2
งานแต่งงานที่แสนจะอัปยศ
“แล้วทำไมถึงเป็นอิงค์ล่ะ?”
คำถามนี้เป็นของย่าพิสมัย ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าในงานมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเหนือนทีตั้งหลายคน ทั้งเพื่อนเก่าที่จันทบุรี ทั้งเหมือนสมัยไปเรียนเมืองนอกเมืองนา หากต้องการหาใครก็ได้มาแต่งงานแทนแล้วทำไมจะต้องเป็นอินทิราหลานสาวคนเดียวของเธอ
“ก็เพราะทิพย์อยากทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณป้าค่ะ ทิพย์กราบขอโทษ…” ทิพย์นารียกมือไหว้พิสมัย “ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญาตั้งแต่แรก แล้วพอเกิดเรื่องขึ้น ก็นึกอยากจะทำตามสัญญา”
“สัญญาอะไรคะ?” อินทิราหันถามย่ากับแม่
“สิบกว่าปีก่อนตอนที่บ้านเราไม่มีทุนจะทำรพีไก่ทอด ย่าของหลานเป็นคนช่วยเรื่องทุน…ให้ทุนมาโดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่สตางค์เดียว ป้าก็เลยให้คำสัญญาเอาไว้ ว่าหากวันหนึ่งวันใดที่เจ้าเหนือมันเติบโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้แล้ว ป้าจะพาลูกชายมาสู่ขอหลาน แต่ป้าก็ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้เพราะเจ้าเหนือมันดันไปมีแฟนเสียก่อน แล้วในเมื่อตอนนี้แฟนของมันหนีไปแล้ว…ป้าเลยอยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับย่าหลาน” ทิพย์นารีออกหน้าตอบคำถามของอินทิรา
“เรื่องนี้คงต้องให้อิงค์มันตัดสินใจเอาเอง” พิสมัยว่า “ก็เห็นกันอยู่ว่าถ้าไม่มีเรื่องทิพย์ก็คงไม่กลับมาพูดถึงสัญญา พูดกันง่ายๆ ทิพย์อยากจะเอาอิงค์ไปแต่งงานแทนเจ้าสาวคนเก่า”
“ทิพย์ขอโทษค่ะป้าพิส ขอโทษนวลกับหนูอิงค์ด้วย แต่หนูอิงค์เป็นความหวังเดียวของบ้านเรา ตอนนี้เจ้าเหนือมันไม่เอาอะไรเลย มันไม่พูดอะไรสักคำเดียว พอรู้เรื่องมันก็คว้าเหล้าเข้าปากทันที ต่อให้ไม่รู้สาเหตุแต่ก็คงเดาได้ไม่ยาก คงมีเรื่องอะไรไม่ดีเกิดขึ้นระหว่างมันกับแฟน เขาถึงได้หนีไปแบบนั้น”
“…” ก้อนความรู้สึกวิ่งเข้ามาจุกที่กลางอกอินทิรา ไอ้พี่เหนือมันโดนเทในวันแต่งงาน คงจะช็อกแล้วก็เสียใจอยู่ไม่น้อย “มีแค่อิงค์เหรอคะที่ป้าทิพย์เลือกให้ไปแต่งงานแทน?”
“มีแค่อิงค์ที่ป้าไว้ใจ ยังไงซะเหนือกับอิงค์ก็รู้จักกันมาก่อน…อย่าเรียกว่าแต่งงานแทนเลยลูก การแต่งงานครั้งนี้ป้าหวังว่ามันจะเป็นการแต่งงานครั้งเดียวในชีวิตของอิงค์กับเจ้าเหนือมัน ป้าไม่อยากจะเอาลูกชายมาขายหรือยกยอให้ดูดี แต่เจ้าเหนือน่ะถึงมันจะดูเหมือนคนเจ้าชู้ แต่มันก็แค่เล่นๆ ไปแบบนั้นแหละ ปากมันอาจจะเสียหน่อย แต่มันมีความรับผิดชอบ มันตั้งใจและทำงานเก่ง ป้าเชื่อว่าถ้ามันแต่งงานแล้วมันจะไม่ทำให้คู่แต่งงานต้องลำบากแน่”
“แต่เหนือเขาจะรักอิงค์ได้เหรอคะ? เหนือกับอิงค์ถึงจะรู้จักกันมาก่อนแต่ก็ไม่ได้เจอกันมานาน…นวลกลัวว่าการแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักมันจะ…” นวลจันทร์ไม่ห่วงเรื่องอื่น เพราะรู้ว่าเหนือนทีนั้นเก่งและมีความสามารถ ที่เธอห่วงมีเรื่องเดียวคือเรื่องความรัก การแต่งงานมันควรมีความรักเป็นรากฐาน
