Share

สามจอมเสเพลแห่งเมืองหลวง

last update Last Updated: 2025-02-17 23:05:51

เชิงเขาหลังสำนัก   

จินเสี่ยวเฟิง  ฝางอี้หลุน  สวีข่ายเหยียนกับเด็กรับใช้ยืนรอนางอยู่  เมื่อมาถึงพวกเขาก็รีบมาหานาง  ได้เวลาจะเข้าเรียนแล้วนะ

"นี่ๆๆ  เจ้ายาจกรีบๆหน่อยไม่ได้หรือไง"

"คุณชายสวี  หากเรียกข้าเช่นนั้นอีกคำข้าจะให้สวีข่ายเฉิงปู่ของเจ้าจำหน้าไม่ได้เลยคอยดู   ฝนหมึกมา  กระดาษด้วย"

เมื่อทุกอย่างพร้อมไป่เจินเจินก็ลงมือเขียนกฎสำนักที่มีกว่าสองพันข้อให้พวกเขาคนละแผ่น  จินเสี่ยวเฟิงตาโต

"เหมือนไปแล้ว  นี่ดูเผินหรือตั้งใจดูก็เป็นลายมือข้า  ฮ่าๆข้าจ้างเจ้าข้าจ้างฮ่าๆๆ"

"ข้าด้วยๆ  สองตำลึงหรือ  นี่ไป่เจินเจินข้าให้เจ้าเดือนละยี่สิบตำลึง  ทำการบ้านให้ข้าเจ้าจะว่าอย่างไร"

ฝางอี้หลุนเป็นบุตรชายคหบดีในเมืองหลวงเขาร่ำรวยเงินทองมากมาย  ยี่สิบตำลึงแคะฟันเขายังไม่เกลี้ยงเลย  ไป๋เจินเจินเห็นโอกาสก็รีบค้าทันทีก่อนจะเอ่ย

"ข้าไม่เก่งเรื่องอื่น  แต่ถ้าคำนวณ  วาดภาพ  หรือแต่งกลอนข้าทำได้    ที่สำนักข้าไม่อยากเรียนเองนั่นแหละ  มานี่ข้าจะแต่งบทกวีให้พวกเจ้าลองอ่านหนึ่งบท"

จากนั้นไป่เจินเจินก็ลอกเอาบทกวีของหลี่ไป๋ นักกวีชื่อดังมาหนึ่งบทซึ่งเป็นบทไม่ได้ยากมากนัก  ทั้งสามตาโตทันที  ไป่เจินเจินจึงกลายเป็นกุนซือให้พวกเขาด้วยเงินเดือนๆละสามสิบตำลึงสามคนก็เก้าสิบตำลึง

"วันนี้จ่ายล่วงหน้ามาคนละหนึ่งตำลึง  พรุ่งนี้ยามอู่มารับงานที่ข้าคัดให้พวกเจ้าที่นี่  อย่าพาใครมาเพิ่มข้าพอใจทำให้แค่พวกเจ้าสามคน"

"ได้ๆ  แต่ว่าเจ้าไปมาเรียนหรือพรุ่งนี้"

"พวกเจ้าบอกตอนอาจารย์ขานชื่อไปว่าเห็นข้าเข้าไปร้านยา  จึงลองสอบถามดูปรากว่าข้าเป็นไข้  น่าจะอาการป่วยหนักเลยไม่อาจมาเรียนได้"

ทั้งสี่คนตกลงกันเรียบร้อยไป๋เจินเจินก็รับเงินก่อนจะไปตลาดหาซื้อข้าวของ  ผ้าห่ม  เสื้อผ้า  อาหาร แป้งสาลี  น้ำมัน  เกลือ  หลังสำนักมีภูเขาไม่เคยมีใครไปล่าสัตว์บนนี้  แต่ไม่ใช่สำหรับนาง  แต่เอาไว้ก่อน  ไป๋เจินเจินกลับไปถึงบ้านเรียกหาบิดาก็ไม่เห็น  พอเดินมาถึงด้านในก็เห็นเขาล้มอยู่  พยายามลุกแต่ลุกไม่ขึ้น  ไป๋เจินเจินรีบเข้าไปประคองทันที

"ท่านพ่อ..ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ  แล้วเหตุใดถึงได้หกล้มไป"

"พ่อจะไปหุงข้าวน่ะ  เห็นลูกยังไม่กลับมากินก็เลยจะไปตาม  แต่ตอนที่มาเอาเสื้อคลุมมันสะดุดล้ม"

ไป๋เจินเจินน้ำตาไหลออกมา  ผู้ชายคนนี้รักลูกสาวมากจริงๆ  เขาจะรู้ไหมว่าลูกสาวของเขาได้จากไปแล้ว  ไป่เจินเจินประคองเขาลุกขึ้นก่อนจะเอ่ย

"ต่อไปท่านไม่ต้องทำแล้ว  ท่านพ่อแม้ว่าข้าจะเรียนไม่เก่งแต่ลายมือข้างดงาม  อาจารย์มักเอ่ยชมเสมอ  อาจารย์หวงจึงให้ข้าคัดลอกบทความ  มีค่าตอบแทนให้ด้วย  วันนี้ข้าขอเบิกล่วงหน้ามา  ซื้ออาหารกับผ้าห่มมาเปลี่ยนให้ท่านใหม่  ท่านพ่อท่านนั่งนะเจ้าคะ  ข้าจะทำความสะอาดเรือนสักหน่อย"

"อาเจิน  งานมันหนักเจ้าบอบบางเกินไปไว้เป็นหน้าที่พ่อเถอะ"

"ท่านพ่อ  อีกหน่อยข้าออกเรือนไปท่านอยากให้คนมาต่อว่าหรือว่าเลี้ยงลูกสาวอย่างไรงานบ้านงานเรือนไม่ได้สักอย่าง  ท่านแม่เป็นสตรีที่เพียบพร้อมมิใช่หรือเจ้าคะ  ข้าอยากเป็นเช่นนางบ้าง"

