หลังจากงานเลี้ยงปีใหม่พนักงานทุกคนก็ได้หยุดยาว เมคินและทิวาเตรียมจัดกระเป๋าเพราะพรุ่งนี้ทั้งสองจะเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยกันทิวาจัดของตัวเองเสร็จเลยคิดจะไปช่วยเมคินจัดของบ้าง ประตูห้องเปิดแง้มอยู่เขาจึงดันเข้าไปเบาๆ“ทิวาไม่มีทางทำแบบนั้นแน่”ทิวาไม่รู้ว่าเมคินกำลังคุยอยู่กับใคร แต่เรื่องนี้มันเกี่ยวกับเขาอย่างแน่นอน เขายืนรอจนกระทั่งชายหนุ่มวางสาย“เกิดอะไรขึ้นครับ”“ไม่มีอะไร” เมคินรีบบอกปัดเพราะไม่อยากให้ทิวารู้“แต่ผมได้ยินพี่พูดชื่อผมนะครับ”เมคินนิ่งไปสักพัก ก่อนจะเล่าว่าเมื่อคืนขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่ที่งานเลี้ยงก็มีคนแอบเข้ามาในบริษัทลักษณะเหมือนกับทิวาทุกประการ ชายคนนั้นเข้าไปยังห้องทำงานของเมคินและพยายามเปิดตู้เซฟจนสัญญาณกันขโมยดังขึ้น รปภ. จึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณตู้เซฟมีรอยงัดแงะ แต่คนร้ายก็เปิดไม่ได้ มันจึงเอาแต่โน้ตบุ๊กของเมคินไปเท่านั้น“จะเป็นผมไปได้ยังไงครับ”“ก็นั่นน่ะสิ พี่ว่าเราคงต้องเลื่อนเวลาเดินทางแล้ว”“ไม่เป็นไรครับ จัดการธุระให้เสร็จดีกว่าครับ”ระหว่างทางไปบริษัทเมคินก็จัดการเรื่องตัวเครื่องบิน แต่เพราะเป็นช่วงเทศกาลตั๋วเที่ยวบินอื่
ทิวาเดินตามเมคินออกมายังชายหาด ตอนนี้ท้องฟ้ามืดมิด มองออกไปยังพื้นน้ำทะเลด้านหน้าเห็นแสงไฟจากเรือประมงอยู่หลายดวงสายตาของเขาจ้องมองไปยังไหลกว้าง ไหล่ที่เขาซบทีไรอบอุ่นถึงหัวใจทุกครั้ง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีความรู้สึกพิเศษแบบนี้ให้กับผู้ชายด้วยกัน หากแต่พอมันเกิดขึ้นแล้วก็อยากรักษาเอาไว้ให้นานที่สุด“มาช้าจัง”“ยากันยุงกลิ่นมันฉุนผมต้องล้างมือหลานรอบเลย”“ไหนมาดมหน่อย หายเหม็นหรือยัง” เมคินคว้าข้อมือของทิวาเข้าใกล้แล้วกดจมูกลงบนหลังมืออย่างแผ่วเบา จากนั้นก็มือวางลงบนท่อนขาของตัวเองทิวาเขินจนทำอะไรไม่ถูก ยิ่งเขาจับมือไว้แล้วไล้นิ้วโป้งเบาๆ ชายหนุ่มก็แทบละลาย โชคดีเหลือเกินที่ตอนนี้ความมืดเข้าปกคลุมถ้าไม่อย่างนั้นเมคินคงได้เห็นเลขาหนุ่มหน้าแดงไปถึงใบหูแน่ๆ“ไม่มีกลิ่นแล้วใช่ไหม”“มีสิ”“ผมล้างตั้งหลายรอบแล้วนะพี่” ทิวาพยายามดึงมือตัวเองกลับมาดม แต่เขาก็รั้งไว้“ที่บอกว่ามีกลิ่นมันก็คือกลิ่นจากมือของนายไง”“อ๋อ พี่คินครับ ขอมือคืนได้ไหม ผมจะกินขนม”เมคินปล่อยมือทิวาออกแล้วใช้มือตัวเองโอบหลัง ดึงให้ชายหนุ่มเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ทิวาขืนตัวเล็กน้อย แต่พอนึกได้ว่าที่นี่เป็นหาดส่วนตัวแถมย