“ตอนย่าแต่งงานกับปู่ก็ไม่ได้รักกันมาก่อน ฟังดูเหมือนง่ายแต่มันก็จริง…ไอ้ที่ว่าอยู่ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ย่าไม่ได้พูดเพราะอยากจะใส่ชุดผ้าไหมมางานแต่งอิงค์นะลูก แต่ย่าเองก็เห็นเหนือเขามานาน…ย่ามั่นใจว่าถ้าเหนือเขารักใครแล้ว ความรักของเขาคือรักแท้” พิสมัยกุมมือหลานสาวไว้แน่น “แต่ถ้าอิงค์บอกว่าไม่ ย่าก็จะไม่บังคับ ถ้าอิงค์ไม่อยากแต่งงานก็ไม่ต้องแต่ง”
งานเข้าอินทิราแบบเต็มขั้น ใครจะคิดว่าอยู่ๆ เธอจะได้รับข้อเสนอให้แต่งงานกับรักแรก เวลานี้นอกจากจะคิดหนักว่าควรตอบรับหรือปฏิเสธ เธอยังอดเป็นห่วงเขาไม่ได้ ถ้าถึงขั้นเมาหัวทิ่มหัวตำ ไม่พูดไม่จาก็แปลว่าคงจะรักมากทีเดียว
“ถ้าอิงค์ตกลง…ป้าจะเรียกช่างหน้าช่างผมเข้ามาเลย อิงค์สวยอยู่แล้ว…หน้าผมก็พร้อมแล้วประมาณนึง รูปร่างก็พอๆ กับเจ้าสาวคนเก่า ชุดก็คงใส่ด้วยกันได้” ทิพย์นารีรู้สึกได้ว่าคำตอบนั้นอาจไม่แย่เสียทีเดียว เพราะหากอินทิราไม่อยากแต่งงานกับเหนือนที เธอคงปฏิเสธออกมาทันควัน แต่นี่เธอดูลังเลและครุ่นคิด มีทางเป็นไปได้มากว่าสุดท้ายแล้วเธอจะตกลง
“ว่าไงลูกอิงค์…จะช่วยพี่เขาไหม? แม่จะไม่บังคับอะไรเลยเพราะการแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่แล้วก็ควรจะเกิดขึ้นด้วยความรัก” นวลจันทร์ถามลูกสาว ตัวเธอเองไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าคำตอบจากอินทิราจะเป็นยังไง
“อิงค์จะแต่งค่ะ”
“ว่าไงนะอิงค์?” คำตอบนั้นทำเอาพิสมัย นวลจันทร์หรือแม่แต่ทิพย์นารีได้แต่ประหลาดใจ
“อิงค์บอกว่าอิงค์จะแต่งงานกับพี่เหนือ เพื่อช่วยให้พี่เหนือกับป้าทิพย์แล้วก็ลุงต้นผ่านเรื่องวันนี้ไปให้ได้ แล้วหลังจากนั้นเราค่อยมาว่ากันอีกทีว่าจะเอายังไงต่อ” จบคำนั้นอินทิราก็เดินมานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง คืนก่อนยังเสียน้ำตาให้เขาที่เป็นรักแรกอยู่เลย ยังเพิ่งจะเสียใจที่ได้ข่าวว่าเขาจะแต่งงานอยู่แท้ๆ ใครเลยจะคิดว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นเธอที่ได้กลายมาเป็นเจ้าสาวของเขา ถึงจะเป็นแค่ตัวแทน…ถึงจะไม่ได้เริ่มต้นด้วยความรัก มีเพียงเธอที่รู้ดีว่านี่คือโอกาส นับแต่วินาทีนี้ สมองและหัวใจรวมถึงร่างกายของเธอ ทุกวินาทีต่อแต่นี้…มีไว้เพื่อขโมยหัวใจเหนือนที
ยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกคนนี้จะทำให้ไอ้พี่เหนือหลงรักจนหัวปักหัวปำ รักแบบถอนตัวไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว!
งานแต่งงานได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการฝั่งเจ้าบ่าวมีต้นคิดผู้เป็นพ่อคอยดูแล สภาพไม่ต่างอะไรจากคนไร้สติ…ก็เขาเล่นดื่มหนักมาตั้งแต่ตีห้า ดื่มทันทีที่ได้รู้ว่าเจ้าสาวขึ้นเครื่องบินหนีไปแล้ว เวลานี้แค่นั่งรอให้ผู้ใหญ่มารดน้ำสังข์ได้ก็บุญแล้ว เสียงซุบซิบจากแขกในงานดังเซ็งแซ่จนได้ยินมาถึงอินทิรา เธอที่นั่งพนมมือรับพรอยู่ได้รับรู้ทุกอย่าง พวกเขารู้ว่าเจ้าสาวถูกเปลี่ยนตัว