ทิวาเดินตามเมคินออกมายังชายหาด ตอนนี้ท้องฟ้ามืดมิด มองออกไปยังพื้นน้ำทะเลด้านหน้าเห็นแสงไฟจากเรือประมงอยู่หลายดวงสายตาของเขาจ้องมองไปยังไหลกว้าง ไหล่ที่เขาซบทีไรอบอุ่นถึงหัวใจทุกครั้ง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีความรู้สึกพิเศษแบบนี้ให้กับผู้ชายด้วยกัน หากแต่พอมันเกิดขึ้นแล้วก็อยากรักษาเอาไว้ให้นานที่สุด“มาช้าจัง”“ยากันยุงกลิ่นมันฉุนผมต้องล้างมือหลานรอบเลย”“ไหนมาดมหน่อย หายเหม็นหรือยัง” เมคินคว้าข้อมือของทิวาเข้าใกล้แล้วกดจมูกลงบนหลังมืออย่างแผ่วเบา จากนั้นก็มือวางลงบนท่อนขาของตัวเองทิวาเขินจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเขาจับมือไว้แล้วไล้นิ้วโป้งเบาๆ ชายหนุ่มก็แทบละลาย โชคดีเหลือเกินที่ตอนนี้ความมืดเข้าปกคลุมถ้าไม่อย่างนั้นเมคินคงได้เห็นเลขาหนุ่มหน้าแดงไปถึงใบหูแน่ๆ“ไม่มีกลิ่นแล้วใช่ไหม”“มีสิ”“ผมล้างตั้งหลายรอบแล้วนะพี่” ทิวาพยายามดึงมือตัวเองกลับมาดม แต่เขาก็รั้งไว้“ที่บอกว่ามีกลิ่นมันก็คือกลิ่นจากมือของนายไง”“อ๋อ พี่คินครับ ขอมือคืนได้ไหม ผมจะกินขนม”เมคินปล่อยมือทิวาออกแล้วใช้มือตัวเองโอบหลัง ดึงให้ชายหนุ่มเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ทิวาขืนตัวเล็กน้อย แต่พอนึกได้ว่าที่นี่เป็นหาดส่วนตัวแถมย
แม้เช้านี้จะไม่ต้องรีบตื่นไปทำงานแต่ทิวาก็ยังคงตื่นเช้าตามปกติ เขามองอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆ ท่อนแขนแข็งแรงยังกอดอยู่ที่เอว เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ คิดแล้วร่างกายก็ร้อนวูบวาบ ความเป็นชายที่มันมักจะตื่นตอนเช้าตามปกติก็ตื่นตัวยิ่งขึ้นไปอีก ชายหนุ่มขยับตัวออกจากอ้อมกอดของบอสก่อนจะรีบตรงไปห้องน้ำเขามองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ มองรอยแดงเป็นจ้ำที่ลำคอแล้วยิ้ม เขาเคยช่วยตัวเองมานับไม่ถ้วนแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะมีความสุขเหมือนเมื่อวาน เพียงแค่ฝ่ามือร้อนๆ ของเมคินก็ทำเอาเขาแทบคุมสติไม่อยู่ ใบหน้าหวานแดงก่ำยิ่งขึ้นเมื่อนึกไปถึงความเป็นชายของเมคินที่มันใหญ่กว่าของตัวเองไปมากมันจะเขาไปในตัวเขาได้ยังไง มันจะฝืนธรรมชาติเกินไปหรือเปล่า ทิวาสับสนไปหมด แต่ในใจส่วนลึกก็อยากให้เขาทำมากกว่านั้น อยากเป็นส่วนหนึ่งกับเขาเขาเรียนรู้เรื่องการเตรียมตัวมาบ้างจากการอ่านในอินเทอร์เน็ตและจากกลุ่มลับในไลน์ที่องศาแนะนำ เขาใช้ไอดีหลุมเข้าไปสอบถาม เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แม้กระทั่งองศาก็ไม่รู้ว่าทิวใช้ชื่ออะไรในกลุ่มลับนั้น เขาจำคำพูดของสมาชิกในกลุ่มได้ดี ทุกคนย่อมมีครั้งแรก แล
