จากที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองมาพักใหญ่ ตอนนี้คนตัวโตเริ่มมีอาการเมาแล้วด้วย เพราะฉันไม่รู้จะทำอะไรพอเห็นแก้วว่างก็หยิบขึ้นมารินท่าเดียวจนตอนนี้เกือบหมดขวดแล้ว ไม่ให้เขาเมาได้ยังไงกินคนเดียวด้วย
"จะมอมไวน์ฉันหรือไง เทไวน์ไม่มีป้ายหยุดขนาดนี้ " คนตัวโตเริ่มพูดเสียงยานเพราะดื่มไปมากแล้ว "หนูก็อยากจะมอมให้เมาแหละค่ะ แต่คุณคอแข็งมากเลยนะคะ " พอได้ยินฉันบอกเขาว่าอยากมอมไวน์เขาเท่านั้นแหละ จากที่ดูอ่อนโยนกลายเป็นนั่งตัวตรงและเงียบขรึมทันที พอฉันเห็นเขาทำท่าไม่พอใจก็อดไม่ได้ที่จะเขาไปใกล้ " ขอโทษค่ะ แค่หยอกเล่นค่ะ " "ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอหรือไง " เขาตอบกลับฉันเสียงดุ จนฉันต้องเม้มปากแน่แล้วก้มหน้าลง ฉันคงเล่นเกินไปจริงๆ แหละ เขาเป็นใครฉันเป็นใคร ฉันรู้ตัวดี "ขอโทษอีกครั้งค่ะ" แล้วฉันก็ขยับตัวถอยห่างออกจากเขา ควรระลึกในใจเสมอว่าฉันเป็นใคร ตื๊ดๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของคนตัวโตดังขึ้น เป็นการโทรมาแบบวิดีโอคอล ที่ฉันรู้ได้เพราะฉันมองที่โทรศัพท์ของเขา และฉันก็เห็นว่ารูปผู้หญิงที่วิดีโอคอลมานั้นเป็นใคร เธอเป็นนางเอกดังระดับแนวหน้าของประเทศ และคงเป็นคนรักของเขาเพราะช่วงหลังมานี้เขาทั้งสองคนออกงานด้วยกันบ่อยมาก ที่ฉันรู้ก็เพราะอะไรที่เป็นเรื่องของเฮียสิงห์ฉันติดตามเสมอ ใช่ค่ะผู้ชายในฝันของฉันเขาชื่อเฮียสิงห์ หรือสิงหราช เกียรติทรัพย์ศิริ เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่มีธุรกิจเกี่ยวกับรถหรู และอสังหาริมทรัพย์ และยังมีธุรกิจสีเทาบางอย่างแต่ฉันไม่ขอพูดถึงดีกว่าเพราะยังอยากมีลมหายใจอยู่ ฉันรู้มาจากวงในเพราะแม่เคยทำงานที่นั่นแต่ก็ไม่มีใครอยากพูดถึงเท่าไร "มานี่ซิ " "ค่ะ " "บอกให้มานี่ไง " เขาเริ่มขึ้นเสียงใส่ฉัน พร้อมจ้องเขม็งมาทางฉัน จนฉันต้องรีบหลบสายตาคมดวงนั้นมันเหมือนมีพลังบางอย่างทำให้ฉันรีบลุกขึ้นแล้วเดินไปหาเขาทันที พอฉันมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคนตัวโต เขาก็ยกตัวฉันขึ้นในท่านั่งคร่อมหน้าตักของเขา ว้าย! ฉันตกใจสุดขีดจึงร้องออกมาเสียงหลง แทนที่เขาจะโวยให้ฉัน แต่เขากลับจับท้ายทอยของฉันกดลงให้ซบที่ไหล่กว้างของเขา หน้าอกตูมๆ ของฉันชนเขากับกล้ามอกแน่นๆ ของเขาเต็มแรง ทุกสัดส่วนแนบชิดกัน แล้วลำแขนแกร่งของเขาก็โอบรั้งร่างอวบอั๋นของฉันไว้แน่น จมูกของฉันรับรู้ถึงกลิ่นน้ำหอมแบบผู้ชายจากตัวของเขา ทำไมรู้สึกดีจัง ฉันอยากหยุดเวลานี้ไว้นานๆ จัง "อยู่นิ่งๆน่ะไม่ต้องหันมา จนกว่าจะบอกให้หัน " แล้วเขาก็กดรับสายโทรศัพท์ที่ผู้หญิงของเขาวิดีโอคอลมา " ว่าไง " "คุณอยู่ไหนคะสิงห์ " "อยู่ไหนสำคัญด้วยเหรอ " "นั่นใคร คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้น่ะ " "ทำไมจะไม่ได้ เธอไม่เห็นฉันสำคัญ ฉันก็มาหาคนที่คิดว่าฉันสำคัญสำหรับเขา " " ฮึๆ " คุณเลิกแสดงเถอะค่ะ วันนี้ฉันมีงาน อย่าเอาแต่ใจสิคะ " ผู้หญิงในสายพูดออกมาเสียงอ่อนเสียงหวาน ขนาดฉันได้ยินยังรู้สึกอ่อนระทวยให้กับน้ำเสียงของเธอ " วันนี้วันเกิดฉันเรานัดกันแล้วแต่เธอเลือกที่จะไปกับมัน " "เขาเป็นผู้กำกับหนังของฉันนะสิงห์ เดี๋ยวกลับไปพิต้าจะชดเชยให้นะคะ " คำหวานหูจากหญิงสาวในโทรศัพท์ทำให้คนตัวโตชะงักไปครู่หนึ่ง " ไม่มีการชดเชยใดๆ ทั้งสิ้น วันนี้ฉันมีคนทำตามใจฉันแล้ว เธอทำงานได้ตามสบายเลยไม่ต้องสนใจฉันหรอก " "สิงห์ค่ะ พิต้าไม่ใช่เพิ่งรู้จักคุณนะคะ ไม่ต้องแกล้งเอาคนอื่นมาทำให้พิต้าหึงหรอกค่ะ พิต้ารู้ว่าคุณรักพิต้ามากขนาดไหน " จบคำพูดของผู้หญิงในสาย คนตัวโตก็หันมาหอมแก้มของฉันฟอดใหญ่ จนฉันต้องย่นคอและกอดคอเขาไว้แน่น ฉันขนลุกซูไปทั้งตัว แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำ " ผมไม่ได้แกล้ง วันนี้ผมเอาจริง " " หันมา" แล้วเขาก็หันมาพูดกับฉัน ฉันผู้ไม่เคยใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนมาก่อนยังคงกอดคอเขาไว้แน่น