Share

EP.2 งานแต่งงานที่แสนจะอัปยศ

2

งานแต่งงานที่แสนจะอัปยศ

“แล้วทำไมถึงเป็นอิงค์ล่ะ?”

คำถามนี้เป็นของย่าพิสมัย ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าในงานมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเหนือนทีตั้งหลายคน ทั้งเพื่อนเก่าที่จันทบุรี ทั้งเหมือนสมัยไปเรียนเมืองนอกเมืองนา หากต้องการหาใครก็ได้มาแต่งงานแทนแล้วทำไมจะต้องเป็นอินทิราหลานสาวคนเดียวของเธอ

“ก็เพราะทิพย์อยากทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณป้าค่ะ ทิพย์กราบขอโทษ…” ทิพย์นารียกมือไหว้พิสมัย “ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญาตั้งแต่แรก แล้วพอเกิดเรื่องขึ้น ก็นึกอยากจะทำตามสัญญา”

“สัญญาอะไรคะ?” อินทิราหันถามย่ากับแม่

“สิบกว่าปีก่อนตอนที่บ้านเราไม่มีทุนจะทำรพีไก่ทอด ย่าของหลานเป็นคนช่วยเรื่องทุน…ให้ทุนมาโดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่สตางค์เดียว ป้าก็เลยให้คำสัญญาเอาไว้ ว่าหากวันหนึ่งวันใดที่เจ้าเหนือมันเติบโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้แล้ว ป้าจะพาลูกชายมาสู่ขอหลาน แต่ป้าก็ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้เพราะเจ้าเหนือมันดันไปมีแฟนเสียก่อน แล้วในเมื่อตอนนี้แฟนของมันหนีไปแล้ว…ป้าเลยอยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับย่าหลาน” ทิพย์นารีออกหน้าตอบคำถามของอินทิรา

“เรื่องนี้คงต้องให้อิงค์มันตัดสินใจเอาเอง” พิสมัยว่า “ก็เห็นกันอยู่ว่าถ้าไม่มีเรื่องทิพย์ก็คงไม่กลับมาพูดถึงสัญญา พูดกันง่ายๆ ทิพย์อยากจะเอาอิงค์ไปแต่งงานแทนเจ้าสาวคนเก่า”

“ทิพย์ขอโทษค่ะป้าพิส ขอโทษนวลกับหนูอิงค์ด้วย แต่หนูอิงค์เป็นความหวังเดียวของบ้านเรา ตอนนี้เจ้าเหนือมันไม่เอาอะไรเลย มันไม่พูดอะไรสักคำเดียว พอรู้เรื่องมันก็คว้าเหล้าเข้าปากทันที ต่อให้ไม่รู้สาเหตุแต่ก็คงเดาได้ไม่ยาก คงมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นระหว่างมันกับแฟน เขาถึงได้หนีไปแบบนั้น”

“…” ก้อนความรู้สึกวิ่งเข้ามาจุกที่กลางอกอินทิรา ไอ้พี่เหนือมันโดนเทในวันแต่งงาน คงจะช็อกแล้วก็เสียใจอยู่ไม่น้อย “มีแค่อิงค์เหรอคะที่ป้าทิพย์เลือกให้ไปแต่งงานแทน?”

“มีแค่อิงค์ที่ป้าไว้ใจ ยังไงซะเหนือกับอิงค์ก็รู้จักกันมาก่อน…อย่าเรียกว่าแต่งงานแทนเลยลูก การแต่งงานครั้งนี้ป้าหวังว่ามันจะเป็นการแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตของอิงค์กับเจ้าเหนือมัน ป้าไม่อยากจะเอาลูกชายมาขายหรือยกยอให้ดูดี แต่เจ้าเหนือน่ะถึงมันจะดูเหมือนคนเจ้าชู้ แต่มันก็แค่เล่นๆ ไปแบบนั้นแหละ ปากมันอาจจะเสียหน่อย แต่มันมีความรับผิดชอบ มันตั้งใจและทำงานเก่ง ป้าเชื่อว่าถ้ามันแต่งงานแล้วมันจะไม่ทำให้คู่แต่งงานต้องลำบากแน่”

“แต่เหนือเขาจะรักอิงค์ได้เหรอคะ? เหนือกับอิงค์ถึงจะรู้จักกันมาก่อนแต่ก็ไม่ได้เจอกันมานาน…นวลกลัวว่าการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักมันจะ…” นวลจันทร์ไม่ห่วงเรื่องอื่น เพราะรู้ว่าเหนือนทีนั้นเก่งและมีความสามารถ ที่เธอห่วงมีเรื่องเดียวคือเรื่องความรัก การแต่งงานมันควรมีความรักเป็นรากฐาน

“ตอนย่าแต่งงานกับปู่ก็ไม่ได้รักกันมาก่อน ฟังดูเหมือนง่ายแต่มันก็จริง…ไอ้ที่ว่าอยู่ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ย่าไม่ได้พูดเพราะอยากจะใส่ชุดผ้าไหมมางานแต่งอิงค์นะลูก แต่ย่าเองก็เห็นเหนือเขามานาน…ย่ามั่นใจว่าถ้าเหนือเขารักใครแล้ว ความรักของเขาคือรักแท้” พิสมัยกุมมือหลานสาวไว้แน่น “แต่ถ้าอิงค์บอกว่าไม่ ย่าก็จะไม่บังคับ ถ้าอิงค์ไม่อยากแต่งงานก็ไม่ต้องแต่ง”

งานเข้าอินทิราแบบเต็มขั้น ใครจะคิดว่าอยู่ๆ เธอจะได้รับข้อเสนอให้แต่งงานกับรักแรก เวลานี้นอกจากจะคิดหนักว่าควรตอบรับหรือปฏิเสธ เธอยังอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ ถ้าถึงขั้นเมาหัวทิ่มหัวตำ ไม่พูดไม่จาก็แปลว่าคงจะรักมากทีเดียว

“ถ้าอิงค์ตกลง…ป้าจะเรียกช่างหน้าช่างผมเข้ามาเลย อิงค์สวยอยู่แล้ว…หน้าผมก็พร้อมแล้วประมาณนึง รูปร่างก็พอๆ กับเจ้าสาวคนเก่า ชุดก็คงใส่ด้วยกันได้” ทิพย์นารีรู้สึกได้ว่าคำตอบนั้นอาจไม่แย่เสียทีเดียว เพราะหากอินทิราไม่อยากแต่งงานกับเหนือนที เธอคงปฏิเสธออกมาทันควัน แต่นี่เธอดูลังเลและครุ่นคิด มีทางเป็นไปได้มากว่าสุดท้ายแล้วเธอจะตกลง

“ว่าไงลูกอิงค์…จะช่วยพี่เขาไหม? แม่จะไม่บังคับอะไรเลยเพราะการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่แล้วก็ควรจะเกิดขึ้นด้วยความรัก” นวลจันทร์ถามลูกสาว ตัวเธอเองไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าคำตอบจากอินทิราจะเป็นยังไง

“อิงค์จะแต่งค่ะ”

“ว่าไงนะอิงค์?” คำตอบนั้นทำเอาพิสมัย นวลจันทร์หรือแม่แต่ทิพย์นารีได้แต่ประหลาดใจ

“อิงค์บอกว่าอิงค์จะแต่งงานกับพี่เหนือ เพื่อช่วยให้พี่เหนือกับป้าทิพย์แล้วก็ลุงต้นผ่านเรื่องวันนี้ไปให้ได้ แล้วหลังจากนั้นเราค่อยมาว่ากันอีกทีว่าจะเอายังไงต่อ” จบคำนั้นอินทิราก็เดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง คืนก่อนยังเสียน้ำตาให้เขาที่เป็นรักแรกอยู่เลย ยังเพิ่งจะเสียใจที่ได้ข่าวว่าเขาจะแต่งงานอยู่แท้ๆ ใครเลยจะคิดว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นเธอที่ได้กลายมาเป็นเจ้าสาวของเขา ถึงจะเป็นแค่ตัวแทน…ถึงจะไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรัก มีเพียงเธอที่รู้ดีว่านี่คือโอกาส นับแต่วินาทีนี้ สมองและหัวใจรวมถึงร่างกายของเธอ ทุกวินาทีต่อแต่นี้…มีไว้เพื่อขโมยหัวใจเหนือนที

ยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกคนนี้จะทำให้ไอ้พี่เหนือหลงรักจนหัวปักหัวปำ รักแบบถอนตัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว!