“นายก็คือพรหมลิขิตของพี่ พี่สัญญาจากนี้นายจะไม่โดดเดี่ยว นายจะมีพี่เป็นครอบครัวของนาย”ทิวาสบตาคมคู่นั้นแล้วยิ้ม ในเมื่อเมคินสัญญาแบบนั้นเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้วทั้งสองจ้องตากันอย่างมีความหมาย เมคินก้มหน้าลงมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของอีกคนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มหนักหน่วงขึ้น แรงบดเบียดเสียดสีจนทิวาต้องยกมือขึ้นจับไหล่กว้างไว้เพราะกลัวตัวเองจะจมหายไปกับห้วงอารมณ์พิศวาส“อ๊ะ!...อืมมม”ทิวาส่งเสียงเมื่อจมูกโด่งของเขาเคลื่อนไปบริเวณติ่งหู เขาขบเม้มวนเวียนบนผิวเนื้อขาวเนียนจากนั้นก็เลื่อนตำไปยังลำคอที่มีหยดน้ำเกาะพราวไปตามผิว ร่างกายคนน้องร้อนผ่าว เมคินใช้ลิ้นร้อนลากผ่านดูดเบาๆ ไปตามซอกคอจนทิวาบีบไหล่เขาแรงขึ้น เลขาคู่ใจกัดริมฝีปากแน่นเพราะกลัวจะส่งเสียงครางออกไปให้อีกคนได้ยินเมคินขยับริมฝีปากร้อนไปยังไหปลาร้าและลำคอ เสียงจูบแผ่วเบาหากแต่ดังกังวานอยู่เต็มหัวใจ มือหนาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอก ลากปลายนิ้วปัดป่ายจนโดนส่วนยอด ทิวาตัวสั่นเทา มือที่จับไหล่เปลี่ยนเป็นคล้องไปลำคอแกร่ง เขาแทบพยุงตัวเองไม่อยู่ เพียงสายน้ำที่โอบอุ้มก็ทำให้รู้สึกตัวเบาอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสัมผัสแบบนี้ก็เหมือนกับตัวเ
แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่และเป็นแสงแรกของปีส่องผ่านผ้าม่านสีอ่อนเข้ามายังห้องนอนกว้าง ทิวาลืมตาสู้แสงทีละนิด ร่างกายรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้น พยายามขยับตัวจะลุกนั่งแต่ช่วงล่างก็เจ็บปวดจนเกินจะทนเขาจึงได้แต่นอนนิ่งนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืน ชายหนุ่มจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ไม่ทั้งหมด รู้แต่ว่าตัวเองกับบอสนัวเนียกันตั้งแต่ในสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ขึ้นมาทำเรื่องอย่างว่าที่ริมสระ ใบหน้าชายหนุ่มร้อนขึ้นทันทีครั้งแรกของเขากับเมคินแทนที่จะเป็นในห้องนอนเพราะเป็นสถานที่ส่วนตัวแต่กลับกลายเป็นริมสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ถูกอุ้มเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ บอสให้เขานอนพัก เพียงไม่นานเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เมคินมอบบทรักบทใหม่ให้อีกหลายต่อหลายครั้ง ภาพจำสุดท้ายเท่าที่พอนึกออกคือบอสกำลังเช็ดตัวให้ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น จากนั้นเขาก็หลับลึกจนถึงเช้าสมองตื่นตัวแล้ว หากแต่ร่างกายยังไม่อาจขยับเขยื้อน ใครจะคิดว่าครั้งแรกมันจะเจ็บถึงเพียงนี้ ถ้าถามว่าย้อนกลับไปเมื่อวานจะยอมให้เมคินทำแบบนี้กับตัวเองอีกไหม เลขาอย่างเขาก็ตอบได้ทันทีเลยว่าเขายอม เพราะมันมีความสุขที่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับคนที่ตัวเองรัก ยิ่