พร้อมกับส่ายหัวเบาๆ "บอกว่าหันมาไงครับคนดี ไม่ต้องกลัวครับเฮียอยู่ตรงนี้แล้ว " คำหวานจากปากของคนตัวโตทำฉันค่อยๆ เงยหน้ามองคนตัวโตด้วยความสงสัย แต่แล้วใบหน้าหล่อคมก็ประกบปากจูบปากบางอย่างนุ่มนวล จากตอนแรกฉันเม้มปากแน่นไม่ให้เขาทำมากว่าจูบภายนอกและทำตัวเกร็งไปหมด จูบแรกของฉันเป็นของเขา พอเห็นฉันขัดขืนและเกร็งไปทั้งตัว เขาก็ค่อยๆ ผละปากออก "สิงห์ค่ะ พิต้ายอมแล้วค่ะ เดี๋ยวพิต้าจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้เลยค่ะ " แล้วสายก็ถูกตัดไป แต่คนตัวโตในตอนนี้สิ ยังมองฉันไม่ยอมวางตา "ไม่เคยจูบ " เสียงทุมถามฉันเสียงแผ่วเบาจนฉันขนลุกซู รู้สึกมวนท้องไปหมด เหตุการณ์วาบหวามเมื่อครู่ทำฉันหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่าอาการผีเสื้อบินเป็นล้านตัว " อื่ม " ในขณะที่ฉันกำลังตกอยู่ในภวังค์ เขาก็กดจูบที่ปากของฉันอีกครั้ง มือหนาของเฮียสิงห์ประคองสองแก้มเนียนของฉันไว้เพื่อบังคับไม่ให้ฉันหันหน้าหนีไปทางไหนได้ ครั้งนี้ฉันต้องโอนอ่อนผ่อนตามให้เขาได้ทำตามใจ ในใจลึกฉันก็อยากให้เขาจูบแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวว่าเขาจะคิดว่าฉันเป็นคนใจง่าย แต่ถ้าวันนี้ไม่รีบตักตวงเอาไว้อาจไม่มีครั้งหน้าแล้วก็ได้ เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันก็จูบกลับเขาบ้างมันอาจจะดูไม่ประสาแต่ฉันพยายามที่สุดแล้ว ฉันเลียนแบบวิธีการจูบของเขานั่นแหละ " อืม " อยู่ๆ คนตัวโตก็ครางในลำคอ ลิ้นหนาแทรกเข้าโพรงปากของฉันเกาะเกี่ยวลิ้นเล็กของฉันเพื่อดูดชิมน้ำลาย คงเป็นเพราะฉันตอบสนองการจูบของเขาแบบไม่ยอมลดละ จึงทำให้คนตัวโต ได้ครางในลำคออีกหลายครั้ง ผู้ชายบ้าอะไรจูบเก่งมากๆ จนฉันรู้สึกเหมือนล่องลอยอยู่กลางอากาศ ความรู้สึกนี้ฉันจะจดจำไปตลอดกาล แต่สุดท้ายแล้วความหอมหวานที่เขามอบให้ฉันก็ต้องหยุดลง เมื่อมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ตอนนี้เป็นการโทรแบบพูดคุยธรรมดา ไม่ใช่วีดีโอคอลเหมือนครั้งที่แล้ว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหลายครั้ง เขาถึงยอมกดรับสาย พอเห็นเขารับสายฉันที่ตอนนี้นั่งคร่อมอยู่บนตักของเขาก็ทำท่าจะลุกขึ้นเพื่อจะออกจากตรงนั้น เพราะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขาแค่ต้องการประชดคนรักของเขาเท่านั้นเอง ฉันก็เป็นได้แค่หมากตัวหนึ่งของเขา คิดแล้วก็นึกขำในใจ ทำยังกับตัวเองสำคัญกับเขามากมายสุดท้ายก็เป็นแค่เรื่องสมมุติ แต่พอฉันจะก้าวลง "จะไปไหน " ในขณะที่กดรับสายเสียงทุ้มเข้มยังหันมาคุยกับฉัน "หนูจะไปนั่งที่โซฟาค่ะ " ฉันก้มลงไปกระซิบที่ข้างหูของเขาข้างที่ไม่ได้แนบโทรศัพท์ไว้ที่ข้างหู พอฉันพูดจบเขากลับรั้งเอวของฉันไว้แน่น "ไม่ต้องไป อยู่ตรงนี้แหละ " ฉันเงยหน้ามองเขาอีกครั้ง เขามองมาเหมือนกันสายตาของเขามันบอกอะไรบางอย่างจนฉันต้องนั่งอยู่นิ่งๆ บนตักของเขา ต่อมาเขาก็กดเปิดลำโพงแล้ววางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ " สิงห์ค่ะ พิต้าขอโทษ วันนี้พิต้ากลับไม่ได้จริงๆ ค่ะ" "ไม่เป็นไร กลับมาค่อยคุยกัน " น้ำเสียงตอนนี้ของเขากลับนิ่งและเคร่งขรึมเอามากๆ จนฉันอดมองเขาไม่ได้ แล้วเขาก็กดตัดสายทันที ไม่รอฟังคำตอบรับหรือปฏิเสธใดๆ จากปลายสายเลย แล้วหันมามองที่ตัวฉัน แล้วเฮียสิงห์ก็ยกมือขึ้น นิ้วมือหนามาเกี่ยวผมที่ปรกหน้าของฉันไปทัดไว้ที่หู สายตาที่มองมาตอนนี้มันช่างเย้ายวนเหลือเกิน หัวใจดวงน้อยของฉันที่เต้นระส่ำอยู่ ยิ่งเต้นระรัวหนักขึ้นอย่างบ้าคลั่ง "เอ่อคุณค่ะ " "เฮียสิงห์เรียกฉันเฮียสิงห์ " เขาพูดบอกฉันน้ำเสียงอ่อนโยนแตกต่างจากตอนแรกที่เจอกันอย่างลิบลับ "เฮียสิงห์เมาแล้วนะคะ" ฉันต้องได้พูดบอกเขา เตือนสติเขา เพราะฉันก็พอจะเดาได้ว่าเขาคิดจะทำอะไร ฉันอาจไม่เคยมีแฟน แต่เพื่อนฉันบางคนก็มีลูกไปแล้ว เรื่องแบบนี้ผู้หญิงเขาก็แอบเล่าสู่กันฟังบ้างละ ถึงจะเป็นเรื่องน่าอายแต่ก็ต้องยอมรับว่าตั้งใจฟังกันมากทีเดียว 👉ฝากกดหัวใจ+คอมเมนต์ เพิ่มเข้าชั้นเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ❤️6.