4.ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอ
" ว้าว! สวยมากเลยฟ้า พี่ว่าแล้วว่าฟ้าต้องรอด ไม่สิเราต้องรอด " ที่พี่บอยพูดแบบนี้เพราะแขกวีไอพีคนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ จากที่พนักงานต้อนรับพาไปส่งที่ห้องวีไอพี เขาก็เรียกหาคนดูแลประจำที่เป็นดาวของที่นี่ แต่วันนี้แขกวีไอพีประจำอีกคนก็มาและเธอกำลังดูแลแขกคนนั้นอยู่ทำให้แขกวีไอพีที่มาทีหลังปรามาสไว้ว่าถ้าหาได้ไม่สวยเท่าคนเก่าจะไปโวยกับเฮียหนึ่งเจ้าของผับ ซึ่งวันนี้เฮียหนึ่งก็ยังไม่เข้าร้านโทรติดต่อก็ไม่ได้ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ถ้าเฮียหนึ่งอยู่ปัญหาแค่นี้ก็จิ๊บๆ แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่ไง เลยต้องส่งหน่วยกล้าตายเข้าไปแทนและก็คือฉันเอง และถ้าเฮียหนึ่งเข้ามาแล้วพี่บอยจะรีบแจ้งให้เฮียหนึ่งเข้าไปหาแขกคนนี้ทันที ฉันที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้ากระจกและพยายามดึงชุดที่สวมใส่อยู่เพื่อมาปิดความใหญ่โตตรงทรวงอกอวบๆ ของฉัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ดึงบนล่างก็เปิด ดึงข้างล่างบนก็เปิด จนฉันต้องถอนหายใจออกมา และเดินออกมาทั้งแบบนั้น เพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องสองศูนย์สี่ เพราะแขกวีไอพีกำลังรออยู่ที่ห้องนี้ พอเดินมาถึงที่หน้าห้องสองศูนย์สี่ ก็เจอชายชุดดำยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู "มาดูแลนายใช่ไหมครับ " " เอ่อ ใช่ค่ะ " เมื่อเห็นหน้าของการ์ดที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ทำให้ฉันใจเต้นรัวแทบระเบิดออกมา ฉันจำได้ว่าเคยเห็นผู้ชายคนนี้ที่โชว์รูมรถหรูที่แม่เคยทำงานอยู่ ถึงแม้ในอกข้างซ้ายของฉันจะมีจังหวะของหัวใจเต้นระบำอยู่อย่างรุนแรงแค่ไหน ฉันก็ต้องข่มความรู้สึกนี้เอาไว้ไม่ให้ออกอาการมากจนเกินไป " ตื่นเต้นเหรอครับ นายแค่อารมณ์เสียนิดหน่อย ตามใจเขาหน่อยก็หายแล้วครับ ไม่ต้องคิดมาก ผู้ชายแพ้มารยาหญิง " การ์ดตัวโตบอกกับฉัน เขาคงไม่อยากให้ฉันกลัวเจ้านายของเขา "ค่ะ " และอีกอย่างเขารู้ได้ยังไงว่าฉันกำลังประหม่า แค่เห็นกันแวบเดียวก็เดาทางฉันได้หมด มิน่าเขาจึงได้อยู่เป็นคนสนิทของผู้ชายที่อยู่ข้างในห้องมาตั้งหลายปี พูดจบเขาก็ยื่นมือไปเปิดประตูให้ฉัน คนรวยนี้ดีจริงๆเลย แค่ได้อยู่ใกล้ความสะดวกสบายก็ส่งมาถึงฉันได้ โดยง่าย ~แกร็ก~ "ขออนุญาตค่ะ" เมื่อประตูถูกเปิด ฉันรีบแทรกตัวเข้าไปข้างในทันที และฉันก็ได้เห็นแผ่นหลังของแขกวีไอพีคนสำคัญที่ทำเอาพนักงานวุ่นวายกันไปหมดเพราะต้องทำตามใจเขาคนเดียว ยังไม่มีเสียงตอบรับจากผู้ชายตรงหน้า เพราะเขากำลังหันหลังคุยโทรศัพท์อยู่ ฉันผู้ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้ หันซ้ายหันขวามองไปทั่วห้อง มาหยุดอยู่ที่ขวดไวน์ที่วางอยู่พร้อมแก้วสองใบ ฉันเดินเข้าไปนั่งลงบนโซฟาหรู ที่พอก้นงอนของฉันได้สัมผัสแค่นั้น ทำไมมันนุ่มขนาดนี้น่ะ เป็นบุญของฉันจริงๆ เลย ฉันจัดการหยิบแก้วไวน์มารินใส่แก้วไวน์ไว้สำหรับแขกวีไอพีคนนี้ เขาคุยโทรศัพท์อีกไม่กี่คำก็วางสาย " ถ้าคุณไม่แคร์ความรู้สึกผมก็อย่าหาว่าผมใจร้ายกับคุณแล้วกัน " นี่เป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่เขาจะวางสาย ฉันไม่ได้ตั้งใจฟังอะไรเลยน่ะ เขาพูดมาซะดังขนาดนั้นใครไม่ได้ยินก็หูหนวกนะซิ แต่ถึงฉันจะได้ยินอะไรก็ไม่สำคัญเท่า แขกวีไอพีที่เรื่องมากคนนี้เขาคือ ผู้ชายในฝันของฉันเอง ฉันจำเขาได้ตั้งแต่เห็นแผ่นหลังและไหล่กว้างนั้นแล้ว ไม่สิตั้งแต่การ์ดหน้าห้องแล้ว แต่ไม่คิดว่าคนข้างในจะใช่เขาจริงๆ เมื่อวางสายจากคนปลายสายเขาก็เดินมานั่งที่โซฟาแต่เป็นคนละตัวกับฉัน " สวัสดีค่ะ หนูชื่อปลายฟ้าค่ะ " เมื่อคนตัวโตมานั่งลงที่โซฟา ฉันรีบแนะนำตัวเพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนอย่างน้อยเขาก็ควรจะรู้จักชื่อฉัน