6.น้อยใจ/ผู้ชายในฝัน
"เธอรู้ไหมว่าวันนี้ฉันหงุดหงิดและอารมณ์เสียมากแค่ไหน คนที่ฉันไว้ใจคิดว่าเขาจะเห็นฉันสำคัญกว่าใครๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นตัวตนของฉันเลย" ฉันมองหน้าเฮียสิงห์และนั่งฟังแบบนิ่งๆ เขาคงอยากระบายความในใจให้ใครสักคนฟังจึงเลือกมาที่แบบนี้ " แต่เธอก็เข้ามาในช่วงที่ฉันต้องการใครสักคนแก้เหงาพอดี " พอฟังคำของเฮียสิงห์จบฉันก็พอเข้าใจความหมายของเฮียสิงห์แล้ว "ฟ้าอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ค่ะ อยู่ได้จนถึงเวลาเลิกงานเลยค่ะ" "ฉันไม่ได้ต้องการแค่นี้ ฉันอยากได้ทั้งคืน เธอจะว่ายังไง " "ค่ะ หมายความว่ายังไงคะ " ฉันยังคงไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดที่เขาสื่อบอกฉัน เพราะฉันไม่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันจะตกลงกันง่ายๆ แบบนี้ "วันนี้ฉันขอซื้อเวลาเธอทั้งวันทั้งคืนเลยได้ไหม " "อยากให้ไปอยู่เป็นเพื่อนเหรอคะ ฟ้าไม่เข้าใจค่ะ " "ถามจริงไม่เคยหรือแค่แสดงเพื่อโก่งค่าตัวกันแน่ " " เฮียสิงห์ค่ะ อย่าดูถูกผู้หญิงสิคะ ผู้หญิงบางคนเขาก็อยากเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่เขารักในคืนเข้าห้องหอค่ะ " ฉันอดที่จะตำหนิเฮียสิงห์ไม่ได้ เลยพูดออกไปแบบนั้น พอคิดได้ก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ แต่มันคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกเพราะมันออกจากปากฉันไปแล้ว แต่แทนที่เฮียสิงห์จะโกรธเคืองฉันเขากลับยิงคำถามออกมาแทน "แล้วเธอละ เธออยากเก็บไว้ให้ใคร " ฉันต้องอึ้งกับคำถามคำนี้ของเขา ทำไมนะผู้ชายที่ฉันหลงรักถึงได้ดูถูกกันขนาดนี้ " ฟ้าว่า ฟ้าขอตัวดีกว่าค่ะ เราคงพูดกันไม่รู้เรื่อง" พอฉันทำท่าจะลงจากตักมือหนาก็รั้งฉันไว้แน่นอีกครั้ง " ถ้าเธอไม่ยอมตกลงดีๆ ฉันจะใช้กำลังแล้วน่ะ ฉันไม่ได้เป็นคนใจดีเหมือนหน้าตาหรอกน่ะ " โอ๊ย ดูเขาพูดสิ แบบนี้เขาเรียกข่มขู่กันชัดๆ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายในฝันจะด่าให้เข็ดเลย ผู้ชายอะไรเอาแต่ใจไร้เหตุผลที่สุด "คือจะเอาความบริสุทธิ์ของฟ้าเป็นของขวัญวันเกิดเหรอคะ " "อืม " คำตอบในลำคอสั้นๆ ทำตัวฉันเย็นยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ "ทะ ทำไมต้องเป็นฟ้าละค่ะ ผู้หญิงบริสุทธิ์ที่เขาพร้อมขายให้เฮียน่าจะมีเยอะอยู่ค่ะ " พอฉันพูดจบเฮียสิงห์ก็จ้องฉันเขม็ง แล้วเขาก็เอื้อมมือไปหยิบแก้วไวน์กับขวดไวน์มารินเองโดยไม่ยอมปล่อยให้ฉันลงจากตัก "ถึงขั้นรินไวน์กินเอง " ฉันบ่นพึมพำให้เขาได้ยิน แต่เฮียสิงห์กลับไม่แยแสต่อคำพูดของฉันสักนิด "เฮ้อ" ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะรู้สึกเมื่อยและอึดอัดที่ต้องนั่งอยู่ท่านี่ตลอดเวลา " ทำไม? ฉันมันน่ารังเกียจมากนักหรือไง " "ไม่ใช่ค่ะหนูเมื่อยค่ะ " "อ๋อ อยากเปลี่ยนท่า แล้วก็ไม่บอกดีๆ " พอได้ยินแบบนั้น ฉันก็ฉีกยิ้มกว้างเพราะอยากไปนั่งบนโซฟามากกว่าแต่ก็ต้องหุบยิ้มทันที เมื่อนึกถึงคำบางคำ "อยากเปลี่ยนท่า " บ้าเหรอทำไมถึงได้ลามกนักนะ แบบนี้ถ้าได้อยู่ด้วยบ่อยๆ คงจะประสาทกินกันพอดี "ทำไมชอบพูดจากำกวมแบบนี้ค่ะ" "เธอรู้ไหมว่าฉันไม่ได้เป็นแบบนี้บ่อยๆ อย่าขัดฉันนักเลยน่า" "มาเป็นแฟนกันสิคะ อยากให้ทำอะไรจะทำให้ทั้งหมด " ฉันได้โอกาสหยอด ก็เลยลองพูดดูทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นใคร ตัวเองเป็นใคร ก็อดไม่ได้ที่จะเต๊าะคนตรงหน้า พูดออกไปเฉยๆ ไม่ได้หวังคำตอบที่สวยหรูเพราะรู้ดีว่าไม่มีทางเป็นไปได้เลยสักนิด "ฉันยังไม่อยากมีพันธะ " "ไม่อยากมีพันธะหรือมีแฟนอยู่แล้วกันแน่คะ เฮียก็รอคนรักของเฮียเถอะ นี่ก็ใกล้เวลาเลิกงานแล้ว ฟ้าคงต้องขอตัวไปทำงานที่ชั้นล่างแล้วค่ะ " ฉันเองที่รีบตัดบทสนทนาไม่ได้กลัวคำตอบ แค่ไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเอง เพราะในใจของฉันรู้ดีว่านี้คือการแสดง เหมือนเขาเหงา แล้วฉันก็อยู่เป็นเพื่อน คอยรับฟังปัญหา คนเราพอได้พูดสิ่งอัดอั้นในใจก็จะทำให้รู้สึกดีขึ้น นี่ก็เหมือนกันคงจะรักคุณพิต้ามากสินะ กะจะฉลองวันเกิดด้วยกันสองคน แต่อีกคนกลับเลือกงานมากกว่าตัวเอง