แม้เช้านี้จะไม่ต้องรีบตื่นไปทำงานแต่ทิวาก็ยังคงตื่นเช้าตามปกติ เขามองอีกคนที่นอนอยู่ข้างๆ ท่อนแขนแข็งแรงยังกอดอยู่ที่เอว เรื่องราวที่ผ่านมาเมื่อคืนยังฉายชัดอยู่ในความทรงจำ คิดแล้วร่างกายก็ร้อนวูบวาบ ความเป็นชายที่มันมักจะตื่นตอนเช้าตามปกติก็ตื่นตัวยิ่งขึ้นไปอีก ชายหนุ่มขยับตัวออกจากอ้อมกอดของบอสก่อนจะรีบตรงไปห้องน้ำเขามองตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่ มองรอยแดงเป็นจ้ำที่ลำคอแล้วยิ้ม เขาเคยช่วยตัวเองมานับไม่ถ้วนแต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่จะมีความสุขเหมือนเมื่อวาน เพียงแค่ฝ่ามือร้อนๆ ของเมคินก็ทำเอาเขาแทบคุมสติไม่อยู่ ใบหน้าหวานแดงก่ำยิ่งขึ้นเมื่อนึกไปถึงความเป็นชายของเมคินที่มันใหญ่กว่าของตัวเองไปมากมันจะเขาไปในตัวเขาได้ยังไง มันจะฝืนธรรมชาติเกินไปหรือเปล่า ทิวาสับสนไปหมด แต่ในใจส่วนลึกก็อยากให้เขาทำมากกว่านั้น อยากเป็นส่วนหนึ่งกับเขาเขาเรียนรู้เรื่องการเตรียมตัวมาบ้างจากการอ่านในอินเทอร์เน็ตและจากกลุ่มลับในไลน์ที่องศาแนะนำ เขาใช้ไอดีหลุมเข้าไปสอบถาม เพราะไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองเป็นใคร แม้กระทั่งองศาก็ไม่รู้ว่าทิวใช้ชื่ออะไรในกลุ่มลับนั้น เขาจำคำพูดของสมาชิกในกลุ่มได้ดี ทุกคนย่อมมีครั้งแรก แล
“นายก็คือพรหมลิขิตของพี่ พี่สัญญาจากนี้นายจะไม่โดดเดี่ยว นายจะมีพี่เป็นครอบครัวของนาย”ทิวาสบตาคมคู่นั้นแล้วยิ้ม ในเมื่อเมคินสัญญาแบบนั้นเขาก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีกต่อไปแล้วทั้งสองจ้องตากันอย่างมีความหมาย เมคินก้มหน้าลงมาประทับจูบลงบนริมฝีปากของอีกคนอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มหนักหน่วงขึ้น แรงบดเบียดเสียดสีจนทิวาต้องยกมือขึ้นจับไหล่กว้างไว้เพราะกลัวตัวเองจะจมหายไปกับห้วงอารมณ์พิศวาส“อ๊ะ!...อืมมม”ทิวาส่งเสียงเมื่อจมูกโด่งของเขาเคลื่อนไปบริเวณติ่งหู เขาขบเม้มวนเวียนบนผิวเนื้อขาวเนียนจากนั้นก็เลื่อนตำไปยังลำคอที่มีหยดน้ำเกาะพราวไปตามผิว ร่างกายคนน้องร้อนผ่าว เมคินใช้ลิ้นร้อนลากผ่านดูดเบาๆ ไปตามซอกคอจนทิวาบีบไหล่เขาแรงขึ้น เลขาคู่ใจกัดริมฝีปากแน่นเพราะกลัวจะส่งเสียงครางออกไปให้อีกคนได้ยินเมคินขยับริมฝีปากร้อนไปยังไหปลาร้าและลำคอ เสียงจูบแผ่วเบาหากแต่ดังกังวานอยู่เต็มหัวใจ มือหนาเลื่อนมาสัมผัสหน้าอก ลากปลายนิ้วปัดป่ายจนโดนส่วนยอด ทิวาตัวสั่นเทา มือที่จับไหล่เปลี่ยนเป็นคล้องไปลำคอแกร่ง เขาแทบพยุงตัวเองไม่อยู่ เพียงสายน้ำที่โอบอุ้มก็ทำให้รู้สึกตัวเบาอยู่แล้ว ยิ่งมาเจอสัมผัสแบบนี้ก็เหมือนกับตัวเ
แสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่และเป็นแสงแรกของปีส่องผ่านผ้าม่านสีอ่อนเข้ามายังห้องนอนกว้าง ทิวาลืมตาสู้แสงทีละนิด ร่างกายรู้สึกเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกออกเป็นชิ้น พยายามขยับตัวจะลุกนั่งแต่ช่วงล่างก็เจ็บปวดจนเกินจะทนเขาจึงได้แต่นอนนิ่งนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาเมื่อคืน ชายหนุ่มจำเหตุการณ์ทุกอย่างได้ไม่ทั้งหมด รู้แต่ว่าตัวเองกับบอสนัวเนียกันตั้งแต่ในสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ขึ้นมาทำเรื่องอย่างว่าที่ริมสระ ใบหน้าชายหนุ่มร้อนขึ้นทันทีครั้งแรกของเขากับเมคินแทนที่จะเป็นในห้องนอนเพราะเป็นสถานที่ส่วนตัวแต่กลับกลายเป็นริมสระว่ายน้ำ จากนั้นก็ถูกอุ้มเข้าไปชำระล้างร่างกายในห้องน้ำ บอสให้เขานอนพัก เพียงไม่นานเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง เมคินมอบบทรักบทใหม่ให้อีกหลายต่อหลายครั้ง ภาพจำสุดท้ายเท่าที่พอนึกออกคือบอสกำลังเช็ดตัวให้ด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น จากนั้นเขาก็หลับลึกจนถึงเช้าสมองตื่นตัวแล้ว หากแต่ร่างกายยังไม่อาจขยับเขยื้อน ใครจะคิดว่าครั้งแรกมันจะเจ็บถึงเพียงนี้ ถ้าถามว่าย้อนกลับไปเมื่อวานจะยอมให้เมคินทำแบบนี้กับตัวเองอีกไหม เลขาอย่างเขาก็ตอบได้ทันทีเลยว่าเขายอม เพราะมันมีความสุขที่ได้ทำอะไรแบบนั้นกับคนที่ตัวเองรัก ยิ่
หลังหยุดยาวปีใหม่ทุกคนก็กลับมาทำงานเหมือนเดิม รวมทั้งทิวาและเมคิน แม้สถานะจะเปลี่ยนไปแต่ในเวลางานพวกเขาก็เป็นบอสกับเลขาอย่างเดิมเรื่องขโมยที่เข้าห้องเมคินก็ยังจับไม่ได้ ป้ายประกาศหน้าที่บอร์ดประชาสัมพันธ์ของบริษัท ซึ่งเป็นรูปของคนร้ายที่ได้จากกล้องวงจรปิดนั้นทำให้หลายคงยังคงคิดว่าเป็นทิวาอยู่ดี แม้ชายหนุ่มจะพ้นข้อกล่าวหาเพราะมีหลักฐานให้กับทางตำรวจแล้ว แต่ภาพจากกล้องมันก็ยังทำให้หลายไม่เชื่อสายตาหลายคู่เต็มไปด้วยคำถามมากมายมองมาจน ทิวารู้สึกอึดอัดแต่ก็ไม่ได้ชี้แจงอะไร เพราะเรื่องทุกอย่างมันจบตั้งแต่บนโรงพักในวันนั้นแล้วแต่ตราบใดที่ตำรวจยังจับคนร้ายไม่ได้ทิวาก็ยังถูกมองด้วยสายตาไม่น่าไว้ใจอยู่ดีเสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานทำให้ทิวาหลุดออกจากความคิดตัวเอง เขารีบยกหูทันที“เข้ามาหาผมหน่อย”“ครับบอส”พอวางสายทิวาก็ถือแฟ้มของฝ่ายบุคคลเข้าไปในห้องเจ้านายตามคำสั่งทันที“แฟ้มที่ต้องเช็นตอนบ่ายครับ” เลขาหนุ่มวางลงบนโต๊ะอย่างเคย“ที่เรียกเข้ามาไม่ได้ให้เอาแฟ้มเข้ามาสักหน่อย”“บอสมีอะไรจะใช้ผมเหรอครับ”“เปล่า แค่อยากเห็นหน้า” เขาทำเสียงสองเหมือนเวลาที่อยู่คอนโด“บอสครับ นี่มันที่ทำงาน”“แต่มันใน
ทิวากลับมายังโต๊ะทำงานของตัวเองพร้อมกับได้รับข่าวดีจากฉัตรภพว่าตอนนี้ตำรวจจับคนร้ายที่เข้าห้องทำงานจองเมคินได้แล้ว ส่วนโน้ตบุ๊กที่ขโมยไปคงไม่ได้คืนเพราะถูกขายไปตั้งแต่วันแรกที่ถูกขโมย“โล่งอกไปที” สีหน้าของเขาดีขึ้นจากเมื่อเช้าขึ้นมาทันที“เดี๋ยวพี่คงต้องไปโรงพัก”“ครับ ผมต้องไปด้วยไหม”“ไม่ต้องหรอก เลิกงานแล้วก็กลับได้เลยพี่จะไปส่งบอสเอง”“ครับพี่ภพ”เขานั่งลงบนเก้าอี้ด้วยความสบายใจ ถ้ายังจับคนร้ายไม่ได้เขาก็คงนั่งทำงานท่ามกลางเสียงนินทาไปอีกนาน“บอสมาแล้วพี่ไปก่อนนะ”ทิวาเงยหน้าขึ้นมาก็สบเข้ากับสายตาคมปลาบของบอส ฝ่ายนั้นพยักหน้าให้เล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับฉัตรภพติ๊งทิวาก้มลงมองสมาร์ทโฟนในมือแล้วยิ้มKin : พี่ไปกับภพ ไปโรงพักแล้วจะไปกินข้าวกับเพื่อนต่อTiwa : กลับดึกไหมครับKin : เที่ยงคืน รอพี่นะTiwa : ครับอ่านแล้วก็นั่งยิ้มอยู่คนเดียว เพียงแค่เขาบอกว่าให้รอไม่ว่าดึกแค่ไหนเลขาอย่างเขาก็ยินดีรอเพราะเมคินไปกับฉัตรภพเย็นนี้เขาถึงต้องขับรถของเจ้านายกลับคนเดียวชายหนุ่มแวะที่ห้างใกล้บ้าน ทานอาหารที่ฟู๊ดคอร์ดจากนั้นไปก็เดินดูของไปเรื่อย เพราะกลับไปก็ต้องอยู่คนเดียว เดินเล่นไปสั
ผ่านไปหลายชั่วโมงกว่าพายุแห่งตัณหาจะสงบ ไม่รู้เมคินไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ส่วนอีกคนนั้นหมดแรงจนลุกไม่ขึ้น เขาจัดการพาทิวาเข้าไปอาบน้ำ สวมเสื้อให้และพาไปนอนที่ห้องเดิมของชายหนุ่ม ก่อนตัวเองจะรีบอาบน้ำและตามไปนอนกอดกันอยู่บนเตียงนอนห้าฟุต เหตุเพราะเตียงเดิมในห้องนอนใหญ่เต็มไปด้วยคราบน้ำรักจนไม่อาจนอนต่อได้เมคินรู้สึกตัวตื่นก่อน เขารีบอาบน้ำแต่งลงไปรับอาหารที่สั่งไว้ พอกลับขึ้นห้องมาเลขาคู่ใจก็ยังนอนอยู่ที่เดิมก็“ทิว ไหวไหม ตื่นมากินอะไรสักหน่อยนะ”แม้จะไม่อยากปลุกคนที่นอนหลับอย่างมีความสุขแต่เพราะทิวาเคยเป็นโรคกระเพาะมาก่อนเขาจึงต้องให้ชายหนุ่มลุกมาทานอะไรสักนิดก็ยังดี“พี่คิน กี่โมงแล้วครับ” ทิวาขยับตัวอย่างยากลำบาก เขาปวดร้าวไปทั้งตัว“เกือบสิบโมงแล้วนะ กินข้าวต้มสักนิดแล้วค่อยนอน”“ขอยาแก้ปวดด้วยได้ไหม”“ได้สิ แต่กินข้าวก่อนนะ” เมคินประคองให้เขานั่ง แล้วเลื่อนเก้าอี้มาใกล้ เป่าข้าวต้มก่อนยื่นมาให้“ผมกินเองได้นะครับ”“แรงพูดยังจะไม่มี” เมคินทำเสียงดุก่อน ทำให้อีกคนอ้าปากอย่างเสียไม่ได้“อร่อย พี่คินกินหรือยังครับ”“พี่กินแล้ว ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆ”“ผมว่ามันอร่อยกว่าทุกครั้ง สงสัยเป็น
“พี่คิน เราจะเป็นไข้เลือดออกกันไหมครับ เราไม่มียากันยุง”“เดี๋ยวพี่โทรไปขอทางรีสอร์ตให้ อย่าเพิ่งออกไปนะเดี๋ยวโดนยุงกัดตัวลายขึ้นมาผิวสวยจะเสียหมด”รอไม่นานพนักงานของรีสอร์ตก็เอายากันยุงกับไฟแช็กมาให้ เมคินรับมาพร้อมกับมอบเงินให้เล็กน้อยค่าเสียเวลาเขาเดินออกไปจุดยากันยุงไว้หลายจุดเพราะกลัวว่ายุงจะมากัดผิวสวยๆ ของคุณเลขา“รอสักพักค่อยออกไปนะครับ พี่ขอล้างมือก่อน”“ครับ” เสียงทิวาขานรับขณะที่กำลังนอนกลิ้งอยู่บนเตียงพอเมคินเดินออกมาจากห้องน้ำทั้งสองก็หอบหมอนและผ้าห่มเดินออกไปบริเวณสระว่ายน้ำซึ่งมีเตียงอาบแดดอยู่ด้านริม“พี่คินว่าเราจะเห็นดาวตกไหม”“ก็น่าจะเห็นอยู่นะ” เมคินไม่ได้สนใจฝนดาวตก แต่เพราะอีกคนอยากเห็นก็เลยต้องออกมานอนตากน้ำค้างอย่างนี้ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยหมู่ดาวก็จริง แต่ทุกดวงยังคงประดับอยู่บนท้องฟ้า“ทิวครับ ง่วงหรือเปล่า”“นิดหน่อยครับ”“ถ้าไม่ไหวก็อย่าฝืนนะ”“ยังไหวครับพี่ แต่ถ้าผมเผลอหลับพี่คินอย่าทิ้งผมไว้ตรงนี้คนเดียวนะ”“ใครจะทิ้งได้ลงล่ะครับ” เมคินหันมาบอกคนรักที่อยู่เตียงใกล้ๆ กันตาคู่สวยของเลขาคู่ใจยังคงจ้องไปบนท้องฟ้า ส่วนส