อย่างน้อยครั้งหนึ่งเขาและฉันเคยได้พูดคุยกัน "อืม" เขาตอบกลับมาด้วยเสียงในลำคอ เหมือนไม่อยากจะพูดกับฉันอย่างไรย่างนั้น ในใจลึกๆ รู้สึกน้อยใจนะ แต่ฉันก็ต้องได้เรียกสติของตัวเองกลับมา ฉันเป็นแค่ผู้หญิงที่มาทำงานแลกกับเศษเงินเล็กน้อยๆ ของพวกคนรวย อย่าบังอาจคิดจะเอื้อมมือคว้า เพราะถึงแม้จะคว้ามาได้ ขวากหนามที่พวกเขามีอยู่อาจจะทิ่มแทงมือจนทะลุถึงหัวใจก็เป็นได้ ฉันก้มหน้ายกยิ้มที่มุมปากทั้งสองข้าง วันนี้อาจเป็นโอกาสเดียวที่ฉันจะได้อยู่กับผู้ชายในฝัน ฉันขอหยุดเวลาตรงนี้ไว้ให้นานที่สุด สมมุติว่าห้องนี้คือโลกใบหนึ่งที่มีเพียงฉันและเขาเท่านั้น "ไวน์ค่ะ " เมื่อไม่มีคำพูดใดออกมาจากปากมาเฟียหนุ่มผู้เงียบขรึมฉันจึงยื่นไวน์ที่เทไว้ให้กับเขาเพื่อทำลายบรรยากาศที่เงียบเสียจนได้ยินลมหายใจของกันและกัน " ขอบใจ " และแล้วฉันก็ทำสำเร็จ เขายอมเปิดปากพูดกับฉันแล้ว ทำให้ฉันหลุดยิ้มหวานมองไปที่เขา แค่นี้เขาก็โคตรน่ารักแล้ว หัวใจของฉันเริ่มเต้นระส่ำมากขึ้นกว่าเดิมจากที่เคยข่มไว้จนนิ่งแล้วตอนที่เขาหันหลังให้ แต่ตอนนี้มันเต้นแรงอีกแล้ว ฉันจะเก็บความประหม่านี้ด้วยวิธีไหนดี พอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ตัวเองเผลอทำตัวเป็นคนคลั่งอะไรบางอย่างให้เขาเห็น จึงนั่งหลังตรงยืดตัวแล้วหุบยิ้ม มองเขาว่าเขาจะว่าอะไรยังไง และฉันก็ได้เห็นว่าเขากำลังจ้องมาที่ฉันอยู่ แต่เขาไม่ได้มองที่หน้าของฉันหรอกน่ะ ที่เขามองคือเนื้อเนินอกอวบ ที่ถูดันขึ้นให้ล้นขึ้นมา เพราะชุดที่ฉันใส่มันเป็นเดรสเกาะอกซึ่งมันเป็นผ้ายืด มันรัดทุกสัดส่วน และแน่นอนเนินอกก็โผล่ออกมาซะขนาดนั้นจะไม่ให้เขามองได้ยังไง òu ฉันมองที่ใบหน้าหล่อของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ เขาหล่อมากจริงๆ ด้วย แต่ก่อนฉันเห็นหน้าหล่อของเขาใกล้ๆ ไม่บ่อยนัก ส่วนมากจะเห็นแต่แต่ไกลๆ ซึ่งก็คิดว่าหล่อแล้วแต่นี่ ห่างกันไม่ถึงเมตร ทำไมเขาหล่อเป็นบ้าเลย ฉันกำมือตัวเองจนเปียกชุ่ม ความตื่นเต้นทำให้ฉันไม่สามารถควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจได้ แล้วอยู่ๆ คนตัวโตก็เงยหน้าขึ้น "มาใหม่เหรอ เพิ่งเคยเห็น " "ค่ะ " ฉันตอบกลับสั้นๆ พอได้คำตอบจากฉัน เขาก็ยกไวน์ขึ้นดื่มจนหมดแก้วในรวดเดียว แล้วยื่นแก้วไวน์มาทางฉัน ฉันรีบยื่นมือไปรับแก้วไวน์นั้นทันที ด้วยความรีบร้อนทำให้นิ้วของเราสัมผัสกัน ฉันรีบดึงมือออกแล้วหันไปเทไวน์ใส่แก้ว " กลัวอะไร ขนาดนั้น ฉันไม่กัดหรอก" อื้อ มันจั๊กจี้ที่หูเป็นบ้า เขาหยอกเย้าฉันด้วย ฉันคิดว่าเขาจะเคร่งขรึมเป็นอย่างเดียวเสียอีก คำพูดของเขาทำให้ฉันใจกล้ายิ้มหวานกลับให้เขา "เปล่ากลัวค่ะ แค่ไม่รู้จะทำตัวอย่างไงคะ " ใช่ฉันไม่กลัวเขาหรอก เพราะฉันรักเขา แต่จะบอกได้ยังไง เขาไม่สนใจเด็กผู้หญิงทำงานกลางคืนแบบฉันหรอก แต่วันนี้ขอน่ะ ขอมีความสุขจอมปลอมสักวันจากที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองมาพักใหญ่ ตอนนี้คนตัวโตเริ่มมีอาการเมาแล้วด้วย เพราะฉันไม่รู้จะทำอะไรพอเห็นแก้วว่างก็หยิบขึ้นมารินท่าเดียวจนตอนนี้เกือบหมดขวดแล้ว ไม่ให้เขาเมาได้ยังไงกินคนเดียวด้วย "จะมอมไวน์ฉันหรือไง เทไวน์ไม่มีป้ายหยุดขนาดนี้ " คนตัวโตเริ่มพูดเสียงยานเพราะดื่มไปมากแล้ว "หนูก็อยากจะมอมให้เมาแหละค่ะ แต่คุณคอแข็งมากเลยนะคะ "พอได้ยินฉันบอกเขาว่าอยากมอมไวน์เขาเท่านั้นแหละ จากที่ดูอ่อนโยนกลายเป็นนั่งตัวตรงและเงียบขรึมทันที พอฉันเห็นเขาทำท่าไม่พอใจก็อดไม่ได้ที่จะเขาไปใกล้ " ขอโทษค่ะ แค่หยอกเล่นค่ะ " "ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอหรือไง " เขาตอบกลับฉันเสียงดุ จนฉันต้องเม้มปากแน่แล้วก้มหน้าลง ฉันคงเล่นเกินไปจริงๆ แหละ เขาเป็นใครฉันเป็นใคร ฉันรู้ตัวดี "ขอโทษอีกครั้งค่ะ" แล้วฉันก็ขยับตัวถอยห่างออกจากเขา ควรระลึกในใจเสมอว่าฉันเป็นใครตื๊ดๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของคนตัวโตดังขึ้น เป็นการโทรมาแบบวิดีโอคอล ที่ฉันรู้ได้เพราะฉันมองที่โทรศัพท์ของเขา และฉันก็เห็นว่ารูปผู้หญิงที่วิดีโอคอลมานั้นเป็นใคร เธอเป็นนางเอกดังระดับแนวหน้าของประเทศ และคงเป็นคนรักของเขาเพราะช่วงหลังมานี้เขา
