แชร์

ตอนที่ 2 ได้มิติมาแบบไม่คาดฝัน

ผู้เขียน: ต้าซินซิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-11 00:56:32

ลู่ชิงนอนหลับสนิทอยู่สักพัก แต่กลับถูกรบกวนด้วยเสียงใครบางคน ที่พยายามเรียกตนเองให้ตื่น ทั้งที่กำลังนอนหลับสบาย จากอาการป่วยจนร่างกายไร้เรี่ยวแรงมานาน เมื่อทนการรบเร้านี้ไม่ไหว จึงได้ลืมตาตื่นมองไปรอบ ๆ ที่ยามนี้ไม่ใช่เตียงนอนเก่า ๆ อีกแล้ว แต่เป็นสถานที่หนึ่งกับชายชราผมขาว ที่ยืนถือไม้เท้าลักษณะแปลก ๆ มองมาที่ลู่ชิงอย่างเหนื่อยใจ

“นางหนู ๆ ๆ ตื่นได้แล้วกระมัง จะนอนกินบ้านกินเมืองหรืออย่างไร โลกโน้นทำเจ้าอดหลับอดนอน พอข้ามมายังโลกนี้ก็ยังต้องมาเหนื่อยอีกงั้นรึ” ชายแก่ผมขาวในมือยังถือไม้เท้า พยายามปลุกร่างบางที่ยังนอนหลับอยู่

“อืม ขอนอนต่ออีกสักหน่อยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงยังไม่รู้ตัวว่าตอนนี้นางไม่ได้อยู่บนเตียงนอนในบ้านของตนเอง

“ถ้าเจ้ายังไม่ยอมตื่นขึ้นมาเสียทีละก็ ข้าจะไม่ให้ของดีกับเจ้านะนางหนู” ชายแก่ยังไม่ยอมแพ้ที่จะปลุกนาง

“พรึ่บ!! หือ! ที่นี่คือที่ไหน ไม่ใช่ห้องนอนในบ้านนี่ แล้วเมื่อกี้เสียงใครปลุกข้าให้ตื่นกันล่ะ” ข้ารู้สึกแปลกใจที่มีคนมาปลุก และพูดว่าจะให้ของดีอีกพอหันไปด้านหลัง ก็เจอกับชายแก่ผมขาวที่ดูใจดีคนหนึ่งยืนอยู่เงียบ ๆ

“ท่านตาเป็นใครหรือเจ้าคะ แล้วที่นี่คือที่ไหน หรือว่าข้าตายอีกรอบแล้วงั้นหรือเจ้าคะ” ข้าพูดขึ้นด้วยความตกใจ

“ไอหยา นางหนูคนนี้นี่ตื่นมาก็พูดไม่หยุด จะให้ข้าตอบคำถามไหนก่อนดีเล่า” ตอนปลุกไม่ยอมตื่นพอตื่นมาก็พูดเป็นต่อยหอยเชียว

“แหะ ๆ ๆ ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ท่านเป็นใครหรือเจ้าคะและที่นี่คือที่ไหน” ลู่ชิงปรับอารมณ์ใหม่และถามกับชายชราคนนี้ช้า ๆ อีกครั้ง

“ข้าเป็นเทพชะตาของโลกใบนี้ และที่เจ้าอยู่ในตอนนี้คือมิติวิเศษ ที่ข้าจะมอบให้กับเจ้าเป็นการตอบแทน” เทพชะตาตอบคำถามของลู่ชิงอย่างใจเย็น

‘โอ้โห เป็นเทพชะตาคงมาจากบนสวรรค์เป็นแน่ แถมจะมอบมิติวิเศษเป็นการตอบแทน แต่จะตอบแทนเรื่องอะไรกันล่ะเนี่ย อย่าเสียเวลาถามให้รู้เรื่องไปก็จบแล้ว’

“ข้าขอถามท่านเทพสักข้อนะเจ้าคะ ท่านจะมอบมิติวิเศษนี้เพื่อตอบแทนเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ” ลู่ชิงอยากรู้จริง ๆ นะ

“ข้าจะมอบมิตินี้พร้อมห้างสรรพสินค้า แบบในโลกที่เจ้าจากมา และบ่อน้ำวิเศษที่รักษาได้ทุกโรคอีกหนึ่งบ่อ ตอบแทนที่เจ้าจะต้องดูแลครอบครัวนี้แทนเจ้าของร่างเดิม ที่หมดอายุขัยและยังมีเรื่อง ที่เจ้าต้องใช้มันเพื่อทำความดีช่วยคน ที่จะทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง

ข้ารับรู้ว่าเจ้าใฝ่ฝันที่จะมีครอบครัวที่อบอุ่น รักใคร่สามัคคีกันจึงได้นำดวงวิญญาณของเจ้ามายังโลกคู่ขนานแห่งนี้” ท่านเทพชะตาอธิบายเหตุผลให้ลู่ชิงได้ฟัง

“ขอบคุณท่านเทพชะตา ที่มอบมิตินี้ให้กับข้าเจ้าค่ะ แล้วมีอย่างอื่นต้องทำอีกหรือไม่เจ้าคะ นอกจากการช่วยดูแลครอบครัวนี้แล้ว” ลู่ชิงถามเพื่อความแน่ใจว่าจะต้องทำเรื่องอะไรเพิ่มนอกเหนือจากนี้หรือไม่

“ไม่มีเรื่องอื่นเจ้าอย่าได้กังวล แต่สิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรทำ นั่นก็คือความดี เจ้าก็ทำความดีเป็นบุญกุศล เพื่อส่งเสริมตัวเจ้าและครอบครัวก็แล้วกัน” แค่พวกเขาหมั่นทำความดีก็เพียงพอแล้ว

“ข้ารับปากเจ้าค่ะว่าจะทำความดี แล้วมิตินี้สามารถพาครอบครัวเข้ามาได้หรือไม่เจ้าคะ เวลาในมิติกับด้านนอกต่างกันมากไหมเจ้าคะ” การทำความดีเป็นเรื่องที่สมควรทำแน่นอน ลู่ชิงถึงถามเผื่อครอบครัวเรื่องมิติด้วย

“เจ้าสามารถพาพวกเขาเข้ามาได้ แต่คนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัวไม่สามารถเข้ามาได้ หากเจ้าไม่อนุญาต ส่วนเวลาในมิติหนึ่งชั่วยามเท่ากับเวลาด้านนอกเพียงหนึ่งเค่อเท่านั้น อ้อ เวลาจะเข้าออกมิติเจ้าเพียงคิดในใจ ก็สามารถเข้าออกได้แล้วล่ะ ยังมีอะไรจะถามอีกหรือไม่” ท่านเทพชะตาตอบคำถามของลู่ชิงได้ครอบคลุมทุกข้อ