ตลอดสองเดือนที่คุณจางหยวนเข้ามาในชีวิตของทิวา เมคินต้องใช้ความอดทนอย่างมาก เพราะรู้สึกเห็นใจที่เขากับลูกเพิ่งจะได้เจอกัน แต่พอเวลาผ่านไปเขาเองก็เริ่มทนความรู้สึกนี้ไม่ได้ และตอนนี้เขากำลังยืนอยู่หน้าห้องทำงานของคุณจางหยวน“สวัสดีครับคุณเมคิน ไม่คิดเลยว่าบริษัทผมจะมีโอกาสต้อนรับคุณ”“สวัสดีครับคุณจาง ผมมาหาทิวาครับ”“อ้อ มาหาลูกชายผมนั้นเอง เดี๋ยวผมเรียกให้นะ”“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมไปหาเองได้ ผมแค่แวะมาทักทายและจะมาบอกว่าต่อนี้ไปผมจะไม่ให้ทิวามาทำงานกับคุณอีกแล้ว”“ทำไมละครับ เขาเป็นลูกผมอีกหน่อยเข้าต้องมาทำงานแทนผม”“แต่มันยังไม่ถึงเวลาครับ คุณยังแข็งแรงอยู่เลยแล้วอีกอย่างคุณก็รู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน”“ใช่ผมรู้และก็ไม่ได้กีดกันสักหน่อย”“ไม่ได้กีดกันครับ แต่ช่วงนี้คุณแทบจะไม่ปล่อยให้เข้าไปทำงานกันผมเลย ผมแค่มาทวงเลขาคืน”“ตายจริง ผมคงลืมไปว่าเขาเป็นเลขาของคุณด้วย คิดแต่ว่าเป็นคนรักกัน”“ทิวเป็นทั้งสองอย่างนั่นแหละครับ”“ผมชอบที่คุณพูดตรงๆ กับผมนะ เอาล่ะ ตอนนี้ทิวาก็เรียนรู้งานมากแล้ว ที่ผมยอมให้เขากลับไปก็เพราะว่างานที่นี่มันค่อนข้างลงตัวแล้ว เขาแค่อาจต้องเข้ามาประชุมบ้างก็เท่านั้น
หลังจากที่ผลตรวจดีเอ็นเอคุณจางหยวนก็ดีใจมาก เขาอยากให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้า ครอบครัวที่คิดว่าเสียไปแล้วเมื่อยี่สิยกว่าปีก่อน แล้ววันนี้ได้มาเจอกันอีกครั้งอย่างพร้อมหน้า พ่อ แม่ ชายวันห้าสิบกว่าก็ออกอาการดีใจเหมือนกับเด็กๆ ที่ได้ของเล่นเลยทีเดียวเขาพูดจาหว่านล้อมจนคุณลักษิกายอมขึ้นมากรุงเทพ แม้เธอจะยังจำเรื่องในอดีตได้แต่ก็ยอมเดินทางมาเพราะอยากจะเจอกับทิวาอีกครั้งครั้ง ตอนนี้นอกจากรูปถ่ายใบนั้นแล้วคุณจางหยวนยังมีรูปที่ทั้งสองคนถ่ายด้วยกันที่โรงเรียน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขาได้เจอกับเธอ และยังมีรูปถ่ายอีกหลายรูปที่ลูกชายและลูกสาวบุญธรรมส่งมาให้ทางอีเมล ลักษิกาเลยเริ่มเปิดใจยอมรับเขาทีละนิด เพราะทุกรูปที่เขามีนั้นดูเหมือนว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกันจริงๆวันนี้ทิวาเลยนัดทั้งสองคนให้มาที่บ้านของเมคิน เพราะทุกคนที่นี่ก็คือครอบครัวของเขา“พอครับ แม่ครบ นี่คุณจางหยวนกับคุณลักษิกาครับ” เขาเรียกคุณเมฆาและคุณจีรญาว่าพ่อและแม่อย่างเต็มปากในขณะที่เรียกพ่อแม่แท้ๆ ว่าคุณ ทำให้เมฆารู้ในทันทีว่าทิวายังไม่เปิดใจยอมรับทั้งสองมากนัก“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณจางหยวนคุณลักษิกา” เมฆากล่าวทักทาย“ยินดีท