ก็เลยมาหาที่ระบายอารมณ์ ก๊อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันต้องสะดุ้ง ลืมไปเลยว่าที่นี่ยังมีใครอีกตั้งหลายคน ฉันพยายามจะลุกออกตอนนี้ฉันนั่งบนตักเฮียสิงห์ก็จริง แต่หันหน้าไปทางเดียวกันแล้ว โดยที่เฮียสิงห์เป็นยกตัวฉันให้หันหลังให้เขา แต่แขนแกร่งข้างหนึ่งยังโอบเอวบางของฉันไว้แน่น " มีอะไร?" เสียงเข้มดุดันถามกลับคนที่เคาะประตูห้อง " คุณหนึ่งมาขอพบครับนาย " พอได้ยินคำตอบก็ทำให้ฉันรีบดีดตัวลงจากตักของเฮียสิงห์ทันที "กลัวไอ้หนึ่งเห็น " เฮียสิงห์เลิกคิ้วหนาถามฉันด้วยอารณ์หงุดหงิด "ค่ะ กลัวตกงานค่ะ ฟ้าต้องทำงานด้วยเรียนด้วยค่ะ ไม่อยากให้เจ้านายมองไม่ดีค่ะ" ที่จริงแล้วผู้จัดการให้ฉันมาดูแลแขกวีไอพีก็จริง แต่พี่บอยบอกว่าถ้าโดนคุกคามให้ลงไปข้างล่างได้เลย แต่พอเป็นเฮียสิงห์ ฉันจึงยังอยู่ตรงนี้ พอได้ยินแบบนั้นเฮียสิงห์ก็นิ่งไม่บังคับให้ฉันต้องไปนั่งตักเขาอีกแล้ว แต่กลับใช้ให้รินไวน์ให้เขาแทน "รินไวน์สิ" ฉันรีบจัดการทำตามที่เฮียสิงห์บอกทันที "ให้หนึ่งเข้ามา " เฮียสิงห์บอกการ์ดหน้าห้องเสียงเข้ม ~แกร๊ก~ " ขออนุญาตครับเฮียสิงห์" "เข้ามาสิหนึ่ง" "พอดีเด็กประจำของเฮียว่างแล้ว ผมจะเอามาเปลี่ยนให้ครับ" "ไม่ต้อง คนนี้ก็ดีแล้ว " เฮียสิงห์ตอบหน้าตาเฉย "เดี๋ยวก็เลิกงานแล้วไม่ใช่เหรอ ไปพักเลยก็ได้ " เฮียสิงห์หันมาพูดกับฉัน " ค่ะ " ฉันมองหน้าเฮียสิงห์แวบหนึ่งแล้วหันไปมองเฮียหนึ่งอีกคน เฮียหนึ่งพยักหน้าให้ฉัน " เฮียสิงห์อนุญาตแล้วไปพักเถอะปลายฟ้า " เฮียหนึ่งย้ำให้ฉันเข้าใจอีกครั้ง เฮียหนึ่งคงเห็นว่าฉันยังลังเลอยู่ พอเฮียสิงห์อนุญาตและเฮียหนึ่งช่วยย้ำขนาดนั้นแล้ว ฉันก็รีบออกจากห้องนั้นทันที ใจหนึ่งก็นึกเสียดาย ใจหนึ่งก็บอกตัวเองว่าแค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว " ยิ้มอะไร" ระหว่างที่ฉันกำลังเดินลงมาที่ชั้นล่าง ข้าวหอมก็ทักฉันขึ้น "อ้าว! มาแล้วเหรอ" "มาแล้ว ว่าแต่ยิ้มอะไร " " เธอจำเรื่องผู้ชายในฝันของฉันได้ไหม" " ทำไมเจอเขาที่นี่ " "ใช่" ฉันตอบกลับทันควัน " เฮ้ย!! จริงดิ " ข้าวหอมเธอตกใจเสียงดัง แต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใครหรอก เสียงเพลงในผับดังยิ่งกว่าอะไร "อย่าบอกน่ะว่าเฮียสิงห์ " ข้าวหอมเธอตะโกนแข่งกับเสียงดนตรี ฉันทำได้แต่พยักหน้าหงึกๆ หงัก ๆ แล้วข้าวหอมเธอก็ลากฉันไปทางเดินไปห้องน้ำ เพราะตรงนี้จะเงียบที่สุดในร้าน " เฮียสิงห์โคตรเจ้าชู้เลยนะฟ้า " "ฉันแค่มีเขาเป็นผู้ชายในฝัน ไม่ได้จะเอาเขามาทำผัวสักหน่อย " "เอ่อ งั้นแล้วไป ผู้ชายอย่างเฮียสิงห์ใครได้เป็นผัว ช้ำใจไปตลอดชีวิต บอกเลย เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยมาก" ข้าวหอมเธอพูดแบบลากเสียงยาวตรงคำว่ามาก จนฉันอดขำไม่ได้ " ฮ่าๆ ขำแกวะ ฉันกับเขามันคนละชั้นกัน ฉันรู้ตัวดีและคงไม่มีวันได้เจอกันอีกหรอก เพราะต่อไปนี้ฉันจะไม่รับงานดูแลแขกวีไอพีอีกแล้ว" เรื่องนี้ฉันพูดจริง โชคดีที่วันนี้เป็นเฮียสิงห์ เป็นคนที่ฉันมีใจอยู่แล้วอะไรๆก็เลยดูง่าย แล้วถ้าวันนี้ไม่ใช่เฮียสิงห์ฉันก็คงเสียใจไปอีกนาน ถ้าแขกวีไอพีจ้องแต่จะเคล้มพนักงานดูแลแบบนี้ อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะได้เลิกงานแล้ว เพราะผับปิดแล้ว แต่พนักงานยังต้องจัดระเบียบโต๊ะเก้าอี้ เก็บกวาดขยะให้เรียบร้อยก่อนและประชุมกันนิดหน่อย ถึงจะกลับได้ การเดินทางกลับบ้านของฉัน ฉันมีมอเตอร์ไซค์ออโตเมติก อยู่คันหนึ่ง แม่ฉันออกให้ฉันด้วยเงินสดเป็นของขวัญที่ฉันสอบเข้ามหาลัยได้ และไว้ใช้ขับไปมหาลัยและตอนนี้ฉันก็ได้ไว้ใช้ขับมาทำงานหารายได้พิเศษ โดยที่ไม่ต้องขึ้นรถเมล์ เพราะการเดินทางกลางคืนมันอันตราย บางครั้งเลิกงานไม่ตรงเวลาก็อาจทำให้ออกมาไม่ทันรถเมล์ได้ อีกไม่กี่เมตรจะถึงห้องพักของฉันแล้ว อยู่ๆ รถฉันก็ส่ายสะบัดจนรถเกือบล้ม แต่ฉันประคองรถไว้ได้ และพอได้สังเกตรถดีๆ ก็ได้เห็นว่ารถฉันถูกตะปูปักยางจนทะลุไปอีกฟากของยางนอก ดีแต่เกือบถึงห้องพักแล้ว เดินอีกสิบยี่สิบก้าวก็ถึงแล้ว ฉันตัดสินใจเข็นรถแทนการขี่ พอเข้ามาจอดรถเรียบร้อย ฉันก็เตรียมเข้าห้อง แต่รู้สึกมีเงาคนเดินตามหลังฉันมา