ไป่จิ้งร้องไห้ออกมา  เขารักภรรยาของเขามาก  ทั้งคู่มีนางเป็นบุตรสาวคนเดียว  หลังจากที่นางจากไปเขาก็ไม่แต่งงานใหม่เลี้ยงดูนางมาลำพังจึงไม่อยากให้นางลำบาก  บุตรสาวเขาพูดถูกเป็นสตรีต้องรู้จักงานบ้าน  เขาจึงไม่เอ่ยต่ออีก

ไป่เจินเจินนำซาลาเป่ามาให้บิดาเรียบร้อยก็ไปทำความสะอาดบ้าน  ใช้เวลากว่าสองชั่วยามจึงสะอาด  บ้านที่เหม็นอับ  หยากไย่หนาเขรอะ  ที่นอนที่ขึ้นราถูกเอาออกมาทิ้งด้านนอก  นางจะเอาไปเผาทิ้งแต่ต้องรออีกหน่อย  ตอนนี้ในบ้านเหมือนบ้านหลังใหม่    หอมสะอาด  ไป่จิ้งยกแขนเสื้อมาเช็ดน้ำตา  บุตรสาวโตแล้วจริงๆ

ไป๋เจินเจินทำมื้อเย็นให้บิดากับตนเอง  จากนั้นก็เข้าห้องจุดตะเกียง เงินสามตำลึงนั้นจะว่ามากก็ไม่มากแต่สำหรับคนที่ไม่มีเงินตำลึงเลยนับว่าต่อลมหายใจทีเดียว  วันนี้นางไปถามมาแล้วว่าค่าตรวจรักษาเริ่มต้นที่เท่าไหร่  ปรากฏว่าแค่ค่าตรวจก็แปดตำลึงแล้ว   แค่คัดตำรายังไม่พอต้องหาเงินจากทางอื่นอีก  พรุ่งนี้ส่งงานเสร็จจะเลยขึ้นเขาสักหน่อยเผื่อหาขุมทรัพย์ได้จากบนเขาเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมา  จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาคัดกฎสำนักให้กับทั้งสามคนจนยามอิ๋นจึงได้เข้านอน   

Related chapters

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   วางแผนการตลาด

    ไป๋เจินเจินตื่นมาทำอาหารเช้านางต้มข้าวต้มและหุงข้าวขาว จากนั้นเอาเนื้อหมูมาเคล้าเกลือซื้อพริกไทยมาจากหอโอสถห่อหนึ่งก็เอามาบดๆ คลุกเคล้ากันหมักเอาไว้ ไข่ไก่ถูกนำมาตีจนเนื้อไข่เนียน ไป๋เจินเจินเติมน้ำแล้วปรุงรสด้วยเกลือ เหยาะน้ำมันเล็กน้อยแล้วตีให้เข้ากันอีกที ช้อนฟองอากาศออกจนเนื้อที่ตีเนียนหุงข้าวและต้มข้าวเสร็จแล้วไป๋เจินเจินก็เพิ่มฟืนแค่หนึ่งท่อน ตั้งกระทะจนน้ำเดือดนำชามไข่ตุ๋นวางลงไป เงินสามตำลึงพอซื้อเพียงกระทะใบไม่ใหญ่แต่ก็พอให้สองพ่อลูกทำอาหารกินได้ไม่ลำบาก ไป่เจินเจินมองไปยังทางบิดาของร่างเดิม เพราะมีคนปองร้ายรัชทายาท เขาเข้าช่วยเหลือ เว่ยซูหยางพี่ชายเว่ยซูถิงแอบอ้างเอาผลงานไป เพราะว่าไป๋จิ้งเจ็บหนักจากการที่ถูกคนร้ายลงมือ เขานอนพักรักษาตัวอยู่มาวันหนึ่งมีคนจากจวนเสนาบดีมาหาแล้วสั่งให้เขาปิดปากเงียบเรื่องวันนั้น ไม่เช่นนั้นชีวิตเขากับบุตรสาวจะไม่ปลอดภัยไป๋จิ้งมีเพียงร่างเดิมเป็นบุตรสาวคนเดียวเท่านั้น เขาจึงยอมกล้ำกลืนแต่ตระกูลเว่ยยังไม่หยุดรังควานสุดท้ายเขาต้องออกจากบ้านที่อยู่มาแต่เด็ก ถูกกลั่นแกล้งถูกบีบจนไม่เหลืออะไรเลย ในที่สุดก็เหลือเงินก้อนสุดท้ายมาเช่าบ้านที่ตรอกแห่งน

    Last Updated : 2025-02-17
  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ทำการตลาด

    ไป๋เจินเจินหยิบเอาสมุดเล่มเล็กๆ ที่นางตัดเองเป็นสมุดทำมือ นี่เป็นวิธีคำนวณหลักคณิตศาสตร์ของเด็กประถมปลายซึ่งในยุคนี้อาจารย์สำนักศึกษาที่เก่งๆ หลายคนยังคำนวณออกมาไม่ได้เลย คนในยุคสมัยนี้แม้ว่าจะเรียนหนังสือแต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขหรือคณิตศาสตร์นั้นพวกเขาแทบจะไม่รู้เรื่อง สวีข่ายเหยียนตาโตทันทีก่อนจะถามนางว่าเอามาจากที่ใดกัน“อาเจิน..บอกข้าทีไปเอามาจากไหน เอ่อเรียกข้าเหมือนอี้หลุนก็ได้”“พี่ข่ายเหยียน พี่อี้หลุน พี่เสี่ยวฟง บิดาของข้านับวันก็ป่วย ข้าขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรบ่อยๆ จะไปที่ร้านโอสถข้าก็ไม่มีเงินตำลึงไปซื้อ วันหนึ่งข้าเจอกับผู้อาวุโสคนหนึ่งเขาถามข้าว่าทำไม่ไปเรียน คงเห็นว่าข้าใสชุดสำนักศึกษากระมัง”“แล้วต่อจากนั้นเล่า” ฝางอี้หลุนใจร้อนอยากฟังจนจินเสี่ยวฟงตบศรีษะของเขาให้ฟังเงียบๆ“จากนั้นข้าก็ตอบไปว่า ข้าไปก็ไร้ประโยชน์อาจารย์เหล่านั้นไม่เต็มใจสอนข้า เพราะข้ายากจนไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน ข้าๆๆ ฮือๆๆ ข้าพูดแล้วก็สะท้อนใจนัก ฮือๆๆ ผู้อาวุโสท่านนั้นเห็นว่าข้าอัดอั้นเขาจึงให้ข้าไปเจอกับเขาทุกวันหลังยามเซิน ข้าเรียนกับเขาได้สองเดือนจนพอเกือบจะทันพวกท่านแต่ๆๆ กลับถูกคุณหนูเ