พวกเขารู้ว่างานแต่งงานนี้ผิดปกติ แต่มันก็ไม่ทำให้มีอะไรเปลี่ยนแปลง งานแต่งงานยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เพราะพวกเขาไม่ได้มางานนี้เพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวเพียงอย่างเดียว บางคนมาเปิดตัวธุรกิจ บางคนมาหาคอนเนคชัน บางคนมาหาเสียง ส่วนพวกเพื่อนๆ ไอ้พี่เหนือก็มาเมา ถึงจะแปลกใจและห่วงเพื่อนที่เจ้าสาวตัวจริงหายไป แต่ไม่มีใครทำอะไรได้ อีกอย่างพวกเขาก็รู้จักอินทิรากันดีอยู่แล้ว
รดน้ำสังข์จบก็ฟังพระสวด…พิธีตอนเช้าสิ้นสุดลงหลังจากที่แขกเหรื่อได้รับประทานอาหาร คู่บ่าวสาวได้พักเพียงไม่นานก็ต้องกลับลงมาเข้างานเลี้ยงในช่วงเย็น จนถึงตอนนี้อินทิราก็ยังไม่ได้พูดอะไรกับเหนือนทีแม้แต่คำเดียว ได้ยินอยากป้าทิพย์ว่าพอจบพิธีช่วงเช้าเขาก็ไปเมาต่อ ถึงเวลางานเลี้ยงก็ลงมายืนไร้สติอยู่เคียงข้างเธอพร้อมกับกลิ่นละมุดเหม็นหึ่ง
“พี่เหนือยืนไหวหรือเปล่า?” คำแรกที่เจ้าสาวได้พูดกับเจ้าบ่าว เธอเห็นตัวเขาซวนเซไปมาจนเหมือนจะล้มอยู่รอมร่อเลยรีบพยุงเอาไว้
“อึก!” มีเพียงการสะอึกเป็นคำตอบ แค่เขายอมมาร่วมมือทำให้งานแต่งจบลงด้วยดีก็ถือเป็นความโชคดีของพ่อแม่แล้ว เป็นคนอื่นถ้าไม่วิ่งตามเจ้าสาวคนเก่าไป ก็คงนอนร้องไห้ไร้สติอยู่ที่พื้นห้อง หลบมุมฟูมฟายอยู่ที่ไหนสักแห่ง
“เอาน้ำเปล่าหน่อยไหมคะ? อิงค์ว่า…”
“อึก!”
“พี่เหนือไปพักก่อนดีไหม? ทำไมทำหน้าเหมือนจะ…”
ตึง!
ถามไม่ทันจบเหนือนทีก็ทิ้งตัวลงนอนกับพื้นก่อนจะพรวดพราดเอาสิ่งที่กินไปวันก่อนออกมา ช่างเป็นภาพที่อุจาดตา อินทิราเห็นแบบนั้นก็นึกอยากจะอาเจียนตามไปด้วย ยอมรับเลยว่าเธออึ้ง…ทั้งอึ้งและอับอายขายขี้หน้า แค่เป็นเจ้าสาวตัวแทนก็ว่าแย่มากแล้วแต่นี่…เจ้าบ่าวของเธอกำลังนอนพ่นของเก่าออกจากทางเดินอาหารอยู่ที่พื้นเวที
“เวรแล้ว!” ฟองเบียร์เพื่อนเก่าสมัยเรียนที่จันท์ของเหนือนทีที่มารับหน้าที่เป็นพิธีกรสบถออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะรีบตั้งสติแล้วคว้าไมค์ขึ้นมาพูดกับแขกในงานที่ต่างก็พากันลุกขึ้นยืนมองดูเจ้าบ่าวไร้สติ “เรียกแขกที่เคารพทุกท่านนะฮะ งานเลี้ยงการแต่งงานของเหนือนทีและมิ…เอ่อ งานแต่งงานของเหนือนทีกับอินทิราหรือน้องอิงค์ได้เริ่มต้นและจบลงแล้ว ขอให้ทุกคนตามสบาย มีเครื่องดื่มและอาหารมากมายรอพวกท่านอยู่และอีกไม่นานเกินรอจะมีคอนเสิร์ตเล็กๆ ด้วยนะฮะ ขอบคุณมากฮะ”
“เจ้าเหนือ!” ต้นคิดวิ่งเข้ามาประคองลูกชายให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่เหล่าพนักงานชายของโรงแรมจะเข้ามาพาเขาลงจากเวทีไป อินทิรายังคงยืนนิ่งทำตัวไม่ถูกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เธอไม่แน่ใจว่าควรจะตามเขาไปหรือยืนอยู่ตรงนี้เพื่อให้แขกได้ใช้สายตาที่เต็มไปด้วยคำถามจ้องมองเธอ คิดในใจว่าหากเพื่อนของเธอได้รู้เรื่องหรือได้มาเห็นก็คงหัวเราะลั่นออกมา พลันความคิดอยากเปลี่ยนเกิดขึ้นมาในทันใด อยากจะกลับไปซุกตัวใต้ผ้าห่มที่บ้านสวนแล้วกรีดร้องออกมาเพื่อระบายความอับอายขายขี้หน้านี้เต็มทน!
