหร่กันนะ หรานซิ่วเอ๋อร์นึกถึงใบหน้างดงามของฉีฮุ่ยหมิ่นอีกคนที่อยู่ในวัง หยางเทียนหลง หยางเฟยหยางพวกเจ้าบุรุษน่าตายสองคนนี่ มีสิทธิ์อันใดได้ครอบครองสาวงามถึงเพียงนี้กัน กระทั่งคนข้างกายของนางเตือนว่าคนขององค์ชายใหญ่กำลังเดินมา หรานซิ่วเอ๋อร์จึงได้หยุดความคิดทุกอย่างหยางเฮ
เสี่ยวฮวาเตรียมขนมกับน้ำไว้ให้เด็กๆ ตอนนี้นางนั่งกินขนมแกว่งชิงช้าเล่นที่สวนดอกไม้เพื่อรอพระชายาของนาง มีบางคนกำลังเดินมาหา เขานั่งลงบนชิงช้าตัวเดียวกับนาง"ท่านอาจิน ท่านไม่ไปเฝ้าท่านอ๋องหรือเจ้าคะ อีกอย่างชิงช้าเล็กเพียงนี้ นั่งสองคนมันเบียดกันท่านตัวโตยิ่งนัก""เจ้านั่งตักข้าสิ จะได้ไม่เบียด อีกอย่างท่านอ๋องมีเรื่องสำคัญจะคุยกับสองพี่น้องสกุลเฉิน จึงให้ข้ามาเฝ้าด้านนอก นั่นเจ้ากินอะไรอยู่เสี่ยวฮวาน้อย ""ท่านอาจิน เฮ้อ ข้าเชื่อท่านเลย นี่เป็นขนมที่พระชายาทรงทำเอาไว้เพื่อมาเยี่ยมสองพี่น้อง แล้วก็แจกเจ้าขอทานน้อยเหล่านั้น จริงสิ ท่านเรียกข้าเซียวเสี่ยวฮวาเถอะ เสี่ยวฮวาน้อยเหมือนกับว่าข้าอายุสามขวบ ฟังแล้วดูยังไม่โต ข้าปักปิ่นแล้วนะ""งั้นเจ้าก็ออกเรือนได้แล้วสิ""ตามธรรมเนียมน่ะใช่ แต่ว่าข้าไม่แต่งงานหรอก ข้าจะเลี้ยงซื่อจื่อกับท่านหญิงให้พระชายาของข้า""แต่ข้าอยากแต่งนี่ ข้าอยากมีลูกชายลูกสาวหลายๆคน"เสี่ยวฮวาก้มหน้า ท่านอาจินพูดอะไรกันนั่น หมายความว่าอย่างไร เขาอยากมีลูกก็ไปหาภรรยาของตนสิ มาบอกนางทำไม"อืม..ท่านก็ไปบอกภรรยาท่านสิ มาบอกข้าทำไม""เส