น้อยใจ/ผู้ชายในฝัน"เธอรู้ไหมว่าวันนี้ฉันหงุดหงิดและอารมณ์เสียมากแค่ไหน คนที่ฉันไว้ใจคิดว่าเขาจะเห็นฉันสำคัญกว่าใครๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นตัวตนของฉันเลย"ฉันมองหน้าเฮียสิงห์และนั่งฟังแบบนิ่งๆ เขาคงอยากระบายความในใจให้ใครสักคนฟังจึงเลือกมาที่แบบนี้ " แต่เธอก็เข้ามาในช่วงที่ฉันต้องการใครสักคนแก้เหงาพอดี " พอฟังคำของเฮียสิงห์จบฉันก็พอเข้าใจความหมายของเฮียสิงห์แล้ว "ฟ้าอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ค่ะ อยู่ได้จนถึงเวลาเลิกงานเลยค่ะ""ฉันไม่ได้ต้องการแค่นี้ ฉันอยากได้ทั้งคืน เธอจะว่ายังไง ""ค่ะ หมายความว่ายังไงคะ "ฉันยังคงไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดที่เขาสื่อบอกฉัน เพราะฉันไม่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันจะตกลงกันง่ายๆ แบบนี้"วันนี้ฉันขอซื้อเวลาเธอทั้งวันทั้งคืนเลยได้ไหม ""อยากให้ไปอยู่เป็นเพื่อนเหรอคะ ฟ้าไม่เข้าใจค่ะ " "ถามจริงไม่เคยหรือแค่แสดงเพื่อโก่งค่าตัวกันแน่ "" เฮียสิงห์ค่ะ อย่าดูถูกผู้หญิงสิคะ ผู้หญิงบางคนเขาก็อยากเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่เขารักในคืนเข้าห้องหอค่ะ "ฉันอดที่จะตำหนิเฮียสิงห์ไม่ได้ เลยพูดออกไปแบบนั้น พอคิดได้ก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ แต่มันคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกเพราะมันออกจากปา
"มาทำอะไรที่นี่คะ "ฉันทั้งตกใจและแปลกใจในคราเดียว แต่ก็อดเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เขาตามฉันมาเหรอหรือฉันคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแต่คนตรงหน้ากลับไม่ยอมตอบคำถามฉัน ได้แต่ยืนพิงเสาแล้วจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา"มีอะไรหรือเปล่าคะ""แค่อยากมาส่ง "เป็นคำพูดที่ทำให้ใจฉันเต้นรัวได้ดีทีเดียว แต่ก็นั่นแหละมันยิ่งทำฉันแปลกใจมากกว่าเดิมเสียอีก แต่ก็ต้องตัดใจขอตัวขึ้นห้อง เพราะไม่อยากให้เขามองฉันไม่ดี"ขอบคุณมากค่ะ งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะคะ "ถึงแม้จะรู้สึกดีมากแค่ไหนที่เห็นเขาอยู่ตรงนี้ ฉันก็ไม่อยากให้เฮียสิงห์รู้ความในใจของฉันหรอกยิ่งเห็นเขามายืนอยู่ตรงนี้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว กลัวใจตัวเองจะเผลอไผลไปกับเขามากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนระดับเขาไม่มาสนใจผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบฉันหรอกฉันอยากมีเขาอยู่ในฝันมากกว่าความจริง เพราะในฝันฉันจะทำอย่างไรก็ได้แต่ชีวิตจริงฉันต้องอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากๆ เท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลังฉันก้าวเดินขึ้นไปบนห้องพัก ฉันพักอยู่ชั้นสอง หอพักแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น ที่นี่ไม่ได้มีระบบความปลอดภัยอะไรหรอก เพราะเป
" ชนแก้ว "เสียงทุ้มของเฮียสิงห์พูดขึ้นชวนให้ฉันชนแก้วกับเขา นี่เป็นแก้วที่สามแล้ว ฉันก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว จากตอนแรกบอกจะดื่มแค่แก้วเดียว แต่พอหมดแก้วแรกเฮียสิงห์ก็เริ่มพูดเสียงเศร้าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่าไม่มีใครสนใจไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เขาเลย เขาขอดื่มอีกแก้ว เฮียสิงห์พูดจาออดอ้อนฉัน จนฉันใจอ่อนไม่ให้ฉันใจอ่อนได้ไง เฮียสิงห์เวลาเมาอ้อนเก่งมากขอบอก ตอนนี้เราสองคนต่างคนต่างเมาพูดเสียงยานใส่กัน ลิ้นก็พันกันฟังแทบไม่รู้เรื่องกันอยู่แล้ว เฮียสิงห์เขาดื่มตั้งแต่ที่ผับหมดไปขวดหนึ่งแล้ว แต่ฉันเพิ่งดื่มได้สองแก้วเข้าแก้วที่สามก็เริ่มมีอาการโลกหมุนแล้ว"หมดแก้วนี้เฮียกลับเลยนะคะ ฟ้าไม่ไหวแล้ว "" ไล่เฮียเหรอ " เฮียสิงห์ตีหน้าเศร้าอีกแล้ว ฉันต้องยอมใจอ่อนให้เขาอีกแล้วเหรอ ไม่ ไม่ได้ ฉันจะตามใจเขามากเกินไปแล้วเมื่อนึกได้แบบนั้นฉันจึงลุกขึ้นแล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าของเฮียสิงห์ เฮียสิงห์ช้อนสายตาขึ้นมองหน้าฉัน แล้วเลิกคิ้วเป็นการตั้งคำถาม" เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าไม่ได้อยากให้เฮียสิงห์กลับสักนิด แต่มันดึกมากแล้ว วันนี้ฟ้าเหนื่อยมาทั้งวันเลยค่ะ ฟ้าอยากพักแล้ว "ฉันกลั้นใจลุกขึ้นทั้งๆ ที่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนโ
ความเจ็บปวดเรียกสติฉันกลับมาได้ แต่มันก็สายไปแล้ว ฉันไม่น่าไว้ใจให้น้ำมันอยู่ใกล้ไฟแบบนี้เลย ตอนนี้ฉันพยายามถอยหนี เพราะการฉีกขาดของเหยื่อบริสุทธิ์ ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบๆ " อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ซี๊ดด... " เฮียสิงห์พูดเสียงกระเส่าเขาคงรู้สึกถึงความคับแน่นของฉันที่อ้ารัดลำยักษ์ของเขาไว้แน่น ตอนแรกเฮียสิงห์เหมือนจะเมามากจนแทบนั่งไม่อยู่ แต่ตอนนี้ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งแววตาที่เร่าร้อนส่งมาที่ฉันนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แล้วเขาก็ค่อยขยับบั้นเอวช้าๆ เนิบๆ เหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ "ฮื้อ เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าเจ็บค่ะ " น้ำตาของฉันไหลอาบสองแก้มถึงแม้เฮียสิงห์จะพยายามทำเบาแค่ไหนก็ไม่สามารถลดความเจ็บแปลบลงได้เลย "อย่าเกร็งนะครับคนดี มันจะเจ็บแค่ครั้งแรก " เฮียสิงห์ก้มลงจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการปลอบขวัญ จมูกโด่งคมสันค่อยๆ ไล้ลงมาที่แก้มของฉัน ริมฝีปากหนาจูบสับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน มือหนาเลื่อนมาประคองแก้มงามของฉัน สายตาหวานเยิ้มจ้องที่ดวงตาฉันไม่ยอมละสายตาไปไหน จนเป็นฉันเองที่ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย "เอาจริงแล้วน่ะ " เสียงแ
จากเหตุการณ์วันนั้น ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ร่างกายของฉันกลับมาปกติแล้วและเหตุการณ์ระหว่างฉันกับเฮียสิงห์ ฉันไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้แต่ข้าวหอมเพื่อนสนิทของฉันตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่สวนหน้าคณะ เพื่อรอเรียนวิชาต่อไป ฉันกำลังงวนกับงานที่อาจารย์สั่ง เพราะอยากทำให้เสร็จก่อนวันที่อาจารย์นัด เพราะฉันจะไม่มีเวลาทำงานส่งอาจารย์ถ้าไม่ใช่เวลาที่มาเรียนเพราะฉันยังคงทำงานที่ผับของเฮียหนึ่งเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าฉันจะได้เช็คเงินสดจากเฮียสิงห์มาหนึ่งล้านบาทก็ตามฉันคิดไว้ว่าจะเอาไปคืนเขา แต่ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเฮียสิงห์ตอนนี้ เลยจำใจต้องเก็บไว้ก่อนฉันพยายามคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเฮียสิงห์เป็นสิ่งสวยงามสำหรับฉันฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองไปมากกว่านี้ ที่กล้าทำเรื่องน่าอายแบบนั้นลงไป"ฟ้า.. เฮียสิงห์นี่น่ารักเนาะ"ข้าวหอมถามฉันขึ้นในระหว่างที่ฉันกำลังตั้งใจทำงานส่งอาจารย์ ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าข้าวหอมพร้อมขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ข้าวหอมจึงถามฉันแบบนั้น"มีอะไร "ฉันถามข้าวหอมเสียงเรียบเพราะยังไม่รู้ว่าทำไมข้าวหอมถึงได้เอ่ยถึงเฮียสิงห์"ก็นี่ไง เฮียสิงห์เขาพาคุณพิต้าไปดิ
วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์ มองไปทางไหนก็มีแต่ดอกกุหลาบ คู่รักต่างเดินจูงมือกันแน่น บ้างก็หยอกล้อกัน แววตาที่พวกเขามองกันมีแต่ความห่วงใยในมือของฉันมีดอกกุหลาบสีแดงอยู่ดอกหนึ่ง ไม่มีใครให้ฉันหรอกพอดีเดินผ่านร้านขายดอกไม้ตามทางก็เลยซื้อติดมือมาดอกหนึ่งฉันมานั่งรอแม่ที่กำลังจะเลิกงานอยู่ที่บริษัทรถหรูชั้นนำของประเทศแห่งหนึ่งฉันต้องมารอแม่ตรงนี้บ่อยๆ แต่มันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกเบื่อเลย เพราะฉันมีเป้าหมายบางอย่างคงหนีไม่พ้นเรื่องผู้ชาย ส่วนมากฉันได้เห็นเขาแค่ไกลๆ เท่านั้น ใจฉันมันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย ฉันไม่ได้หวังให้เขามากรักมาสนใจฉันฉันขอแค่ได้เห็นหน้าเขา เพื่อเป็นพลังใจในการใช้ชีวิตก็เท่านั้นวันนี้แม่บอกว่าอยากจะพาฉันไปซื้อของอร่อยกินกัน คงอยากให้ฉันเห็นความดีงามของแฟนใหม่มั้งใช่ค่ะ แม่ฉันกำลังมีความรักครั้งใหม่ ผู้ชายคนใหม่ของแม่ก็ดูเหมือนดูแลแม่ดีอยู่เหมือนกันนะแต่ก็ต้องดูกันยาวๆ ความรักไม่มีอะไรแน่นอนหรอก ขนาดพ่อกับแม่ที่อยู่กันมาตั้งหลายปี ก็ยังมีคนมาแย่งความรักไปได้เลยพ่อทิ้งฉันกับแม่ไปปีกว่าแล้ว เขามีครอบครัวใหม่ กับลูกคนใหม่ที่รู้จักออดอ้อนพ่อของฉัน จนฉันกลายเป็นหมาหัว
ปลายฟ้าเธอเรียนอยู่คณะบัญชี เพราะเธอคิดว่าน่าจะเป็นสาขาที่หางานง่ายที่สุดแล้ว แต่ก่อนจะเรียนจบได้งานดีๆ ทำนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอตอนนี้ฉันต้องหาเงินเพื่อไว้ใช้จ่ายประจำวันก่อนที่จะเรียนจบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหางานดีๆ ทำสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งแต่ฉันได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นเพื่อนใหม่ เจอกันที่มหาลัยนี้เอง เธอชื่อว่าข้าวหอม ข้าวหอมเธอรู้จักกับเจ้าของผับคนหนึ่ง เธอบอกว่าเขาใจดีมาก เธอก็ทำงานที่นั่นเป็นการหารายได้เสริม เพราะเธออยู่กับยายที่อายุมากแล้ว และยายก็ป่วยบ่อยๆเฮียเจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับพี่ชายของข้าวหอม แต่พี่ชายเธอได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้วข้าวหอมเธอจึงต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง จริงๆ แล้วเฮียหนึ่งเพื่อนพี่ชายเธอก็ให้เงินเธอเป็นรายเดือนอยู่แล้ว แต่ข้าวหอมเธอเกรงใจจึงอาสามาช่วยเขาทำงานที่ผับฉันเลยตัดสินใจมาสมัครเป็นเด็กเสิร์ฟของผับของเฮียหนึ่ง เงินเดือนก็พอได้ใช้ชีวิตอยู่ได้ ถ้าฉันประหยัดเงินได้มากพอ เพียงแต่เวลานอนของฉันมันน้อยกว่าใครเท่านั้นเอง และนั่นไม่ใช่ปัญหาฉันทนได้ปัญหาของฉันคือฉันต้องทำงานเก็บเงินหาค่าเทอมด้วยตัวเอง ฉันรู้ซึ้งถึงกา
3.แขกวีไอพีฉันทำงานที่นี่ได้เดือนกว่าแล้ว และวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก เงินเดือนของฉันตรงกับวันที่ห้าของทุกเดือน ฉันดีใจมากเมื่อเห็นยอดเงินในซองสีขาวพร้อมสลิปเงินเดือน นี่เป็นเงินที่ฉันมีมากที่สุดในชีวิต ฉันยิ้มแก้มแทบปริแต่สุดท้ายฉันก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงค่าเช่าห้องที่ฉันค้างไว้สองเดือนแล้ว และค่าเทอมที่ฉันขอผ่อนผันก็ใกล้ถึงวันนัดเข้ามาทุกทีเฮ้อ!!ฉันเผลอถอนหายใจเสียงดังออกมา พอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังจัดร้านอยู่ซึ่งพอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาก็พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากฉัน"ขอโทษค่ะ " ฉันรีบเอ่ยขอโทษทุกคนที่อยู่บริเวณนี้"ขอโทษอะไร ไม่สบายใจอะไรก็พูดมาถ้าเกี่ยวกับงานจะได้เข้าใจกัน "พี่ผู้จัดการร้านพูดขึ้น" ไม่ใช่เรื่องงานค่ะพี่บอย "ฉันตอบกลับไปทันที ไม่อยากให้คนที่ทำงานด้วยกันต้องคิดมาก และทุกคนก็ยิ้มตอบกลับให้ฉันเพราะฉันหันมองสบตากับทุกคนเพราะอยากแสดงความจริงใจ และฉันก็อธิบายต่อถือโอกาสนี้พูดให้ทุกคนเข้าใจ"เรื่องเรียนค่ะฟ้าแค่กังวลเรื่องเรียนค่ะ ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะคะ ทุกคนใจดีกับฟ้า ฟ้าทำงานไม่เป็นก็ช่วยสอนทุกอย่าง ฟ้าทำงานที่นี่มีความสุขมากค่ะ "และทุกคนก็ไม