หลังหยุดยาวปีใหม่ทุกคนก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม รวมทั้งทิวาและเมคิน แม้สถานะจะเปลี่ยนไปแต่ในเวลางานพวกเขาก็เป็นบอสกับเลขาอย่างเดิมเรื่องขโมยที่เข้าห้องเมคินก็ยังจับไม่ได้ ป้ายประกาศหน้าที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัท ซึ่งเป็นรูปของคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นทำให้หลายคงยังคงคิดว่าเป็นทิวาอยู่ดี แม้ชายหนุ่มจะพ้นข้อกล่าวหาเพราะมีหลักฐานให้กับทางตำรวจแล้ว แต่ภาพจากกล้องมันก็ยังทำให้หลายไม่เชื่อสายตาหลายคู่เต็มไปด้วยคำถามมากมายมองมาจน ทิวารู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่ได้ชี้แจงอะไร เพราะเรื่องทุกอย่างมันจบตั้งแต่บนโรงพักในวันนั้นแล้วแต่ตราบใดที่ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ทิวาก็ยังถูกมองด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจอยู่ดีเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานทำให้ทิวาหลุดออกจากความคิดตัวเอง เขารีบยกหูทันที“เข้ามาหาผมหน่อย”“ครับบอส”พอวางสายทิวาก็ถือแฟ้มของฝ่ายบุคคลเข้าไปในห้องเจ้านายตามคำสั่งทันที“แฟ้มที่ต้องเช็นตอนบ่ายครับ” เลขาหนุ่มวางลงบนโต๊ะอย่างเคย“ที่เรียกเข้ามาไม่ได้ให้เอาแฟ้มเข้ามาสักหน่อย”“บอสมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”“เปล่า แค่อยากเห็นหน้า” เขาทำเสียงสองเหมือนเวลาที่อยู่คอนโด“บอสครับ นี่มันที่ทำงาน”“แต่มันใน
เซฟโซน“คนที่เท่าไหร่แล้ว”“ไม่รู้ครับผมไม่นับ” เขาตอบหน้าตาเฉยเมคินลูกชายคนเล็กของคุณเมฆาเจ้าของบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ของเมืองไทย เขาเป็นลูกไม้หล่นใต้ต้นเพราะตั้งแต่เรียนจบจากอเมริกาก็เข้ามาช่วยบิดาบริหารงานจนถึงตอนนี้ก็เกือบ 5 ปีแล้ว ที่ชายหนุ่มโลดแล่นอยู่บนถนนสายธุรกิจตลอดเวลาที่ผ่านมาชายหนุ่มทำงานอย่างหนักเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากบริษัทต่างๆ ที่ผุดกันขึ้นมาอย่างกับดอกเห็ด แต่เพราะเขาพยายามทุ่มเทอย่างหนัก เขาจึงใช้งานเลขาแต่ละคนหนักตามไปด้วย เลขาส่วนใหญ่จึงทนไม่ไหวและพากันลาออกไปหลายคนแล้ว แต่ก็ยังมีคนมาสมัครเป็นเลขาขอของเขาอยู่เรื่อย ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นผู้หญิงสวยๆ ที่อยากพาตัวเองเข้ามาใกล้ชิดกับชายหนุ่มสุดฮ็อต แต่พอเขาไม่เล่นด้วยแถมยังใช้งานอย่างหนักพวกเธอจึงพากันลาออก“พี่ว่าคินคงต้องหาเลขาที่เป็นผู้ชายบ้างแล้วล่ะ จะได้ไม่เกิดปัญหาแบบเดิม”เมลดาลูกสาวคนโตของเมฆาออกความคิดเห็น แม้เธอจะแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วแต่ก็มักจะหาเวลาว่างมาทานอาหารกับครอบครัวอยู่เป็นประจำ“แม่เห็นด้วยนะเมย์”“ก็ดีเหมือนกันนะพี่ ผู้ชายคงทำงานอึดดี แต่เรื่องความละเอียดรอบคอบนี่สิ” เขายังไม่เคยทำงานก