ฉันเลยหันไปดูทันที เฮ้ย! /เฮ้ย! ต่างคนต่างตกใจใส่กัน 👉ฝากกดใจ+คอมเมนต์ เพิ่มเข้าชั้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ❤️"มาทำอะไรที่นี่คะ "ฉันทั้งตกใจและแปลกใจในคราเดียว แต่ก็อดเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เขาตามฉันมาเหรอหรือฉันคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแต่คนตรงหน้ากลับไม่ยอมตอบคำถามฉัน ได้แต่ยืนพิงเสาแล้วจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา"มีอะไรหรือเปล่าคะ""แค่อยากมาส่ง "เป็นคำพูดที่ทำให้ใจฉันเต้นรัวได้ดีทีเดียว แต่ก็นั่นแหละมันยิ่งทำฉันแปลกใจมากกว่าเดิมเสียอีก แต่ก็ต้องตัดใจขอตัวขึ้นห้อง เพราะไม่อยากให้เขามองฉันไม่ดี"ขอบคุณมากค่ะ งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะคะ "ถึงแม้จะรู้สึกดีมากแค่ไหนที่เห็นเขาอยู่ตรงนี้ ฉันก็ไม่อยากให้เฮียสิงห์รู้ความในใจของฉันหรอกยิ่งเห็นเขามายืนอยู่ตรงนี้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว กลัวใจตัวเองจะเผลอไผลไปกับเขามากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนระดับเขาไม่มาสนใจผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบฉันหรอกฉันอยากมีเขาอยู่ในฝันมากกว่าความจริง เพราะในฝันฉันจะทำอย่างไรก็ได้แต่ชีวิตจริงฉันต้องอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากๆ เท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลังฉันก้าวเดินขึ้นไปบนห้องพัก ฉันพักอยู่ชั้นสอง หอพักแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น ที่นี่ไม่ได้มีระบบความปลอดภัยอะไรหรอก เพราะเป
" ชนแก้ว "เสียงทุ้มของเฮียสิงห์พูดขึ้นชวนให้ฉันชนแก้วกับเขา นี่เป็นแก้วที่สามแล้ว ฉันก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว จากตอนแรกบอกจะดื่มแค่แก้วเดียว แต่พอหมดแก้วแรกเฮียสิงห์ก็เริ่มพูดเสียงเศร้าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่าไม่มีใครสนใจไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เขาเลย เขาขอดื่มอีกแก้ว เฮียสิงห์พูดจาออดอ้อนฉัน จนฉันใจอ่อนไม่ให้ฉันใจอ่อนได้ไง เฮียสิงห์เวลาเมาอ้อนเก่งมากขอบอก ตอนนี้เราสองคนต่างคนต่างเมาพูดเสียงยานใส่กัน ลิ้นก็พันกันฟังแทบไม่รู้เรื่องกันอยู่แล้ว เฮียสิงห์เขาดื่มตั้งแต่ที่ผับหมดไปขวดหนึ่งแล้ว แต่ฉันเพิ่งดื่มได้สองแก้วเข้าแก้วที่สามก็เริ่มมีอาการโลกหมุนแล้ว"หมดแก้วนี้เฮียกลับเลยนะคะ ฟ้าไม่ไหวแล้ว "" ไล่เฮียเหรอ " เฮียสิงห์ตีหน้าเศร้าอีกแล้ว ฉันต้องยอมใจอ่อนให้เขาอีกแล้วเหรอ ไม่ ไม่ได้ ฉันจะตามใจเขามากเกินไปแล้วเมื่อนึกได้แบบนั้นฉันจึงลุกขึ้นแล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าของเฮียสิงห์ เฮียสิงห์ช้อนสายตาขึ้นมองหน้าฉัน แล้วเลิกคิ้วเป็นการตั้งคำถาม" เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าไม่ได้อยากให้เฮียสิงห์กลับสักนิด แต่มันดึกมากแล้ว วันนี้ฟ้าเหนื่อยมาทั้งวันเลยค่ะ ฟ้าอยากพักแล้ว "ฉันกลั้นใจลุกขึ้นทั้งๆ ที่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนโ
ความเจ็บปวดเรียกสติฉันกลับมาได้ แต่มันก็สายไปแล้ว ฉันไม่น่าไว้ใจให้น้ำมันอยู่ใกล้ไฟแบบนี้เลย ตอนนี้ฉันพยายามถอยหนี เพราะการฉีกขาดของเหยื่อบริสุทธิ์ ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบๆ " อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ซี๊ดด... " เฮียสิงห์พูดเสียงกระเส่าเขาคงรู้สึกถึงความคับแน่นของฉันที่อ้ารัดลำยักษ์ของเขาไว้แน่น ตอนแรกเฮียสิงห์เหมือนจะเมามากจนแทบนั่งไม่อยู่ แต่ตอนนี้ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งแววตาที่เร่าร้อนส่งมาที่ฉันนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แล้วเขาก็ค่อยขยับบั้นเอวช้าๆ เนิบๆ เหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ "ฮื้อ เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าเจ็บค่ะ " น้ำตาของฉันไหลอาบสองแก้มถึงแม้เฮียสิงห์จะพยายามทำเบาแค่ไหนก็ไม่สามารถลดความเจ็บแปลบลงได้เลย "อย่าเกร็งนะครับคนดี มันจะเจ็บแค่ครั้งแรก " เฮียสิงห์ก้มลงจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการปลอบขวัญ จมูกโด่งคมสันค่อยๆ ไล้ลงมาที่แก้มของฉัน ริมฝีปากหนาจูบสับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน มือหนาเลื่อนมาประคองแก้มงามของฉัน สายตาหวานเยิ้มจ้องที่ดวงตาฉันไม่ยอมละสายตาไปไหน จนเป็นฉันเองที่ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย "เอาจริงแล้วน่ะ " เสียงแ