เมคินเลขาคู่ใจกลับมาทำงานกันตามปกติ ส่วนคุณจางหยวนนั้นยังขออยู่ที่เชียงใหม่ต่อ ทิวาโล่งใจที่เขาไม่กลับมาด้วยเพราะตัวเองยังคงสับสนกับทุกเรื่อง“บอสครับบ่ายนี้มีประชุมกับฝ่ายวางแผนกลยุทธ์นะครับ แล้วตอนเย็นก็ต้องมีงานเลี้ยงรุ่นนะครับ” ทิวาเดินถือกาแฟมาให้กับเจ้านายพร้อมบอกตารางการทำงานของบ่ายวันนี้อย่างเคย“ลืมไปสนิทเลย ทิวเปลี่ยนใจไปกับพี่ไหม” เมคินรั้งให้คนรักมานั่งบนตัก กดจมูกไปยังแก้มเนียนชายหนุ่มมักจะฉวยโอกาสอย่างนี้ทุกครั้งที่ทิวาเอากาแฟเข้ามาให้“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ไปด้วยพี่จะได้สนุกเต็มที่”“ไม่กลัวพี่ไปเจอคนอื่นเหรอ”“คนเขารู้กันทั้งเมืองว่าพี่มีเจ้าของแล้ว ผมอยากจะรู้จังว่าใครมันจะกล้าเข้ามาหาพี่”“ไม่แน่นะทิว คนเราบางทีก็อยากท้าทาย”“ก็จริงนะครับ แต่ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดังหรอก”“แสดงว่าเชื่อใจพี่”“แน่นอนครับ ผมเชื่อว่าพี่จะไม่มีคนอื่น เพราะฉะนั้นพี่อย่าทำลายความเชื่อใจของผม”“ใครจะทำอย่างนั้น”“ผมต้องออกไปแล้วหายเข้ามานานเดี๋ยวคุณวีณาสงสัย”“คนรักกันจะอยู่ด้วยกันนานหน่อยไม่น่ามีปัญหานะ ทิวย้ายเข้ามานั่งทำงานในห้องดีไหม”“อย่าเลยครับ ผมกลัวพี่เห็นหน้าผมทั้งกลางวันกลางคืนแล้ว
ทิวากลับมายังคอนโดด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยินมาจากปากของชายคนที่มาอ้างตัวว่าเป็นพ่อ แต่พอเห็นรูปถ่ายที่ชายคนนั้นเอามาให้ดูแล้วก็เริ่มไม่มั่นใจ ผู้หญิงในรูปถ่ายหน้าตาเหมือนเขาราวกับเป็นฝาแฝดถ้าเขาใสวิกผมยาวก็คงแทบจะกลายเป็นคนเดียวกัน“อย่าเพิ่งคิดมาเลยทิว รอผล DNA ก่อนดีกว่า”“มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าผมเป็นลูกเขาจริงๆ”“ถ้าให้ตอบในมุมมองของพี่นะ มันก็ดีที่เรารู้ว่าพ่อเราเป็นใคร และเท่าที่ฟังคุณจางหยวนก็ไม่ได้ทิ้งทิวไป แต่มันเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้น คนที่จะให้คำตอบได้ก็คือแม่ของทิว ถ้าท่านยังมีชีวิตอยู่ท่านก็คงจะเห็นทิวผ่านตามสื่อบ้างแล้ว”“พี่หมายความว่าแม่ผมอาจตายไปแล้วใช่ไหมครับ” เสียงของทิวาสั่นเครือ แม้ที่ผ่านมาจะอยู่มาได้โดยไม่มีพ่อและแม่ แต่พอมาได้ยินเรื่องราววันนี้ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกอยากเจอผู้ให้กำเนิด อยากรู้ว่าท่านอยู่สุขสบายดีไหม“พี่ขอโทษ” พอพูดออกไปแล้วก็รู้สึกผิด เขาไม่น่าไปตั้งข้อสงสัยแบบนั้นเลยจริงๆ“ถ้าแม่ยังอยู่ก็คงเห็นผม ขนาดแม่ครูที่ไม่ค่อยมีเวลาดูทีวียังเคยเห็นเลย”“จริงสิ เราลองถามแม่ครูดูไหมบางทีอาจมีเบาะแส”“อย่าเลยครับพี่คิน เอาเรื่องคุ
