“น้องสาวจะรีบไปที่ใดเล่า ให้พี่ชายไปเป็นเพื่อนดีหรือไม่ หรือว่าจะไปเล่นสนุกด้วยกันก่อนดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ชิวไท่เป็นบุตรชายของพ่อค้าร้านขายธัญพืชในตำบลหย่งฝู มีนิสัยเกเรมักจะให้บ่าวไพร่จับตัวบุตรสาวชาวบ้าน ไปบำเรอตนเองและใช้เงินปิดปาก แถมข่มขู่จะฆ่าทิ้งหากไปแจ้งทางการ“ข้าไม่มีเวลาว่างไปทำเรื่องไร้สาระพวก
ตันเจียงที่เห็นว่านายน้อยของตน เอาแต่จ้องหน้าคุณหนูลู่ชิงจึงกระแอมกระไอเสียงดัง เพื่อเรียกสติเจ้านายเสียหน่อย ประเดี๋ยวจะออกเดินทางล่าช้าได้ หากปล่อยให้อยู่ในอาการของคนตกหลุมรักเด็กสาวตรงหน้า“อะแฮ่ม ๆ ไม่ทราบว่าคุณหนูลู่ชิงจะไปที่ใดหรือ ถึงได้เดินมาทางนี้เพียงลำพังน่ะขอรับ” ตันเจียงเป็นคนเอ่ยขึ้นทำ
“ท่านน้าอย่าได้ถือเป็นบุญคุณเลยขอรับ คิดเสียว่าข้าเป็นลูกเป็นหลานของพวกท่านอีกคนก็แล้วกัน พวกท่านไม่ต้องเรียกข้าว่าคุณชายนะขอรับ เรียกว่าอาเซียวก็พอ” เซียวหนิงหลงแอบตีเนียน ขอเป็นลูกเป็นหลานกับลู่เวินไปอีก“ได้ ๆ ๆ น้าไม่ขัดความต้องการของอาเซียวแน่นอน ชิงเอ๋อร์พาพี่เขามาแนะนำให้พวกเรารู้จักกันเท่านี
เซียวหนิงหลงใช้เวลาเดินทาง ออกจากเมืองหย่งจินมาแล้วสองชั่วยาม ในตอนนี้เขาและผู้ติดตามกำลังพักอยู่ใกล้ริมลำธาร เพื่อให้ม้าได้ดื่มน้ำกินหญ้า ในส่วนของคนก็ต้องทานอาหารเช่นกันเขานึกถึงคำพูดของลู่ชิงที่บอกให้ลองดื่มน้ำสมุนไพร เมื่อออกจากเมืองหย่งจินมาระยะหนึ่งแล้วจะได้รับคำตอบ ไม่รอช้าเซียวหนิงหลงหยิบถุ
“แสดงว่าข่าวที่ได้รับมาเป็นความจริงสินะ คนในแคว้นที่ให้ความช่วยเหลือพวกมัน คงจะตำแหน่งใหญ่โตไม่น้อย ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่” เขาเองก็พอคาดการณ์เอาไว้บางส่วน และสั่งให้รองแม่ทัพเย่จัดเตรียมกำลังทหารให้พร้อมอยู่ตลอดเวลา“เอ่อ ยังมีอีกเรื่องที่ต้องรายงานให้ท่านอ๋อง และพระชายาได้ทรงทราบพ่ะย่ะค่ะ” เรื่
เช้าวันนี้เป็นวันหยุดประจำของครอบครัวลู่ชิง ทุกคนล้วนไม่เร่งรีบไม่ต้องตื่นแต่เช้ามืด วันหยุดทุกคนจะตื่นปลายยามเหม่ากัน ซึ่งก็เป็นลู่ชิงที่ตั้งกฏนี้ขึ้นมาอีกเช่นเคย นางแค่อยากให้พวกเขาได้นอนพักผ่อนอย่างเต็มที่ ตอนนี้ครอบครัวของนางก็เริ่มจะมีเนื้อมีหนังขึ้นมาบ้างแล้ว บำรุงอีกสักเดือนคงจะกลับมาสมบูรณ์ป
ชาวบ้านที่ต่อแถวอยู่พอได้ยินก็ฮือฮา แอบลุ้นว่าตนเองจะได้เงินเท่าไหร่ ส่วนมนุษย์ป้าสองคนที่ได้ยินจำนวนเงิน ก็ตกตะลึงอ้าปากค้างไปแล้ว ด้านของลู่จื้อก็ยังเล่นใหญ่ประกาศเสียงดังต่อไปเรื่อย ๆ“ท่านป้า ส่วนของท่านได้เงินไปเก้าสิบอีแปะขอรับ”“ท่านอาครอบครัวท่านขายได้หนึ่งร้อยยี่สิบอีแปะขอรับ”“ตงเจ๋อ นี่เง
สินค้าที่ครอบครัวสวีรับซื้อมาจากชาวบ้าน ลู่ชิงเอาไปเก็บไว้ในมิติก่อน เพราะร้านค้ายังปรับปรุงไม่เสร็จ และเย็นวันเดียวกันทุกคนก็เข้าไปช่วยกันทำอาหาร สำหรับงานเลี้ยงให้ลูกค้า ซึ่งได้นัดเวลากันไว้ในยามเช้าของวันพรุ่งนี้หลังจากทุกคนช่วยกันทำอาหารให้ลูกค้าเสร็จ ลู่ชิงก็เดินไปที่ช่องสินค้าที่เป็นยาสมุนไพร
“จะเรียกพวกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่ท่านเหลียนจะเรียกเถิด และใช่ท่านทำอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้ารู้สึกไม่พอใจมาก เพราะท่านเหลียนกำลังคิดจะจัดการตระกูลสวี ข้าพูดถูกใช่หรือไม่” เซียวหนิงหลงเดินเข้าไปนั่งโต๊ะกลางห้องและพูดถึงเรื่องตระกูลสวี“จะ จะ เจ้ารู้ได้ยังไงว่าข้ากำลังคิดจะทำอะไรกับตระกูลสวี” เหลียนตั๋วลู่เร