จากเหตุการณ์วันนั้น ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ร่างกายของฉันกลับมาปกติแล้วและเหตุการณ์ระหว่างฉันกับเฮียสิงห์ ฉันไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้แต่ข้าวหอมเพื่อนสนิทของฉันตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่สวนหน้าคณะ เพื่อรอเรียนวิชาต่อไป ฉันกำลังงวนกับงานที่อาจารย์สั่ง เพราะอยากทำให้เสร็จก่อนวันที่อาจารย์นัด เพราะฉันจะไม่มีเวลาทำงานส่งอาจารย์ถ้าไม่ใช่เวลาที่มาเรียนเพราะฉันยังคงทำงานที่ผับของเฮียหนึ่งเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าฉันจะได้เช็คเงินสดจากเฮียสิงห์มาหนึ่งล้านบาทก็ตามฉันคิดไว้ว่าจะเอาไปคืนเขา แต่ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเฮียสิงห์ตอนนี้ เลยจำใจต้องเก็บไว้ก่อนฉันพยายามคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเฮียสิงห์เป็นสิ่งสวยงามสำหรับฉันฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองไปมากกว่านี้ ที่กล้าทำเรื่องน่าอายแบบนั้นลงไป"ฟ้า.. เฮียสิงห์นี่น่ารักเนาะ"ข้าวหอมถามฉันขึ้นในระหว่างที่ฉันกำลังตั้งใจทำงานส่งอาจารย์ ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าข้าวหอมพร้อมขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ข้าวหอมจึงถามฉันแบบนั้น"มีอะไร "ฉันถามข้าวหอมเสียงเรียบเพราะยังไม่รู้ว่าทำไมข้าวหอมถึงได้เอ่ยถึงเฮียสิงห์"ก็นี่ไง เฮียสิงห์เขาพาคุณพิต้าไปดิ
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ มองไปทางไหนก็มีแต่ดอกกุหลาบ คู่รักต่างเดินจูงมือกันแน่น บ้างก็หยอกล้อกัน แววตาที่พวกเขามองกันมีแต่ความห่วงใยในมือของฉันมีดอกกุหลาบสีแดงอยู่ดอกหนึ่ง ไม่มีใครให้ฉันหรอกพอดีเดินผ่านร้านขายดอกไม้ตามทางก็เลยซื้อติดมือมาดอกหนึ่งฉันมานั่งรอแม่ที่กำลังจะเลิกงานอยู่ที่บริษัทรถหรูชั้นนำของประเทศแห่งหนึ่งฉันต้องมารอแม่ตรงนี้บ่อยๆ แต่มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเบื่อเลย เพราะฉันมีเป้าหมายบางอย่างคงหนีไม่พ้นเรื่องผู้ชาย ส่วนมากฉันได้เห็นเขาแค่ไกลๆ เท่านั้น ใจฉันมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย ฉันไม่ได้หวังให้เขามากรักมาสนใจฉันฉันขอแค่ได้เห็นหน้าเขา เพื่อเป็นพลังใจในการใช้ชีวิตก็เท่านั้นวันนี้แม่บอกว่าอยากจะพาฉันไปซื้อของอร่อยกินกัน คงอยากให้ฉันเห็นความดีงามของแฟนใหม่มั้งใช่ค่ะ แม่ฉันกำลังมีความรักครั้งใหม่ ผู้ชายคนใหม่ของแม่ก็ดูเหมือนดูแลแม่ดีอยู่เหมือนกันนะแต่ก็ต้องดูกันยาวๆ ความรักไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ขนาดพ่อกับแม่ที่อยู่กันมาตั้งหลายปี ก็ยังมีคนมาแย่งความรักไปได้เลยพ่อทิ้งฉันกับแม่ไปปีกว่าแล้ว เขามีครอบครัวใหม่ กับลูกคนใหม่ที่รู้จักออดอ้อนพ่อของฉัน จนฉันกลายเป็นหมาหัว
ปลายฟ้าเธอเรียนอยู่คณะบัญชี เพราะเธอคิดว่าน่าจะเป็นสาขาที่หางานง่ายที่สุดแล้ว แต่ก่อนจะเรียนจบได้งานดีๆ ทำนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอตอนนี้ฉันต้องหาเงินเพื่อไว้ใช้จ่ายประจำวันก่อนที่จะเรียนจบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหางานดีๆ ทำสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งแต่ฉันได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นเพื่อนใหม่ เจอกันที่มหาลัยนี้เอง เธอชื่อว่าข้าวหอม ข้าวหอมเธอรู้จักกับเจ้าของผับคนหนึ่ง เธอบอกว่าเขาใจดีมาก เธอก็ทำงานที่นั่นเป็นการหารายได้เสริม เพราะเธออยู่กับยายที่อายุมากแล้ว และยายก็ป่วยบ่อยๆเฮียเจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับพี่ชายของข้าวหอม