ทางครอบครัวลู่ชิงช่วยกันแจกอาหารจนหมดเกลี้ยงแล้ว ก็เก็บของขึ้นเกวียนก่อนจะฝากไว้ กับคนที่รับฝากเกวียนใกล้ ๆ แถวนั้น เพราะพวกเขาจะไปบ้านของนายช่างหาน เพื่อติดต่อให้ไปปรับปรุงร้านค้า รวมถึงสร้างบ้านใหม่ที่หมู่บ้านอันผิงด้วย“น้องชายท่านนี้ไม่ทราบว่า นายช่างหานอยู่หรือไม่ พอดีว่าข้าจะมาติดต่อให้เขาไปปร
“ถึงแม้อาหารสองอย่างนี้ จะเป็นประเภทผัดเหมือนกันก็จริงอยู่ แต่วิธีการและรสชาติย่อมแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเจ้าค่ะ อย่างแรกข้าวผัดมีส่วนประกอบคือข้าวสวย กระเทียมสับ น้ำมัน เนื้อหมูหรือเนื้อไก่ ไข่ไก่ หอมหัวใหญ่ มะเขือเทศ ผักคะน้าและเครื่องปรุงรสส่วนผัดกะเพราประกอบด้วยพริกกับกระเทียม ที่นำไปโขลกพอหย
ลู่เวินที่พานายช่างหานมาถึงบ้านก็ไม่รอช้า พวกเขาเดินไปดูพื้นที่รอบ ๆ บ้าน เพื่อทำการวัดขนาดความกว้างความยาวของที่ดินทั้งหมด ลู่ชิงยังบอกให้นายช่างหานทำกำแพงบ้านสูงหนึ่งจั้งเสียก่อน จากนั้นค่อยสร้างบ้านโดยบ้านที่ลู่ชิงจะให้สร้างตามแบบ เป็นบ้านสองชั้นต้องใช้ก้อนอิฐในการสร้างเท่านั้น ชั้นบนมีสี่ห้องนอ
“รายงานมา ได้เรื่องว่าอย่างไรบ้าง” เขารีบสั่งให้ชุนชานรายงานมาเสียทีตันเจียงที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ส่งสัญญาณถึงสหายให้รีบพูดโดยเร็ว“เรียนซื่อจื่อ ข้าน้อยได้ไปสืบหาข้อมูล จากหัวหน้าหมู่บ้านอันผิงรวมถึงเหล่าพ่อค้า ที่มักจะเข้าไปค้าขายในเมืองหลวงมาแล้ว อันที่จริงหัวหน้าครอบครัวนี้เดิมมีแซ่ว่าอู๋ เขาเป็น
เซียวหนิงหลงสั่งการเรื่องนี้กับตันเจียง เพื่อจะได้ให้เจียวมิ่งเตรียมตัวให้พร้อม ว่าจะต้องมาทำหน้าที่เกี่ยวกับอะไรที่ตำบลหย่งฝูแห่งนี้“ขอรับ ข้าน้อยจะส่งจดหมายถึงเจียวมิ่ง ให้เตรียมตัวพร้อมออกเดินทาง” ตันเจียงแอบคิดในใจว่า เขาจะเขียนเรื่องคุณหนูลู่ชิงไปด้วยนิดหน่อย ให้เจียวมิ่งเอาไปเล่าให้ท่านอ๋องกั
“ข้าก็คิดเหมือนเจ้าต้องซื้อไปฝากคนที่บ้าน มีใครจะกล้าขายอาหารที่มีทั้งข้าว ไข่ไก่และเนื้อรวมอยู่ในอาหารแบบนี้ได้ เช่นครอบครัวนี้อีกเล่า”“นั่นสิ แถมพวกเขาก็ขายราคาไม่แพง จนพวกเราที่ทำงานรับจ้างสามารถซื้อกินจนอิ่มท้องได้เช่นนี้ ข้านับถือใจพวกเขาจากใจจริง ๆ”ลู่ชิงเมื่อประกาศบอกกับลูกค้า ก็หันมาตักอาห
ลู่ชิงเห็นพ่อบ้านชิมอาหารด้วยความตื่นเต้นดีใจ จึงหันไปหาพี่ชายอย่างลู่เสียนเพื่อขอให้พี่ชายมาช่วยห่อข้าว นางจะคุยเรื่องราคาอาหาร และต้องการให้ทางพ่อบ้านส่งคนมารับอาหารที่นี่แทน หากจะให้นำอาหารไปส่งที่เมืองหย่งจินคงจะขาดคนทำงานเป็นแน่“ท่านพ่อบ้านเจ้าคะ อาหารที่ท่านสั่งข้าคิดราคาแตกต่างกันสักหน่อย อย
สามคนด้านบนหลังคาได้ฟังแผนการทุกอย่างแล้ว ก็แยกกันไปจัดการทันที เซียวหนิงหลงให้ชุนชานไปจัดการคนที่ออกไปส่งจดหมาย ส่วนตัวเขาและตันเจียงจะลงไปจัดการ จับตัวสองคนที่เหลือในบ้านเอง“ซื่อจื่อขอรับชื่อหมู่บ้านที่พวกมันพูดถึง ดูเหมือนว่าจะเป็นหมู่บ้านที่คุณหนูลู่ชิงอาศัยอยู่นะขอรับ” ตันเจียงเอ่ยกับนายน้อย ท
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร
“ตอนนี้คนเห็นแก่ผลประโยชน์ผู้นี้กำลังหารือกับพ่อบ้านคนสนิท เพื่อวางแผนจัดการกับคนในตระกูลสวีขอรับ นอกจากนี้สองสามีภรรยายังได้พูดจาดูถูกตระกูลสวี จนข้าเกือบจะทนไม่ไหวดีที่เต๋อหลินห้ามเอาไว้ก่อนขอรับ” ต่งซวินไม่กล้าคิดต่อเลยว่าคนที่เหลียนตั๋วลู่ส่งมา จะรับมือกับหน่วยลับที่มาอารักขาครอบครัวชินอ๋องอย่าง
ยังมีคำพูดของเด็กสาวอีกคนหนึ่งฝากมาเช่นกันนางบอกว่า ‘หากตระกูลเหลียนนั่นยังไม่หยุดเรื่องนี้ ข้าจะให้พี่ชายไปถล่มจวนนั้นให้ราบหรือไม่ก็ฆ่าล้างตระกูลไปเลยยิ่งดี ก็แค่มีกิจการฐานะร่ำรวยไม่เท่าไหร่ คิดใช้เส้นสายอันน้อยนิดมาข่มขู่ อย่าให้พี่ชายของข้าต้องโกรธไปมากกว่านี้’ เหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นแขกของ
แม่สื่อซินหลินกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับหมู่บ้านอันฮุยด้วยใจที่สั่นรัว นางยังจำสายตาของเซียวหนิงหลงได้ดี เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่าเขาสามารถสังหารนางได้ในพริบตา จึงไม่กล้าโต้เถียงกลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดตอนที่มองสบตา แม่สื่อซินหลินนึกแล้วก็ขนลุกไปตลอดทางเพียงไม่นานนางก็กลับมาถึงจวนขนาดกลาง
“ที่พูดมาคิดจะข่มขู่คนตระกูลสวีให้ยินยอมทำตามใช่ไหม ข้ารบกวนเจ้ากลับไปบอกผู้นำตระกูลเหลียนหน่อยสิ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอีกนาน ๆ อย่ายื่นมือมาเข้ามายุ่งกับกิจการของตระกูลสวีเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี หรือบางทีข้าใจดำมากหน่อยแม้แต่ชีวิตก็อาจไม่เหลืออย่าลืมบอกด้วยว่าผู้สนั
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าประตูอันใหญ่โต กลับมีเสียงสตรีนางหนึ่งเรียกลู่เวินเอาไว้ ทำให้การจะเข้าไปพักผ่อนต้องหยุดชะงัก และหันหน้ากลับมามองพร้อมกันว่าเป็นผู้ใดกันที่ใช้เสียงแหลม ๆ จนแสบหูเช่นนั้นส่งเสียงเรียกลู่เวิน“นายท่านสวี ๆ โอยเหนื่อยจริง ๆ เลย ข้ามารอท่านตั้งหลายวัน ในที่สุดก็ได้เจอจะได้
“เอาไว้ถึงเวลาเจ้าก็จะเห็นเองนั้นแหละเล่อเล่อ แล้วไม่ต้องมาหลอกถามเรื่องนี้กับแม่อีก ถึงจะแอบไปถามกับท่านน้าม่อหลัน เจ้าก็ไม่รู้อยู่ดีเพราะเรื่องนี้เป็นความลับ” พระชายาพูดดักทางบุตรสาวเอาไว้ เพราะอย่างไรก็รู้ทันว่านางต้องแอบไปถามกับม่อหลันเหมือนทุกครั้ง“โธ่ท่านแม่ เล่นพูดแบบรู้ทันข้าเช่นนี้ก็แย่สิเ
อีกสองวันถัดมาช่วงเวลาปลายยามเหม่า รถม้าของอู๋เจียงสงถูกเตรียมเอาไว้แล้ว และพร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อเจ้านายมาถึง สองแม่ลูกอย่างถางฮูหยินและอู๋ติ้งเกา ไม่มีใครออกมายืนส่งผู้นำตระกูลขึ้นรถม้าสักคน จะมีเพียงพ่อบ้านอู๋ที่มายืนรอส่งเพียงคนเดียว โดยมีผู้ติดตามคอยดูแลเจ้านายก็คืออาหลาน รวมถึงคนของสำนักคุ้
เพราะลูกชายของเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง กิจการของตระกูลต้องขาดทุนไปเท่าไหร่เคยรับรู้อะไรบ้างไหม ก็ไม่เคย! ดีแต่ใช้เงินกับเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ พอมีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่เคยช่วยคิดช่วยทำ ปล่อยทิ้งให้ข้าต้องมานั่งคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เจ้าเป็นคนสร้างมันขึ้นมาทำให้กิจการต้องปิดตัวไปกี่ร้านแล้วแต่น้องชายคนรองข