    Last Updated : 2025-02-17
  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   พวกเขาปกป้องนางหรือ นี่มันแปลกเกินไป

    ทางด้านสามคนที่กลับสำนักศึกษาเข้าห้องเรียนก็เดินผ่านคุณหนูทั้งหลายไปนั่งยังที่ประจำเพื่อรออาจารย์ เว่ยซูถิงไม่ได้อยากแต่งงานกับจินเสี่ยวฟงอยู่แล้ว นางแอบชอบรัชทายาทและนางอยากเป็นไท่จื่อเฟยมากกว่า พี่ชายได้ขึ้นชื่อว่ามีบุญคุณช่วยเหลือพระองค์ตอนที่ถูกลอบทำร้ายเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้ไท่จื่อมักจะมาพูดคุยสนทนาที่จวนเสมอ นางขอท่านปู่ให้ถอนหมั้นนางกับจินเสี่ยวฟง แต่ท่านปู่ยังไม่รับปากเช่นนั้นนางจะหางทางเอง“หึ จนป่านนี้เพิ่งจะเข้าเรียน จ่ายเงินเข้ามาก็ยังเรียนไม่ได้น่าสงสารจริงๆ”“นี่เว่ยซูถิงสตรีปีศาจอย่างเจ้ากล้าต่อว่าคนอื่นหรือ หึ..อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ พี่ชายเจ้าพาเจ้าเข้ามาเรียนที่นี่ อาศัยแอบอ้างผลงานคนอื่นแล้วมาผยอง น่าสมเพช”“สวีข่ายเหยียน เจ้าพูดดีๆ นะใครแอบอ้าง พี่ชายข้าที่ผ่านมาไม่มีสิ่งใดให้ละอาย”“อ้อ..นี่เว่ยซูถิงข้าจินเสี่ยวฟงขอถามสักคำเถอะ พี่เจ้ากระบี่ยังตวัดสะเปะสะปะกลับบอกว่าคนเองเป็นวีรบุรุษอีกหรือ”“จินเสี่ยวฟง เจ้ามันขยะที่เรียนก็ไม่ได้เรื่องข้าจะถอนหมั้นเจ้า”“โย่ว..เจ้ารีบถอนเถอะ สตรีชั่วร้ายเช่นเจ้าใครได้ไปนับว่าชีวิตอัปมงคลยิ่งนัก”“เจ้าๆๆๆ”เว่ยซูถิงอับอายยิ่งนัก ยิ่งบ

    Last Updated : 2025-02-17
  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ข้าจะรับนางเป็นศิษย์ส่วนตัว

    ไป่เจินเจินไม่รู้ว่าตนเองกำลังเป็นเป้าสายตาคนกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งยังกำลังถูกอาจารย์เจ้าระเบียบหมายหัวอีกต่างหาก นางวิ่งลัดเลาะไปทั่วเขา วางกับดักเอาไว้ หากได้สัตว์ป่าสักตัวนางจะได้ไม่ต้องเสียเงินมาซื้อเนื้อหมูหรือซื้อไก่ สายตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างสีขาวๆแวบๆ"หืมนี่มันของดีนี่นา อีกสามวันจะเป็นวันเกิดของท่านย่าพี่ข่ายเหยียนเอาไปให้เขาดีกว่า อย่างน้อยเขาก็ใจกว้าง"ไป๋เจินเจินวางกับดัก คนที่ตามมาดูก็งงว่านางทำอะไรเพื่อจะกลับไปรายงาน ไป๋เจินเจินวางกับดักทั่วภูเขา ที่นางเดินผ่าน ไม่นานก็มีแต่กับดักเต็มไปหมด บุรุษที่เฝ้าสังเกตการณ์ไม่รู้ว่านนางกำลังทำอะไรเห็นนางก้มๆเงย หลังจากวางกับดักแล้วก็ใจเย็นนอนบนกิ่งไม้รอให้เหยื่อมาติดกับสวบ!!เสียงกับดักทำงานแต่ไป๋เจินเจินไม่ลงมาดู ไม่นานก็ได้ยินอีก สวบ!! สวบ!! สวบ!! สวบ!! สวบ!!มู่ถิงน้ำตาคลอนี่มันกับดักบ้าอะไร นังเด็กน้อยนี่ฝีมือไม่ธรรมดาเลย หากเขาจัดการนางคุณชายเอาเรื่องเขาแน่ๆ ดูท่าทางจะสนใจปีศาจน้อยตัวนี้เสียด้วย มูาถิงเดินเขยกๆกลับไปรายงาน ไป๋เจินเจินยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย"เหอะ นึกว่าจะแน่ไอ้คนไม่เอาไหนเอ้ย" จากนั้นก็

    Last Updated : 2025-02-17
  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   เหตุใดเขาถึงหวั่นไหวกับนาง