งานแต่งงานได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการฝั่งเจ้าบ่าวมีต้นคิดผู้เป็นพ่อคอยดูแล สภาพไม่ต่างอะไรจากคนไร้สติ…ก็เขาเล่นดื่มหนักมาตั้งแต่ตีห้า ดื่มทันทีที่ได้รู้ว่าเจ้าสาวขึ้นเครื่องบินหนีไปแล้ว เวลานี้แค่นั่งรอให้ผู้ใหญ่มารดน้ำสังข์ได้ก็บุญแล้ว เสียงซุบซิบจากแขกในงานดังเซ็งแซ่จนได้ยินมาถึงอินทิรา เธอที่นั่งพนมมือรับพรอยู่ได้รับรู้ทุกอย่าง พวกเขารู้ว่าเจ้าสาวถูกเปลี่ยนตัว พวกเขารู้ว่างานแต่งงานนี้ผิดปกติ แต่มันก็ไม่ทำให้มีอะไรเปลี่ยนแปลง งานแต่งงานยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพราะพวกเขาไม่ได้มางานนี้เพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวเพียงอย่างเดียว บางคนมาเปิดตัวธุรกิจ บางคนมาหาคอนเนคชัน บางคนมาหาเสียง ส่วนพวกเพื่อนๆ ไอ้พี่เหนือก็มาเมา ถึงจะแปลกใจและห่วงเพื่อนที่เจ้าสาวตัวจริงหายไป แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ อีกอย่างพวกเขาก็รู้จักอินทิรากันดีอยู่แล้ว

รดน้ำสังข์จบก็ฟังพระสวด…พิธีตอนเช้าสิ้นสุดลงหลังจากที่แขกเหรื่อได้รับประทานอาหาร คู่บ่าวสาวได้พักเพียงไม่นานก็ต้องกลับลงมาเข้างานเลี้ยงในช่วงเย็น จนถึงตอนนี้อินทิราก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับเหนือนทีแม้แต่คำเดียว ได้ยินอยากป้าทิพย์ว่าพอจบพิธีช่วงเช้าเขาก็ไปเมาต่อ ถึงเวลางานเลี้ยงก็ลงมายืนไร้สติอยู่เคียงข้างเธอพร้อมกับกลิ่นละมุดเหม็นหึ่ง

“พี่เหนือยืนไหวหรือเปล่า?” คำแรกที่เจ้าสาวได้พูดกับเจ้าบ่าว เธอเห็นตัวเขาซวนเซไปมาจนเหมือนจะล้มอยู่รอมร่อเลยรีบพยุงเอาไว้

“อึก!” มีเพียงการสะอึกเป็นคำตอบ แค่เขายอมมาร่วมมือทำให้งานแต่งจบลงด้วยดีก็ถือเป็นความโชคดีของพ่อแม่แล้ว เป็นคนอื่นถ้าไม่วิ่งตามเจ้าสาวคนเก่าไป ก็คงนอนร้องไห้ไร้สติอยู่ที่พื้นห้อง หลบมุมฟูมฟายอยู่ที่ไหนสักแห่ง

“เอาน้ำเปล่าหน่อยไหมคะ? อิงค์ว่า…”

“อึก!”

“พี่เหนือไปพักก่อนดีไหม? ทำไมทำหน้าเหมือนจะ…”

ตึง!

ถามไม่ทันจบเหนือนทีก็ทิ้งตัวลงนอนกับพื้นก่อนจะพรวดพราดเอาสิ่งที่กินไปวันก่อนออกมา ช่างเป็นภาพที่อุจาดตา อินทิราเห็นแบบนั้นก็นึกอยากจะอาเจียนตามไปด้วย ยอมรับเลยว่าเธออึ้ง…ทั้งอึ้งและอับอายขายขี้หน้า แค่เป็นเจ้าสาวตัวแทนก็ว่าแย่มากแล้วแต่นี่…เจ้าบ่าวของเธอกำลังนอนพ่นของเก่าออกจากทางเดินอาหารอยู่ที่พื้นเวที

“เวรแล้ว!” ฟองเบียร์เพื่อนเก่าสมัยเรียนที่จันท์ของเหนือนทีที่มารับหน้าที่เป็นพิธีกรสบถออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะรีบตั้งสติแล้วคว้าไมค์ขึ้นมาพูดกับแขกในงานที่ต่างก็พากันลุกขึ้นยืนมองดูเจ้าบ่าวไร้สติ “เรียกแขกที่เคารพทุกท่านนะฮะ งานเลี้ยงการแต่งงานของเหนือนทีและมิ…เอ่อ งานแต่งงานของเหนือนทีกับอินทิราหรือน้องอิงค์ได้เริ่มต้นและจบลงแล้ว ขอให้ทุกคนตามสบาย มีเครื่องดื่มและอาหารมากมายรอพวกท่านอยู่และอีกไม่นานเกินรอจะมีคอนเสิร์ตเล็กๆ ด้วยนะฮะ ขอบคุณมากฮะ”