จากเหตุการณ์วันนั้น ก็ผ่านมาห้าวันแล้ว ร่างกายของฉันกลับมาปกติแล้วและเหตุการณ์ระหว่างฉันกับเฮียสิงห์ ฉันไม่ได้เล่าให้ใครฟังแม้แต่ข้าวหอมเพื่อนสนิทของฉันตอนนี้ฉันนั่งอยู่ที่สวนหน้าคณะ เพื่อรอเรียนวิชาต่อไป ฉันกำลังงวนกับงานที่อาจารย์สั่ง เพราะอยากทำให้เสร็จก่อนวันที่อาจารย์นัด เพราะฉันจะไม่มีเวลาทำงานส่งอาจารย์ถ้าไม่ใช่เวลาที่มาเรียนเพราะฉันยังคงทำงานที่ผับของเฮียหนึ่งเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าฉันจะได้เช็คเงินสดจากเฮียสิงห์มาหนึ่งล้านบาทก็ตามฉันคิดไว้ว่าจะเอาไปคืนเขา แต่ยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้าเฮียสิงห์ตอนนี้ เลยจำใจต้องเก็บไว้ก่อนฉันพยายามคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเฮียสิงห์เป็นสิ่งสวยงามสำหรับฉันฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดกับตัวเองไปมากกว่านี้ ที่กล้าทำเรื่องน่าอายแบบนั้นลงไป"ฟ้า.. เฮียสิงห์นี่น่ารักเนาะ"ข้าวหอมถามฉันขึ้นในระหว่างที่ฉันกำลังตั้งใจทำงานส่งอาจารย์ ฉันเงยหน้าขึ้นมองหน้าข้าวหอมพร้อมขมวดคิ้วเรียวเข้าหากันด้วยความสงสัยว่าทำไมอยู่ๆ ข้าวหอมจึงถามฉันแบบนั้น"มีอะไร "ฉันถามข้าวหอมเสียงเรียบเพราะยังไม่รู้ว่าทำไมข้าวหอมถึงได้เอ่ยถึงเฮียสิงห์"ก็นี่ไง เฮียสิงห์เขาพาคุณพิต้าไปดิ
ความเจ็บปวดเรียกสติฉันกลับมาได้ แต่มันก็สายไปแล้ว ฉันไม่น่าไว้ใจให้น้ำมันอยู่ใกล้ไฟแบบนี้เลย ตอนนี้ฉันพยายามถอยหนี เพราะการฉีกขาดของเหยื่อบริสุทธิ์ ยังคงรู้สึกเจ็บแปลบๆ " อยู่นิ่งๆ อย่าขยับ ซี๊ดด... " เฮียสิงห์พูดเสียงกระเส่าเขาคงรู้สึกถึงความคับแน่นของฉันที่อ้ารัดลำยักษ์ของเขาไว้แน่น ตอนแรกเฮียสิงห์เหมือนจะเมามากจนแทบนั่งไม่อยู่ แต่ตอนนี้ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ทั้งแววตาที่เร่าร้อนส่งมาที่ฉันนั้น มันทำให้ฉันรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งตัว แล้วเขาก็ค่อยขยับบั้นเอวช้าๆ เนิบๆ เหมือนกลัวว่าฉันจะเจ็บ "ฮื้อ เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าเจ็บค่ะ " น้ำตาของฉันไหลอาบสองแก้มถึงแม้เฮียสิงห์จะพยายามทำเบาแค่ไหนก็ไม่สามารถลดความเจ็บแปลบลงได้เลย "อย่าเกร็งนะครับคนดี มันจะเจ็บแค่ครั้งแรก " เฮียสิงห์ก้มลงจูบที่หน้าผากฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยนเพื่อเป็นการปลอบขวัญ จมูกโด่งคมสันค่อยๆ ไล้ลงมาที่แก้มของฉัน ริมฝีปากหนาจูบสับน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มของฉันอย่างอ่อนโยน มือหนาเลื่อนมาประคองแก้มงามของฉัน สายตาหวานเยิ้มจ้องที่ดวงตาฉันไม่ยอมละสายตาไปไหน จนเป็นฉันเองที่ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเขินอาย "เอาจริงแล้วน่ะ " เสียงแ
" ชนแก้ว "เสียงทุ้มของเฮียสิงห์พูดขึ้นชวนให้ฉันชนแก้วกับเขา นี่เป็นแก้วที่สามแล้ว ฉันก็เริ่มจะไม่ไหวแล้ว จากตอนแรกบอกจะดื่มแค่แก้วเดียว แต่พอหมดแก้วแรกเฮียสิงห์ก็เริ่มพูดเสียงเศร้าอย่างน้อยเนื้อต่ำใจว่าไม่มีใครสนใจไม่มีใครอยากอยู่ใกล้เขาเลย เขาขอดื่มอีกแก้ว เฮียสิงห์พูดจาออดอ้อนฉัน จนฉันใจอ่อนไม่ให้ฉันใจอ่อนได้ไง เฮียสิงห์เวลาเมาอ้อนเก่งมากขอบอก ตอนนี้เราสองคนต่างคนต่างเมาพูดเสียงยานใส่กัน ลิ้นก็พันกันฟังแทบไม่รู้เรื่องกันอยู่แล้ว เฮียสิงห์เขาดื่มตั้งแต่ที่ผับหมดไปขวดหนึ่งแล้ว แต่ฉันเพิ่งดื่มได้สองแก้วเข้าแก้วที่สามก็เริ่มมีอาการโลกหมุนแล้ว"หมดแก้วนี้เฮียกลับเลยนะคะ ฟ้าไม่ไหวแล้ว "" ไล่เฮียเหรอ " เฮียสิงห์ตีหน้าเศร้าอีกแล้ว ฉันต้องยอมใจอ่อนให้เขาอีกแล้วเหรอ ไม่ ไม่ได้ ฉันจะตามใจเขามากเกินไปแล้วเมื่อนึกได้แบบนั้นฉันจึงลุกขึ้นแล้วไปยืนอยู่ตรงหน้าของเฮียสิงห์ เฮียสิงห์ช้อนสายตาขึ้นมองหน้าฉัน แล้วเลิกคิ้วเป็นการตั้งคำถาม" เฮียสิงห์ค่ะ ฟ้าไม่ได้อยากให้เฮียสิงห์กลับสักนิด แต่มันดึกมากแล้ว วันนี้ฟ้าเหนื่อยมาทั้งวันเลยค่ะ ฟ้าอยากพักแล้ว "ฉันกลั้นใจลุกขึ้นทั้งๆ ที่ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนโ
"มาทำอะไรที่นี่คะ "ฉันทั้งตกใจและแปลกใจในคราเดียว แต่ก็อดเอ่ยปากถามออกไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ เขาตามฉันมาเหรอหรือฉันคิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไปแต่คนตรงหน้ากลับไม่ยอมตอบคำถามฉัน ได้แต่ยืนพิงเสาแล้วจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหา"มีอะไรหรือเปล่าคะ""แค่อยากมาส่ง "เป็นคำพูดที่ทำให้ใจฉันเต้นรัวได้ดีทีเดียว แต่ก็นั่นแหละมันยิ่งทำฉันแปลกใจมากกว่าเดิมเสียอีก แต่ก็ต้องตัดใจขอตัวขึ้นห้อง เพราะไม่อยากให้เขามองฉันไม่ดี"ขอบคุณมากค่ะ งั้นฟ้าขอตัวก่อนนะคะ "ถึงแม้จะรู้สึกดีมากแค่ไหนที่เห็นเขาอยู่ตรงนี้ ฉันก็ไม่อยากให้เฮียสิงห์รู้ความในใจของฉันหรอกยิ่งเห็นเขามายืนอยู่ตรงนี้ฉันยิ่งรู้สึกกลัว กลัวใจตัวเองจะเผลอไผลไปกับเขามากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนระดับเขาไม่มาสนใจผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าแบบฉันหรอกฉันอยากมีเขาอยู่ในฝันมากกว่าความจริง เพราะในฝันฉันจะทำอย่างไรก็ได้แต่ชีวิตจริงฉันต้องอยู่ให้ห่างจากเขาให้มากๆ เท่าที่จะทำได้ ถ้าไม่อยากเสียใจทีหลังฉันก้าวเดินขึ้นไปบนห้องพัก ฉันพักอยู่ชั้นสอง หอพักแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น ที่นี่ไม่ได้มีระบบความปลอดภัยอะไรหรอก เพราะเป
6.น้อยใจ/ผู้ชายในฝัน"เธอรู้ไหมว่าวันนี้ฉันหงุดหงิดและอารมณ์เสียมากแค่ไหน คนที่ฉันไว้ใจคิดว่าเขาจะเห็นฉันสำคัญกว่าใครๆ แต่เขากลับมองไม่เห็นตัวตนของฉันเลย"ฉันมองหน้าเฮียสิงห์และนั่งฟังแบบนิ่งๆ เขาคงอยากระบายความในใจให้ใครสักคนฟังจึงเลือกมาที่แบบนี้ " แต่เธอก็เข้ามาในช่วงที่ฉันต้องการใครสักคนแก้เหงาพอดี " พอฟังคำของเฮียสิงห์จบฉันก็พอเข้าใจความหมายของเฮียสิงห์แล้ว "ฟ้าอยู่เป็นเพื่อนคุณได้ค่ะ อยู่ได้จนถึงเวลาเลิกงานเลยค่ะ""ฉันไม่ได้ต้องการแค่นี้ ฉันอยากได้ทั้งคืน เธอจะว่ายังไง ""ค่ะ หมายความว่ายังไงคะ "ฉันยังคงไม่เข้าใจความหมายทั้งหมดที่เขาสื่อบอกฉัน เพราะฉันไม่คิดว่าเรื่องพวกนี้มันจะตกลงกันง่ายๆ แบบนี้"วันนี้ฉันขอซื้อเวลาเธอทั้งวันทั้งคืนเลยได้ไหม ""อยากให้ไปอยู่เป็นเพื่อนเหรอคะ ฟ้าไม่เข้าใจค่ะ " "ถามจริงไม่เคยหรือแค่แสดงเพื่อโก่งค่าตัวกันแน่ "" เฮียสิงห์ค่ะ อย่าดูถูกผู้หญิงสิคะ ผู้หญิงบางคนเขาก็อยากเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่เขารักในคืนเข้าห้องหอค่ะ "ฉันอดที่จะตำหนิเฮียสิงห์ไม่ได้ เลยพูดออกไปแบบนั้น พอคิดได้ก็รีบเอามือมาปิดปากไว้ แต่มันคงช่วยอะไรไม่ได้มากหรอกเพราะมันออกจากปา
จากที่ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองมาพักใหญ่ ตอนนี้คนตัวโตเริ่มมีอาการเมาแล้วด้วย เพราะฉันไม่รู้จะทำอะไรพอเห็นแก้วว่างก็หยิบขึ้นมารินท่าเดียวจนตอนนี้เกือบหมดขวดแล้ว ไม่ให้เขาเมาได้ยังไงกินคนเดียวด้วย "จะมอมไวน์ฉันหรือไง เทไวน์ไม่มีป้ายหยุดขนาดนี้ " คนตัวโตเริ่มพูดเสียงยานเพราะดื่มไปมากแล้ว "หนูก็อยากจะมอมให้เมาแหละค่ะ แต่คุณคอแข็งมากเลยนะคะ "พอได้ยินฉันบอกเขาว่าอยากมอมไวน์เขาเท่านั้นแหละ จากที่ดูอ่อนโยนกลายเป็นนั่งตัวตรงและเงียบขรึมทันที พอฉันเห็นเขาทำท่าไม่พอใจก็อดไม่ได้ที่จะเขาไปใกล้ " ขอโทษค่ะ แค่หยอกเล่นค่ะ " "ฉันเป็นเพื่อนเล่นเธอหรือไง " เขาตอบกลับฉันเสียงดุ จนฉันต้องเม้มปากแน่แล้วก้มหน้าลง ฉันคงเล่นเกินไปจริงๆ แหละ เขาเป็นใครฉันเป็นใคร ฉันรู้ตัวดี "ขอโทษอีกครั้งค่ะ" แล้วฉันก็ขยับตัวถอยห่างออกจากเขา ควรระลึกในใจเสมอว่าฉันเป็นใครตื๊ดๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของคนตัวโตดังขึ้น เป็นการโทรมาแบบวิดีโอคอล ที่ฉันรู้ได้เพราะฉันมองที่โทรศัพท์ของเขา และฉันก็เห็นว่ารูปผู้หญิงที่วิดีโอคอลมานั้นเป็นใคร เธอเป็นนางเอกดังระดับแนวหน้าของประเทศ และคงเป็นคนรักของเขาเพราะช่วงหลังมานี้เขา