“ไม่มีคำถามแล้วเจ้าค่ะ” ท่านเทพชะตาอธิบายมาขนาดนี้ ถ้ายังมีคำถามอีกคงไม่ต้องออกไปจากที่นี่กันพอดี

“เอาล่ะเมื่อเจ้าเข้าใจแล้วก็ดี จากนี้ก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขก็พอ ข้าต้องไปแล้วขอให้เจ้าโชคดีนางหนู” พอพูดจบท่านเทพก็หายไปทันที

ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำอะไรก่อนดี แต่การมีตัวช่วยที่ดีเช่นนี้ย่อมทำให้ความเป็นอยู่ของครอบครัว เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น

อย่างแน่นอน แต่จะบอกกับพวกเขาว่าอย่างไร ไหนจะเรื่องมิติวิเศษนี่อีก ถ้าบอกความจริงว่า ตนเองเป็นวิญญาณจากที่อื่น เข้ามาอยู่ในร่างนี้แทนลู่ชิงตัวจริง พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร

แต่ถ้าโกหกและทำตัวมีพิรุธ พวกเขาก็ต้องจับได้สักวัน มิสู้บอกความจริงตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง จากนั้นก็คอยดูปฏิกิริยาของทุกคนอีกทีว่า จะไปในทิศทางใด มันอาจจะยากที่จะรับเรื่องนี้ได้ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ เพราะอุปนิสัยของลู่ชิงคนเก่ากับลู่ชิงคนใหม่ ช่างต่างกันคนละขั้ว คนเดิมพูดน้อยเงียบขรึมไม่ร่าเริง ต่างจากลู่ชิงคนใหม่ที่ชอบพูดชอบยิ้มชอบทำเรื่องท้าทาย ถ้าหากพวกเขารับไม่ได้ ก็คงต้องแยกตัวออกไป แล้วค่อยช่วยเหลือหลังจากที่ทำงานมีเงินมาก ๆ ก็แล้วกัน

ลู่ชิงนึกขึ้นมาได้ ที่ท่านเทพชะตาบอกว่า น้ำในบ่อวิเศษใช้รักษาโรคได้ จึงเดินไปลองตักขึ้นมาดื่มไปหลายอึก เพียงไม่นานก็รู้สึกว่าอาการต่าง ๆ จากพิษไข้ไม่เหลืออยู่แล้ว

มันหายเป็นปลิดทิ้ง แถมร่างกายเหมือนจะแข็งแรงเพิ่มขึ้นแม้จะยังดูผอมอยู่ก็ตาม ลู่ชิงไม่อยากเชื่อว่าน้ำในบ่อนี้ จะทำให้

อาการป่วยของร่างนี้ดีขึ้นได้จริง ๆ เช่นนั้นถ้าทุกคนในครอบครัวได้ดื่มทุกวัน ต้องมีร่างกายที่แข็งแรง และไม่เจ็บป่วยง่ายอย่างแน่นอน ตอนนี้ก็ออกจากมิติไปก่อนก็แล้วกัน เผื่อมีใครเข้ามาแล้วไม่เจอจะเป็นเรื่องใหญ่เอาได้

เมื่อออกมาจากมิติ ร่างของลู่ชิงก็นอนอยู่บนเตียงเช่นเดิม รอให้ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากันในตอนเย็น แล้วค่อยบอกเรื่องของลู่ชิงตัวจริงและมิติที่ได้มา ในเมื่อมีแรงแล้ว ก็ขอออกไปสำรวจภายในบ้านดูสักหน่อย พอเดินออกจากห้องนอน ก็มองสำรวจภายในตัวบ้าน ที่มีห้องนอนอยู่สามห้องท่านพ่อท่านแม่หนึ่งห้อง พี่ใหญ่กับพี่รองอยู่ด้วยกันหนึ่งห้องและอีกห้องเป็นของลู่ชิง

สภาพทุกอย่างของบ้าน หากไม่รีบปรับปรุงซ่อมแซม ยามฝนตกหนักน้ำคงท่วมบ้านแน่ เอาไว้จัดการเรื่องสำคัญ ที่ต้องบอกพวกเขาทุกคนให้เรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นค่อยทำงานหาเงิน มาซ่อมแซมหรือสร้างบ้านใหม่ก็ยังไม่สาย ลู่ชิงเดินมาจนถึงประตูเข้าบ้าน ก็เจอท่านแม่นั่งปักผ้าอยู่ตรงแคร่ด้านนอก เพื่ออาศัยแสงสว่างในการทำงานที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้

“ท่านแม่เจ้าคะ” ลู่ชิงเอ่ยเรียกมารดาเมื่อเดินพ้นประตูห้องออกมา

“อ้าว ชิงเอ๋อร์เจ้าออกมาข้างนอกทำไมกัน ถึงจะมีแสงแดดส่องมาบ้าง แต่อากาศด้านนอกยังคงหนาวเย็นอยู่มากนะลูก เจ้าอยากได้อะไรทำไมไม่เรียกแม่เล่า ฮึ” ฟางซินกลัวว่าบุตรสาวจะป่วยอีก ถ้าโดนอากาศที่ยังหนาวเย็นด้านนอก จึงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เพราะลู่ชิงเพิ่งจะฟื้นจากอาการป่วย ไม่อยากให้นางต้องลมเย็นเพิ่มอีก

“ข้ารู้สึกดีขึ้นจากเมื่อเช้ามากแล้วเจ้าค่ะ นอนหลับไปตั้งหลายวันจึงอยากออกมาเดินเล่นบ้าง ร่างกายจะได้แข็งแรงไว ๆ เจ้าค่ะ”

ลู่ชิงไม่อยากนอนอยู่เฉย ๆ เพราะจะมีอาการปวดเมื่อยตามตัวจากการนอนนาน ๆ ดังนั้นจึงอยากเดินออกกำลัง เป็นการกระตุ้นการทำงานของร่างกายได้อีกทาง

“แม่แค่เป็นห่วงกลัวเจ้าจะจับไข้อีก ถ้าเจ้าบอกว่าไม่เป็นไรแม่จะยอมเชื่อเจ้าสักหน่อยก็แล้วกันนะ” ในเมื่อบุตรสาวบอกมาเช่นนั้นก็ลองเชื่อใจนางสักหน่อยจะเป็นไรไป

“ขอบคุณท่านแม่ที่เป็นห่วงเจ้าค่ะ แล้วนี่ทำไมท่านแม่ถึงได้นั่งอยู่เพียงลำพังเล่า ท่านพ่อพี่ใหญ่พี่รองไปไหนกันหมดล่ะเจ้าคะ” ข้าเห็นท่านแม่นั่งอยู่เพียงลำพังแต่ไม่เห็นเหล่าบุรุษของบ้านสักคน