6.น้อยใจ/ผู้ชายในฝัน"เธอรู้ไหมว่าวันนี้ฉันหงุดหงิดและอารมณ์เสียมากแค่ไหน คนที่ฉันไว้ใจคิดว่าเขาจะเห็นฉันสำคัญกว่าใครๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นตัวตนของฉันเลย"ฉันมองหน้าเฮียสิงห์และนั่งฟังแบบนิ่งๆ เขาคงอยากระบายความในใจให้ใครสักคนฟังจึงเลือกมาที่แบบนี้ " แต่เธอก็เข้ามาในช่วงที่ฉันต้องการใครสักคนแก้เหงาพอดี " พอฟังคำของเฮียสิงห์จบฉันก็พอเข้าใจความหมายของเฮียสิงห์แล้ว "ฟ้าอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ค่ะ อยู่ได้จนถึงเวลาเลิกงานเลยค่ะ""ฉันไม่ได้ต้องการแค่นี้ ฉันอยากได้ทั้งคืน เธอจะว่ายังไง ""ค่ะ หมายความว่ายังไงคะ "ฉันยังคงไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดที่เขาสื่อบอกฉัน เพราะฉันไม่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันจะตกลงกันง่ายๆ แบบนี้"วันนี้ฉันขอซื้อเวลาเธอทั้งวันทั้งคืนเลยได้ไหม ""อยากให้ไปอยู่เป็นเพื่อนเหรอคะ ฟ้าไม่เข้าใจค่ะ " "ถามจริงไม่เคยหรือแค่แสดงเพื่อโก่งค่าตัวกันแน่ "" เฮียสิงห์ค่ะ อย่าดูถูกผู้หญิงสิคะ ผู้หญิงบางคนเขาก็อยากเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่เขารักในคืนเข้าห้องหอค่ะ "ฉันอดที่จะตำหนิเฮียสิงห์ไม่ได้ เลยพูดออกไปแบบนั้น พอคิดได้ก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ แต่มันคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกเพราะมันออกจากปา
"มาทำอะไรที่นี่คะ "ฉันทั้งตกใจและแปลกใจในคราเดียว แต่ก็อดเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เขาตามฉันมาเหรอหรือฉันคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแต่คนตรงหน้ากลับไม่ยอมตอบคำถามฉัน ได้แต่ยืนพิงเสาแล้วจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา"มีอะไรหรือเปล่าคะ""แค่อยากมาส่ง "เป็นคำพูดที่ทำให้ใจฉันเต้นรัวได้ดีทีเดียว แต่ก็นั่นแหละมันยิ่งทำฉันแปลกใจมากกว่าเดิมเสียอีก แต่ก็ต้องตัดใจขอตัวขึ้นห้อง เพราะไม่อยากให้เขามองฉันไม่ดี"ขอบคุณมากค่ะ งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะคะ "ถึงแม้จะรู้สึกดีมากแค่ไหนที่เห็นเขาอยู่ตรงนี้ ฉันก็ไม่อยากให้เฮียสิงห์รู้ความในใจของฉันหรอกยิ่งเห็นเขามายืนอยู่ตรงนี้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว กลัวใจตัวเองจะเผลอไผลไปกับเขามากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนระดับเขาไม่มาสนใจผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบฉันหรอกฉันอยากมีเขาอยู่ในฝันมากกว่าความจริง เพราะในฝันฉันจะทำอย่างไรก็ได้แต่ชีวิตจริงฉันต้องอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากๆ เท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลังฉันก้าวเดินขึ้นไปบนห้องพัก ฉันพักอยู่ชั้นสอง หอพักแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น ที่นี่ไม่ได้มีระบบความปลอดภัยอะไรหรอก เพราะเป
" ชนแก้ว "เสียงทุ้มของเฮียสิงห์พูดขึ้นชวนให้ฉันชนแก้วกับเขา นี่เป็นแก้วที่สามแล้ว ฉันก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว จากตอนแรกบอกจะดื่มแค่แก้วเดียว แต่พอหมดแก้วแรกเฮียสิงห์ก็เริ่มพูดเสียงเศร้าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่าไม่มีใครสนใจไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เขาเลย เขาขอดื่มอีกแก้ว เฮียสิงห์พูดจาออดอ้อนฉัน จนฉันใจอ่อนไม่ให้ฉันใจอ่อนได้ไง เฮียสิงห์เวลาเมาอ้อนเก่งมากขอบอก ตอนนี้เราสองคนต่างคนต่างเมาพูดเสียงยานใส่กัน ลิ้นก็พันกันฟังแทบไม่รู้เรื่องกันอยู่แล้ว เฮียสิงห์เขาดื่มตั้งแต่ที่ผับหมดไปขวดหนึ่งแล้ว