ในแต่ละวันเมคินและทิวาก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ทุกอย่างกำลังเป็นได้ด้วยดี ทั้งเรื่องงานและเรื่องของความรัก ยิ่งได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันทั้งสองก็ยิ่งรักและเข้าใจกันมากขึ้นชีวิตที่กำลังลงตัวของทิวากำลังจะเปลี่ยนไปเมื่ออยู่ๆ ชายชาวจีนคนหนึ่งก็บอกว่าอยากเจอเขา โดยชายคนนั้นติดต่อผ่านทางบริษัทโฆษณาของเมลดาทิวาไม่เคยมีคนรู้จักอยู่ที่นั่น และก็ไม่รู้ว่าชายคนนั้นอยากเจอตนเองด้วยเรื่องอะไร แต่เพราะอีกฝ่ายยินดีที่จะบินมาที่เมืองไทย ชายหนุ่มก็เลยตอบตกลงที่จะให้เขาเข้ามาพบวันนี้ชายคนนั้นเดินทางมาจากปักกิ่งเพื่อขอพอกับทิวา โดยนัดกันที่ห้องอาหารของโรงแรมแห่งหนึ่งเมคินและทิวามาถึงโรงแรมตรงเวลานัดพอดี แต่เขาคนนั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว“สวัสดีครับ คุณทิวา ผมชื่อจางหยวน” เขากล่าวทักทายด้วยภาษาไทยที่ชัดแจ๋ว“สวัสดีครับผมทิวา คุณคงรู้อยู่แล้วและนี่เมคินคนรักของผมครับ” ทิวาแนะนำตัวเองและคนรักให้กับชายแปลกหน้าด้วยสถานะที่ทั้งสองไม่เคยปิดบัง“ครับ เชิญนั่งก่อน ผมสั่งอาหารแล้ว เราทานไปด้วยคุยไปด้วยก็ได้”“ผมว่าคุยรีบคุยธุระของคุณดีกว่าครับ เราสองคนยังไม่หิว”“ผมอยากคุยกับคุณตามลำพังมากกว่า”“เสียใจครับ ผมคงให้คุ
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่เมคินและทิวาก็สามารถจับมือกันก้าวผ่านมาได้ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเขาและเลขายังมีคนพูดถึงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครเข้ามาก้าวก่ายทิวาเริ่มมีคนรู้จักมากขึ้นเพราะที่บริษัทให้ทิวาถ่ายโฆษณาสินค้าอีกหลายตัว แต่เขาก็ยังคงทำตัวปกติ มีสินค้าหลายประเภทติดต่อเข้ามาให้เขาเป็นพรีเซนเตอร์ แต่ทิวาก็ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองถนัดและไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินวันนี้ทุกคนนัดรวมตัวกันที่บ้านโอภาสธนรัตน์เพราะเป็นวันเกิดของเมคิน คุณจีรญาจึงจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ให้กับลูกชายนอกจากคนในครอบครัวแล้ว ฉัตรภพและองศาก็มาร่วมงานด้วย เมคินสั่งทุกคนไม่ให้นำของขวัญมา ถ้าหากใครจะอยากจะมอบของขวัญให้ชายหนุ่มขอเป็นเงินสดเพราะตั้งใจว่าจะนำเงินเหล่านั้นไปบริจาคให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอันเป็นบ้านอีกหลังของทิวาเลขาคู่ใจของเขาเจ้าของวันเกิดดูจะมีความสุขมากกว่าใครเพราะรอบตัวรายล้อมไปด้วยคนรัก ทุกคนพูดคุยกันอย่างสนุกอยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านจนกระทั่งถึงเวลาที่ทุกคนรอ ทิวาถือเค้กออกมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ทุกคนร่วมกันร้องเพลงอย่างพร้อมเพรียงพอเสียงเพลง Happy