    จ้าวหย่งเฉิงเอ่ยลาบิดาของสาวน้อยก่อนจะเรียกให้นางตามไป ไป๋เจินเจินเดินตามเขามาด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ เมื่อขึ้นบนรถม้าก็นั่งห่างจากเขาราวกับรังเกียจเขานักหนา จ้าวหย่งเฉิงยกยิ้มมุมปาก เด็กคนนี้ต้องสั่งสอนจริงๆรถม้าออกจากตรอกมาได้ครึ่งทางจ้าวหย่งเฉิงนั่งเคาะนิ้วเล่นเบาที่เก้าอี้ก่อนจะลงลมปราณทำให้รถมาสั่นโคลงไปมาทำให้ไป๋เจินเจินถลามาหาเขากอดเขาเอาไว้ทันทีจ้าวหย่งเฉิงโอบแผ่นหลังนางไว้กระซิบข้างหูเบาๆ "ไหนว่าบุรุษน่ารังเกียจ กอดข้าแน่นเพียงนี้หรือว่าข้าเป็นข้อยกเว้น หื้ม""อาจารย์จ้าว ปะ ปล่อยศิษย์เถอะเจ้าค่ะ"มือที่โอบนางเอาไว้ปล่อยเอวบางข้างหนึ่ง ก่อนจะก้มลงช้อนข้อพับแล้วเอาร่างบางมานั่งบนตักตนเอง เขาแผ่ลมปราณให้รถม้าส่ายไปมาจนคนตัวเล็กต้องโอบรอบคอเขาไว้เพราะกลัวตก จ้าวหย่งเฉิงสูดกลิ่นหอมของเส้นผมที่สะอาดบวกกับดอกไม้ที่นางแซมผมเอาไว้ ไป่๋เจินเจินนั่งบนตักเขาจนถึงสำนักศึกษา เขาไม่ให้นางลงได้แต่สั่งคนขับรถม้า"เสี่ยวจง...ไปหาอาจารย์หยุนบอกเอาชุดนักเรียนสตรีมาสามชุด"เสี่ยวจงรับคำแล้วเข้าไปในสำนัก ไป่เจินเจินพยายามดิ้นลงจากตักเขาแต่จ้าวหย่งเฉิงกระซิบข้างหูนาง"นั่งดีๆสิ เ

    Last Updated : 2025-02-17
  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   มารับไปเรียนพิเศษ

    รถม้าเคลื่อนออกไปพร้อมกับมีบางคนที่มาถึงตรอกเช่นกัน บุรุษทั้งสองเดินสำรวจในตรอกจนมาถึงบ้านของไป๋จิ้ง หนึ่งในนั้นเคาะประตูเบาๆ ไป๋จิ้งเดินออกมาดูทันทีที่เห็นหน้าก็กำลังจะคุกเข่า แต่คนผู้นั้นกลับแตะข้อศอกไป๋จิ้งเอาไว้ก่อนจะเอ่ยเรียก"ท่านอาจารย์......ศิษย์อกตัญญูทำท่านลำบากแล้ว""ไม่ลำบากๆแต่อย่างไร ฮึกๆ ในที่สุดก็ได้พบกัน"ไป๋จิ้งสะอื้นเล็กน้อยจากนั้นทั้งสามคนเดินเข้ามาในบ้าน ไป๋เจินเจินนั่งวาดรูปอยู่ด้านใน นางได้ยินเสียงบิดาจึงเอ่ยถาม"ท่านพ่อ..ต้องการอันใดหรือไม่เจ้าคะ ให้ลูกไปหยิบให้ท่านดีหรือไม่"พ่อไม่ได้ต้องการอันใดหรอก ลูกนอนเถอะดึกแล้วพรุ่งนี้ต้องไปเรียนหนังสืออีก""พรุ่งนี้สำนักศึกษาหยุดเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นข้านอนก่อนแล้ว หากท่านพ่อประสงค์สิ่งใดก็ตะโกนเรียกลูกนะเจ้าคะ"ไป๋เจินเจินตะโกนกลับมา ไป๋จิ้งยิ้มให้กับประตูห้องของบุตรสาว เขาเดินเขยกๆไปยังโต๊ะกลางห้อง บุรุษมาใหม่ถอนหายใจทันที ไป๋จิ้งหันกลับมาก่อนจะส่ายหน้าให้เขาเป็นเชิงบอกว่าตนเองไม่เป็นไร ทั้งสามคนสนทนากันในห้องเสียงเบามากนัก ไม่มีใครได้ยิน ก่อนจะได้เวลาแล้วแยกย้ายกันไป หลังจากที่สองคนนั้นไปแล้ว

    Last Updated : 2025-02-17
  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ขอบคุณกับผีบรรพบบุรุษเจ้าสิ

    ไป๋จิ้งเอ่ยชวนเขา แต่คนตัวเล็กที่กำลังถือกับข้าวออกมาอีกสองอย่างยืนหน้างอ ใครให้เขากินด้วย ไป๋เจินเจินกำลังจะเอ่ยว่านางไม่ได้หุงเผื่อคนอื่นเพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาขอกินด้วย จ้าวหย่งเฉิงก็เอ่ยตัดหน้าเสียก่อน"รบกวนพี่ใหญ่จิ้งแต่เช้า อาหารที่ท่านทำช่างน่าทานเช่นนั้นข้าแซ่จ้าวคงไม่เกรงใจแล้ว""ฮ่าๆๆ...อาหารเหล่านี้มิใช่ข้าน้อยทำหรอกขอรับเป็นบุตรสาวน่ะ อาเจินเพิ่มถ้วยกับตะเกียบอีกคู่สิ อาจารย์ของเจ้าจะกินข้าวเช้ากับเราด้วย"ไป๋จิ้งหันไปหาบุตรสาวที่ยืนหน้างอง้ำราวกับขอเบ็ดตกปลา ไป๋เจินเจินมองหน้าเขาเอาเรื่องทันทีที่บิดาหันกลับไปสนทนากับเขาต่อ จ้าวหย่งเฉิงเป่าน้ำชาเบาทั้งที่ทันไม่ได้ร้อนสักนิด ก้มลงจิบก่อนยิ้มมุมปากจ้าวหย่งเฉิงกำลังขบขันนางในใจ("เด็กน้อยเจ้าต่อต้านข้าหรือตราบใดที่บิดาเจ้าให้ความสำคัญกับข้าดูสิว่าเจ้าจะไปไหนรอด")ไป๋เจินเจินยอมไปหยิบชามกับตะเกียบมาให้กับจ้าวหย่งเฉิง นางไม่อยากกินข้าวรวมกับเขาแต่บิดานั่งอยู่จะแสดงความไม่พอใจมิได้จึงทำได้แค่นั่งลงตรงกันข้ามกับเขาแล้วก็เริ่มตักอาหารเข้าปาก จ้าวหย่งเฉิงที่เดิมไม่ได้อยากกินเท่าไหร่นักที่เขาทำเพราะอยากแกล้งสาวน้อยตรงห