แต่ฉันเพิ่งดื่มได้สองแก้วเข้าแก้วที่สามก็เริ่มมีอาการโลกหมุนแล้ว"หมดแก้วนี้เฮียกลับเลยนะคะ ฟ้าไม่ไหวแล้ว "" ไล่เฮียเหรอ " เฮียสิงห์ตีหน้าเศร้าอีกแล้ว ฉันต้องยอมใจอ่อนให้เขาอีกแล้วเหรอ ไม่ ไม่ได้ ฉันจะตามใจเขามากเกินไปแล้วเมื่อนึกได้แบบนั้นฉันจึงลุกขึ้นแล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าของเฮียสิงห์ เฮียสิงห์ช้อนสายตาขึ้นมองหน้าฉัน แล้วเลิกคิ้วเป็นการตั้งคำถาม" เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าไม่ได้อยากให้เฮียสิงห์กลับสักนิด แต่มันดึกมากแล้ว วันนี้ฟ้าเหนื่อยมาทั้งวันเลยค่ะ ฟ้าอยากพักแล้ว "ฉันกลั้นใจลุกขึ้นทั้งๆ ที่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนโ
ความเจ็บปวดเรียกสติฉันกลับมาได้ แต่มันก็สายไปแล้ว ฉันไม่น่าไว้ใจให้น้ำมันอยู่ใกล้ไฟแบบนี้เลย ตอนนี้ฉันพยายามถอยหนี เพราะการฉีกขาดของเหยื่อบริสุทธิ์ ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบๆ " อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ซี๊ดด... " เฮียสิงห์พูดเสียงกระเส่าเขาคงรู้สึกถึงความคับแน่นของฉันที่อ้ารัดลำยักษ์ของเขาไว้แน่น ตอนแรกเฮียสิงห์เหมือนจะเมามากจนแทบนั่งไม่อยู่ แต่ตอนนี้ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งแววตาที่เร่าร้อนส่งมาที่ฉันนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แล้วเขาก็ค่อยขยับบั้นเอวช้าๆ เนิบๆ เหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ "ฮื้อ เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าเจ็บค่ะ " น้ำตาของฉันไหลอาบสองแก้มถึงแม้เฮียสิงห์จะพยายามทำเบาแค่ไหนก็ไม่สามารถลดความเจ็บแปลบลงได้เลย "อย่าเกร็งนะครับคนดี มันจะเจ็บแค่ครั้งแรก " เฮียสิงห์ก้มลงจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการปลอบขวัญ จมูกโด่งคมสันค่อยๆ ไล้ลงมาที่แก้มของฉัน ริมฝีปากหนาจูบสับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน มือหนาเลื่อนมาประคองแก้มงามของฉัน สายตาหวานเยิ้มจ้องที่ดวงตาฉันไม่ยอมละสายตาไปไหน จนเป็นฉันเองที่ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย "เอาจริงแล้วน่ะ " เสียงแ
จากเหตุการณ์วันนั้น ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ร่างกายของฉันกลับมาปกติแล้วและเหตุการณ์ระหว่างฉันกับเฮียสิงห์ ฉันไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้แต่ข้าวหอมเพื่อนสนิทของฉันตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่สวนหน้าคณะ เพื่อรอเรียนวิชาต่อไป ฉันกำลังงวนกับงานที่อาจารย์สั่ง เพราะอยากทำให้เสร็จก่อนวันที่อาจารย์นัด เพราะฉันจะไม่มีเวลาทำงานส่งอาจารย์ถ้าไม่ใช่เวลาที่มาเรียนเพราะฉันยังคงทำงานที่ผับของเฮียหนึ่งเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าฉันจะได้เช็คเงินสดจากเฮียสิงห์มาหนึ่งล้านบาทก็ตามฉันคิดไว้ว่าจะเอาไปคืนเขา แต่ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเฮียสิงห์ตอนนี้ เลยจำใจต้องเก็บไว้ก่อนฉันพยายามคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเฮียสิงห์เป็นสิ่งสวยงามสำหรับฉันฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองไปมากกว่านี้ ที่กล้าทำเรื่องน่าอายแบบนั้นลงไป"ฟ้า.. เฮียสิงห์นี่น่ารักเนาะ"ข้าวหอมถามฉันขึ้นในระหว่างที่ฉันกำลังตั้งใจทำงานส่งอาจารย์ ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าข้าวหอมพร้อมขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ข้าวหอมจึงถามฉันแบบนั้น"มีอะไร "ฉันถามข้าวหอมเสียงเรียบเพราะยังไม่รู้ว่าทำไมข้าวหอมถึงได้เอ่ยถึงเฮียสิงห์"ก็นี่ไง เฮียสิงห์เขาพาคุณพิต้าไปดิ