แต่พี่ชายเธอได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้วข้าวหอมเธอจึงต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง จริงๆ แล้วเฮียหนึ่งเพื่อนพี่ชายเธอก็ให้เงินเธอเป็นรายเดือนอยู่แล้ว แต่ข้าวหอมเธอเกรงใจจึงอาสามาช่วยเขาทำงานที่ผับฉันเลยตัดสินใจมาสมัครเป็นเด็กเสิร์ฟของผับของเฮียหนึ่ง เงินเดือนก็พอได้ใช้ชีวิตอยู่ได้ ถ้าฉันประหยัดเงินได้มากพอ เพียงแต่เวลานอนของฉันมันน้อยกว่าใครเท่านั้นเอง และนั่นไม่ใช่ปัญหาฉันทนได้ปัญหาของฉันคือฉันต้องทำงานเก็บเงินหาค่าเทอมด้วยตัวเอง ฉันรู้ซึ้งถึงกา
3.แขกวีไอพีฉันทำงานที่นี่ได้เดือนกว่าแล้ว และวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก เงินเดือนของฉันตรงกับวันที่ห้าของทุกเดือน ฉันดีใจมากเมื่อเห็นยอดเงินในซองสีขาวพร้อมสลิปเงินเดือน นี่เป็นเงินที่ฉันมีมากที่สุดในชีวิต ฉันยิ้มแก้มแทบปริแต่สุดท้ายฉันก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงค่าเช่าห้องที่ฉันค้างไว้สองเดือนแล้ว และค่าเทอมที่ฉันขอผ่อนผันก็ใกล้ถึงวันนัดเข้ามาทุกทีเฮ้อ!!ฉันเผลอถอนหายใจเสียงดังออกมา พอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังจัดร้านอยู่ซึ่งพอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาก็พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากฉัน"ขอโทษค่ะ " ฉันรีบเอ่ยขอโทษทุกคนที่อยู่บริเวณนี้"ขอโทษอะไร ไม่สบายใจอะไรก็พูดมาถ้าเกี่ยวกับงานจะได้เข้าใจกัน "พี่ผู้จัดการร้านพูดขึ้น" ไม่ใช่เรื่องงานค่ะพี่บอย "ฉันตอบกลับไปทันที ไม่อยากให้คนที่ทำงานด้วยกันต้องคิดมาก และทุกคนก็ยิ้มตอบกลับให้ฉันเพราะฉันหันมองสบตากับทุกคนเพราะอยากแสดงความจริงใจ และฉันก็อธิบายต่อถือโอกาสนี้พูดให้ทุกคนเข้าใจ"เรื่องเรียนค่ะฟ้าแค่กังวลเรื่องเรียนค่ะ ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะคะ ทุกคนใจดีกับฟ้า ฟ้าทำงานไม่เป็นก็ช่วยสอนทุกอย่าง ฟ้าทำงานที่นี่มีความสุขมากค่ะ "และทุกคนก็ไม
4.ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอ" ว้าว! สวยมากเลยฟ้า พี่ว่าแล้วว่าฟ้าต้องรอด ไม่สิเราต้องรอด "ที่พี่บอยพูดแบบนี้เพราะแขกวีไอพีคนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ จากที่พนักงานต้อนรับพาไปส่งที่ห้องวีไอพี เขาก็เรียกหาคนดูแลประจำที่เป็นดาวของที่นี่แต่วันนี้แขกวีไอพีประจำอีกคนก็มาและเธอกำลังดูแลแขกคนนั้นอยู่ทำให้แขกวีไอพีที่มาทีหลังปรามาสไว้ว่าถ้าหาได้ไม่สวยเท่าคนเก่าจะไปโวยกับเฮียหนึ่งเจ้าของผับซึ่งวันนี้เฮียหนึ่งก็ยังไม่เข้าร้านโทรติดต่อก็ไม่ได้ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ถ้าเฮียหนึ่งอยู่ปัญหาแค่นี้ก็จิ๊บๆแต่ตอนนี้เขาไม่อยู่ไง เลยต้องส่งหน่วยกล้าตายเข้าไปแทนและก็คือฉันเอง และถ้าเฮียหนึ่งเข้ามาแล้วพี่บอยจะรีบแจ้งให้เฮียหนึ่งเข้าไปหาแขกคนนี้ทันทีฉันที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้ากระจกและพยายามดึงชุดที่สวมใส่อยู่เพื่อมาปิดความใหญ่โตตรงทรวงอกอวบๆ ของฉัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ดึงบนล่างก็เปิด ดึงข้างล่างบนก็เปิด จนฉันต้องถอนหายใจออกมา และเดินออกมาทั้งแบบนั้น เพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องสองศูนย์สี่ เพราะแขกวีไอพีกำลังรออยู่ที่ห้องนี้พอเดินมาถึงที่หน้าห้องสองศูนย์สี่ ก็เจอชายชุดดำยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู"มาดูแลนายใช่ไหมครับ "" เ
จากเหตุการณ์วันนั้น ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ร่างกายของฉันกลับมาปกติแล้วและเหตุการณ์ระหว่างฉันกับเฮียสิงห์ ฉันไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้แต่ข้าวหอมเพื่อนสนิทของฉันตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่สวนหน้าคณะ เพื่อรอเรียนวิชาต่อไป ฉันกำลังงวนกับงานที่อาจารย์สั่ง เพราะอยากทำให้เสร็จก่อนวันที่อาจารย์นัด เพราะฉันจะไม่มีเวลาทำงานส่งอาจารย์ถ้าไม่ใช่เวลาที่มาเรียนเพราะฉันยังคงทำงานที่ผับของเฮียหนึ่งเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าฉันจะได้เช็คเงินสดจากเฮียสิงห์มาหนึ่งล้านบาทก็ตามฉันคิดไว้ว่าจะเอาไปคืนเขา