เมคินออกเดินทางตั้งแต่เช้าเขาเลือกใช้เส้นทางสระบุรี -หล่มสัก ระหว่างทางก็แวะทานอาหารที่ปั๊มน้ำมันก่อนจะขับยาวไปถึงตัวอำเภอเขาค้อก็เวลาบ่าย ชายหนุ่มจอดรถที่ร้าน อาหารพื้นเมืองแห่งหนึ่ง ก่อนจะตรงไปยังที่พักทันทีเขาเลือกพักที่รีสอร์ตเล็กๆ แห่งหนึ่งในหมูบ้านชาวม้งเข็กน้อย บรรยากาศที่พักอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เพียงแค่จอดรถก็สัมผัสได้ถึงความร่มรื่น อากาศเย็นจนเขาต้องห่อไหล่พนักงานต้อนรับในชุดพื้นเมืองรับกระเป๋าจากชายหนุ่มแล้วตรงไปยังเคาน์เตอร์เช็กอิน พอกรอกรายละเอียดเสร็จแล้วก็เดินนำเขาไปยังห้องพักห้องริมสุดทางเดิน ลักษณะเหมือนยื่นออกมาจากพื้นราบ“อาหารเช้าและเย็นเป็นแบบบุปเฟ่ต์จัดห้องอาหารด้านบนที่ชั้นสามนะคะ แต่ถ้าคุณจะสั่งอาหารมาทานที่ห้องพักก็ตามเบอร์ที่วางไว้ในห้อง ครัวของเราเปิดหกโมงเช้าปิดสามทุ่ม ขอให้มีความสุขกับการพักผ่อนนะคะพนักงานหญิงคนหนึ่งอายุไม่น่าจะเกิน 20 ปีแนะนำด้วยภาษากลางติดสำเนียงท้องถิ่นเล็กน้อย ฟังแล้วเพราะจนเขาอดชื่นชมไม่ได้ ชายหนุ่มหยิบธนบัตรใบละหนึ่งร้อยขึ้นมาสองใบส่งให้เด็กทั้งสอง“ขอบคุณค่ะ” ทั้งสองคนยกมือไหว้ขอบคุณแล้วก็เดินกลับเมคินวางกระเป๋าลงบนเก้าอี้ที่มุมห
ระหว่างรอช่างทั้งสองก็มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น เขารู้ว่าผู้ชายคนนี้ชื่อทิวาแต่ก่อนเคยทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งเชียงใหม่ เขามาเที่ยวและกำลังจะเขากรุงเทพเพื่อไปหาเพื่อนและสมัครงาน“คุณเป็นลูกครึ่งเหรอ”“ครับ”“ผมถามได้ไหม ว่าลูกครึ่งอะไร”“ผมไม่รู้” แล้วก็เหมือนเดดแอร์ เขานิ่งเงียบแววตาหม่นลงจนเห็นได้ชัดพอดีกับช่างที่โทรถามมาถึงพอดีทิวาเลยขอตัวลงไปคุยกับช่าง ก่อนจะกลับมาหาเขาที่รถ“ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมขอติดรถไปได้ไหม”“ได้สิ ขึ้นมาเลย”“ผมขับให้ไหม” ทิวาไม่อยากเอาเปรียบ“ได้สิ”ทั้งสองสลับที่กัน เมคินไม่ถามเรื่องชาติกำเนิดของเขาเพราะรู้ว่าชายหนุ่มคงไม่สะดวกที่จะตอบ“น่าจะอีกสักชั่วโมง คุณง่วงก็นอนก่อนได้นะครับ”“ไม่เป็นไร ผมอยากคุยกับคุณมากกว่า” อยู่ๆ เมคินก็อยากทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น เพราะเขารู้สึกว่าทิวามีอะไรหลายอย่างที่น่าค้นหา“จอดทำไมถึงที่พักคุณแล้วเหรอ”“ยังหรอก ผมนัดเพื่อนไว้ที่นี่”“ผมขอเบอร์คุณได้ไหม” เป็นครั้งแรกที่เมคินขอเบอร์โทรศัพท์คนอื่นทิวาหยิบโทรศัพท์ของเขามากดเบอร์ตัวเองลงไปก่อนจะเดินเข้าไปยังโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งเพราะไม่เคยมาที่นี่เลยสักครั้งกว่า
หลังหยุดยาวปีใหม่ทุกคนก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม รวมทั้งทิวาและเมคิน แม้สถานะจะเปลี่ยนไปแต่ในเวลางานพวกเขาก็เป็นบอสกับเลขาอย่างเดิมเรื่องขโมยที่เข้าห้องเมคินก็ยังจับไม่ได้ ป้ายประกาศหน้าที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัท ซึ่งเป็นรูปของคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นทำให้หลายคงยังคงคิดว่าเป็นทิวาอยู่ดี แม้ชายหนุ่มจะพ้นข้อกล่าวหาเพราะมีหลักฐานให้กับทางตำรวจแล้ว แต่ภาพจากกล้องมันก็ยังทำให้หลายไม่เชื่อสายตาหลายคู่เต็มไปด้วยคำถามมากมายมองมาจน