    Last Updated : 2025-02-17
  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ปฏิบัติหน้าที่ครั้งสุดท้าย

    “หน่วยวิถีเรียกวิหคเพลิง”“วิหคเพลิงรับทราบ”“วิหคเพลิง ขณะนี้มีไฟป่าบนภูเขา มีชาวบ้านติดอยูเราต้องการเฮลิคอปเตอร์ด่วน”“รับทราบหน่วยวิถี หน่วยวิหคเพลิงแสตนด์บายๆ” หวังอันหัวหน้าหน่วยวิถีรับทราบถึงไฟป่าที่กำลังลุกไหม้อยู่ในขณะนี้ และมีชาวบ้านกับเจ้าหน้าที่ของโครงการวิจัยติดอยู่ที่นั่นหลายสิบชีวิต “กัวชาง..เอาฮอขึ้นเราต้องไปขนย้ายชาวบ้านที่ติดอยู่บนเขาก่อนที่ไฟจะลามไปถึงพวกเขา”“หัวหน้าครับ..ฮอไปปฏิบัติงานหมดแล้วเพลือเพียงลำเดียว ที่สำคัญไม่มีใครขับลำนี้ได้เลยครับนอกจากเจินเจิน”“วิทยุไปเรียกเจินเจินมา ด่วนเลยนะเจชราต้องอพยพก่อนที่ทิศทางลงจะเปลี่ยน”“วันนี้อาเจินหยุดครับ”“หยุดนานก็โทรตามสิ ไวไวด้วย บ้านพักอาเจินนอยู่ไม่ไกลไม่ใชหรือ”“ครับๆๆ”กัวชางหรือหมูน้อยที่ไป๋เจินเจินตั้งให้รีบกดมือถือโทรหาเธอทันที เฮลิคอปเตอร์ลำที่เหลืออยู่มีเพียงไป๋เจินเจินเท่านั้นที่สามารถเอามันขึ้นฟ้าได้Rrrrrr. Rrrrr. Rrrrr.เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ไป๋เจินเจินงัวเงียๆรีบสาย นี่มันตีสองนะใครโทรมา อีกอย่างคืนนี้เธอไม่ได้เข้าเวรนี่นา ก่อนจะหยิบมาดูก็เห็นเบอร์ของหมูน้อยโชว์หน้าจอ ไป๋เจินเจินกดรับสายท

    Last Updated : 2025-02-17

Latest chapter

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ขอบคุณกับผีบรรพบบุรุษเจ้าสิ

    ไป๋จิ้งเอ่ยชวนเขา แต่คนตัวเล็กที่กำลังถือกับข้าวออกมาอีกสองอย่างยืนหน้างอ ใครให้เขากินด้วย ไป๋เจินเจินกำลังจะเอ่ยว่านางไม่ได้หุงเผื่อคนอื่นเพราะไม่คิดว่าจะมีคนมาขอกินด้วย จ้าวหย่งเฉิงก็เอ่ยตัดหน้าเสียก่อน"รบกวนพี่ใหญ่จิ้งแต่เช้า อาหารที่ท่านทำช่างน่าทานเช่นนั้นข้าแซ่จ้าวคงไม่เกรงใจแล้ว""ฮ่าๆๆ...อาหารเหล่านี้มิใช่ข้าน้อยทำหรอกขอรับเป็นบุตรสาวน่ะ อาเจินเพิ่มถ้วยกับตะเกียบอีกคู่สิ อาจารย์ของเจ้าจะกินข้าวเช้ากับเราด้วย"ไป๋จิ้งหันไปหาบุตรสาวที่ยืนหน้างอง้ำราวกับขอเบ็ดตกปลา ไป๋เจินเจินมองหน้าเขาเอาเรื่องทันทีที่บิดาหันกลับไปสนทนากับเขาต่อ จ้าวหย่งเฉิงเป่าน้ำชาเบาทั้งที่ทันไม่ได้ร้อนสักนิด ก้มลงจิบก่อนยิ้มมุมปากจ้าวหย่งเฉิงกำลังขบขันนางในใจ("เด็กน้อยเจ้าต่อต้านข้าหรือตราบใดที่บิดาเจ้าให้ความสำคัญกับข้าดูสิว่าเจ้าจะไปไหนรอด")ไป๋เจินเจินยอมไปหยิบชามกับตะเกียบมาให้กับจ้าวหย่งเฉิง นางไม่อยากกินข้าวรวมกับเขาแต่บิดานั่งอยู่จะแสดงความไม่พอใจมิได้จึงทำได้แค่นั่งลงตรงกันข้ามกับเขาแล้วก็เริ่มตักอาหารเข้าปาก จ้าวหย่งเฉิงที่เดิมไม่ได้อยากกินเท่าไหร่นักที่เขาทำเพราะอยากแกล้งสาวน้อยตรงห