“ตอนนี้คนเห็นแก่ผลประโยชน์ผู้นี้กำลังหารือกับพ่อบ้านคนสนิท เพื่อวางแผนจัดการกับคนในตระกูลสวีขอรับ นอกจากนี้สองสามีภรรยายังได้พูดจาดูถูกตระกูลสวี จนข้าเกือบจะทนไม่ไหวดีที่เต๋อหลินห้ามเอาไว้ก่อนขอรับ” ต่งซวินไม่กล้าคิดต่อเลยว่าคนที่เหลียนตั๋วลู่ส่งมา จะรับมือกับหน่วยลับที่มาอารักขาครอบครัวชินอ๋องอย่าง
ยังมีคำพูดของเด็กสาวอีกคนหนึ่งฝากมาเช่นกันนางบอกว่า ‘หากตระกูลเหลียนนั่นยังไม่หยุดเรื่องนี้ ข้าจะให้พี่ชายไปถล่มจวนนั้นให้ราบหรือไม่ก็ฆ่าล้างตระกูลไปเลยยิ่งดี ก็แค่มีกิจการฐานะร่ำรวยไม่เท่าไหร่ คิดใช้เส้นสายอันน้อยนิดมาข่มขู่ อย่าให้พี่ชายของข้าต้องโกรธไปมากกว่านี้’ เหมือนว่าเด็กสาวคนนี้จะเป็นแขกของ
แม่สื่อซินหลินกึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับหมู่บ้านอันฮุยด้วยใจที่สั่นรัว นางยังจำสายตาของเซียวหนิงหลงได้ดี เมื่อครู่นี้คล้ายกับว่าเขาสามารถสังหารนางได้ในพริบตา จึงไม่กล้าโต้เถียงกลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ไหนจะความรู้สึกอึดอัดตอนที่มองสบตา แม่สื่อซินหลินนึกแล้วก็ขนลุกไปตลอดทางเพียงไม่นานนางก็กลับมาถึงจวนขนาดกลาง
“ที่พูดมาคิดจะข่มขู่คนตระกูลสวีให้ยินยอมทำตามใช่ไหม ข้ารบกวนเจ้ากลับไปบอกผู้นำตระกูลเหลียนหน่อยสิ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอีกนาน ๆ อย่ายื่นมือมาเข้ามายุ่งกับกิจการของตระกูลสวีเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี หรือบางทีข้าใจดำมากหน่อยแม้แต่ชีวิตก็อาจไม่เหลืออย่าลืมบอกด้วยว่าผู้สนั
แต่ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินเข้าประตูอันใหญ่โต กลับมีเสียงสตรีนางหนึ่งเรียกลู่เวินเอาไว้ ทำให้การจะเข้าไปพักผ่อนต้องหยุดชะงัก และหันหน้ากลับมามองพร้อมกันว่าเป็นผู้ใดกันที่ใช้เสียงแหลม ๆ จนแสบหูเช่นนั้นส่งเสียงเรียกลู่เวิน“นายท่านสวี ๆ โอยเหนื่อยจริง ๆ เลย ข้ามารอท่านตั้งหลายวัน ในที่สุดก็ได้เจอจะได้
“เอาไว้ถึงเวลาเจ้าก็จะเห็นเองนั้นแหละเล่อเล่อ แล้วไม่ต้องมาหลอกถามเรื่องนี้กับแม่อีก ถึงจะแอบไปถามกับท่านน้าม่อหลัน เจ้าก็ไม่รู้อยู่ดีเพราะเรื่องนี้เป็นความลับ” พระชายาพูดดักทางบุตรสาวเอาไว้ เพราะอย่างไรก็รู้ทันว่านางต้องแอบไปถามกับม่อหลันเหมือนทุกครั้ง“โธ่ท่านแม่ เล่นพูดแบบรู้ทันข้าเช่นนี้ก็แย่สิเ
อีกสองวันถัดมาช่วงเวลาปลายยามเหม่า รถม้าของอู๋เจียงสงถูกเตรียมเอาไว้แล้ว และพร้อมออกเดินทางทันทีเมื่อเจ้านายมาถึง สองแม่ลูกอย่างถางฮูหยินและอู๋ติ้งเกา ไม่มีใครออกมายืนส่งผู้นำตระกูลขึ้นรถม้าสักคน จะมีเพียงพ่อบ้านอู๋ที่มายืนรอส่งเพียงคนเดียว โดยมีผู้ติดตามคอยดูแลเจ้านายก็คืออาหลาน รวมถึงคนของสำนักคุ้
เพราะลูกชายของเจ้าทำงานไม่ได้เรื่อง กิจการของตระกูลต้องขาดทุนไปเท่าไหร่เคยรับรู้อะไรบ้างไหม ก็ไม่เคย! ดีแต่ใช้เงินกับเรื่องไร้สาระไปวัน ๆ พอมีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่เคยช่วยคิดช่วยทำ ปล่อยทิ้งให้ข้าต้องมานั่งคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เจ้าเป็นคนสร้างมันขึ้นมาทำให้กิจการต้องปิดตัวไปกี่ร้านแล้วแต่น้องชายคนรองข