คำอวยพรและคำสอนมากมายจากผู้ใหญ่ทั้งสองบ้านไม่ได้ช่วยให้อินทิรารู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ผัวเมียก็เหมือนลิ้นกับฟันต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นเรื่องธรรมดา คู่ชีวิตแค่รักอย่างเดียวไม่พอต้องมีความไว้เนื้อเชื่อใจ หรือจะเป็นเมียที่ดีต้องเคารพและเชื่อฟังผัว ต้องทำตัวเป็นช้างเท้าหลังคอยสนับสนุนให้ผัวนำพาครอบครัวไปสู่ความก้าวหน้า
หญิงสาวในชุดเจ้าสาวถอนหายใจพรืดใหญ่ วันนี้เธอเจอมาหนัก…พอผู้ใหญ่ทั้งสี่อวยพรเสร็จก็พากันออกไปทิ้งให้เธออยู่กับเจ้าบ่าวสองต่อสองในห้องหอของโรงแรมที่จัดงาน ดูเขาสิ…นอนหลับไม่รู้เรื่องที่ข้างปากยังมีคราบสกปรกอยู่เลย แค่เห็นก็ชวนให้อยากจะอ้วกตามอีกครั้ง เห็นแล้วทนดูไม่ได้เลยหยิบเอาผ้าขนหนูชุบน้ำมาช่วยซับ ขึ้นไปนั่งบนเตียงที่โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบสีแดง ค่อยๆ เช็ดปากเช็ดหน้าให้เขา ไม่รู้ว่าใครสักคนคงถอดเสื้อที่เลอะคราบอาเจียน เวลานี้ท่อนบนของเขาเลยเปลือยเปล่า เผยให้เห็นแผงอกและกล้ามท้องที่ชวนให้รู้สึกสยิวกิ้วอย่างบอกไม่ถูก
“คงเสียใจน่าดูเลยสินะพี่เหนือ” อินทิราเอ่ยเบาๆ มองดูคนหล่อที่หลับใหล ถ้าให้นับกันจริงๆ เธอไม่ได้เจอเขามาเป็นสิบปี เขาคนนี้พอได้ออกจากเมืองจันท์ก็เหมือนไม่คิดจะกลับไปเหยียบบ้านเกิดตัวเองอีก ไม่ไปเจอเพื่อนเก่า ไม่ไปหาเธอที่เมื่อก่อนเขาต้องเข้ามาหยิกแก้มแกล้งให้เธอร้องไห้ทุกครั้งที่เจอ บางทีเขาอาจจะลืมเธอไปแล้วก็ได้ แม้แต่วันที่พ่อเธอตาย เขายังไม่ไปงานศพเลย
“เจ็บเหมือนจะตายเลย” คำถามที่คิดว่าไม่ได้ต้องการคำตอบ แต่อยู่ๆ เหนือนทีก็ลืมตาขึ้นมาพร้อมน้ำตาที่ไหลออกจากหางตา “เหมือนโดนหักหลัง”
“รักเขามากเลยเหรอ?”
“อืม”
“แล้วแบบนี้จะทำยังไงคะ? พี่เหนือแต่งงานกับอิงค์แล้ว…รู้ตัวหรือเปล่า? ไม่ใช่ว่าจะไปตามเขากลับมาหรอกนะ รู้ไว้ด้วยว่าอิงค์ไม่ยอม”
“ไม่ตาม แต่ก็คงไม่รักใครอีกแล้ว จะไม่รักแม้แต่กับเธอ”
3เป้าหมายที่ต้องพิชิต‘จะไม่รักแม้แต่กับเธอ’อินทิราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเหนือนทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องหอกับเขา เขาอาจพูดโดยไร้สติ ก็ใช่แหละเขาไม่รักเธอ เขาจะมารักมาเสน่หาอะไรกับเด็กบ้านนอกอย่างเธอ ก็เธอมันเป็นยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกที่เขาไม่เคยสนใจนี่ มันแน่นอนอยู่แล้วที่เขาต้องคิดแบบนั้นเพราะเขากำลังเจ็บปวด ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก แต่ถามจริง! ต้องพูดออกมาด้วยเหรอ? ต้องทำร้ายทำลายน้ำใจคนที่ช่วยเขาแบบซึ่งๆ หน้าด้วยหรือไง? ทั้งๆ ที่เธอช่วยให้เขาผ่านพ้นการแต่งงานเส็งเคร็งนั้นมาได้แท้ๆเจ้าสาวสายฟ้าแลบขับรถพาย่ากับแม่กลับเมืองจันท์ในช่วงสายของอีกวัน เรื่องสินสอดหรือเรื่องที่ว่าต่อไปจะเอายังไงต่อเธอปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง พอกลับมาถึงบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนแล้วตั้งสติ ประมวลเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเธอทำอะไรลงไป เอาโทรศัพท์มือถือที่แบตหมดออกจากกระเป๋ามาชาร์จไฟ ทิ้งตัวลงนอนแล้วมองเพดานบ้านไม้สักสองชั้นหลังใหญ่“นี่เราแต่งงานกับไอ้พี่เหนือมันแล้วจริงเหรอวะ?” ถามตัวเองแบบนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้ “แต่งจริงๆ หรือแต่งปลอมๆ? แล้วไอ้ที่ตอนแรกเรากะจะทำให้เขารักล่ะ? ไอ้ที่คิดว
4มารับเมียเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยพอตื่นขึ้นมาอาการแฮงค์ก็เล่นงานอินทิราในทันที คว้าขวดน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องมาดื่มทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา ความเคยชินทำให้เพียงควานหาก็เจอสิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องหันมอง เธออยู่บ้านหลังนี้ นอนในห้องนี้มาเท่าอายุ อะไรวางตรงไหนมีแค่เธอที่รู้ ยันตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง กระดกดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก ทว่าพอลืมตาขึ้นมาอินทิราก็ได้พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพรวด!!!น้ำเปล่าพุ่งออกจากปากในทันใด เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก กุลีกุจอดึงผ้าห่มไปเช็ดหน้าเขาที่เปียกชุ่มไปหมด คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วทำไมแม่กับย่าถึงอนุญาตให้เขาขึ้นมาถึงบนห้องนอนเธอได้ แล้วทำไม…ทำไมเขาดูสร่างเมา ไม่สิ ทำไมเขาดูเหมือนคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด เพียงวันเดียวคนเราเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลัง…ได้ขนาดนี้เลยหรือ“เมื่อก่อนชอบแคะขี้มูกป้าย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาเล่นน้ำลายแล้วหรือไง?” เหนือนทีปาดหยาดน้ำออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ปัดผ้าห่มที่อินทิราพยายามดึงมาเช็ดหน้าให้เขา“พี่เหนือเข้ามาได้ยังไง? แล้ว…ไม่สิ ขอโทษที่พ่นน้ำใส่หน้า ก็อิงค์ตกใจนี่ อยู่ๆ เข้ามาในห้องคนอื่นได้ยังไง?”