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   มารับไปเรียนพิเศษ

    รถม้าเคลื่อนออกไปพร้อมกับมีบางคนที่มาถึงตรอกเช่นกัน บุรุษทั้งสองเดินสำรวจในตรอกจนมาถึงบ้านของไป๋จิ้ง หนึ่งในนั้นเคาะประตูเบาๆ ไป๋จิ้งเดินออกมาดูทันทีที่เห็นหน้าก็กำลังจะคุกเข่า แต่คนผู้นั้นกลับแตะข้อศอกไป๋จิ้งเอาไว้ก่อนจะเอ่ยเรียก"ท่านอาจารย์......ศิษย์อกตัญญูทำท่านลำบากแล้ว""ไม่ลำบากๆแต่อย่างไร ฮึกๆ ในที่สุดก็ได้พบกัน"ไป๋จิ้งสะอื้นเล็กน้อยจากนั้นทั้งสามคนเดินเข้ามาในบ้าน ไป๋เจินเจินนั่งวาดรูปอยู่ด้านใน นางได้ยินเสียงบิดาจึงเอ่ยถาม"ท่านพ่อ..ต้องการอันใดหรือไม่เจ้าคะ ให้ลูกไปหยิบให้ท่านดีหรือไม่"พ่อไม่ได้ต้องการอันใดหรอก ลูกนอนเถอะดึกแล้วพรุ่งนี้ต้องไปเรียนหนังสืออีก""พรุ่งนี้สำนักศึกษาหยุดเจ้าค่ะ ถ้าเช่นนั้นข้านอนก่อนแล้ว หากท่านพ่อประสงค์สิ่งใดก็ตะโกนเรียกลูกนะเจ้าคะ"ไป๋เจินเจินตะโกนกลับมา ไป๋จิ้งยิ้มให้กับประตูห้องของบุตรสาว เขาเดินเขยกๆไปยังโต๊ะกลางห้อง บุรุษมาใหม่ถอนหายใจทันที ไป๋จิ้งหันกลับมาก่อนจะส่ายหน้าให้เขาเป็นเชิงบอกว่าตนเองไม่เป็นไร ทั้งสามคนสนทนากันในห้องเสียงเบามากนัก ไม่มีใครได้ยิน ก่อนจะได้เวลาแล้วแยกย้ายกันไป หลังจากที่สองคนนั้นไปแล้ว

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   เหตุใดเขาถึงหวั่นไหวกับนาง

    จ้าวหย่งเฉิงเอ่ยลาบิดาของสาวน้อยก่อนจะเรียกให้นางตามไป ไป๋เจินเจินเดินตามเขามาด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่ เมื่อขึ้นบนรถม้าก็นั่งห่างจากเขาราวกับรังเกียจเขานักหนา จ้าวหย่งเฉิงยกยิ้มมุมปาก เด็กคนนี้ต้องสั่งสอนจริงๆรถม้าออกจากตรอกมาได้ครึ่งทางจ้าวหย่งเฉิงนั่งเคาะนิ้วเล่นเบาที่เก้าอี้ก่อนจะลงลมปราณทำให้รถมาสั่นโคลงไปมาทำให้ไป๋เจินเจินถลามาหาเขากอดเขาเอาไว้ทันทีจ้าวหย่งเฉิงโอบแผ่นหลังนางไว้กระซิบข้างหูเบาๆ "ไหนว่าบุรุษน่ารังเกียจ กอดข้าแน่นเพียงนี้หรือว่าข้าเป็นข้อยกเว้น หื้ม""อาจารย์จ้าว ปะ ปล่อยศิษย์เถอะเจ้าค่ะ"มือที่โอบนางเอาไว้ปล่อยเอวบางข้างหนึ่ง ก่อนจะก้มลงช้อนข้อพับแล้วเอาร่างบางมานั่งบนตักตนเอง เขาแผ่ลมปราณให้รถม้าส่ายไปมาจนคนตัวเล็กต้องโอบรอบคอเขาไว้เพราะกลัวตก จ้าวหย่งเฉิงสูดกลิ่นหอมของเส้นผมที่สะอาดบวกกับดอกไม้ที่นางแซมผมเอาไว้ ไป่๋เจินเจินนั่งบนตักเขาจนถึงสำนักศึกษา เขาไม่ให้นางลงได้แต่สั่งคนขับรถม้า"เสี่ยวจง...ไปหาอาจารย์หยุนบอกเอาชุดนักเรียนสตรีมาสามชุด"เสี่ยวจงรับคำแล้วเข้าไปในสำนัก ไป่เจินเจินพยายามดิ้นลงจากตักเขาแต่จ้าวหย่งเฉิงกระซิบข้างหูนาง"นั่งดีๆสิ เ

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ข้าจะรับนางเป็นศิษย์ส่วนตัว

    ไป่เจินเจินไม่รู้ว่าตนเองกำลังเป็นเป้าสายตาคนกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งยังกำลังถูกอาจารย์เจ้าระเบียบหมายหัวอีกต่างหาก นางวิ่งลัดเลาะไปทั่วเขา วางกับดักเอาไว้ หากได้สัตว์ป่าสักตัวนางจะได้ไม่ต้องเสียเงินมาซื้อเนื้อหมูหรือซื้อไก่ สายตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างสีขาวๆแวบๆ"หืมนี่มันของดีนี่นา อีกสามวันจะเป็นวันเกิดของท่านย่าพี่ข่ายเหยียนเอาไปให้เขาดีกว่า อย่างน้อยเขาก็ใจกว้าง"ไป๋เจินเจินวางกับดัก คนที่ตามมาดูก็งงว่านางทำอะไรเพื่อจะกลับไปรายงาน ไป๋เจินเจินวางกับดักทั่วภูเขา ที่นางเดินผ่าน ไม่นานก็มีแต่กับดักเต็มไปหมด บุรุษที่เฝ้าสังเกตการณ์ไม่รู้ว่านนางกำลังทำอะไรเห็นนางก้มๆเงย หลังจากวางกับดักแล้วก็ใจเย็นนอนบนกิ่งไม้รอให้เหยื่อมาติดกับสวบ!!เสียงกับดักทำงานแต่ไป๋เจินเจินไม่ลงมาดู ไม่นานก็ได้ยินอีก สวบ!! สวบ!! สวบ!! สวบ!! สวบ!!มู่ถิงน้ำตาคลอนี่มันกับดักบ้าอะไร นังเด็กน้อยนี่ฝีมือไม่ธรรมดาเลย หากเขาจัดการนางคุณชายเอาเรื่องเขาแน่ๆ ดูท่าทางจะสนใจปีศาจน้อยตัวนี้เสียด้วย มูาถิงเดินเขยกๆกลับไปรายงาน ไป๋เจินเจินยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย"เหอะ นึกว่าจะแน่ไอ้คนไม่เอาไหนเอ้ย" จากนั้นก็