ทิวารู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่ได้ชี้แจงอะไร เพราะเรื่องทุกอย่างมันจบตั้งแต่บนโรงพักในวันนั้นแล้วแต่ตราบใดที่ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ทิวาก็ยังถูกมองด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจอยู่ดีเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานทำให้ทิวาหลุดออกจากความคิดตัวเอง เขารีบยกหูทันที“เข้ามาหาผมหน่อย”“ครับบอส”พอวางสายทิวาก็ถือแฟ้มของฝ่ายบุคคลเข้าไปในห้องเจ้านายตามคำสั่งทันที“แฟ้มที่ต้องเช็นตอนบ่ายครับ” เลขาหนุ่มวางลงบนโต๊ะอย่างเคย“ที่เรียกเข้ามาไม่ได้ให้เอาแฟ้มเข้ามาสักหน่อย”“บอสมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”“เปล่า แค่อยากเห็นหน้า” เขาทำเสียงสองเหมือนเวลาที่อยู่คอนโด“บอสครับ นี่มันที่ทำงาน”“แต่มันใน
แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่และเป็นแสงแรกของปีส่องผ่านผ้าม่านสีอ่อนเข้ามายังห้องนอนกว้าง ทิวาลืมตาสู้แสงทีละนิด ร่างกายรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้น พยายามขยับตัวจะลุกนั่งแต่ช่วงล่างก็เจ็บปวดจนเกินจะทนเขาจึงได้แต่นอนนิ่งนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืน ชายหนุ่มจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ไม่ทั้งหมด รู้แต่ว่าตัวเองกับบอสนัวเนียกันตั้งแต่ในสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ขึ้นมาทำเรื่องอย่างว่าที่ริมสระ ใบหน้าชายหนุ่มร้อนขึ้นทันทีครั้งแรกของเขากับเมคินแทนที่จะเป็นในห้องนอนเพราะเป็นสถานที่ส่วนตัวแต่กลับกลายเป็นริมสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ถูกอุ้มเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ บอสให้เขานอนพัก เพียงไม่นานเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เมคินมอบบทรักบทใหม่ให้อีกหลายต่อหลายครั้ง ภาพจำสุดท้ายเท่าที่พอนึกออกคือบอสกำลังเช็ดตัวให้ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น จากนั้นเขาก็หลับลึกจนถึงเช้าสมองตื่นตัวแล้ว หากแต่ร่างกายยังไม่อาจขยับเขยื้อน ใครจะคิดว่าครั้งแรกมันจะเจ็บถึงเพียงนี้ ถ้าถามว่าย้อนกลับไปเมื่อวานจะยอมให้เมคินทำแบบนี้กับตัวเองอีกไหม เลขาอย่างเขาก็ตอบได้ทันทีเลยว่าเขายอม เพราะมันมีความสุขที่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับคนที่ตัวเองรัก ยิ่
“นายก็คือพรหมลิขิตของพี่ พี่สัญญาจากนี้นายจะไม่โดดเดี่ยว นายจะมีพี่เป็นครอบครัวของนาย”ทิวาสบตาคมคู่นั้นแล้วยิ้ม ในเมื่อเมคินสัญญาแบบนั้นเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้วทั้งสองจ้องตากันอย่างมีความหมาย เมคินก้มหน้าลงมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของอีกคนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มหนักหน่วงขึ้น แรงบดเบียดเสียดสีจนทิวาต้องยกมือขึ้นจับไหล่กว้างไว้เพราะกลัวตัวเองจะจมหายไปกับห้วงอารมณ์พิศวาส“อ๊ะ!...