ก๊อก ๆ ๆ “มีใครอยู่หรือไม่ ท่านอาหลิ่วขอรับข้าลู่เวินมีเรื่องมาหารือกับท่านขอรับ”ลู่เวินพาบุตรสาวมาถึงบ้านท่านอาหลิ่วอาน ที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็เคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน รอไม่นานก็มีคนมาเปิดประตู“หืม อาเวินเองรึข้าก็นึกว่าผู้ใด เข้ามานั่งด้านในก่อนเถิดค่อยพูดคุยกัน”“ขอบคุณขอรับ”“ชิงเอ๋อร์ก็มาด้
“นางจูนี่เจ้าจะพูดมากเกินไปแล้วนะ!!!” หลิ่วอานขึ้นเสียงใส่นางจูไปหนึ่งที“ท่านลุงหลิ่วเจ้าคะ ในเมื่อท่านป้าทั้งสองไม่อยากทำงานของข้า เช่นนั้นขอตัดชื่อทั้งสองครอบครัวนี้ ออกจากงานที่จะให้ทำนะเจ้าคะ สำหรับคนที่สนใจมาลงชื่อกับท่านพ่อได้ทางขวามือ และขอเตือนพวกท่านว่าอย่ารับฝากงานจากครอบครัวของท่านป้าทั้
เมื่อการประชุมเรื่องอาชีพเสริมของชาวบ้านอันผิง ผ่านไปได้ด้วยดีสองคนพ่อลูกจึงรีบกลับบ้าน จะได้ทานมื้อเที่ยงและพักผ่อน พรุ่งนี้ยังต้องไปติดต่อนายช่างหาน เพื่อว่าจ้างให้มาปรับปรุงร้านค้า“ท่านพ่อเจ้าคะวันนี้พักผ่อนให้มากหน่อยชดเชยก่อนหน้านี้ ที่ท่านต้องลำบากทำงานหาเงินตั้งหลายปี” ลู่ชิงสงสารคนในครอบครั
“พี่ชาย วันนี้คงจะขายทั้งหมดให้ท่านไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ มีลูกค้าอีกหลายคนต่อแถวรออยู่นะเจ้าคะ ถ้าท่านเอาไปหมดพวกเขาก็อดกินน่ะสิ” ลู่ชิงกลัวคนที่ต่อแถวอยู่ด้านหลังจะอดกิน พวกเขาอุตส่าห์มายืนต่อแถวกัน“แม่ค้าอย่าได้เข้าใจผิด คุณชายของข้าผ่านมาทำงานแถวนี้ จึงอยากจะลองชิมอาหารของเจ้า และเห็นว่าคนที่มาต่อแถ
ทางครอบครัวลู่ชิงช่วยกันแจกอาหารจนหมดเกลี้ยงแล้ว ก็เก็บของขึ้นเกวียนก่อนจะฝากไว้ กับคนที่รับฝากเกวียนใกล้ ๆ แถวนั้น เพราะพวกเขาจะไปบ้านของนายช่างหาน เพื่อติดต่อให้ไปปรับปรุงร้านค้า รวมถึงสร้างบ้านใหม่ที่หมู่บ้านอันผิงด้วย“น้องชายท่านนี้ไม่ทราบว่า นายช่างหานอยู่หรือไม่ พอดีว่าข้าจะมาติดต่อให้เขาไปปร
“ถึงแม้อาหารสองอย่างนี้ จะเป็นประเภทผัดเหมือนกันก็จริงอยู่ แต่วิธีการและรสชาติย่อมแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจ้าค่ะ อย่างแรกข้าวผัดมีส่วนประกอบคือข้าวสวย กระเทียมสับ น้ำมัน เนื้อหมูหรือเนื้อไก่ ไข่ไก่ หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ผักคะน้าและเครื่องปรุงรสส่วนผัดกะเพราประกอบด้วยพริกกับกระเทียม ที่นำไปโขลกพอหย
ลู่เวินที่พานายช่างหานมาถึงบ้านก็ไม่รอช้า พวกเขาเดินไปดูพื้นที่รอบ ๆ บ้าน เพื่อทำการวัดขนาดความกว้างความยาวของที่ดินทั้งหมด ลู่ชิงยังบอกให้นายช่างหานทำกำแพงบ้านสูงหนึ่งจั้งเสียก่อน จากนั้นค่อยสร้างบ้านโดยบ้านที่ลู่ชิงจะให้สร้างตามแบบ เป็นบ้านสองชั้นต้องใช้ก้อนอิฐในการสร้างเท่านั้น ชั้นบนมีสี่ห้องนอ
“รายงานมา ได้เรื่องว่าอย่างไรบ้าง” เขารีบสั่งให้ชุนชานรายงานมาเสียทีตันเจียงที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ส่งสัญญาณถึงสหายให้รีบพูดโดยเร็ว“เรียนซื่อจื่อ ข้าน้อยได้ไปสืบหาข้อมูล จากหัวหน้าหมู่บ้านอันผิงรวมถึงเหล่าพ่อค้า ที่มักจะเข้าไปค้าขายในเมืองหลวงมาแล้ว อันที่จริงหัวหน้าครอบครัวนี้เดิมมีแซ่ว่าอู๋ เขาเป็น
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร
“ตอนนี้คนเห็นแก่ผลประโยชน์ผู้นี้กำลังหารือกับพ่อบ้านคนสนิท เพื่อวางแผนจัดการกับคนในตระกูลสวีขอรับ นอกจากนี้สองสามีภรรยายังได้พูดจาดูถูกตระกูลสวี จนข้าเกือบจะทนไม่ไหวดีที่เต๋อหลินห้ามเอาไว้ก่อนขอรับ” ต่งซวินไม่กล้าคิดต่อเลยว่าคนที่เหลียนตั๋วลู่ส่งมา จะรับมือกับหน่วยลับที่มาอารักขาครอบครัวชินอ๋องอย่าง
ยังมีคำพูดของเด็กสาวอีกคนหนึ่งฝากมาเช่นกันนางบอกว่า ‘หากตระกูลเหลียนนั่นยังไม่หยุดเรื่องนี้ ข้าจะให้พี่ชายไปถล่มจวนนั้นให้ราบหรือไม่ก็ฆ่าล้างตระกูลไปเลยยิ่งดี ก็แค่มีกิจการฐานะร่ำรวยไม่เท่าไหร่ คิดใช้เส้นสายอันน้อยนิดมาข่มขู่ อย่าให้พี่ชายของข้าต้องโกรธไปมากกว่านี้’ เหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นแขกของ
แม่สื่อซินหลินกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับหมู่บ้านอันฮุยด้วยใจที่สั่นรัว นางยังจำสายตาของเซียวหนิงหลงได้ดี เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่าเขาสามารถสังหารนางได้ในพริบตา จึงไม่กล้าโต้เถียงกลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดตอนที่มองสบตา แม่สื่อซินหลินนึกแล้วก็ขนลุกไปตลอดทางเพียงไม่นานนางก็กลับมาถึงจวนขนาดกลาง
“ที่พูดมาคิดจะข่มขู่คนตระกูลสวีให้ยินยอมทำตามใช่ไหม ข้ารบกวนเจ้ากลับไปบอกผู้นำตระกูลเหลียนหน่อยสิ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอีกนาน ๆ อย่ายื่นมือมาเข้ามายุ่งกับกิจการของตระกูลสวีเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี หรือบางทีข้าใจดำมากหน่อยแม้แต่ชีวิตก็อาจไม่เหลืออย่าลืมบอกด้วยว่าผู้สนั
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าประตูอันใหญ่โต กลับมีเสียงสตรีนางหนึ่งเรียกลู่เวินเอาไว้ ทำให้การจะเข้าไปพักผ่อนต้องหยุดชะงัก และหันหน้ากลับมามองพร้อมกันว่าเป็นผู้ใดกันที่ใช้เสียงแหลม ๆ จนแสบหูเช่นนั้นส่งเสียงเรียกลู่เวิน“นายท่านสวี ๆ โอยเหนื่อยจริง ๆ เลย ข้ามารอท่านตั้งหลายวัน ในที่สุดก็ได้เจอจะได้
“เอาไว้ถึงเวลาเจ้าก็จะเห็นเองนั้นแหละเล่อเล่อ แล้วไม่ต้องมาหลอกถามเรื่องนี้กับแม่อีก ถึงจะแอบไปถามกับท่านน้าม่อหลัน เจ้าก็ไม่รู้อยู่ดีเพราะเรื่องนี้เป็นความลับ” พระชายาพูดดักทางบุตรสาวเอาไว้ เพราะอย่างไรก็รู้ทันว่านางต้องแอบไปถามกับม่อหลันเหมือนทุกครั้ง“โธ่ท่านแม่ เล่นพูดแบบรู้ทันข้าเช่นนี้ก็แย่สิเ
อีกสองวันถัดมาช่วงเวลาปลายยามเหม่า รถม้าของอู๋เจียงสงถูกเตรียมเอาไว้แล้ว และพร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อเจ้านายมาถึง สองแม่ลูกอย่างถางฮูหยินและอู๋ติ้งเกา ไม่มีใครออกมายืนส่งผู้นำตระกูลขึ้นรถม้าสักคน จะมีเพียงพ่อบ้านอู๋ที่มายืนรอส่งเพียงคนเดียว โดยมีผู้ติดตามคอยดูแลเจ้านายก็คืออาหลาน รวมถึงคนของสำนักคุ้
เพราะลูกชายของเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง กิจการของตระกูลต้องขาดทุนไปเท่าไหร่เคยรับรู้อะไรบ้างไหม ก็ไม่เคย! ดีแต่ใช้เงินกับเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ พอมีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่เคยช่วยคิดช่วยทำ ปล่อยทิ้งให้ข้าต้องมานั่งคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เจ้าเป็นคนสร้างมันขึ้นมาทำให้กิจการต้องปิดตัวไปกี่ร้านแล้วแต่น้องชายคนรองข