“อ๋อ ท่านพ่อและพี่ชายของเจ้า ช่วยกันกวาดหิมะอยู่ อีกสักพักคงจะเสร็จแล้วล่ะ เจ้ามีเรื่องอะไรอยากให้บิดากับพวกพี่ชายช่วยหรือไม่ชิงเอ๋อร์” ฟางซินตอบบุตรสาวและสังเกตว่าลู่ชิงเหมือนมีเรื่องอะไรอยู่ในใจ

“ไม่มีอะไรมากหรอกเจ้าค่ะท่านแม่ พอดีข้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพวกท่านทุกคน เช่นนั้นรอท่านพ่อและพี่ชาย กวาดหิมะเสร็จแล้วค่อยพูดคุยกันก็ได้เจ้าค่ะ” ลู่ชิงเกริ่นกับมารดาไปก่อน ว่ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกัน แต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าเกี่ยวกับเรื่องอะไร

“งั้นก็มานั่งข้าง ๆ แม่เถิด จะได้ไม่ถูกลมเย็นมากเกินไป หากเจ้ากลับไปเจ็บป่วยอีกครั้ง แม่คงจะทำใจไม่ไหวอีกแล้วนะ

ฉะนั้นต่อจากนี้ต้องดูแลตนเองให้ดีไม่ต้องห่วงเรื่องงานเข้าใจหรือไม่”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะท่านแม่”

ระหว่างที่รอท่านพ่อกับพี่ชายทำงานเสร็จ ลู่ชิงก็นั่งพูดคุยเป็นเพื่อนมารดาอย่างฟางซินไปพลาง ๆ นางชวนมารดาคุยอยู่หลายเรื่องทำให้รู้สึกคุ้นเคยกันเพิ่มขึ้นมากทีเดียว ลู่ชิงคุยกับมารดาเพลินไปหน่อยจนใกล้จะถึงยามเซิน จึงชักชวนมารดาอย่างฟางซินเข้าบ้าน เพื่อเตรียมทำอาหารมื้อเย็น ไว้รอพวกท่านพ่อกับพี่ชาย หลังทานมื้อเย็นเสร็จลู่ชิงจะได้พูดคุยเรื่องสำคัญกับพวกเขาเสียที เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่ายในการใช้ชีวิตเป็นครอบครัวเดียวกัน

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 3 สำรวจมิติ

    เมื่อถึงปลายยามโหย่ว หลังจากที่ทุกคนทานมื้อเย็นเสร็จ และเก็บจานชามไปทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับมารวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะทานข้าวอีกครั้ง และเป็นท่านพ่อที่เอ่ยถาม เรื่องที่ลู่ชิงอยากจะพูดคุยกับพวกเขาขึ้นมา ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนลู่ชิงจะพูดน้อยและทำตัวเงียบ ๆ หากไม่มีผู้ใดถามนาง ก็จะทำงานของตนไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ“ชิงเอ๋อร์ ท่านแม่ของเจ้าบอกพ่อว่า เจ้ามีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพวกเราเช่นนั้นหรือ” ลู่เวินเอ่ยถามบุตรสาว“เจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ามีเรื่องสำคัญมาก อยากจะบอกความจริงบางอย่างกับพวกท่านทุกคน ก่อนที่จะเล่าข้าอยากขอให้พวกท่านตั้งสติและทำความเข้าใจกับสิ่งที่จะได้ยิน เพราะเรื่องที่จะพูดต่อไปนี้อาจจะเหลือเชื่อจนเกินไป หรือจะเรียกว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติก็ว่าได้ แต่มันเกี่ยวข้องกับบุตรสาวคนนี้ของท่าน รวมถึงน้องสาวของพวกท่านสองคนด้วยเจ้าค่ะ” ที่ลู่ชิงพูดเช่นนั้นเพราะอยากให้พวกเขามีสติ กับความจริงที่นางกำลังจะพูดออกไป“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร พวกเราทุกคนยินดีที่จะรับฟังทั้งสิ้น เจ้าพูดมันออกมาได้เลยนะชิงเอ๋อร์” เขาอยากจะรู้ว่าบุตรสาวมีเรื่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-11
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 4 พักผ่อนหารือเรื่องอาชีพ

    ลู่ชิงตื่นขึ้นมายามเหม่าของอีกวัน จึงรีบเข้าไปในมิติเพื่อหยิบพวกเนื้อสัตว์และผักที่จะใช้ทำเป็นมื้อเช้าวันนี้ โดยไม่ลืมที่เดินไปหยิบเอาพวกแปรงสีฟันและยาสีฟัน เพื่อให้ทุกคนได้ใช้ทำความสะอาดช่องปากลู่ชิงกลัวว่าแค่บ้วนปากด้วยเกลือมัน จะไม่สะอาดในเมื่อมีของให้ใช้ เราก็ต้องใช้จะปล่อยให้เสียของได้อย่างไร เช้านี้ลู่ชิงอาสาเป็นคนปรุงอาหารเอง โดยนางจะทำข้าวต้มกุ้งให้ทุกคนได้ทาน ขณะที่กำลังเตรียมของอยู่ ก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังของนางฟางซินตื่นมาก็เห็นบุตรสาว กำลังเตรียมวัตถุดิบทำมื้อเช้าอยู่ เมื่อนางได้พูดคุยกับสามี ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกับชิงเอ๋อร์ คงเป็นลิขิตของสวรรค์นางไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ จะให้ขับไล่นางออกไปสตรีคนนั้นก็ไม่ได้ทำผิด นางไม่ได้เข้ามาอยู่ในร่างของชิงเอ๋อร์เองแต่เป็นท่านเทพที่พานางมา เพื่อใช้ชีวิตที่เหลือแทนชิงเอ๋อร์ของนางต่างหาก ฟางซินจึงคิดว่าค่อย ๆ เรียนรู้กันไปต่อจากนี้ก็แล้วกัน“ทำไมถึงได้ตื่นมาแต่เช้าเช่นนี้เล่า นี่กำลังเตรียมทำมื้อเช้าอยู่หรือ มีอะไรให้ช่วยไหม”“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าเองก็ชอบทำอาหารเหมือนกันมื้อเช้านี้จะลงมือปรุงเอง ท่านแม่คอยเป็นผู้ช่วยให้ข้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 5 ชิมอาหารก่อนทำขาย