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   พวกเขาปกป้องนางหรือ นี่มันแปลกเกินไป

    ทางด้านสามคนที่กลับสำนักศึกษาเข้าห้องเรียนก็เดินผ่านคุณหนูทั้งหลายไปนั่งยังที่ประจำเพื่อรออาจารย์ เว่ยซูถิงไม่ได้อยากแต่งงานกับจินเสี่ยวฟงอยู่แล้ว นางแอบชอบรัชทายาทและนางอยากเป็นไท่จื่อเฟยมากกว่า พี่ชายได้ขึ้นชื่อว่ามีบุญคุณช่วยเหลือพระองค์ตอนที่ถูกลอบทำร้ายเมื่อปีที่แล้ว ยามนี้ไท่จื่อมักจะมาพูดคุยสนทนาที่จวนเสมอ นางขอท่านปู่ให้ถอนหมั้นนางกับจินเสี่ยวฟง แต่ท่านปู่ยังไม่รับปากเช่นนั้นนางจะหางทางเอง“หึ จนป่านนี้เพิ่งจะเข้าเรียน จ่ายเงินเข้ามาก็ยังเรียนไม่ได้น่าสงสารจริงๆ”“นี่เว่ยซูถิงสตรีปีศาจอย่างเจ้ากล้าต่อว่าคนอื่นหรือ หึ..อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ พี่ชายเจ้าพาเจ้าเข้ามาเรียนที่นี่ อาศัยแอบอ้างผลงานคนอื่นแล้วมาผยอง น่าสมเพช”“สวีข่ายเหยียน เจ้าพูดดีๆ นะใครแอบอ้าง พี่ชายข้าที่ผ่านมาไม่มีสิ่งใดให้ละอาย”“อ้อ..นี่เว่ยซูถิงข้าจินเสี่ยวฟงขอถามสักคำเถอะ พี่เจ้ากระบี่ยังตวัดสะเปะสะปะกลับบอกว่าคนเองเป็นวีรบุรุษอีกหรือ”“จินเสี่ยวฟง เจ้ามันขยะที่เรียนก็ไม่ได้เรื่องข้าจะถอนหมั้นเจ้า”“โย่ว..เจ้ารีบถอนเถอะ สตรีชั่วร้ายเช่นเจ้าใครได้ไปนับว่าชีวิตอัปมงคลยิ่งนัก”“เจ้าๆๆๆ”เว่ยซูถิงอับอายยิ่งนัก ยิ่งบ

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ทำการตลาด

    ไป๋เจินเจินหยิบเอาสมุดเล่มเล็กๆ ที่นางตัดเองเป็นสมุดทำมือ นี่เป็นวิธีคำนวณหลักคณิตศาสตร์ของเด็กประถมปลายซึ่งในยุคนี้อาจารย์สำนักศึกษาที่เก่งๆ หลายคนยังคำนวณออกมาไม่ได้เลย คนในยุคสมัยนี้แม้ว่าจะเรียนหนังสือแต่หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวเลขหรือคณิตศาสตร์นั้นพวกเขาแทบจะไม่รู้เรื่อง สวีข่ายเหยียนตาโตทันทีก่อนจะถามนางว่าเอามาจากที่ใดกัน“อาเจิน..บอกข้าทีไปเอามาจากไหน เอ่อเรียกข้าเหมือนอี้หลุนก็ได้”“พี่ข่ายเหยียน พี่อี้หลุน พี่เสี่ยวฟง บิดาของข้านับวันก็ป่วย ข้าขึ้นเขาไปเก็บสมุนไพรบ่อยๆ จะไปที่ร้านโอสถข้าก็ไม่มีเงินตำลึงไปซื้อ วันหนึ่งข้าเจอกับผู้อาวุโสคนหนึ่งเขาถามข้าว่าทำไม่ไปเรียน คงเห็นว่าข้าใสชุดสำนักศึกษากระมัง”“แล้วต่อจากนั้นเล่า” ฝางอี้หลุนใจร้อนอยากฟังจนจินเสี่ยวฟงตบศรีษะของเขาให้ฟังเงียบๆ“จากนั้นข้าก็ตอบไปว่า ข้าไปก็ไร้ประโยชน์อาจารย์เหล่านั้นไม่เต็มใจสอนข้า เพราะข้ายากจนไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน ข้าๆๆ ฮือๆๆ ข้าพูดแล้วก็สะท้อนใจนัก ฮือๆๆ ผู้อาวุโสท่านนั้นเห็นว่าข้าอัดอั้นเขาจึงให้ข้าไปเจอกับเขาทุกวันหลังยามเซิน ข้าเรียนกับเขาได้สองเดือนจนพอเกือบจะทันพวกท่านแต่ๆๆ กลับถูกคุณหนูเ