5เป็นเมียพี่ต้องอดทนอินทิราขึ้นรถมากับเหนือนที จดจำสิ่งที่แม่สอนได้หมดทุกอย่างและมีเรื่องหนึ่งที่เธอลืมคิดไปสนิทใจ แต่งงานเป็นผัวเป็นเมียเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็แปลว่าเธอต้องนอนกับเขาน่ะสิ แค่คิดหัวใจดวงน้อยก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว เกิดมาเธอไม่เคยมีแฟน ไม่มีเคยมีวันไนท์สแตนด์กับใครที่ไหน จูบแรกยังไม่เคยเสียไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องถามถึงเรื่องอย่างว่าเลย เธอมีคำถามในใจอยู่มากมาย ถามไปก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขา วันเดียวคงไม่อาจทำให้เขาลืมคนรักเก่าได้แน่ แต่ถ้าสามเดือนล่ะ? ถ้าเธอทำดีทุกอย่าง เป็นเมียที่ดีของเขา หากเธอว่านอนสอนง่ายอย่างที่แม่บอก สามเดือนมันจะมากพอให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อมิรินทร์คนนั้นไปได้ไหม“รู้ตัวว่าหล่อมาก จ้องขนาดนั้น…คิดอะไรกับพี่หรือไง?” คนถูกจ้องรู้ตัว เอ่ยถามเสียงเรียบโดยที่ไม่ได้หันไปมอง“คิด” พอถูกถามเธอก็ตอบทันควัน ตอบแบบไม่ยั้งคิดอะไรทั้งนั้น“ฮะ?” แน่นอนว่าคำตอบของเธอทำให้เหนือนทีแปลกใจจนต้องหันกลับไปมองหน้า ก็เขานั้นรู้เสียที่ไหนว่าเธอรู้สึกยังไง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นรักแรกของเธอ“พี่
บทนำ“ใส่ชุดนี้ให้ดูหน่อย”คุณสามียื่นชุดนอนสีขาวให้ภรรยาที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จจนตัวหอม เธอมองชุดในมือเขาแล้วนึกขึ้นได้ เห็นมันเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่มีคนมาส่งของ มันคือชุดนอนไม่ได้นอน เป็นชุดลูกไม้ซีทรูสีขาวครีมที่ใส่ไปก็เหมือนไม่ได้ใส่ ที่จริงเธอคิดว่าเขาสั่งมันไปให้ผู้หญิงคนไหนสักคนซึ่งไม่ใช่เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายคนนี้“ยังไม่ได้ซักนี่” รับมันไว้ในมือจับเนื้อผ้าดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งเอามันออกมาจากกล่อง“ก็แล้วทำไมตอนที่เปิดกล่องดูเธอไม่ซักล่ะ?” สามีถามกลับ มันแปลว่าเขารู้ว่าภรรยาได้แอบเปิดกล่องชุดนอนไม่ได้นอนตัดหน้าเขาไปแล้ว“ก็อิงค์ไม่รู้ว่าพี่เหนือจะเอามาให้อิงค์ใส่” เธองอนเขามาหลายวัน งอนตั้งแต่ที่เห็นชุดนอนไม่ได้นอนมาส่งที่หน้าบ้าน เขาไม่เคยรู้ตัวอะไรทั้งนั้น…เขาไม่เคยสนใจว่าเธอที่เป็นเมียรู้สึกยังไง“งอนอยู่จริงๆ สินะ ก็ว่าทำไมมื้อเช้าเค็มแปลกๆ มาหลายวันแล้ว ใส่เกลือเยอะไป…หรือแคะขี้มูกป้าย?” เขามันเป็นคนกวนประสาท ชอบแซะชอบแซว ชอบแกล้งเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร รู้ทั้งรู้ว่าเธองอน แทนที่จะง้อกับพูดจาสุนัขไม่รับประทาน“อิงค์ไม่ตลก!” คุณเมียช้อนสายตามองคุณผัวอย่างไ
1เขาเป็นรักแรกเหนือนที รพีสุวิวัฒน์ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่โชคดีเกิดมาหน้าตาดี รูปร่างเพอร์เฟคเหมือนเป็นลูกรักเทพเจ้า แถมยังมีพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์ไก่ทอดที่ขายไปทั่วประเทศ น้อยคนที่จะส่ายหน้าบอกว่าไม่เคยได้ลองชิมรพีไก่ทอดที่วางขายอยู่ทุกหนทุกแห่งมานับสิบปี ขายดิบขายดีจนเจ้าของนั้นเหลือกินเหลือใช้ ก็ใช่เขารวยแต่ก็ไม่ได้รวยอะไรมากมาย ก็ใช่เขาหล่อ…แต่หล่อมันกินไม่ได้ เพราะนิสัยของเขามันเหลือจะทน เขาทั้งหยิ่งยโส ปากหมาไม่รับประทานแถมยังมั่นหน้ามั่นโหนกเสียเหลือเกิน ที่สำคัญคือได้ยินว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ ถึงจะหยิ่งแต่ก็กินไม่ค่อยเลือก เหมือนไม่ง่ายแต่ก็ได้ไม่ยากบรรดาเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่พากันออกมารีวิวว่าของเขาดียังไง เดี๋ยวว่าแซ่บ เดี๋ยวเด็ดสะระตี่ บ้างก็ว่าเวลาถูกเขาลากขึ้นเตียงล่ะแหม…ฟินจนต้องครางเสียงแหบเสียงแห้ง แต่พอเขามีแฟนข่าวความคาวก็หายเงียบ ได้ยินว่าถึงจะเป็นพวกบ้าเซ็กส์มั่วผู้หญิงแต่เหนือนทีเป็นคนรักใครรักจริง พอมีตัวจริงเป็นตัวเป็นตนก็หยุดนิสัยเจ้าชู้ในทันที เห็นว่าผู้หญิงที่สามารถมัดใจเสือผู้หญิงอย่างเหนือนทีได้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นมิรินทร์ อำพลคุณากร ไฮโซสาวที่เป็นเพื
5เป็นเมียพี่ต้องอดทนอินทิราขึ้นรถมากับเหนือนที จดจำสิ่งที่แม่สอนได้หมดทุกอย่างและมีเรื่องหนึ่งที่เธอลืมคิดไปสนิทใจ แต่งงานเป็นผัวเป็นเมียเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องสำคัญ นั่นก็แปลว่าเธอต้องนอนกับเขาน่ะสิ แค่คิดหัวใจดวงน้อยก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ แล้ว เกิดมาเธอไม่เคยมีแฟน ไม่มีเคยมีวันไนท์สแตนด์กับใครที่ไหน จูบแรกยังไม่เคยเสียไปเลยด้วยซ้ำ ไม่ต้องถามถึงเรื่องอย่างว่าเลย เธอมีคำถามในใจอยู่มากมาย ถามไปก็มองใบหน้าหล่อเหลาไปด้วย ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวั่นไหว ยิ่งมองก็ยิ่งอยากจะเข้าไปอยู่ในใจเขา วันเดียวคงไม่อาจทำให้เขาลืมคนรักเก่าได้แน่ แต่ถ้าสามเดือนล่ะ? ถ้าเธอทำดีทุกอย่าง เป็นเมียที่ดีของเขา หากเธอว่านอนสอนง่ายอย่างที่แม่บอก สามเดือนมันจะมากพอให้เขาลืมผู้หญิงที่ชื่อมิรินทร์คนนั้นไปได้ไหม“รู้ตัวว่าหล่อมาก จ้องขนาดนั้น…คิดอะไรกับพี่หรือไง?” คนถูกจ้องรู้ตัว เอ่ยถามเสียงเรียบโดยที่ไม่ได้หันไปมอง“คิด” พอถูกถามเธอก็ตอบทันควัน ตอบแบบไม่ยั้งคิดอะไรทั้งนั้น“ฮะ?” แน่นอนว่าคำตอบของเธอทำให้เหนือนทีแปลกใจจนต้องหันกลับไปมองหน้า ก็เขานั้นรู้เสียที่ไหนว่าเธอรู้สึกยังไง เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นรักแรกของเธอ“พี่
4มารับเมียเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อยพอตื่นขึ้นมาอาการแฮงค์ก็เล่นงานอินทิราในทันที คว้าขวดน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องมาดื่มทั้งๆ ที่ยังไม่ลืมตา ความเคยชินทำให้เพียงควานหาก็เจอสิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องหันมอง เธออยู่บ้านหลังนี้ นอนในห้องนี้มาเท่าอายุ อะไรวางตรงไหนมีแค่เธอที่รู้ ยันตัวเองขึ้นนั่งพิงหัวเตียง กระดกดื่มน้ำเข้าไปหลายอึก ทว่าพอลืมตาขึ้นมาอินทิราก็ได้พบว่ามีใครบางคนนั่งอยู่ที่ปลายเตียงพรวด!!!น้ำเปล่าพุ่งออกจากปากในทันใด เธอรีบยกมือขึ้นปิดปาก กุลีกุจอดึงผ้าห่มไปเช็ดหน้าเขาที่เปียกชุ่มไปหมด คนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน แล้วทำไมแม่กับย่าถึงอนุญาตให้เขาขึ้นมาถึงบนห้องนอนเธอได้ แล้วทำไม…ทำไมเขาดูสร่างเมา ไม่สิ ทำไมเขาดูเหมือนคนที่ไม่ได้เมาเลยสักนิด เพียงวันเดียวคนเราเปลี่ยนจากหน้าเป็นหลัง…ได้ขนาดนี้เลยหรือ“เมื่อก่อนชอบแคะขี้มูกป้าย เดี๋ยวนี้เปลี่ยนมาเล่นน้ำลายแล้วหรือไง?” เหนือนทีปาดหยาดน้ำออกจากใบหน้า ขณะเดียวกันก็ปัดผ้าห่มที่อินทิราพยายามดึงมาเช็ดหน้าให้เขา“พี่เหนือเข้ามาได้ยังไง? แล้ว…ไม่สิ ขอโทษที่พ่นน้ำใส่หน้า ก็อิงค์ตกใจนี่ อยู่ๆ เข้ามาในห้องคนอื่นได้ยังไง?”