    สามวันที่ผ่านมาท่านพ่อและพี่ชาย ก็ขึ้นเขาไปวางกับดักสัตว์และหาของป่าอย่างอื่นตามปกติ พอจะเอาไปขายที่ตำบลลู่ชิงก็จะขอตามไปด้วยทุกครั้ง ไปถึงตำบลก็ให้ท่านพ่อไปขายเนื้อสัตว์ ที่วางกับดักมาได้ที่เหลาอาหาร ซึ่งเมื่อก่อนท่านพ่อมักจะนำมาขายเป็นประจำ รวมสามวันได้เงินมาสามร้อยเก้าสิบอีแปะ ส่วนตัวลู่ชิงเดินไปร้านเครื่องประดับ เพื่อเอากำไลข้อมือหยกที่ไม่ใช่หยกเนื้อดีมากนักหนึ่งวง สร้อยคอเงินพร้อมจี้หยกลายหยดน้ำหนึ่งเส้น และต่างหูไข่มุกหนึ่งคู่ออกมาขาย เถ้าแก่ร้านให้ราคาชิ้นละสามพันตำลึงเงิน ถึงจะไม่สวยมากแต่ขายได้ราคานี้ถือว่าสูงมากแล้วรวมแล้วตอนนี้มีเงินอยู่ทั้งหมด เก้าพันสิบสามตำลึงกับอีกสามร้อยเก้าสิบอีแปะ คงต้องแบ่งเงินไปซ่อมหลังคาบ้านสักหน่อย รอให้ทำการค้าไปสักระยะหนึ่ง ค่อยสร้างบ้านใหม่ที่แข็งแรงกว่านี้ หรือจะซื้อบ้านอยู่ในตำบลก็คงจะดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาเดินทางทุกคนจะได้มีเวลาพักผ่อนเพิ่มอีกสักหน่อยยามอู่วันนี้ลู่ชิงคิดว่าจะทำหมูทอด สามชั้นทอดและน่องไก่ทอด ให้กับทุกคนได้ลองชิมดูก่อนที่จะทำไปขาย ซึ่งลู่ชิงได้นำเนื้อทั้งสามอย่างออกมาจากมิติ และเตรียมหมักก่อนนำไปทอด เริ่มจากทำการหมัก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 6 ขายอาหารวันแรก

    สองวันต่อมาก็ถึงเวลาไปขายของวันแรกแล้ว ทุกคนตื่นพร้อมกันลู่ชิงกับฟางซินช่วยกันหมักเนื้อหมูและน่องไก่ ส่วนลู่เวินกับบุตรชายก็ช่วยกันยกเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ทอดทุกอย่าง ขึ้นบนรถเข็นรออยู่นอกบ้านลู่ชิงได้ตั้งกฎกับครอบครัวเอาไว้ว่า จะขายของหกวันและหยุดพักหนึ่งวัน เพราะไม่อยากให้ทุกคนเอาแต่คิดเรื่องทำงานหาเงิน ควรมีเวลาพักผ่อนบ้าง แม้จะมีน้ำจากบ่อวิเศษให้ดื่ม แต่อย่างน้อยการพักผ่อนให้เต็มที่ ก็เป็นผลดีต่อร่างกายมากกว่า เมื่อทุกอย่างพร้อมจึงปิดประตูบ้านและเดินเท้าไปในตำบลหย่งฝู พื้นที่ขายของที่ลู่เวินจองไว้ให้นั้นเป็นการจองแบบรายเดือน และมันก็อยู่บริเวณที่มีคนพลุกพล่านมาเดินจับจ่ายซื้อของยามเช้าพอถึงบริเวณพื้นที่ของตนเองแล้ว ทุกคนทำตามหน้าที่ของตน ลู่เวินกับบุตรชายช่วยกันยกเตาและติดเตาไฟ ลู่ชิงกับมารดาช่วยกันจัดวางอุปกรณ์บนโต๊ะให้หยิบใช้สะดวก ยกถังไม้ที่ใส่ข้าวเหนียวที่นึ่งแล้ววางไว้ข้างโต๊ะกับใบตอง ที่เช็ดทำความสะอาดสำหรับใช้ห่ออาหาร ซึ่งก็เอามาจากป่าชั้นนอกที่อยู่ด้านหลังบ้านของพวกเขา ยามนี้ลู่เวินได้ตั้งกระทะและใส่น้ำมันลงไปทั้งสามกระทะ ควบคุมไฟไม่ให้ร้อนมากเกินไป มีเก้าอี้สามตัววางชามขนา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-12
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 7 ชาบูชาใจฉลองกันหน่อย

    กลับมาถึงบ้านก็เกือบถึงยามซื่อแล้ว มื้อเช้าทุกคนก็อาศัยกินข้าวเหนียวกับหมูทอดกัน เพราะตื่นเต้นกับการขายของวันแรก จึงลืมเตรียมมื้อเช้าไปกินด้วย ลู่ชิงจึงคิดว่าคืนนี้จะทำกับข้าวง่าย ๆ ใส่กล่องไว้ในมิติตอนเช้าจะได้ไม่ลืมอีก เมื่อเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ลู่ชิงก็ชวนทุกคนมานั่งที่โต๊ะอาหาร เพื่อทำการนับเงินที่ได้จากการขายของวันแรกพร้อมกัน“ท่านพ่อท่านแม่ พวกเรามานับเงินกันเจ้าค่ะว่าจะได้เท่าไหร่” ลู่ชิงอยากรู้ว่ารายได้ของวันนี้เป็นอย่างไร“ได้สิลูก พวกเราช่วยกันนับแยกเป็นกอง ๆ ไว้ จะได้รู้ว่ายอดรวมทั้งหมดเป็นเงินเท่าไหร่” ลู่เวินเองก็อยากรู้เช่นกันเพราะท่านพ่อเป็นพ่อค้า เรื่องคำนวณตัวเลขจึงสำคัญพวกเขาสามพี่น้องล้วนได้เรียนรู้เรื่องนี้ โดยมีท่านพ่อเป็นคนสอน ทุกคนจดจ้องอยู่กับการนับเงิน ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาแม้แต่คนเดียว“เอาล่ะ เจ้าใหญ่ลองนับยอดรวมทั้งหมดดูสิว่ามีเท่าไหร่” ลู่เวินให้บุตรชายคนโตอย่างลู่จื้อนับจำนวนเงินทั้งหมดอีกครั้ง“ขอรับ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก... ท่านพ่อ!! รายได้ทั้งหมดวันนี้ มีถึงหกตำลึงเงินกับอีกหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าอีแปะขอรับ” ลู่จื้อนับเสร็จก็บอกจำนวนที่นับได้ทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 8 อาหารทอดขายดีเกินต้าน

    วันที่สองของการค้าขายก็ยังดีเหมือนเมื่อวาน เพราะมีลูกค้ามายืนรอบริเวณหน้าร้านหลายคนแล้ว และวันนี้ก่อนออกจากบ้านพวกเราทานข้าวผัดหมูเป็นมื้อเช้ามาเรียบร้อย ตอนนี้กำลังช่วยกันตั้งร้านใกล้จะเสร็จ หน้าที่ทอดหมูและไก่ ก็ยังคงเป็นท่านพ่อกับพี่ใหญ่พี่รองเช่นเดิม เข้าสู่ปลายยามเหม่าอาหารก็พร้อมขาย ลูกค้าหน้าคุ้น ๆ ที่ยืนรออยู่ก็รีบสั่งทันที“แม่นางน้อย ข้าเอาเนื้อหมูกับสามชั้นอย่างละสองห่อ และน่องไก่หนึ่งห่อนะ ข้าจะเอาไปฝากเมียกับลูกที่บ้านด้วย”“ได้เจ้าค่ะข้าจะจัดการให้เดี๋ยวนี้เลย” ลู่ชิงไม่รอช้ารีบห่อข้าวให้ลูกค้าอย่างรวดเร็ว ท่านแม่ก็ช่วยนางห่อเช่นกัน“แม่หนู ป้าก็เอาทุกอย่างเลยนะขออย่างละสองห่อเหมือนกัน”“เจ้าค่ะ ท่านป้ารอสักประเดี๋ยวนะเจ้าคะ ลูกค้าท่านอื่น ๆ ต่อแถวกันด้วยเจ้าค่ะ รับรองได้กินของอร่อยทุกคนเจ้าค่ะ” ลู่ชิงรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าคนต่อไป และแจ้งคนอื่นเพื่อความเป็นระเบียบ“นี่ของท่านอาเจ้าค่ะ ทั้งหมดห้าสิบห้าอีแปะ รบกวนท่านอาจ่ายเงินให้ท่านแม่ของข้าได้เลยนะเจ้าคะ” ลู่ชิงให้มารดาเป็นคนรับเงินจากลูกค้าแทน เพราะนางทั้งพูดทั้งห่อข้าวไปด้วย เกรงว่าจะไม่ได้ตรวจให้ถี่ถ้วนลูกค้ามาเข้าแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 9 อาชีพเสริมช่วยชาวบ้าน

    ผ่านมาได้สองอาทิตย์ การค้าของครอบครัวสวีเป็นไปด้วยดี ลูกค้าประจำมีมากขึ้น ขนาดพ่อบ้านของจวนนายอำเภอ ยังมาต่อแถวซื้อไปให้เจ้านายได้ลิ้มลอง วันนี้เป็นวันหยุดของครอบครัว ลู่ชิงอยากจะปรึกษาบิดาเกี่ยวกับผู้คนในหมู่บ้านอันผิง ว่าพวกเขาเหล่านี้มีนิสัยใจคออย่างไร คนเห็นแก่ตัวหรือขี้อิจฉา ย่อมมีอยู่ทุกที่เหมือนกันหมด หรือแม้แต่คนที่เข้าใจอะไรยาก เอาความคิดของตนเองเป็นหลักหากได้รับการยืนยันเรื่องพวกนี้ จากท่านพ่อและหัวหน้าหมู่บ้าน เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ บางทีนางอาจจะหาอาชีพให้พวกเขาได้ทำ จะได้มีรายได้พอจุนเจือครอบครัวเพิ่มมากขึ้น ยิ่งในฤดูหนาวนั้นทุกบ้านต้องประหยัดอาหาร ไม่แปลกที่จะมีคนตายจากการหิวโหยไม่น้อย คิดได้ดังนั้นก็รีบเดินตามหาบิดาทันทีลู่ชิงเดินตามหาบิดาจนมาเจอที่สวนผักของบ้าน พี่ชายทั้งสองก็อยู่ด้วยกำลังช่วยกันพลิกหน้าดินแปลงผัก เพื่อจะเพาะปลูกใหม่ลู่ชิงไม่รอช้า เรียกบิดาออกไปด้วยเสียงที่ดังพอสมควร“ท่านพ่อเจ้าคะท่านมาอยู่ที่แปลงผักนี่เอง ข้าเดินตามหาท่านให้ทั่วบ้านเลยเจ้าค่ะ”“อ้าว ชิงเอ๋อร์ เจ้าตามหาพ่อทำไมกันมีเรื่องอะไรหรือไม่” ลู่เวินสงสัยว่าทำไมบุตรสาวถึงตามหาตนเอง“พอดีข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 10 ขายเครื่องประดับได้เงินทุนเพิ่ม

    เช้าวันถัดมาการตั้งร้านขายอาหารทอด ก็ยังคงมีลูกค้ามาต่อแถวอย่างคึกคักเช่นเดิม ในช่วงปลายยามเฉินท่านพ่อและพี่ชาย กำลังช่วยกันเก็บของอยู่ทางด้านหลัง เพราะของที่ขายก็เหลือน้อยแล้ว ลู่ชิงจึงบอกกับท่านแม่ว่าแถมเนื้อหมูให้ลูกค้าสักหน่อย จะได้เก็บของกลับบ้านส่วนนางกับท่านพ่อจะไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เรื่องซื้อร้านค้าและจะนำเครื่องประดับไปขายที่ร้านของเถ้าแก่หงด้วย เผื่อมีร้านค้าที่ราคาไม่สูงมากจะได้ซื้อไว้ก่อน“ท่านแม่เจ้าคะ ถ้ามีลูกค้ามาซื้ออีกสักสองสามคน ท่านก็แถมเนื้อหมูเพิ่มไปสักหน่อย ท่านแม่กับพี่ชายจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนรอพวกเราเจ้าค่ะ”“แม่รู้แล้ว ๆ เจ้าย้ำกับแม่หลายรอบแล้วนะชิงเอ๋อร์” นางส่ายหน้าให้กับบุตรสาวเล็กน้อย เพราะนางเอาแต่ย้ำเรื่องนี้อยู่หลายรอบ“แหะ ๆ ๆ เจ้าค่ะท่านแม่ เช่นนั้นข้ากับท่านพ่อจะรีบไปทำธุระให้เรียบร้อยนะเจ้าคะ พวกท่านกลับไปรอฟังข่าวดีอยู่ที่บ้านได้เลยเจ้าค่ะ”ฟางซินมองตามสามีกับบุตรสาว ที่เดินออกไปแล้วอยู่เงียบ ๆ ได้แต่คิดในใจ ตั้งแต่มีเด็กคนนี้เข้ามาครอบครัวก็มีเสียงหัวเราะได้ทุกวัน สองคนพ่อลูกตรงไปที่ร้านของเถ้าแก่หง เพื่อนำครื่องประดับจากในมิติไปขายจะได้มีเงินสำร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13

บทล่าสุด

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 81 ร้านค้าตระกูลสวีเปิดตัวที่เมืองหลวงแล้ว