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ มองไปทางไหนก็มีแต่ดอกกุหลาบ คู่รักต่างเดินจูงมือกันแน่น บ้างก็หยอกล้อกัน แววตาที่พวกเขามองกันมีแต่ความห่วงใยในมือของฉันมีดอกกุหลาบสีแดงอยู่ดอกหนึ่ง ไม่มีใครให้ฉันหรอกพอดีเดินผ่านร้านขายดอกไม้ตามทางก็เลยซื้อติดมือมาดอกหนึ่งฉันมานั่งรอแม่ที่กำลังจะเลิกงานอยู่ที่บริษัทรถหรูชั้นนำของประเทศแห่งหนึ่งฉันต้องมารอแม่ตรงนี้บ่อยๆ แต่มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเบื่อเลย เพราะฉันมีเป้าหมายบางอย่างคงหนีไม่พ้นเรื่องผู้ชาย ส่วนมากฉันได้เห็นเขาแค่ไกลๆ เท่านั้น ใจฉันมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย ฉันไม่ได้หวังให้เขามากรักมาสนใจฉันฉันขอแค่ได้เห็นหน้าเขา เพื่อเป็นพลังใจในการใช้ชีวิตก็เท่านั้นวันนี้แม่บอกว่าอยากจะพาฉันไปซื้อของอร่อยกินกัน คงอยากให้ฉันเห็นความดีงามของแฟนใหม่มั้งใช่ค่ะ แม่ฉันกำลังมีความรักครั้งใหม่ ผู้ชายคนใหม่ของแม่ก็ดูเหมือนดูแลแม่ดีอยู่เหมือนกันนะแต่ก็ต้องดูกันยาวๆ ความรักไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ขนาดพ่อกับแม่ที่อยู่กันมาตั้งหลายปี ก็ยังมีคนมาแย่งความรักไปได้เลยพ่อทิ้งฉันกับแม่ไปปีกว่าแล้ว เขามีครอบครัวใหม่ กับลูกคนใหม่ที่รู้จักออดอ้อนพ่อของฉัน จนฉันกลายเป็นหมาหัว
ปลายฟ้าเธอเรียนอยู่คณะบัญชี เพราะเธอคิดว่าน่าจะเป็นสาขาที่หางานง่ายที่สุดแล้ว แต่ก่อนจะเรียนจบได้งานดีๆ ทำนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอตอนนี้ฉันต้องหาเงินเพื่อไว้ใช้จ่ายประจำวันก่อนที่จะเรียนจบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหางานดีๆ ทำสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งแต่ฉันได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นเพื่อนใหม่ เจอกันที่มหาลัยนี้เอง เธอชื่อว่าข้าวหอม ข้าวหอมเธอรู้จักกับเจ้าของผับคนหนึ่ง เธอบอกว่าเขาใจดีมาก เธอก็ทำงานที่นั่นเป็นการหารายได้เสริม เพราะเธออยู่กับยายที่อายุมากแล้ว และยายก็ป่วยบ่อยๆเฮียเจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับพี่ชายของข้าวหอม แต่พี่ชายเธอได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้วข้าวหอมเธอจึงต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง จริงๆ แล้วเฮียหนึ่งเพื่อนพี่ชายเธอก็ให้เงินเธอเป็นรายเดือนอยู่แล้ว แต่ข้าวหอมเธอเกรงใจจึงอาสามาช่วยเขาทำงานที่ผับฉันเลยตัดสินใจมาสมัครเป็นเด็กเสิร์ฟของผับของเฮียหนึ่ง เงินเดือนก็พอได้ใช้ชีวิตอยู่ได้ ถ้าฉันประหยัดเงินได้มากพอ เพียงแต่เวลานอนของฉันมันน้อยกว่าใครเท่านั้นเอง และนั่นไม่ใช่ปัญหาฉันทนได้ปัญหาของฉันคือฉันต้องทำงานเก็บเงินหาค่าเทอมด้วยตัวเอง ฉันรู้ซึ้งถึงกา
จากเหตุการณ์วันนั้น ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ร่างกายของฉันกลับมาปกติแล้วและเหตุการณ์ระหว่างฉันกับเฮียสิงห์ ฉันไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้แต่ข้าวหอมเพื่อนสนิทของฉันตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่สวนหน้าคณะ เพื่อรอเรียนวิชาต่อไป ฉันกำลังงวนกับงานที่อาจารย์สั่ง เพราะอยากทำให้เสร็จก่อนวันที่อาจารย์นัด เพราะฉันจะไม่มีเวลาทำงานส่งอาจารย์ถ้าไม่ใช่เวลาที่มาเรียนเพราะฉันยังคงทำงานที่ผับของเฮียหนึ่งเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าฉันจะได้เช็คเงินสดจากเฮียสิงห์มาหนึ่งล้านบาทก็ตามฉันคิดไว้ว่าจะเอาไปคืนเขา แต่ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเฮียสิงห์ตอนนี้ เลยจำใจต้องเก็บไว้ก่อนฉันพยายามคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเฮียสิงห์เป็นสิ่งสวยงามสำหรับฉันฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองไปมากกว่านี้ ที่กล้าทำเรื่องน่าอายแบบนั้นลงไป"ฟ้า.. เฮียสิงห์นี่น่ารักเนาะ"ข้าวหอมถามฉันขึ้นในระหว่างที่ฉันกำลังตั้งใจทำงานส่งอาจารย์ ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าข้าวหอมพร้อมขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ข้าวหอมจึงถามฉันแบบนั้น"มีอะไร "ฉันถามข้าวหอมเสียงเรียบเพราะยังไม่รู้ว่าทำไมข้าวหอมถึงได้เอ่ยถึงเฮียสิงห์"ก็นี่ไง เฮียสิงห์เขาพาคุณพิต้าไปดิ