3เป้าหมายที่ต้องพิชิต‘จะไม่รักแม้แต่กับเธอ’อินทิราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้ออกมาจากปากเหนือนทีตั้งแต่วันแรกที่เข้าห้องหอกับเขา เขาอาจพูดโดยไร้สติ ก็ใช่แหละเขาไม่รักเธอ เขาจะมารักมาเสน่หาอะไรกับเด็กบ้านนอกอย่างเธอ ก็เธอมันเป็นยัยอิงค์อ้วนขี้มูกเปียกที่เขาไม่เคยสนใจนี่ มันแน่นอนอยู่แล้วที่เขาต้องคิดแบบนั้นเพราะเขากำลังเจ็บปวด ที่คิดว่าคงรักใครไม่ได้อีก แต่ถามจริง! ต้องพูดออกมาด้วยเหรอ? ต้องทำร้ายทำลายน้ำใจคนที่ช่วยเขาแบบซึ่งๆ หน้าด้วยหรือไง? ทั้งๆ ที่เธอช่วยให้เขาผ่านพ้นการแต่งงานเส็งเคร็งนั้นมาได้แท้ๆเจ้าสาวสายฟ้าแลบขับรถพาย่ากับแม่กลับเมืองจันท์ในช่วงสายของอีกวัน เรื่องสินสอดหรือเรื่องที่ว่าต่อไปจะเอายังไงต่อเธอปล่อยให้ผู้ใหญ่เขาคุยกันเอง พอกลับมาถึงบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนแล้วตั้งสติ ประมวลเหตุการณ์ทุกอย่างว่าเธอทำอะไรลงไป เอาโทรศัพท์มือถือที่แบตหมดออกจากกระเป๋ามาชาร์จไฟ ทิ้งตัวลงนอนแล้วมองเพดานบ้านไม้สักสองชั้นหลังใหญ่“นี่เราแต่งงานกับไอ้พี่เหนือมันแล้วจริงเหรอวะ?” ถามตัวเองแบบนี้เป็นรอบที่ร้อยแล้วเห็นจะได้ “แต่งจริงๆ หรือแต่งปลอมๆ? แล้วไอ้ที่ตอนแรกเรากะจะทำให้เขารักล่ะ? ไอ้ที่คิดว
2งานแต่งงานที่แสนจะอัปยศ“แล้วทำไมถึงเป็นอิงค์ล่ะ?”คำถามนี้เป็นของย่าพิสมัย ก็เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าในงานมีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเหนือนทีตั้งหลายคน ทั้งเพื่อนเก่าที่จันทบุรี ทั้งเหมือนสมัยไปเรียนเมืองนอกเมืองนา หากต้องการหาใครก็ได้มาแต่งงานแทนแล้วทำไมจะต้องเป็นอินทิราหลานสาวคนเดียวของเธอ“ก็เพราะทิพย์อยากทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับคุณป้าค่ะ ทิพย์กราบขอโทษ…” ทิพย์นารียกมือไหว้พิสมัย “ขอโทษที่ไม่ได้ทำตามสัญญาตั้งแต่แรก แล้วพอเกิดเรื่องขึ้น ก็นึกอยากจะทำตามสัญญา”“สัญญาอะไรคะ?” อินทิราหันถามย่ากับแม่“สิบกว่าปีก่อนตอนที่บ้านเราไม่มีทุนจะทำรพีไก่ทอด ย่าของหลานเป็นคนช่วยเรื่องทุน…ให้ทุนมาโดยไม่คิดดอกเบี้ยแม้แต่สตางค์เดียว ป้าก็เลยให้คำสัญญาเอาไว้ ว่าหากวันหนึ่งวันใดที่เจ้าเหนือมันเติบโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้แล้ว ป้าจะพาลูกชายมาสู่ขอหลาน แต่ป้าก็ไม่ได้ทำตามที่สัญญาไว้เพราะเจ้าเหนือมันดันไปมีแฟนเสียก่อน แล้วในเมื่อตอนนี้แฟนของมันหนีไปแล้ว…ป้าเลยอยากจะทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับย่าหลาน” ทิพย์นารีออกหน้าตอบคำถามของอินทิรา“เรื่องนี้คงต้องให้อิงค์มันตัดสินใจเอาเอง” พิสมัยว่า “ก็เห็นกันอยู่ว่าถ้าไม