4.ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอ" ว้าว! สวยมากเลยฟ้า พี่ว่าแล้วว่าฟ้าต้องรอด ไม่สิเราต้องรอด "ที่พี่บอยพูดแบบนี้เพราะแขกวีไอพีคนนี้กำลังอารมณ์ไม่ดีเอามากๆ จากที่พนักงานต้อนรับพาไปส่งที่ห้องวีไอพี เขาก็เรียกหาคนดูแลประจำที่เป็นดาวของที่นี่แต่วันนี้แขกวีไอพีประจำอีกคนก็มาและเธอกำลังดูแลแขกคนนั้นอยู่ทำให้แขกวีไอพีที่มาทีหลังปรามาสไว้ว่าถ้าหาได้ไม่สวยเท่าคนเก่าจะไปโวยกับเฮียหนึ่งเจ้าของผับซึ่งวันนี้เฮียหนึ่งก็ยังไม่เข้าร้านโทรติดต่อก็ไม่ได้ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ถ้าเฮียหนึ่งอยู่ปัญหาแค่นี้ก็จิ๊บๆแต่ตอนนี้เขาไม่อยู่ไง เลยต้องส่งหน่วยกล้าตายเข้าไปแทนและก็คือฉันเอง และถ้าเฮียหนึ่งเข้ามาแล้วพี่บอยจะรีบแจ้งให้เฮียหนึ่งเข้าไปหาแขกคนนี้ทันทีฉันที่ตอนนี้ยืนอยู่หน้ากระจกและพยายามดึงชุดที่สวมใส่อยู่เพื่อมาปิดความใหญ่โตตรงทรวงอกอวบๆ ของฉัน แต่ก็ไม่สามารถทำได้ดึงบนล่างก็เปิด ดึงข้างล่างบนก็เปิด จนฉันต้องถอนหายใจออกมา และเดินออกมาทั้งแบบนั้น เพื่อที่จะขึ้นไปที่ห้องสองศูนย์สี่ เพราะแขกวีไอพีกำลังรออยู่ที่ห้องนี้พอเดินมาถึงที่หน้าห้องสองศูนย์สี่ ก็เจอชายชุดดำยืนเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู"มาดูแลนายใช่ไหมครับ "" เ
3.แขกวีไอพีฉันทำงานที่นี่ได้เดือนกว่าแล้ว และวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก เงินเดือนของฉันตรงกับวันที่ห้าของทุกเดือน ฉันดีใจมากเมื่อเห็นยอดเงินในซองสีขาวพร้อมสลิปเงินเดือน นี่เป็นเงินที่ฉันมีมากที่สุดในชีวิต ฉันยิ้มแก้มแทบปริแต่สุดท้ายฉันก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อนึกถึงค่าเช่าห้องที่ฉันค้างไว้สองเดือนแล้ว และค่าเทอมที่ฉันขอผ่อนผันก็ใกล้ถึงวันนัดเข้ามาทุกทีเฮ้อ!!ฉันเผลอถอนหายใจเสียงดังออกมา พอนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้ฉันกำลังจัดร้านอยู่ซึ่งพอเงยหน้าขึ้นก็เห็นสายตาก็พี่ๆ เพื่อนๆ ที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากฉัน"ขอโทษค่ะ " ฉันรีบเอ่ยขอโทษทุกคนที่อยู่บริเวณนี้"ขอโทษอะไร ไม่สบายใจอะไรก็พูดมาถ้าเกี่ยวกับงานจะได้เข้าใจกัน "พี่ผู้จัดการร้านพูดขึ้น" ไม่ใช่เรื่องงานค่ะพี่บอย "ฉันตอบกลับไปทันที ไม่อยากให้คนที่ทำงานด้วยกันต้องคิดมาก และทุกคนก็ยิ้มตอบกลับให้ฉันเพราะฉันหันมองสบตากับทุกคนเพราะอยากแสดงความจริงใจ และฉันก็อธิบายต่อถือโอกาสนี้พูดให้ทุกคนเข้าใจ"เรื่องเรียนค่ะฟ้าแค่กังวลเรื่องเรียนค่ะ ทุกคนอย่าเข้าใจผิดนะคะ ทุกคนใจดีกับฟ้า ฟ้าทำงานไม่เป็นก็ช่วยสอนทุกอย่าง ฟ้าทำงานที่นี่มีความสุขมากค่ะ "และทุกคนก็ไม
ปลายฟ้าเธอเรียนอยู่คณะบัญชี เพราะเธอคิดว่าน่าจะเป็นสาขาที่หางานง่ายที่สุดแล้ว แต่ก่อนจะเรียนจบได้งานดีๆ ทำนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับเธอตอนนี้ฉันต้องหาเงินเพื่อไว้ใช้จ่ายประจำวันก่อนที่จะเรียนจบ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหางานดีๆ ทำสำหรับนักศึกษาที่เพิ่งเข้าเรียนปีหนึ่งแต่ฉันได้รู้จักและสนิทกับเพื่อนคนหนึ่งเป็นเพื่อนใหม่ เจอกันที่มหาลัยนี้เอง เธอชื่อว่าข้าวหอม ข้าวหอมเธอรู้จักกับเจ้าของผับคนหนึ่ง เธอบอกว่าเขาใจดีมาก เธอก็ทำงานที่นั่นเป็นการหารายได้เสริม เพราะเธออยู่กับยายที่อายุมากแล้ว และยายก็ป่วยบ่อยๆเฮียเจ้าของร้านเป็นเพื่อนกับพี่ชายของข้าวหอม แต่พี่ชายเธอได้เสียชีวิตไปหลายปีแล้วข้าวหอมเธอจึงต้องหาเงินเลี้ยงตัวเอง จริงๆ แล้วเฮียหนึ่งเพื่อนพี่ชายเธอก็ให้เงินเธอเป็นรายเดือนอยู่แล้ว แต่ข้าวหอมเธอเกรงใจจึงอาสามาช่วยเขาทำงานที่ผับฉันเลยตัดสินใจมาสมัครเป็นเด็กเสิร์ฟของผับของเฮียหนึ่ง เงินเดือนก็พอได้ใช้ชีวิตอยู่ได้ ถ้าฉันประหยัดเงินได้มากพอ เพียงแต่เวลานอนของฉันมันน้อยกว่าใครเท่านั้นเอง และนั่นไม่ใช่ปัญหาฉันทนได้ปัญหาของฉันคือฉันต้องทำงานเก็บเงินหาค่าเทอมด้วยตัวเอง ฉันรู้ซึ้งถึงกา