ความเจ็บปวดเรียกสติฉันกลับมาได้ แต่มันก็สายไปแล้ว ฉันไม่น่าไว้ใจให้น้ำมันอยู่ใกล้ไฟแบบนี้เลย ตอนนี้ฉันพยายามถอยหนี เพราะการฉีกขาดของเหยื่อบริสุทธิ์ ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบๆ " อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ซี๊ดด... " เฮียสิงห์พูดเสียงกระเส่าเขาคงรู้สึกถึงความคับแน่นของฉันที่อ้ารัดลำยักษ์ของเขาไว้แน่น ตอนแรกเฮียสิงห์เหมือนจะเมามากจนแทบนั่งไม่อยู่ แต่ตอนนี้ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งแววตาที่เร่าร้อนส่งมาที่ฉันนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แล้วเขาก็ค่อยขยับบั้นเอวช้าๆ เนิบๆ เหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ "ฮื้อ เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าเจ็บค่ะ " น้ำตาของฉันไหลอาบสองแก้มถึงแม้เฮียสิงห์จะพยายามทำเบาแค่ไหนก็ไม่สามารถลดความเจ็บแปลบลงได้เลย "อย่าเกร็งนะครับคนดี มันจะเจ็บแค่ครั้งแรก " เฮียสิงห์ก้มลงจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการปลอบขวัญ จมูกโด่งคมสันค่อยๆ ไล้ลงมาที่แก้มของฉัน ริมฝีปากหนาจูบสับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน มือหนาเลื่อนมาประคองแก้มงามของฉัน สายตาหวานเยิ้มจ้องที่ดวงตาฉันไม่ยอมละสายตาไปไหน จนเป็นฉันเองที่ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย "เอาจริงแล้วน่ะ " เสียงแ
" ชนแก้ว "เสียงทุ้มของเฮียสิงห์พูดขึ้นชวนให้ฉันชนแก้วกับเขา นี่เป็นแก้วที่สามแล้ว ฉันก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว จากตอนแรกบอกจะดื่มแค่แก้วเดียว แต่พอหมดแก้วแรกเฮียสิงห์ก็เริ่มพูดเสียงเศร้าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่าไม่มีใครสนใจไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เขาเลย เขาขอดื่มอีกแก้ว เฮียสิงห์พูดจาออดอ้อนฉัน จนฉันใจอ่อนไม่ให้ฉันใจอ่อนได้ไง เฮียสิงห์เวลาเมาอ้อนเก่งมากขอบอก ตอนนี้เราสองคนต่างคนต่างเมาพูดเสียงยานใส่กัน ลิ้นก็พันกันฟังแทบไม่รู้เรื่องกันอยู่แล้ว เฮียสิงห์เขาดื่มตั้งแต่ที่ผับหมดไปขวดหนึ่งแล้ว แต่ฉันเพิ่งดื่มได้สองแก้วเข้าแก้วที่สามก็เริ่มมีอาการโลกหมุนแล้ว"หมดแก้วนี้เฮียกลับเลยนะคะ ฟ้าไม่ไหวแล้ว "" ไล่เฮียเหรอ " เฮียสิงห์ตีหน้าเศร้าอีกแล้ว ฉันต้องยอมใจอ่อนให้เขาอีกแล้วเหรอ ไม่ ไม่ได้ ฉันจะตามใจเขามากเกินไปแล้วเมื่อนึกได้แบบนั้นฉันจึงลุกขึ้นแล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าของเฮียสิงห์ เฮียสิงห์ช้อนสายตาขึ้นมองหน้าฉัน แล้วเลิกคิ้วเป็นการตั้งคำถาม" เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าไม่ได้อยากให้เฮียสิงห์กลับสักนิด แต่มันดึกมากแล้ว วันนี้ฟ้าเหนื่อยมาทั้งวันเลยค่ะ ฟ้าอยากพักแล้ว "ฉันกลั้นใจลุกขึ้นทั้งๆ ที่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนโ
"มาทำอะไรที่นี่คะ "ฉันทั้งตกใจและแปลกใจในคราเดียว แต่ก็อดเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เขาตามฉันมาเหรอหรือฉันคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแต่คนตรงหน้ากลับไม่ยอมตอบคำถามฉัน ได้แต่ยืนพิงเสาแล้วจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา"มีอะไรหรือเปล่าคะ""แค่อยากมาส่ง "เป็นคำพูดที่ทำให้ใจฉันเต้นรัวได้ดีทีเดียว แต่ก็นั่นแหละมันยิ่งทำฉันแปลกใจมากกว่าเดิมเสียอีก แต่ก็ต้องตัดใจขอตัวขึ้นห้อง เพราะไม่อยากให้เขามองฉันไม่ดี"ขอบคุณมากค่ะ งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะคะ "ถึงแม้จะรู้สึกดีมากแค่ไหนที่เห็นเขาอยู่ตรงนี้ ฉันก็ไม่อยากให้เฮียสิงห์รู้ความในใจของฉันหรอกยิ่งเห็นเขามายืนอยู่ตรงนี้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว กลัวใจตัวเองจะเผลอไผลไปกับเขามากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนระดับเขาไม่มาสนใจผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบฉันหรอกฉันอยากมีเขาอยู่ในฝันมากกว่าความจริง เพราะในฝันฉันจะทำอย่างไรก็ได้แต่ชีวิตจริงฉันต้องอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากๆ เท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลังฉันก้าวเดินขึ้นไปบนห้องพัก ฉันพักอยู่ชั้นสอง หอพักแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น ที่นี่ไม่ได้มีระบบความปลอดภัยอะไรหรอก เพราะเป
6.น้อยใจ/ผู้ชายในฝัน"เธอรู้ไหมว่าวันนี้ฉันหงุดหงิดและอารมณ์เสียมากแค่ไหน คนที่ฉันไว้ใจคิดว่าเขาจะเห็นฉันสำคัญกว่าใครๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นตัวตนของฉันเลย"ฉันมองหน้าเฮียสิงห์และนั่งฟังแบบนิ่งๆ เขาคงอยากระบายความในใจให้ใครสักคนฟังจึงเลือกมาที่แบบนี้ " แต่เธอก็เข้ามาในช่วงที่ฉันต้องการใครสักคนแก้เหงาพอดี " พอฟังคำของเฮียสิงห์จบฉันก็พอเข้าใจความหมายของเฮียสิงห์แล้ว "ฟ้าอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ค่ะ อยู่ได้จนถึงเวลาเลิกงานเลยค่ะ""ฉันไม่ได้ต้องการแค่นี้ ฉันอยากได้ทั้งคืน เธอจะว่ายังไง ""ค่ะ หมายความว่ายังไงคะ "ฉันยังคงไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดที่เขาสื่อบอกฉัน เพราะฉันไม่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันจะตกลงกันง่ายๆ แบบนี้"วันนี้ฉันขอซื้อเวลาเธอทั้งวันทั้งคืนเลยได้ไหม ""อยากให้ไปอยู่เป็นเพื่อนเหรอคะ ฟ้าไม่เข้าใจค่ะ " "ถามจริงไม่เคยหรือแค่แสดงเพื่อโก่งค่าตัวกันแน่ "" เฮียสิงห์ค่ะ อย่าดูถูกผู้หญิงสิคะ ผู้หญิงบางคนเขาก็อยากเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่เขารักในคืนเข้าห้องหอค่ะ "ฉันอดที่จะตำหนิเฮียสิงห์ไม่ได้ เลยพูดออกไปแบบนั้น พอคิดได้ก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ แต่มันคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกเพราะมันออกจากปา
จากที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองมาพักใหญ่ ตอนนี้คนตัวโตเริ่มมีอาการเมาแล้วด้วย เพราะฉันไม่รู้จะทำอะไรพอเห็นแก้วว่างก็หยิบขึ้นมารินท่าเดียวจนตอนนี้เกือบหมดขวดแล้ว ไม่ให้เขาเมาได้ยังไงกินคนเดียวด้วย "จะมอมไวน์ฉันหรือไง เทไวน์ไม่มีป้ายหยุดขนาดนี้ " คนตัวโตเริ่มพูดเสียงยานเพราะดื่มไปมากแล้ว "หนูก็อยากจะมอมให้เมาแหละค่ะ แต่คุณคอแข็งมากเลยนะคะ "พอได้ยินฉันบอกเขาว่าอยากมอมไวน์เขาเท่านั้นแหละ จากที่ดูอ่อนโยนกลายเป็นนั่งตัวตรงและเงียบขรึมทันที พอฉันเห็นเขาทำท่าไม่พอใจก็อดไม่ได้ที่จะเขาไปใกล้ " ขอโทษค่ะ แค่หยอกเล่นค่ะ " "ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอหรือไง " เขาตอบกลับฉันเสียงดุ จนฉันต้องเม้มปากแน่แล้วก้มหน้าลง ฉันคงเล่นเกินไปจริงๆ แหละ เขาเป็นใครฉันเป็นใคร ฉันรู้ตัวดี "ขอโทษอีกครั้งค่ะ" แล้วฉันก็ขยับตัวถอยห่างออกจากเขา ควรระลึกในใจเสมอว่าฉันเป็นใครตื๊ดๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของคนตัวโตดังขึ้น เป็นการโทรมาแบบวิดีโอคอล ที่ฉันรู้ได้เพราะฉันมองที่โทรศัพท์ของเขา และฉันก็เห็นว่ารูปผู้หญิงที่วิดีโอคอลมานั้นเป็นใคร เธอเป็นนางเอกดังระดับแนวหน้าของประเทศ และคงเป็นคนรักของเขาเพราะช่วงหลังมานี้เขา