    หลังจบงานเลี้ยงเหล่าขุนนางทั้งหลาย กล่าวย้ำกับฮูหยินของตนเรื่องการอบรมบุตรสาว ให้มีความพร้อมสำหรับการออกเรือน ตอนนี้ทุกคนมุ่งเป้าไปที่องค์รัชทายาท ด้วยเมื่อก่อนพระองค์มีอาการป่วยจึงไม่มีขุนนางคนใดสนใจ คิดส่งบุตรสาวเข้าตำหนักบูรพาเพื่อแต่งเข้าไปเป็นพระชายาแม้สักคนครั้งนี้พอเห็นว่ารัชทายาทหายจากอาการป่วยก็กระตือรือร้น อยากส่งบุตรสาวเข้าตำหนักเพื่ออำนาจของตระกูลจะได้มีมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือเมิ่งเหยียนรองเจ้ากรมโยธาผู้ที่อยู่เงียบ ๆ มาตลอด แต่ในใจนั้นกระหายในอำนาจไม่ต่างจากผู้อื่นเท่าใดนักใต้เท้าเมิ่งคิดว่าบุตรสาวของตนที่งดงามไม่เป็นสองรองใคร อย่างไรก็ต้องได้แต่งเข้าตำหนักองค์รัชทายาทอย่างแน่นอน เพียงแค่ต้องหาโอกาสให้ทั้งสองได้ทำความรู้จักและสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสียก่อนทุกคนต่างคาดหวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แต่ใครจะรู้ว่าตัวตนลึก ๆ ขององค์รัชทายาทนั้น โหดเหี้ยมไม่ต่างกับเซียวหนิงหลงเลยสักนิด ก่อนที่จะถูกวางยาพิษจนล้มป่วยพระองค์เคยเข้าร่วมกองทัพของชินอ๋อง เพื่อฝึกการสู้รบในสงครามกับเซียวหนิงหลงมาแล้ว เพียงในยามนั้นทรงปลอมตัวเป็นลูกหลานขุนนางขั้นเจ็ดโดยไม่มีผู้ล่วงรู้ผ่านมาอีกเจ็ดว

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย    ตอนที่ 80 สมรสพระราชทานที่เจ้าบ่าวมิใช่เซียวหนิงหลง

    หลังจากไทเฮาเสด็จกลับมาถึงวังหลวง ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงอีกสองวันต่อจากนี้ เพื่อให้ไทเฮาได้พักผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล เพราะพระองค์ก็ทรงมีพระชนมพรรษามากแล้วนั่นเองฮ่องเต้กับฮองเฮาจึงไปส่งไทเฮาถึงตำหนักหนิงจิ้งกง แต่ด้านหลังยังมีนางสนมตำแหน่งต่าง ๆ องค์ชายองค์หญิงอีกหลายพระองค์ติดตามไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้สร้างความอิจฉาปนความเกลียดชังให้กับจิ่งไท่เฟยเป็นอย่างมากพระนางต้องเสด็จกลับตำหนักยินเหลียงกงของตน พร้อมหลานสาวอย่างจิ่งมู่อิงและนางกำนัลเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ไทเฮาทรงทราบว่าตอนนี้ฮองเฮาตัั้งครรภ์ได้สี่เดือนแล้ว ทรงดีพระทัยมากและทรงคาดหวังว่าครรภ์นี้ของฮองเฮา จะเป็นองค์ชายน้อยอีกสักพระองค์ เมื่อเสด็จออกมาจากตำหนักของไทเฮา ฮ่องเต้จึงเสด็จไปส่งฮองเฮาที่ตำหนักเสียก่อน จากนั้นถึงจะเสด็จกลับตำหนังกวงจือกงของพระองค์เพื่อทรงงานของวันนี้ต่อไปก่อนถึงงานเลี้ยงหนึ่งวันขบวนสินค้าจากตำบลหย่งฝู ก็ลำเลียงเป็นแถวผ่านประตูเมืองหลวงเข้ามา และหยุดอยู่ด้านหน้าร้านค้าขนาดใหญ่ ที่เซียวหนิงหลงสั่งให้นายช่างทำร้านทั้งสองให้เป็นร้านเดียวพอทหารที่คอยเฝ้าดูแลร้านเห็นรถม้าทั้งหกคัน ท

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 79 ขบวนสินค้าออกเดินทาง

    ก้งคุนปล่อยให้เจียวมิ่งนั่งอยู่กับพวกเต๋อหลิน ส่วนตัวเขากลับไปช่วยงานต่อ เพราะถึงอย่างไรเจียวมิ่งย่อมนำเรื่องที่คุยกันมาบอกพวกเขาสามคนอยู่ดี การได้นั่งดูสหายผู้มาจากเมืองหลวงทานอาหารเช่นนี้ ช่างคล้ายกับพวกตนตอนที่มาถึงตำบลหย่งฝูครั้งแรกจริง ๆ เมื่ออาหารทุกอย่างบนโต๊ะลงไปอยู่ในท้องของแต่ล่ะคนหมดแล้ว เจียวมิ่งจึงได้เวลาพูดคุยกับเหล่าสหายเสียที“ดูสภาพพวกเจ้าแต่ล่ะคนทำไมมันดูโทรมขนาดนี้ได้ ระหว่างเดินทางไม่พักผ่อนกันบ้างหรืออย่างไร”“มันก็มีแวะพักมาตลอดทางนั่นแหล่ะ เพียงแต่พวกข้ากลัวว่าจะนำสินค้ากลับไปถึงช้า ทำให้การเปิดร้านค้าของซื่อจื่อต้องเลื่อนออกไป จึงพักเท่าที่จำเป็นเท่านั้นพวกข้าจึงมาถึงที่นี่ได้เร็วกว่ากำหนดน่ะ” เจาซ่งเป็นผู้ตอบคำถามนี้ของเจียวมิ่ง“ซื่อจื่อซื้อร้านค้าขนาดใหญ่ถึงสองร้านและยังอยู่ติดกันอีกต่างหาก เท่าที่ดูการปรับปรุงใหม่ทั้งหมดคงจะรวมให้เป็นร้านเดียวกัน เพราะรื้อไม้ของเก่าออกทั้งหมดวัสดุที่สั่งมาใช้มีแต่ของดี ข้าได้ยินชุนชานบอกว่าซื่อจื่อสั่งมาทุกอย่างต้องดีที่สุด ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ไม่เกี่ยงขอให้ปรับปรุงร้านเสร็จภายในหนึ่งเดือนเป็นพอ” เต๋ออวี่ชอบไปนั่งพูดคุยกับชุน

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 78 การค้าขายจากเมืองหลวงมาถึงตระกูลสวีแล้ว