แต่ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเฮียสิงห์ตอนนี้ เลยจำใจต้องเก็บไว้ก่อนฉันพยายามคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเฮียสิงห์เป็นสิ่งสวยงามสำหรับฉันฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองไปมากกว่านี้ ที่กล้าทำเรื่องน่าอายแบบนั้นลงไป"ฟ้า.. เฮียสิงห์นี่น่ารักเนาะ"ข้าวหอมถามฉันขึ้นในระหว่างที่ฉันกำลังตั้งใจทำงานส่งอาจารย์ ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าข้าวหอมพร้อมขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ข้าวหอมจึงถามฉันแบบนั้น"มีอะไร "ฉันถามข้าวหอมเสียงเรียบเพราะยังไม่รู้ว่าทำไมข้าวหอมถึงได้เอ่ยถึงเฮียสิงห์"ก็นี่ไง เฮียสิงห์เขาพาคุณพิต้าไปดิ
ความเจ็บปวดเรียกสติฉันกลับมาได้ แต่มันก็สายไปแล้ว ฉันไม่น่าไว้ใจให้น้ำมันอยู่ใกล้ไฟแบบนี้เลย ตอนนี้ฉันพยายามถอยหนี เพราะการฉีกขาดของเหยื่อบริสุทธิ์ ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบๆ " อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ซี๊ดด... " เฮียสิงห์พูดเสียงกระเส่าเขาคงรู้สึกถึงความคับแน่นของฉันที่อ้ารัดลำยักษ์ของเขาไว้แน่น ตอนแรกเฮียสิงห์เหมือนจะเมามากจนแทบนั่งไม่อยู่ แต่ตอนนี้ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งแววตาที่เร่าร้อนส่งมาที่ฉันนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แล้วเขาก็ค่อยขยับบั้นเอวช้าๆ เนิบๆ เหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ "ฮื้อ เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าเจ็บค่ะ " น้ำตาของฉันไหลอาบสองแก้มถึงแม้เฮียสิงห์จะพยายามทำเบาแค่ไหนก็ไม่สามารถลดความเจ็บแปลบลงได้เลย "อย่าเกร็งนะครับคนดี มันจะเจ็บแค่ครั้งแรก " เฮียสิงห์ก้มลงจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการปลอบขวัญ จมูกโด่งคมสันค่อยๆ ไล้ลงมาที่แก้มของฉัน ริมฝีปากหนาจูบสับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน มือหนาเลื่อนมาประคองแก้มงามของฉัน สายตาหวานเยิ้มจ้องที่ดวงตาฉันไม่ยอมละสายตาไปไหน จนเป็นฉันเองที่ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย "เอาจริงแล้วน่ะ " เสียงแ
" ชนแก้ว "เสียงทุ้มของเฮียสิงห์พูดขึ้นชวนให้ฉันชนแก้วกับเขา นี่เป็นแก้วที่สามแล้ว ฉันก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว จากตอนแรกบอกจะดื่มแค่แก้วเดียว แต่พอหมดแก้วแรกเฮียสิงห์ก็เริ่มพูดเสียงเศร้าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่าไม่มีใครสนใจไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เขาเลย เขาขอดื่มอีกแก้ว เฮียสิงห์พูดจาออดอ้อนฉัน จนฉันใจอ่อนไม่ให้ฉันใจอ่อนได้ไง เฮียสิงห์เวลาเมาอ้อนเก่งมากขอบอก ตอนนี้เราสองคนต่างคนต่างเมาพูดเสียงยานใส่กัน ลิ้นก็พันกันฟังแทบไม่รู้เรื่องกันอยู่แล้ว เฮียสิงห์เขาดื่มตั้งแต่ที่ผับหมดไปขวดหนึ่งแล้ว แต่ฉันเพิ่งดื่มได้สองแก้วเข้าแก้วที่สามก็เริ่มมีอาการโลกหมุนแล้ว"หมดแก้วนี้เฮียกลับเลยนะคะ ฟ้าไม่ไหวแล้ว "" ไล่เฮียเหรอ " เฮียสิงห์ตีหน้าเศร้าอีกแล้ว ฉันต้องยอมใจอ่อนให้เขาอีกแล้วเหรอ ไม่ ไม่ได้ ฉันจะตามใจเขามากเกินไปแล้วเมื่อนึกได้แบบนั้นฉันจึงลุกขึ้นแล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าของเฮียสิงห์ เฮียสิงห์ช้อนสายตาขึ้นมองหน้าฉัน แล้วเลิกคิ้วเป็นการตั้งคำถาม" เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าไม่ได้อยากให้เฮียสิงห์กลับสักนิด แต่มันดึกมากแล้ว วันนี้ฟ้าเหนื่อยมาทั้งวันเลยค่ะ ฟ้าอยากพักแล้ว "ฉันกลั้นใจลุกขึ้นทั้งๆ ที่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนโ
"มาทำอะไรที่นี่คะ "ฉันทั้งตกใจและแปลกใจในคราเดียว แต่ก็อดเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เขาตามฉันมาเหรอหรือฉันคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแต่คนตรงหน้ากลับไม่ยอมตอบคำถามฉัน ได้แต่ยืนพิงเสาแล้วจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา"มีอะไรหรือเปล่าคะ""แค่อยากมาส่ง "เป็นคำพูดที่ทำให้ใจฉันเต้นรัวได้ดีทีเดียว แต่ก็นั่นแหละมันยิ่งทำฉันแปลกใจมากกว่าเดิมเสียอีก แต่ก็ต้องตัดใจขอตัวขึ้นห้อง เพราะไม่อยากให้เขามองฉันไม่ดี"ขอบคุณมากค่ะ งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะคะ "ถึงแม้จะรู้สึกดีมากแค่ไหนที่เห็นเขาอยู่ตรงนี้ ฉันก็ไม่อยากให้เฮียสิงห์รู้ความในใจของฉันหรอกยิ่งเห็นเขามายืนอยู่ตรงนี้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว กลัวใจตัวเองจะเผลอไผลไปกับเขามากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนระดับเขาไม่มาสนใจผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบฉันหรอกฉันอยากมีเขาอยู่ในฝันมากกว่าความจริง เพราะในฝันฉันจะทำอย่างไรก็ได้แต่ชีวิตจริงฉันต้องอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากๆ เท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลังฉันก้าวเดินขึ้นไปบนห้องพัก ฉันพักอยู่ชั้นสอง หอพักแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น ที่นี่ไม่ได้มีระบบความปลอดภัยอะไรหรอก เพราะเป
6.น้อยใจ/ผู้ชายในฝัน"เธอรู้ไหมว่าวันนี้ฉันหงุดหงิดและอารมณ์เสียมากแค่ไหน คนที่ฉันไว้ใจคิดว่าเขาจะเห็นฉันสำคัญกว่าใครๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นตัวตนของฉันเลย"ฉันมองหน้าเฮียสิงห์และนั่งฟังแบบนิ่งๆ เขาคงอยากระบายความในใจให้ใครสักคนฟังจึงเลือกมาที่แบบนี้ " แต่เธอก็เข้ามาในช่วงที่ฉันต้องการใครสักคนแก้เหงาพอดี " พอฟังคำของเฮียสิงห์จบฉันก็พอเข้าใจความหมายของเฮียสิงห์แล้ว "ฟ้าอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ค่ะ อยู่ได้จนถึงเวลาเลิกงานเลยค่ะ""ฉันไม่ได้ต้องการแค่นี้ ฉันอยากได้ทั้งคืน เธอจะว่ายังไง ""ค่ะ หมายความว่ายังไงคะ "ฉันยังคงไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดที่เขาสื่อบอกฉัน เพราะฉันไม่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันจะตกลงกันง่ายๆ แบบนี้"วันนี้ฉันขอซื้อเวลาเธอทั้งวันทั้งคืนเลยได้ไหม ""อยากให้ไปอยู่เป็นเพื่อนเหรอคะ ฟ้าไม่เข้าใจค่ะ " "ถามจริงไม่เคยหรือแค่แสดงเพื่อโก่งค่าตัวกันแน่ "" เฮียสิงห์ค่ะ อย่าดูถูกผู้หญิงสิคะ ผู้หญิงบางคนเขาก็อยากเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่เขารักในคืนเข้าห้องหอค่ะ "ฉันอดที่จะตำหนิเฮียสิงห์ไม่ได้ เลยพูดออกไปแบบนั้น พอคิดได้ก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ แต่มันคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกเพราะมันออกจากปา
จากที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองมาพักใหญ่ ตอนนี้คนตัวโตเริ่มมีอาการเมาแล้วด้วย เพราะฉันไม่รู้จะทำอะไรพอเห็นแก้วว่างก็หยิบขึ้นมารินท่าเดียวจนตอนนี้เกือบหมดขวดแล้ว ไม่ให้เขาเมาได้ยังไงกินคนเดียวด้วย "จะมอมไวน์ฉันหรือไง เทไวน์ไม่มีป้ายหยุดขนาดนี้ " คนตัวโตเริ่มพูดเสียงยานเพราะดื่มไปมากแล้ว "หนูก็อยากจะมอมให้เมาแหละค่ะ แต่คุณคอแข็งมากเลยนะคะ "พอได้ยินฉันบอกเขาว่าอยากมอมไวน์เขาเท่านั้นแหละ จากที่ดูอ่อนโยนกลายเป็นนั่งตัวตรงและเงียบขรึมทันที พอฉันเห็นเขาทำท่าไม่พอใจก็อดไม่ได้ที่จะเขาไปใกล้ " ขอโทษค่ะ แค่หยอกเล่นค่ะ " "ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอหรือไง " เขาตอบกลับฉันเสียงดุ จนฉันต้องเม้มปากแน่แล้วก้มหน้าลง ฉันคงเล่นเกินไปจริงๆ แหละ เขาเป็นใครฉันเป็นใคร ฉันรู้ตัวดี "ขอโทษอีกครั้งค่ะ" แล้วฉันก็ขยับตัวถอยห่างออกจากเขา ควรระลึกในใจเสมอว่าฉันเป็นใครตื๊ดๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของคนตัวโตดังขึ้น เป็นการโทรมาแบบวิดีโอคอล ที่ฉันรู้ได้เพราะฉันมองที่โทรศัพท์ของเขา และฉันก็เห็นว่ารูปผู้หญิงที่วิดีโอคอลมานั้นเป็นใคร เธอเป็นนางเอกดังระดับแนวหน้าของประเทศ และคงเป็นคนรักของเขาเพราะช่วงหลังมานี้เขา