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   วางแผนการตลาด

    ไป๋เจินเจินตื่นมาทำอาหารเช้านางต้มข้าวต้มและหุงข้าวขาว จากนั้นเอาเนื้อหมูมาเคล้าเกลือซื้อพริกไทยมาจากหอโอสถห่อหนึ่งก็เอามาบดๆ คลุกเคล้ากันหมักเอาไว้ ไข่ไก่ถูกนำมาตีจนเนื้อไข่เนียน ไป๋เจินเจินเติมน้ำแล้วปรุงรสด้วยเกลือ เหยาะน้ำมันเล็กน้อยแล้วตีให้เข้ากันอีกที ช้อนฟองอากาศออกจนเนื้อที่ตีเนียนหุงข้าวและต้มข้าวเสร็จแล้วไป๋เจินเจินก็เพิ่มฟืนแค่หนึ่งท่อน ตั้งกระทะจนน้ำเดือดนำชามไข่ตุ๋นวางลงไป เงินสามตำลึงพอซื้อเพียงกระทะใบไม่ใหญ่แต่ก็พอให้สองพ่อลูกทำอาหารกินได้ไม่ลำบาก ไป่เจินเจินมองไปยังทางบิดาของร่างเดิม เพราะมีคนปองร้ายรัชทายาท เขาเข้าช่วยเหลือ เว่ยซูหยางพี่ชายเว่ยซูถิงแอบอ้างเอาผลงานไป เพราะว่าไป๋จิ้งเจ็บหนักจากการที่ถูกคนร้ายลงมือ เขานอนพักรักษาตัวอยู่มาวันหนึ่งมีคนจากจวนเสนาบดีมาหาแล้วสั่งให้เขาปิดปากเงียบเรื่องวันนั้น ไม่เช่นนั้นชีวิตเขากับบุตรสาวจะไม่ปลอดภัยไป๋จิ้งมีเพียงร่างเดิมเป็นบุตรสาวคนเดียวเท่านั้น เขาจึงยอมกล้ำกลืนแต่ตระกูลเว่ยยังไม่หยุดรังควานสุดท้ายเขาต้องออกจากบ้านที่อยู่มาแต่เด็ก ถูกกลั่นแกล้งถูกบีบจนไม่เหลืออะไรเลย ในที่สุดก็เหลือเงินก้อนสุดท้ายมาเช่าบ้านที่ตรอกแห่งน

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   สามจอมเสเพลแห่งเมืองหลวง

    เชิงเขาหลังสำนัก จินเสี่ยวเฟิง ฝางอี้หลุน สวีข่ายเหยียนกับเด็กรับใช้ยืนรอนางอยู่ เมื่อมาถึงพวกเขาก็รีบมาหานาง ได้เวลาจะเข้าเรียนแล้วนะ"นี่ๆๆ เจ้ายาจกรีบๆหน่อยไม่ได้หรือไง""คุณชายสวี หากเรียกข้าเช่นนั้นอีกคำข้าจะให้สวีข่ายเฉิงปู่ของเจ้าจำหน้าไม่ได้เลยคอยดู ฝนหมึกมา กระดาษด้วย"เมื่อทุกอย่างพร้อมไป่เจินเจินก็ลงมือเขียนกฎสำนักที่มีกว่าสองพันข้อให้พวกเขาคนละแผ่น จินเสี่ยวเฟิงตาโต"เหมือนไปแล้ว นี่ดูเผินหรือตั้งใจดูก็เป็นลายมือข้า ฮ่าๆข้าจ้างเจ้าข้าจ้างฮ่าๆๆ""ข้าด้วยๆ สองตำลึงหรือ นี่ไป่เจินเจินข้าให้เจ้าเดือนละยี่สิบตำลึง ทำการบ้านให้ข้าเจ้าจะว่าอย่างไร"ฝางอี้หลุนเป็นบุตรชายคหบดีในเมืองหลวงเขาร่ำรวยเงินทองมากมาย ยี่สิบตำลึงแคะฟันเขายังไม่เกลี้ยงเลย ไป๋เจินเจินเห็นโอกาสก็รีบค้าทันทีก่อนจะเอ่ย"ข้าไม่เก่งเรื่องอื่น แต่ถ้าคำนวณ วาดภาพ หรือแต่งกลอนข้าทำได้ ที่สำนักข้าไม่อยากเรียนเองนั่นแหละ มานี่ข้าจะแต่งบทกวีให้พวกเจ้าลองอ่านหนึ่งบท"จากนั้นไป่เจินเจินก็ลอกเอาบทกวีของหลี่ไป๋ นักกวีชื่อดังมาหนึ่งบทซึ่งเป็นบทไม่ได้ยากมากนัก ทั้งสามตาโตทันที ไป่เจินเจินจึงกลายเป

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   สุนัขก็คือสุนัขชอบหมาหมู่

    จ้าวหย่งเฉินที่เห็นสีหน้าไม่สลดของนางก็ให้คนอื่นๆ ไปก่อน แล้วหันไปเอ่ยกับนาง“ไป๋เจินเจิน..ตามไปที่ห้องหนังสือของข้า เจ้ามีเรื่องต้องอบรมมากนัก”เขาสั่งให้นางไปพบที่ห้องทำงานของเขา ไป๋เจินเจินเกาหัวแกรกๆ อะไรของเขาวะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจ้าวหย่งเฉิงก็ไปรอตัวต้นเรื่องที่ห้องหนังสือ แต่ไป๋เจินเจินกลับไปขวางทางสวีข่ายเหยียน จินเสี่ยวฟงและฝางอี้หลุนเอาไว้ ทั้งสามคนมองหน้านาง ก่อนที่สวีข่ายเหยียนจะผลักไหล่ให้หลบไป แต่ไป๋เจินเจินจับมือของสวีข่ายเหยียนแล้วออกแรงบีบ เขาร้องทันที"เจ้าๆทำอะไรนังยาจก ปล่อยข้านะ""ปากดีอีกข้าจะหักมือเจ้า""นี่ไป๋เจินเจินปล่อยข่ายเหยียนนะ เจ้าต้องการอะไร"จินเสี่ยวฟงเอ่ยปากถามนาง ไป๋เจินเจินผลักสวี่ข่ายเหยียนไปอีกด้านก่อนจะเป่าปากแล้วเอ่ยขึ้น"คัดกฎสำนักห้าร้อยจบราคาสองตำลึง พวกเจ้าขี้เกียจข้ารู้ดี ได้เข้าเรียนก้เพราะเงินตำลึงที่แอบจ่ายใต้โต๊ะอาจารย์จอมละโมบพวกนั้น แต่ช่างเถอะเรืองนั้นไม่เกี่ยวกับข้า กฎสำนักที่ถูกลงโทษพวกเจ้าให้บ่าวช่วยเขียนคงไม่ได้หรอก ได้ยินว่าตาเฒ่าจ้างหย่งเฉิงราชครูคนนี้ฉลาดมากนัก ข้าเรียนไม่ได้เรื่อง แต่ถ้าเป็นเรื

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status