    คำสั่งซื้อที่ได้รับจากเถ้าแก่หง ทำให้ทุกคนในครอบครัวตื่นเต้นดีใจกันมาก ครั้งนี้ส่วนแบ่งจากการขายสินค้าคงได้มากกว่าเดิมแน่ ๆ ยามเช้ามืดของวันที่สองลู่ชิงตื่นมาชวนทุกคน เพื่อช่วยกันเตรียมสินค้าตามคำสั่งซื้อและตอนสาย ๆ หลังจากเปิดร้าน ค่อยให้ลู่จื้อกับก้งเจี้ยนำไปส่งเถ้าแก่หงที่จวน เมื่อรับสินค้าครบตามจำนวนที่บอกกับลู่ชิงแล้ว เถ้าแก่หงได้บอกกับลู่จื้อมาว่าการเดินทางไปทำการค้าครั้งนี้ อาจจะมีลูกค้ามีคำสั่งซื้อมาเพิ่มอีกก็เป็นได้ผ่านมาอีกหนึ่งสัปดาห์กว่า ๆ การเดินทางที่แสนเหนื่อยล้าของพวกเต๋อหลิน ซึ่งออกจากเมืองหลวงไปตำบลหย่งฝู ตามคำสั่งของเซียวหนิงหลง ตอนนี้ได้หยุดพักรถม้าอยู่ที่เมืองหย่งจินหนึ่งวันก่อนจะออกเดินทางต่อ เพราะทั้งเหนื่อยและหิวมากเต๋อหลินจึงชวนสหายเดินไปหาของกินจนเห็นผู้คนเดินเข้าออกร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่ง คิดว่าคงเป็นอาหารที่อร่อยมากเป็นแน่ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีลูกค้ามากมาย บางคนถึงกับนั่งรออยู่หน้าร้านที่มีม้านั่งวางไว้ให้ ไหนจะมีคนถือเถาอาหารมาต่อแถว ทั้งหกคนไม่รอช้ารีบเดินตามคนอื่นไปบ้าง พอมาถึงก็โชคดีที่มีโต๊ะว่างให้พวกเขาได้นั่งร่วมกัน และเรียกลูกจ้างของร้านมาสั่งอาหารทั

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 77 รับทรัพย์แถมคำสั่งซื้อจากแคว้นซีหนาน

    หลี่เหลียงพร้อมสหายทั้งสองหลังจากแวะส่งเด็กเล็ก ๆ ของตระกูลเฮ่อที่อารามบนเขาเสร็จ ก็รีบเร่งเดินทางเพื่อให้พ้นเขตแดนของแคว้นเป่ยเยี่ยน ตอนนี้ผู้คนในเมืองหลวงต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงตระกูลเฮ่อ เกี่ยวกับเรื่องห้องลับใต้ดินที่เป็นห้องสำหรับทำพิธีกรรมบางอย่าง ซึ่งทุกคนต่างเชื่อมโยงกับเรื่องที่มีเด็กสาวหายตัวไปก่อนจะพบเป็นศพด้วยเรื่องนี้ไปถึงพระกรรณของฮ่องเต้เป่ยซางหลาง ทำให้พระองค์ไม่เสด็จไปเยือนตำหนักของเฮ่อกุ้ยเฟยอีก มิหนำซ้ำเหล่าขุนนางยังรวมตัวเรียกร้องให้ฮ่องเต้ ทรงปลดนางจากตำแหน่งกุ้ยเฟยยังไม่พอ ผลกระทบนี้ทำให้องค์ชายรองไม่สามารถแข่งขันชิงตำแหน่งรัชทายาทได้ เพราะขุนนางหลายคนถอนตัวไปสนับสนุนองค์ชายคนอื่นแทน เฮ่อกุ้ยเฟยพอได้ยินข่าวนี้ยิ่งทำให้ล้มป่วยไปอีกหลายเดือนทีเดียวผ่านมาสองวันหลี่เหลียงกับสหาย จึงกลับมาถึงบ้านพักที่ชายแดนแคว้นฉู่ เขารีบเขียนจดหมายรายงานการทำภารกิจครั้งนี้ส่งให้เซียวหนิงหลงได้รับทราบ รวมถึงข่าวที่อันเนี่ยนเจินเจ้ากรมอาญาคนใหม่ กำลังเดินทางไปพบเซียวหนิงหลงตามที่นัดไว้ คงใช้เวลาเดินทางอีกหนึ่งเดือนกว่าจะไปถึงเมืองเฉียนเหอ เนื่องจากแคว้นเป่ยเยี่ยนเป็นแคว้นเล็ก ๆ อยู่ใก

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 76 ชดใช้เวรกรรมด้วยเลือดทั้งตระกูล

    อันเนี่ยนเจินไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากนัก เมื่อต้าเป่ามาพร้อมกับม้าที่แข็งแรงสองตัวไม่มีการพูดจาใด ๆ ทั้งสองรีบขึ้นหลังม้าควบทะยานออกจากเมืองหลวงแคว้นเป่ยเยี่ยนทันที แม้ไม่ทราบจุดประสงค์ของผู้ส่งจดหมายฉบับนั้นว่าต้องการสิ่งใด แต่อันเนี่ยนเจินเชื่อไปเกินครึ่งแล้วว่า คนผู้นี้ต้องมีสิ่งที่เขาต้องการอย่างแน่นอนถึงการเดินทางครั้งนี้จะใช้เวลานานนับเดือนก็ตาม คนอย่างอันเนี่ยนเจินก็ไม่คิดยอมแพ้ หากเขาสามารถไขคดีนี้ให้ความจริงปรากฏออกมาได้ นอกจากความมั่นคงในหน้าที่การงาน ยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือต่อฮ่องเต้และขุนนางทั้งหลาย ต่อไปย่อมมีคนสนับสนุนและผลักดันให้อันเนี่ยนเจิน ไปยังตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ในอนาคตเช้ามืดในปลายยามอิ๋นหลี่เหลียงและสหายอีกสองคน ก็ออกเดินทางจากชายแดนพวกเขามุ่งหน้าไปแคว้นเป่ยเยี่ยน ทั้งสามคนจะไปถึงเขตเมืองหลวงประมาณต้นยามซวี ซึ่งจะแวะพักโรงเตี๊ยมนอกเมืองเสียก่อน และยามเว่ยของอีกวันถึงจะเดินทางเข้าไปในเมืองหลวง เพื่อรอเวลาลงมือเมื่อความมืดมาเยือน“วันนี้พวกเราสามคนพักที่โรงเตี๊ยมนี้ก่อนเถิด พรุ่งนี้ยามเว่ยค่อยเดินทางเข้าเมืองหลวงต่อไป” หลี่เหลียงกล่าวกับสหายเมื่อเดินทางมาถึง

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 75 ผลการพิพากษากำลังจะไปเยือนตระกูลเฮ่อ