อืมมม”ทิวาส่งเสียงเมื่อจมูกโด่งของเขาเคลื่อนไปบริเวณติ่งหู เขาขบเม้มวนเวียนบนผิวเนื้อขาวเนียนจากนั้นก็เลื่อนตำไปยังลำคอที่มีหยดน้ำเกาะพราวไปตามผิว ร่างกายคนน้องร้อนผ่าว เมคินใช้ลิ้นร้อนลากผ่านดูดเบาๆ ไปตามซอกคอจนทิวาบีบไหล่เขาแรงขึ้น เลขาคู่ใจกัดริมฝีปากแน่นเพราะกลัวจะส่งเสียงครางออกไปให้อีกคนได้ยินเมคินขยับริมฝีปากร้อนไปยังไหปลาร้าและลำคอ เสียงจูบแผ่วเบาหากแต่ดังกังวานอยู่เต็มหัวใจ มือหนาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอก ลากปลายนิ้วปัดป่ายจนโดนส่วนยอด ทิวาตัวสั่นเทา มือที่จับไหล่เปลี่ยนเป็นคล้องไปลำคอแกร่ง เขาแทบพยุงตัวเองไม่อยู่ เพียงสายน้ำที่โอบอุ้มก็ทำให้รู้สึกตัวเบาอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสัมผัสแบบนี้ก็เหมือนกับตัวเ
แม้เช้านี้จะไม่ต้องรีบตื่นไปทำงานแต่ทิวาก็ยังคงตื่นเช้าตามปกติ เขามองอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆ ท่อนแขนแข็งแรงยังกอดอยู่ที่เอว เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ คิดแล้วร่างกายก็ร้อนวูบวาบ ความเป็นชายที่มันมักจะตื่นตอนเช้าตามปกติก็ตื่นตัวยิ่งขึ้นไปอีก ชายหนุ่มขยับตัวออกจากอ้อมกอดของบอสก่อนจะรีบตรงไปห้องน้ำเขามองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ มองรอยแดงเป็นจ้ำที่ลำคอแล้วยิ้ม เขาเคยช่วยตัวเองมานับไม่ถ้วนแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะมีความสุขเหมือนเมื่อวาน เพียงแค่ฝ่ามือร้อนๆ ของเมคินก็ทำเอาเขาแทบคุมสติไม่อยู่ ใบหน้าหวานแดงก่ำยิ่งขึ้นเมื่อนึกไปถึงความเป็นชายของเมคินที่มันใหญ่กว่าของตัวเองไปมากมันจะเขาไปในตัวเขาได้ยังไง มันจะฝืนธรรมชาติเกินไปหรือเปล่า ทิวาสับสนไปหมด แต่ในใจส่วนลึกก็อยากให้เขาทำมากกว่านั้น อยากเป็นส่วนหนึ่งกับเขาเขาเรียนรู้เรื่องการเตรียมตัวมาบ้างจากการอ่านในอินเทอร์เน็ตและจากกลุ่มลับในไลน์ที่องศาแนะนำ เขาใช้ไอดีหลุมเข้าไปสอบถาม เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แม้กระทั่งองศาก็ไม่รู้ว่าทิวใช้ชื่ออะไรในกลุ่มลับนั้น เขาจำคำพูดของสมาชิกในกลุ่มได้ดี ทุกคนย่อมมีครั้งแรก แล
ทิวาเดินตามเมคินออกมายังชายหาด ตอนนี้ท้องฟ้ามืดมิด มองออกไปยังพื้นน้ำทะเลด้านหน้าเห็นแสงไฟจากเรือประมงอยู่หลายดวงสายตาของเขาจ้องมองไปยังไหลกว้าง ไหล่ที่เขาซบทีไรอบอุ่นถึงหัวใจทุกครั้ง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีความรู้สึกพิเศษแบบนี้ให้กับผู้ชายด้วยกัน หากแต่พอมันเกิดขึ้นแล้วก็อยากรักษาเอาไว้ให้นานที่สุด“มาช้าจัง”“ยากันยุงกลิ่นมันฉุนผมต้องล้างมือหลานรอบเลย”“ไหนมาดมหน่อย หายเหม็นหรือยัง” เมคินคว้าข้อมือของทิวาเข้าใกล้แล้วกดจมูกลงบนหลังมืออย่างแผ่วเบา จากนั้นก็มือวางลงบนท่อนขาของตัวเองทิวาเขินจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเขาจับมือไว้แล้วไล้นิ้วโป้งเบาๆ ชายหนุ่มก็แทบละลาย โชคดีเหลือเกินที่ตอนนี้ความมืดเข้าปกคลุมถ้าไม่อย่างนั้นเมคินคงได้เห็นเลขาหนุ่มหน้าแดงไปถึงใบหูแน่ๆ“ไม่มีกลิ่นแล้วใช่ไหม”“มีสิ”“ผมล้างตั้งหลายรอบแล้วนะพี่” ทิวาพยายามดึงมือตัวเองกลับมาดม แต่เขาก็รั้งไว้“ที่บอกว่ามีกลิ่นมันก็คือกลิ่นจากมือของนายไง”“อ๋อ พี่คินครับ ขอมือคืนได้ไหม ผมจะกินขนม”เมคินปล่อยมือทิวาออกแล้วใช้มือตัวเองโอบหลัง ดึงให้ชายหนุ่มเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ทิวาขืนตัวเล็กน้อย แต่พอนึกได้ว่าที่นี่เป็นหาดส่วนตัวแถมย
หลังจากงานเลี้ยงปีใหม่พนักงานทุกคนก็ได้หยุดยาว เมคินและทิวาเตรียมจัดกระเป๋าเพราะพรุ่งนี้ทั้งสองจะเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยกันทิวาจัดของตัวเองเสร็จเลยคิดจะไปช่วยเมคินจัดของบ้าง ประตูห้องเปิดแง้มอยู่เขาจึงดันเข้าไปเบาๆ“ทิวาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่”ทิวาไม่รู้ว่าเมคินกำลังคุยอยู่กับใคร แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเขาอย่างแน่นอน เขายืนรอจนกระทั่งชายหนุ่มวางสาย“เกิดอะไรขึ้นครับ”“ไม่มีอะไร” เมคินรีบบอกปัดเพราะไม่อยากให้ทิวารู้“แต่ผมได้ยินพี่พูดชื่อผมนะครับ”เมคินนิ่งไปสักพัก ก่อนจะเล่าว่าเมื่อคืนขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่ที่งานเลี้ยงก็มีคนแอบเข้ามาในบริษัทลักษณะเหมือนกับทิวาทุกประการ ชายคนนั้นเข้าไปยังห้องทำงานของเมคินและพยายามเปิดตู้เซฟจนสัญญาณกันขโมยดังขึ้น รปภ. จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณตู้เซฟมีรอยงัดแงะ แต่คนร้ายก็เปิดไม่ได้ มันจึงเอาแต่โน้ตบุ๊กของเมคินไปเท่านั้น“จะเป็นผมไปได้ยังไงครับ”“ก็นั่นน่ะสิ พี่ว่าเราคงต้องเลื่อนเวลาเดินทางแล้ว”“ไม่เป็นไรครับ จัดการธุระให้เสร็จดีกว่าครับ”ระหว่างทางไปบริษัทเมคินก็จัดการเรื่องตัวเครื่องบิน แต่เพราะเป็นช่วงเทศกาลตั๋วเที่ยวบินอื่
แม้จะได้นอนไปเพียงสี่ชั่วโมงแต่ทิวากลับตื่นนอนด้วยความสดชื่น เขาออกมาทำอาหารอย่างเคย ไส้กรอก ไข่ดาวเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว ขอแค่เมคินกลับมาจากออกกำลังกายก็ปิ้งขนมปังอีกอย่างก็เรียบร้อยเสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น ทิวาก็หยิบขนมปังลงเครื่อง“พี่แต่งชุดนี้ไปวิ่งเหรอครับ” ก็ชุดที่เขาใส่ดูยังไงก็คือชุดนอน“เปล่า วันนี้ไม่ได้วิ่ง”“อ้าวแล้ว ไปไหนมาแต่เช้าล่ะครับ”“ไปซื้อน้ำส้ม” เพราะทิวาชอบฝากเขาซื้อน้ำส้มขากลับจากวิ่ง“ขอบคุณครับ แต่ครั้งหน้าถ้าพี่ไม่ออกไปวิ่งก็ไม่ต้องลงไปซื้อก็ได้ ผมเกรงใจ”“ไม่เป็นไร มันไม่ได้ไกลมาก อีกอย่างพี่รู้ว่าแฟนพี่ชอบกิน”“พี่คิน” เขาทำสีหน้าตกใจที่ได้ยินเมคินพูดแบบนั้น“เวลาทิวเขิน น่ารักดีนะ” พอเห็นเขาอายเมคินก็อยากแกล้งยิ่งเห็นเขาหน้าแดงหูแดงก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี“พี่คินห้ามพูดแบบนี้ให้คนอื่นได้ยินนะครับ โดยเฉพาะที่ทำงาน”“ทำไม? เป็นแฟนพี่มาน่าอายมากเลยเหรอ” เขาทำหน้าเหมือนเสียใจหากแต่แววตาพราวระยิบ“ผมแค่ห่วงว่าคนอื่นจะมองพี่ไม่ดี”“ไม่เห็นต้องแคร์ เรื่องแบบนี้พี่ว่ามันเปิดกว้างมากขึ้นแล้ว”“ครับ ผมเชื่อว่าพี่รู้ว่าเวลาอยู่บริษัทพี่ต้องปฏิบัติกับผมยังไง เพราะคนที่เ