คุณราเมศและลูกสาวออกมาขอโทษเมคินสำหรับเรื่องที่ทำให้ทุกคนเข้าใจผิด พร้อมกับยอมรับว่าที่ทำไปเพราะหวังอยากให้ทั้งสองกลับมาคบกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องลูกในท้องของรมิดานั้น หญิงสาวไม่ยอมบอกว่าเป็นลูกของใครแม้เจ้าตัวจะออกมายอมรับและขอโทษแล้ว แต่คนส่วนใหญ่กลับมองว่าสิ่งที่สองพ่อลูกพูดออกไปนั้นเพราะถูกทางเมคินกดดันให้พูดกระแสตีกลับมาที่เมคินอีกครั้ง เพราะทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนไปกดดันให้เธอออกมาขอโทษ เรื่องราวเลยไปกันใหญ่ บางคนถึงขั้นบอกจะแบนสินค้าทุกชนิดจากบริษัทเรื่องราวชักจะไปกันใหญ่ หุ้นของบริษัทดิ่งลงจนบอร์ดบริหารยื่นคำขาดให้เมคินจัดการเรื่องนี้ให้จบภายในสัปดาห์นี้ ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะต้องมีการเปลี่ยนตำแหน่งรองประธานบริษัทหลังเลิกงานวันนี้เมคินและทิวาเลยมาที่บ้านใหญ่เพื่อปรึกษากับทุกคนเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นสีหน้าของทุกคนในห้องทำงานในบ้านโอภาสธนรัตน์ดูเคร่งเครียดกว่าทุกครั้งคุณเมฆาดูวิตกกังวลมากกว่าคนอื่นเพราะบริษัทนี้เขาเป็นคนเริ่มก่อตั้งจึงไม่อยากให้ตำแหน่งรองประธานตกไม่อยู่ในมือคนอื่น อีกอย่างที่ผ่านมาเมคินก็ทำงานได้เป็นอย่างดี“คนเราก็แปลกเรื่องจริงกลับไม่เชื่อกัน” คุณจีรญาเห็นใจลูกชา
การกลับมาทำงานหลังการหยุดยาวช่างเป็นอะไรที่โหดร้ายที่สุด ทิวาไม่เคยรู้สึกขี้เกียจอย่างนี้มาก่อนเลยสักครั้ง“พี่คิน ลางานต่อเลยได้ไหม”“เอาสิ พี่ลาด้วย”“ไม่คิดจะห้ามเลยเหรอครับ”“จะห้ามทำไมล่ะ ว่าแต่เป็นอะไรพี่ไม่เคยเห็นทิวเป็นแบบนี้มาก่อน”“ไม่รู้สิครับ ความรู้สึกมันไม่ค่อยสดชื่นเท่าไหร่ มันเหมือนมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง”“นี่เชื่อเรื่องโชคลางด้วยเหรอ”“เชื่อสิครับ”“คงไม่มีอะไรหรอก ถ้ามีปัญหาเรื่องงานเราก็ช่วยกันแก้ได้เหมือนทุกครั้ง”“นั่นสิครับ มีพี่อยู่ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา”แม้ปากจะบอกไปอย่างนั้นแต่ทิวาก็ยังไม่ค่อยสบายใจตลอดช่วงเช้างานทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา ทิวาเลยรู้สึกดีขึ้น บางทีเขาอาจจะคิดไปเองก็ได้แล้วมันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ แต่เรื่องมันไม่ได้เกิดขึ้นกับเลขาอย่างเขาเพราะมันเกิดขึ้นกับบอสภาพข่าวในโซเชียลที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้คือข่าวว่าลูกสาวคนเดียวของคุณราเมศเข้าโรงพยาบาลกะทันหันโดยมีอาการตกเลือด แต่หมอช่วยไว้ได้ทัน เด็กในท้องเลยไม่ได้รับอันตรายทางนั้นยังให้สัมภาษณ์ว่า เธอตั้งครรภ์กับนักธุรกิจรายหนึ่ง แต่ถูกปฏิเสธ แถมยังบังคับให้เธอไปเอาเด็กออก พอเธอไม่ทำตามก็เลยให้แอบ