“เจ้าเหนือ!” ต้นคิดวิ่งเข้ามาประคองลูกชายให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่เหล่าพนักงานชายของโรงแรมจะเข้ามาพาเขาลงจากเวทีไป อินทิรายังคงยืนนิ่งทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่แน่ใจว่าควรจะตามเขาไปหรือยืนอยู่ตรงนี้เพื่อให้แขกได้ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยคำถามจ้องมองเธอ คิดในใจว่าหากเพื่อนของเธอได้รู้เรื่องหรือได้มาเห็นก็คงหัวเราะลั่นออกมา พลันความคิดอยากเปลี่ยนเกิดขึ้นมาในทันใด อยากจะกลับไปซุกตัวใต้ผ้าห่มที่บ้านสวนแล้วกรีดร้องออกมาเพื่อระบายความอับอายขายขี้หน้านี้เต็มทน!

คำอวยพรและคำสอนมากมายจากผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านไม่ได้ช่วยให้อินทิรารู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ผัวเมียก็เหมือนลิ้นกับฟันต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา คู่ชีวิตแค่รักอย่างเดียวไม่พอต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจ หรือจะเป็นเมียที่ดีต้องเคารพและเชื่อฟังผัว ต้องทำตัวเป็นช้างเท้าหลังคอยสนับสนุนให้ผัวนำพาครอบครัวไปสู่ความก้าวหน้า

หญิงสาวในชุดเจ้าสาวถอนหายใจพรืดใหญ่ วันนี้เธอเจอมาหนัก…พอผู้ใหญ่ทั้งสี่อวยพรเสร็จก็พากันออกไปทิ้งให้เธออยู่กับเจ้าบ่าวสองต่อสองในห้องหอของโรงแรมที่จัดงาน ดูเขาสิ…นอนหลับไม่รู้เรื่องที่ข้างปากยังมีคราบสกปรกอยู่เลย แค่เห็นก็ชวนให้อยากจะอ้วกตามอีกครั้ง เห็นแล้วทนดูไม่ได้เลยหยิบเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาช่วยซับ ขึ้นไปนั่งบนเตียงที่โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบสีแดง ค่อยๆ เช็ดปากเช็ดหน้าให้เขา ไม่รู้ว่าใครสักคนคงถอดเสื้อที่เลอะคราบอาเจียน เวลานี้ท่อนบนของเขาเลยเปลือยเปล่า เผยให้เห็นแผงอกและกล้ามท้องที่ชวนให้รู้สึกสยิวกิ้วอย่างบอกไม่ถูก

“คงเสียใจน่าดูเลยสินะพี่เหนือ” อินทิราเอ่ยเบาๆ มองดูคนหล่อที่หลับใหล ถ้าให้นับกันจริงๆ เธอไม่ได้เจอเขามาเป็นสิบปี เขาคนนี้พอได้ออกจากเมืองจันท์ก็เหมือนไม่คิดจะกลับไปเหยียบบ้านเกิดตัวเองอีก ไม่ไปเจอเพื่อนเก่า ไม่ไปหาเธอที่เมื่อก่อนเขาต้องเข้ามาหยิกแก้มแกล้งให้เธอร้องไห้ทุกครั้งที่เจอ บางทีเขาอาจจะลืมเธอไปแล้วก็ได้ แม้แต่วันที่พ่อเธอตาย เขายังไม่ไปงานศพเลย

“เจ็บเหมือนจะตายเลย” คำถามที่คิดว่าไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่อยู่ๆ เหนือนทีก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่ไหลออกจากหางตา “เหมือนโดนหักหลัง”

“รักเขามากเลยเหรอ?”

“อืม”

“แล้วแบบนี้จะทำยังไงคะ? พี่เหนือแต่งงานกับอิงค์แล้ว…รู้ตัวหรือเปล่า? ไม่ใช่ว่าจะไปตามเขากลับมาหรอกนะ รู้ไว้ด้วยว่าอิงค์ไม่ยอม”

“ไม่ตาม แต่ก็คงไม่รักใครอีกแล้ว จะไม่รักแม้แต่กับเธอ”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status