4.ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอ" ว้าว! สวยมากเลยฟ้า พี่ว่าแล้วว่าฟ้าต้องรอด ไม่สิเราต้องรอด "ที่พี่บอยพูดแบบนี้เพราะแขกวีไอพีคนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ จากที่พนักงานต้อนรับพาไปส่งที่ห้องวีไอพี เขาก็เรียกหาคนดูแลประจำที่เป็นดาวของที่นี่แต่วันนี้แขกวีไอพีประจำอีกคนก็มาและเธอกำลังดูแลแขกคนนั้นอยู่ทำให้แขกวีไอพีที่มาทีหลังปรามาสไว้ว่าถ้าหาได้ไม่สวยเท่าคนเก่าจะไปโวยกับเฮียหนึ่งเจ้าของผับซึ่งวันนี้เฮียหนึ่งก็ยังไม่เข้าร้านโทรติดต่อก็ไม่ได้ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ถ้าเฮียหนึ่งอยู่ปัญหาแค่นี้ก็จิ๊บๆแต่ตอนนี้เขาไม่อยู่ไง เลยต้องส่งหน่วยกล้าตายเข้าไปแทนและก็คือฉันเอง และถ้าเฮียหนึ่งเข้ามาแล้วพี่บอยจะรีบแจ้งให้เฮียหนึ่งเข้าไปหาแขกคนนี้ทันทีฉันที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้ากระจกและพยายามดึงชุดที่สวมใส่อยู่เพื่อมาปิดความใหญ่โตตรงทรวงอกอวบๆ ของฉัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ดึงบนล่างก็เปิด ดึงข้างล่างบนก็เปิด จนฉันต้องถอนหายใจออกมา และเดินออกมาทั้งแบบนั้น เพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องสองศูนย์สี่ เพราะแขกวีไอพีกำลังรออยู่ที่ห้องนี้พอเดินมาถึงที่หน้าห้องสองศูนย์สี่ ก็เจอชายชุดดำยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู"มาดูแลนายใช่ไหมครับ "" เ
3.แขกวีไอพีฉันทำงานที่นี่ได้เดือนกว่าแล้ว และวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก เงินเดือนของฉันตรงกับวันที่ห้าของทุกเดือน ฉันดีใจมากเมื่อเห็นยอดเงินในซองสีขาวพร้อมสลิปเงินเดือน นี่เป็นเงินที่ฉันมีมากที่สุดในชีวิต ฉันยิ้มแก้มแทบปริแต่สุดท้ายฉันก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงค่าเช่าห้องที่ฉันค้างไว้สองเดือนแล้ว และค่าเทอมที่ฉันขอผ่อนผันก็ใกล้ถึงวันนัดเข้ามาทุกทีเฮ้อ!!ฉันเผลอถอนหายใจเสียงดังออกมา พอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังจัดร้านอยู่ซึ่งพอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาก็พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากฉัน"ขอโทษค่ะ " ฉันรีบเอ่ยขอโทษทุกคนที่อยู่บริเวณนี้"ขอโทษอะไร ไม่สบายใจอะไรก็พูดมาถ้าเกี่ยวกับงานจะได้เข้าใจกัน "พี่ผู้จัดการร้านพูดขึ้น" ไม่ใช่เรื่องงานค่ะพี่บอย "ฉันตอบกลับไปทันที ไม่อยากให้คนที่ทำงานด้วยกันต้องคิดมาก และทุกคนก็ยิ้มตอบกลับให้ฉันเพราะฉันหันมองสบตากับทุกคนเพราะอยากแสดงความจริงใจ และฉันก็อธิบายต่อถือโอกาสนี้พูดให้ทุกคนเข้าใจ"เรื่องเรียนค่ะฟ้าแค่กังวลเรื่องเรียนค่ะ ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะคะ ทุกคนใจดีกับฟ้า ฟ้าทำงานไม่เป็นก็ช่วยสอนทุกอย่าง ฟ้าทำงานที่นี่มีความสุขมากค่ะ "และทุกคนก็ไม
ปลายฟ้าเธอเรียนอยู่คณะบัญชี เพราะเธอคิดว่าน่าจะเป็นสาขาที่หางานง่ายที่สุดแล้ว แต่ก่อนจะเรียนจบได้งานดีๆ ทำนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอตอนนี้ฉันต้องหาเงินเพื่อไว้ใช้จ่ายประจำวันก่อนที่จะเรียนจบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหางานดีๆ ทำสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งแต่ฉันได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นเพื่อนใหม่ เจอกันที่มหาลัยนี้เอง เธอชื่อว่าข้าวหอม ข้าวหอมเธอรู้จักกับเจ้าของผับคนหนึ่ง เธอบอกว่าเขาใจดีมาก เธอก็ทำงานที่นั่นเป็นการหารายได้เสริม เพราะเธออยู่กับยายที่อายุมากแล้ว และยายก็ป่วยบ่อยๆเฮียเจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับพี่ชายของข้าวหอม แต่พี่ชายเธอได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้วข้าวหอมเธอจึงต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง จริงๆ แล้วเฮียหนึ่งเพื่อนพี่ชายเธอก็ให้เงินเธอเป็นรายเดือนอยู่แล้ว แต่ข้าวหอมเธอเกรงใจจึงอาสามาช่วยเขาทำงานที่ผับฉันเลยตัดสินใจมาสมัครเป็นเด็กเสิร์ฟของผับของเฮียหนึ่ง เงินเดือนก็พอได้ใช้ชีวิตอยู่ได้ ถ้าฉันประหยัดเงินได้มากพอ เพียงแต่เวลานอนของฉันมันน้อยกว่าใครเท่านั้นเอง และนั่นไม่ใช่ปัญหาฉันทนได้ปัญหาของฉันคือฉันต้องทำงานเก็บเงินหาค่าเทอมด้วยตัวเอง ฉันรู้ซึ้งถึงกา