    หลังจากเจียวมิ่งบอกเล่าต้นสายปลายเหตุที่เฮ่อจาวหยูต้องการจับตัวลู่ชิงไป ทุกคนทำสีหน้าเหลือเชื่อว่าผ่านมาหลายร้อยปี ยังมีคนเชื่อเรื่องพิธีกรรมแปลก ๆ เช่นนี้อยู่อีกหรือ พวกเขาคิดถึงเด็กสาวที่ต้องสังเวยชีวิต เพราะคนหลงผิดเห็นแก่ตัวทำเรื่องผิดบาปสังหารคนเพื่อความรุ่งเรืองของตระกูลแล้วศพพวกนั้นถูกนำไปกำจัดอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น เมื่อกลับมาถึงบ้านเช่าพวกเจียวมิ่งทำให้เฮ่อจาวหยูฟื้นคืนสติ ด้วยมีข้อสงสัยบางอย่างที่ยังไม่ได้คำตอบ นั่นคือผู้มีอำนาจรวมถึงข้อมูลของคนในตระกูลเฮ่อทั้งหมด ว่าบุตรหลานที่เป็นสตรีแต่งงานไปตระกูลใดบ้าง อยู่ในแคว้นเป่ยเยี่ยนหรือแต่งงานไปแคว้นอื่น เจียวมิ่งเขียนรายละเอียดทุกอย่างลงในจดหมายและส่งออกไปทันทีเซียวหนิงหลงมอบหมายให้ชุนชานมีหน้าที่ดูแลการปรับปรุงร้านค้าทั้งสอง โดยให้ปาเซี่ยช่วยควบคุมดูแลนายช่าง จนกว่าพวกเขาจะปรับปรุงเสร็จ ส่วนตัวเขาได้แต่อ่านตำราพูดคุยกับมารดาและน้องสาวอยู่ในจวนบางครั้งก็ฝึกวรยุทธ์เพิ่มความแข็งแกร่ง พวกเต๋อหลินเองได้ออกเดินทางไปยังตำบลหย่งฝู พร้อมรถม้าจำนวนหกคันแล้ว นอกจากนี้ยังส่งคนไปจับตามองตระกูลเมิ่ง ที่เข้าออกตำหนักของกวนเสียนเ

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 74 ตระกูลเฮ่อสร้างปัญหานอกแคว้น

    แคว้นฉู่เป็นแคว้นที่ใหญ่รองลงมาจากแคว้นซีหนาน ซึ่งมีพื้นที่อุดมสมบูรณ์และกองทัพที่แข็งแกร่ง ไม่แปลกที่แคว้นตงหนานต้องการยึดพื้นที่ชายแดน และแคว้นเป่ยเยี่ยนที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของแคว้นฉู่แม้การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรจะดีเหมือนแคว้นอื่น แต่แคว้นเป่ยเยี่ยนกลับมีพระสนมยศกุ้ยเฟย จากตระกูลเก่าแก่ตระกูลนี้ก็คือตระกูลเฮ่อ ซึ่งมีพิธีกรรมที่เป็นความเชื่อสืบทอดกันมา เพื่อส่งเสริมให้บุตรหลานที่เป็นสตรีในตระกูล เรืองอำนาจอยู่เหนือบุรุษและสามารถควบคุมเอาไว้ในกำมือทุก ๆ หนึ่งปีผู้ทำพิธีของตระกูลเฮ่ออย่างเฮ่อจาวหยู จะออกไปเสาะหาเด็กสาวผู้มีอายุตั้งแต่สิบสองหนาวขึ้นไป เป็นเด็กสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ภาพรวมทั้งหมดที่แสดงออกต่อคนรอบข้างของเด็กสาวพวกนี้จะมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว เมื่อพบเจอเด็กสาวตามคุณลักษณะที่ต้องการ จะนำตัวไปชำระล้างเพื่อนำเลือดจากหัวใจของเด็กสาว มอบให้พระสนมเฮ่อกุ้ยเฟยได้ดื่ม เพื่อเสริมอำนาจบารมีและคงความอ่อนเยาว์พิธีกรรมนี้ทำมาต่อเนื่องนานหลายปี ตั้งแต่พระสนมเฮ่อกุ้ยเฟยเข้าถวายตัวเป็นนางสนมเล็ก ๆ จนปีหลัง ๆ มานี้มีขุนนางหน้าใหม่ที่เข้ามารับตำแหน่งเจ้ากรมตุลาการ ติดตามสืบหากา

  • ข้าจะพาครอบครัวใหม่ไปสู่ความร่ำรวย   ตอนที่ 73 เซียวหนิงหลงเตรียมเปิดกิจการภายใต้ชื่อตระกูลสวี

    เซียวหนิงหลงนั่งฟังชุนชานรายงาน การลงโทษประหารนักโทษทั้งสองคน รวมถึงการขับไล่ครอบครัวทั้งสองตระกูล ห้ามอาศัยอยู่ในเขตเมืองหลวง และไม่อนุญาตให้บุตรหลานสอบเข้ารับราชการ ส่วนสตรีห้ามแต่งเข้าจวนขุนนาง พวกเขาจะต้องเดินทางโดยที่ไม่มีเงินทองติดตัว แม้แต่เครื่องประดับชิ้นเล็กชิ้นน้อยล้วนถูกยึดไปหมดบ้านเดิมไม่ให้การช่วยเหลือด้วยกลัวจะติดร่างแหไปด้วย จะหันหน้าไปพึ่งพาเพื่อนสนิทมิตรสหายที่เคยคบหากัน ทุกคนต่างก็หันหน้าหนีคล้ายกับว่าไม่เคยรู้จักมาก่อน ส่วนขุนนางที่เคยเป็นลูกค้าใช้เงินซื้อความสุขชั่วคราว เมื่อคนในครอบครัวได้รับรู้พฤติกรรมอันน่ารังเกียจ จึงเกิดทะเลาะกันอย่างหนักบางครอบครัวถึงขั้นหย่าร้างขุนนางพวกนี้มิได้มีฐานะร่ำรวยแต่อาศัยว่าได้ภรรยามีฐานะดี ทำให้มีหน้ามีตาในวงสังคมขุนนางชั้นสูงมาได้ เพราะการสนับสนุนของภรรยาทั้งสิ้นการต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมถึงห้าปี แสดงว่าเบี้ยหวัดที่ได้ย่อมเท่าเดิม ที่สำคัญยังต้องใช้เงินสำหรับเปิดโรงทานถึงหกเดือน จะทำอาหารแจกแบบขอไปทีคงจะถูกตรวจสอบเป็นแน่แล้วค่าใช้จ่ายของคนในครอบครัวกับเงินเบี้ยหวัดของบ่าวไพร่อีก คงต้องขายบ่าวไพร่เพื่อลดค่าใช้จ่ายสิ่งของในจวนที่

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status