“บอสครับของขวัญพร้อมแล้ว จะออกเดินทางกี่โมงครับ”ทิวาถือกล่องของขวัญที่คุณวีณาไปซื้อมาตอนบ่ายเข้ามาในห้องของเจ้านายในเวลาเกือบหกโมงเย็นเมคินลุกขึ้นสวมสูทสีน้ำเงินเข้าทับเชิ้ตสีขาว พร้อมสำหรับไปร่วมงาน“ไปสิ”“จะไปชุดนี้เหรอครับ” ทิวามองชุดที่เจ้านายสวมอยู่แล้วมันเคร่งขรึมเกินกว่าจะไปร่วมงานมงคล“อือ ทำไม”“เปลี่ยนไทหน่อยไหมครับ” เมคินก้มมองเนกไทสีกรมท่าสลับกับมองทิวาที่กำลังเปิดตู้เอกสารเหมือนกำลังหาอะไรสักอย่าง“ผมว่าสีนี้ดีกว่า” ชายหนุ่มหยิบเนกไทสีฟ้าอ่อนออกมาจากกล่อง“เปลี่ยนให้หน่อยสิ”“บอสก็เปลี่ยนเองสิครับ”“ถ้าไม่เปลี่ยนให้ก็ไปกันเลย” เขาหันหลังทำท่าจะเดินออกจากห้อง“ก็ได้ครับ”เมคินยิ้มก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วหันกลับมาทิวาดึงเนกไทเส้นเดิมออก เอื้อมมือคล้องอีกเส้นไปด้านหลัง ก่อนจะวกกลับมาแล้วเริ่มผูกเป็นปม เมคินยืนนิ่งเขาชอบที่เห็นทิวาอยู่ใกล้แบบนี้ เขาชอบมองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูไร้เล่ห์เหลี่ยมของคนตรงหน้า กลิ่นน้ำหอมสดชื่นลอยมาแตะจมูก เขาจำได้ว่าเป็นคนเลือกให้ แต่กลิ่นของมันไม่เหมือนกับตอนแรกที่ซื้อคงเพราะมันผสมกับกลิ่นกายจนทำให้เป็นกลิ่นเฉพาะที่รู้สึกหอมจนไม่อยากให้เข
“ผู้หญิงคนเมื่อวานเป็นน้องรหัส เขามาชวนไปงานปาร์ตี้สละโสด เขาชวนนายไปงานแต่งงานเขาด้วย”อยู่ๆ เมคินก็พูดขึ้นขณะที่กำลังทานอาหารเช้า เพราะคิดว่าอีกคนคงอยากรู้แต่ไม่กล้าถาม เขาสังเกตว่าเช้านี้ทิวาเอาแต่ก้มหน้า ไม่ยอมสบตาแถมยังนั่งเขี่ยไข่ดาวในจานเล่นจนมันเละไปหมด และพอพูดจบก็เห็นว่าอีกฝ่ายมีรอยยิ้มที่มุมปาก“พี่บอกทำไม ผมยังไม่ได้ถามสักหน่อย”“ก็แค่อยากบอก เผื่อว่าคนบางคนแถวนี้จะเข้าใจผิด”“ใครจะเข้าใจผิดกัน” ทิวาปฏิเสธพร้อมหลบสายตาอีกคน“ไม่เข้าใจผิดก็ดีแล้ว คราวหน้าถ้าอยากรู้ก็ถาม ถ้าอยากให้กลับเร็วก็โทรตาม ไม่ใช่นอนรอแบบนั้น”“ถ้าโทรตามพี่จะรีบกลับเหรอ เกินว่าพี่ทำธุระอยู่หรือพี่กำลังสนุกกับเพื่อนแล้วผมโทรตาม พอกลับถึงห้องพี่จะไม่โกรธเอาเหรอ”“มันก็แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าพี่กลับเร็วได้ก็จะรีบกลับ แต่ถ้ากลับไม่ได้ก็จะบอก”“แล้วจะโกรธไหมครับ”“ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองโทรดู”“พูดแบบนี้ใครจะกล้าโทรตาม” ทิวาทำหน้าเบื่อโลกก่อนจะยกจานไปเก็บ แต่ถ้าครั้งหน้าเมคินออกไปกับเพื่อนอีกเขาคิดว่าจะลองโทรตามดู ชายหนุ่มก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะทำตามที่พูดไหมตารางงานของเมคินตลอดทั้งสัปดาห์เพราะช่วงใกล้เทศกาลป