4.ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอ" ว้าว! สวยมากเลยฟ้า พี่ว่าแล้วว่าฟ้าต้องรอด ไม่สิเราต้องรอด "ที่พี่บอยพูดแบบนี้เพราะแขกวีไอพีคนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ จากที่พนักงานต้อนรับพาไปส่งที่ห้องวีไอพี เขาก็เรียกหาคนดูแลประจำที่เป็นดาวของที่นี่แต่วันนี้แขกวีไอพีประจำอีกคนก็มาและเธอกำลังดูแลแขกคนนั้นอยู่ทำให้แขกวีไอพีที่มาทีหลังปรามาสไว้ว่าถ้าหาได้ไม่สวยเท่าคนเก่าจะไปโวยกับเฮียหนึ่งเจ้าของผับซึ่งวันนี้เฮียหนึ่งก็ยังไม่เข้าร้านโทรติดต่อก็ไม่ได้ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ถ้าเฮียหนึ่งอยู่ปัญหาแค่นี้ก็จิ๊บๆแต่ตอนนี้เขาไม่อยู่ไง เลยต้องส่งหน่วยกล้าตายเข้าไปแทนและก็คือฉันเอง และถ้าเฮียหนึ่งเข้ามาแล้วพี่บอยจะรีบแจ้งให้เฮียหนึ่งเข้าไปหาแขกคนนี้ทันทีฉันที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้ากระจกและพยายามดึงชุดที่สวมใส่อยู่เพื่อมาปิดความใหญ่โตตรงทรวงอกอวบๆ ของฉัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ดึงบนล่างก็เปิด ดึงข้างล่างบนก็เปิด จนฉันต้องถอนหายใจออกมา และเดินออกมาทั้งแบบนั้น เพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องสองศูนย์สี่ เพราะแขกวีไอพีกำลังรออยู่ที่ห้องนี้พอเดินมาถึงที่หน้าห้องสองศูนย์สี่ ก็เจอชายชุดดำยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู"มาดูแลนายใช่ไหมครับ "" เ
3.แขกวีไอพีฉันทำงานที่นี่ได้เดือนกว่าแล้ว และวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก เงินเดือนของฉันตรงกับวันที่ห้าของทุกเดือน ฉันดีใจมากเมื่อเห็นยอดเงินในซองสีขาวพร้อมสลิปเงินเดือน นี่เป็นเงินที่ฉันมีมากที่สุดในชีวิต ฉันยิ้มแก้มแทบปริแต่สุดท้ายฉันก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงค่าเช่าห้องที่ฉันค้างไว้สองเดือนแล้ว และค่าเทอมที่ฉันขอผ่อนผันก็ใกล้ถึงวันนัดเข้ามาทุกทีเฮ้อ!!ฉันเผลอถอนหายใจเสียงดังออกมา พอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังจัดร้านอยู่ซึ่งพอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาก็พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากฉัน"ขอโทษค่ะ " ฉันรีบเอ่ยขอโทษทุกคนที่อยู่บริเวณนี้"ขอโทษอะไร ไม่สบายใจอะไรก็พูดมาถ้าเกี่ยวกับงานจะได้เข้าใจกัน "พี่ผู้จัดการร้านพูดขึ้น" ไม่ใช่เรื่องงานค่ะพี่บอย "ฉันตอบกลับไปทันที ไม่อยากให้คนที่ทำงานด้วยกันต้องคิดมาก และทุกคนก็ยิ้มตอบกลับให้ฉันเพราะฉันหันมองสบตากับทุกคนเพราะอยากแสดงความจริงใจ และฉันก็อธิบายต่อถือโอกาสนี้พูดให้ทุกคนเข้าใจ"เรื่องเรียนค่ะฟ้าแค่กังวลเรื่องเรียนค่ะ ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะคะ ทุกคนใจดีกับฟ้า ฟ้าทำงานไม่เป็นก็ช่วยสอนทุกอย่าง ฟ้าทำงานที่นี่มีความสุขมากค่ะ "และทุกคนก็ไม
ปลายฟ้าเธอเรียนอยู่คณะบัญชี เพราะเธอคิดว่าน่าจะเป็นสาขาที่หางานง่ายที่สุดแล้ว แต่ก่อนจะเรียนจบได้งานดีๆ ทำนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอตอนนี้ฉันต้องหาเงินเพื่อไว้ใช้จ่ายประจำวันก่อนที่จะเรียนจบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหางานดีๆ ทำสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งแต่ฉันได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นเพื่อนใหม่ เจอกันที่มหาลัยนี้เอง เธอชื่อว่าข้าวหอม ข้าวหอมเธอรู้จักกับเจ้าของผับคนหนึ่ง เธอบอกว่าเขาใจดีมาก เธอก็ทำงานที่นั่นเป็นการหารายได้เสริม เพราะเธออยู่กับยายที่อายุมากแล้ว และยายก็ป่วยบ่อยๆเฮียเจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับพี่ชายของข้าวหอม แต่พี่ชายเธอได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้วข้าวหอมเธอจึงต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง จริงๆ แล้วเฮียหนึ่งเพื่อนพี่ชายเธอก็ให้เงินเธอเป็นรายเดือนอยู่แล้ว แต่ข้าวหอมเธอเกรงใจจึงอาสามาช่วยเขาทำงานที่ผับฉันเลยตัดสินใจมาสมัครเป็นเด็กเสิร์ฟของผับของเฮียหนึ่ง เงินเดือนก็พอได้ใช้ชีวิตอยู่ได้ ถ้าฉันประหยัดเงินได้มากพอ เพียงแต่เวลานอนของฉันมันน้อยกว่าใครเท่านั้นเอง และนั่นไม่ใช่ปัญหาฉันทนได้ปัญหาของฉันคือฉันต้องทำงานเก็บเงินหาค่าเทอมด้วยตัวเอง ฉันรู้ซึ้งถึงกา