1เขาเป็นรักแรกเหนือนที รพีสุวิวัฒน์ก็แค่ผู้ชายธรรมดาที่โชคดีเกิดมาหน้าตาดี รูปร่างเพอร์เฟคเหมือนเป็นลูกรักเทพเจ้า แถมยังมีพ่อเป็นเจ้าของธุรกิจเฟรนไชส์ไก่ทอดที่ขายไปทั่วประเทศ น้อยคนที่จะส่ายหน้าบอกว่าไม่เคยได้ลองชิมรพีไก่ทอดที่วางขายอยู่ทุกหนทุกแห่งมานับสิบปี ขายดิบขายดีจนเจ้าของนั้นเหลือกินเหลือใช้ ก็ใช่เขารวยแต่ก็ไม่ได้รวยอะไรมากมาย ก็ใช่เขาหล่อ…แต่หล่อมันกินไม่ได้ เพราะนิสัยของเขามันเหลือจะทน เขาทั้งหยิ่งยโส ปากหมาไม่รับประทานแถมยังมั่นหน้ามั่นโหนกเสียเหลือเกิน ที่สำคัญคือได้ยินว่าเขาเป็นพวกเจ้าชู้ ถึงจะหยิ่งแต่ก็กินไม่ค่อยเลือก เหมือนไม่ง่ายแต่ก็ได้ไม่ยากบรรดาเหล่าสาวน้อยสาวใหญ่พากันออกมารีวิวว่าของเขาดียังไง เดี๋ยวว่าแซ่บ เดี๋ยวเด็ดสะระตี่ บ้างก็ว่าเวลาถูกเขาลากขึ้นเตียงล่ะแหม…ฟินจนต้องครางเสียงแหบเสียงแห้ง แต่พอเขามีแฟนข่าวความคาวก็หายเงียบ ได้ยินว่าถึงจะเป็นพวกบ้าเซ็กส์มั่วผู้หญิงแต่เหนือนทีเป็นคนรักใครรักจริง พอมีตัวจริงเป็นตัวเป็นตนก็หยุดนิสัยเจ้าชู้ในทันที เห็นว่าผู้หญิงที่สามารถมัดใจเสือผู้หญิงอย่างเหนือนทีได้ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลแต่เป็นมิรินทร์ อำพลคุณากร ไฮโซสาวที่เป็นเพื
บทนำ“ใส่ชุดนี้ให้ดูหน่อย”คุณสามียื่นชุดนอนสีขาวให้ภรรยาที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จจนตัวหอม เธอมองชุดในมือเขาแล้วนึกขึ้นได้ เห็นมันเมื่อไม่กี่วันก่อนตอนที่มีคนมาส่งของ มันคือชุดนอนไม่ได้นอน เป็นชุดลูกไม้ซีทรูสีขาวครีมที่ใส่ไปก็เหมือนไม่ได้ใส่ ที่จริงเธอคิดว่าเขาสั่งมันไปให้ผู้หญิงคนไหนสักคนซึ่งไม่ใช่เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายคนนี้“ยังไม่ได้ซักนี่” รับมันไว้ในมือจับเนื้อผ้าดูก็รู้ว่าเขาเพิ่งเอามันออกมาจากกล่อง“ก็แล้วทำไมตอนที่เปิดกล่องดูเธอไม่ซักล่ะ?” สามีถามกลับ มันแปลว่าเขารู้ว่าภรรยาได้แอบเปิดกล่องชุดนอนไม่ได้นอนตัดหน้าเขาไปแล้ว“ก็อิงค์ไม่รู้ว่าพี่เหนือจะเอามาให้อิงค์ใส่” เธองอนเขามาหลายวัน งอนตั้งแต่ที่เห็นชุดนอนไม่ได้นอนมาส่งที่หน้าบ้าน เขาไม่เคยรู้ตัวอะไรทั้งนั้น…เขาไม่เคยสนใจว่าเธอที่เป็นเมียรู้สึกยังไง“งอนอยู่จริงๆ สินะ ก็ว่าทำไมมื้อเช้าเค็มแปลกๆ มาหลายวันแล้ว ใส่เกลือเยอะไป…หรือแคะขี้มูกป้าย?” เขามันเป็นคนกวนประสาท ชอบแซะชอบแซว ชอบแกล้งเธอมาตั้งแต่ไหนแต่ไร รู้ทั้งรู้ว่าเธองอน แทนที่จะง้อกับพูดจาสุนัขไม่รับประทาน“อิงค์ไม่ตลก!” คุณเมียช้อนสายตามองคุณผัวอย่างไ